Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
หว่ออ้ายหนี่...ท่านประธานลูกติดคนนี้คือที่

หว่ออ้ายหนี่...ท่านประธานลูกติดคนนี้คือที่

ต้ายวี่

5.0
ความคิดเห็น
ชม
6
บท

หลิวชิงเฟยดาราสาวในยุคปัจจุบัน กำลังเข้าฉากบู๊ที่ต้องปีนลงจากตึก ความจริงแล้วเธอควรจะใช้ตัวแสดงแทน ทว่าดาราสาวอยากท้าทายความสามารถของตนเอง ความไม่ชำนาญจึงให้ทุกอย่างพลาด!!!...นอกจากจะไม่ได้ท้าทายแล้วเธอกลับต้องจบชีวิตลง! แต่ทว่าวิญญาณกลับไม่ยอมไปยังปรโลก ไม่รู้เพราะเหตุใดเธอจึงมาอยู่ในร่างของหลิวชิงเฟย หญิงสาวที่มีชื่อเดียวกับเธอ นอกจากนั้นใบหน้าก็ยังงดงามเหมือนกัน แต่นิสัยกลับต่างกันราวฟ้ากับเหว ชิงเฟยผู้นี้มีนิสัยร้ายกาจเห็นแก่ตัวเป็นอย่างมากจนทำให้ครอบครัวต้องล่มจม หลิวชิงเฟยผู้นี้ยังมีพี่สาวชื่อหลิวจิ้งเฟย และหลานชายชื่อหลิวซานอีกด้วย เดี๋ยวก่อนนะ...เหตุใดตัวละครเหล่านี้มันช่างคุ้นหูเหลือเกิน หลิวชิงเฟยผู้นี้มิใช่ตัวประกอบหญิงที่ต้องตายเพราะถูกพระเอกที่เป็นผู้มีอิทธิพลติดหนึ่งในสามของนครเซียงไฮ้ฆ่าตายหรอกหรือ คนเคยตายมาแล้วหนึ่งครั้ง ย่อมไม่อยากตายเป็นครั้งที่สอง แต่เธอจะทำอย่างไรดี ในเมื่อคำสั่งเสียของพี่สาวผู้วายชนม์ต้องการให้เธอพาหลานชายไปหาบิดาของเขา ถ้าไปก็ต้องถูกเขาฆ่าตาย แต่ถ้าไม่ไปวิญญาณหลิวจิ้งเฟยก็คงไม่ได้ไปสู่สุคติ มองไปทางไหนก็เหมือนจะไม่มีทางเลือกเลย หลิวชิงเฟยคิดหนักเหลือเกิน เธอควรเลือกทางไหนดี...

บทที่ 0 บทนำ โชคชะตา

ในยามพลบค่ำดวงตะวันค่อยๆ ลาลับท้องฟ้ามืดครึ้ม ผู้คนสัญจรไปมาเริ่มน้อยลงก่อนจะจางหายไป มีเพียงแสงไฟสลัวตามสองฝั่งข้างทาง ริมฟุตบาทของถนนสายหนึ่งที่ติดอยู่กับแม่น้ำห่างเพียงระเบียงกั้น สะท้อนให้เห็นเงาของหญิงสาวคนหนึ่งกำลังเดินทอดน่องไปเรื่อย ๆ อย่างไร้จุดหมาย

หญิงสาวร่างผอมบางในชุดเดรสชีฟองสีขาวสวมหมวกไหมพรมสีขาว เดินไปตามฟุตบาตก่อนจะมาหยุดอยู่บนสะพานข้ามฝั่งแม่น้ำ ดวงตาเศร้าหมองเหม่อลอยทอดมองไปด้านหน้าอย่างไร้ทิศทาง

หากมองดูใกล้ๆ คงเห็นว่าดวงตาของเธอบวมแดงหลังจากผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก ใบหน้าที่เคยงดงามผุดผ่องนั้นซีดเซียวซูบตอบไร้สีเลือดฝาดอย่างเห็นได้ชัดริมฝีปากที่เคยแดงระเรื่อซีดขาวราวกับกระดาษ

ที่ผ่านมาราวกับว่าโชคชะตาเล่นตลกกับชีวิตของเธอ เมื่อปีก่อนเธอป่วยอาการเริ่มทรุดหนักเมื่อไปตรวจที่โรงพยาบาล กลับพบว่าเธอเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายอาจอยู่ได้ไม่เกินสองปี

นั่นเสมือนกับฝันร้ายชีวิตที่กำลังราบรื่นวาดฝันไว้อย่างดีกับคนรักที่คบกันมาถึงห้าปี เธอตั้งใจไว้ว่าจะแต่งงานและมีลูกกับเขาชีวิตครอบครัวของเธอก็จะสมบูรณ์ เติมเต็มชีวิตในอดีตที่ขาดหาย

“ไม่เป็นไรผมจะคอยอยู่ข้างๆ ดูแลคุณเอง”

คำพูดนั้นของเขาทำให้เธอยังคงมีชีวิตต่อไปอย่างมีความสุข เธอเริ่มเข้ารับการรักษาแม้ว่าจะไม่เห็นความหวังที่ปลายทาง แต่เธอก็ยังคงมีกำลังใจที่จะใช้ชีวิตต่อไปกับเขาแม้ว่าสิ่งที่วาดฝันไว้จะไม่เป็นอย่างที่คิด หากแต่เขาเป็นคนเดียวที่เป็นที่พึ่งสุดท้ายและเป็นกำลังใจในการใช้ชีวิตของเธอ

เธอชื่อหลินฟาง เป็นเด็กกำพร้าไร้ญาติขาดมิตร ตั้งแต่จำความได้เธอก็ใช้ชีวิตอยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เธอต้องใช้ความพยายามอย่างหนักกว่าคนอื่นกว่าจะก้าวขึ้นมาถึงจุดนี้

หลังจากที่เธอเรียนจบเธอก็ได้ทำงานในบริษัทใหญ่โตมีตำแหน่งหน้าที่การงานที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยความที่เธอเป็นคนขยันและทำงานดีละเอียดรอบคอบ อายุเพียงยี่สิบห้าปีเธอก็ได้ขึ้นเป็นหัวหน้าเป็นที่น่าอิจฉาของคนอื่น ๆ พวกเขาทำงานมาทั้งชีวิตยังไม่ได้เลื่อนตำแหน่งเลย

แต่กว่าเธอจะมาถึงจุดนี้ได้ก็เพราะว่าเธอมีกำลังใจที่ดี จงเหวินคนรักที่คอยอยู่เคียงข้างเธอมาตลอดห้าปี เธอกับเขาคบกันตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย ทางบ้านของเขามีฐานะปานกลาง แต่เขาก็พยายามช่วยเหลือให้กำลังใจเธอมาตลอด ทั้งสองฝ่าฟันอุปสรรคมาด้วยกันมากมาย

หลินฟางรู้สึกว่าเขาเป็นคนดีมากเป็นที่พึ่งเดียวในชีวิตเธอ เธอจึงตั้งใจว่าหลังจากที่การงานมั่นคงเธอจะแต่งงานและมีลูกกับเขามีครอบครัวที่มีความสุข

แต่แล้วชีวิตในวัยยี่สิบหกปีของเธอกลับพังทลายลงเมื่อเธอตรวจพบว่าเธอเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายอยู่ได้ไม่เกินสองปี จึงทำให้เธอต้องออกจากงานมารักษาตัว เธอคิดว่าชีวิตของเธอนั้นยังโชคดีที่มีจงเหวินคนรักที่คอยดูแลอยู่ข้างๆ แต่โชคชะตากลับเล่นตลกกับเธออีกครั้ง

‘ที่รักทำอะไรอยู่คะ ที่เรานัดกันว่าจะไปดินเนอร์เย็นนี้ฉันจองโต๊ะที่ดาดฟ้าของโรงแรมไว้เรียบร้อยแล้วนะคะ’

‘ได้ครับผมจะรีบไป ผมเองก็คิดถึงคุณจะแย่แล้ว’

ข้อความพวกนั้นแจ้งเตือนขึ้นมาบนหน้าจอโทรศัพท์ของคนที่เธอรัก หลินฟางทรุดตัวลงกับพื้นขบเม้มริมฝีปากแน่นน้ำตาไหลอาบสองพวงแก้มอย่างห้ามไม่ได้ เธอไม่คิดว่าคนรักที่คบกันถึงห้าปีจะนอกใจเธอ

เธอยังคงคิดเข้าข้างตัวเองว่าข้อความนั้นอาจจะมีใครบางคนส่งผิดมาก็ได้

ก๊อก ก๊อก

เสียงเคาะประตูดังขึ้นทำให้หลินฟางได้สติขึ้นมาอีกครั้ง เธอวางโทรศัพท์ของเขาไว้บนโต๊ะที่เดิม มือเรียวเล็กยกขึ้นมาปาดน้ำตาบนใบหน้าก่อนจะเดินไปเปิดประตู

“จงเหวินคุณกลับมาแล้วเหรอคะ” หลินฟางปั้นหน้ายิ้มให้กับเขา

“ครับวันนี้ผมซื้อวัตถุดิบมาทำกับข้าวให้คุณโดยเฉพาะ มีประโยชน์สำหรับคนป่วยทั้งนั้นเลย คุณจะได้แข็งแรงและหายไวๆ จะได้อยู่กับผมไปนาน ๆ” ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งพูดพร้อมกับยิ้มอย่างอ่อนโยนให้กับหลินฟาง

“จริงสิเย็นนี้ผมต้องไปงานด่วนคงอยู่กับคุณไม่ได้คุณอยู่คนเดียวได้ใช่ไหม พรุ่งนี้ผมจะรีบกลับมานะ”

จงเหวินพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน หากแต่ทำให้คนฟังรู้สึกสะอึกขึ้นมา

หลินฟางกลืนน้ำลายลงคอพยายามกดกั้นน้ำตาที่พร้อมจะไหลพรากออกมาได้ทุกเมื่อ

“ค่ะ” หญิงสาวตอบรับเพียงสั้น ๆ ก่อนจะยกยิ้มเล็กน้อยให้กับเขา

โรงแรมแห่งหนึ่งติดริมแม่น้ำบรรยากาศค่อนข้างดีทีเดียว มองโดยรอบเห็นวิวทิวทัศน์แม่น้ำที่กว้างใหญ่ตึกน้อยใหญ่เรียงรายเป็นแถว ในยามเย็นแสงไฟหลากหลายสีสันสะท้อนบนแม่น้ำยิ่งมองดูสวยงามจนไม่อาจละสายตา

บนดาดฟ้าของโรงแรมแห่งนี้ได้จัดโต๊ะสำหรับทานดินเนอร์ไว้สำหรับลูกค้าวีไอพี ซึ่งหนึ่งในนั้นก็ปรากฏร่างของชายหนุ่มร่างสูงโปร่งที่ดูคุ้นตาสวมสูทสีดำดูภูมิฐาน ฝั่งตรงข้ามเขาเป็นหญิงสาวสวยในชุดเดรสเกาะอกสีแดงคลุมทับด้วยเสื้อสูทสีขาวดูมีระดับ หากมองดูดี ๆ แล้วผู้หญิงคนนี้คงมีฐานะอยู่ไม่น้อย ใบหน้าของเธอถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางราคาแพง ริมฝีปากสีแดงสดยกยิ้มกว้างให้กับชายหนุ่มตรงหน้าตลอดเวลา

“อร่อยไหมคะ มื้อนี้ฉันสั่งแต่ของโปรดของคุณทั้งนั้นเลยนะ”

“ขอบคุณนะครับ” เขาเองก็ยิ้มอย่างอ่อนโยนให้กับเธอเช่นกัน

ทั้งสองนั่งทานอาหารด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มอย่างมีความสุข โดยไม่เห็นว่ามุมหนึ่งมีหญิงสาวคนหนึ่งยืนกำมือแน่น ใบหน้าซีดเซียวเปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำตาริมฝีปากขบเม้มจนห้อเลือด ก่อนจะตัดสินใจเดินไปยังโต๊ะที่คนรักของเธอนั่งอยู่กับหญิงสาวที่เธอไม่คุ้นตา

“นี่มันอะไรกันคะจงเหวิน แล้วผู้หญิงคนนี้เป็นใคร” หลินฟางเอ่ยถามเสียงสั่น เธอไม่คิดว่าคนที่นั่งอยู่ตรงนี้จะเป็นเขา

จงเหวินเบิกตากว้างอย่างตกใจ เช่นเดียวกับหญิงสาวชุดแดงตรงหน้าที่ขมวดคิ้วอย่างสงสัย

“เขาเป็นแฟนของฉัน แล้วเธอเป็นใคร?”

ชายหนุ่มคนเดียวในนั้นถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะลุกขึ้นจับแขนเล็กของหลินฟางไว้

“ผมขอโทษนะ แต่ผมหมดรักคุณแล้วเราเลิกกันเถอะ”

เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาอย่างไร้เยื่อใย ยิ่งทำให้หลินฟางรู้สึกสั่นสะท้านไปทั้งร่าง เธอกลืนน้ำลายเหนียวข้นลงคอสะบัดแขนเล็กของตัวเองออกจากมือใหญ่ก่อนจะค่อย ๆ ถอยหลังแล้วเดินออกมา

โลกทั้งใบของเธอพังทลายลงต่อหน้าต่อตาเหลือเพียงความสิ้นหวังและโดดเดี่ยว ในหัวอื้ออึงไปหมดมีเพียงความคิดที่วนเวียนไปมาอยู่อย่างนั้น

ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ที่เธอเดินออกมาจากตรงนั้นพอรู้ตัวอีกทีก็มาอยู่บนสะพานแห่งหนึ่งเสียแล้ว ดวงตาของเธอวางเปล่าทอดมองไปด้านหน้าอย่างไร้จุดหมาย ที่พึ่งสุดท้ายก็ไม่เหลือแล้วต่อไปเธอจะใช้ชีวิตอย่างไร เธอสูญสิ้นทุกสิ่งอย่างไม่เหลือแล้วไม่เหลืออะไรเลย

น้ำในแม่น้ำแห่งนี้คงเย็นพอที่จะทำให้ร่างกายของเธอผ่อนคลายกับสิ่งเลวร้ายที่พบเจอมาได้ ต่อไปเธอจะได้ไม่ต้องมาเจอเรื่องพวกนี้อีก ทุกสิ่งอย่างในชาตินี้ก็ให้จบลงเพียงเท่านี้เธอแบกรับมันไม่ไหวอีกแล้ว

หญิงสาวค่อย ๆ หลับตาลงอย่างช้า ๆ ก่อนจะปลดปล่อยตัวเองดิ่งลงสู่ห้วงน้ำอันมืดมิดเวิ้งว้าง ร่างผอมบางค่อยๆ จมลงสู่ก้นบึ้งความเย็นยะเยือกของน้ำในยามค่ำคืนโอบล้อมร่างของเธอไว้ ภาพความทรงจำอันแสนหวานรอยยิ้มและเสียงหัวเราะภาพเหล่านั้นย้อนกลับคืนมาในหัวก่อนจะเลือนหายไป

‘ลาก่อนโลกที่แสนจะโหดร้ายใบนี้’

ความเย็นยะเยือกแทรกซึมเข้าสู่ประสาทสัมผัส หญิงสาวค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาอีกครั้งก็พบว่าบรรยากาศรอบตัวเงียบสงัดทั้งยังมืดมิดไร้ซึ่งแสงสว่าง

หลินฟางย่นคิ้วอย่างฉงนพลางย้อนคิดถึงเรื่องราวที่เพิ่งเกิดขึ้น

“ที่นี่คงเป็นยมโลกสินะ!” เธอถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนหน้านี้เธอฆ่าตัวตายโดยการกระโดดลงแม่น้ำแต่ไฉนจึงมาอยู่ที่นี่ได้ หากที่นี่ไม่ใช่ยมโลกแล้วจะเป็นที่ใดได้อีก วิญญาณของหลินฟางล่องลอยไปเรื่อย ๆ สู่เส้นทางที่มืดมิดอันยาวไกลอย่างไร้จุดหมาย

“เจ้าหมดอายุขัยจากโลกนั้นแล้ว ตอนนี้ก็คงถึงเวลาที่เจ้าจะต้องหวนคืนกลับสู่ที่เดิมที่เจ้าจากมา ดังคำอธิษฐานที่เจ้าเคยร้องขอ” เสียงทุ้มแหบที่คาดว่าน่าจะเป็นเสียงของชายสูงวัยดังขึ้นอย่างปริศนาก้องไปทั่วบริเวณนั้น จนทำให้หลินฟางต้องหยุดชะงักหันไปมองตามเสียงนั้นแต่ก็เห็นเพียงความมืดมิด

“นั่นใคร” เธอเอ่ยถามด้วยความสงสัยเธอเคยอ้อนวอนขอให้มีชีวิตด้วยเหรอ แต่ทว่าเสียงนั้นยังคงพูดต่อ

“เจ้ารู้แต่เพียงว่ายังคงมีใครบางคนเฝ้าอ้อนวอนขอให้เจ้าตื่นขึ้นมาในทุกคืนวัน ตัวข้าแม้นจะเป็นเทพผู้ชี้ชะตาแต่ก็ทนถูกคนผู้นั้นเฝ้าอธิษฐานจิตอยู่ทุกวี่วันจนข้ามิอาจปล่อยไปได้ จึงต้องมาเร่งรับตัวเจ้ากลับไป”

ตาแก่นี่พูดอะไรเธอไม่เห็นจะเข้าใจเลย แล้วใครบางคนคือใครกัน? เธอก็เพิ่งอกหักมาคนที่เธอรักนอกใจเธอถึงขนาดนี้จะมีใครมาเฝ้าอธิษฐานจิตรอเธออยู่อีก บ้าไปแล้วแน่ ๆ

ยังไม่ทันที่เธอจะได้ไถ่ถามอะไรให้มากความ แสงสว่างจ้าวูบหนึ่งก็พุ่งเข้ามายังใบหน้าของเธออย่างเต็มแรง ภาพความจำเมื่อครั้งอดีตไหลเวียนเข้ามาในหัว จวบจนวันที่ตัวเธอในอดีตกับครอบครัวถูกใส่ร้ายว่าเป็นกบฏและวางแผนฆ่าสตรีผู้หนึ่งซึ่งเป็นชายารองของสามี ทำให้เธอและครอบครัวต้องโทษประหารชีวิตทั้งตระกูล

เมื่อจำอดีตได้หลินฟางถึงกับนิ่งอึ้งทรุดตัวลงไปกับพื้น เรื่องราวหนักหนาถึงเพียงนี้จะให้เธอกลับไปทำไมอีก

“ท่านเทพผู้ชี้ชะตาโปรดเมตตา ฉันไม่อยากกลับไปอีกแล้ว ฉันไม่อยากเผชิญหน้ากับสิ่งที่เลวร้ายอีกแล้ว ขอร้องอย่าส่งฉันกลับไปเลย” หลินฟางร้องไห้อ้อนวอนแต่เสียงทุ้มแหบนั้นกลับพูดขึ้นมาอย่างอ่อนโยน

“อดีตสามารถแก้ไขและเปลี่ยนแปลงได้ ทุกอย่างขึ้นอยู่ที่ตัวของเจ้าเอง”

“แก้ไขเหรอ...แก้ไขอย่างไร?”

“ไปได้แล้ว!”

“เดี๋ยวสิ! บอกฉันมาก่อน…”

วูบ

สิ้นเสียงของชายชราผู้นั้นก็เกิดลมแรงวูบหนึ่งราวกับคนผู้นั้นเพียงใช้มือโบกเบา ๆ สติของหลินฟางก็ดับวูบไป

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ ต้ายวี่

ข้อมูลเพิ่มเติม
หวนคืนมิลืมรัก

หวนคืนมิลืมรัก

โรแมนติก

5.0

นางเคยมอบความรัก ความภักดี ให้เขาด้วยความจริงใจ แต่เขากลับตอบแทนนางด้วยการทรยศ หักหลัง สกุลของนางต้องล่มสลาย ยามที่สวรรค์มอบโอกาสให้นางได้หวนคืนชะตา นางจึงตั้งมั่นไม่ขอหวนกลับไปยุ่งเกี่ยวพัวพันกับเขาอีก เพียงแต่นางพยายามหลีกหนี คนหน้าหนากลับพยายามไล่ตาม ใช้ความเจ้าเล่ห์ทั้งหลอกล่อบีบคั้นจนนางไร้หนทางหลีกหนี ในเมื่อมิอาจหลีกหนีเช่นนั้นครั้งนี้นางก็จะทำให้เขาได้รู้ว่า สตรีสกุลหลิวจะไม่ยอมโง่เขลาเป็นครั้งที่สอง "กู่เหว่ยหยวน ตลอดชีวิตของข้า สิ่งที่ข้าเสียใจที่สุด คือมอบใจให้บุรุษชั่วช้าเช่นเจ้า หากสวรรค์มีจริง ไม่ว่าจะกี่ภพชาติอย่าได้พบกันอีกเลย"

หนังสือที่คุณอาจชอบ

เจ้าสาวจำยอม สามีเศรษฐีนอกสายตา

เจ้าสาวจำยอม สามีเศรษฐีนอกสายตา

Roana Javier
4.9

ชูจี้ถูกเก็บไปอุปการะตั้งแต่ยังเด็ก ซึ่งถือเป็นความฝันของเด็กกำพร้าทั่วไปอย่างชูจี้ แต่ชีวิตหลังจากนั้นมันไม่ได้มีความสุขดั่งที่ชูจี้คิดฝันไว้เลย เธอต้องอดทนถูกเย้ยหยันและการทำทารุณจากแม่บุญธรรมของเธอ แต่ก็ยังโชคดีที่เธอได้รับความเมตตาจากคนใช้สูงวัยคนหนึ่งในบ้านหลังนั้น ชึ่งเป็นคนคอยดูแลและเอาใส่เธอเหมือนแม่แท้ ๆ ของเธอ จนกระทั่งคนใช้จากไปด้วยอาการป่วย ชูจี้ก็ถูกบังคับให้แต่งกับผู้ชายที่ไม่เอาการเอางานแทนลูกสาวแท้ ๆ ของพ่อแม่บุญธรรมของเธอเพื่อชดใช้ค่ารักษาพยาบาลของคนใช้ เรื่องราวจะเป็นเช่นเดียวกับซินเดอเรลล่าหรือไม่? อย่างไรก็ตาม ชายที่เธอจะแต่งงานด้วยนั้นไม่เหมือนเจ้าชายเลยสักนิดนอกจากรูปร่างหน้าตาของเขาที่สามารถเทียบเท่ากับเจ้าชายได้เท่านั้นเอง ลู่เหยี่ยนเป็นลูกชายนอกสมรสของครอบเศรษฐีครอบครัวหนึ่ง เขาใช้ชีวิตไปวันๆ (พอลอดไปด้วยค่ะ)มาโดยตลอด ที่เขาตกลงแต่งกับชูจี้ก็เพราะอยากจะทำให้ความปรารถนาสุดท้ายของแม่ของเขาสมหวังเท่านั้น แต่ในคืนวันแต่งงาน เขากลับพบว่าเจ้าสาวคนนี้มีพฤติกรรมที่ผิดกับที่เคยได้ยินได้ฟังมา โชคชะตาจะบันดาลให้พวกเขาเป็นอย่างไร และลู่เหยี่ยนจะเป็นดั่งที่เราคิดหรือไม่ สิ่งที่น่าประหลาดใจคือลู่เหยี่ยนมีหลายอย่างที่คล้ายๆ กับมหาเศรษฐีที่ใหญ่ที่สุดในเมืองนี้อย่างพิลึก สุดท้ายแล้ว ลู่เหยี่ยนจะสามารถรู้ได้หรือไม่ว่าชูจี้ คือเจ้าสาวจำเป็นที่ต้องได้แต่งงานแทนพี่สาวของเธอ การแต่งงานของพวกเขาจะเป็นจุดเริ่มต้นเรื่องราวสุดโรแมนติกหรือวิบากกรรมของชีวิต โปรด ติดตามและค้นหาชีวิตและเรื่องราวของทั้งสองคนด้วยกันเถอะ

Happy ที่โสดอีกครั้ง

Happy ที่โสดอีกครั้ง

STARMOON PTE. LTD.
4.9

แต่งงานกันเป็นเวลาสามปี เสิ่มชูคิดว่าต่อให้ป๋อมู่เหนียนจะใจแข็งสักแค่ไหนก็ควรจะอ่อนลงได้ด้วยความรักที่เธอมีกับเขามาโดยตลอด แต่เมื่อเขาบังคับให้เธอคุกเข่าลงในหอบรรพบุรุษของตระกูล เสิ่มชูถึงตระหนักว่าแท้ที่จริง ผู้ชายคนนี้ไม่มีหัวใจ คนที่ไม่มีหัวใจ เธอยังจะอาลัยอาวรณ์อยู่อีกทำไม? ดังนั้น เมื่อป๋อมู่เหนียนขอให้เธอเลือกระหว่างการคุกเข่าและการหย่าร้าง เสิ่มชูจึงเลือกการหย่าร้างไปโดยไม่ได้ลังเล เธอยังสาวยังสวยอยู่เช่นนี้ ทำไมจะต้องมาเสียเวลากับไอ้ผู้ชายคนนี้ด้วย!มิสู้กลับบ้านไปสืบทอดมรดกพันล้านของตระกูลจะดีกว่า

สามี ข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง

สามี ข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง

จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ
5.0

หวังฉีหลิน อายุ 25 ปีสาวเจ้าหน้าที่การเกษตรและพ่วงมาด้วยเจ้าของสวนสมุนไพรรายใหญ่ เสียชีวิตกระทันหันหลังจากกลับมาจากท่องเที่ยวพักผ่อนและเธอได้เก็บเอาก้อนหินสีรุ้งมาจากพระราชวังโปตาลามาได้เพียงสามเดือน ด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ หากตายไปแล้วก็ไม่เป็นไรเพราะเธอเองเติบโตมาอย่างโดดเดี่ยวในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าจนกระทั่งมีอายุได้ 18ปี ถึงได้ออกไปใช้ชีวิตด้วยตัวเองตอนนี้เธอ ไม่มีอะไรให้ต้องห่วงแล้ว เพียงแต่เสียดายที่เธอยังไม่ได้ทำตามความฝันของตัวเองเลย เฮ้อ ชีวิตคนเรานั้นมันแสนสั้น อายุ25 แฟนไม่เคยมี สามียังอยากได้ ไหนจะลูกๆที่ฝันอยากจะมีอีก คงต้องหยุดความหวังและความฝันเอาไว้เท่านี้ เหนือสิ่งอื่นใด ตายแล้วตายเลยจะไม่ว่า แต่ดันตื่นขึ้นมาในร่างหญิงชาวนายากจน ชื่อหวังฉีหลินเช่นเดียวกับเธอพ่วงมาด้วยภาระชิ้นใหญ่ อย่างสามีที่ป่วยติดเตียงและลูกชายฝาแฝดทั้งสอง แถมยังมีภาระชิ้นใหญ่ม๊ากกกมาก กอไกล่ล้านตัวอย่างพ่อแม่สามีและน้องๆของสามี ที่โดนบ้านสายหลักกดขี่ข่มเหงรังแก เอารัดเอาเปรียบและบังคับแยกบ้านหลังจากที่สามีของนางได้รับบาดเจ็บสาหัส สาเหตุที่หวังฉีหลินต้องมาตายไปนั้นเพราะโดนลูกสะใภ้บ้านสายหลักผลักตกเขาระหว่างที่กำลังยื้อแย่งโสมคนที่หวังฉีหลินขุดมาได้

ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย

ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย

จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ
5.0

เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ