คุณหนูใบ้ที่ถูกข่มเหงรังแกหลังจากฟื้นขึ้นมากลับกลายเป็นสาวนักธุรกิจที่ทะลุมิติมาเข้าร่าง ในเมื่อชีวิตเก่าเจ้าของร่างอาภัพนักชีวิตใหม่นี้ฉู่เสวียนหนี่ขอสาบานว่าจะทำให้ดีเอง! *********** ผลจากการโหมงานหนักทำให้ฉู่เสวียนหนี่สิ้นใจตายคาโต๊ะทำงาน เดิมที่คิดว่าความตายคือจุดจบ...แท้จริงแล้วมันคือจุดเริ่มต้น เพราะวิญาณของเธอได้ทะลุมิติเข้ามายังยุคโบราณล้าหลัง เหมือนชะตากลั่นแกล้งไม่ผิดเพี้ยน ฉู่เสวียนหนี่ดันเข้ามาอาศัยอยู่ในร่างของคุณหนูสามที่ชีวิตสุดแสนบัดซบ ได้รับผลข้างเคียงจากพิษแมงมุม คู่หมั้นที่เคยถูกหมายตาไว้ยื่นหนังสือถอนหมั้น หนำซ้ำยังถูกอุบายลวงญาติริษยาต้องออกจากจวนไปอาศัยกับแม่ชีที่อาราม
1. ทาบทามนางไปเป็นสะใภ้
เสียงวิ่งย้ำใบไม้แห้งดังกรอบแกร็บตามมาด้วยร่างของเด็กชายคนหนึ่งโผล่พ้นชายป่า ป๋อเหวินบุตรชายคนโตของฉู่มู่เฉินวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาบอกซูหนี่ซึ่งเป็นน้องสาวร่วมมารดาด้วยอาการตื่นตระหนก เขาและเสวียนหนี่น้องสาวคนเล็กได้ชวนกันเล่นซ่อนหาบริเวณหลังจวน โดยที่ตนเป็นคนซ่อนตัวแล้วให้อีกฝ่ายเป็นคนตามหา เวลาไล่หลังผ่านไปได้หนึ่งเค่อป๋อเหวินไม่เห็นเสวียนหนี่จึงออกจากที่หลบซ่อนร้องเรียกหานาง ทว่าไม่พบแม้กระทั่งเงา
“ทำเช่นไรดี ฮูหยินใหญ่ต้องตีข้าแน่ ข้าจะทำเช่นไรดีซูหนี่”
เขาถามน้องสาวเสียงสั่นขอบตาแดงรื้นราวกับว่าน้ำตาที่กักเก็บเอาไว้จะหล่นแหมะอยู่รอมร่อ แต่ไหนแต่ไรฉู่ป๋อเหวินมักจะมีนิสัยหัวอ่อนขี้ขลาด และทำตัวเหมือนเด็กไม่รู้จักโต ไม่กล้าตัดสินใจด้วยตนเอง หากพบเจอปัญหาไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ก็มักจะวิ่งเต้นหาคนช่วยอยู่ร่ำไป แม้กระทั่งฉู่ซูหนี่ที่อายุน้อยกว่าเขาก็ยังหวังยึดเอาเป็นที่พึ่ง
ฉู่มู่เฉินเป็นผู้นำตระกูลฉู่ ซึ่งดำรงตำแหน่งขุนนางขั้นสาม มีภรรยาเอกนามว่าซินหยาง เมื่อแปดปีก่อนนางได้ให้กำเนิดบุตรสาวหนึ่งคนตั้งชื่อให้ว่าฉู่เสวี่ยนหนี่ นอกจากนั้นเขายังมีบุตรชายและบุตรสาวที่เกิดจากเจียวเหมยซึ่งเป็นอนุ บุตรชายคนโตฉู่ป๋อเหวินอายุย่างสิบเอ็ดขวบหนาว และบุตรสาวคนรองฉู่ซูหนี่อายุเก้าขวบหนาว
ปกติแล้วฉู่เสวี่ยนหนี่จะติดพี่ชายคนโต ส่วนซูหนี่ว์ซึ่งเป็นพี่รองไม่ค่อยสุงสิงกับพี่น้องคนอื่น ๆ มากนัก หรือถ้าหากมีโอกาสได้เล่นด้วยกันอีกฝ่ายก็มักจะหาเรื่องกลั่นแกล้งน้องสาวคนเล็กจนได้รับบาดเจ็บเนื้อตัวเขียวช้ำอยู่เป็นประจำ ด้วยสาเหตุนี้ฉู่เสวี่ยนหนี่จึงไม่ค่อยให้ความสนิทสนมกับพี่สาวเท่าไหร่นัก
“ข้าจะทำอย่างไรดี หากนางเป็นอะไรขึ้นมาข้าต้องถูกตีแน่ ๆ”
เหงื่อกาฬเม็ดเล็กผุดขึ้นที่หน้าผาก เขาพูดพลางย่ำเท้าสลับไปมา เนื่องด้วยลึกเข้าไปนั้นเป็นผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ นอกจากต้นไม้สูงตระหง่านและหญ้ารกชัฏยังมีสัตว์ป่าหลายชนิด รวมไปถึงสัตว์ป่าดุร้ายที่พร้อมกระโจนปลิดชีพไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่
“อย่าตาขาว! มีคนอื่นรู้หรือไม่ว่าท่านพี่พานางเข้าไปเล่นหลังจวน”
“ไม่ ไม่มีผู้ใดรู้ เช่นนั้นข้า... ข้าต้องรีบไปแจ้งท่านพ่อกับฮูหยินใหญ่ก่อนว่าเสวียนหนี่หายตัวไป”
เด็กชายพูดจบก็ทำท่าจะวิ่งกลับไปที่เรือนหลัก ทว่าก็ถูกผู้เป็นน้องสาวรั้งตัวไว้เสียก่อน นางมองหน้าพี่ชายด้วยแววตานิ่งเฉยไม่ได้รู้สึกทุกข์ร้อนกับการที่อีกฝ่ายหายตัวไป ก่อนหน้านี้นางกับพี่ชายก็มักจะไปเล่นบริเวณนั้นอยู่เป็นประจำ ซึ่งมันก็ไม่เห็นว่ามีอะไรให้น่าเป็นห่วง
วันนี้เรือนใหญ่ค่อนข้างวุ่นวายนักท่านพ่อกับฮูหยินใหญ่คงไม่มีเวลามาคอยดูแลบุตรสาวของตนเองหรอก เพราะซีฮันอ๋องมาเยี่ยมเยือนบิดาถึงจวน ทำให้เหล่าบรรดาบ่าวรับใช้ต่างถูกเรียกไปรบปรนนิบัติรับใช้ สาวใช้ที่คอยดูแลเสวียนหนี่ก็ถูกเกณฑ์ไปด้วย ทำให้อีกฝ่ายพ้นขอบเขตระยะสายตาผู้ใหญ่ ครั้นพอถูกพี่ชายคนโตชวนไปเล่นก็หายตัวไปอีก
ซีฮันอ๋องนับเป็นผู้มีอิทธิพลทางการเมืองอันดับต้น ๆ แต่ไม่มีผู้ใดพูดได้ว่าเทียบเท่ากับกษัตริย์ เพราะต่างรู้กันเป็นอย่างดีว่าไม่ใช่สิ่งที่ควรพูดถึง ด้วยความที่อ๋องซีฮันเป็นผู้กุมอำนาจเสียส่วนใหญ่ เป็นดั่งนิ้วมือที่คอยชักใยหุ่นเชิดจึงไม่มีผู้ใดอาจหาญลบหลู่ การที่ซีฮันอ๋องมาเยี่ยมจวนตระกูลฉู่ครั้งนี้ถือเป็นหน้าเป็นตาแก่ตระกูล ผู้ใหญ่ทุกคนจึงต้องอยู่เพื่อต้อนรับอย่างดีจะได้ไม่มีสิ่งใดขาดตกบกพร่อง
“พี่ใหญ่ ช้าก่อนเถิดเจ้าค่ะ ข้าว่าเอาอย่างนี้ดีหรือไม่” เด็กหญิงที่มีใจริษยาได้คิดบางสิ่งบางอย่างออก มุมปากยกยิ้มเล็กน้อยนึกถึงคำพร่ำสอนของมารดาที่บอกให้นางชิงดีชิงเด่นกับฉู่เสวียนหนี่ คิดได้เช่นนั้นนางจึงแสร้งแสดงสีหน้าเห็นอกเห็นใจพี่ชายอยู่บ้าง “ตอนนี้ท่านพ่อ ฮูหยินใหญ่ และท่านแม่ของเรากำลังต้อนรับการมาของซีฮันอ๋องอยู่ เวลานี้เด็กอย่างพวกเราไม่สมควรเข้าไปยุ่มย่าม”
“นี่... เจ้าหมายความว่า!” ป๋อเหวินมีท่าทีมึนงง ไม่เข้าใจว่าน้องสาวกำลังหมายถึงอะไร
“เสวียนหนี่กับท่านพี่เล่นซ่อนหากันอยู่ไม่ใช่หรือ บางทีนางอาจไม่ได้หายไปไหน เผลอ ๆ หากนางหาพี่ใหญ่ไม่เจอก็อาจจะเดินกลับจวนเองด้วยซ้ำ” ฉู่ซูหนี่เอ่ยแนะนำพี่ชาย
“ตะ...แต่เสวียนหนี่” เด็กชายมีท่าทีลังเล
“หากท่านพี่ไปแจ้งฮูหยินใหญ่ว่าบุตรสาวของนางหายตัวไปตอนที่กำลังเล่นอยู่กับท่านพี่” นางเว้นจังหวะเล็กน้อย ค่อยเสริมอย่างจริงจังว่า “ฮูหยินใหญ่จะต้องฆ่าท่านพี่ตายแน่”
“ฆะ... ฆ่าเลยหรือ!” ฉู่ป๋อเหวินมีท่าตื่นกลัวอย่างเห็นได้ชัด ความที่ตนเองยังเป็นเด็กจึงเกิดความรู้สึกหวาดกลัวอยู่ไม่น้อย
“อืม! ใช่” ฉู่ซูหนี่พยักหน้าช้า ๆ อย่างเห็นอกเห็นใจ นางลูบหลังมือพี่ชายปลอบขวัญแล้วเสนอทางออกวิธีอื่นให้ โดยที่ป๋อเหวินไม่รู้เลยว่าภายในใจของนางนั้นกำลังคิดการใดอยู่
“อีกเพียงไม่นานก็จะเย็นแล้ว ยามนั้นเมื่อท่านพ่อกับฮูหยินใหญ่ไม่เห็นว่านางกลับจวน พวกเขาก็จะออกตามหาตัวนางเอง จำไว้ว่าท่านพี่ไม่รู้ไม่เห็นอะไรทั้งสิ้น ทำตามที่ข้าบอกแล้วท่านพี่จะไม่มีความผิด”
“ขะ... ข้าต้องทำเช่นนั้นหรือถึงจะไม่มีความผิด” เด็กชายยังมีสีหน้าเป็นกังวล เขาเชื่อในคำพูดของน้องสาวทุกประการ
“ใช่แล้ว...ข้าหวังดีกับท่านพี่นะเจ้าคะ” นางพยักหน้าหงึกงัก แต่ถึงกระนั้นผู้เป็นพี่ชายก็ยังคงไม่มั่นใจ เขายังเด็กนักยังไม่รู้ทันเล่ห์เหลี่ยมอันใดทั้งสิน
“แต่... แต่ฮูหยินใหญ่จะไม่ทำอะไรข้าจริง ๆ หรือถ้านางรู้ภายหลัง”
“แล้วนางจะทำอันใดพี่ใหญ่ได้เล่า หากพี่ใหญ่ยืนกรานว่าไม่รู้ไม่เห็น” นางบอกกล่าวอย่างใจเย็น
ความคิดของนางไปไกลเกินกว่าเด็กวัยเก้าขวบแล้ว นางไม่ได้พูดเพราะความไร้เดียงสาแต่พูดเลียนแบบตามคำสั่งสอนของมารดาต่างหาก สาเหตุหลักที่บิดาโปรดปรานท่านแม่เป็นพิเศษ เพราะท่านได้ให้กำเนิดป๋อเหวินซึ่งเป็นบุตรชายคนแรกของตระกูล สำหรับท่านพ่อที่เป็นขุนนางระดับสามการที่ได้บุตรชายถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีมากกว่าบุตรสาวเสียอีก
ส่วนซินหยางแม้จะเป็นภรรยาเอกแต่นางไม่สามารถมีบุตรชายให้แก่ท่านพ่อได้ ดังนั้นจึงไม่ค่อยได้รับความโปรดปรานเทียบเท่ากับท่านแม่ที่เป็นเพียงอนุ
ด้านอ๋องซีฮันที่อยู่พูดคุยกับฉู่มู่เฉินจนถึงยามเซิน (15.00-16.59) ทันทีที่ส่งอีกฝ่ายเสร็จ เจียวเหมยจึงได้ถามผู้เป็นสามีอย่างใคร่รู้ เพราะนางยังคงไม่กระจ่างกับสิ่งที่ซีฮันอ๋องพูดเมื่อครู่
“ท่านพี่ หมายความว่าอย่างไรหรือเจ้าคะ ท่านอ๋องอยากหมั้นหมายเสวียนหนี่ไว้ให้บุตรชายคนโต ข้าเข้าใจถูกหรือไม่”
“ฮ่า ๆ ๆ เจ้าเข้าใจถูกต้องแล้ว” ฉู่มู่เฉินหัวเราะเสียงดังออกมาอย่างพึงพอใจ เพราะการที่ได้เกี่ยวดองกับซีฮันอ๋องเป็นสิ่งที่เขาปรารถนามาตลอด ในที่สุดเสวียนหนี่ก็ทำให้เขาสมหวังโดยที่ไม่ต้องเอ่ยปากร้องขอใด ๆ
“โชคเข้าข้างจริง ๆ ในที่สุดข้าก็จะได้เกี่ยวดองกับซีฮันอ๋องแล้ว” อีกฝ่ายเอ่ยออกมาอย่างอารมณ์ดี ส่งผลให้เจียวเหมยรู้สึกขุ่นเคืองใจไม่น้อย เพราะเหตุใดสตรีที่ท่านอ๋องหมายตาเอาไว้ให้บุตรชายถึงไม่เป็นบุตรสาวของนาง ไม่รู้ว่าเสวียนหนี่มีวาสนาดีขนาดไหนกัน ถึงได้มีตระกูลทรงอิทธิพลที่สุดในแคว้นเถียนมาทาบทามไว้ตั้งแต่ยังเด็กเช่นนี้
เจียวเหมยพยายามข่มกลั้นความริษยาไว้ภายใน ก่อนจะแสร้งปั้นหน้ายิ้มเสมือนยินดีกับอีกฝ่ายไปด้วย “การเกี่ยวดองกับท่านอ๋องถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดียิ่ง ตระกูลฉู่ของเราจะได้มั่นคงยิ่งกว่าเดิม ข้าดีใจกับท่านพี่ด้วยนะเจ้าคะ ยินดีกับเสวียนหนี่และฮูหยินใหญ่ด้วย”
ซินหยางมองดูทั้งคู่แย้มยิ้มหัวเราะให้กันอย่างมีความสุข นางจึงเบือนหน้าหนีไปอีกทาง ใจจริงแล้วนางไม่ได้รู้สึกยินดียินร้ายกับการทาบทามในครั้งนี้เท่าใดนัก เพราะนางมองเจตนาของคนผู้นั้นออก การที่เขาอยากได้เสวียนหนี่ไปเป็นสะใภ้ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องการเมืองทั้งสิ้น ไม่ใช่แค่ฉู่มู่เฉินที่อยากได้ซีฮันอ๋องมาคอยหนุนรากฐานตระกูลให้มั่นคงหรอกนะ แต่อีกฝ่ายก็กระหายอำนาจไม่แพ้กัน
ดังนั้นแม้ตระกูลฉู่จะมีอิทธิพลไม่เทียบเท่ากับท่านอ๋อง แต่ก็มิได้น้อยหน้ากว่าตระกูลอื่น ๆ ออกจะเป็นหมายเลขหนึ่งเสียด้วยซ้ำเมื่อพิจารณาดูดี ๆ
“แล้วนี่! เสวียนหนี่ไปไหน วันนี้ข้ายังไม่เห็นนางเลย” ครั้นเมื่อหัวเราะจนพอใจเขาจึงได้หันมาถามภรรยา
“น่าจะเล่นอยู่ที่ศาลากลางสวนเจ้าค่ะ” นางตอบกลับ
“อืม! ฮูหยินต่อไปนี้เจ้าต้องดูแลบุตรสาวของเราให้ดี นางจะเป็นตัวนำโชคมาสู่ตระกูลเราเข้าใจหรือไม่” เขาเอ่ยกำชับภรรยา
“เจ้าค่ะ ข้าเข้าใจแล้ว” ซินหยางตอบกลับด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ในใจรู้สึกเป็นกังวลไม่น้อย
ลึกเข้าไปในป่าหลังจวนตระกูลฉู่ เสวียนหนีร่ำไห้น้ำตาอาบแก้มด้วยความหวาดกลัวจับจิต เด็กหญิงตัวน้อยเดินไปไม่รู้ทิศรู้ทาง ด้วยความที่ยังเด็กมากนักและไม่รู้ว่าตนเองกำลังหลงทางอยู่ในป่า นางจึงเดินลึกเข้าไปเรื่อย ๆ ได้ยินเสียงคำรามของสัตว์ป่าฟังดูน่าขนลุก เสวียนหนี่พยายามสะกดกลั้นเสียงสะอื้นให้เงียบลง ก่อนจะรีบวิ่งเข้าไปหลบหลังต้นไม้ใหญ่โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าได้มีบางอย่างที่อันตรายกว่า สิ่งนั้นคือแมงมุมพิษร้ายแรงมันกำลังไต่จากชายอาภรณ์ขึ้นมาที่บริเวณลำคอ เมื่อเสวียนหนี่รู้สึกตัวนางจึงรีบปัดมันออกให้พ้น ทว่ากลับถูกแมงมุมกัดเข้าที่ปลายนิ้ว ความเจ็บปวดจากการถูกกัดทำให้นางเผลอปล่อยเสียงกรีดร้องออกมาอย่างลืมตัว ระยะแรกเด็กหญิงรู้สึกเจ็บปวดอย่างมหาศาลจนยกแขนไม่ขึ้น แต่เวลาผ่านไปไม่นานกลับรู้สึกชาไปทั้งตัวไร้เรี่ยวแรงจะขยับกาย ในที่สุดทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวก็พลันตกอยู่ในความมืดมิด เสียงกรีดร้องดังอยู่ในหูได้ไม่นานสติสัมปชัญญะของนางก็พลันดับวูบลงไปพร้อมกับร่างน้อย ๆ ที่ทิ้งตัวหมดสติลงแนบผืนพสุธา
บทที่ 1 1. ทาบทามนางไปเป็นสะใภ้
23/12/2024
บทที่ 2 2. นางสิ้นใจแล้วหรือ
23/12/2024
บทที่ 3 3. นับจากนี้ข้าคือเจ้าของชีวิตนาง
23/12/2024
บทที่ 4 4.ไม่ปรารถนาสะใภ้ที่เป็นลูกอนุ
23/12/2024
บทที่ 5 5. ส่งนางไปอาราม
23/12/2024
บทที่ 6 6. แสร้งเป็นคนดีอะไรตอนนี้
23/12/2024
บทที่ 7 7. ซูหนี่ต้องรอด
23/12/2024
บทที่ 8 8. ของถูกขโมยไปแล้ว
23/12/2024
บทที่ 9 9. ตาแก่เจ้าเล่ห์
23/12/2024
บทที่ 10 10. ประกาศจับกบฎ
23/12/2024
บทที่ 11 11. วัดใจกันไปเลย!
23/12/2024
บทที่ 12 12. ผ่านด่านเมืองหลวง
23/12/2024
บทที่ 13 13. เจ้าสาวผี
23/12/2024
บทที่ 14 14. รับบทคนขุดสุสาน
23/12/2024
บทที่ 15 15. ทิ้งเด็กไว้แล้วไปต่อ
23/12/2024
บทที่ 16 16. จับกด
23/12/2024
บทที่ 17 17. มาถึงไวกว่าที่คิด
23/12/2024
บทที่ 18 18. เจ้าสาวประมุขมี 2 คน
23/12/2024
บทที่ 19 19. มารยาสาไถย
23/12/2024
บทที่ 20 20 รื้อคดีเผาคลังเสบียง
23/12/2024
บทที่ 21 21. ยื่นข้อเสนอแลกชีวิต
23/12/2024
บทที่ 22 22. ตัดสินโทษเจี่ยนถานถาน
23/12/2024
บทที่ 23 23. เลวยิ่งนัก!
23/12/2024
บทที่ 24 24. หาแสง
23/12/2024
บทที่ 25 25. จุดสีแดงบนนิ้วมือ
23/12/2024
บทที่ 26 26. ให้ถอยกลับไม่ได้จริง ๆ
23/12/2024
บทที่ 27 27. คุณหนูฟางจิง
23/12/2024
บทที่ 28 28. ความโหดเหี้ยมของประมุขหง
23/12/2024
บทที่ 29 29. นางพูดถึงข้าว่าอย่างไร
23/12/2024
บทที่ 30 30. ไขความให้กระจ่าง
23/12/2024
บทที่ 31 31. ค้าอำพัน
23/12/2024
บทที่ 32 32. อำพันดอกท้อ
23/12/2024
บทที่ 33 33. ข้าอยากรอด
23/12/2024
บทที่ 34 34. คิดจะทำอะไรกันแน่
23/12/2024
บทที่ 35 35. นางนั่นแหละที่เย็นชา
23/12/2024
บทที่ 36 36. มันควรเป็นของเจ้า
23/12/2024
บทที่ 37 37. มาลา
23/12/2024
บทที่ 38 38้่. ส่งซูหนี่
23/12/2024
บทที่ 39 39. เกิดอะไรกับห่าวอู๋
23/12/2024
บทที่ 40 40. คำตอบของอี้เฉิน
23/12/2024
หนังสืออื่นๆ ของ จันดาลี
ข้อมูลเพิ่มเติม