วิวาห์คลั่งรัก

วิวาห์คลั่งรัก

B.J.BEN

5.0
ความคิดเห็น
4
ชม
18
บท

เมื่อโชคชะตาบังคับให้เขาและเธอซึ่งเป็นคู่กัดต้องกลายเป็นคู่แต่งงานแบบสายฟ้าแลบ! ระหว่างอดีตที่เต็มไปด้วยการปะทะคารม กับปัจจุบันที่ต้องใช้ชีวิตร่วมชายคา... เรื่องวุ่น ๆ จึงเริ่มต้นขึ้น ตั้งแต่แปรงสีฟันยันหัวใจ เขา...ผู้ชายเจ้าเล่ห์ ขี้แกล้ง และขี้หวงอย่างหนัก เธอ...หญิงสาวปากแข็ง ขี้ประชด แต่แอบอ่อนโยนในทุกความใส่ใจ จากบ้านไม้ริมคลอง กลายเป็นสนามรักและสงครามขนาดย่อม ที่ไม่มีใครยอมใคร แต่หัวใจสองดวงกลับเริ่มเปลี่ยนไปทีละนิด... เพราะบางที...โชคชะตาอาจไม่ได้บังคับ แต่มันอาจกำลังพาเขาและเธอ... กลับมายังที่ที่เรียกว่า "บ้าน" ด้วยกัน

บทที่ 1 1

1

แดดยามบ่ายทอดลงสู่ริมคลองสายเก่า ลมพัดเบา ๆ ส่งกลิ่นขนมอบจากเรือนไทยหลังหนึ่งไปยังอีกฝั่งที่มีบ้านไม้สักหลังคล้ายกัน รั้วเตี้ย ๆ กั้นสองบ้านไว้พอเป็นสัญลักษณ์ ไม่ใช่ระยะห่างใจแต่อย่างใด เพราะสองบ้านสนิทสนมกันดี ยกเว้นลูกๆ ที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาตลอด

“เดินไม่ดูทางเลยเหรอขิง เหยียบรองเท้าฉันจนจะหลุดอยู่แล้วนะ” เสียงทุ้มคุ้นเคยดังขึ้นเมื่อหญิงสาวยกตะกร้าขนมเดินขึ้นบันไดมา เธอปรายตาไปทางต้นเสียงอย่างไม่ใส่ใจนัก

“ฉันไม่ได้เหยียบ แค่เดินเฉียดเฉย ๆ เอง”

“เฉียดจนรองเท้าหลุดเนี่ยนะ”

“ถ้ารองเท้ามันจะหลุดง่ายขนาดนั้น นายก็เลือกคู่ใหม่เถอะ” น้ำขิงตอบเรียบ ๆ ขณะวางตะกร้าลงบนโต๊ะไม้

“พูดจาแบบนี้จะยั่วโมโหกันใช่ไหม”

“เปล่า” เธอลอยหน้าลอยตาพูดทำเขาหมั่นไส้เป็นที่สุด

“คิดถึงฉันบ้างไหม” เขาเอ่ยถามยั่วกลับไปบ้าง

“คิดถึงความสงบก่อนนายจะเดินมาเสียมากกว่า”

“อ้อ... เหรอ”

เธอปรายตามองเขา แล้วกอดอก

“นายเองก็ไม่เคยพูดดีกับฉันสักครั้ง จะมาหวังอะไร อยากให้ฉันพูดดีกับนายหรือไงไม่มีทาง”

“เธอพูดแบบนี้ เดี๋ยวก็ขึ้นคานหรอก ใครจะเอาผู้หญิงปากกรรไกรแบบเธอ”

“ขึ้นคานก็ไม่ได้หนักหัวใคร ถึงนายจะเป็นผู้ชายคนสุดท้ายบนโลก ฉันก็ไม่แต่งงานกับนายแน่นอน ขาอ่อนฉันอย่าหวังได้เห็น” น้ำขิงเชิดหน้าเล็กน้อย ก่อนจะพูดอย่างเหย่อหยิ่ง

“ขาอ่อนก็อย่าหวังได้เห็นอย่างนั้นเหรอ”

ภวัตหัวเราะเบา ๆ ดวงตาคมเป็นประกายเจ้าเล่ห์

ไม่ทันให้เธอได้ตั้งตัว เขาก็ดึงเธอมากอดรัดแนบอกก่อนที่จะบดจูบเธออย่างดุเดือดบ้าคลั่ง

“นี่ปล่อยนะ อื้อ...”

“ขาอ่อนก็จะไม่ได้เห็นเหรอ แต่วันนี้ฉันจูบเธอจนปากบวมได้นะ” เขากระชากเธอเข้าไปหา พร้อมแรงดึงที่ทำให้เธอเสียหลักล้มลงบนโซฟาไม้ตรงชานบ้าน

“นายทำอะไรนี่ อื้อ... ปล่อยนะ”

“แค่อยากรู้ว่าเธอยังกล้าพูดเหมือนเมื่อกี้ไหม”

“ปล่อยนะวัต!” น้ำขิงดิ้นขลุก ๆ

“จะบ้าเหรอ!”

“ไม่ได้บ้า แต่เอาจริง”

น้ำขิงกำลังจะต่อว่า แต่ปลายเสียงกลับหายไป เพราะริมฝีปากของเขาประกบจูบปากของเธออีกครั้ง

ตะกร้าขนมหล่นกระแทกพื้นดัง ตุ้บ

ประตูบ้านเปิดพอดี

“วัต! ขิง!! ทำอะไรกันนี่” เสียงร้องของสมพรดังขึ้นลั่นเรือน ตามมาด้วยบิดามารดาของน้ำขิงที่ยืนตาค้างกับภาพตรงหน้า

ภวัตยันตัวลุกขึ้นช้า ๆ ส่วนหญิงสาวรีบผละออกทันที จัดเสื้อผ้าอย่างลนลาน

“แม่คะ! ขิง...ขิงแค่ล้ม แล้ววัตก็ดึงไว้ ขิงไม่ได้...มันไม่ได้มีอะไรค่ะ!”

“ไม่มีอะไรอย่างนั้นเหรอ คิดว่าพ่อแม่เป็นเด็กไม่ประสาหรือไง” เดือนเพ็ญมารดาของน้ำขิงพูดขึ้น

“หนูไม่ได้มีอะไรกับวัตจริงๆ นะคะ นายพูดบ้างสิ จะให้ฉันโดนรุมคนเดียวหรือไง”

“ขิงเสียหาย ผมยินดีรับผิดชอบครับ” ภวัตพูดเสียงเรียบ รับคำอย่างแมนๆ ทำเอาน้ำขิงตาโต

“นายพูดบ้าอะไรของนายนี่” น้ำขิงตกใจกระซิบเสียงดุ ๆ ริมหูของเขา

“รับผิดชอบเธอไง” เขายักคิ้วให้เธออย่างกวนๆ เธอจึงรู้ว่าโดนเขาเล่นเข้าให้แล้ว

“นายจะบ้าเหรอ ใครจะอยากให้นายรับผิดชอบ”

“แค่ไม่อยากให้มันบานปลาย”

“เอาล่ะ ทั้งสองต้องแต่งงานกัน” ประสงค์บิดาของน้ำขิงตัดบทเพราะลูกสาวเสียหาย

“แต่พ่อคะ แม่คะ” น้ำขิงพยายามจะอธิบายว่ามันไม่มีอะไร

“ถ้าลูกไม่แต่งงานกับวัต ก็ไม่ต้องมาเรียกเราสองคนว่าพ่อแม่อีก เราไม่มีลูกสาวที่ปล่อยเนื้อปล่อยตัวแบบนี้” ประสงค์กับเดือนเพ็ญสีหน้าจริงจัง ก่อนจะหันหลังให้ทำท่าจะเดินจากไป แต่แอบยิ้มทั้งสองคน เพราะอยากให้ภวัตกับน้ำขิงแต่งงานกันแต่เด็ก แต่เพราะทั้งสองไม่กินเส้นกันเลยไม่รู้จะใช้วิธีไหนแล้วให้ทั้งสองดีกันและตกหลุมรัก โอกาสนี้มาถึงจะไม่คว้าเอาไว้ได้อย่างไรกัน

โอกาสดีๆ ร้อยปีจะมีสักครั้ง

“คุณพ่อคุณแม่จะตัดขาดหนูเลยเหรอคะ” น้ำขิงตกใจ ไม่ให้ตกใจได้อย่างไรกันบิดามารดาจริงจังเสียขนาดนั้น

“ใช่ เราไม่มีลูกสาวใจง่าย ปล่อยเนื้อปล่อยตัวแบบนี้”

“แต่หนู”

“ไม่มีแต่ แค่นี้แหละ พ่อกับแม่ไม่อยากฟังคำแก้ตัวของเราแล้ว” เดือนเพ็ญพูดเสียงเฉียบ บอกว่าเอาจริงแน่นอน

“หนูขิงไม่ต้องกลัว ลุงกับป้าจะให้ตาวัตรับผิดชอบหนูแน่นอน ในเมื่อหนูเสียหายไปแล้ว”

“หนู...” น้ำขิงพูดไม่ออก เธอยังไม่ได้มีอะไรกับภวัตจะเสียหายได้ยังไง แต่ผู้ใหญ่ทุกคนต่างมองอย่างกดดัน ทำเอาเธออึกอักพูดไม่ออก

“ไม่ต้องอายหรอกน้ำขิง ฉันยินดีรับผิดชอบเธอ ต่อไปเราจะมีหลานอ้วนๆ ให้พ่อกับแม่แน่นอน” เขาโอบเอวเธอเข้าไปกอด สีหน้าทะเล้น เธอถลึงตาเข้าใส่ แต่เขาก็ยังทำสีหน้าไม่รู้ไม่ชี้

“แต่งก็ได้ค่ะ” เมื่อเห็นบิดามารดาจะตัดขาดแล้วมันก็จริงจังมาก เธอจึงรับปากไปก่อน

“ฉันจะแต่งให้พ่อแม่สบายใจเท่านั้น เราแต่งกันแค่ในนาม ไม่นอนด้วยกัน ฉันรังเกียจนาย” อยู่กันสองคนน้ำขิงก็เปิดฉากคุยเรื่องสำคัญกับภวัตในทันที

“อือฮึ” เขาครางรับ

“นายสัญญาแล้วนะ รับปากดีๆ สิ”

“แต่งกันก่อนค่อยว่ากัน”

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ B.J.BEN

ข้อมูลเพิ่มเติม
คู่หมั้นไร้เสน่หา

คู่หมั้นไร้เสน่หา

โรแมนติก

5.0

เมื่อข่าวฉาวบิดเบือนเปลี่ยนหญิงสาวให้กลายเป็นคนที่เขาเกลียด และเมื่อคำสัญญาเก่าของผู้ใหญ่ พาเธอกลับมาในฐานะ ‘คู่หมั้น’ ที่เขาไม่ต้องการ ลลิล สาวสวยผู้สง่างามและเข้มแข็ง ต้องเผชิญแรงกดดันจากคนในครอบครัว รวมถึง กวิน ชายหนุ่มผู้เย็นชา ผู้มองเธอด้วยสายตาดูแคลน…แต่ไม่อาจละสายตาได้เลย ในความเงียบงันระหว่างพวกเขา...กลับมี ‘หัวใจ’ ที่ค่อย ๆ เรียนรู้กันอย่างไม่รู้ตัว จากความเข้าใจผิด กลายเป็นความผูกพัน จากการดูแคลน กลายเป็นการปกป้อง และจาก ‘คู่หมั้นไร้เสน่หา’ กลายเป็น ‘ผู้หญิงเพียงคนเดียวที่เขารัก’

หนังสือที่คุณอาจชอบ

มาเฟียคลั่งรัก.

มาเฟียคลั่งรัก.

จินต์พิชา
5.0

“คุณรักฉันยอมรับมาเถอะ” “เปล่าเลย มิรันดา ผมไม่เคยรักคุณเลยสักนิด ที่ผ่านมามันก็แค่เรื่องเซ็กซ์ ให้ยืนยันอีกกี่ครั้งผมก็พูดเหมือนเดิม ผมไม่ได้รักคุณผมรักแค่เซ็กซ์ของคุณ” ************************* เพราะเสียคนรักจากการลอบทำร้ายของคู่อริเมื่อห้าปีก่อน มาร์คัสจึงไม่คิดจะรักใครอีก แต่เหมือนฟ้าจะกลั่นแกล้งเมื่อมาเจอกับมิรันดาสาวน้อยที่เขาใช้เงินซื้อมาเพื่อให้เธอเลิกยุ่งกับน้องเขยของตนเอง ชายหนุ่มทั้งทั้งหลง แต่ก็ไม่อยากให้เหตุการณ์แบบเดิมเกิดขึ้นอีก เขาจึงคิดจะวางมือและถอนตัวจากธุรกิจสีเทา แต่การจะลงจากหลังเสือนั้นมันยากกว่าที่คิดไว้ ในเมื่อมีคนที่จ้องจะกำจัดเขาให้สิ้นซาก

รักร้ายจอมทระนง

รักร้ายจอมทระนง

มาชาวีร์
5.0

“แหวนไปไหน” “คะ” หญิงสาวรีบหดมือหนีในทันที “พี่ถามว่าแหวนไปไหน” คริษฐ์ยังย้ำคำถามเดิมแล้วจ้องหน้าคู่หมั้นสาวแบบไม่พอใจ “คืออยู่ที่ออฟฟิศมันต้องล้างแก้วกาแฟบ่อย ๆ รุ้งก็เลยถอดเก็บเอาไว้ค่ะกลัวมันจะสึกเสียก่อน” คำตอบของหญิงสาวค่อยทำให้คริษฐ์รู้สึกผ่อนคลายลงเล็กน้อย “ถ้าถอดออกพี่จะถือว่ารุ้งขอถอนหมั้นพี่นะ” “ก็ไม่ได้ถอนสักหน่อย แค่ถอดเก็บเอาไว้เฉย ๆ” “งั้นก็ใส่เสียสิ เดี๋ยวนี้เลย” คริษฐ์ถลึงตาใส่แกมบังคับ “ใส่ก็ใส่ค่ะ” คนพูดตัดพ้อเล็กน้อย แล้วหันไปหยิบกระเป๋าด้านข้างมาเปิดเพื่อหยิบแหวนหมั้นของตนออกมาสวมใส่ จากนั้นก็หันหลังมือให้เขาดู “พอใจหรือยังคะ” “ดี” “ว่าแต่พี่คริษฐ์มานั่งรอรุ้งทำไมคะ มีธุระสำคัญหรือเปล่า” หญิงสาววกมาหาคำถามแรกที่เธออยากรู้ แต่เขาดันจุดประเด็นเรื่องแหวนขึ้นมาแทรกเสียก่อน “แม่ให้พี่มาหาคู่หมั้นตัวเองบ้าง” ฟังเขาพูดแล้วรุ้งพรายชักเครียดขึ้นมาหน่อย ๆ “ถ้าคุณป้าพิมพ์ไม่บอกพี่คริษฐ์ก็คงไม่มาหารุ้งใช่ไหมคะ” “แล้วทำไมรุ้งถึงไม่ไปหาพี่เองบ้างล่ะ” “ก็รุ้งกลัวพี่คริษฐ์รำคาญ” บทสนทนาสิ้นสุดลงด้วยความเงียบด้วยกันทั้งสองฝ่าย คริษฐ์ถอนหายใจเบา ๆ ส่วนรุ้งพรายก็ก้มหน้าต่ำลง ทำไมถึงได้รู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก “พี่ไลน์หาอ่านแล้วทำไมไม่ตอบ” คริษฐ์เป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นก่อนหลังจากเงียบมาเกือบหนึ่งนาที “พอดีรุ้งมาอ่านตอนดึกแล้วไม่อยากรบกวนพี่คริษฐ์ค่ะ” “ตอบมาสักคำก็ยังดี อย่าทำเหมือนพี่ไม่มีตัวตนนะรุ้ง จำเอาไว้ด้วยว่าพี่เป็นคู่หมั้นของรุ้ง” “มันไม่น่าจะเป็นแบบนี้นะคะพี่คริษฐ์” “อะไรกันที่ว่าไม่น่าจะเป็นแบบนี้” “รุ้งว่าเราถอนหมั้นกันดีกว่าไหมคะ ดูพี่คริษฐ์อึดอัดกับการหมั้นของเราเหลือเกิน ขนาดจะมาหารุ้งก็ต้องให้คุณป้าพิมพ์บังคับมาเลย” “แม่ไม่ได้บังคับพี่” “ไม่บังคับก็เหมือนบังคับนั่นแหละค่ะ ตั้งแต่ตอนเด็กแล้วพี่ คริษฐ์แทบไม่เคยขัดใจคุณป้าพิมพ์ได้เลย ถ้ามันเหนื่อยและยุ่งยากมากรุ้งขอถอนหมั้นไปเลยก็ได้ค่ะ” รุ้งพรายดึงแหวนออกจากนิ้วนางข้างซ้าย แล้ววางแหมะอยู่ตรงหน้าของเขา คริษฐ์มองแหวนมองคนแล้วอารมณ์ของเขาก็เดือดดาลขึ้น บทจะอยากได้ก็วิ่งตามติดเป็นเงา บทจะสลัดทิ้งก็ง่าย ๆ แบบนี้เหรอรุ้งพราย “ใส่กลับไปเดี๋ยวนี้” ชายหนุ่มแทบจะกัดฟันพูดออกมา “ไม่ค่ะ อ๊ะ! พี่คริษฐ์จะทำอะไรรุ้งไม่ใส่” รุ้งพรายถูกคริษฐ์กระชากมือมาแล้วจัดการสวมแหวนกลับที่เดิม “ใส่แล้วห้ามถอด ห้ามทำให้แม่พี่เสียใจรู้ไหม” “พี่คริษฐ์!” (รักร้ายจอมทระนง)

ชายาข้าเป็นหมอนิติเวช

ชายาข้าเป็นหมอนิติเวช

เกาะครีต
4.9

วิญญาณแพทย์นิติเวชที่มีชื่อเสียงในศตวรรษที่ 21 ได้เข้ามาอยู่ในร่างคุณหนูของจวนเสนาบดีอย่างบังเอิญ ผู้คนกล่าวหาว่านางไม่เชี่ยวชาญด้านการแพทย์และทำให้บุตรชายของแม่ทัพตาย ด้วยเหตุนี้ฮ่องเต้ต้องการฆ่านางเพื่อให้คำอธิบายกับแม่ทัพ! ผู้คนกล่าวหาว่านางเป็นคนหยิ่งยโสและเจ้ากี้เจ้าการ ทุกคนเกลียดนาง และครอบครัวของนางต้องการไล่นางออก! ผู้คนกล่าวหาว่านางเป็นคนเลวทรามและไร้ความปรานี วางยาน้องสาว และพ่อของนางต้องการโบยนางจนตาย! ในความเป็นจริงหากอยากจะกล่าวหาผู้ใดสักคน มันก็หาข้ออ้างได้ทั่ว แต่นางเป็นคนไม่ยอมใคร นางผอมบางนางหนึ่งปลุกปั่นโลกด้วยความสามารถอันทรงพลังตนเอง ท่านอ๋องกล่าวว่า หากได้เจ้ามาครอบครอง ข้ายอมทรยศทุกคนในโลก นางกล่าวว่า เพื่อท่าน ต่อให้ทุกคนในโลกเกลียดข้า ข้าก็ยอม

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ