ใต้ดาวดวงเดิม

ใต้ดาวดวงเดิม

B.J.BEN

5.0
ความคิดเห็น
ชม
10
บท

"เราเคยสัญญากัน...ใต้ดาวดวงนั้น ว่าจะไม่ทิ้งกันไปไหน แต่บางครั้ง...การจากลาไม่ได้เกิดจากคนที่อยากไป และเมื่อเราได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง คำสัญญานั้น...ยังจะมีความหมายอยู่ไหม"

บทที่ 1 1

1

เสียงระฆังโรงเรียนดังขึ้นในยามบ่ายสุดท้ายของชีวิตมัธยมปลาย นักเรียนหลายคนโบกมือร่ำลากันด้วยรอยยิ้ม บางคนกอด บางคนร้องไห้ แต่ตรงมุมสงบข้างสนามฟุตบอล มีเด็กหนุ่มสองคนยืนอยู่ใต้ต้นฉำฉาใหญ่ ร่มเงาทาบทับพวกเขาอย่างอ่อนโยน

“ธีร์…” เสียงของมีนเบาและชัด ริมฝีปากเม้มแน่นเหมือนพยายามกลืนคำที่ไม่อยากพูดลงไป

ธีร์ยื่นกล่องของขวัญเล็กๆ มาให้ มันเป็นกล่องสีน้ำเงินเข้ม ผูกโบสีเงินเรียบร้อยเหมือนทุกอย่างที่ธีร์ทำเสมอ

“ให้” มีนรับมันด้วยมือที่อุ่นเล็กน้อยเพราะตากแดด วิ่งเล่นมาเมื่อครู่ เขาเปิดกล่องออกช้าๆ ก่อนจะเห็นจี้ดาวสีทองบนสร้อยเส้นบาง

“มันเป็นดาว…” มีนพูดเบาๆ

“ดวงที่นายชอบมองทุกคืน” ธีร์ตอบพลางยิ้มบาง ดวงตานิ่งสงบแต่แฝงไว้ด้วยความสั่นไหวที่มีนเท่านั้นที่รู้

มีนใส่สร้อยนั้นไว้กับคอทันที มือแตะจี้ดาวเบาๆ เหมือนกลัวมันจะหายไป

“เราไปมหา’ลัยด้วยกันนะธีร์”

“อือ ไปด้วยกัน”

“แล้วก็อยู่ห้องเดียวกันนะ”

“อือ อยู่ด้วยกัน” ทั้งคู่หัวเราะออกมาพร้อมกัน เสียงหัวเราะปนแสงแดดอุ่นที่ลอดผ่านใบไม้ ชั่วขณะหนึ่งทุกอย่างดูเรียบง่ายเหมือนฝัน

เหมือนโลกทั้งใบมีแค่คนสองคนนี้เท่านั้น

“สัญญานะ…” มีนยื่นนิ้วก้อยไป

ธีร์เกี่ยวมันไว้แน่น รอยยิ้มของเขาคือคำสัญญา แม้ไม่เอ่ยคำ

“ฉันจะอยู่กับนาย…ใต้ดาวดวงเดิมนี้ตลอดไป”

และในตอนนั้น ทั้งสองคนยังไม่รู้

ว่าคำว่า “ตลอดไป” บางทีมันก็ต้องผ่านอะไรอีกมาก…กว่าจะกลายเป็น ตลอดไปจริง ๆ

คอนโดหรูใจกลางกรุงเทพฯ ชั้นยี่สิบห้า มองเห็นเมืองทั้งเมืองในยามเย็นผ่านกระจกสูงจรดเพดาน แสงแดดยามห้าโมงเย็นค่อยๆ อาบไล้เฟอร์นิเจอร์โทนอบอุ่นอย่างแผ่วเบา

มีนหมุนตัวดูรอบห้อง ดวงตากลมเป็นประกายอย่างห้ามไม่อยู่

“นายอยู่คนเดียวในห้องแบบนี้เหรอ”

“เปล่า…อยู่ด้วยกัน” ธีร์ตอบ พลางวางกล่องของใช้ลงบนโต๊ะกลาง

“เราเหรอ”

“อืม ฉันขอพ่อไว้แล้ว เขาก็ไม่ได้ว่าอะไร” ธีร์เดินเข้ามาหา หยุดยืนตรงหน้ามีนแล้วเอื้อมมือแตะเส้นผมที่เปียกเหงื่อจากการขนของแผ่วเบา

“หรือ…นายไม่อยากอยู่กับฉัน”

มีนสบตาเขา ใบหน้าขึ้นสีจางๆ จากทั้งความเขินและความอุ่นวาบในอก

“อยากสิ...จะไม่อยากได้ยังไง”

คำตอบนั้นเรียกรอยยิ้มบางบนใบหน้าของธีร์ มือของเขาไล้ลงมาที่แก้มของมีน ลูบเบาๆ อย่างคนที่เฝ้ามองคนๆ นี้มานาน

“ขอบใจนะ ที่ยังอยู่กับฉัน”

ห้องนั่งเล่นกลายเป็นที่พักของหัวใจสองดวงในคืนนั้น หลังมื้อเย็นง่ายๆ ที่ทั้งคู่ช่วยกันทำ พาสต้าง่ายๆ กับไวน์แดงหนึ่งแก้ว

เสียงดนตรีแจ๊สเบาๆ ลอยคลออยู่ในอากาศ เมื่อธีร์เดินมานั่งลงข้างๆ บนโซฟา เขาไม่ได้พูดอะไร…เพียงแค่มองหน้าอีกฝ่ายเงียบๆ

มีนสบตาเขากลับ หัวใจเต้นแรงอย่างไม่มีเหตุผล

“ธีร์…” เขาไม่พูดอะไรอีก เขาแค่เอื้อมมือจับแก้วไวน์ออกจากมือของมีน วางมันไว้บนโต๊ะ แล้วเอื้อมตัวเข้ามาใกล้

ริมฝีปากแตะกันอย่างอ่อนโยนในช่วงเวลาที่ทั้งโลกเหมือนเงียบลง เหลือเพียงจังหวะลมหายใจสลับกันเบาๆ

ธีร์จูบมีนอย่างแผ่วเบา ก่อนจะขยับถี่ขึ้น เรียนรู้จังหวะของกันและกันในแบบที่ไม่มีใครสอน

มีนหลับตาลง ปล่อยให้ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างช้าๆ อย่างเต็มใจ

ผ้าปูเตียงสีครีมยับเล็กน้อย เสียงลมหายใจระคนกับเสียงแอร์เย็นเฉียบที่ดังแผ่ว

ร่างสองร่างเปลือยเปล่านอนกอดกันใต้ผ้าห่มไหมเนื้อดี กลิ่นกายปะปนกับกลิ่นสบู่และแชมพูที่ยังติดผิว

“เจ็บหรือเปล่า…” ธีร์ถามเบาๆ ขณะใช้นิ้วเกลี่ยเส้นผมที่เปียกชื้นจากเหงื่อ

“นิดหน่อย…แต่ไม่เสียใจเลย” มีนตอบพร้อมรอยยิ้ม

ธีร์ก้มลงจูบหน้าผากอีกครั้ง เขาไม่พูดคำว่ารัก…แต่การกระทำของเขาคือความรักทั้งหมด

นอกหน้าต่าง เมืองทั้งเมืองยังสว่างไสว

แต่บนเตียงนี้ มีแสงที่อุ่นกว่าแสงใดในจักรวาล

และใต้ผ้าห่มผืนนั้น มีหัวใจสองดวงที่เพิ่งเรียนรู้ว่า

รักครั้งแรก...ไม่ใช่แค่ร่างกาย

แต่มันคือการยอมฝากทั้งความกลัว ความหวัง และทั้งหมดของตนไว้ในอ้อมกอดของใครสักคน

เสียงนาฬิกาปลุกจากมือถือดังขึ้นตอนเจ็ดโมงตรง มีนขยับตัวก่อนจะค่อยๆ ลืมตา เขาไม่ได้ตกใจ แค่หันไปอีกด้านแล้วเห็นภาพที่คุ้นเคยดี ธีร์ยังคงนอนหลับสนิทข้างๆ ใบหน้าดูสงบในแสงเช้าที่ลอดผ่านผ้าม่าน

เขานอนมองอีกฝ่ายเงียบๆ อยู่ครู่หนึ่ง แล้วจู่ ๆ ธีร์ก็พูดขึ้นทั้งที่ยังหลับตา

“แอบมองฉันอีกแล้ว…” มีนหลุดขำเบาๆ

“ก็หล่ออะ จะให้ทำยังไง”

“ก็ลุกมาจูบเลยสิ ไม่ต้องแอบมอง” ธีร์ลืมตาแล้วยิ้ม มุมปาก ตามสไตล์ของเขา

มีนเขินจนต้องลุกหนีไปอาบน้ำ แต่หัวใจกลับเต้นแรงขึ้นทุกที

เช้านั้น พวกเขาเดินจูงมือกันออกจากคอนโด ฯ ก่อนจะแยกกันหน้าประตูมหาวิทยาลัย

มีนเรียนคณะอักษรฯ ส่วนธีร์เรียนเศรษฐศาสตร์ แต่ทุกวันก็ยังหาเวลานั่งกินข้าวด้วยกัน กอดกันลับๆ ในห้องสมุด หรือสลับกันนั่งรอหน้าห้องเรียน

ความสัมพันธ์ของพวกเขาไม่ได้เปิดเผยกับใคร แต่ก็ไม่ได้ปิดบังจนต้องหลบซ่อน เหมือนจะตกลงกันในใจโดยไม่ต้องเอ่ยคำใดออกมา

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ B.J.BEN

ข้อมูลเพิ่มเติม
วิวาห์คลั่งรัก

วิวาห์คลั่งรัก

สมัยใหม่

5.0

เมื่อโชคชะตาบังคับให้เขาและเธอซึ่งเป็นคู่กัดต้องกลายเป็นคู่แต่งงานแบบสายฟ้าแลบ! ระหว่างอดีตที่เต็มไปด้วยการปะทะคารม กับปัจจุบันที่ต้องใช้ชีวิตร่วมชายคา... เรื่องวุ่น ๆ จึงเริ่มต้นขึ้น ตั้งแต่แปรงสีฟันยันหัวใจ เขา...ผู้ชายเจ้าเล่ห์ ขี้แกล้ง และขี้หวงอย่างหนัก เธอ...หญิงสาวปากแข็ง ขี้ประชด แต่แอบอ่อนโยนในทุกความใส่ใจ จากบ้านไม้ริมคลอง กลายเป็นสนามรักและสงครามขนาดย่อม ที่ไม่มีใครยอมใคร แต่หัวใจสองดวงกลับเริ่มเปลี่ยนไปทีละนิด... เพราะบางที...โชคชะตาอาจไม่ได้บังคับ แต่มันอาจกำลังพาเขาและเธอ... กลับมายังที่ที่เรียกว่า "บ้าน" ด้วยกัน

คู่หมั้นไร้เสน่หา

คู่หมั้นไร้เสน่หา

โรแมนติก

5.0

เมื่อข่าวฉาวบิดเบือนเปลี่ยนหญิงสาวให้กลายเป็นคนที่เขาเกลียด และเมื่อคำสัญญาเก่าของผู้ใหญ่ พาเธอกลับมาในฐานะ ‘คู่หมั้น’ ที่เขาไม่ต้องการ ลลิล สาวสวยผู้สง่างามและเข้มแข็ง ต้องเผชิญแรงกดดันจากคนในครอบครัว รวมถึง กวิน ชายหนุ่มผู้เย็นชา ผู้มองเธอด้วยสายตาดูแคลน…แต่ไม่อาจละสายตาได้เลย ในความเงียบงันระหว่างพวกเขา...กลับมี ‘หัวใจ’ ที่ค่อย ๆ เรียนรู้กันอย่างไม่รู้ตัว จากความเข้าใจผิด กลายเป็นความผูกพัน จากการดูแคลน กลายเป็นการปกป้อง และจาก ‘คู่หมั้นไร้เสน่หา’ กลายเป็น ‘ผู้หญิงเพียงคนเดียวที่เขารัก’

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ฮูหยินของข้า แซ่บไม่เบา

ฮูหยินของข้า แซ่บไม่เบา

Burke Gee
5.0

ทุกคนรู้ดีว่า บุตรีคนโตที่ไม่เป็นที่โปรดปรานในจวนโหวอันติ้งแห่งเมืองหลวง ทำให้แม่แท้ๆ ของตนต้องเสียชีวิต เป็นคนที่ถูกมองว่าเป็นตัวโชคร้าย ก่อนแต่งงานก็ทำให้แม่เลี้ยงฝันร้ายอยู่หลายวัน ออกเดินทางไปทำบุญนอกเมืองก็ถูกโจรจับตัวไป แต่ใครจะคิดว่าโชคร้ายกลับกลายเป็นโชคดี นางเปลี่ยนนิสัยไปอย่างสิ้นเชิง ไม่ยอมให้ใครมารังแกอีกต่อไปที่แท้ซูชิงซวู่ ผู้สุดยอดสายลับที่ทะลุมิติมาเผชิญกับพ่อที่เย็นชา แม่เลี้ยงที่ชั่วร้าย คู่หมั้นที่นอกใจน้องสาวต่างแม่ แต่ไม่เป็นไร คอยดูว่าเธอจะจัดการพวกชั่วช้า และเอาคืนทุกอย่าง ทว่าทำไมท่านอ๋องผู้นั้นถึงมองมาที่เธอด้วยสายตาแปลกๆ นั่นล่ะเผ่ยเสวียนจู: บุญคุณที่ช่วยชีวิต ไม่มีสิ่งใดตอบแทนได้ นอกจากเอาตัวไปแลก

รักซ้ำรอย

รักซ้ำรอย

มาชาวีร์
4.9

“ก่อนทำเรื่องนี้พี่ขอถามน้องภาสักข้อได้ไหม” ธาวิศพูดแล้วก้าวเท้าเข้าไปหาคนบนเตียง “ได้ค่ะ” นิภาก้มหน้ายามตอบ ธาวิศทิ้งสะโพกลงนั่งด้านข้าง พร้อมกับดันปลายคางของหญิงสาวให้ขึ้นมองหน้าเขา “น้องภาเต็มใจใช่ไหม” แววตาของคนถูกถามสั่นระริกไปมา ปากจิ้มลิ้มก็ขยับขึ้นลงเหมือนคนคิดไม่ออกว่าควรตอบอย่างไร “น้องภาพี่ถามว่าเต็มใจใช่ไหม หรือว่าถูกคุณยายบังคับ” คราวนี้ธาวิศเน้นน้ำหนักเสียงมากขึ้นกว่าเดิม “ภาเต็มใจค่ะ” หญิงสาวตอบเขาแล้ว แต่เป็นคำตอบที่เต็มไปด้วยความไม่มั่นใจในตัวเอง “ไม่ได้ถูกบังคับแน่นะ” “ค่ะ ภาไม่ได้ถูกบังคับ ภาเต็มใจค่ะพี่ภูมิ” ธาวิศกัดฟันกรอดในคำตอบที่เขาไม่ปรารถนาจะได้ยิน ออกแรงผลักหน้าอกนิภาจนล้มลงไปนอนอยู่บนเตียง ปลดกระดุมเสื้อนอนของตนเองออกทีละเม็ด โดยที่สายตาก็ยังจดจ้องอยู่กับคนตรงหน้า “ระหว่างเรามันจะไม่มีความผูกพันอะไรกันทั้งนั้น เราทำเรื่องนี้ก็เพื่อคุณยาย เสร็จจากนี้ไปพี่ก็จะกลับกรุงเทพฯ ไปใช้ชีวิตกับคนรักของพี่ตามเดิม ภายังรับได้อยู่ใช่ไหม” ชายหนุ่มพูดจบก็ทิ้งเสื้อนอนลงบนพื้น คนบนเตียงก็ยังเม้มริมฝีปากตัวเองเอาไว้แน่น คำตอบไม่มาสักทีเขาเลยต้องเลิกคิ้วขึงตาใส่ “ค่ะภารับได้” คำพูดที่เปล่งออกมาช่างเบาหวิว คงไม่ต่างไปจากอารมณ์ของคนพูด “รับได้ก็ดี อย่ามาเรียกร้องอะไรทีหลังก็แล้วกัน ไม่งั้นพี่เอาตายแน่” ธาวิศทาบร่างตัวเองลงบนลำตัวของนิภา มองจุดหมายแรกที่จะเริ่มต้นทำรัก ประทับจูบลงบนริมฝีปากนุ่มนิ่มของหญิงสาว สัมผัสแรกของทั้งคู่ช่างตราตรึงในความรู้สึก จากที่จะจูบเพียงแผ่วเบากลายเป็นแทรกลึกดูดดื่มขึ้นตามอารมณ์ (รักซ้ำรอย)

เจ้าสาวจำยอม สามีเศรษฐีนอกสายตา

เจ้าสาวจำยอม สามีเศรษฐีนอกสายตา

Roana Javier
4.9

ชูจี้ถูกเก็บไปอุปการะตั้งแต่ยังเด็ก ซึ่งถือเป็นความฝันของเด็กกำพร้าทั่วไปอย่างชูจี้ แต่ชีวิตหลังจากนั้นมันไม่ได้มีความสุขดั่งที่ชูจี้คิดฝันไว้เลย เธอต้องอดทนถูกเย้ยหยันและการทำทารุณจากแม่บุญธรรมของเธอ แต่ก็ยังโชคดีที่เธอได้รับความเมตตาจากคนใช้สูงวัยคนหนึ่งในบ้านหลังนั้น ชึ่งเป็นคนคอยดูแลและเอาใส่เธอเหมือนแม่แท้ ๆ ของเธอ จนกระทั่งคนใช้จากไปด้วยอาการป่วย ชูจี้ก็ถูกบังคับให้แต่งกับผู้ชายที่ไม่เอาการเอางานแทนลูกสาวแท้ ๆ ของพ่อแม่บุญธรรมของเธอเพื่อชดใช้ค่ารักษาพยาบาลของคนใช้ เรื่องราวจะเป็นเช่นเดียวกับซินเดอเรลล่าหรือไม่? อย่างไรก็ตาม ชายที่เธอจะแต่งงานด้วยนั้นไม่เหมือนเจ้าชายเลยสักนิดนอกจากรูปร่างหน้าตาของเขาที่สามารถเทียบเท่ากับเจ้าชายได้เท่านั้นเอง ลู่เหยี่ยนเป็นลูกชายนอกสมรสของครอบเศรษฐีครอบครัวหนึ่ง เขาใช้ชีวิตไปวันๆ (พอลอดไปด้วยค่ะ)มาโดยตลอด ที่เขาตกลงแต่งกับชูจี้ก็เพราะอยากจะทำให้ความปรารถนาสุดท้ายของแม่ของเขาสมหวังเท่านั้น แต่ในคืนวันแต่งงาน เขากลับพบว่าเจ้าสาวคนนี้มีพฤติกรรมที่ผิดกับที่เคยได้ยินได้ฟังมา โชคชะตาจะบันดาลให้พวกเขาเป็นอย่างไร และลู่เหยี่ยนจะเป็นดั่งที่เราคิดหรือไม่ สิ่งที่น่าประหลาดใจคือลู่เหยี่ยนมีหลายอย่างที่คล้ายๆ กับมหาเศรษฐีที่ใหญ่ที่สุดในเมืองนี้อย่างพิลึก สุดท้ายแล้ว ลู่เหยี่ยนจะสามารถรู้ได้หรือไม่ว่าชูจี้ คือเจ้าสาวจำเป็นที่ต้องได้แต่งงานแทนพี่สาวของเธอ การแต่งงานของพวกเขาจะเป็นจุดเริ่มต้นเรื่องราวสุดโรแมนติกหรือวิบากกรรมของชีวิต โปรด ติดตามและค้นหาชีวิตและเรื่องราวของทั้งสองคนด้วยกันเถอะ

ขอเลิกกับสามีงี่เง่า

ขอเลิกกับสามีงี่เง่า

Thalia Frost
5.0

กลางวันอ่อนหวาน กลางคืนร้อนแรง นี่คือคำที่ลู่เยียนจือใช้เพื่อบรรยายถึงเธอ แต่หานเวยบอกว่าตัวเองมีชีวิตอยู่ไม่ถึงครึ่งปี ลู่เยียนจือกลับไม่ลังเลที่จะขอหย่ากับสือเนี่ยน “แค่ปลอบใจเธอไปก่อน ครึ่งปีข้างหน้าเราค่อยแต่งงานใหม่” เขาคิดว่าสือเนี่ยนจะรออยู่ที่เดิมตลอด แต่เธอได้ตาสว่างแล้ว น้ำตาแห้งสนิท หัวใจสือเนี่ยนก็แตกสลายไปแล้วด้วย การหย่าปลอมๆ สุดท้ายกลายเป็นจริง ทำแท้งลูก เริ่มต้นชีวิตใหม่ สือเนี่ยนจากไปโดยไม่หันกลับมาอีก แต่ลู่เยียนจือกลับเสียสติ ต่อมา ได้ยินว่าคุณชายลู่ผู้มีอิทธิพลนั้นก็อยู่นิ่งๆ ต่อไปไม่ได้ ขับรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ไล่ตามเธออย่างบ้าคลั่ง เพียงเพื่อขอให้เธอเหลือบมองเขาอีกครั้ง...

ทั่วหล้าฟ้าดิน ข้าคือผู้ครอง

ทั่วหล้าฟ้าดิน ข้าคือผู้ครอง

Coupling Shim
5.0

ในชาติก่อน ซูเยว่ซีถูกอวิ๋นถังยวี่ทำร้ายจนตาย ทำผิดต่อครอบครัวของท่านตา และตัวเองยังถูกทรมานจนตาย เกิดใหม่ครั้งนี้ นางตั้งใจจะจัดการกับพวกผู้ชายชั่วและหญิงเลวจัดการพ่อชั่ว เพื่อปกป้องแม่และครอบครัวของท่านตาให้ปลอดภัย พวกผู้ชายชั่วเข้ามาใกล้งั้นเหรอ นางจะใช้แผนให้เขาเสียชื่อเสียง หญิงตีสองหน้าเก่งชอบทำตัวอ่อนแองั้นเหรอ นางจะเปิดโปงธาตุแท้อีกฝ่ายและไล่นางออกจากจวนซู! ในชาตินี้ สิ่งที่นางต้องทำคือการจัดการพวกปลวกที่แอบแฝงอยู่ในราชสำนัก แก้แค้นคนทรยศ เพื่อปกป้องท่านตาที่เป็นคนซื่อสัตย์ นางใช้มือเรียวเป็นเครื่องมือ ก่อให้เมืองจิงเกิดความวุ่นวาย แต่ท่ามกลางความโกลาหล นางได้พบกับองค์ชาย ผู้ที่ทุกคนเล่าลือว่าเป็นคนพิการ “อวิ๋นเฮิง เจ้าจะมาขวางข้าหรือ” อวิ๋นเฮิงยิ้มเบาๆ “ไม่ ข้าตั้งใจจะมาช่วยเจ้า”

ทางใหม่ เริ่มใหม่

ทางใหม่ เริ่มใหม่

Beckett Grey
4.5

ซ่งจิ่งถังรักฮั่วอวิ๋นเซินอย่างลึกซึ้งนานถึงสิบห้าปี แต่ในวันที่เธอคลอดลูกกลับตกอยู่ในอาการโคม่า ขณะที่ฮั่วอวิ๋นเซินกระซิบข้างหูเธออย่างอ่อนโยนว่า "ถังถัง อย่าฟื้นขึ้นมาอีกเลย สำหรับฉัน เธอไม่มีค่าอะไรอีกแล้ว" ซ่งจิ่งถังเคยคิดว่าสามีของเธอเป็นคนอ่อนโยนและรักใคร่ตัวเอง แต่จริงๆ แล้วเขามีแต่ความเกลียดชังและใช้ประโยชน์จากเธอเท่านั้น และลูกๆ ที่เธอเสี่ยงชีวิตให้กำเนิด กลับเรียกหญิงสาวคนอื่นว่า 'แม่' ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนต่อหน้าที่เตียงคนไข้ของเธอ เมื่อซ่งจิ่งถังฟื้นขึ้นมา สิ่งแรกที่เธอทำคือการตัดสินใจหย่าขาดอย่างเด็ดขาด! แต่หลังจากหย่าแล้ว ฮั่วอวิ๋นเซินจึงเริ่มตระหนักว่า ชีวิตที่ผ่านมาของเขาเต็มไปด้วยเงาของซ่งจิ่งถัง หญิงคนนี้กลายเป็นความเคยชินของเขา เมื่อพบกันอีกครั้ง ซ่งจิ่งถังปรากฏตัวในที่ประชุมในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ เธอเปล่งประกายจนทุกคนต้องหันมามอง หญิงคนนี้ที่เคยมีแต่เขาในใจ บัดนี้กลับไม่แม้แต่จะมองเขาอีก ฮั่วอวิ๋นเซินคิดว่าเธอแค่ยังโกรธอยู่ ถ้าเขาเอ่ยปากพูดนิดหน่อย ซ่งจิ่งถังจะต้องกลับไปหาเขาแน่นอน เพราะเธอรักเขาหมดหัวใจ แต่ต่อมา ในงานหมั้นของผู้นำคนใหม่ของตระกูลเพ่ย เขาเห็นซ่งจิ่งถังสวมชุดแต่งงานหรูหรา ยิ้มอย่างเปี่ยมสุขและกอดแน่นเพ่ยตู้พร้อมสายตาที่เต็มไปด้วยความรักใคร่ ฮั่วอวิ๋นเซินอิจฉาจนแทบคลั่ง เขาตาแดงก่ำและบีบแก้วจนแตก เลือดไหลไม่หยุด...

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ