สามปีที่แล้วเธอหนีเขาไปและทิ้งข้อความสุดแสนเจ็บปวดไว้ให้ สามปีต่อมาทั้งคู่ได้เจอกันอีกครั้งในสถานะเจ้านายกับลูกน้อง **** "หนูรู้ว่าคุณนัยน์ต้องการอะไร แต่ถ้าผ่านคืนนี้ไปแล้วหนูจะอยู่ข้างคุณในฐานะใดคะ หากคุณนัยน์คิดจะเล่น ๆ ไม่จริงจัง หัวใจของหนูมันต้องเจ็บปวดมากแน่ ๆ " "..." มีเพียงความเงียบแทนคำตอบ แต่สำหรับลลินามันคือคำตอบที่ดังที่สุด นัยน์ไม่ได้จริงจังแค่อยากเลี้ยงเธอไว้ดูเล่นแก้เหงา เป็นแค่ความสนุกและตื่นเต้นชั่วครั้งชั่วคราว ผู้หญิงสวยเขาก็เจอมามาก ทั้งฐานะหน้าตาเพรียบพร้อม แล้วเธอจะเอาอะไรไปสู้ผู้หญิงพวกนั้นได้ เขาจะมาจริงจังอะไรกับเด็กกะโปโลอย่างเธอ
ตอนที่ 1
"บ้าฉิบ!"
แฟ้มเอกสารสีดำปลิวว่อนเฉียดหน้าลลินาไปนิดเดียว เธอคิดไม่ถึงว่าจะมีอาวุธลับซ่อนอยู่ในห้องทำงานของเจ้านายหนุ่ม นัยน์เองก็คิดไม่ถึงเช่นกันว่าจะมีคนเปิดประตูเข้ามาในจังหวะประจวบเหมาะ เขาไม่ได้ตั้งใจจะเขวี้ยงแฟ้มเอกสารใส่เธอ เพียงแค่อยากโยนมันไปให้พ้นตาด้วยอารมณ์โกรธ
เมื่อเช้านี้หลังจากเข้ามาในห้องทำงาน เห็นแฟ้มประวัติพนักงานใหม่วางอยู่บนโต๊ะ นัยน์จึงหยิบมาเปิดออกดู ทว่าทันทีที่เห็นรูปถ่ายในใบสมัครที่เขาเซ็นอนุมัติออนไลน์อย่างเร่งรีบเมื่อสามวันก่อนทุกอย่างก็เป็นอย่างที่เห็น...
แฟ้มประวัติปลิวว่อนแบบไม่ต้องพึ่งภาพสโลว์โมชัน
พับผ่าเถอะ! เธอคือคนเดียวกันกับลลินา ผู้หญิงที่เคยอยู่ในความสัมพันธ์อันคลุมเครือกับเขาเมื่อสามปีก่อน การจากลาครั้งนั้นไม่ได้จบสวย ใครบ้างจะไม่เจ็บใจที่จู่ ๆ ถูกทิ้ง ความผิดหวังและความเสียใจครั้งนั้น รอดมาได้จนถึงวันนี้ไม่ตายก็บุญหัวมากแล้ว
"คุณนัยน์"
เธอเอ่ยเรียกชื่อเขาอย่างคนคุ้นเคยดี หญิงสาวหลุบตามองแฟ้มเอกสารที่กองอยู่พื้น ก้มลงเก็บมันขึ้นมาเปิดดู พบว่าในนั้นเป็นแฟ้มประวัติส่วนตัวของเธอ ความทรงจำวันเก่า ๆ ทวนย้อนกลับเป็นฉาก ๆ รู้สึกเจ็บในอกอย่างบอกไม่ถูก
เมื่อก่อนนัยน์ไม่ใช่คนอารมณ์ร้อนหรือชอบทำลายข้าวของ แม้อาจจะมีบางครั้งที่ทะเลาะกันด้วยความไม่เข้าใจ แต่เขาไม่ใช่คนโมโหร้ายแบบนี้แน่นอน เขาเป็นคนอ่อนโยนมีเหตุผล ดูแลเธอดีประดุจเจ้าหญิง ภาพจำของลลินาที่มีต่อเขาเป็นแบบนั้น และเธอก็เชื่อมาตลอดว่าเวลาเปลี่ยนคนไม่ได้เปลี่ยนไปกันทุกคน
...แต่เพิ่งรู้ซึ้งวันนี้ว่าเธอคิดผิด
นั่นมันคือแฟ้มใส่เอกสารพลาสติกแข็งแรงพิเศษนะเพ้ย! หวิดหน้าเสียโฉมแล้วไหมนั่น! แท่งซิลิโคนกลางหน้าเพิ่งจะเข้าที่ได้ไม่นาน สิ่งสำคัญคือของที่เขาโยนทิ้งเหมือนขยะมันคือแฟ้มประวัติส่วนตัวของเธอเอง เธอบรรจงยัดเกียรติบัตรทั้งหลายแหล่ใส่มาในนั้น ต้องโกรธแค้นชิงชังกันขนาดไหนถึงได้ระบายอารมณ์กับสิ่งของแบบนั้นได้ ลลินาเม้มปากเล็กน้อย เดินถือแฟ้มกลับไปวางบนโต๊ะทำงานของเขาดังเดิม ฝ่ายนั้นก็พูดเสียงห้วนขึ้นทันที
"ทำไมถึงเป็นคุณ"
สรรพนามเดิมที่เขาเรียกเธอเมื่อหลายปีก่อนไม่ใช่แบบนี้ แต่วันนี้ฟังดูเปลี่ยนไปเป็นห่างเหิน ซึ่งข้อนี้ลลินาก็พอรับได้ การกลับมาพบกันใหม่เตรียมใจไว้แล้วระดับหนึ่ง รู้ว่าความสัมพันธ์ของเธอและเขาจะต้องยอดแย่ แต่จะทำยังไงได้ในเมื่อกลิ่นเงินมันหอมหวาน ที่ทำงานใหม่แห่งนี้ให้เงินเดือนสูงเป็นสามเท่าจากที่เดิม และเธอก็ไม่เกี่ยงที่จะตอบรับข้อเสนอนี้ เสียอย่างเดียวเพิ่งมาเห็นว่าบอร์ดผู้บริหารมีชื่อเขาแปะอยู่ช้าเกินไป
แต่ไม่เป็นไร เธอจะแสดงให้เห็นเองว่ามืออาชีพเป็นยังไง ดูท่าว่าเขาจะแยกเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวออกจากกันไม่ได้ถึงได้มีอาการหัวเสียอย่างนี้ แต่สำหรับคนอย่างลลินา เธอมั่นใจว่าตัวเองต้องแยกแยะได้แน่นอน...
นัยน์ ชัชวาลเกียรติ์ ตำแหน่งรองประธานผู้บริหาร ตอนที่อยู่ด้วยกันลลินาพอจะรู้ว่าบ้านเขารวยมาก แต่ไม่เคยรู้มาก่อนว่าทำธุรกิจอะไรบ้าง บริษัทที่เธอยืนอยู่ตอนนี้มีชื่อว่า มีดีจริง กรุ๊ป ดำเนินกิจการเกี่ยวกับการขนส่งสินค้าทางเรือ มีท่าเรือขนาดใหญ่ในเครือชัชวาลเกียรติ์ถึงสองแห่ง ตั้งอยู่ในจังหวัดหนึ่งติดทะเลของประเทศไทย
"ถามว่าทำไมถึงเป็นคุณ"
"เป็นหนู...เป็นฉันแล้วมันยังไงคะ"
"ถ้าเป็นคุณ ผมจะไม่เอาไง ลาออกไปซะ ผมจ้างคุณออก"
"ไม่ออกค่ะ"
เขากัดฟันกรอด ย่างสามขุมเข้าหา คิ้วดำหนาขมวดเป็นปมยุ่งเหยิง
"ทำไมถึงไม่ออก"
ออกแล้วจะเอาอะไรกิน...
ไอ้เงินเก็บที่สะสมมาเพิ่งเอาไปทำสัญญาซื้อคอนโดเมื่อเดือนก่อน ส่วนหนึ่งก็รวบรวมไว้รอใช้หนี้เขานั่นแหละ เมื่อสามปีก่อนเขาคือพ่อบุญทุ่มตัวยง พอเดินจากเขามาแล้วลลินาไม่เคยคิดจะเอาเงินเขาฟรี ๆ เธอยังมีความมุ่งมั่นอยากหาคืนเขาทุกบาททุกสตางค์ และตอนนี้ก็เก็บจวนจะครบจำนวนนั้นแล้ว
ตลอดสามปีที่ห่างหายจากนัยน์ ลลินาเพียรพยายามทำงานอย่างหนัก ทั้งทำงานและเรียนป.โทไปด้วยจนประสบความสำเร็จมีหน้าที่การงานและเงินเดือนที่ดี นอกจากมีดีเรื่องหน้าตาเธอยังเป็นผู้หญิงที่ทำงานเก่ง สามารถจัดการทุกอย่างได้หมดจด สื่อสารได้หลายภาษา และสามารถดีลลูกค้าสำคัญปิดจบเด็ดขาดทุกราย
นี่คือข้อดีที่ทำให้ผู้หญิงดูมีคุณค่า ลลินาเชื่ออย่างนี้มาตลอด หลังจากชีวิตพลิกผันจนต้องโบกมือลานัยน์ เธอก็ทุ่มเทอย่างหนักเพื่อให้ชีวิตดีขึ้น จนวันนี้มองย้อนกลับไปพบว่าตัวเองมาได้ไกลมาก
ลลินาไม่เสียดาย...
ขอแค่มีชีวิตอยู่อย่างสุขสบายมีเงินใช้ก็ไม่อาวรณ์ ชีวิตของเธอมันดีกว่าเมื่อก่อนมาก ไม่ต้องหนีพ่อเลี้ยงชั่วช้าสารเลวหัวซุกหัวซุน ไม่ต้องอาศัยอยู่ในเพิงคับแคบ มีชีวิตอยู่เพื่อผลาญเงินที่ตัวเองหามาได้ก็สนุกดี ยิ่งหามายากมากเท่าไหร่ตอนใช้สอยมันยิ่งทำให้บันเทิงมากเท่านั้น
"ถ้าอยากให้ลาออกจ่ายมาสิบล้านค่ะ"
เธอยื่นข้อเสนอพลางโปรยยิ้มหวานล้ำ นัยน์จ้องใบหน้างามตาขวาง แม้วันนี้ลลินาจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น สวยสะพรั่งและไม่ติดความเป็นเด็กเหมือนเมื่อก่อน แต่ก็ไม่อาจทำให้เขาหัวใจหวั่นไหวอีก อย่าว่าแต่หวั่นไหวเลย แม้แต่มองเฉียดด้วยหางตายังไม่อยากมอง อากาศในห้องเขาก็ไม่อยากใช้ร่วม ไม่เคยคิดเลยว่าเรื่องราวของเขาและเธอมาจะถึงจุดนี้ได้
ภาพในหัวลลินาคือเขาเซ็นเช็คสิบล้านแล้วโยนให้เธอเหมือนแฟ้มประวัติ ส่วนเธอก็เชิดหน้าฉีกยิ้มรับประหนึ่งมิสเวิลด์มงลง ประโยคที่ว่าเงินซื้อฉันไม่ได้จะไม่เกิดขึ้น ขอแค่คุณนัยน์บอกมาว่าพร้อมโอนหรือจ่ายสด!
แต่มันไม่เป็นเช่นนั้นเลย นัยน์คิดว่าหากหน้าด้านกล้าเรียกร้องถึงสิบล้านก็ควรดูสารรูปตัวเองบ้าง คนสวยและเก่งไม่ได้มีแค่เธอคนเดียวในโลก
คิดในอีกแง่หนึ่ง ก็แล้วทำไมเขาต้องจ้างออกล่ะ ในเมื่อเธอดั้นด้นมาแล้วก็ควรใช้งานให้คุ้มหน่อย คำว่าคุ้มของเขาไม่รู้ว่าลิมิตอยู่ตรงไหน คิดถึงวันเวลาเก่า ๆ แล้วฉุนกึก เสียทองเป็นกิโลยังรั้งใจใครไว้ไม่ได้
เขาเคยรักและถนอมเธอเป็นที่สุด จึงให้เกียรติและให้ความสำคัญเธอมาเป็นอันดับหนึ่ง แต่เธอก็ยังใจดำทิ้งเขาเหมือนเป็นขยะ สิ่งที่ทำมามันไม่มีความหมาย หากรู้ว่าจะเป็นแบบนี้คงไม่เปิดใจรักเธอตั้งแต่แรก คงจะทำกับเธอเหมือนผู้หญิงทุกคนที่ผ่านเข้ามา
เขาเคยมีความรักแค่สองครั้ง ครั้งแรกบอกเลยเกือบตาย ครั้งที่สองลลินาดันทิ้งรอยบาดแผลไว้ให้เจ็บปางตายอีก ตั้งแต่นั้นมานัยน์ก็ไม่เปิดใจให้ใครอีกเลย ต้องยอมรับว่ามุมมองความรักของเขาเปลี่ยนไปมาก เขาเคยสุภาพอ่อนโยนและมองโลกในแง่ดี เทิดทูนความรักเหนือทุกสิ่ง บัดนี้เหลือเพียงผู้ชายที่บ้างานไม่เคยสนใจเรื่องรัก ต่อให้มีผู้หญิงที่คู่ควรผ่านเข้ามามากมาย นัยน์ก็ไม่ยอมเปิดใจรักใครเป็นตัวเป็นตน สาเหตุเป็นเพราะลลินาคนเดียว เธอทำกับเขาเจ็บแสบมากเกินเยียวยา
"ตกลงจะได้มั้ยคะสิบล้าน" เธอย้ำถาม
นัยน์ยกยิ้มมุมปาก ภายใต้รอยยิ้มอันหล่อร้ายนี้ สร้างความรู้สึกคุ้นชินให้คนตรงหน้า เธอมองเขาอย่างระแวดระวัง อ้าปากจะพูดต่อแต่เขาชิงพูดก่อน
"ไม่ออกก็ไม่ออก"
ไม่เห็นจะยากตรงไหน เขามีวิธีที่ทำให้เธอออกโดยไม่ต้องเสียเงินสิบล้าน ไม่ใช่แค่ลลินาที่อยากแสดงให้เห็นว่าเธอเป็นมืออาชีพ นัยน์เองก็เช่นกัน เมื่อสามปีที่แล้วมันก็เป็นแค่อดีต อีกอย่างอยากให้เธอได้เห็นกับตาว่าเขาไม่สนใจเธอสักนิดเดียว ในเมื่อเธอเปลี่ยนจากยัยจรจัดมาเป็นคุณลลินาสวยเก่งฉลาดได้ ทำไมเขาที่เป็นคุณนัยน์ผู้เพอร์เฟกต์มาตลอดต้องด้อยค่าตัวเอง ไม่เคยมียุคมืดสำหรับนัยน์ ชัชวาลเกียรติ์
การจมปลักกับอดีตครั้งนั้นมันกินเวลามากเกินไป เขาเสียเวลาชีวิตมามากพอแล้ว ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป นัยน์จะเปิดใจให้คนอื่นเข้ามาและลองคบหาอย่างจริงจัง เพื่อที่ผู้หญิงร้ายกาจคนนี้จะได้เห็นว่าไม่มีเธอแล้วชีวิตเขาไปได้ดีขนาดไหน
ชายหนุ่มนิ่งเงียบไปชั่วครู่ อุณหภูมิเย็นเฉียบภายในห้องเริ่มทำให้ลลินาหนาว ๆ ร้อน ๆ ไม่นานเขาก็ดึงสติกลับมาเป็นคนที่สุขุมดังเดิม
"เอาเป็นว่าตั้งใจทำงานก็แล้วกันนะครับ นิสัยทำอะไรเล่น ๆ ไม่เคยจริงจังควรเลิกซะนะ"
"ฉันจริงจังกับงานค่ะ แต่สำหรับอย่างอื่นต้องดูก่อนว่าควรค่าแก่การจริงจังด้วยมั้ย"
ชายหนุ่มแค่นเสียงหัวเราะ "ถึงตอนแรกผมจะอยากได้คุณมาร่วมงาน แต่นั่นก็อีกเรื่องนึง อย่าเที่ยวไปป่าวประกาศบอกใครว่าเคยเป็นอะไรกัน"
"แน่นอนว่ามันไม่จำเป็นค่ะ"
"ออกไปได้แล้วครับ ประวัติคุณผมรู้ดีหมดแล้ว ไม่จำเป็นต้องทำความรู้จักอะไรกันอีก"
ลลินากำมือแน่น คิดถึงประวัติอันเน่าเฟะของตัวเองก็เจ็บปวดทุกครั้ง จริงอยู่ว่าคนเราเลือกเกิดไม่ได้ และเธอก็ไม่อยากเกิดเป็นลลินาคนนั้น คนที่มีภูมิหลังอันน่าสะอิดสะเอียน
ถึงในวันนี้รูปลักษณ์ของเธอจะดีกว่าเมื่อก่อนล้านเท่า ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าเธอเคยเป็นนังนีลหมาขี้เรื้อนมาก่อน และแม้ว่าใครบางคนจะยังมองเธอเป็นหมาขี้เรื้อนตัวนั้นอยู่ก็ไม่เป็นไร อย่างน้อยวันนี้ก็พูดได้เต็มปากว่าเธอคือหมาขี้เรื้อนที่สามารถมีทุกอย่างได้ด้วยลำแข้งของตัวเอง
เธอแข็งแกร่งทั้งร่างกายและจิตใจ ไม่ได้ร้องไห้ซ้ำ ๆ กับเรื่องเดิม ๆ เหมือนวันวาน คนเราเมื่อก้าวผ่านความทุกข์ยากที่สุดจนรอดตายมาได้แล้วชีวิตที่เหลือถือเป็นกำไร ความเจ็บปวดครั้งนั้นเป็นแรงผลักดันให้พายุทุกข์ลูกใหม่เป็นเพียงลมหวนวูบสั้น ๆ มันทำให้เธอเข้มแข็งขึ้นอย่างประหลาด ไม่มีสักเสี้ยวเวลาที่นั่งเหงา ๆ แล้วคิดถึงเขา...สักนิดเดียวก็ไม่เคย
สามปีก่อน
ลลินา สาวน้อยวัยยี่สิบสอง เด็กยากจนเรียนดีสอบชิงทุนพิเศษเข้ามหาลัยเอกชนได้สำเร็จ ไม่รู้ว่าโชคช่วยหรือบุญหล่นทับ ทำให้เธอได้เป็นกาดำตัวเดียวในฝูงหงส์ และก็หนีไม่พ้นการถูกบูลลี่เรื่องฐานะอยู่ตลอด เธอไม่ได้เป็นที่รักของเพื่อน ๆ มิหนำซ้ำยังถูกกลั่นแกล้งอยู่บ่อย ๆ
วิถีชีวิตของเธอกับลูกคนรวยต่างกันโดยสิ้นเชิง คนเหล่านั้นมีพร้อมทุกอย่าง เงินทอง ฐานะทางสังคม เรียนจบไปก็มีงานดี ๆ รองรับ ไม่ต้องออกแรงดิ้นไขว่คว้าให้เหนื่อย ตัดภาพมาที่ลลินาซึ่งไม่มีอะไรพอจะเอาไปอวดคนอื่นได้เลย นอกจากบ้านจน พ่อเลี้ยงผีพนัน แม่ติดเหล้า ครอบครัวเปรียบเสมือนศูนย์รวมของความบรรลัย
ครั้งหนึ่งในวันหยุดสุดสัปดาห์ ลลินารับงานพิเศษเป็นเด็กเสิร์ฟในงานเลี้ยงวันเกิดลูกคนรวย งานถูกจัดขึ้นบนเรือยอร์ชสุดหรู มันวิเศษอย่างที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน ปกติในวันหยุดลลินารับงานพาร์ตไทม์แบบนี้เป็นประจำ พอมีคนรู้จักติดต่องานมาให้ก็รีบตกปากรับคำโดยทันที เป็นงานบริการที่เงินดีกว่าทุกรอบที่เคยรับ ทำหน้าที่เดินเสิร์ฟเครื่องดื่มและอาหาร และนี่จึงเป็นครั้งแรกที่เธอได้เจอกับนัยน์
ขณะที่ลลินากำลังตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ ทว่าเผลอซุ่มซ่ามทำเครื่องดื่มหกใส่รองเท้าหรูของหนึ่งในแขกที่มาร่วมงาน เจ้าของรองเท้าเป็นถึงอดีตดาวเด่นมหาลัยที่เรียนอยู่ ไม่มีใครไม่รู้จักคนดังอย่างพิมพ์ชนก
พิมพ์ชนกโมโหและไม่พอใจมาก บอกว่าจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด พูดจาดูถูกทางบ้านของลลินาสารพัด เธอเรียกร้องให้จ่ายค่าเสียหายร่วมแสน ตอนนั้นลลินาตกใจจนทำอะไรไม่ถูก ไม่รู้ว่าชาตินี้จะไปหาเงินแสนจากที่ไหน ลำพังแค่ค่าแรงวันนี้ก็เพียงแค่หลักร้อย
"รองเท้าคู่ละเกือบแสน เธอทำไวน์หกใส่แบบนี้มีปัญญาชดใช้คืนให้มั้ย"
พิมพ์ชนกหน้าบูดบึ้ง ตรงเข้ากระชากแขนลลินาแล้วตะคอกเสียงดังลั่น พลอยทำให้แขกทุกคนหันมามองเป็นตาเดียว เมื่อเห็นว่าตนเองเป็นจุดสนใจ พิมพ์ชนกก็ยิ่งอยากแสดงความโดดเด่น
"ขอโทษค่ะ เดี๋ยวหนูเช็ดให้นะคะ แต่ถ้าพี่พิมพ์ไม่พอใจเสร็จงานแล้วหนูเอาไปซักให้ค่ะ"
"พี่พิมพ์?"
เพราะเห็นว่าพิมพ์ชนกเป็นอดีตรุ่นพี่ร่วมสถาบัน ลลินาจึงเรียกคำนำหน้าชื่อเล่นของเธอว่าพี่ อีกอย่างภาพลักษณ์ที่พิมพ์ชนกแสดงออกทางโซเชียลก็เป็นคนเฟรนด์ลี่แสนดี ลลินาแอบชื่นชมพิมพ์ชนกอยู่ในใจมาตลอด ลึก ๆ แล้วก็รู้สึกอิจฉาที่พิมพ์ชนกเป็นผู้หญิงสวยและเพียบพร้อม แต่อีกฝ่ายกลับมองเธอตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า และมองตั้งแต่ปลายเท้าไล่ขึ้นบน ก่อนจะแสยะยิ้มราวกับว่าลลินาเป็นสิ่งที่น่าสะอิดสะเอียน
"ยูเป็นญาติกับยัยขยะนี่เหรอ"
หนึ่งในบรรดาผู้ที่กำลังยืนมุงดูพูดขึ้น ตามมาด้วยเสียงหัวเราะขำขันของคนทั้งหมดใน ลำเรือ พิมพ์ชนกโกรธจนหน้าแดงก่ำ รีบสวนกลับเจ้าของเสียงนั้นทันควัน
"ยัยกระจอกนี่นะจะเป็นญาติกับไอ ไอไม่นับญาติด้วยหรอก"
"อ้าว ก็เห็นมันเรียกยูว่าพี่"
พอฝั่งนั้นตอกกลับ เสียงหัวเราะก็ดังขึ้นอีก ครั้งนี้ดังกว่าครั้งแรกมาก พิมพ์หันกลับมามองลลินาเหมือนจะกินหัว
"สะเหล่อ อย่างน้อยก็ควรรู้ที่ต่ำที่สูงซะบ้าง ฉันเป็นใครเธอเป็นใคร ต้องให้บอกมั้ย"
"ขอโทษค่ะ คุณพิมพ์"
"ไหน ๆ ก็อยากตีสนิทฉันขนาดนี้ สวะอย่างเธออยากมีซีนฉันก็จะช่วยดัน เอาล่ะ...เช็ดรองเท้าให้ฉันซะ"
พิมพ์ชนกยื่นเท้าออกมาข้างหน้า ลลินาพยักหน้ารับอย่างโล่งอก แม้อาจจะดูเสียศักดิ์ศรีไปบ้างแต่ก็ยังดีกว่าเสียเงินแสน หญิงสาวนำผ้าสำหรับเช็ดโต๊ะที่ยังสะอาดอยู่ออกมา นั่งคุกเข่าลงทำท่าจะเช็ดให้ ทว่าพิมพ์ชนกกลับชักเท้ากลับพร้อมกับปล่อยเสียงหัวเราะ
ลลินาชะงัก เงยหน้าขึ้นมองสาวสวยเจ้าของรองเท้าแพง
"ใครบอกว่าฉันจะให้เอาผ้าสกปรก ๆ แบบนั้นมาเช็ดรองเท้าฉัน"
"ละ...แล้วต้องเอาอะไรเช็ดคะ ถ้างั้น รอสักครู่นะคะเดี๋ยวหนูไปหยิบทิชชูมา"
"เสื้อเธอ ถอดเสื้อเธอออกมาเช็ดรองเท้าคู่นี้ ที่จริงมันก็ไม่ได้ดูสะอาดหรอกนะ แต่ทั้งตัวเธอไม่ได้มีอะไรดีไปกว่าเสื้อสีขาวตัวนี้แล้ว"
ทุกคนต่างโห่ร้องพร้อมกับหัวเราะคิกคัก คิดไม่ถึงว่าพิมพ์ชนกจะเล่นแรงถึงขั้นบอกให้ลลินาถอดเสื้อมาเช็ดรองเท้าให้ มีสองสามคนเตรียมหยิบมือถือขึ้นมาไลฟ์สด แต่ก็ไม่รอดพ้นสายตาของพิมพ์ชนกอยู่ดี แค่มองปราดเดียวก็ต้องรีบเก็บมือถือลง ไม่มีใครอยากมีปัญหากับลูกสาวผู้มีอิทธิพล ส่วนคนอย่างพิมพ์ชนกก็ไม่ยินยอมให้ภาพลักษณ์ของตัวเองเสียหายเช่นกัน
"เอาสิ ถอดเสื้อเธอมาเช็ดเร็วเข้า"
ลลินาในวัยที่ยังอ่อนต่อโลกบิดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีขาวด้วยมือสั่นเทา เสียงร้องเชียร์ให้รีบถอดของคนในเรือดังกระหึ่ม บ้างโยนธนบัตรที่เป็นเหมือนเศษเงินของพวกเขามาเป็นค่าจ้างให้เธอถอด พอคนแรกโยนมาคนที่สองสามสี่ก็โยนตามหลัง ลลินาเหม่อมองธนบัตรที่ปลิวว่อนในอากาศด้วยสายตาพร่ามัว
ทำไมถึงได้รังเกียจเงินพวกนี้ล่ะ ทั้ง ๆ ที่เธอแสวงหาแทบเป็นแทบตาย
มันจุกในอกจนขอบตาร้อนผ่าว หญิงสาวชะงักจากกระดุมเสื้อแล้วกำมือไว้แน่น เมื่อไม่ยอมแกะกระดุมเม็ดต่อไป เสียงโห่ร้องก็ดังขึ้นใหม่
"โห ถอดสิ ไม่ถอดแล้วเหรอ"
"ไม่ถอดก็ต้องชดใช้ค่ารองเท้านะ"
"ใช่ ๆ มีปัญญาเหรอ"
"อย่างมันเหรอจะไปมีปัญญา รู้ไหมบ้านมันจนจะตายไป ไม่รู้เหรอว่ามันเป็นนักเรียนทุน อยากเข้าเรียนที่เดียวกับพวกเราแต่บ้านโคตรกระจอก"
สายตาที่แสดงออกถึงการรังเกียจและเสียงดูถูกเหยียดหยามของผู้คน ทำเหมือนลลินาเป็นตัวอะไรสักอย่าง เธอกวาดตามองผู้คนเหล่านั้นที่ส่งเสียงร้องเชียร์สนุกสนาน พลันน้ำตาก็ปริ่มออกจากดวงตาคู่สวย
"ฮ่า ๆ เอาจริงดิ ร้องไห้ด้วยว่ะ ตลกชะมัด"
แทนที่คนพวกนั้นจะหยุด กลับยังคงแหกปากตะโกนบังคับให้เธอถอด พิมพ์ชนกเยาะยิ้มอย่างถูกอกถูกใจแล้วหยิบแชมเปญขึ้นมาเขย่าเปิด ฟองในขวดพุ่งอาบร่างลลินาเต็ม ๆ สภาพไม่ต่างจากลูกหมาถูกน้ำน้ำ คนรอบข้างหัวเราะลั่นเหมือนเป็นเรื่องตลก แต่แล้วเสียงโหวกเหวกก็ต้องหยุดลงเมื่อมีอีกเสียงหนึ่งดังแทรกขึ้น
"ทำอะไรกัน"
บทที่ 1 ตอนที่ 1 คนในความสัมพันธ์อันคลุมเครือ
23/12/2024
บทที่ 2 ตอนที่ 2 อยากเลิก
23/12/2024
บทที่ 3 ตอนที่ 3 การแสดง
23/12/2024
บทที่ 4 ตอนที่ 4 ไม่กลัว
23/12/2024
บทที่ 5 ตอนที่ 5 นอนคนละห้อง
23/12/2024
บทที่ 6 ตอนที่ 6 จะใช้คืนหมดมั้ย
23/12/2024
บทที่ 7 ตอนที่7 ขอโทษทำไม
23/12/2024
บทที่ 8 ตอนที่ 8 อยากทำการบ้าน
23/12/2024
บทที่ 9 ตอนที่ 9 ประชดเก่ง
23/12/2024
บทที่ 10 ตอนที่ 10 น้องที่รู้จักกัน
23/12/2024
บทที่ 11 ตอนที่ 11 บอกให้ขึ้นรถ
23/12/2024
บทที่ 12 ตอนที่ 12 เมื่อคืนนี้...
23/12/2024
บทที่ 13 ตอนที่ 13 ก็แค่ลาออก
23/12/2024
บทที่ 14 ตอนที่ 14 มาพนันกันไหม
23/12/2024
บทที่ 15 ตอนที่ 15 คุณยังรักผมอยู่ใช่มั้ย
23/12/2024
บทที่ 16 ตอนที่ 16 ยังรักเขาอยู่
23/12/2024
บทที่ 17 ตอนที่ 17 หมายถึงผม
23/12/2024
บทที่ 18 ตอนที่ 18 ก็จะยอมให้รูตัน
23/12/2024
บทที่ 19 ตอนที่ 19 ถ้าเข้ามาโดนจับกดแน่
23/12/2024
บทที่ 20 ตอนที่ 20 ตีผมทำไม
23/12/2024
บทที่ 21 ตอนที่ 21 ผมกลัวคำตอบ
23/12/2024
บทที่ 22 ตอนที่ 22 ก็เลยโกหก
23/12/2024
บทที่ 23 ตอนที่ 23 ดาทาง
23/12/2024
บทที่ 24 ตอนที่ 24 กลัวเมีย (จบ)
23/12/2024
หนังสืออื่นๆ ของ จันดาลี
ข้อมูลเพิ่มเติม