Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
5.0
ความคิดเห็น
5
ชม
10
บท

เธอสูญเสียเขาไปในคืนแต่งงาน...แต่ไม่นานหลังจากนั้น ชายแปลกหน้ากลับปรากฏตัว พร้อมหัวใจดวงเดิมที่เธอเคยมอบให้ใครคนหนึ่ง ในร่างใหม่ ที่รักเธอไม่ต่างจากเดิม

บทที่ 1 ความทรงจำที่ยังหายใจ

เสียงฝนตกเบา ๆ นอกหน้าต่างคล้ายบทกล่อมของค่ำคืน

ห้องหออบอวลด้วยกลิ่นกุหลาบขาว และแสงไฟอุ่นละมุนราวอยู่ในฝัน

กานต์ยืนอยู่ตรงหน้าเธอ ดวงตาจับจ้องด้วยแววตาที่ไม่อาจละไปไหน

มือของเขาเลื่อนมาถอดผ้าคลุมผมเจ้าสาวออกอย่างเบามือ ก่อนจะเอ่ยเสียงต่ำและนุ่มนวล

“รู้ไหมครับ ผมเคยคิดถึงภาพในวันนี้มาตลอด แต่พอเห็นคุณจริง ๆ ในชุดเจ้าสาว ผมกลับไม่แน่ใจว่ากำลังฝันอยู่หรือเปล่า”

นารายิ้มบาง ๆ ดวงตาเธอเป็นประกาย ปลายนิ้วแตะมือเขาเบา ๆ

ไม่มีคำพูดใดจำเป็นในตอนนั้น ความเงียบของหัวใจพูดแทนทุกอย่าง

“เหนื่อยไหมวันนี้”

เสียงทุ้มแผ่วเบาของกานต์ดังขึ้น ก่อนจะตามมาด้วยสัมผัสอ่อนโยนที่แตะลงบนไหล่นารา เขานั่งลงข้างเธอ พลางยื่นมือมาจับมือเธอไว้แน่น

“นิดหน่อยค่ะ แต่ตอนนี้หายแล้ว” นารายิ้มจาง ๆ ก่อนจะเอนศีรษะลงบนไหล่เขาอย่างไว้ใจ

กานต์ก้มหน้าลงจูบเบา ๆ ที่หน้าผากเธอ “ขอบคุณนะ ที่ยอมเดินมาจนถึงวันนี้ด้วยกัน”

“ฉันต่างหากที่ต้องขอบคุณ... ขอบคุณที่ไม่เคยปล่อยมือฉันเลย ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น”

กานต์ขยับกายเข้ามาใกล้ รั้งตัวเธอเข้าสู่อ้อมแขนแน่นขึ้น ลมหายใจเขาอุ่นอยู่ใกล้ใบหน้าเธอ ราวกับจะบอกให้รู้ว่า เขาอยู่ตรงนี้ อยู่เพื่อเธอ

“ให้ผมช่วยเปลี่ยนชุดนะครับ” เสียงเขานุ่มและจริงใจ

กานต์ช่วยปลดกระดุมชุดเจ้าสาวของเธอด้วยความทะนุถนอม ทุกการเคลื่อนไหวมีความระมัดระวัง และเต็มไปด้วยความรัก

เมื่อเธออยู่ในชุดซับในอันเบาบาง เขาจึงถอดเสื้อสูทของตัวเองออก

เขานั่งลงข้างเธอ คว้ามือที่คล้ายกับสั่นเบา ๆ ของเธอมากุมไว้แน่น

“ไม่ต้องกลัวนะครับ”

“ฉันไม่ได้กลัว...” เธอยิ้ม “…แค่ยังไม่เชื่อว่านี่คือความจริง”

กานต์โอบเธอเข้ามาแนบอก “ผมรักคุณนะ นารา”

“ฉันก็รักคุณค่ะ”

ปลายนิ้วของเขาไล้ไปตามแนวกรอบหน้าของเธออย่างแผ่วเบา ก่อนจะหยุดที่ริมฝีปากนุ่มที่เขารู้จักดี ริมฝีปากหญิงสาวที่เขารอจะเป็นเจ้าของเพียงผู้เดียวมาตลอดชีวิต

จูบแรก...แผ่วเบาและสั่นไหว

จูบที่สอง...มั่นคง อบอุ่น และเต็มไปด้วยความรัก

แขนของกานต์โอบกระชับคนในอ้อมกอดไว้แน่น ราวกับไม่ต้องการให้ช่วงเวลานี้ผ่านพ้นไป นาราซบหน้าแนบอกเขา ฟังจังหวะหัวใจที่เต้นเป็นจังหวะเดียวกับเธอ แล้วปล่อยให้อารมณ์นำพาทุกสิ่งทุกอย่างไปอย่างเนิบนุ่ม...ละมุนละไม

ไม่มีความเร่งรีบ มีเพียงความมั่นคงที่สะสมมาตลอดหลายปี

มืออันอบอุ่นสอดสัมผัสเข้าไปภายใต้ชุดที่บางเบาของนารา เขาลูบไล้สัมผัสผิวอันอ่อนนุ่มของเธออย่างทะนุถนอม ริมฝีปากร้อนผ่าวเคลื่อนวนขบเม้มลงมาตามซอกคอที่หอมกรุ่นของหญิงสาวในอ้อมกอด

นาราทำได้เพียงหลับตา สะกดกลั้นความเสียวซ่านของการถูกสัมผัสจากชายที่เธอรักมาเป็นเวลาเนิ่นนาน

..........

เสียงโทรศัพท์ดังแทรกเข้ามากะทันหัน

ชื่อ "อรดา" สว่างบนหน้าจอ

กานต์หงุดหงิดและไม่เต็มใจที่จะรับสายเรียกเข้านี้ ทว่านารากลับหยุดการกระทำของเขา และให้เขารับสายเจ้าปัญหานี้ก่อน

“ฮัลโหล…ว่าไงอรดา?”

เสียงปลายสายตื่นตระหนก

“ขอโทษที่โทรมากลางดึกค่ะคุณกานต์ แต่ฉันโทรติดต่อคุณนาราไม่ได้เลย ตอนนี้ฐานข้อมูลบริษัทโดนเจาะ ข้อมูลลูกค้ารั่วไหลหมดเลยค่ะ!”

"อะไรนะ" เขาหันมาสบตานารา

เธอพยักหน้าโดยทันที “กานต์ ไปค่ะ เราต้องไปดูเอง ข้อมูลเหล่านี้เป็นข้อมูลสำคัญจะให้เกิดความผิดพลาดไม่ได้”

..........

รถแล่นฝ่าสายฝนในค่ำคืนที่เงียบสงัด

มือของกานต์จับมือเธอไว้แน่น

“ไม่ต้องกังวลนะครับ ผมอยู่ตรงนี้”

"ก็ไม่รู้ว่าทำไมต้องเกิดเรื่องร้ายในคืนวันแต่งงานของเราแบบนี้ด้วย” เธอกระซิบตอบ ถึงแม้ว่ากานต์จะบอกเธอว่าไม่ต้องกังวล แต่ลึก ๆ แล้วเธอก็ยังไม่สามารถปล่อยวางเรื่องนี้ลงไปได้

ระหว่างที่รถเคลื่อนตัวไปอย่างรวดเร็ว

จู่ ๆ แสงไฟจากรถบรรทุกก็พุ่งเข้ามาจากด้านข้าง!

เสียงเบรก เสียงกระแทก เสียงทุกอย่างปะทะกันในวินาทีเดียว

โลกทั้งใบหมุนคว้าง ก่อนจะดับวูบลงในความมืด

นาราค่อย ๆ ลืมตา เสียงไซเรนดังแว่วอยู่ไกล ๆ

กลิ่นควันและแสงวูบไหวจากไฟฉุกเฉินทำให้สติของเธอค่อย ๆ กลับมา

ร่างกายปวดระบม แต่สิ่งแรกที่เธอคิดถึงคือคนข้างตัว

“กานต์...?” เธอเรียกชื่อเขาเสียงสั่น มือควานหาอย่างลนลาน

เขานอนแนบอยู่ข้างเธอ แขนยังโอบเธอไว้แน่น

เลือดจากหน้าผากเขาไหลช้า ๆ ริมฝีปากซีด และหายใจแผ่วจนแทบไม่ได้ยิน

“กานต์! ได้ยินไหม?!” เสียงเธอสั่นเครือ น้ำตารื้นขึ้นมาทันที

กานต์ขยับตัวเล็กน้อย ดวงตากะพริบช้า ๆ มองหน้าเธอ

“คุณ...ปลอดภัยไหม...เจ็บตรงไหนหรือเปล่า…”

“ไม่ต้องห่วงฉัน...คุณต่างหาก คุณเลือดออกเต็มไปหมดเลย!”

เธอรีบเอามือกดแผลเขาไว้ แม้จะตัวสั่นจนควบคุมไม่ได้

เสียงรถพยาบาลใกล้เข้ามา

นารากัดฟันพยายามประคองเขาไว้

“เดี๋ยวนะ กานต์...อย่าหลับนะ ได้ยินไหม...เดี๋ยวคนมาช่วยแล้ว”

“ไม่เป็นไร...คุณปลอดภัยก็ดีแล้ว…” เขาพูดแผ่วเบา ริมฝีปากแทบไม่ขยับ

“อย่าพูดแบบนั้น! คุณต้องไม่เป็นไร...กานต์ ได้ยินไหม?!”

เขาพยายามจะยิ้ม แต่ก็หมดแรง

แววตายังมองเธอไม่วาง ราวกับอยากแน่ใจว่าเธอปลอดภัยจริง ๆ

“ช่วยด้วย! ตรงนี้ค่ะ!” เธอตะโกนไปยังทีมกู้ชีพที่วิ่งเข้ามา

มือของเธอจับมือเขาแน่นไม่ยอมปล่อย

และในวินาทีนั้นเธอรู้แค่อย่างเดียวว่า...เธอไม่เคยกลัวอะไรเท่านี้มาก่อน

ทว่าร่างกายของเธอก็ได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง สติสัมปชัญญะที่มีเริ่มเลือนลาง ในที่สุดแสงสว่างตรงหน้าก็ดับมืดไป

.................

เสียงเครื่องวัดชีพจรดังแผ่วเบา เคล้ากับกลิ่นยาในห้องสีขาวสว่าง

ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่แล้ว นาราค่อย ๆ ลืมตาขึ้น ภาพพื้นเพดานจาง ๆ ค่อยชัดขึ้นทีละน้อย

สติของเธอกลับมาเพียงครึ่งหนึ่ง แต่หัวใจกลับเจ็บแน่นราวมีอะไรบางอย่างขาดหาย

ภาพสุดท้ายก่อนที่ทุกอย่างจะดับลง

คือใบหน้าของกานต์…เลือดเปื้อนหน้าเขา แขนยังโอบเธอไว้แน่น

และเสียงของเขา…ยังคงก้องอยู่ในหัว

“คุณปลอดภัยก็ดีแล้ว…”

แค่หลับตา เสียงนั้นก็ชัดเจนจนเจ็บ

ในระหว่างที่นารากำลังคิดทบทวน ประตูห้องก็เปิดออกเบา ๆ

ชายคนหนึ่งในชุดกาวน์สีขาวเดินเข้ามาช้า ๆ พร้อมสีหน้าที่จริงจังเกินกว่าที่ผู้ได้พบเห็นจะรู้สึกสบายใจ

“คุณนารา…” เสียงที่อ่อนโยนแต่ทุ้มหนักของหมอดังขึ้น

“คุณฟื้นขึ้นมาแล้ว ตอนนี้รู้สึกมีส่วนไหนที่ยังไม่ค่อยโอเคบ้างไหมครับ"

ได้ยินคำถามจากคุณหมอเจ้าของไข้ นาราทำได้เพียงสายศีรษะไปมาอย่างช้า ๆ โดยที่ไม่ได้ตอบอะไรกลับ

หมอหยิบชาร์ตรายงานผลการตรวจขึ้นมาอ่านคู่หนึ่ง หลังจากได้เซ็นชื่อรับรองก็กล่าวขึ้นว่า "สภาพร่างกายของคุณโดยรวมถือว่าไม่เป็นอะไรมาก มีเพียงแผลบาดเจ็บแค่เล็กน้อย"

หลังจากเปิดดูรายงานทางการแพทย์อีกครู่หนึ่งเขาก็วางมันไว้ที่เดิม

"แต่ทางที่ดีหมอจะให้คุณพักดูอาการอีกสักหนึ่งอาทิตย์ ถ้าไม่มีอะไรมากก็สามารถกลับบ้านได้ครับ” เขากล่าวอธิบาย

เธอหันไปมองเขา ดวงตายังพร่ามัวจากทั้งน้ำตาและฤทธิ์ยา เอ่ยถามทันทีโดยที่ไม่สนใจอาการบาดเจ็บของตัวเอง "หมอคะ กานต์....กานต์เขาเป็นยังไงบ้าง ตอนนี้อยู่ที่ไหนเขาปลอดภัยดีใช่ไหมคะ"

หลังจากได้ยินคำถามสีหน้าของหมอก็เปลี่ยนเป็นเคร่งเครียดขึ้นอย่างไม่สามารถปกปิดได้

“คุณกานต์...เขาบาดเจ็บสาหัสมากครับ” หมอพูดอย่างระมัดระวัง

“เราทำได้แค่ประคองชีวิตเขาไว้ให้ถึงตอนนี้ เขาเสียเลือดมาก มีบาดแผลภายในหลายจุด"

"เขา...คงรอให้คุณฟื้นขึ้นมา....”

หมอไม่ได้บอกโดยละเอียดเพราะไม่อยากให้กระทบต่อจิตใจของเธอ เพียงแต่คำพูดสุดท้ายของหมอ...คล้ายมีใครกดหัวใจเธอลงอย่างแรง

นาราขยับตัวลุกขึ้นทันที แม้ร่างกายจะยังอ่อนแรงจนแทบจะทรงตัวไม่อยู่

“ฉัน...ฉันอยากเจอเขา”

หมอพยักหน้า

“เขาอยู่ห้อง ICU ชั้นบน ผมจะพาคุณไป”

บุรุษพยาบาลเข็นรถเข็นเข้ามา ประคองเธอนั่งบนรถเข็นอย่างมั่นคง หลังจากย้ายขวดน้ำเกลือมายังรถเข็นเรียบร้อย ก็เข็นพาเธอออกไปอย่างช้าๆ

ห้อง ICU

นารานั่งอยู่บนรถเข็นหน้าห้อง มือแนบกระจก

ใบหน้าเธอซีดเซียว ดวงตาแดงก่ำจากการร้องไห้ไม่หยุด

เธอไม่อาจขยับรถเข็นเข้าไปข้างใน...เพราะใจยังไม่พร้อมจะเห็นความจริง

ในเงาสะท้อนของกระจก ไม่ใช่แค่ภาพของเธอที่สะท้อนออกมา

แต่คือเงาอีกเงาหนึ่ง รอยยิ้มของกานต์ในวันเก่า…อบอุ่น อ่อนโยน และเต็มไปด้วยความมั่นใจ

..........

สิบเก้าปีก่อน

หลังงานศพของพ่อแม่เธอจบลง

เด็กหญิงนาราในวัยแปดขวบยืนเงียบ ๆ อยู่หน้าบ้านหลังใหญ่

บ้านของครอบครัว “วรเมธินทร์” ที่เธอแทบไม่รู้จักใครเลย

เธอกำตุ๊กตาแน่น ไม่ยอมพูดกับใคร

จนกระทั่งมีเสียงฝีเท้าเบา ๆ เดินเข้ามาใกล้

เด็กชายคนหนึ่งในชุดนักเรียนยื่นมือมาตรงหน้า พร้อมรอยยิ้มอันอ่อนโยน

“ตั้งแต่นี้ไป ฉันจะอยู่ข้างเธอนะ”

เขาคือ กานต์ วรเมธินทร์

และในวันนั้น เขาคือคนแรกที่ทำให้เธอรู้สึกว่าโลกนี้ยังปลอดภัย

..........

ภาพความทรงจำเลือนหายไป

นารายังยืนอยู่ที่เดิม หน้าห้อง ICU

น้ำตาหยดใหม่ไหลลงบนกระจกเย็นเฉียบ

เธอสูญเสียพ่อแม่

และตอนนี้...เธอกำลังจะสูญเสียผู้ชายที่เคยยื่นมือให้เธอในวันที่โลกทั้งใบพังลง

หัวใจของนาราแตกสลาย กานต์คือสิ่งเดียว ที่ทำให้เธอยืนอยู่ตรงนี้ต่อไปได้

อ่านต่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ไม่เล่นแล้ว ฉันคือคุณนาย

ไม่เล่นแล้ว ฉันคือคุณนาย

zongheng
5.0

ในช่วงสามปีที่หลูเฉียนหนิงอยู่ข้างๆ เขา โจวเป่ยจิ้งคิดอยู่เสมอว่าเธอเป็นเพียงผู้ช่วยพิเศษ เธอต้องการเงินเพื่อรักษาอาการป่วยของแม่ และจะไม่มีวันจากตนเองไป ครั้งแล้วครั้งเล่า ให้เงินแลกกับความต้องการอย่างชัดเจน ในที่สุด เมื่อเขาเกือบจะหลงใหลนั้น หลูเฉียนหนิงก็ไม่อดทนอีกต่อไป "มีคนรักในใจแล้ว ยังนอนกับฉันทุกวัน คุณชั่วชัดๆ" เมื่อข้อตกลงการหย่าถูกโยนต่อหน้าต่อตา โจวเป่ยจิ้งก็ตระหนักว่าภรรยาลึกลับที่เขาแต่งงานเมื่อหกปีที่แล้วกลับคือเธอ? จากนั้นเป็นต้นมา เขาก็ขึ้นชื่อเป็นชายเจ้าชู้อละตามจีบภรรยาทั้งยังเอาเปรียบเธอ! เขาอุ้มเธอไว้ในอ้อมแขนด้วยทัศนคติที่เผด็จการและเอาใจเธออย่างเต็มที่ เมื่อทุกคนรังเกียจที่เธอมีภูมิหลังที่ต่ำต้อย เขาก็มอบทรัพย์สินและหุ้นของตระกูลทั้งหมดอย่างตรงๆ และเข้าไปอยู่บ้านของตระกูลหลู จู่ๆ เธอก็กลายเป็นประธานหลู ซึ่งเป็นเจ้าของทรัพย์สินนับไม่ถ้วน และทุกคนอิจฉา แต่โจวเป่ยจิ้งกลับตกลงไปในวังวนที่ใหญ่กว่านั้น...

อย่าไปยุ่งกับทายาทสาวลึกลับ

อย่าไปยุ่งกับทายาทสาวลึกลับ

Tripp Zakarison
5.0

อวิ๋นเจินอาศัยอยู่ในตระกูลอวิ๋นมาเป็นเวลา 20 ปี กลับพบว่าเธอเป็นลูกสาวปลอม พ่อแม่บุญธรรมของเธอวางยาเธอเพื่ออยากจะได้เงินมาลงทุน หลังจากที่อวิ๋นเจินรู้เรื่องนี้ เธอก็ถูกไล่กลับไปที่ชนบท จากนั้นเธอก็ค้นพบว่าตัวเองคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลเฉียวและมีชีวิตที่หรูหราสุด ๆ หลังจากกลับมา เธอได้รับความรักจากครอบครัวและมีชื่อเสียงโด่งดัง น้องสาวจอมปลอมใส่ร้ายอวิ๋นเจิน แต่เธอไม่คาดคิดว่าอวิ๋นเจินจะมีความสามารถต่างๆ เมื่อต้องเผชิญกับการยั่วยุ เธอได้แสดงความสามารถและทักษะต่างๆ มากมายเพื่อจัดการผู้รังแก มีข่าวลือกันว่าอวิ๋นเจินยังคงโสด และชายหนุ่มชื่อดังแห่งเมืองงก็ผลักเธอไปเข้ากำแพง "คุณนายกู้ ถึงตามราเปิดเผยตัวตนได้แล้วนะ"

เมียชังยอดรักนายหัวเถื่อน

เมียชังยอดรักนายหัวเถื่อน

เนื้อนวล
5.0

เพราะแอบรักกล้าตะวันมากนาน หวันยิหวาจึงทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้ครองรักกับเขา โดยมีมารดาของเขาเป็นผู้ให้การสนับสนุน แต่สำหรับกล้าตะวันแล้ว หวันยิหวาคือนางมารร้ายที่ทำให้เขากับคนรักต้องเลิกรากัน ดังนั้นทุกวินาทีหลังจากงานวิวาห์นี้จบลง หวันยิหวาจะต้องได้รู้จักกับนรกอเวจีปอยเปตอย่างถ่องแท้เลยทีเดียว “อา... อ๊า...อา...” ลำคอระหงถูกซุกไซ้และดูดเม้ม เสื้อผ้าถูกดึงทึ้งออกไปจากร่างกาย จนในที่สุดก็เปลือยเปล่า กล้าตะวันเลียลงมาที่ไหปลาร้า และมาซบหน้าคลุกเคล้ากับร่องอกอวบ เขาดอมดมกลิ่นสาปสาวอย่างหิวกระหาย ขณะที่ฝ่ามือหนาวางทาบลงกับเต้านมอวบอัดข้างซ้ายของหล่อน “อา... อ๊า... ซี๊ดดดด” หล่อนเผยอปากครางลั่น เมื่อปทุมถันถูกฟอนเฟ้นบีบเคล้าหนักหน่วง ปลายนิ้วแข็งแรงถูไถเม็ดเต่งอย่างเมามัน หล่อนดิ้นเร่าๆ หยัดหน้าอกขึ้นหาสัมผัสจากฝ่ามืออบอุ่นด้วยความกระตือรือร้น

ฉ่ำรักเมียนักธุรกิจ

ฉ่ำรักเมียนักธุรกิจ

แหวนก้อย
5.0

‘ทริปฮันนิมูนที่ไม่ได้มีแค่เรา แต่ฉันและเขายังมีผู้ร่วม ทริปเข้ามาสร้างสีสันอีกมากมาย’ หลังแต่งงาน ตฤณก็พาภรรยาสาววัยละอ่อนอย่างยี่หวาไปฮันนิมูนเหมือนคู่สามีภรรยาคู่อื่น ๆ แต่การเดินทางไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์กับสามีผู้เป็นนักธุรกิจในครั้งนี้ กลับทำให้ยี่หวาได้รู้ว่าตฤณสามีของเธอมีรสนิยมทางเพศแบบไหน และที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นคือ เขาทำให้เธอได้รู้จักตัวตนของตัวเองอย่างที่เธอไม่คิดว่าจะได้รู้จักด้วยซ้ำ ตฤณจะพายี่หวาไปฮันนิมูนที่ไหน อย่างไร และกับใคร ติดตามอ่านได้ใน “ฉ่ำรักเมียนักธุรกิจ” แนะนำตัวละคร ยี่หวา : สาวสวยวัย 24 ปี ผู้มีผิวขาว และรูปร่างอวบอัด แต่น่าทะนุถนอม นิสัยอ่อนหวาน ว่าง่าย แต่เป็นคนอยากรู้อยากลอง ยี่หวาเพิ่งจะรู้ว่าสิ่งที่ตฤณทำกับเธอในห้องหอนั้นมันก็แค่น้ำจิ้ม เพราะเมื่อเดินทางไปฮันนิมูนกับตฤณจริง ๆ เธอกลับได้เรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ จนเธอติดอกติดใจอย่างยากจะถอนตัว สำหรับยี่หวาแล้ว 'คืนเข้าหอที่เคยคิดว่าเด็ด ยังไม่เผ็ดเท่าทริปฮันนิมูนที่สามีหนุ่มจัดให้' ตฤณ : นักธุรกิจหนุ่มวัย 34 ปีหนุ่มลูกเสี้ยว บ้างาน แต่เวลาคลายเครียดก็สนุกสุดเหวี่ยง โดยเฉพาะเรื่องเซ็กส์ ตฤณหมั้นหมายกับยี่หวาตามความเห็นชอบของผู้ใหญ่เพราะถูกใจในความน่ารัก แต่ยิ่งไปกว่านั้นคือเพราะยี่หวาเป็นเด็กดี และไม่เคยดื้อกับเขาเลยสักครั้ง ว่านอนสอนง่ายแบบนี้สิ ถึงจะใช้ชีวิตคู่ไปด้วยกันตลอดรอดฝั่ง

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ