"มะนาว" ครูสอนโยคะสายสุขภาพที่รักความสงบ ย้ายมาอยู่บ้านใหม่หวังจะมีชีวิตเรียบง่าย…แต่ดันต้องเจอเพื่อนบ้านข้างรั้วอย่าง "ภูผา" วิศวกรหนุ่มเสียงดังที่ชอบทำอะไรปั่น ๆ จนเธอหงุดหงิดไม่เว้นแต่ละวัน เสียงเพลง เสียงเลื่อย เสียงหัวเราะของเขา คือสิ่งที่เธออยากปิดประตูหนี แต่แปลก…เมื่อไรที่มันหายไป หัวใจกลับโหวงเหวงราวกับขาดอะไรบางอย่าง รั้วที่กั้นอาณาเขต อาจกั้นบ้านได้…แต่กั้นหัวใจไม่ได้เลย
เสียงใบไม้เสียดสีกันในยามเช้าเหมือนคนกระซิบปลอบใจ มะนาววางเสื่อโยคะสีเขียวบนชานไม้หน้าบ้านใหม่ สูดลมหายใจยาว ๆ ให้ปอดรับกลิ่นดินชื้นหลังฝนเมื่อคืน ทั้งซอยเงียบสงบ มีเพียงเสียงนกเขาไกล ๆ จนกระทั่ง
เสียงกีตาร์ที่ดังขึ้นทำให้ความสุขสงบจางหายไปในทันที
มะนาวนิ่งค้างในท่าภูเขา ค่อย ๆ หันไปทางรั้วไม้สีน้ำตาลด้านข้างที่สูงท่วมหัว เพลงดังจนรู้สึกถึงจังหวะบนพื้นเสื่อ
โอเค... เพื่อนบ้านคนใหม่ของเธอคงตื่นเช้าเพื่อซ้อมคอนเสิร์ตกลางสนามหญ้า
“สูดลมเข้า เอาความหัวร้อนออก” เธอกระซิบกับตัวเอง พยายามผ่อนลมหายใจยาว ๆ อีกครั้ง
เสียงกีตาร์ลากยาวพลิ้วลงสู่ท่อนฮุค เสียงร้องชายสดใสและดังพุ่งตามมา
“โอ๊ย!” มะนาวถึงกับสะบัดมือ หลุดจากท่าต้นไม้ เกือบเสียหลักเหยียบกระถางโรสแมรี
โทรศัพท์ดังขัดอารมณ์ เธอจิ้มรับสาย
“ว่าไงแหวนแก้ว”
เสียงหัวเราะของเพื่อนสนิทดังมาตามสาย
“ย้ายบ้านใหม่เป็นไงบ้างคะ แม่ครูโยคะสายสงบ”
“สงบมาก ถ้าตัดเสียงคอนเสิร์ตลานเบียร์ข้างรั้วทิ้งไปได้” มะนาวตอบหน้าตาย กรอกตาไปมา พลางถอนหายใจยาวเหยียด
“อ้าว” แหวนแก้วลากเสียงยาว
“ไหน ๆ เปิดลำโพงให้ฟังหน่อย”
มะนาวยกโทรศัพท์ขึ้นเหนือหัว เสียงดนตรีทะลุผ่านลำโพงโทรศัพท์จนปลายสาวหัวเราะคิก
“ได้ยินยัง”
“อืม....” แหวนแก้วครางรับ
“อย่าเพิ่งหงุดหงิด ใจร่ม ๆ เข้าไว้ ต่อไปอาจจะเป็นเพื่อนบ้านที่ดี ได้คุยกันทุกวัน”
“ใครจะคุยกับหมอนั่นกัน” มะนาวกลอกตาไปมา
“ฉันวางก่อนนะ ขอไปสงบสติอารมณ์ก่อน”
“โอเคจ้ะ” แหวนแก้วตอบรับเสียงหวาน
มะนาวกดวางสาย พยายามดึงสติกลับมาที่ลมหายใจ แต่ท่อนโซโล่กีตาร์ก็ไต่โน้ตลื่นปรื๋อจนความสงบไต่ตามไม่ทัน ในที่สุดมะนาวตัดใจม้วนเสื่อโยคะ พับความหวังเรื่องเช้าอันเงียบสงบเอาไว้ แล้วเดินลงบันไดไปยังหน้าบ้าน
ประตูไม้บานเล็กที่รั้วฝั่งข้าง ๆ เปิดออกพอดี ผู้ชายรูปร่างสูงในเสื้อยืดสีเทาเปื้อนคราบน้ำมันยืนกอดกองสายไฟไว้เต็มสองแขน แถมยังมีหูฟังพาดคออยู่
เขาชะงักเมื่อเห็นมะนาว
“สวัสดีครับ” เขาเอ่ยทักทาย เธอสะบัดหน้าหนี
“เพลงดังไปหน่อย ขอโทษทีครับ”
“หน่อย” มะนาวยิ้มสุภาพแบบกัดฟัน
“มันไม่หน่อยเลยค่ะ”
ชายหนุ่มเกาท้ายทอย
“ผมกำลังเทสต์ลำโพงที่ซ่อมอยู่ ดันลืมปรับโวลุ่ม ถ้าอย่างนั้นต้องขอโทษอีกครั้งครับ รอบหน้าจะพยายามเบาลงนะครับ”
“ขอบคุณค่ะ” มะนาวตั้งใจว่าจะจบแค่นี้ แต่สายตากลับไปจับที่ป้ายชื่อบ้านฝั่งโน้น
“บ้านภูผา” ตัวอักษรไม้แกะสลักติดอยู่บนกำแพง เธอพึมพำ
“ภูผา”
“ครับ” เขาเงยหน้าขึ้นมายิ้ม ดวงตาเป็นประกายซน ๆ
“ชื่อบ้านเพราะดีค่ะ” เธอเผลอชม
“ฉันมะนาว เพิ่งย้ายมาอยู่บ้านหลังนี้ ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ”
“ผมภูผาครับ ยินดีต้อนรับเพื่อนบ้านใหม่ครับ ถ้ามีอะไรให้ช่วยบอกได้เลยนะครับ หรือถ้าเสียงรบกวนก็ตะโกนบอกได้นะครับ”
“ตะโกนยังไงก็ไม่น่าจะชนะลำโพงพี่หรอกค่ะ” เธอยิ้มบาง แต่ปลายเสียงสะบัดนิด ๆ ทำเอาภูผาต้องหัวเราะออกมา
“โอเค ผมจะปรับปรุงครับ” ว่าแล้วเขาก็ยกกองสายไฟกลับเข้าบ้าน เพลงเงียบลงอย่างน่าอัศจรรย์ ซอยกลับมาสงบเฉียบจนได้ยินเสียงลมหายใจของตัวเอง
มะนาวถอนใจอย่างโล่งอกและเขินนิด ๆ กับความปากกล้าของตัวเอง เธอกลับขึ้นชานบ้าน คลี่เสื่ออีกครั้ง ตั้งใจจะเริ่มท่าใหม่อย่างใจเย็น คราวนี้มีความนิ่งสมใจ ท้องฟ้าสดใสขึ้นเรื่อย ๆ จนแดดอุ่น ๆ ลูบไล้ผิวแก้มเบา ๆ
สายหน่อย มะนาวขับรถคันเล็กออกไปซื้อของเข้าบ้าน ร้านชำหัวมุมซอยมีป้ายผ้าสีซีดปลิวไหว เธอผลักประตูไม้เข้าไปอย่างเบามือ
“อ้าว หน้าคุ้น ๆ บ้านใหม่ท้ายซอยนั่นใช่ไหมหนู” ชายวัยห้าสิบกว่าในเสื้อเชิ้ตลายสก็อตเอ่ยทักทาย
“ยินดีต้อนรับจ้ะ”
“สวัสดีค่ะลุง หนูชื่อมะนาวค่ะ เพิ่งย้ายมาเมื่อวาน” เธอยิ้ม
“ขอซื้อนม ขนมปัง ไข่ แล้วก็ปลั๊กพ่วงค่ะ”
“ได้ ๆ” ลุงชัยขยับตัวอย่างคล่องแคล่ว หยิบของทีละอย่าง
“บ้านใหม่ใกล้ ๆ ภูผาใช่ไหม”
มะนาวชะงัก
“ลุงรู้ได้ไงคะ”
“รู้สิ” ลุงหัวเราะอย่างภูมิใจ
“ไอ้ภูมันเสียงดัง ใครอยู่ข้าง ๆ ต้องมีบ่น”
ลุงชัยวางปลั๊กพ่วงลงบนเคาน์เตอร์
“เสียงดังจริงค่ะ” เธอเห็นด้วย ก่อนหัวเราะแห้ง ๆ จ่ายเงินแล้วรีบหิ้วถุงกลับ
บ่ายวันเดียวกัน เธอขนกล่องหนังสือขึ้นชั้นบน พอวางกล่องสุดท้ายก็ปวดช่วงหลังจนต้องยืดตัว พลันได้ยินเสียงเครื่องยนต์หน้าบ้าน เธอโผล่หน้าไปจากหน้าต่าง เห็นภูผากำลังยืนเปิดฝากระโปรงรถตัวเอง มือหนึ่งคีมคีบสายไฟ อีกมือจับไฟฉาย เขาเงยหน้ามาพอดี
“ทำอะไรอยู่ครับ ให้ช่วยไหม” เพราะได้ยินเสียง เขาคิดว่าเธอน่าจะกำลังขนของอยู่
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันอุ๊ย!” กล่องอีกใบลื่นจากมือ ตุ้บ! หนังสือโยคะกับสมุดวาดรูปปลิวกระจาย
“ให้ช่วยไหมครับ” ไม่ทันขาดคำ ภูผาก็โผล่มาที่บันไดหน้าบ้าน
“ระวังหลังนะครับ เดี๋ยวช่วยยก” เขาหยิบกล่องขึ้นด้วยท่าทางสบาย ๆ
“ขอบคุณค่ะ” มะนาวยืนกอดสมุดแนบอก
“เมื่อตอนเช้าบ่นพี่ไปเยอะเลย ขอโทษนะคะ”
“ไม่เป็นไรเลยครับ ผมผิดเอง เปิดเพลงดังจริง” เขายิ้ม
“ขอโทษแทนลำโพงด้วย”
มะนาวเผลอยิ้มตาม
“รับทราบค่ะ” ทั้งสองช่วยกันยกของขึ้นชั้นบนสี่ห้าเที่ยว คุยกันเรื่องต้นไม้ในสวนและเส้นทางวิ่งออกกำลังในหมู่บ้าน ภูผาเอ่ยถึงหมาจรหน้าปากซอยชื่อข้าวปั้นที่เขาแอบซื้อไส้กรอกให้ประจำ ทำให้เขาดูอ่อนโยนขี้เล่นในเวลาเดียวกัน เมื่อจัดของเรียบร้อย ภูผาก็เช็ดเหงื่อเบา ๆ
บทที่ 1 1
28/11/2025
บทที่ 2 2
28/11/2025
บทที่ 3 3
28/11/2025
บทที่ 4 4
28/11/2025
บทที่ 5 5
28/11/2025
บทที่ 6 6
28/11/2025
บทที่ 7 7
28/11/2025
บทที่ 8 8
28/11/2025
บทที่ 9 9
28/11/2025
บทที่ 10 10
28/11/2025
บทที่ 11 11
28/11/2025
บทที่ 12 12
28/11/2025
บทที่ 13 13
28/11/2025
บทที่ 14 14
28/11/2025
บทที่ 15 15
28/11/2025
บทที่ 16 16
28/11/2025
บทที่ 17 17
28/11/2025
บทที่ 18 18
28/11/2025
บทที่ 19 19
28/11/2025
บทที่ 20 20
28/11/2025
บทที่ 21 21
28/11/2025
บทที่ 22 22
28/11/2025
หนังสืออื่นๆ ของ B.J.BEN
ข้อมูลเพิ่มเติม