Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
แค่คนที่คุณไม่มีวันจะรัก

แค่คนที่คุณไม่มีวันจะรัก

จันดาลี

5.0
ความคิดเห็น
160
ชม
14
บท

เขาฟังอะคูสติกแต่เธอชอบหมอลำ เขาซื้อของไม่สนป้ายราคา เธอก็ซื้อของไม่สนป้ายราคาแต่เป็นร้านทุกอย่างยี่สิบ เขาหล่อสะอาดมาดเนี๊ยบเหมือนอาบน้ำทุกห้านาที เธอก็เป็นคนสวยแต่แปลก ******************* "คุณต่อรักงาน คุณต่อรักเพื่อน" "ใช่ครับ" "คุณต่อรักสัตว์ คุณต่อรักธรรมชาติ" "ใช่ครับ" "คุณต่อรักทุกสิ่งทุกอย่าง...แล้วก็รักข้าวด้วย" "...ไม่อ่าครับ"

บทที่ 1 ตอนที่ 1 ทองพระขุน

ตอนที่ 1

"ต่อให้เราปฏิเสธคนรวยแล้วเลือกผู้ชายธรรมดาก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะดี คนดีมันก็มีทั้งคนรวยและคนจนนั่นแหละ"

ขวัญข้าวพูดด้วยน้ำเสียงแน่วแน่ หลังจากที่เลิกรากับแฟนหนุ่มมุมมองความรักก็เปลี่ยนไป บางทียังนึกสงสัยว่าตัวเองคงไม่ใช่ลูกรักพระแม่ก็เลยไม่เคยสมหวังในความรัก แล้วก็ไม่รู้อีกว่าทำไมถึงไม่ค่อยมีคนมาจีบทั้งที่เป็นคนหน้าตาสะสวย ผิดกับกัลยาที่หน้าตาจัดว่าอยู่ในระดับปานกลางแต่มีหนุ่มๆ เทียวมาขายขนมจีบไม่ขาด

กฤษติคือผู้ชายคนล่าสุดที่คบหาดูใจกับขวัญข้าวได้เพียงเดือนกว่าๆ ยังไม่ทันไรทุกอย่างก็จบเห่พังไม่เป็นท่า เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนขวัญข้าวตั้งใจเอาเค้กวันเกิดไปเซอร์ไพรส์แฟนหนุ่ม แต่บังเอิญได้เห็นภาพบาดตาบาดใจจนแทบกระอัก

ในขณะที่นั่งถือกล่องเค้กขนาดสองปอนด์รออยู่ที่ล็อบบี เธอเห็นกฤษติพาผู้หญิงหุ่นทรงเซ็กซี่ขึ้นคอนโด ขวัญข้าวที่ได้เห็นแบบนั้นรู้สึกเจ็บใจจนขอบตาร้อนผ่าวจึงโทรหาเพื่อนสนิทอย่างกัลยา พอกำลังเสริมมาถึงก็บุกเข้าไปวีนฉ่ำแบบไม่ให้ต้องรอให้พ่อใครมาตัดริบบิ้น

เค้กขนาดสองปอนด์ถูกโปะลงที่หน้าผู้ชายเฮงซวยอย่างจัง ส่วนแม่สาวที่พาขึ้นห้องก็หอบผ้าวิ่งหนีไม่คิดชีวิต กฤษติโมโหโวยวายยกใหญ่ ชี้หน้าด่าทอขวัญข้าวอย่างเกรี้ยวกราดเหมือนงดน้ำตาลมาแล้วสองวัน

"ก็คุณไม่ยอมมีอะไรกับผม ผมก็ต้องหาคนอื่นมาทำแทนสิ รู้ตัวมั้ยว่าตัวเองเป็นผู้หญิงที่สวยแค่หน้าแต่สมองทึบไม่มีอะไรน่าค้นหา! ชอบทำตัวสูงส่งทั้งที่ไม่มีห-่าอะไรเลย วันๆ ก็เอาแต่นอนดูซีรีส์จีนไร้สาระ ผมทนไม่ไหวแล้วนะ ผมจะเลิกกับคุณ! ต่อจากนี้ไปห้ามมาเกะกะระรานผมอีก ถ้าเข้าใกล้ผมเกินห้าเมตรผมจะแจ้งตำรวจจับ ฟังสิ่งที่ผมพูดแล้วจำใส่สมองทึบๆ ของคุณเอาไว้ซะ! เราเลิกกันโว้ย! เลิกกับผมไปแล้วน้ำหน้าอย่างคุณไม่มีทางเจอผู้ชายที่ดีกว่าผมหรอก"

หืม...ไอ้หน้าปลาคัง!

จะด่าอะไรก็ด่าเหอะ แต่ห้ามมาด่าว่าซีรีส์จีนไร้สาระ!

ยิ่งคิดขวัญข้าวก็ยิ่งโมโหจนเลือดขึ้นหน้า ถ้าย้อนเวลากลับไปได้เธอคงไม่สตันจนเดินคอตกออกมาง่ายๆ น่าจะด่าสวนไปสักสิบฉาดหรือวีนต่อให้วายวอดกันไปข้าง ทว่าตอนนั้นกลับนึกคำด่าไม่ออกเลยสักคำ

เออ! ยอมรับว่าสมองทึบก็ได้วะ

กฤษติพูดแทงใจดำได้ถูกทุกจุด สวยแค่หน้าแต่ไม่มีอะไรน่าค้นหา คำนี้ยังคงดังกึกก้องอยู่ในหู คิดแล้วขวัญข้าวก็เกลียดขี้หน้ามันจริงๆ บังอาจมาด่าคนอื่นอย่างกับว่าตัวเองวิเศษวิโส ผู้ชายธรรมดาต๊อกต๋อยแบบนั้นคนสวยลดตัวลงไปคบด้วยก็บุญหัวมากแล้ว

และนี่...ก็คือคำปลอบใจตัวเองที่ขวัญข้าวพอจะคิดออก นาน ๆ จะมีผู้ชายหลงมาสักคนแต่ก็เลวบรรลัย แล้วอย่างนี้จะไม่ให้เธอโอดครวญได้อย่างไร

"เอาจริงเหรอข้าว"

กัลยาลูบหลังเพื่อนรักเบาๆ เพื่อปลอบใจ

"เออสิ รักมันกินไม่ได้ แต่โอมากะเสะกินได้ ต่อไปนี้ฉันจะคิดใหม่ทำใหม่ ไม่ว่าผู้ชายจนหรือผู้ชายรวย โอกาสที่จะเจอคนเจ้าชู้ก็พอๆ กัน เพราะฉะนั้นถ้าฉันจะต้องถูกหักหลังอีกครั้ง ฉันก็ขอร้องไห้โดยที่มีเงินในบัญชีสักแปดหลัก"

คิดถึงสภาพตัวเองที่เดินร้องไห้ปาดน้ำตาอยู่ริมถนนแล้วฉุนกึก ที่ร้องไห้ไม่ใช่เพราะเสียใจที่ถูกบอกเลิก แต่เสียใจที่ถูกมันด่าแล้วไม่ได้ด่ากลับ แม่เจ้าโว้ย! ไม่เคยมีผู้ชายหน้าไหนทำกับนังข้าวแบบนี้มาก่อน

"จะว่าไปไอ้กฤษตินั่นก็เลวจริงๆ ถือซะว่าเป็นโชคดีของแกที่ไม่ถลำลึกไปมากกว่านี้ หมดเวรหมดกรรมกันไปนะ"

"ฉันไม่ได้เสียดายนะ แต่ฉันแค้น ไอ้ผู้ชายเส็งเคร็งนั่นมันว่าฉันไม่มีปัญญาหาผู้ชายได้ดีเท่ามันอีกแล้ว คอยดูเถอะ ฉันจะทำให้มันเห็นว่าฉันหาได้ดีกว่ามันเป็นร้อยเท่าพันเท่า เอาให้หล่อกว่า รวยกว่า นิสัยดีกว่า"

"ถามจริง ไปเจอกับมันได้ไง"

"แอปหาคู่ ก็แหม รูปที่มันลงไว้หล่อลากมาก พอไปเจอตัวจริงไม่ตรงปกฉันก็ไม่ว่าอะไรมันสักคำ มันขอฉันเป็นแฟนฉันก็ยอมคบกับมันเพราะไม่ได้เป็นคนตัดสินใครที่หน้าตา คิดไม่ถึงว่าคุยกันแค่เดือนกว่ามันก็หวังจะหลอกเคลมซะแล้ว"

"ฉันเคยดูซีรีส์ที่นางเอกผิดหวังจากคนหล่อแล้วหันมาชอบคนขี้เหร่ แต่นี่แกผิดหวังจากคนขี้เหร่แล้วตั้งเป้าหมายใหม่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม แต่ก็เอาเหอะ หน้าอย่างไอ้กฤษติแค่เดินออกไปข้างนอกคว้าเอาใครมาก็ได้หล่อกว่าแล้วมั้ย"

กัลยาทำหน้าแหยง ไม่อยากจะบูลลี่หน้าตาใครหรอก แต่ถ้าหน้าแย่แล้วนิสัยแย่ด้วยก็ไม่ไหว ตอนที่ขวัญข้าวเอารูปกฤษติให้ดูกับตอนเจอตัวจริงมันก็ไม่ตรงปกเหมือนที่บอก แต่ถึงอย่างนั้นเพื่อนของเธอก็ยังแก้ตัวแทนอีกว่าคบคนไม่หล่อแถมจนนี่แหละไม่ค่อยเจ้าชู้ แล้วเป็นไงล่ะ ทีนี้รู้หรือยังว่านิสัยไม่ได้ขึ้นอยู่กับเบ้าหน้าแต่ขึ้นอยู่ที่ตัวบุคคลล้วนๆ

"เตย ต่อไปนี้ฉันจะตั้งมาตรฐานให้ตัวเองสูงกว่านี้ ฉันคือผู้หญิงที่สมควรได้รับสิ่งดีๆ"

"คิดแบบนั้นก็ดีแล้ว ผู้หญิงอย่างเราคู่ควรสำหรับสิ่งที่ดี แกเป็นคนสวยนะเว้ยข้าว"

"แกพูดได้ดีเตย"

นี่สิถึงเรียกว่าเพื่อนรัก พอได้ยินคำชมขวัญข้าวยิ้มแป้นจนตัวแทบลอย พยักหน้าหงึกๆ เห็นด้วยที่กัลยาพูด หยิบมือถือขึ้นมาดู ตอนนี้ย่างเข้าบ่ายสองโมงแล้ว แต่ยังไม่ทันได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลยสักอย่างเพราะมัวแต่เอาเวลาไปหยุมหัวไอ้กฤษตินั่นแหละ

"ต้องไปแล้วล่ะ จะหอบงานไปนั่งทำที่ร้านกาแฟ เบื่อเซ็ง อยากหากาแฟแพง อัปลงสตอรี่"

ว่าแล้วก็ลุกขึ้นยืนคว้าเอากระเป๋าคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กสะพายไหล่ อาชีพนักเขียนที่ขวัญข้าวทำอยู่ไปได้ไม่ค่อยสวยเท่าใดนัก นามปากกาของเธอแทบไม่ค่อยมีใครรู้จัก นิยายที่เขียนก็ไม่เคยประสบผลสำเร็จ ผู้ติดตามน้อยนิดเท่าหยิบมือ รายได้ที่ใช้อยู่ใช้กินก็แค่หลักหมื่นต้น ๆ ต่อเดือน ไหนจะค่าห้อง ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าส่งเสียเลี้ยงดูทางบ้านอีก แต่ที่ยังทำอยู่อย่างนั้นเพราะหวังว่าสักวันโชคคงเข้าข้าง เผื่อจะฟลุ๊กแล้วปังปุริเย่เหมือนนักเขียนคนอื่น...แต่ก็ไม่รู้ว่าวันไหน คิดแล้วมันโศกมันเศร้าอยากร้องไห้สักสิบกว่ารอบ แต่บังเอิญเป็นคนติดเล่นก็เลยเศร้าได้ไม่นาน...

ในขณะที่กำลังเดินเตร่ตามฟุตบาทอยู่นั้น ดวงตากลมโตสะดุดเข้ากับศาลพระภูมิข้างทางที่ตั้งอยู่ใต้ต้นไทรใหญ่ กิ่งก้านของต้นไทรแตกสาขาให้ร่มเงาไปทั่วบริเวณจนดูมืดอึมครึม อาจเป็นเพราะว่าเพิ่งผ่านอารมณ์หุนหันพลันแล่นมาหมาด ๆ ขวัญข้าวจึงไม่นึกหวาดกลัว ด้วยความคึกคะนองหรืออะไรไม่ทราบ เธอหยุดมองพร้อมกับพนมมือขึ้นเหนือศีรษะทำปากขมุมขมิบ

"สาธุ ถ้าลูกช้างจะไม่ประสบผลสำเร็จเรื่องการงานก็ขอให้ลูกช้างได้ผัวหล่อๆ รวยๆ ทีเถอะ แต่ถ้าลูกช้างอาภัพถึงขั้นจะไม่มีผัวไปตลอดชีวิต ก็ขอจงดลบันดาลให้ลูกช้างถูกลอตเตอรี่รางวัลที่หนึ่งด้วยเถิดเจ้าค่ะ เป็นคนเก่งมันเหนื่อยขอเป็นคนรวยดีกว่า เพี้ยง! เพี้ยง! เพี้ยง!"

หลังจากฝากตัวเป็นภาระสิ่งศักดิ์สิทธิ์ขวัญข้าวก็โบกมือเรียกรถ ตั้งใจว่าจะไปนั่งดื่มกาแฟที่คาเฟเชื้อสายอเมริกันสักหน่อย ฉลองให้กับตัวเองที่หลุดพ้นจากผู้ชายเฮงซวยคนนั้น ปกติขวัญข้าวมักจะซื้อกาแฟโบราณจากรถเข็นหน้าปากซอยเป็นประจำ แต่ก็มีนาน ๆ ครั้งที่ดื่มกาแฟแก้วละสองสามร้อย หากถามว่าตังค์ไม่ค่อยมีแต่ทำไมถึงซื้อเครื่องดื่มแพง บอกได้เลยว่าซื้อเพื่อเอาแก้ว! แก้วเดิมแต่ซื้อกาแฟโบราณมาเติมเอาเก๋ ๆ นี่เป็นเคล็ดลับความลักชัวรี่ที่ขวัญข้าวใช้เป็นประจำ หญิงสาวยืนโบกรถอยู่แปบเดียวก็มีแท็กซี่คันหนึ่งมาจอดเทียบ ระหว่างทางที่นั่งมาในรถก็ซักซ้อมท่องชื่อเมนูไปตลอดทาง นั่นก็เพราะภาษาอังกฤษของเธอไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไรนัก

"โอ๊ตมิ้ว ไม่ใช่สิ ออกเสียงยังไงวะ เอาใหม่ๆ โอ๊ตมิลก์คึ ไอซ์ เชคเก้น เอสเพรสโซ อ่อม...อ่อม...แกรนเด"

ลุงขับแท็กซี่ได้ยินก็เหล่ตามองผ่านกระจกหลัง เห็นลูกค้าสาวบ่นปากขมุมขมิบมาตั้งแต่ออกรถจึงเข้าใจไปว่าที่ขวัญข้าวมีอาการแบบนี้เป็นเพราะเธอกำลังร่ายบริกรรมคาถาอะไรสักอย่าง

"นังหนู เอ็งร่ายคาถาอะไรงึมๆ งำๆ ลุงเห็นเอ็งยกมือไหว้ศาลตรงนั้น อย่าบอกนะว่าเอ็งเล่น"

"ห้ะ เล่นอะไรลุง"

"ไม่ต้องอาย ลุงเห็นเอ็งยกมือท่วมหัวหน้าศาลเจ้าพ่อหมีดำก็รู้แล้ว ลุงมีของขลังฟังก์ชันพิเศษรุ่นลิมิเต็ดอิดิชัน รอแป๊ป"

ว่าแล้วลุงก็ตีไฟเลี้ยวเข้าข้างทาง จอดรถเพื่อก้มหาอะไรบางอย่างในเก๊ะ พอหาเจอแล้วก็ยื่นมาให้ขวัญข้าว

"อะไรเนี่ยลุง"

"เอ้า ก็บอกแล้วไงว่าเนี่ยของขลังฟังก์ชันพิเศษรุ่นลิมิเต็ดอิดิชัน รับไปเถอะมีไว้แล้วชีวิตจะดี ใครที่นับถือเจ้าพ่อหมีดำกำลังตามหากันให้ควั่ก"

"ท่อนไม้เนี่ยนะ"

"อุบ๊ะ อันนี้เขาเรียกว่าปลัดขิกรุ่นเมตตามหานิยม ถ้าอยากเรียกแบบคุณหนูติดแกลมก็เรียกว่าทองพระขุน"

น่าน...รู้จักติดแกลมไปอี๊กกก

"ทองพระขุน?" เธอทวนคำน้ำเสียงลังเล "โอ้ย ไม่เอาหรอกน่ากลัวจะตายไปลุง ใหญ่ขนาดนี้พกพาก็ลำบาก ท่อนเท่าแขนเวลาไปไหนมาไหนไม่ต้องแบกพาดบ่าไปเลยเหรอ"

ขวัญข้าวหลุบตามองท่อนไม้ดำเมี่ยมในมือลุงขับแท็กซี่แล้วทำหน้าเหวอ เธอคิดว่าคุณลุงจะหยุดเซ้าซี้แล้วเก็บปลัดขิกกลับไป ทว่าปลัดขิกแท่งเท่าลิปสติกก็ถูกยื่นมาตรงหน้าแทน ขวัญข้าวสะดุ้งโหยงกระเถิบถอยจนหลังชิดพนักพิงเบาะ

"เอ้านี่! รุ่นเล็กพกพาสะดวกลุงก็มี!"

"ยังจะมีอีกเรอะ"

"ปลุกเสกมาเพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคโดยเฉพาะ ฟังก์ชันครบครันไม่แพ้รุ่นใหญ่ คิดแล้วเชียวว่าสาวๆ ต้องชอบไซซ์นี้ เอ้า! เอาไปนังหนู"

ตกลงนี่หนูต้องรับไว้จริง ๆ ใช่มั้ย

"เอาไปซี่ รุ่นนี้ก็เมตตามหานิยมสมหวังทุกประการ ช่วยเรื่องค้าขายด้วยนะ"

"เดี๋ยว ๆ เดี๋ยวนะ หนูไม่ได้ค้าขายอะไร...เอ่อ ก็ขายแหละขายนิยาย"

"ลุงหมายถึงขายตัวเอง"

คิ้วเรียวย่นเข้าหากันด้วยความสงสัย ก่อนที่ขวัญข้าวจะได้อ้าปากถามลุงก็พูดขึ้นก่อน

"ลุงไม่ได้ให้เอ็งเอาไปค้าขายแบบนั้น ลุงให้พกไว้ขายตัวเองเอ็งจะได้ขายออกสักที ดูแล้วทรงนี้ยังไม่มีผัวแน่ ๆ"

เอ้า อีตาลุง! ปากเหรอนั่น เปลี่ยนใจไม่เอาแล้วได้มั้ยวะ แต่ถึงจะไม่อยากได้แค่ไหนปลัดขิกไซซ์มินิก็ถูกยัดใส่มือมาแล้ว ขวัญข้าวเกาหัวแกร็ก ๆ ยังไม่ทันหายงุนงงฝ่ามือหยาบก็หงายมารอตรงหน้า

"ลุงบูชามา 399 คนกันเองลุงคิดกับเอ็ง 499 พอ"

"โหย แก๊งตกทรัพย์รึเปล่าเนี่ยลุง บอกคนกันเองแต่เอากำไรตั้งร้อยนึง"

"ตกทรงตกทรัพย์อะไร พูดงี้ไม่ได้นา เจอกันครั้งหน้าถ้าเอ็งยังไม่มีผัวลุงยินดีคืนเงินครบจำนวน"

"แน่นะลุง"

เธอย้ำถามอย่างไม่ค่อยเชื่อถือ ฝ่ายลุงแท็กซี่ก็พยักหน้ายืนยัน ขวัญข้าวจำใจต้องหยิบเงินแบงค์ห้าร้อยออกมาแล้วส่งให้ พอลุงรับไปแล้วก็ยิ้มแป้นรีบเก็บใส่กระเป๋า เธอที่เห็นแบบนั้นก็กระแอมเตือนดัง ๆ

"ฮะแฮ่ม! ลืมอะไรไปรึเปล่าลุง อย่านิ่ง ๆ รีบทอนมาเลยบาทนึงอะ"

"ขี้เหนียวนะเรา"

"บาทเดียวก็เงิน"

ลุงแท็กซี่รื้อหาเงินบาทในเก๊ะมายัดใส่มือให้ ก่อนจะออกรถมุ่งไปยังร้านกาแฟที่ขวัญข้าวบอก เมื่อรถจอดสนิทแล้วเธอก็เดินเข้าไปในร้าน กลิ่นแรกที่ลอยเข้าจมูกคือกลิ่นของกาแฟคั่วบดหอมกรุ่น บรรยากาศในร้านสะอาดสะอ้าน วันนี้ไม่ค่อยมีลูกค้านั่งในร้านเยอะเท่าทุกวัน

"อ้า กลิ่นดีแอร์เย็นฉ่ำ"

ดวงหน้างามยิ้มปริ่มประหนึ่งกำลังเดินทอดน่องอยู่ในสวนลาเวนเดอร์ ขวัญข้าวมาต่อคิวที่เคาน์เตอร์แคชเชียร์ ข้างหน้าเธอมีลูกค้าชายกำลังยืนสั่งกาแฟอยู่ ความสูงของเขาบดบังร่างเธอจนมิด

"บัตรใช้ไม่ได้เหรอครับ เอ...ปกติไม่เคยเป็นแบบนี้เลยนะ"

"ไม่ทราบว่าคุณลูกค้าสะดวกจ่ายเป็นเงินสดมั้ยคะ"

สาว Barista เอ่ยขึ้นพร้อมกับยื่นการ์ดส่งคืนให้ชายหนุ่มอย่างสุภาพ

"ผมไม่มีเงินสดติดตัวเลยครับ"

พอได้ยินแบบนั้นขวัญข้าวก็จ้องมองแผ่นหลังกว้างด้วยดวงตาที่เบิกโตกว่าเดิม พร้อมกับคิดในใจว่าเขาต้องเป็นคนชนิดเดียวกับเธอแน่ ๆ อาจจะติดหรูแต่รายได้น้อย และโชคร้ายที่บัตรของเขาใช้เกินวงเงินไปเรียบร้อยแล้ว โธ่...น่าสงสารจริง ๆ เธอคิดเองเออเองเป็นตุเป็นตะแล้วพยักหน้าหงึก ๆ เหมือนเข้าอกเข้าใจ

"ลองดูให้อีกทีได้มั้ยครับ ถ้าไม่ได้จริง ๆ ผมจะขอยกเลิกรายการ"

โอ้ย! ถ้าไม่เอาแล้วก็ออกไปสักทีเถอะ

"เอ่อ คุณคะ" ขวัญข้าวพูดขึ้นพลางใช้นิ้วชี้สะกิดไหล่กว้างจากทางด้านหลัง ชายหนุ่มจึงหันกลับมามองเธอ เสี้ยววินาทีแรกที่เห็นหน้าเขาเต็มตา เธอถึงกับประหม่าและเสียอาการหนักมาก

โอ้โห...หรือนี่จะเป็นจังหวะตกหลุมรักในซิทคอม! เขาคือคนตัวเป็น ๆ หรือว่าพระเอกที่หลุดมาจากนิยายน้ำเน่าของจันดาลี!

"คุณ..."

แต่...เมื่อกี้นี้ตั้งใจจะพูดว่าอะไรหว่า ขวัญข้าวยืนงงเหมือนโดนมนต์สะกด ริมฝีปากจิ้มลิ้มเผยรอยยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว ดวงตาที่เคยขุ่นเคืองแปรเปลี่ยนเป็นหวานฉ่ำเหมือนคนกำลังละเมอเพ้อพก ถ้าไม่ติดว่าได้กลิ่นกาแฟตลบอบอวลเต็มสองรูจมูกคงคิดว่าตัวเองฝันกลางวัน

"มีอะไรเหรอ"

"คุณหล่อมากเลยค่ะ เอ้ย!" แล้วไปพูดแบบนั้นได้ยังไงเนี่ย! ขวัญข้าวเลิ่กลั่กรีบแก้ต่างเสียใหม่ "เอ่อ...เดี๋ยวฉันจ่ายให้เองค่ะ"

จากที่ตั้งใจจะบอกให้เขารีบหลีกทาง ทำไมถึงเสนอตัวจ่ายค่ากาแฟให้เขาอีกล่ะนั่น แต่ก็เอาเถอะ เปย์หมาเปย์แมวจรจัดมาเยอะแล้ว วันนี้ขอเปย์คนหล่อสักร้อยสองร้อยจะเป็นไรไป

"จ่ายให้ผม? จะดีเหรอ"

"ไม่เป็นไรค่ะ ฉันเข้าใจคุณนะคะ"

บางทีคนเราก็ต้องมีวันที่อยากกินหรูบ้างแหละ แต่เงินในกระเป๋าไม่อำนวยให้ทำไงได้ เห็นไหมล่ะว่าโลกมักจะใจดีกับคนหน้าตาดี ไม่ใช่สิ! ยัยข้าวมักจะใจดีกับผู้ชายหน้าตาดีต่างหาก ถ้าจัดอันดับหนึ่งถึงสิบความบ้าผู้ชายของเธออยู่ระดับไหน บอกได้อย่างเต็มปากเลยว่าเต็มสิบไม่หักสักคะแนน เธอสบตาเขาแล้วกะพริบตาปริบ ๆ จากนั้นหยิบกระเป๋าสตางค์ออกมา เมื่อเปิดกระเป๋าดูแล้วใบหน้างามก็แห้งเหี่ยวลงทันที

โธ่เอ้ย! เงินในกระเป๋าเหลืออยู่สองร้อยกว่าบาท ลืมไปสนิทว่าเมื่อกี้เอาเงินที่มีอยู่บูชาปลัดขิกมาจากลุงแท็กซี่ แต่ก็อย่ากระนั้นเลย คนอย่างยัยข้าวฉิบหายไม่ว่าแต่จะเสียหน้าไม่ได้

"ของคุณผู้ชาย 195 บาทค่ะ"

"นี่ค่ะ"

แบงก์สีแดงสองใบถูกยื่นให้ Barista จากนั้นหันกลับมาทางเขาพร้อมโปรยยิ้มหวาน พอฝ่ายนั้นยิ้มตอบมาขวัญข้าวอายม้วน อาการมันเหมือนผีเสื้อหมื่นตัวบินอยู่ในท้อง ชุ่มฉ่ำหัวใจเหมือนได้อาบน้ำฝนเดือนเมษา ราวกับว่าได้เจอโอเอซิสในทะเลทรายร้อนระอุ คล้ายได้กินก๋วยเตี๋ยวหลังจากที่โซ้ยมาม่ามาแล้วสองอาทิตย์เต็ม ผู้ชายคนนี้งานดีตรงไทป์ยัยข้าวทุกอย่าง ต่อให้เงินในบัญชีเหลืออยู่สี่บาทหล่อนก็จะทำงานหาเงินมาเลี้ยงดูเขา จะมีสักวิธีไหมที่สามารถทำความรู้จักเขาให้ได้มากขึ้น ไม่สนแล้วว่าเขาจะรวยหรือจน

"คุณมาที่นี่บ่อยเหรอครับ"

"บ่อยมากเลยค่ะ" อันที่จริงมาเฉพาะตอนที่แก้วเก่าเริ่มชำรุด แต่ใครมันจะกล้าตอบแบบนั้นฟะ!

"ผมก็มาที่นี่ประจำ อาจเพราะว่าไม่ค่อยได้มองใครก็เลยจำคุณไม่ได้ เอาไว้คราวหน้าถ้าเจอกันอีกผมขอเป็นฝ่ายเลี้ยงคืนบ้างนะครับ"

"ค่ะ เอาไว้วันหน้าค่อยเลี้ยงฉันคืนก็ได้"

จะได้เจอกันอีกไหมไม่รู้ แต่ที่รู้ ๆ ดันไปตกปากรับคำเขาเรียบร้อยแล้ว สาบานได้เลยว่าต่อจากนี้เป็นต้นไปจะแวะเวียนมาที่นี่ให้บ่อยขึ้น และถึงแม้ว่าทุกครั้งที่มาเยือนมันจะเบียดเบียนเงินในกระเป๋าก็เถอะ เพื่อผู้ชายข้าวทำได้

"แล้วคุณไม่สั่งเหรอครับ"

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ จันดาลี

ข้อมูลเพิ่มเติม
เจ้าสาวประมุขหุบเขามืด

เจ้าสาวประมุขหุบเขามืด

เมืองแฟนตาซี

5.0

คุณหนูใบ้ที่ถูกข่มเหงรังแกหลังจากฟื้นขึ้นมากลับกลายเป็นสาวนักธุรกิจที่ทะลุมิติมาเข้าร่าง ในเมื่อชีวิตเก่าเจ้าของร่างอาภัพนักชีวิตใหม่นี้ฉู่เสวียนหนี่ขอสาบานว่าจะทำให้ดีเอง! *********** ผลจากการโหมงานหนักทำให้ฉู่เสวียนหนี่สิ้นใจตายคาโต๊ะทำงาน เดิมที่คิดว่าความตายคือจุดจบ...แท้จริงแล้วมันคือจุดเริ่มต้น เพราะวิญาณของเธอได้ทะลุมิติเข้ามายังยุคโบราณล้าหลัง เหมือนชะตากลั่นแกล้งไม่ผิดเพี้ยน ฉู่เสวียนหนี่ดันเข้ามาอาศัยอยู่ในร่างของคุณหนูสามที่ชีวิตสุดแสนบัดซบ ได้รับผลข้างเคียงจากพิษแมงมุม คู่หมั้นที่เคยถูกหมายตาไว้ยื่นหนังสือถอนหมั้น หนำซ้ำยังถูกอุบายลวงญาติริษยาต้องออกจากจวนไปอาศัยกับแม่ชีที่อาราม

สองพี่น้องหลังเขาวั้งซานกู่

สองพี่น้องหลังเขาวั้งซานกู่

เมืองแฟนตาซี

5.0

การย้อนเวลาครั้งนี้ นอกจากจะทำให้เขาได้มีโอกาสแก้ไขหลายเรื่องราวที่เคยผิดพลาดยังทำให้เขาได้มีโอกาสพบเจอคนสำคัญในชีวิตอีกครั้ง แล้วเช่นนี้จะไม่ให้เขาขอบคุณสวรรค์ได้หรือ ************ ลู่ฉางกังคือทายาทตระกูลลู่ผู้มั่งคั่ง ทว่าเขาเป็นคนเย่อหยิ่งอวดดีและยึดถือตนเองเป็นศูนย์กลาง จนหลงลืมสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตของตนเองไป อยู่มาวันหนึ่งเขาบังเอิญได้พบกล่องไม้โบราณซึ่งเป็นสมบัติประจำตระกูล เมื่อเปิดออกมันได้พาเขาย้อนเวลาไปยังมิติยุคโบราณ กลายเป็นเพียงเด็กชายวัยสิบขวบเท่านั้น ณ ในมิติคู่ขนานเขาพบกับคนสำคัญที่ชาตินี้เขาก็ไม่นึกไม่ฝันว่าจะได้พบอีกครั้ง การย้อนเวลาครั้งนี้ นอกจากจะทำให้เขาได้มีโอกาสแก้ไขหลายเรื่องราวที่เคยผิดพลาดแล้วยังช่วยเติมเต็มความหมายของคำคว่าครอบครัวให้แก่ใจเขาอีกด้วย ซึ่งแน่นอนว่าลู่ฉางกังจะทำทุกอย่างให้ดีกว่าที่ผ่านมา *****ทำความเข้าใจนิดนึงนะคะ คาแรกเตอร์ตัวเอกของเรื่องไรท์เขียนไม่ได้ออกแบบให้แสนดียาดฟ้ามาดินเหมือนพระเอกผ้าขาวทั่วไป มีอิจฉา รัก โลภ โกรธ หลง แทบจะเป็นตัวร้ายที่ทะลุมิติไปเล่นตลกเลยก็ว่าได้ แรก ๆ นิสัยน้องจะน่าหยุมหัวหน่อย ๆ แต่จะมีเหตุการณ์เข้ามาทำให้คุณชายอ่อนหัดเริ่มเปลี่ยนไปทีละนิด ๆ *****ไม่มีฉากอีโรติก *****แนวใช้ชีวิต แนวเอาตัวรอด แนวนำพาครอบครัวสู่ความเจริญ นิยายเรื่องที่เขียนจบไปแล้ว 1.จากสาวน้อยบ้านนาสู่ภรรยาท่านแม่ทัพ 2.เจ้าสาวประมุขหุบเขามืด คำเตือน 1. กรุณาแสดงความคิดเห็นอย่างสุภาพให้เกียรตินักเขียนและนักอ่านท่านอื่น งดแสดงความคิดเห็นด้วยถ้อยคำหยาบคายไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาในนิยายหรือมุ่งประเด็นด่าทอนักเขียนเพื่อระบายอารมณ์ 2. นิยายเรื่องนี้เกิดขึ้นจากจินตนาการของนักเขียน บุคคลและสถานที่ที่เกิดขึ้นไม่มีอยู่จริงในโลก เนื้อหาในนิยายมีทั้งสมเหตุผลและไม่สมเหตุสมผล บางตอนอาจมีฉากที่รุนแรง (ต่อสู้) โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน 3. ตัวละครในนิยายมีทั้งดีและเลวแตกต่างกันไป โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน หน่วยเงินตรา 1000 อีแปะ 1 ตำลึงเงิน หน่วยวัดตวงน้ำหนัก 1 ชั่ง 500 กรัม หน่วยเวลา 1 จีบน้ำชา ระยะเวลาที่สั้นมาก ๆ 1 เค่อ 15 นาที 1 ก้านธูป 30 นาที 1 ชั่วยาม 2 ชั่วโมง 12 ชั่วยาม 24 ชั่วโมง ยามจื่อ 23.00-24.59 ยามโฉ่ว 01.00-02.59 ยามอิ๋น 03.00-04.59 ยามเหม่า 05.00-06.59 ยามเฉิน 07.00-08.59 ยามซื่อ 09.00-10.59 ยามอู่ 11.00-12.59 ยามเว่ย 13.00-14.59 ยามเชิน 15.00.16.59 ยาวโหย่ว 17.00-18.59 ยามชวี 19.00-20.59 ยามห้าย 21.00-22.59

จากสาวน้อยบ้านนาสู่ภรรยาท่านแม่ทัพ

จากสาวน้อยบ้านนาสู่ภรรยาท่านแม่ทัพ

เมืองแฟนตาซี

5.0

หลินเจียอีหญิงสาวในศตวรรษที่21ตกตายด้วยโรคระบาด วิญญาณของเธอได้ทะลุมิติมาอยู่ในร่างของเด็กสาวอายุ14 ที่มีชื่อเดียวกับเธอซึ่งสิ้นใจตายระหว่างเดินทางกลับบ้านเดิมของมารด ********* หลินเจียอีลืมตาตื่นขึ้นมาในสภาพบ้านที่ไม่คุ้นชิน เธอจำได้ว่าก่อนหน้านี้ได้เข้ารักษาตัวจากอาการติดเชื้อโรคระบาดที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง เหตุใดถึงมาโผล่ในบ้านทรงโบราณ รอบกายเธอเต็มไปด้วยผู้คนแต่งตัวล้าสมัย ต่อมาเธอค้นพบว่าตนเองได้ทะลุมิติเข้ามาอยู่ในร่างของเด็กสาวอายุ 14 ซึ่งมีชื่อเดียวกันกับเธอ แต่ชะตากรรมของเด็กสาวผู้นี้ช่างน่าสงสารนัก บิดาเพิ่งลาโลก แม่โดนฮุบสมบัติแล้วถูกขับไล่ออกจากตระกูล ต้องระหกระเหินพาเจ้าของร่างที่ถูกทุบตีจนสิ้นใจระหว่างทางกลับมาบ้านเดิมที่แสนยากจนข้นแค้น ****ไม่มีฉากอีโรติก เริ่มล็อกเหรียญตอนที่ 25 ก่อนเข้าไปอ่านเนื้อหานิยายอ่านคำเตือนก่อนนะคะ (สำคัญมาก) 1. กรุณาแสดงความคิดเห็นอย่างสุภาพให้เกียรตินักเขียนและนักอ่านท่านอื่น หากแสดงความคิดเห็นด้วยถ้อยคำหยาบคายไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาในนิยายหรือมุ่งประเด็นด่าทอนักเขียนเพื่อระบายอารมณ์ ความคิดเห็นจะถูกลบออก!! 2. นิยายเรื่องนี้เกิดขึ้นจากจินตนาการของนักเขียน บุคคลและสถานที่ที่เกิดขึ้นไม่มีอยู่จริงในโลก เนื้อหาในนิยายมีทั้งสมเหตุผลและไม่สมเหตุสมผล บางตอนอาจมีฉากที่รุนแรง (ต่อสู้) โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน 3. ตัวละครในนิยายมีทั้งดีและเลวแต่กต่างกันไป โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน ห้ามคัดลอกดัดแปลงแก้ไขนิยายเรื่องนี้ทุกกรณี หน่วยเงินตรา 1000 อีแปะ 1 ตำลึงเงิน หน่วยวัดตวงน้ำหนัก 1 ชั่ง 500 กรัม หน่วยเวลา 1 จิบน้ำชา ระยะเวลาที่สั้นมาก ๆ 1 เค่อ 15 นาที 1 ก้านธูป 30 นาที 1 ชั่วยาม 2 ชั่วโมง 12 ชั่วยาม 24 ชั่วโมง ยามจื่อ 23.00-24.59 ยามโฉ่ว 01.00-02.59 ยามอิ๋น 03.00-04.59 ยามเหม่า 05.00-06.59 ยามเฉิน 07.00-08.59 ยามซื่อ 09.00-10.59 ยามอู่ 11.00-12.59 ยามเว่ย 13.00-14.59 ยามเชิน 15.00.16.59 ยาวโหย่ว 17.00-18.59 ยามชวี 19.00-20.59 ยามห้าย 21.00-22.59

เส้นทางของแฟนเก่า

เส้นทางของแฟนเก่า

โรแมนติก

5.0

สามปีที่แล้วเธอหนีเขาไปและทิ้งข้อความสุดแสนเจ็บปวดไว้ให้ สามปีต่อมาทั้งคู่ได้เจอกันอีกครั้งในสถานะเจ้านายกับลูกน้อง **** "หนูรู้ว่าคุณนัยน์ต้องการอะไร แต่ถ้าผ่านคืนนี้ไปแล้วหนูจะอยู่ข้างคุณในฐานะใดคะ หากคุณนัยน์คิดจะเล่น ๆ ไม่จริงจัง หัวใจของหนูมันต้องเจ็บปวดมากแน่ ๆ " "..." มีเพียงความเงียบแทนคำตอบ แต่สำหรับลลินามันคือคำตอบที่ดังที่สุด นัยน์ไม่ได้จริงจังแค่อยากเลี้ยงเธอไว้ดูเล่นแก้เหงา เป็นแค่ความสนุกและตื่นเต้นชั่วครั้งชั่วคราว ผู้หญิงสวยเขาก็เจอมามาก ทั้งฐานะหน้าตาเพรียบพร้อม แล้วเธอจะเอาอะไรไปสู้ผู้หญิงพวกนั้นได้ เขาจะมาจริงจังอะไรกับเด็กกะโปโลอย่างเธอ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

คุณสามีเป็นผู้พิการ

คุณสามีเป็นผู้พิการ

โรแมนติก

5.0

“คุณต้องการเจ้าสาว ส่วนฉันก็ต้องการเจ้าบ่าว ทำไมเราไม่แต่งงานกันล่ะ?” ภายใต้เสียงเยาะเย้ยของทุกคน ถังเลี่ยน ซึ่งถูกคู่หมั้นของเธอทอดทิ้งในพิธีแต่งงาน กลับแต่งงานกับเจ้าบ่าวพิการข้างบ้านที่ถูกรังเกียจ ถังเลี่ยนคิดว่าอวิ๋นเซินเป็นชายหนุ่มที่น่าสงสาร และเธอสาบานว่าจะให้ความรักใคร่แก่เขาและตามใจเขาหลังแต่งงาน ใครจะรู้ว่าเขาแกล้งเป็นแบบนั้น... ก่อนแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "เธอต้องสนใจเงินของผมถึงยอมแต่งงานกับผม ผมจะหย่ากับเธอหลังจากที่ผมใช้ประโยชน์เธอเสร็จ" หลังแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "ภรรยาของผมต้องการหย่าทุกวัน แต่ผมไม่อยากหย่า ทำอย่างไรดีล่ะ"

ท่านแม่ทัพข้าคือศรีภรรยา NC25+

ท่านแม่ทัพข้าคือศรีภรรยา NC25+

โรแมนติก

5.0

องค์หญิงสิบสามนามหลินฮุ่ยหมินสตรีผู้ที่งดงามโดดเด่นไม่เป็นรองผู้ใดแต่กลับมีฐานะต่ำต้อยในวังหลวงด้วยพระมารดาเสียชีวิตตั้งแต่นางยังเด็ก ท่ามกลางความคับแค้นใจนางยังต้องคำสาปร้ายต้องกลายร่างเป็นสัตว์ทุกคืนวันพระจันทร์เต็มดวง เขาคือ หยางเอ้อหลาง แม่ทัพหนุ่มผู้มีความสามารถรูปโฉมสง่างามและเป็นวีรบุรุษคนสุดท้ายของสกุลหยาง ทั้งยังเป็นที่รักเคารพของชาวเมือง ทว่าด้วยความสามารถและตำแหน่งใหญ่โต ฮ่องเต้มิอาจวางใจจึงได้คิดกำจัดเขาให้พ้นตำแหน่งเสีย โดยมอบสมรสพระราชทานให้หยางเอ้อหลางกับพระธิดาของตน เดิมทีชีวิตของคนสองคนย่อมไม่บรรจบ เมื่อสตรีที่หมายหมั้นกับหยางเอ้อหลางคือองค์หญิงใหญ่ที่ปักใจรักเขาตั้งแต่เยาว์วัย ทว่าเรื่องไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อคนทั้งคู่เกิดอุบัติเหตุจนคนเข้าพิธีสมรสกลายเป็นองค์หญิงสิบสาม ท่ามกลางความหวาดกลัวขององค์หญิงสิบสามที่กลัวความลับจะเปิดเผย ท่ามกลางหยางเอ้อหลางที่พยายามพาสกุลหยางให้รอดพ้น ท่ามกลางการแตกหักของความสัมพันธ์พี่น้องที่แสนรักใคร่ระหว่างองค์หญิงใหญ่และองค์หญิงสิบสามเพราะบุรุษเพียงผู้เดียว หลินฮุ่ยหมินจะทำเช่นใด เพื่อจะยุติเรื่องราวน่าเวียนหัวนี้

หลังหย่าเธอกลายเป็นมหาเศรษฐี

หลังหย่าเธอกลายเป็นมหาเศรษฐี

โรแมนติก

5.0

"ความรักทำให้คนตาบอด" เซิงเกอละทิ้งชีวิตที่สงบสุขเพื่อแต่งงานกับชายคนนั้น ยินยอมทำตัวเหมือนคนรับใช้ที่ไร้ตัวตนมาสามปีเต็ม แต่ในที่สุดเธอก็ตระหนักว่าความพยายามของเธอ มันไร้ประโยชน์สิ้นดี เพราะในใจของสามีตัวเองมีแต่รักแรกของเขา เซิงเกอรู้สึกผิดหวังอย่างมาก และขอหย่าอย่างเด็ดขาด “ถึงเวลาแล้ว ฉันไม่ปกปิดอีกแล้ว จะบอกความจริงให้” ทันใดนั้น โลกออนไลน์ก็ระเบิดขึ้นทันที มีข่าวลือว่าสาวรวยพันล้านคนหนึ่งหย่าร้างแล้ว ดังนั้น ซีอีโอนับไม่ถ้วนและชายหนุ่มรูปงามต่างรีบเข้าหาเธอเพื่อเอาชนะใจเธอ เฝิงอวี้เหนียนเห็นดังนั้นจึงทนไม่ไหวอีกต่อไปเลยจัดงานแถลงข่าวในวันถัดไป โดยขอร้องอย่างจริงจังว่า: ผมรักเซิงเกอ ขอร้องคุณภรรยากลับบ้านนะ

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ