Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
ทาสรักมาเฟียเถื่อน

ทาสรักมาเฟียเถื่อน

B.J.BEN

5.0
ความคิดเห็น
ชม
5
บท

เขา...คือมาเฟียเถื่อน ผู้เย็นชา โหดเหี้ยม และไม่เคยปล่อยให้ใคร “รอด” หากข้ามเส้นของเขา เธอ...คือสาวสวยธรรมดา ที่ดันเข้าไปเห็น "บางอย่าง" ในคลับใต้ดินของเขาเข้าโดยไม่ได้ตั้งใจ เพื่อ “ปิดปาก” เขาใช้ร่างกายของเธอเป็นข้อแลกเปลี่ยน แต่แทนที่จะลบเธอจากชีวิต... เขากลับ ขังเธอไว้ในหัวใจ แบบถอนตัวไม่ขึ้น “ฉันจะไม่ปล่อยให้เธอหนีไปไหนอีกแล้ว เธอต้องอยู่...เพื่อให้ฉันรัก และปั๊มลูกทุกคืน!” จากเพียงแค่ “ทาสรักในเตียงมาเฟีย” เขากลับรักเธอ...จนกลายเป็นสามีที่คลั่งรักที่สุดในโลก ท่ามกลางแรงรัก อารมณ์ดิบ และคำว่า ‘กรรม’ ที่ผูกมัดทั้งสองไว้ เรื่องราวของเขาและเธอจะลงเอยเช่นไร... เมื่อหัวใจของคนเถื่อน ถูกผู้หญิงคนเดียวทำให้ “อ่อนโยน” ได้เพียงแค่รอยยิ้มของเธอ

บทที่ 1 1

1

เสียงเบสดังสะเทือนจากชั้นใต้ดินของคลับหรูย่านทองหล่อ ที่ภายนอกเหมือนคลับธรรมดา แต่เบื้องหลังกลับเป็นรังลับของคนระดับ ‘โลก’ ที่ไม่มีใครกล้าล่วงล้ำ

เมษา สาวออฟฟิศหน้าหวานใส่แว่น ที่ไม่เคยคิดจะเหยียบย่างเข้ามาในโลกแบบนี้ ถูกลากมาด้วยคำยุของเพื่อนสาวที่บอกว่า ‘คลับนี้เด็ดมาก’

เธอแยกตัวเข้าห้องน้ำแต่เดินหลงทาง พอลองเปิดเข้าไป กลับเข้าห้องผิดชีวิตเปลี่ยน!!!

สิ่งที่อยู่ตรงหน้าไม่ใช่ห้องน้ำ

แต่เป็น ‘ห้องลงโทษ’ ของเจ้าของคลับ

“อ๊ะ...!” เมษาเบิกตาโพลง มือกำลังจะปิดประตู แต่สายตาคมเฉียบที่หันมามองก็ทำให้เธอชะงักไปชั่วขณะ

ชายหนุ่มหล่อเหลาในชุดสูทสีดำสนิท กำลังสั่งให้ลูกน้องจับผู้หญิงคนหนึ่งกดลงกับโต๊ะ หญิงสาวคนนั้นเปลือยครึ่งท่อนบน ร้องไห้ปนคราง

“กล้าทรยศกู อย่างนั้นเหรอ” เสียงเย็นเยียบแต่ทรงพลังลอดไรฟัน ก่อนจะสั่งให้ลูกน้องดันสะโพกเข้าหาอีกฝ่ายอย่างแรง...จังหวะกระแทกหนักหน่วงสะท้อนมาแม้ประตูจะปิดลงในวินาทีต่อมา

แต่ไม่ทันแล้ว เมษาเห็นหมดแล้ว และเขา...ก็เห็นเธอ

“จับตัวมา” เสียงเย็นเฉียบออกคำสั่งไม่ถึงห้านาทีหลังจากนั้น

เธอถูกลากมาขังในห้องใต้ดินอีกห้องหนึ่งที่เงียบสนิท ไม่มีใครรู้ ไม่มีใครช่วย

ประตูเปิดออก พร้อมเงาร่างสูงใหญ่ของชายคนนั้น

“เธอเห็นอะไรบ้าง” เขาถามเสียงเข้ม

“ฉันไม่เห็นอะไรเลย ไม่เห็นอะไรทั้งนั้น”

“อย่างนั้นเหรอ” น้ำเสียงของเขาทำเอาเธอตัวสั่น

“กล้าโกหกฉันอย่างนั้นเหรอ”

“มะ...ไม่ ฉัน ฉันไม่ได้ตั้งใจ ฉันแค่หลงทาง” เมษาถอยหลังชิดผนัง ร่างสั่นเทาเมื่อเขาก้าวเข้ามาใกล้

“งั้นฉันมีสองทางให้เลือก” เขาโน้มหน้าเข้ามากระซิบข้างหู

“จะเลือกให้ฉัน ‘ฆ่า’ หรือให้ฉัน ‘เอา’ เธอเป็นค่าปิดปาก” ริมฝีปากหยักแสยะยิ้มขณะนิ้วหยาบลากผ่านต้นแขนเธอเบา ๆ จนขนอ่อนลุกชัน

“คะ...คุณเป็นใคร”

“คีรัช เจ้าของที่นี่...และเจ้าของร่างเธอ ตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป” เสียงผ้าถูกกระชากลงดัง ฟึ่บ! ขณะที่เธอถูกเหวี่ยงลงบนโซฟาหนังสีดำ

ร่างสูงตามมาคร่อมทับ ดวงตาสีเข้มจ้องเธอ อย่างไม่เปิดช่องให้ปฏิเสธ

“อย่าเพิ่งกลัวสิ รับรองว่าฉันลีเด็ดจนเธอติดใจแน่ ๆ” เขาไม่คิดว่าผู้หญิงที่มาเที่ยวกลางคืนแบบนี้จะนิสัยดีเป็นสาวบริสุทธิ์ผุดผ่องนักหรอก

เขาบอก ก่อนจะแทรกตัวเข้ามาระหว่างเรียวขา ดึงข้อมือทั้งสองของเธอขึ้นตรึงกับพนักพิง

ปากร้อนบดลงมาที่ลำคอ กลิ่นน้ำหอมกลิ่นอ่อนหวานประจำตัวเขาทำให้เธอหายใจติดขัดยิ่งกว่าเดิม

“ฉันจะปิดปากเธอด้วยวิธีที่ลืมไม่ลง...จนร่างนี้จำได้แม้แต่ในฝัน”

“อย่านะ อื้อ...” เขาจูบปิดปากเธอเอาไว้ ไม่ให้เธอร้องประท้วงอะไรได้อีก

เสียงหอบหายใจของเมษาดังสั่นสะท้านภายในห้องใต้ดินที่เงียบสงัด ร่างสูงใหญ่ของเขาคร่อมทับ บดเบียดแนบแน่นขณะริมฝีปากหยักร้อนชื้นลากไล้ไปตามแนวไหปลาร้าอย่างเร่าร้อน

"อย่ากลัว ฉันแค่อยากลองลิ้มรสชาติของเธอให้ลึกกว่านี้..." เขากระซิบก่อนจะกดจูบลงตรงยอดอก ปลายนิ้วแกร่งเลื่อนไปปลดตะขอบราอย่างชำนาญ จนทุกอย่างเปิดเผยออกต่อหน้าโดยไม่มีเสียงต่อต้าน มือหนาแหวกเรียวขาของเธอออกอย่างชำนาญ ใช้นิ้วเกลี่ยร่องเยิ้มกลางกายที่ผลิตน้ำหวานออกมาต้อนรับท่อนเนื้อที่กำลังจะเข้าไปทักทาย แต่ทันทีที่สะโพกเขากระแทกแนบลงมา เขาก็ชะงัก

“เธอ!” เขาขมวดคิ้ว ร่างเธอสั่นวาบ ดวงตาหวานเบิกกว้าง น้ำเสียงหอบพร่า

“มัน...เจ็บ...ชะ...ฉัน... พอก่อน” คีรัชหยุดทันที ดวงตาเข้มดุอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด เขาไม่คาดคิดว่า...หญิงสาวตรงหน้าจะยังบริสุทธิ์ผุดผ่องเช่นนี้

“บ้าเอ๊ย...” เขากัดฟัน ดึงตัวเองออกเล็กน้อย ลมหายใจหอบถี่สะท้อนแผ่นอกแกร่งที่สะท้านขึ้นลงแรง

“ทำไมไม่บอกตั้งแต่แรกว่าเธอ” เขากัดฟันเบา ๆ แล้วโน้มตัวมากอดเธอไว้แน่น

“ถ้ารู้ว่าเธอยังไม่เคย ฉันจะเบามือกว่านี้” เขาไม่คิดปล่อย เพราะอย่างไรเธอก็ไม่รอด

เธออยากต่อว่าเขาแต่ศัพท์ในหัวน้อยนิดนัก เธอจะมีเวลาไปห้ามเขาตอนไหนกัน ก็เขาจะจับเธอกระแทกท่าเดียว

ริมฝีปากร้อนผ่าวจูบซับน้ำตาบนแก้ม ก่อนจะเปลี่ยนเป็นจูบแนบแน่นยิ่งขึ้น

มือแกร่งลูบไล้เรียวขาเธอเบา ๆ กดสะโพกแนบชิดอย่างใจเย็น รุกล้ำช้า ๆ แต่ลึกซึ้ง ราวกับตั้งใจให้เธอจดจำ

“อื้อ...อา...” เสียงครางแรกหลุดจากริมฝีปากเธออย่างไม่ตั้งใจ และคีรัชก็ยิ้มมุมปาก

“ดีมาก...ครางให้ฉันฟังอีกสิ” เขากดสะโพกสอบเข้าหาล้ำลึก ท่อนเนื้ออวบใหญ่มุดเข้าในร่องรักจนเกินกว่าครึ่ง เธอก็ครางด้วยความเสียวซ่านและความเจ็บปนเปกันไปไป มือน้อยจิกไปบนแผ่นหลัง

ของเขา แต่เขาไม่ว่าอะไร ปล่อยให้เธอได้ระบายความกระสัน

เขากระซิบ ก่อนจะแกล้งซอยเอวถี่ ๆ สั้น ๆ ในจังหวะหนึ่ง จนร่างบางสะท้านเฮือก

“อ๊ะ! มะ...ไม่ไหว...” เธอสะอื้น ร่างบิดเร้าใต้เขาอย่างหมดแรง

“เธอไหวฉันรู้คนดีของฉัน” เขากระซิบชิดข้างหู แล้วกระแทกเข้าออกอย่างล้ำลึก พร้อมเสียงหอบสะท้านสั่นพร่าของตัวเองที่บ่งบอกความรักในการร่วมรักครั้งนี้

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ B.J.BEN

ข้อมูลเพิ่มเติม
แกล้งนักรักหมดใจ

แกล้งนักรักหมดใจ

โรแมนติก

5.0

เมื่อ ภูผา ทายาทนักธุรกิจพันล้าน ถูกส่งตัวมาอยู่ที่บ้านนอกกลางทุ่งนา เขาต้องใช้ชีวิตร่วมชายคากับ ดาหลา ลูกสาวกำนันจอมแก่นที่มองเขาเป็นแค่ "หนุ่มกรุงไม่เอาไหน" จากความหมั่นไส้ กลายเป็นความห่วงใย... จากแผงผักริมตลาดนัด สู่แผนเปิดโปงที่เขย่าทั้งวงการธุรกิจ เมื่อหนุ่มเจ้าสำอางต้องมาเลี้ยงน้องควายทองแท้ที่ชอบให้ขัดหลังเสียเหลือเกิน แท้จริงคือ CEO ตัวจริงเสียงจริง! ความรัก ความลับ และแผนร้ายที่ซ่อนอยู่หลังรอยยิ้มจะพาทุกหัวใจอบอุ่นไปพร้อมกลิ่นหอมของไอดิน และคำว่ารักที่งอกงามกลางทุ่งนา เพราะบางที...ควายตัวเดียว ก็พาเราพบรักแท้ได้

บอสเถื่อนหลงเมีย

บอสเถื่อนหลงเมีย

โรแมนติก

5.0

เพราะเธอช่วยชีวิตเขาไว้...โดยไม่หวังสิ่งใดตอบแทน ในนาทีที่เธอคิดว่าเป็นแค่การทำดีธรรมดา กลับกลายเป็นการสะกิดหัวใจของชายหนุ่มผู้เย็นชาที่ไม่เคยเปิดใจให้ใคร "ธามกร วัฒนเดช" บอสหนุ่มผู้เก็บงำความเจ็บปวดไว้ใต้ท่าทีเรียบนิ่ง เขาไม่เคยเชื่อในน้ำใจของใคร...จนวันที่หญิงสาวตัวเล็กคนหนึ่งยอมเสี่ยงอันตรายเพื่อช่วยเขา และเธอ... "แก้วจอมขวัญ อินทราวงศ์" พนักงานบัญชีคนใหม่ ที่ไม่รู้เลยว่าแค่ ความดีเล็ก ๆ ในวันนั้น จะเปลี่ยนชีวิตเธอไปตลอดกาล จากคำขอบคุณ กลายเป็นความห่วงใย จากเจ้านายผู้เย็นชา กลายเป็นผู้ชายที่เดินเข้ามาทำให้หัวใจของเธอสั่นไหวทุกวินาที เขาค่อย ๆ เติมเต็มรอยร้าวในชีวิตของเธอ และเธอกลายเป็นคนเดียวที่เขาอยากปกป้องไปตลอดชีวิต "ถ้าคุณยังไม่กล้ารักผม งั้นขอให้ผมได้รักคุณก่อนนะ แก้วจอมขวัญ"

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ที่แท้เป็นผู้มีอิทธิพลระดับโลก

ที่แท้เป็นผู้มีอิทธิพลระดับโลก

Odey Jagoe
5.0

เสิ่นซือหนิงซ่อนตัวตนไว้ยอมทำทุกอย่างให้ แต่ความจริงใจของเธอกลับถูกสามีทำลายไปหมด และสิ่งที่เธอได้รับนั้นคือข้อตกลงการหย่า ด้วยความผิดหวังเธอจึงหันหลังจากไปและกลายเป็นตัวเองที่แท้จริงอีกครั้ง หลังจากได้เห็นความใกล้ชิดของสามีกับคนรักของเขา เธอก็จากไปด้วยความผิดหวัง จากนั้นเปิดเผยตัวตนที่เป็นนักปรุงน้ำหอมอัจฉริยะระดับนานาชาติ ผู้ก่อตั้งองค์กรข่าวกรองที่มีชื่อเสียง และผู้สืบทอดในโลกแฮ็กเกอร์ อดีตสามีของเธอเลยเสียใจมาก เมื่อเมิ่งซือเฉินรู้ว่าตัวเองทำผิด เขาก็เสียใจมาก หนิง ผมผิดไปแล้ว ให้โอกาสผมอีกครั้งเถอะ ทว่าฮั่วจิ่งชวนขาพิการนั้นกลับลุกขึ้นยืนและจับมือกับเธอว่า "อยากคบกับเธอ นายยังไม่มีค่าพอ"

รอยรักรอยร้าว

รอยรักรอยร้าว

Del Goodman
5.0

เซียวหลิ่นตาบอดจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ลูกสาวคนรวยทุกคนต่างหลีกเลี่ยงเขา มีแต่สวี่โยวหรานยอมแต่งงานกับเขาโดยไม่ลังเล สามปีต่อมา เซียวหลิ่นกลับมามองเห็นได้อีกครั้ง จากนั้รเขา็ยื่นข้อตกลงการหย่าเพื่อยุติการแต่งงานนี้ เขากล่าวอย่างเย็นชาว่า "ฉันพลาดกับชิงชิงมานนานมากพอแล้ว ฉันไม่อยากให้เธอต้องรอนานกว่านี้!" สวี่โยวหรานลงนามในข้อตกลงการหย่าโดยไม่ลังเล ทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเธอตลอด - หัวเราะเยาะว่าที่เธอแต่งเข้าตระกูลเซียวถือว่าเกาะผู้มีอิทธิพลเข้า จากนั้นก็มาหัวเราะเยาะเธอที่ถูกทอดทิ้ง เป็นหญิงที่ไร้ค่า แต่ทุกคนกลับไม่รู้ว่า เธอคือหมออัศจรรย์ที่รักษาดวงตาของเซียวหลิ่นให้หายดี เป็นผู้ออกแบบเครื่องประดับมูลค่าหลักร้อยล้าน ผู้เป็นมือหนึ่งแห่งหุ้นที่ครองตลาดหุ้น และแม้แต่แฮกเกอร์ระดับแนวหน้าและลูกสาวแท้ๆ ของผู้มีอิทธิพล อดีตสามีมาขอร้องขอคืนดี ซีอีโอผู้เผด็จการก็โยนเซียวหลิ่นออกไปนอกประตูอย่างเย็นชา "ดูดีๆ นี่ภรรยาของผม"

ต้องมนต์บุปผา

ต้องมนต์บุปผา

ซีไซต์
5.0

หลิวซือซือผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งที่นอกจากรูปร่างหน้าตาที่สวยหยดย้อยแล้ว แทบจะไม่มีความสามารถหรือความโดดเด่นในเรื่องอื่น และหากจะว่ากันไปหญิงสาวก็เป็นคนที่ค่อนข้างใสซื่อบริสุทธิ์อยู่ไม่น้อย เพราะได้รับการรับเลี้ยงประดุจไข่ในหินจากผู้เป็นพ่อและแม่ที่มีฐานะไม่ธรรมดา เธอรักในอาชีพนักแสดงแม้พ่อแม่จะคัดค้านแต่สุดท้ายก็ตามใจเธอเพราะไม่ต้องการให้ลูกสาวเสียใจ อยู่มาวันหนึ่งด้วยบทบาทที่ต้องแสดงในซีรีส์ย้อนยุค ทำให้พ่อของเธอหาขลุ่ยโบราณเล่มหนึ่งมาให้ ตั้งแต่ได้รับขลุ่ยมาหลิวซือซือก็มักฝันประหลาด ว่าเธอได้พบผู้ชายคนหนึ่งในเขาเป็นแม่ทัพอยู่ระหว่างสงครามอีกทั้งตนเองยังมีโอกาสช่วยเขาหลายครั้ง ที่น่าประหลาดใจคือ ฝันนั้นของเธอเหมือนจะเป็นความจริงไปแล้ว เขาคือใครและเกี่ยวข้องกับเธอด้วยเหตุใด ทำไมเธอจึงมักฝันประหลาดเช่นนี้???

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

มาชาวีร์
5.0

หลังผ่าตัดนักพรตเฒ่าผู้หนึ่งนั้น นางวูบหมดสติและเสียชีวิตลงไป ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที ก็อยู่ในร่างของคุณหนูปัญญาอ่อนที่มีชื่อเดียวกันผู้นี้เสียแล้วทั้งยังจำอดีตชาติยามเป็นปรมาจารย์เต๋าได้อีกด้วย +++ 1 : ไล่ออกจากอารามไท่ผิงกวน แคว้นจิ้น ราชวงศ์เซวียน อารามไท่ผิงกวน “ไป ๆ อาจารย์ขับไล่พวกท่านออกจากอารามแล้ว อย่าได้มาเหยียบที่นี่อีก” “ศิษย์พี่รองรีบปิดประตูเร็วเข้า !” ตุบ ! ห่อผ้าสองห่อถูกโยนออกมาจากประตูอาราม ปัง ! ตามด้วยเสียงปิดประตูลงสลักอย่างหนาแน่น สตรีนางหนึ่งยืนตัวตรงเป็นสง่า เสื้อผ้ากับเส้นผมของนางปลิวไสวดั่งไผ่ลู่ลม หลินซือเยว่เงยหน้าขึ้นมองป้ายชื่ออารามไท่ผิงกวนด้วยสายตาเลื่อนลอย อาศัยอยู่ที่นี่มานานเท่าใดแล้วนะ บางครั้งนางเองก็ลืมเลือนวันเวลาไปเหมือนกัน “คุณหนูเจ้าคะ ศิษย์น้องทั้งสองของท่านทำเกินไปแล้วนะเจ้าคะ เหตุใดถึงไล่พวกเราสองคนออกจากอารามได้เล่า” เผิงฉือกระทืบเท้าเบา ๆ ตรงไปฉวยห่อผ้าทั้งสองบนพื้น ขึ้นมาคล้องแขนตัวเองไว้ “หากไม่ได้รับคำสั่งจากอาจารย์ ศิษย์น้องทั้งสองคงไม่กล้าขับไล่ข้าออกจากอารามหรอก” น้ำเสียงของนางสงบนิ่งฟังแล้วสบายหูยิ่งนัก หาได้มีความโกรธเกลียดแต่อย่างใด “นั่นรถม้า” นิ้วเรียวสวยชี้ไปยังรถม้าคันที่มีคนนั่งเฝ้าอยู่ “ป้าเผิงไปถามดูว่าใช่รถม้าของเราหรือไม่” เผิงฉือไม่รอช้ารีบตรงไปหาคนเฝ้ารถม้าที่อยู่ใต้ต้นไผ่ในทันที ไม่ช้านางก็กลับมาพร้อมกับรอยยิ้มนิด ๆ “เป็นรถม้าของเราจริง ๆ เจ้าคะคุณหนู คนขับบอกว่าเป็นคนของตระกูลหลินเจ้าค่ะ ได้รับคำสั่งจากท่านพ่อของคุณหนู ให้มารับคุณหนูกลับตระกูลหลินเพื่อไปแต่งงานเจ้าค่ะ” “กลับไปแต่งงานนี่เอง” นางเอ่ยเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่ หันหลังกลับไปทางประตูอาราม ประสานมือค้อมตัวคำนับลาอาจารย์ เผิงฉือเห็นเช่นนั้นก็อดที่จะคำนับตามนางไม่ได้ ภายในอารามไท่ผิงกวน “อาจารย์เหตุใดถึงไม่บอกลากับศิษย์พี่ใหญ่ไปตรง ๆ ล่ะ ทำเช่นนี้นางไม่โกรธท่านไปจนวันตายเลยรึ” เหอกุ้ยแม้มีอายุยี่สิบแปดปีแล้ว ทว่าเขากราบเป็นศิษย์เจ้าอาวาสชุนหวังเหล่ยหลังสตรีผู้นั้น จึงได้เป็นเพียงแค่ศิษย์พี่รองเท่านั้น “นั่นสิอาจารย์ ศิษย์พี่ใหญ่นางไม่เคยออกจากอารามไปไหนไกล ท่านทำเช่นนี้ไม่ใช่ขับไล่นางไปสู่ความตายหรอกรึ” จางเจียเฟิ่งเห็นด้วยกับศิษย์พี่รองของเขา “ให้มันน้อย ๆ หน่อยเจ้าศิษย์โง่ทั้งสอง พวกเจ้าคิดว่าอารามไท่ผิงกวนแห่งนี้ สามารถอยู่รอดมาได้เพราะใครกัน หากไม่ใช่เพราะฝีมือของศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้า เห็นนางเงียบ ๆ แบบนั้น ความคิดนางกว้างไกลยิ่งนัก อาจารย์อย่างข้ายังเทียบนางไม่ติดด้วยซ้ำไป” เจ้าอาวาสชุนปีนี้อายุอานามปาเข้าไปหกสิบห้าปีแล้ว ทว่าร่างกายยังแข็งแรง อารามเต๋าแห่งนี้มีวิถีแบบไม่เคร่งครัด ใช้ชีวิตเยี่ยงฆราวาสผู้หนึ่ง สามารถแต่งงานมีครอบครัวได้ “อาจารย์นางอยู่ในอารามวาดยันต์กันภัยให้ชาวบ้านที่มากราบไหว้ ตั้งโต๊ะรักษาโรคภัยให้ผู้คนในตัวอำเภอฝู แต่หนนี้นางต้องกลับบ้านไปเพื่อแต่งงาน นางบริสุทธิ์ถึงเพียงนั้นมิถูกสามีจับกลืนกินจนไม่เหลือกระดูกหรอกรึ” เหอกุ้ยนึกภาพเทพเซียนผู้สูงส่งอย่างหลินซือเยว่ หากต้องร่วมเตียงกับบุรุษหยาบกระด้าง เพียงเท่านั้นเขาก็ทำใจไม่ได้จริง ๆ แทบอยากจะไปแย่งตัวศิษย์พี่ใหญ่ของตัวเองกลับคืนมา “เลิกคร่ำครวญได้แล้ว กลับไปกวาดลานอารามกับตรวจดูน้ำมันตะเกียงให้เรียบร้อย ศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้าไม่อยู่ เจ้าทั้งสองต้องรีบร่ำเรียนศึกษาหาความรู้ อารามไท่ผิงกวนจะได้เจริญรุ่งเรืองในภายภาคหน้าต่อไปได้” เจ้าอาวาสชุนทำเสียงดังใส่ลูกศิษย์ทั้งสอง “ไป ๆ ข้าจะสวดมนต์” โบกมือไล่ทั้งคู่ให้ออกจากห้องสวดมนต์ไป เจ้าอาวาสชุนรีบลุกไปปิดประตูลั่นกลอน ท่าทางลุกลี้ลุกลนจนผิดปกติ ย่องเบา ๆ ไปที่ใต้เตียงนอน ดึงหีบไม้เก่าเก็บออกมา ครั้นกดสลักเปิดออก ก็พบตั๋วเงินจำนวนสามพันตำลึงอยู่ในนั้น ตระกูลหลินที่ไม่ได้บริจาคน้ำมันตะเกียงมาหลายปี จู่ ๆ ก็ส่งตั๋วเงินมาให้ พร้อมกับขอรับคนกลับไปเพื่อแต่งงาน ช่วงนี้ชาวบ้านมาทำบุญที่อารามน้อยลง หลินซือเยว่ก็ไม่รู้ว่าเกิดอันใดขึ้นกับนาง ถึงไม่ยอมลงจากอารามไปรักษาผู้คน รายได้เลยหายหดแทบจ่ายอาหารการกิน(สุรานารี)ไม่พอ ตั๋วเงินสามพันตำลึงนี่มาได้ทันเวลาพอดี ! แครก ๆ ๆ ๆ เสียงกวาดลานหน้าอารามดังขึ้นพร้อมกับเสียงบ่นของเหอกุ้ย “ข้ารู้ว่านางเก่งเอาตัวรอดได้ ข้าเพียงไม่อยากให้นางไปก็เท่านั้น” “ศิษย์พี่รองท่านอย่าได้เสียใจไปเลย ไม่ใช่ว่ามีแต่นางที่ต้องแต่งงานมีครอบครัว ท่านเองก็เถอะที่บ้านส่งคนมารับทุกปีไม่ใช่รึ” จางเจียเฟิ่งรู้ดีว่าตนและเหอกุ้ย ถูกครอบครัวลงโทษด้วยการส่งมาอยู่ยังอารามแห่งนี้ ทว่าเพียงชั่วคราวเท่านั้น “ตัวข้านั้นไม่เป็นไรหรอก เจ้านั่นแหละศิษย์น้องสาม ข้าได้ยินว่าที่บ้านของเจ้า เพิ่งหาคู่หมั้นหมายคนใหม่ให้เจ้าอีกคนแล้วไม่ใช่รึ” สองศิษย์พี่น้องหยุดกวาดลานอาราม แล้วหันหน้าไปมองตากัน จากนั้นพวกเขาก็ถอนหายใจดัง ๆ พร้อมกัน ไม่มีศิษย์พี่ใหญ่อยู่ด้วย นับจากนี้ไปยามทำความผิดใครจะออกหน้าคอยช่วยเหลือ ยามเงินหมดใครจะให้หยิบยืม ยิ่งคิดพวกเขาก็ยิ่งไม่สบายใจเป็นอย่างมาก บนถนนมุ่งหน้าสู่เมืองหลวง รถม้าไม้ธรรมดาไม่เล็กไม่ใหญ่ ไร้ป้ายชื่อตระกูลบอกกล่าว คล้ายไม่อยากให้ผู้อื่นล่วงรู้ว่าคนที่นั่งอยู่ด้านในเป็นใคร เผิงฉือพยายามหลอกถามคนขับรถม้าอยู่หลายหน ถึงสถานการณ์ของตระกูลหลินในยามนี้ นางไม่เคยไปที่นั่นมาก่อนไม่รู้จักใครสักคน คนขับรถม้าตอบว่า เขามีหน้าที่มารับคุณหนูรองกลับบ้านเท่านั้น เรื่องอื่นนั้นเขาไม่รู้จริง ๆ “ได้ถามหรือไม่ ใช้เวลากี่วันในการเดินทาง” หลินซือเยว่เอ่ยเสียงเนิบ ๆ “ถามแล้วเจ้าค่ะ เขาบอกว่าราว ๆ สิบวันก็ถึงเมืองหลวงแล้ว” “สิบวันเชียวรึ” หลินซือเยว่มองห่อผ้าที่วางอยู่ด้านข้าง มีเพียงของใช้จำเป็นของนางไม่กี่ชิ้น พร้อมกับก้อนเงินจำนวนห้าสิบตำลึง “คงต้องแวะซื้อของในอำเภอฝูเสียก่อน” เผิงฉือรีบเปิดม่านบอกกับคนขับรถม้า แต่เขากลับทำเสียงฮึดฮัดคล้ายไม่พอใจ “เสียเวลาเดินทางเปล่า ๆ” น้ำเสียงเขากระด้างกระเดื่อง

อย่าไปยุ่งกับทายาทสาวลึกลับ

อย่าไปยุ่งกับทายาทสาวลึกลับ

Tripp Zakarison
5.0

อวิ๋นเจินอาศัยอยู่ในตระกูลอวิ๋นมาเป็นเวลา 20 ปี กลับพบว่าเธอเป็นลูกสาวปลอม พ่อแม่บุญธรรมของเธอวางยาเธอเพื่ออยากจะได้เงินมาลงทุน หลังจากที่อวิ๋นเจินรู้เรื่องนี้ เธอก็ถูกไล่กลับไปที่ชนบท จากนั้นเธอก็ค้นพบว่าตัวเองคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลเฉียวและมีชีวิตที่หรูหราสุด ๆ หลังจากกลับมา เธอได้รับความรักจากครอบครัวและมีชื่อเสียงโด่งดัง น้องสาวจอมปลอมใส่ร้ายอวิ๋นเจิน แต่เธอไม่คาดคิดว่าอวิ๋นเจินจะมีความสามารถต่างๆ เมื่อต้องเผชิญกับการยั่วยุ เธอได้แสดงความสามารถและทักษะต่างๆ มากมายเพื่อจัดการผู้รังแก มีข่าวลือกันว่าอวิ๋นเจินยังคงโสด และชายหนุ่มชื่อดังแห่งเมืองงก็ผลักเธอไปเข้ากำแพง "คุณนายกู้ ถึงตามราเปิดเผยตัวตนได้แล้วนะ"

ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย

ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย

จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ
5.0

เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ