การย้อนเวลาครั้งนี้ นอกจากจะทำให้เขาได้มีโอกาสแก้ไขหลายเรื่องราวที่เคยผิดพลาดยังทำให้เขาได้มีโอกาสพบเจอคนสำคัญในชีวิตอีกครั้ง แล้วเช่นนี้จะไม่ให้เขาขอบคุณสวรรค์ได้หรือ ************ ลู่ฉางกังคือทายาทตระกูลลู่ผู้มั่งคั่ง ทว่าเขาเป็นคนเย่อหยิ่งอวดดีและยึดถือตนเองเป็นศูนย์กลาง จนหลงลืมสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตของตนเองไป อยู่มาวันหนึ่งเขาบังเอิญได้พบกล่องไม้โบราณซึ่งเป็นสมบัติประจำตระกูล เมื่อเปิดออกมันได้พาเขาย้อนเวลาไปยังมิติยุคโบราณ กลายเป็นเพียงเด็กชายวัยสิบขวบเท่านั้น ณ ในมิติคู่ขนานเขาพบกับคนสำคัญที่ชาตินี้เขาก็ไม่นึกไม่ฝันว่าจะได้พบอีกครั้ง การย้อนเวลาครั้งนี้ นอกจากจะทำให้เขาได้มีโอกาสแก้ไขหลายเรื่องราวที่เคยผิดพลาดแล้วยังช่วยเติมเต็มความหมายของคำคว่าครอบครัวให้แก่ใจเขาอีกด้วย ซึ่งแน่นอนว่าลู่ฉางกังจะทำทุกอย่างให้ดีกว่าที่ผ่านมา *****ทำความเข้าใจนิดนึงนะคะ คาแรกเตอร์ตัวเอกของเรื่องไรท์เขียนไม่ได้ออกแบบให้แสนดียาดฟ้ามาดินเหมือนพระเอกผ้าขาวทั่วไป มีอิจฉา รัก โลภ โกรธ หลง แทบจะเป็นตัวร้ายที่ทะลุมิติไปเล่นตลกเลยก็ว่าได้ แรก ๆ นิสัยน้องจะน่าหยุมหัวหน่อย ๆ แต่จะมีเหตุการณ์เข้ามาทำให้คุณชายอ่อนหัดเริ่มเปลี่ยนไปทีละนิด ๆ *****ไม่มีฉากอีโรติก *****แนวใช้ชีวิต แนวเอาตัวรอด แนวนำพาครอบครัวสู่ความเจริญ นิยายเรื่องที่เขียนจบไปแล้ว 1.จากสาวน้อยบ้านนาสู่ภรรยาท่านแม่ทัพ 2.เจ้าสาวประมุขหุบเขามืด คำเตือน 1. กรุณาแสดงความคิดเห็นอย่างสุภาพให้เกียรตินักเขียนและนักอ่านท่านอื่น งดแสดงความคิดเห็นด้วยถ้อยคำหยาบคายไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาในนิยายหรือมุ่งประเด็นด่าทอนักเขียนเพื่อระบายอารมณ์ 2. นิยายเรื่องนี้เกิดขึ้นจากจินตนาการของนักเขียน บุคคลและสถานที่ที่เกิดขึ้นไม่มีอยู่จริงในโลก เนื้อหาในนิยายมีทั้งสมเหตุผลและไม่สมเหตุสมผล บางตอนอาจมีฉากที่รุนแรง (ต่อสู้) โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน 3. ตัวละครในนิยายมีทั้งดีและเลวแตกต่างกันไป โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน หน่วยเงินตรา 1000 อีแปะ 1 ตำลึงเงิน หน่วยวัดตวงน้ำหนัก 1 ชั่ง 500 กรัม หน่วยเวลา 1 จีบน้ำชา ระยะเวลาที่สั้นมาก ๆ 1 เค่อ 15 นาที 1 ก้านธูป 30 นาที 1 ชั่วยาม 2 ชั่วโมง 12 ชั่วยาม 24 ชั่วโมง ยามจื่อ 23.00-24.59 ยามโฉ่ว 01.00-02.59 ยามอิ๋น 03.00-04.59 ยามเหม่า 05.00-06.59 ยามเฉิน 07.00-08.59 ยามซื่อ 09.00-10.59 ยามอู่ 11.00-12.59 ยามเว่ย 13.00-14.59 ยามเชิน 15.00.16.59 ยาวโหย่ว 17.00-18.59 ยามชวี 19.00-20.59 ยามห้าย 21.00-22.59
1. คุณชายตระกูลลู่
เสียงแง้มประตูให้เปิดออก ตามมาด้วยร่างของหญิงชรานางหนึ่ง ยามนี้เป็นเวลาเช้าตรู่อากาศจึงหนาวเย็นยะเยือก หยาดน้ำค้างเกาะอยู่ตามยอดหลิวแลดูอ่อนละมุมยิ่ง กลิ่นควันจากการเผาไหม้จาง ๆ ลอยมาเตะจมูก เพราะกลิ่นนี้นางจึงทอดมองไปยังเตาเผาเครื่องปั้นของลูกชาย ผลันดวงตาพร่ามัวก็สะดุดเข้ากับวัตถุบางอย่างที่วางอยู่บนแคร่ไม้ไผ่ หญิงชราเดินเชื่องช้าไปยังแคร่ไม้ไผ่ตัวนั้น เมื่อได้เข้ามาดูใกล้ ๆ ก็พบว่าสิ่งของซึ่งมองเห็นแต่ไกลคือถุงผ้าสีน้ำตาลใบหนึ่ง มือเหี่ยวย่นเอื้อมออกไปหยิบถุงผ้ามาเปิดดู ทว่าสิ่งที่อยู่ในถุงทำให้นางเบิกตาโตตะลึงค้าง..
"เชาถง! ปิงเหยียนออกมาดูนี่เร็วเข้า!"
……
…..
นครฉงเทียน 2024
รถซูเปอร์คาร์สุดหรูเล่นพาดผ่านถนนคดเคี้ยวเชิงเขา หญิงสาวที่นั่งมาด้วยลดกระจกลงรับอากาศบริสุทธิ์ สายลมอ่อนสะพัดมาได้กลิ่นหอมของมวลต้นไม้ใบหญ้าผสมกับกลิ่นดินกรุ่นหลังฝนตกใหม่ ภูเขาตรงหน้าตั้งตระหง่านระฟ้า ความพิเศษของหุบเขาแห่งนี้คือขึ้นสลับสับหว่างสวยงามราวจับวาง หากไม่ติดว่านี่คือดินแดนมนุษย์ ผู้มาเยือนอาจหลงผิดคิดว่าเป็นดินแดนสวรรค์
"วั้งซานกู่" คือสถานที่ทางธรรมชาติสุดแสนมหัศจรรย์ นอกจากทิวทัศน์ที่สวยงามแล้วยังมีลำธารไหลลงมาจากยอดเขา เป็นแหล่งน้ำสะอาดบริสุทธิ์ มีความใสกระจ่างจนมองเห็นฝูงปลาแหวกว่ายไปมา แม้กระทั่งก้อนกรวดเล็ก ๆ ที่ก้นลำธารก็สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน
บรรยากาศในรถค่อนข้างอึดอัดอยู่ไม่น้อย เนื่องจากผู้โดยสารทั้งหมดไม่ได้ปริปากพูดคุยกันเลยแม้แต่คำเดียว กระทั่งรถเคลื่อนมาจอดยังตีนเขาซึ่งเป็นที่ดินแปลงใหญ่สุดลูกหูลูกตา ถือครองโฉนดที่ดินโดยทายาทตระกูลลู่ยาวนานหลายชั่วอายุคน
ตระกูลลู่คือตระกูลเก่าแก่ร่ำรวยมหาศาล ประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และประเภทส่งออกสินค้าไปขายต่างประเทศ มากด้วยเงินทองและบริวาร เพราะอย่างนั้น ทายาทเพียงหนึ่งเดียวของรุ่นปัจจุบันอย่าง "ลู่ฉางกัง" ถึงได้หยิ่งยโสเพียงนี้
หากไม่มีเรื่องราวสะเทือนขวัญเมื่อสิบปีก่อน ฉางกังก็คงไม่ต้องแบกรับทุกอย่างลำพัง เขาเคยมีพ่อและแม่อยู่กันพร้อมหน้า ทว่าทุกอย่างผันผ่านราวกับฝัน อุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดพรากทุกคนไปจนหมด ปัจจุบันนี้มีเพียงคุณย่าเพียงคนเดียวซึ่งเป็นครอบครัวที่เขาเหลืออยู่
ชายหนุ่มมองออกไปนอกกระจกรถ เห็นบ้านเรือนทรุดโทรมจำนวนกว่าร้อยหลังคาที่ตั้งอยู่หนึ่งหย่อม จึงรู้สึกขวางหูขวางตาเป็นอย่างมาก พร้อมกันนั้นหลากหลายคำถามผุดขึ้นมาในหัว
...เพราะอะไร...ทำไมคุณย่าถึงได้เมตตาคนกลุ่มนี้นักนะ
คุณย่าถึงขั้นอนุญาตให้คนจน ๆ พวกนี้เข้ามาสร้างบ้านเรือนอยู่อาศัย และให้ใช้ที่ดินทำกิน โดยคิดค่าเช่าเพียงเดือนละหนึ่งตำลึง
...ฟังไม่ผิด...ค่าเช่าเพียงหนึ่งตำลึงต่อเดือน!
สิ่งเหล่านี้ขัดต่อหลักการทางความคิดของชายหนุ่มเป็นอย่างมาก เขาคิดว่าหากต้องเสียอะไรไป ต้องได้ผลประโยชน์ตอบแทนมาอย่างคุ้มค่า แต่เท่าที่เห็นฉางกังคิดว่าคนพวกนี้ไม่มีประโยชน์อะไรเลยต่อตระกูลลู่ ก็แค่คนยากจนไร้ที่พึ่งพิงและไม่มีที่ไป หวังอาศัยบารมีของตระกูลลู่คุ้มกะลาหัว หากให้อยู่ต่อก็รังแต่จะสร้างความเสื่อมโทรมและทำลายทัศนียภาพของที่ดินผืนงามจนด้อยราคาลง
ดังนั้น จุดประสงค์หลักในการมาของฉางกังในครั้งนี้ก็เพื่อต้องการออกคำสั่งขับไล่ชาวบ้านออกไปอยู่ที่อื่น เขาคิดว่าหากปราศจากบ้านเรือนโกโรโกโสแล้ว ที่ดินผืนนี้น่าจะงามกว่าเดิมหลายเท่า ถ้าจะขายต่อนายทุนสร้างเป็นรีสอร์ทก็ดูเข้าที หรือทำเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติก็ดูไม่เลว
ท่อนขายาวท่าทางกำยำก้าวลงจากรถ ภายใต้ชุดสูทสีกรมท่าดูหรูหรา ยังมีนาฬิกาเรือนโปรดที่ประมูลมาในราคาหลายสิบล้าน ดู ๆ ไปแล้วก็ช่วยเสริมสร้างบุคลิกให้สง่าขึ้นไปอีก ใบหน้ามาดคมเข้มผุดผ่องสมกับที่เกิดในตระกูลบารมีสูงส่ง ผิวที่ขาวกระจ่างราวหยกน้ำค้างเมื่อกระทบแสงแดดยามเว่ย ดูดีเกินจะบรรยายได้ ทว่าภายใต้รูปลักษณ์ที่สง่างามนี้ จิตใจของลู่ฉางกังกลับถูกฝังกลบไปด้วยความเย็นชาไร้ซึ่งความเห็นใจผู้อื่น
หญิงสาวที่นั่งมาด้วยก็เดินลงจากรถเช่นกัน นามของเธอคือ จางลี่อิน แฟนสาวที่คบกันมานานหลายปีของฉางกัง เธอคนนี้แต่งตัวเรียบง่ายไม่เวิ่นเว้อเหมือนชายหนุ่ม
ตามมาด้วยเข่อซิง เลขาคนสนิทของฉางกังที่ลงจากรถเป็นคนสุดท้าย หลังจากที่ทั้งสามลงจากรถ ไม่นานก็มีชายวัย 60 หนาวคนหนึ่งเดินมาทางพวกเขา
"คุณชายลู่ เป็นบุญตาที่กระผมมีโอกาสได้เห็น"
ชายผู้นี้คือคนที่คุณย่าว่าจ้างให้ดูแลที่ดินหลังเขาวั้งซานกู่ เปรียบเสมือนผู้นำหมู่บ้านเลยก็ว่าได้ เขาเอ่ยขึ้นหลังจากเดินเข้ามาใกล้สักระยะสายตา ดวงตาของเขาเปี่ยมด้วยความดีใจแบบไม่ปิดบัง หากแต่มันกำลังจะเปลี่ยนไปในไม่ช้าเมื่อได้รับการตอบกลับจากบุคคลที่เขาเพิ่งเอ่ยชื่นชมเมื่อครู่
“รีบพาฉันไปดูให้จบ ๆ ที่ดินโกโรโกโสแบบนี้ฉันไม่อยากจะเสียเวลานาน”
ฉางกังพูดห้วน ๆ กับคนงานของคุณย่าจนอีกฝ่ายเก็บรอยยิ้มจริงใจแทบไม่ทัน เหลือไว้แต่เพียงรอยยิ้มฝืน ๆ ที่หากจะไม่ยิ้มก็ไม่ได้ แต่ก่อนที่จะได้เอ่ยอะไรต่อชายหนุ่มก็เดินนำหน้าไปก่อนด้วยความรำคาญใจ
ลี่อินที่เห็นสีหน้าเจื่อนของชายแก่จึงรีบเดินมาขอโทษ เธอรู้นิสัยแฟนหนุ่มเป็นอย่างดีว่าเขาเป็นคนไม่สนโลกเพียงใด และรู้สึกอับอายแก่การกระทำของฉางกังเป็นอย่างมาก ในบางครั้งเธอได้พูดจาตักเตือนเขาไปบ้าง แต่ฉางกังก็ไม่ใส่ใจคำเตือนของเธอเลยสักนิด เขามักคิดว่าตนเองคือศูนย์รวมของจักรวาล และมั่นอกมั่นใจว่าตนเองสูงส่งอยู่เหนือกว่าทุกคน
“คุณลุงคะ ขอโทษแทนลู่กังด้วยนะคะ เขาอารมณ์ไม่ดีค่ะ หวังว่าคุณลุงจะไม่ถือสาเขานะคะ”
หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลจนรอยยิ้มของอีกฝ่ายกลับมาประดับบนใบหน้าอีกครั้ง ชายแก่พยักหน้าให้เธอเบา ๆ เป็นเชิงบอกว่าเขาไม่เป็นอะไรอย่าได้กังวล แล้วมือเหี่ยวที่ตรากตำทำงานหนักมาหลายปีก็ผายออกเป็นนัยยะว่าตนนั้นกำลังจะเดินนำให้เดินตามมา และพูดด้วยน้ำเสียงกระตือรือร้นว่า
"เชิญครับ ๆ เราเองก็รีบตามคุณชายลู่ไปกันเถอะครับ"
เวลาผ่านไปเป็นชั่วยาม แต่ฉางกังยังดูที่ดินได้เพียงบางส่วนเท่านั้น เขารู้สึกหงุดหงิดเต็มทีจึงเอ่ยปากสบถคำไม่น่าฟังออกมาทุกเมื่อ กระทั่งสมควรแก่เวลาที่ต้องกลับลี่อินจึงค่อยรู้สึกเบาใจได้บ้าง เธอเกรงว่าหากเมื่อใดที่แฟนหนุ่มของเธอหงุดหงิดจะพูดจากระทบใครต่อใครให้เจ็บช้ำน้ำใจ หรือร้ายไปกว่านั้นอาจถึงขั้นไล่คนงานที่เป็นคนเก่าแก่ของตระกูลลู่ออกอย่างไร้เหตุผล เมื่อรถเคลื่อนตัวจากไปเพียงไม่กี่นาทีก็ต้องหยุดกะทันหัน เหตุเพราะเสียงด่าทอของผู้เป็นนาย
“เจ้างั่ง! ถ้าจะขับช้าขนาดนี้ฉันนั่งเต่าไปไม่ดีกว่าเหรอ”
ลี่อินเห็นแฟนหนุ่มพูดด้วยอารมณ์โทสะ นี่คือภาพที่เห็นเป็นประจำแต่เธอก็ไม่อาจเพิกเฉยได้เลย บางครั้งเธอมองว่าไม่ใช่ความผิดของเข่อซิงด้วยซ้ำ เพียงเพราะว่าฉางกังเห็นเลขาเป็นที่ระบายอารมณ์เพียงเท่านั้น เข่อซิงก็เลยถูกปฏิบัติตอบด้วยพฤติกรรมที่ไม่ให้เกียรติ
“แล้วคุณจะเอายังไงคะ ฉันว่าความเร็วระดับนี้ถือว่าปลอดภัยกับพวกเราแล้ว นี่เป็นเส้นทางบนเขานะ ทั้งคดเคี้ยวและลาดชัน ถ้าคุณไม่พอใจมากนักคุณก็ไปขับเองสิ”
เสียงหวานของจางลี่อินเอ่ยสวนกลับฉางกังอย่างไม่พอใจ นี่คงเป็นวิธีแก้ปัญหาที่ดีที่สุดแล้ว ในเมื่อเขามักจะเอาตามใจตนเองทุกอย่าง เช่นนั้นสมควรให้เขาขับเองจะได้สิ้นเรื่อง ฉางกังหันมาสบตาแฟนสาวด้วยสีหน้าสุดจะเบื่อหน่าย แล้วพูดกระแทกเสียงจนลี่อินสะดุ้ง
“ได้! เดี๋ยวผมจะขับเอง"
พูดจบเขาก็เปลี่ยนที่นั่งกับเข่อซิง แล้วขับรถออกไปด้วยความเร็วชนิดที่เรียกได้ว่าหูดับตับไหม้ บริเวณนี้คือทางแทรกกลางระหว่างเขาสองลูกที่ถูกระเบิดเพื่อแหวกเส้นทางทำถนนสำหรับสัญจรไปมา เส้นทางค่อนข้างเปลี่ยว สองข้างทางเต็มไปด้วยต้นไม้เล็กใหญ่ทว่าแซมไปด้วยบ้านคนที่ปลูกห่างกัน นาน ๆ ทีจะเจอสักหลัง ฉางกังจึงขาดความระมัดระวัง เขาได้เหยียบคันเร่งเต็มแรงหวังกลับให้ถึงบ้านที่อยู่ในตัวเมืองโดยเร็ว
...แต่แล้วเรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น
พลั่ก!
กรี๊ดดดด
วัตถุบางอย่างกระทบตัวรถ ตามมาด้วยเสียงเหยียบเบรกกะทันหัน ลี่อินกรีดร้องออกมาอย่างตกใจ ในตอนแรกฉางกังคิดว่าตนเองขับรถชนสัตว์ป่าที่กำลังข้ามถนนหรือกำลังออกหากินจึงลดกระจกลงดู ปรากฏว่าเห็นชายแก่ ๆ นอนบาดเจ็บอยู่ ข้างชายแก่มีผู้หญิงอายุราว 30 หนาวต้น ๆ พวกเขาทั้งสองคือชาวบ้านธรรมดาที่อาศัยอยู่ละแวกนี้ สวมเสื้อผ้าเก่า ๆ ผิวดำหยาบกร้าน ใบหน้ามอมแมม ร่างกายคลุ้งไปด้วยกลิ่นเหงื่อไคลจากการใช้แรงงานหนัก
ในขณะที่ฉางกังกำลังมึนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ลี่อินก็ลงไปพยุงชายแก่คนนั้นให้ลุกนั่ง เธอร้อนรนให้ความช่วยเหลือเท่าที่จะช่วยได้ คนจิตใจดีอย่างลี่อินคิดไปไกลว่าแฟนหนุ่มของเธอควรจะพาชายแก่คนนี้ไปส่งโรงพยาบาล แต่ฉางกังไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นเลยสักนิดเดียว
...หึ ลูกไม้ตื้น ๆ
เขาคิดในใจอย่างไร้มนุษยธรรม
>>>>>ไรท์ฝากกดหัวใจสีชมพูดวงน้อย ๆ เพื่อเปิดโอกาสให้นิยายของไรท์มีคนเข้ามาเห็นเยอะ ๆ ด้วยนะคะ
นิยายเรื่องนี้มีความยาวอยู่ที่ประมาณ 40 ตอนถ้ายอดหัวใจถึง 200 ไรท์จะลงให้อ่านฟรีจนถึงตอนจบค่ะ
บทที่ 1 1. คุณชายตระกูลลู่
23/12/2024
บทที่ 2 2. เลิกกันเถอะ
23/12/2024
บทที่ 3 3. ครอบครัวเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่
23/12/2024
บทที่ 4 4. ห้วงฝันที่เป็นจริง
23/12/2024
บทที่ 5 5. โลกที่หมุนด้วยเงิน
23/12/2024
บทที่ 6 6. สิ่งที่ผู้หญิงคนหนึ่งต้องเจอ
23/12/2024
บทที่ 7 7. วันนั้นฝนก็ตกแบบนี้
23/12/2024
บทที่ 8 8. เจ้าเด็กน้อยนี่ลูกใคร
23/12/2024
บทที่ 9 9. โลกต่างมิติ
23/12/2024
บทที่ 10 10. หากได้มีโอกาสได้พบเจอ
23/12/2024
บทที่ 11 11. กลับสู่นครฉงเทียน
23/12/2024
บทที่ 12 12. วาสนาด้ายแดง
23/12/2024
บทที่ 13 13. สายใยรักพ่อแม่
23/12/2024
บทที่ 14 14. ทุกชาติภพ
23/12/2024
บทที่ 15 15. ควบคุมตัวเองไม่ได้
23/12/2024
บทที่ 16 16. จดหมายจากชิงไห่
23/12/2024
บทที่ 17 17. คำพูดเด็กเชื่อถือไม่ได้
23/12/2024
บทที่ 18 18. เด็กธรรมดาที่ไหนพูดเรื่องบ่อเกลือ
23/12/2024
บทที่ 19 19. คนที่แปลว่าคน
23/12/2024
บทที่ 20 20. คำตอบของเข่อซิง
23/12/2024
บทที่ 21 21. ลูกข้าดื้อรั้นไม่รู้ความ
23/12/2024
บทที่ 22 22. อาเล็ก
23/12/2024
บทที่ 23 23. สำรวจที่ดิน
23/12/2024
บทที่ 24 24. เสียรู้เจี้ยนกั๋ว
23/12/2024
บทที่ 25 25. ท่านพ่อกลับบ้าน
23/12/2024
บทที่ 26 26. ทำเครื่องปั้นดินเผาไปขาย
23/12/2024
บทที่ 27 27. แจกันหนึ่งใบตอบแทนหมั่นโถวหนึ่งลูก
23/12/2024
บทที่ 28 28. พิธีโกหกวิญญาณ
23/12/2024
บทที่ 29 29. เพราะพิษไข้ความฝันจึงกระจ่าง
23/12/2024
บทที่ 30 30. เหตุการณ์ซ้ำรอยเดิม
23/12/2024
บทที่ 31 31. หมอเซียว
23/12/2024
บทที่ 32 32. ไม่ถึงกับวิบัติแต่ก็ทำให้เสียทรัพย์
23/12/2024
บทที่ 33 33. คำสัญญา 3 ข้อ
23/12/2024
บทที่ 34 34. วันเกิดของฉางกัง
23/12/2024
บทที่ 35 35. คำอธิษฐาน
23/12/2024
บทที่ 36 36. ของขวัญจากฉางกัง
23/12/2024
บทที่ 37 37. เยือนวั้งซานกู่ (จบ)
23/12/2024
หนังสืออื่นๆ ของ จันดาลี
ข้อมูลเพิ่มเติม