สามีของฉัน ภาคิน วัฒนากุล มหาเศรษฐีแห่งวงการเทคโนโลยี เขาคือผู้ชายที่สมบูรณ์แบบ ตลอดสองปีที่ผ่านมา เขาคลั่งรักฉันอย่างสุดหัวใจ ชีวิตแต่งงานของเราเป็นที่น่าอิจฉาของทุกคนที่รู้จัก แล้ววันหนึ่ง ผู้หญิงจากอดีตของเขาก็ปรากฏตัวขึ้น พร้อมกับจูงมือเด็กชายวัยสี่ขวบที่ซีดเซียวและป่วยหนักมาด้วย ลูกชายของเขา เด็กคนนั้นป่วยเป็นลูคีเมีย และภาคินก็ทุ่มเททุกอย่างเพื่อช่วยชีวิตลูกชายของเขา หลังจากเกิดอุบัติเหตุที่โรงพยาบาล ลูกชายของเขาก็เกิดอาการชัก ในช่วงเวลาที่โกลาหลนั้น ฉันล้มลงอย่างแรง ความเจ็บปวดแหลมคมแล่นปราดไปทั่วช่องท้อง ภาคินวิ่งผ่านหน้าฉันไปโดยไม่แม้แต่จะชายตามอง เขากำลังอุ้มลูกชายของเขา และทิ้งให้ฉันนอนจมกองเลือดอยู่บนพื้น วันนั้นฉันเสียลูกของเราไป...ตามลำพัง เขาไม่เคยโทรหาฉันเลยแม้แต่ครั้งเดียว เช้าวันรุ่งขึ้น ในที่สุดเขาก็ปรากฏตัวที่ข้างเตียงคนไข้ของฉันในชุดสูทตัวใหม่ เขาอ้อนวอนขอโทษที่ไม่ได้อยู่ด้วย โดยที่ไม่รู้เลยว่าเหตุผลที่แท้จริงของน้ำตาฉันคืออะไร แล้วฉันก็เห็นมัน... รอยจูบสีคล้ำบนลำคอของเขา เขาอยู่กับผู้หญิงคนนั้น...ในขณะที่ฉันกำลังสูญเสียลูกของเรา เขาบอกฉันว่าคำขอสุดท้ายก่อนตายของลูกชายเขา คือการได้เห็นพ่อกับแม่แต่งงานกัน เขาขอร้องให้ฉันยอมแยกกันอยู่ชั่วคราว และยอมให้เขาจัดงานแต่งงานปลอมๆ กับผู้หญิงคนนั้น ฉันมองใบหน้าที่สิ้นหวังและเห็นแก่ตัวของเขา แล้วความสงบนิ่งอันน่าประหลาดก็เข้าครอบงำจิตใจฉัน “ได้สิ” ฉันตอบ “ฉันจะทำ”
สามีของฉัน ภาคิน วัฒนากุล มหาเศรษฐีแห่งวงการเทคโนโลยี เขาคือผู้ชายที่สมบูรณ์แบบ ตลอดสองปีที่ผ่านมา เขาคลั่งรักฉันอย่างสุดหัวใจ ชีวิตแต่งงานของเราเป็นที่น่าอิจฉาของทุกคนที่รู้จัก
แล้ววันหนึ่ง ผู้หญิงจากอดีตของเขาก็ปรากฏตัวขึ้น พร้อมกับจูงมือเด็กชายวัยสี่ขวบที่ซีดเซียวและป่วยหนักมาด้วย
ลูกชายของเขา
เด็กคนนั้นป่วยเป็นลูคีเมีย และภาคินก็ทุ่มเททุกอย่างเพื่อช่วยชีวิตลูกชายของเขา หลังจากเกิดอุบัติเหตุที่โรงพยาบาล ลูกชายของเขาก็เกิดอาการชัก ในช่วงเวลาที่โกลาหลนั้น ฉันล้มลงอย่างแรง ความเจ็บปวดแหลมคมแล่นปราดไปทั่วช่องท้อง
ภาคินวิ่งผ่านหน้าฉันไปโดยไม่แม้แต่จะชายตามอง เขากำลังอุ้มลูกชายของเขา และทิ้งให้ฉันนอนจมกองเลือดอยู่บนพื้น
วันนั้นฉันเสียลูกของเราไป...ตามลำพัง เขาไม่เคยโทรหาฉันเลยแม้แต่ครั้งเดียว
เช้าวันรุ่งขึ้น ในที่สุดเขาก็ปรากฏตัวที่ข้างเตียงคนไข้ของฉันในชุดสูทตัวใหม่ เขาอ้อนวอนขอโทษที่ไม่ได้อยู่ด้วย โดยที่ไม่รู้เลยว่าเหตุผลที่แท้จริงของน้ำตาฉันคืออะไร
แล้วฉันก็เห็นมัน... รอยจูบสีคล้ำบนลำคอของเขา
เขาอยู่กับผู้หญิงคนนั้น...ในขณะที่ฉันกำลังสูญเสียลูกของเรา
เขาบอกฉันว่าคำขอสุดท้ายก่อนตายของลูกชายเขา คือการได้เห็นพ่อกับแม่แต่งงานกัน เขาขอร้องให้ฉันยอมแยกกันอยู่ชั่วคราว และยอมให้เขาจัดงานแต่งงานปลอมๆ กับผู้หญิงคนนั้น
ฉันมองใบหน้าที่สิ้นหวังและเห็นแก่ตัวของเขา แล้วความสงบนิ่งอันน่าประหลาดก็เข้าครอบงำจิตใจฉัน
“ได้สิ” ฉันตอบ “ฉันจะทำ”
บทที่ 1
กลิ่นยาฆ่าเชื้อที่สะอาดสะอ้านของคลินิกอบอวลอยู่ในจมูกของฉัน ฉันนั่งอยู่บนขอบเตียงตรวจ มองดูพยาบาลพันผ้าพันแผลที่บาดแผลเล็กๆ บนมือของฉันอย่างเรียบร้อย แค่พลาดตอนใช้มีดในครัวนิดหน่อย
มันไม่ได้เป็นอะไรมากเลยจริงๆ แต่ภาคินยืนกรานให้ฉันมาตรวจ
ประตูคลินิกเปิดผางออก และเขาก็รีบวิ่งเข้ามา ชุดสูทราคาแพงของเขายับย่นเล็กน้อย
“ไอลิน คุณโอเคไหม”
ดวงตาของเขา ดวงตาคู่เดียวกับที่ใช้สั่งการในห้องประชุมคณะกรรมการ ตอนนี้เบิกกว้างด้วยความกังวล เขาตรงเข้ามาหาฉัน ไม่สนใจพยาบาล แล้วกุมมือข้างที่ไม่เจ็บของฉันไว้
“ภาคิน ฉันไม่เป็นไรค่ะ แค่แผลนิดเดียวเอง”
เขาดูเหมือนจะไม่ได้ยินฉัน เขาสำรวจผ้าพันแผลสดๆ ราวกับว่ามันเป็นบาดแผลฉกรรจ์ นิ้วหัวแม่มือของเขาลูบไล้ข้อมือของฉันเบาๆ
“คุณต้องระวังให้มากกว่านี้นะ” เขากระซิบ เสียงทุ้มต่ำเต็มไปด้วยความห่วงใยแบบเจ้าข้าวเจ้าของที่คุ้นเคย ซึ่งทำให้ใจฉันเต้นระรัวเสมอ
พยาบาลซึ่งเป็นหญิงสาวหน้าตาใจดี ยิ้มให้เราสองคน
“คุณโชคดีจังเลยนะคะ เขาคงจะรักคุณมากแน่ๆ”
ฉันยิ้มตอบ ความรู้สึกอบอุ่นแผ่ซ่านไปทั่วอก “ค่ะ ฉันรู้”
เราคือคู่รักที่สมบูรณ์แบบ ไอลิน ภัทรพงศ์ และ ภาคิน วัฒนากุล อดีตบาร์เทนเดอร์สาวที่ยอมทิ้งอาชีพเพื่อมหาเศรษฐีแห่งวงการเทคโนโลยีผู้คลั่งรักเธอ สองปีของชีวิตแต่งงานที่เป็นที่น่าอิจฉาของทุกคนที่เรารู้จัก
ทันใดนั้น เสียงร้องไห้ที่น่าใจสลายของเด็กก็ดังแทรกความเงียบของคลินิกเข้ามา มันเป็นเสียงแห่งความเจ็บปวดอย่างแท้จริง ตามมาด้วยเสียงปลอบโยนอย่างสิ้นหวังของผู้หญิงคนหนึ่ง
เสียงนั้นดังมาจากห้องข้างๆ รอยยิ้มของฉันจางหายไป
พยาบาลถอนหายใจ สีหน้าของเธอเศร้าลง “น่าสงสารเด็กน้อยคนนั้นจังเลยค่ะ เขาต้องมาทำคีโม”
“คีโมเหรอคะ” ฉันถาม ลืมบาดแผลเล็กๆ ของตัวเองไปสนิท
“ลูคีเมียค่ะ” เธอพูดเสียงเบา “อายุแค่สี่ขวบเอง มันแย่มากจริงๆ”
ความรู้สึกสงสารท่วมท้นเข้ามาในใจฉัน ฉันนึกภาพความเจ็บปวดที่เด็กคนนั้นกับแม่ของเขากำลังเผชิญไม่ออกเลย
“แย่จังเลยนะคะ” ฉันกระซิบ
ภาคินบีบมือฉัน น้ำเสียงของเขาเย็นชา “มันน่าเศร้าก็จริง แต่มันไม่เกี่ยวกับเรานะลิน กลับบ้านกันเถอะ”
เขาเป็นแบบนี้เสมอ โฟกัสกับเรื่องของตัวเอง และค่อนข้างเย็นชากับสิ่งที่อยู่นอกโลกอันสมบูรณ์แบบของเรา เขาเริ่มช่วยพยุงฉันลงจากเตียง เตรียมจะกลับ
แต่แล้วประตูห้องข้างๆ ก็เปิดออก ผู้หญิงคนหนึ่งที่มีดวงตาเหนื่อยล้าและสวมเสื้อผ้าราคาถูกเดินออกมา จูงมือเด็กชายตัวเล็กซีดเซียวคนหนึ่ง
เด็กชายกำลังร้องไห้สะอึกสะอื้น ใบหน้าเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตา ผู้หญิงคนนั้นดูสิ้นหวัง ดวงตาของเธอกวาดไปทั่วห้องจนกระทั่งมาหยุดอยู่ที่ภาคิน
เธอตัวแข็งทื่อ จากนั้นใบหน้าของเธอก็บิดเบี้ยวด้วยความตกใจระคนกับความรู้สึกบางอย่างที่ฉันบอกไม่ถูก
เธอเดินเข้ามาข้างหน้าหนึ่งก้าว ดึงเด็กน้อยมาด้วย
“ภาคิน?” เธอพูด เสียงสั่นเทา “ภาคิน วัฒนากุล?”
ร่างของภาคินที่อยู่ข้างฉันแข็งเกร็ง เขาไม่หันไปมอง เขาไม่พูดอะไร
ผู้หญิงคนนั้นก้าวเข้ามาอีกก้าว “นี่ฉันเอง เกลไง ที่กรุงเทพฯ เมื่อสี่ปีก่อน”
ฉันมองสลับระหว่างเธอกับสามีของฉัน หัวใจเริ่มเต้นเร็วผิดปกติ ความรู้สึกหวาดกลัวเย็นเยียบแล่นขึ้นมาตามสันหลัง
เด็กน้อยที่ชื่อลีโอเงยหน้ามองภาคิน และบนใบหน้าเล็กๆ ที่ซีดเซียวของเขา ฉันเห็นมัน... แนวสันกรามที่คมคายเหมือนกัน ดวงตาที่ลึกเหมือนกัน เขาคือภาคินในเวอร์ชั่นย่อส่วน
ในที่สุดภาคินก็หันมา ใบหน้าของเขาเรียบเฉยเหมือนสวมหน้ากากแห่งความไม่เชื่อ “ผมไม่รู้จักคุณ”
คำปฏิเสธของเขารวดเร็วเกินไป...เร็วเกินไป
“ที่โรงแรมเดอะเวเนเชี่ยน” เกลพูดต่อ เสียงของเธอหนักแน่นขึ้น “คุณไปที่นั่นเพื่อร่วมงานประชุมด้านเทคโนโลยี เรา...เราค้างคืนด้วยกัน”
ความทรงจำบางอย่างผุดขึ้นมา สิ่งที่ภาคินเคยบอกฉันเมื่อนานมาแล้ว ความผิดพลาดในคืนที่เมามายที่กรุงเทพฯ ก่อนที่เขาจะเจอฉัน เขาบอกว่ามันเป็นแค่วันไนต์สแตนด์ที่ไม่มีความหมาย เป็นความผิดพลาดโง่ๆ ที่เขาเสียใจ
สายตาของฉันกลับไปจับจ้องที่เด็กชายลีโอ...อายุสี่ขวบ
สมการมันง่ายแสนง่าย...และโหดร้ายเหลือทน
ฟองสบู่แห่งความสุขอันอบอุ่นที่ฉันเคยอาศัยอยู่ไม่ได้แค่แตกโพละ มันแตกสลายกลายเป็นเศษน้ำแข็งเย็นเยียบนับล้านชิ้น
ฉันมองภาคิน เสียงของฉันแทบจะเป็นเสียงกระซิบ “เรื่องจริงเหรอคะ”
เขาไม่ยอมสบตาฉัน
“เราต้องตรวจดีเอ็นเอ” ฉันพูด คำพูดเหล่านั้นรู้สึกแปลกประหลาดในปากของฉัน เสียงของฉันเองฟังดูห่างไกลราวกับเป็นของคนอื่น
การรอผลตรวจเป็นหนึ่งชั่วโมงที่ยาวนานที่สุดในชีวิตของฉัน เกลนั่งเงียบๆ กอดลูกชายของเธอไว้ สีหน้าของเธอสงบนิ่ง เกือบจะเหมือนผู้ชนะ ภาคินเดินไปมาบนพื้น ใบหน้าของเขาเคร่งขรึม เสน่ห์ของเขาหายไป ถูกแทนที่ด้วยความรู้สึกผิดที่คุกรุ่นอยู่ภายใน
ฉันได้แต่นั่งนิ่งๆ มือประสานกันบนตัก พยายามประคองตัวเองไว้ ฉันรู้สึกชา เหมือนกำลังดูหนังที่ชีวิตของตัวเองกำลังพังทลาย
ในที่สุด พยาบาลก็กลับมาพร้อมกับกระดาษแผ่นหนึ่ง เธอไม่ต้องพูดอะไรเลย แค่สีหน้าของเธอก็บอกได้ทุกอย่าง
ผลตรวจยืนยัน...ความน่าจะเป็น 99.9%
ลีโอคือลูกชายของภาคิน
ภาคินจ้องมองกระดาษแผ่นนั้น ใบหน้าของเขาซีดเผือด เขามองมาที่ฉัน ปากอ้าๆ หุบๆ แต่ไม่มีคำพูดใดหลุดออกมา เขาดูสับสนและแตกสลาย
เกลเริ่มร้องไห้สะอึกสะอื้น เป็นเสียงที่น่าสงสารและผ่านการคำนวณมาแล้ว เธอดึงลีโอเข้ามาใกล้
“ภาคิน เขากำลังจะตาย” เธอร้องไห้ “หมอบอกว่าเขาต้องปลูกถ่ายไขกระดูก คุณคือความหวังเดียวของเขา ได้โปรดเถอะ เขาเป็นลูกชายของคุณนะ”
คำว่า ‘ลูกชาย’ ดูเหมือนจะกระทบภาคินอย่างจัง เขามองไปที่เด็กชายตัวน้อยที่ป่วยหนัก มองน้ำตาบนใบหน้าของเขา และบางอย่างในตัวสามีของฉันก็เปลี่ยนไป ความรู้สึกผิดในดวงตาของเขาถูกแทนที่ด้วยความรู้สึกรับผิดชอบที่รุนแรงและสิ้นหวัง
เขามองมาที่ฉัน แต่สายตาของเขาห่างเหิน เหมือนกับว่าเขาอยู่ในอีกโลกหนึ่งแล้ว โลกที่ไม่มีฉันอยู่
“ไอลิน” เขาพูด เสียงเครียด “กลับบ้านไปก่อนนะ เดี๋ยว...เดี๋ยวผมจัดการเรื่องนี้เอง กลับบ้านไปพักผ่อนเถอะ”
กลับบ้านไป
คำพูดนั้นดังก้องอยู่ในหัวของฉัน เขากำลังไล่ฉันไป ในวิกฤตครั้งแรกของชีวิตแต่งงานของเรา เขากำลังเลือกพวกเขา เขากำลังผลักไสฉันออกไป
มันคือคำตัดสิน และในวินาทีนั้น ฉันรู้ว่าฉันแพ้แล้ว
ฉันไม่แม้แต่จะมีความโกรธพอที่จะสู้ ฉันรู้สึกเพียงความเศร้าที่ลึกซึ้งและว่างเปล่า นี่คือผู้ชายที่เคยสัญญาว่าจะรักและปกป้องฉันตลอดไป ผู้ชายที่ฉันรักหมดหัวใจ
แต่เขามีความลับ...ความลับอายุสี่ขวบที่ตอนนี้กำลังจะตาย และฉันก็เกลียดเขาไม่ลงที่เขาต้องการจะช่วยลูกของตัวเอง
ฉันลุกขึ้นยืน ขารู้สึกไม่มั่นคง โลกเอียงเล็กน้อย ฉันเดินออกจากคลินิก ทิ้งเขาไว้กับอดีตของเขา ลูกชายของเขา และผู้หญิงที่เพิ่งทำลายอนาคตของฉัน
ฉันกลับมาถึงบ้านที่สวยงามแต่ว่างเปล่าของเรา รูปแต่งงานขนาดใหญ่ในห้องโถงดูเหมือนจะเยาะเย้ยฉัน ใบหน้าที่ยิ้มแย้มของเรา เต็มไปด้วยความหวัง มันทำให้ฉันรู้สึกคลื่นไส้
ความรู้สึกวิงเวียนถาโถมเข้ามา และโลกก็ดับมืดลง
เมื่อฉันตื่นขึ้น ฉันอยู่บนเตียงของตัวเอง ป้านวล แม่บ้านของเรา กำลังมองลงมาที่ฉันด้วยสายตาเป็นห่วง
“คุณผู้หญิงเป็นลมไปค่ะ ป้าโทรเรียกคุณหมอแล้ว”
คุณหมอซึ่งเป็นชายใจดี กำลังเก็บกระเป๋าของเขา เขายิ้มอย่างอ่อนโยน
“ยินดีด้วยนะครับ คุณผู้หญิง คุณกำลังตั้งครรภ์”
ตั้งครรภ์
คำๆ นั้นลอยอยู่ในอากาศ ประกายความสุขเล็กๆ สว่างวาบขึ้นในใจฉัน แต่ก็ตามมาด้วยคลื่นแห่งความไม่แน่นอนที่ถาโถมเข้ามาทันที ลูก...ลูกของเรา
แต่ตอนนี้ภาคินยังต้องการลูกของเราอยู่หรือเปล่า
“เขาอยู่ไหนคะ” ฉันถามป้านวล เสียงอ่อนแรง “ภาคินอยู่ไหน”
“คุณผู้ชายยังไม่กลับบ้านเลยค่ะ ยังไม่โทรมาด้วย”
เขายังอยู่ที่โรงพยาบาล...กับพวกเขา
ฉันนอนนิ่งอยู่ตรงนั้น มือข้างหนึ่งวางบนท้องที่ยังแบนราบ อีกข้างกำโทรศัพท์แน่น พายุแห่งความสุขและความกลัวโหมกระหน่ำอยู่ข้างใน
เขาอยู่ที่โรงพยาบาลทั้งคืน เขาไม่โทรมา เขาไม่ส่งข้อความมา
เช้าวันรุ่งขึ้น ขณะที่ฉันนั่งอยู่คนเดียวที่โต๊ะอาหารขนาดใหญ่ พยายามฝืนกินขนมปังปิ้ง โทรศัพท์ของฉันก็สั่น
ข้อความจากเบอร์ที่ไม่รู้จัก
*ผมรู้ว่าคุณกำลังตามหาครอบครัวของคุณอยู่ ผมคิดว่าผมช่วยได้*
ฉันจ้องมองหน้าจอ หัวใจเต้นรัว ครอบครัวของฉัน...ครอบครัวที่ฉันจำไม่ได้ ครอบครัวที่ฉันคิดว่าสูญหายไปตลอดกาล
ฉันพิมพ์ตอบกลับไปด้วยนิ้วที่สั่นเทา
*คุณเป็นใคร*
บทที่ 1
29/10/2025
บทที่ 2
29/10/2025
บทที่ 3
29/10/2025
บทที่ 4
29/10/2025
บทที่ 5
29/10/2025
บทที่ 6
29/10/2025
บทที่ 7
29/10/2025
บทที่ 8
29/10/2025
บทที่ 9
29/10/2025
บทที่ 10
29/10/2025
บทที่ 11
29/10/2025
บทที่ 12
29/10/2025
บทที่ 13
29/10/2025
บทที่ 14
29/10/2025
บทที่ 15
29/10/2025
บทที่ 16
29/10/2025
บทที่ 17
29/10/2025
หนังสืออื่นๆ ของ Gavin
ข้อมูลเพิ่มเติม