Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
ย้อนเวลามายุค80พร้อมระบบทำฟาร์มแสนห่วย เล่ม 2

ย้อนเวลามายุค80พร้อมระบบทำฟาร์มแสนห่วย เล่ม 2

หลิ่งฟาง//พิมพ์สีทอง

5.0
ความคิดเห็น
1.1K
ชม
35
บท

จากอลิส เจนี่ ร็อกส์ กลายมาเป็นหลิวตานผู้สู้ชีวิตกับระบบทำฟาร์มแสนห่วย ครอบครัวปู่ย่าไม่เหลียวแล กดขี่ข่มเหงทั้งยังทำเหมือนว่าบ้านรองเป็นแค่คนรับใช้เท่านั้น ในฐานะคนที่ไม่เคยได้รับความรักจากบิดามาก่อน ชาตินี้หลิวตานจึงหาหนทางเพื่อพาบ้านรองไปจุดสูงสุด หลิวตานใช้ความสามารถที่เธอมีพลังธาตุเร่งการเจริญเติบโตของผัก ทำฟาร์มผัก และยังมีตัวช่วยอย่างระบบทำฟาร์มแสนห่วยอยู่ในมือ เธอจะต้องพาครอบครัวมั่งคั่งร่ำรวยให้ได้! แต่ระบบที่มีทำให้เธอชักไม่แน่ใจแล้วว่ามันช่วยเหลือเธอได้จริง ๆ - -

บทที่ 1 ความในใจของสือหยวนเฟิง

เป็นไปตามที่หลิวตานคิด ย่าหลิวให้คนมาตามพ่อของเธอกับอาสามไปเพื่อจัดการปัญหาของลูกสาว แต่พอทั้งสองไม่ได้ไปตามคำสั่ง ได้ยินว่าโวยวายใหญ่โต เพื่อนบ้านต่างปิดประตู

ตอนเช้าผู้อาวุโสในหมู่บ้านและผู้อาวุโสของตระกูลหลิวเข้ามาจัดการปัญหาตรงนี้ เพื่อไม่ให้หมู่บ้านเสื่อมเสีย ไม่ให้ผู้หญิงในหมู่บ้านต้องมัวหมองไปด้วย

ก่อนหน้านี้มีพ่อหม้ายลูกสามอายุสี่สิบปีเพิ่งเสียภรรยาไป ลูก ๆ โตจนแต่งงานกันหมดแล้ว แต่บ้านของพ่อหม้ายต้องการหาภรรยาให้เขาจึงถูกเสนอให้แต่งงานด้วย โดยที่ไม่ต้องเสียค่าสินสอดสักเฟิน ด้วยความที่พ่อหม้ายหน้าตาไม่ดี อ้วน เตี้ย ดำ พวกเขาไม่มีทางเลือกแต่ยื่นข้อเสนอมาหลังหลิวถิงเหยาคลอดเด็กจะส่งกลับบ้านใหญ่หลิว

หลิวถิงเหยากรีดร้องไม่ยินยอมแต่งงานกับพ่อหม้ายคนนี้ ทั้งขู่ว่าถ้าให้แต่งงานจะทำลายเด็กในท้อง และนั่นยิ่งทำให้ผู้อาวุโสไม่พอใจ สุดท้ายเรื่องเลยจบที่หลิวถิงเหยาต้องแต่งเข้าบ้านพ่อหม้ายอย่างไม่มีข้อโต้แย้ง

สำหรับบ้านรองหลิว บ้านสามหลิว ทั้งสองบ้านแยกตัวออกมาแล้วถึงแม้จะเป็นตระกูลเดียวกันแต่ไม่เกี่ยวข้องกันแล้ว เพราะมีการตัดขาดไม่เหมือนแยกบ้านออกมาเหมือนคนอื่น ทำให้พวกเขาไม่ได้รับผลกระทบ

“ยังดีที่บ้านเรามีชุดใหม่ ๆ ให้ใส่ ไม่อย่างนั้นคงต้องใส่ชุดเก่าไปแล้ว” หลิวตานถอนหายใจ มองครอบครัวของตนเองแล้วส่ายหน้า

“พี่ใหญ่ จริง ๆ ผมว่าชุดไม่ได้เก่าขนาดนั้น” หลิวเหอสวี่อมยิ้ม

“ใช่ ดูสิ เสื้อผืนนี้ฉันจำได้ว่าใส่เพียงสองครั้งเท่านั้นเอง คนในหมู่บ้านซื้อเสื้อผ้าหนึ่งตัวใช้ได้ตั้งหลายปี” หลิวอิ๋งอีหมุนตัวให้ดูชุดที่ใส่

หลิวตงตง จ้าวเหม่ย อยู่ในชุดสุภาพตัวใหม่เพราะเพิ่งเคยใช้ ทั้งคู่ซื้อเสื้อผ้านี้มาหลายเดือนแล้วเพียงแต่ไม่ได้ใช้ เนื่องจากไม่ได้พากันออกนอกบ้านเลย วันนี้ค่อนข้างพิเศษเพราะวันนี้มีเทศกาลไหว้ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำมณฑล

อันที่จริงในตอนแรกบ้านหลิวไม่มีความคิดจะไป เพียงแต่เมื่อวานนี้หลังเลิกเรียนสือหยวนเฟิงชวนหลิวตานเข้าไปดูหนังทำให้เธอตอบตกลงไป และมาชวนครอบครัวไปเปิดหน้าเปิดตาบ้าง

จ้าวเหม่ยยิ้มให้ลูกสาว “เสี่ยวตานแม่ว่าชุดไม่ได้เก่าเลย ยิ่งใส่ตอนกลางคืนไม่มีคนสังเกตเห็นหรอก พวกเราไปกันเถอะจะได้กลับเร็ว”

“ใช่”

“ญาติผู้น้องฉันมาแล้วหรือยังคะ เสียดายที่อาสาม อาสะใภ้สามไม่ไปด้วยกัน คงสนุกหน้าดู” หลิวตานถามถึงหลิวต้าสยงตัวแทนจากบ้านสามที่จะไปด้วยกัน

“มาแล้ว ๆ”

หลิวต้าสยงมาถึงพอดีทำให้เขาเดินเข้ามาหา ก่อนขึ้นเกวียนวัวที่ไปเช่าหมู่บ้านข้าง ๆ มา เนื่องจากรถยนต์ราคาสูงเกินไปกว่าจะเช่า เลยต้องหาเช่าเกวียนวัวที่หลายบ้านยังคงใช้เดินทางกันอยู่ก่อนพากันเดินทางเข้าเมืองที่จะใช้เวลาเดินทางเกือบสองชั่วโมง

“คุณน้าทั้งสอง เสี่ยวตาน เด็กๆ”

มาถึงจุดนัดหมายสือหยวนเฟิงยืนรออยู่ก่อนแล้ว เขาคำนับผู้อาวุโสและทักทายหลิวตานกับน้อง ๆ อย่างเป็นกันเอง

“หยวนเฟิงมานานหรือยัง บอกให้มาพร้อมกัน” หลิวตานถาม

“ไม่นาน ๆ ฉันมากับครอบครัวน่ะ วันนี้พวกเราเดินทางมาด้วยกัน ต้องขอโทษด้วย” สือหยวนเฟิงบอก เขาหันไปคุยกับหลิวตงตง “เสี่ยวตานบอกคุณน้าเคยมางานที่นี่แล้ว ถ้าอย่างนั้นผมคงแนะนำอะไรมากไม่ได้แล้ว”

“อืม” หลิวตงตงเหลือบมองเขาก่อนกวาดสายตามองคนในบ้านแล้วไปหยุดที่ลูกสาวคนโต “ได้ยินว่าจะไปดูหนังกันไม่ใช่หรือ ไปสิ แล้วค่อยมาเจอกันที่นี่อีกสองชั่วโมงข้างหน้า”

“ฉันไปก่อนค่ะ”

จ้าวเหม่ยยิ้มอ่อนให้สามี ทั้งสองรู้ว่าลูกสาวมีความคิดแปลกใหม่และสามารถเอาตัวรอดได้ ทั้งสือหยวนเฟิงยังจริงใจจึงกล้าปล่อยให้ไปด้วยกัน

สองข้างทางเต็มไปด้วยของกินมากมาย ทั้งเคยเห็นและไม่เคยเห็น บางร้านเป็นขนมต่างถิ่นที่คนในเมืองทำมาขาย หรือบางร้านเป็นพ่อค้า แม่ค้ามาจากที่อื่น เทศกาลไหว้ครั้งนี้เป็นเทศกาลใหญ่ ทุกปีที่จัดขึ้นเดือนนั้นคึกคักตลอดทั้งเดือน

หลิวตานมองรอบตัวอย่างตื่นเต้น เป็นครั้งแรกตั้งแต่มาอยู่ที่นี่แล้วได้เดินในงานพวกนี้ ชีวิตก่อนเธอจำไม่ได้แล้วว่าไปตลาดล่าสุดตอนอายุเท่าไร ที่นี่ไปตลาดแต่ไม่เคยไปงานที่มีเสียงดนตรี การแสดงให้ดู

“นั่นคือโรงหนังเสิ่นจู เป็นโรงหนังประจำเทศกาล หลายคนต่างรอคอยเทศกาลเพื่อเข้าโรงหนังแห่งนี้ ช่วงอื่น ๆ โรงหนังเสิ่นจูไม่เปิดให้บริการ ทำให้การเข้าดูหนังหากไม่จองบัตรไว้ก่อนก็ไม่ได้ดู” สือหยวนเฟิงชี้ไปยังโรงหนังที่อยู่ไม่ไกล

หลิวตานทำหน้าแปลกใจ “เอ๋ ฉันเคยได้ยินว่าโรงหนังเสิ่นจูเดิมทีเปิดตลอดไม่ใช่หรือ ทำไมถึงต้องเข้าโรงหนังในเทศกาลล่ะ”

“เจ้าของโรงหนังเป็นชายชราผู้หนึ่ง แต่ก่อนเปิดโรงหนังทุกวันกับภรรยา แต่พอภรรยาของเขาจากไปเพราะความเหนื่อย ลูก ๆ ของเขาเลยจำกัดเวลาเปิดโรงหนัง และเขาชอบช่วงเวลาเทศกาลที่สุด” สือหยวนเฟิงยิ้มออกมาเล็กน้อย

อันที่จริงแล้วโรงหนังเสิ่นจูเป็นโรงหนังแห่งความรักที่หลายคนต่างรับรู้ ความรักของชายชราที่มีต่อภรรยาจนหลายคนนับถือ เพราะด้วยฐานะของเขาแล้วสามารถหาภรรยาใหม่ได้เลย หลายคนต่างมาขอคนรักกันที่นี่ แล้วพบว่าพวกเขาครองคู่กันนาน

ทั้งสองเดินเข้าโรงหนังพร้อมกับขนมและน้ำที่เตรียมพร้อม สือหยวนเฟิงเดินไปหาผู้ตัวตั๋วเข้าชมก่อนหยิบตั๋วบัตรให้เขา กว่าเขาจะได้มามันไม่ง่ายเลยต้องเสียเงินมากกว่าค่าบัตรจริงเพื่อให้ได้มันมา

ภายในโรงหนังต่างจากที่คิดเอาไว้มาก มันเหมือนอีกโลกและมีแสงสว่างให้เห็น ทั้งคู่หาที่นั่งด้านหลังนั่งแต่เห็นหน้าจอ

คนไม่ได้เยอะมากเพราะที่นี่เป็นระเบียบ รับคนต่อรอบไม่เกินหนึ่งร้อยคน เวลานี้ถ้าคนซื้อตั๋วไม่มาก็ไม่ขายเพิ่มเพราะถือว่ามีคนเข้าดูแล้ว

หนังที่สือหยวนเฟิงเลือกดูเป็นหนังรัก ตัวละครเอกชายหญิงต่างเป็นศิษย์พี่ศิษย์น้องร่วมสำนัก แต่พอกลับบ้านทั้งคู่คือลูกภรรยาเอกกับลูกอนุ กว่าจะฝ่าฟันกันมาจนถึงตอนจบต้องเสียสหายที่ดี เสียเลือด เสียเนื้อ เพราะคำว่าต่างชั้นกันเกินไป

“เฟิ่นซีผู้นี้ถ้าเขายอมแต่งซูซูเป็นอนุ อย่างน้อยพวกเขาคงไม่ต้องเสียเพื่อนไปมากกว่านี้” หลิวตานถอนหายใจ ถึงแม้เป็นหนังแต่เธออินไปกับมันจริง ๆ

“ทั้งเฟิ่นซีและซูซูทั้งคู่รักกันมากจนไม่อยากแยกจาก” สือหยวนเฟิงยิ้มออกมา “หากต้องแยกจากคนรักยอมตายจากกันดีกว่า”

“นั่นมันก็จริง”

ระหว่างเดินออกจากโรงหนังทั้งคู่พูดถึงหนังที่ดู หลิวตานรู้สึกว่าการแสดงดีมาก แต่มีหลายอย่างที่ค่อนข้างไม่ชอบ

“เสี่ยวตาน”

“หา”

หลิวตานมองซ้ายขวาหลังได้สติ เมื่อครู่ทั้งสองยังเดินอยู่ในงานแต่ตอนนี้มายืนข้างสระนำ ใต้ต้นไม้ที่มีแสงจันทร์ส่องให้เห็นทางเดิน

สือหยวนเฟิงเม้มปาก “เสี่ยวตาน...” เขาหลับตาก่อนลืมตาอีกครั้งเพื่อเรียกสติตนเอง “ที่ผ่านมาฉันทบทวนตัวเองดีแล้ว ฉันชอบเธอ”

“หา” หลิวตานอุทานแล้วชี้ตนเอง “นายชอบฉันเหรอ แต่พวกเรายังเด็กกันอยู่เลยนะ”

“ตอนนี้พวกเราไม่ได้เด็กขนาดที่ไม่รู้อะไร ฉันชอบเธอจริง ๆ นะ เธอล่ะ ชอบฉันหรือเปล่า ขอเพียงพวกเราใจตรงกันสิ่งอื่นย่อมไม่ต้องสนใจ” สือหยวนเฟิงจับมือเด็กผู้หญิงตรงหน้า

หลิวตานมีสีหน้ากังวล “ถึงใจพวกเราจะตรงกัน แต่ว่าครอบครัวคงไม่เห็นด้วย บ้านของนายมีฐานะ ต่างจากบ้านของฉัน”

“หลังจากเรียนจบมัธยมต้นฉันจะสมัครเข้ากองทัพทหาร คงไม่ได้เจอกันระยะหนึ่ง แต่ก่อนไปฉันอยากขอเธอเป็นคนรักฉันไว้”

ถึงแม้จะเป็นสิ่งที่เห็นแก่ตัวไปหน่อยแต่ว่าสือหยวนเฟิงไม่ต้องการให้ผู้หญิงที่ตนเองรักไปคบหากับใคร ในเวลาที่เขาย้ายไปที่อื่นผู้ชายต้องเข้าหาหลิวตานเยอะแน่ ๆ

“ฉันจะต่อมัธยมปลายที่เดิมและสอบเข้ามหาวิทยาลัย ถึงวันนั้นฉันกับครอบครัวของพากันย้ายไปปักกิ่ง ส่วนพวกนายมีบ้านอยู่ที่นี่...” นอกจากนี้บ้านของสือหยวนเฟิงยังมีร้านค้าที่ปล่อยทิ้งไม่ได้ ไม่เหมือนฟาร์มผักของพวกเธอ

“ไม่มีอะไรที่ต้องกังวล พ่อของฉันอยากให้แม่เลิกทำงานและไปอยู่ด้วยกันแล้ว เพียงแต่แม่ไม่ยอม ที่บ้านยังมีน้องชายอีกคน ถ้าฉันตามไปด้วยใครจะว่าอะไรได้”

หลิวตานหัวเราะในสิ่งที่อีกฝ่ายพูด เธอเชื่อว่าถ้าครอบครัวของเขาห้ามก็ห้ามเขาไม่ได้ เพราะสือหยวนเฟิงเป็นคนที่ชอบพูดอะไรแล้วทำจริง

“ถ้าอย่างนั้นฉันตอบตกลง”

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ หลิ่งฟาง//พิมพ์สีทอง

ข้อมูลเพิ่มเติม
วาสนาของบุรุษผู้นั้นที่อกหักสิบครั้งก็ไม่ยอมแพ้

วาสนาของบุรุษผู้นั้นที่อกหักสิบครั้งก็ไม่ยอมแพ้

โรแมนติก

5.0

ทั่วทั้งแคว้นอ้ายคงมีเพียงบุรุษเช่นหัวหน้ากลุ่มต้าหยางเท่านั้นที่ยอมแต่งเข้าบ้านภรรยา เพราะนั่นมันเท่ากับว่าเขายอมอยู่ใต้บารมีของภรรยา และยอมให้ภรรยาเป็นใหญ่ ทว่าบุรุษที่อกหักมาสิบครั้งอย่างเขา ไม่อยากจะอกหักเป็นครั้งที่สิบเอ็ดแล้วนี่นา อีกทั้งคุณหนูใหญ่กู้หลินฟางเองก็ใจตรงกัน เรื่องธรรมเนียมอะไรนั่นก็ช่างมันเถิด เทียนจื่อซานแทบจะถูกเรียกว่าเป็นบุรุษอาภัพในรัก ด้วยเพราะเวลาไปเกี้ยวสตรีบ้านไหน จุดจบก็หนีไม่พ้นการถูกปฏิเสธ จนกระทั่งเขาได้มาเจอกับกู้หลินฟาง ไม่แน่ใจว่าเป็นเมตตาจากท่านเทพบนสวรรค์ หรือเทพมารต้องการให้เขาทำลายสถิติอกหักอีกครั้งกันแน่ แต่เขา... เทียนจื่อซานไม่ขอยอมแพ้ และจะเกี้ยวคุณหนูใหญ่กู้หลินฟางอีกสักครั้ง

ย้อนเวลามายุค80พร้อมระบบทำฟาร์มแสนห่วย

ย้อนเวลามายุค80พร้อมระบบทำฟาร์มแสนห่วย

โรแมนติก

5.0

จากอลิส เจนี่ ร็อกส์ กลายมาเป็นหลิวตานผู้สู้ชีวิตกับระบบทำฟาร์มแสนห่วย ครอบครัวปู่ย่าไม่เหลียวแล กดขี่ข่มเหงทั้งยังทำเหมือนว่าบ้านรองเป็นแค่คนรับใช้เท่านั้น ในฐานะคนที่ไม่เคยได้รับความรักจากบิดามาก่อน ชาตินี้หลิวตานจึงหาหนทางเพื่อพาบ้านรองไปจุดสูงสุด หลิวตานใช้ความสามารถที่เธอมีพลังธาตุเร่งการเจริญเติบโตของผัก ทำฟาร์มผัก และยังมีตัวช่วยอย่างระบบทำฟาร์มแสนห่วยอยู่ในมือ เธอจะต้องพาครอบครัวมั่งคั่งร่ำรวยให้ได้! แต่ระบบที่มีทำให้เธอชักไม่แน่ใจแล้วว่ามันช่วยเหลือเธอได้จริง ๆ - -

ย้อนเวลามายุค80พร้อมระบบทำฟาร์มแสนห่วย เล่ม 1

ย้อนเวลามายุค80พร้อมระบบทำฟาร์มแสนห่วย เล่ม 1

โรแมนติก

5.0

จากอลิส เจนี่ ร็อกส์ กลายมาเป็นหลิวตานผู้สู้ชีวิตกับระบบทำฟาร์มแสนห่วย ครอบครัวปู่ย่าไม่เหลียวแล กดขี่ข่มเหงทั้งยังทำเหมือนว่าบ้านรองเป็นแค่คนรับใช้เท่านั้น ในฐานะคนที่ไม่เคยได้รับความรักจากบิดามาก่อน ชาตินี้หลิวตานจึงหาหนทางเพื่อพาบ้านรองไปจุดสูงสุด หลิวตานใช้ความสามารถที่เธอมีพลังธาตุเร่งการเจริญเติบโตของผัก ทำฟาร์มผัก และยังมีตัวช่วยอย่างระบบทำฟาร์มแสนห่วยอยู่ในมือ เธอจะต้องพาครอบครัวมั่งคั่งร่ำรวยให้ได้! แต่ระบบที่มีทำให้เธอชักไม่แน่ใจแล้วว่ามันช่วยเหลือเธอได้จริง ๆ - - ตัวอย่างในเล่ม “ดูสิ ฉันจะได้อะไร” หลิวตานถูมืออย่างตื่นเต้น ก่อนจะบอกระบบว่าเริ่มสุ่มวงล้อ “ระบบเริ่มสุ่มวงล้อได้เลย” ทันใดนั้นหน้าจอโปร่งใสก็ปรากฏตรงหน้าเธอ ดวงตาคู่งามมองวงล้อสุ่มของรางวัลที่หมุนไปมาด้วยความประหม่า เพราะมันเป็นของรางวัลชิ้นแรกที่เธอคาดหวัง ไม่รู้มันจะสามารถทำอะไรได้บ้าง แต่ขอให้ช่วยสี่แม่ลูกได้ยิ่งดี   “เมล็ดพันธุ์ผักกาด?”  หลิวตานมองภาพตรงหน้าแล้วได้แต่น้ำตาตกในเมื่อของรางวัลที่แลกมากับการไปตัดหญ้ามาให้หมูคือเมล็ดพันธุ์ผักกาด! 

ชายพิการผู้นั้นที่ใครไม่เห็นค่านางจะเป็นภรรยาของเขาเอง

ชายพิการผู้นั้นที่ใครไม่เห็นค่านางจะเป็นภรรยาของเขาเอง

โรแมนติก

5.0

ไป่จวิ้นเดิมทีก็เป็นเพียงทหารชั้นผู้น้อย ที่ไม่น่าจะได้รับความสนใจอะไรในกองทัพ ทว่าเมื่อสงครามจบลง และกลับมาพร้อมชัยชนะ เขาจึงได้เงินรางวัลมาจำนวนหนึ่ง ส่วนหนึ่งเพื่อปลอบขวัญที่ต้องจากบ้านไปเป็นระยะเวลานาน อีกส่วนก็เป็นสินน้ำใจตอบแทนที่เขาต้องกลายเป็นคนที่ไม่ต่างจากคนพิการ เดินเหินไปไหนก็ไม่คล่องแคล่วเช่นเมื่อก่อน และเรื่องนี้ก็สร้างความกลัดกลุ้มให้กับมารดาของเขาอย่างมาก เพราะไม่ว่าจะส่งเทียบดูตัวไปสักกี่ครั้งต่างก็ถูกปฏิเสธ ทว่ามีเพียงสตรียากจนที่เป็นเพียงบุตรสาวของชาวนาจน ๆ คนหนึ่งเท่านั้นที่ยินยอมแต่งเข้าสกุลไป่ แรกทีเดียวไป่จวิ้นไม่ใคร่จะชอบใจภรรยาของตนนัก ด้วยคิดว่านางยินยอมแต่งกับชายพิการเช่นเขาเพียงแค่เพราะเรื่องเงินทอง แต่ความอ่อนโยนและมุ่งมั่นที่จะดูแลเขาของ จางอวี๋จิง’กลับค่อย ๆ ละลายน้ำแข็งในใจของชายหนุ่มลงอย่างช้า ๆ ส่วนทางจางอวี๋จิง นางก็เริ่มมองเห็นความอบอุ่นของสามีที่นางไม่คิดว่าจะรักได้คนนี้เพิ่มขึ้นทุกวัน และนางก็ได้ตั้งปณิธานอันแน่วแน่ว่า จากนี้ไปจะขอเป็นภรรยาที่ซื่อสัตย์ต่อเขาไปจนชั่วชีวิต สามีของนางพิการเดินเหินไม่สะดวกแล้วอย่างไร นางจะขอเป็นแขนขาให้แก่เขาเอง

หนังสือที่คุณอาจชอบ

เจ้าสาวจำยอม สามีเศรษฐีนอกสายตา

เจ้าสาวจำยอม สามีเศรษฐีนอกสายตา

Roana Javier
4.9

ชูจี้ถูกเก็บไปอุปการะตั้งแต่ยังเด็ก ซึ่งถือเป็นความฝันของเด็กกำพร้าทั่วไปอย่างชูจี้ แต่ชีวิตหลังจากนั้นมันไม่ได้มีความสุขดั่งที่ชูจี้คิดฝันไว้เลย เธอต้องอดทนถูกเย้ยหยันและการทำทารุณจากแม่บุญธรรมของเธอ แต่ก็ยังโชคดีที่เธอได้รับความเมตตาจากคนใช้สูงวัยคนหนึ่งในบ้านหลังนั้น ชึ่งเป็นคนคอยดูแลและเอาใส่เธอเหมือนแม่แท้ ๆ ของเธอ จนกระทั่งคนใช้จากไปด้วยอาการป่วย ชูจี้ก็ถูกบังคับให้แต่งกับผู้ชายที่ไม่เอาการเอางานแทนลูกสาวแท้ ๆ ของพ่อแม่บุญธรรมของเธอเพื่อชดใช้ค่ารักษาพยาบาลของคนใช้ เรื่องราวจะเป็นเช่นเดียวกับซินเดอเรลล่าหรือไม่? อย่างไรก็ตาม ชายที่เธอจะแต่งงานด้วยนั้นไม่เหมือนเจ้าชายเลยสักนิดนอกจากรูปร่างหน้าตาของเขาที่สามารถเทียบเท่ากับเจ้าชายได้เท่านั้นเอง ลู่เหยี่ยนเป็นลูกชายนอกสมรสของครอบเศรษฐีครอบครัวหนึ่ง เขาใช้ชีวิตไปวันๆ (พอลอดไปด้วยค่ะ)มาโดยตลอด ที่เขาตกลงแต่งกับชูจี้ก็เพราะอยากจะทำให้ความปรารถนาสุดท้ายของแม่ของเขาสมหวังเท่านั้น แต่ในคืนวันแต่งงาน เขากลับพบว่าเจ้าสาวคนนี้มีพฤติกรรมที่ผิดกับที่เคยได้ยินได้ฟังมา โชคชะตาจะบันดาลให้พวกเขาเป็นอย่างไร และลู่เหยี่ยนจะเป็นดั่งที่เราคิดหรือไม่ สิ่งที่น่าประหลาดใจคือลู่เหยี่ยนมีหลายอย่างที่คล้ายๆ กับมหาเศรษฐีที่ใหญ่ที่สุดในเมืองนี้อย่างพิลึก สุดท้ายแล้ว ลู่เหยี่ยนจะสามารถรู้ได้หรือไม่ว่าชูจี้ คือเจ้าสาวจำเป็นที่ต้องได้แต่งงานแทนพี่สาวของเธอ การแต่งงานของพวกเขาจะเป็นจุดเริ่มต้นเรื่องราวสุดโรแมนติกหรือวิบากกรรมของชีวิต โปรด ติดตามและค้นหาชีวิตและเรื่องราวของทั้งสองคนด้วยกันเถอะ

เมีย(เก่า)ฉันเป็นเศรษฐี

เมีย(เก่า)ฉันเป็นเศรษฐี

Axel Bob
5.0

เจียงซุ่ยแต่งงานกับยู่จินเฉินมาเป็นเวลาสามปี เธอยอมทำงานบ้านทุกอย่างเพื่อเขา ทั้งซักผ้า ทำอาหาร และถูพื้น แต่ไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ก็ไม่สามารถทำให้หัวใจของเขาสลายลงได้ เธอเริ่มตระหนักและตัดสินใจหย่ากับผู้ชายที่เธอรักสุดหัวใจมาเป็นเวลาสามปี เพื่อให้เขาได้ไปอยู่กับผู้หญิงที่เขารักจริง หลังจากที่เธอหย่าแล้ว คนในแวดวงไฮโซล้วนรอดูเรื่องตลกของเธอและล้อเล่นกับเธอว่า"เจียงซุ่ย ทำไมถึงหย่ากับคุณยู่น่ะ" เจียงซุ่ยยิ้ม"เพราะฉันจะกลับบ้านไปสืบทอดมรดกพันล้านของตระกูลไง ผู้ชายอย่างเขาไม่คู่ควรกับฉันหรอก" อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครเชื่อคำพูดของเธอ วันรุ่งขึ้น ผู้หญิงที่ร่ำรวยที่สุดในโลกปรากฏตัวในข่าวและกลายเป็นว่าเป็นภรรยาเก่าขอยู่จินเฉินด้วย ทุกคนล้วนตกตะลึงไปหมด เมื่อพวกเขาพบกันอีกครั้งหลังจากการหย่าร้าง ยู่จินเฉินมองไปที่ผู้หญิงที่ร่ำรวยที่สุดคนนั้นซึ่งกำลังถูกรายล้อมไปด้วยหนุ่มหล่อไฮโซมากมาย ใบหน้าของเขาก็มืดมนลงทันที "คุณเจียง คุณรวยขนาดนี้ ควรหาแฟนที่มีฐานะเสมอกันสิ อย่างผมนี่ ผมยอมให้ทุกอย่างที่ผมมีให้คุณนะ"

เมียเก็บมาเฟีย

เมียเก็บมาเฟีย

เนื้อนวล
4.9

"ฉันจะนอนกับคุณทุกที่ ทุกเวลา และทุกครั้งที่คุณต้องการ เพื่อแลกกับอิสรภาพของพ่อฉัน" "แล้วถ้าผมไม่ตกลงล่ะ" ในที่สุดเขาก็พูดออกมาจนได้ ยาหยีก้มหน้าซ่อนความเจ็บช้ำเอาไว้จนมิด ก่อนจะเงยหน้าขึ้นอีกครั้งและพูดออกไปเสียงแผ่วเบา "ฉันจะให้คุณดูสินค้าก่อนก็ได้...แล้วค่อยตัดสินใจ" เมื่อบิดาของตนเป็นโจรขโมยเพชรล้ำค่าของตระกูลมาเฟียที่ยิ่งใหญ่แห่งกรุงมอสโค ยาหยี จำต้องโยนศักดิ์ศรีของตัวเองทิ้งแล้วกลายเป็นหญิงไร้ยางอายเพื่อให้บิดารอดพ้นจากเงื้อมมือมัจจุราชอย่างเขา ทางเลือกเพียงทางเดียวที่มีคือยอมพลีกายให้ผู้ที่ขึ้นชื่อว่าหล่อเหลาในสามโลกได้เชยชม สาวพรหมจรรย์อย่างหล่อนแทบขาดใจตายเพราะบทพิศวาสเร่าร้อนรุนแรงที่ไม่เคยได้พานพบ ความวาบหวามครั้งแล้วครั้งเล่าที่เขามอบให้ทำให้ยาหยีคลั่งไคล้ในรสสิเน่หา กายสาวร่ำร้องโหยหาแต่เขาเพียงผู้เดียว หากภายในใจก็ต้องคอยย้ำเตือนตนเองไว้ว่า หล่อนก็เป็นได้แค่ของเล่นชั่วคราว สักวันพอเขาเบื่อ ก็จะถูกเขี่ยทิ้งอย่างไร้ความปรานี!! จากที่คิดจะตามไล่ล่าเด็ดหัวคนทรยศให้แดดิ้นไปต่อหน้า คอร์เนล ซีร์ยานอฟ เจ้าพ่อยักษ์ใหญ่แห่งวงการโทรคมนาคมในประเทศรัสเซีย ก็เปลี่ยนเป้าหมายทันทีเมื่อได้เจอสาวน้อยนัยน์ตากลมหวานซึ้ง ใบหน้าหวานๆ ส่งผลให้เขาต้องการอยากครอบครองหล่อนแทบคลั่ง คอร์เนลมั่นใจว่ามันจะมีผลกับร่างแกร่งได้ไม่นานหรอก เพราะสำหรับเขา ผู้หญิงคือวัตถุทางเพศเคลื่อนที่ได้เท่านั้น เพียงได้ลิ้มลองแค่ครั้งเดียว เขาก็ไม่เคยหันกลับไปกินของเก่าอีก แต่ทฤษฎีนี้กลับใช้ไม่ได้ผลกับหล่อน ให้ตายสิ! เขาไม่เคยรู้สึกติดใจผู้หญิงรุนแรงขนาดนี้มาก่อน คอร์เนลหลงใหลเนื้อนุ่มจนกลายเป็นเสพติด ทั้งที่ความยโสโอหังของบุรุษเลือดเย็นเยี่ยงเขาพยายามบอกกับตนเองว่า เขายังเชยชมร่างงามไม่คุ้มค่ากับสิ่งที่สูญเสียไป แต่ภายในใจลึกๆ กลับตะโกนก้องสวนทางออกมาว่า เขาขาดเธอไม่ได้แม้แต่วินาทีเดียว!!

ไม่เป็นทาสรักอีกต่อไป

ไม่เป็นทาสรักอีกต่อไป

Frannie Bettuzzi
5.0

คุณท่านเสียว คุณชายยอดเยี่ยมที่โด่งดังในเมือง B ได้แต่งงาน แต่มีข่าวลือว่าเจ้าสาวมีรูปร่างหน้าตาที่น่าเกลียดและมีฐานะต่ำต้อย สามปีมานี้ เขาปฏิบัติกับเธออย่างเย็นชาและทำเหมือนเป็นคนแปลกหน้า เจียงซิงซิงอดทนกับความเย็นชาอย่างเงียบ ๆ เธอยังคงรักเขาอย่างสุดหัวใจ เสียสละความนับถือตนเองและยอมละทิ้งตัวตนของเธอเอง จนกระทั่งวันหนึ่ง สุดที่รักของเขากลับประเทศ เขได้สารภาพว่าเขาแต่งงานกับเธอเพียงเพื่อช่วยชีวิตคนรักในใจของเขาเท่านั้น เจียงซิงซิงเสียใจและผิดหวังมาก เธอจึงเซ็นเอกสารหย่าและจากไปด้วยความเศร้าใจ สามปีต่อมา เจียงซิงซิงผู้สวยงามจนน่าทึ่งกลับมาอีกครั้ง ได้กลายมาเป็นศัลยแพทย์ที่ดีที่สุดและเป็นยอดฝีมือด้านเปียโน อดีตสามีรู้สึกเสียใจ และกอดเธอแน่นท่ามกลางสายฝน เสียงของเขาสั่นเครือ "ที่รัก คุณเป็นของผม..."

บุตรเช่นข้า หาได้ต้องการบิดาเช่นท่าน

บุตรเช่นข้า หาได้ต้องการบิดาเช่นท่าน

จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ
5.0

หลินตงหยาง อายุ 27 ปี เติบโตมากับแม่เพียงสองคน ในวัยเด็กหลินตงหยางเคยมีพ่อผู้ให้กำเนิดแต่หลังจากที่พ่อได้งานใหม่ในเมืองหลวงพ่อที่เคยมีก็ไม่มีอีกแล้ว พ่อกลับมาหย่าขาดกับแม่ทันทีที่ไปทำงานในเมืองหลวงได้เพียง 2 เดือน ด้วยให้เหตุผลในการหย่าว่า แม่กับและเขาคือตัวถ่วงความเจริญในชีวิตพ่อ สาเหตุก็ไม่มีอะไรมากแค่พ่อหน้าตาหล่อเหลาและเป็นที่ถูกใจของลูกสาวหัวหน้างาน เพื่อตำแหน่งงานและความเป็นอยู่ที่สบายขึ้น พ่อเลือกที่จะทิ้งภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากที่ผ่านเรื่องยากลำบากมาด้วยกัน หย่าขาดกับภรรยาเพื่อไปแต่งงานใหม่ มีชีวิตใหม่ในเมืองหลวง โดยทิ้งคนข้างหลัง ทิ้งภรรยาที่เคยสาบานว่าจะอยู่ครองคู่กันตลอดไป ในปีที่เขาเรียนจบมหาวิทยาลัย แม่ก็ล้มป่วยและจากเขาไปในที่สุด สาเหตุที่หลินตงหยางเสียชีวิต เพราะทำงานหนัก อาชีพโปรแกรมเมอร์ตัวเล็กๆ อย่างเขา ต้องพยายามทำงานให้ได้ตามที่หัวหน้าสั่งมา ในที่สุดเขาก็พัฒนาเกมกำลังภายในของบริษัทได้สำเร็จ หลินตงหยางนอนหลับไปด้วยความสบายใจ แต่ทว่าพอเขาลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที นี่ไม่ใช่คอนโดหรูย่านใจกลางเมืองปักกิ่ง หลังคามุงหญ้านี่คืออะไร มันควรจะเป็นเพดานสีขาวสิ เมื่อมองไปรอบๆ ห้องนี่คืออะไร นี่มันไม่ใช่ผนังที่ทำมาจากคอนกรีต มันคือดินเหนียว หลินตงหยางคิดว่าตัวเองฝันไป เขาหลับตาลงอีกครั้งแล้วลืมตาขึ้น ทุกอย่างยังเหมือนเดิม มารดามันเถอะ เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง หลังจากแน่ใจแล้วว่าไมไ่ด้ฝัน ตอนนั้นเองเขารู้สึกปวดหัวขึ้นมาอย่างรุนแรง และในหัวของเขามีภาพเหตุการณ์ของเด็กชายที่ชื่อเดียวกับเขา หลินตงหยาง อายุ 10 ขวบ เรื่องราวชีวิตตั้งแต่เกิดจนตายไปของเด็กชาย ทำเอาหลินตงหยางกำมือแน่น ก่อนจะสบถออกมา “พ่อสารเลว เฉินซื่อเหม่ยชัดๆ” และตามมาด้วยเสียงร้องไห้ของน้องสาว สาเหตุที่เด็กชายหลินตงหยางเสียชีวิต เพราะถูกผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นย่าแย่งผักป่าและทุบตี ทั้งๆ ที่คนพวกนั้นได้ตัดขาดพับพวกเขาสามแม่ลูกแล้ว แต่ยังมิวายข่มเหงรังแก

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

มาชาวีร์
4.8

เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
ย้อนเวลามายุค80พร้อมระบบทำฟาร์มแสนห่วย เล่ม 2
1

บทที่ 1 ความในใจของสือหยวนเฟิง

26/03/2025

2

บทที่ 2 ตัวปัญหา

26/03/2025

3

บทที่ 3 ไล่ออกมาเหมือนหมูเหมือนหมา

26/03/2025

4

บทที่ 4 ร่ำลา

26/03/2025

5

บทที่ 5 มหาวิทยาลัยชั้นนำ

26/03/2025

6

บทที่ 6 เดินทาง

26/03/2025

7

บทที่ 7 เช่าที่

26/03/2025

8

บทที่ 8 เริ่มต้นใหม่กี่ครั้งก็ไม่สาย

26/03/2025

9

บทที่ 9 พบหน้ากันอีกครั้ง

26/03/2025

10

บทที่ 10 กลยุทธ์การตลาด

26/03/2025

11

บทที่ 11 พันธมิตรฟาร์มหลิว

26/03/2025

12

บทที่ 12 ที่ดินเปลี่ยนมือ

26/03/2025

13

บทที่ 13 บ้านหลิว

26/03/2025

14

บทที่ 14 อบอุ่น

26/03/2025

15

บทที่ 15 ตั้งใจทำ

26/03/2025

16

บทที่ 16 ปีที่สาม

26/03/2025

17

บทที่ 17 ระบบฟาร์มรวน

26/03/2025

18

บทที่ 18 เด็กอมมือ

26/03/2025

19

บทที่ 19 หึงหวง

26/03/2025

20

บทที่ 20 มีเพียงหนึ่งเดียว

26/03/2025

21

บทที่ 21 ต้องการตัว

26/03/2025

22

บทที่ 22 ความสุข

26/03/2025

23

บทที่ 23 อาจต้องกลับไป

26/03/2025

24

บทที่ 24 ให้ความรู้รุ่นน้อง

26/03/2025

25

บทที่ 25 น้ำตกหลังสวนผลไม้

26/03/2025

26

บทที่ 26 หลานคนแรกของบ้าน

26/03/2025

27

บทที่ 27 นวัตกรรมจากอนาคต

26/03/2025

28

บทที่ 28 กตัญญูในฐานะลูกคนหนึ่ง

26/03/2025

29

บทที่ 29 แฝดหงส์มังกร

26/03/2025

30

บทที่ 30 เติบโตไปอีกขั้น

26/03/2025

31

บทที่ 31 งานเลี้ยงครบหนึ่งขวบ

26/03/2025

32

บทที่ 32 ช่วงเวลาพักผ่อน

26/03/2025

33

บทที่ 33 มีพี่น้องไม่ใช่เรื่องแปลก

26/03/2025

34

บทที่ 34 ผู้ช่วยตัวน้อย

26/03/2025

35

บทที่ 35 บทส่งท้าย ภารกิจส่งท้าย

26/03/2025