Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
หัวใจป่วนไอรัก

หัวใจป่วนไอรัก

SHASHAwriter

4.9
ความคิดเห็น
605.7K
ชม
89
บท

หากนายแพทย์ภวินท์รู้ว่าเธอซุกลูกแฝดของเขาเอาไว้อย่างมิดชิด เขาจะต้องมาพรากลูกไปจากเธอแน่ กระบวนการซ่อนลูกจากพ่อ รอกำหนดการหย่าจึงเกิดขึ้น ##### ฐิตตาใจคอไม่ดี ตั้งแต่ออกจากบ้าน ยิ่งพอรถเลี้ยวกลับเข้ามา ก็ยิ่งใจหายหนักเข้าไปใหญ่ เธอเห็นภวินท์กำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะตัวเดิม เหมือนคราวแรกที่เขามา แต่ที่ไม่เหมือนคราวแรกเสียทีเดียว คือเขากำลังนั่งคุยอยู่กับสองแสบของเธอ เจ้าสองแสบวิ่งเข้ามากอดขาแม่ทันที แล้วแย่งกันพูด ชนิดที่ฟังแล้วตัวชาวาบราวกับถูกสาดด้วยน้ำแข็ง “แม่จ๋า มีคนมาหาแม่จ้า เขาบอกว่าชื่อ ‘พ่อ’ ” พี่ชายได้ยินอย่างนั้นรีบแย้ง “เขาไม่ได้ชื่อ ‘พ่อ’ เขาบอกว่า ‘เขาเป็นพ่อ’ ” ฐิตตากลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก ใจสั่น และมันคงรุนแรงมากพอ พอที่จะทำให้เธอสั่นไปทั้งตัว ใบหน้าของหญิงสาวซีดเผือด เกิดความหวาดกลัวหวาดหวั่นขึ้นในตอนนั้นเล็กน้อย และเธอไม่ได้หันไปทางที่นายแพทย์ภวินท์ยืนอยู่ ไม่อย่างนั้นคงได้เห็นว่าเขามองเธอกับลูกนิ่งเป็นนานสองนานด้วยสายตาเฉียบขาดเฉียบคมมากขนาดไหน

บทที่ 1 1

ฐิตตาในวัยสิบสี่ปีมองชายหนุ่มที่นั่งอยู่บนโซฟาด้วยความไม่สบอารมณ์อยู่พอควร เพราะบิดาของเธอไม่ไปรับกลับจากหอแบบที่เคยทำ อีกทั้งพอถึงบ้านก็เรียกให้มาทำความรู้จักกับคนพวกนี้ในทันที

ดีที่รู้มาจากพี่นวลว่าสองคนนี้เป็นใคร

ชายที่นั่งอยู่ตรงข้ามเธอคนนี้คงเป็นคนลูก ที่ซึ่งบิดาให้การอุปถัมภ์ค้ำชูอยู่

ส่วนอีกคนเป็นหญิงวัยไม่น่าห่างจากบิดาของเธอเกินห้าปี

“นี่อัมพร” บิดาแนะนำหญิงคนนั้นจบเอื้อมมือโอบไหล่ชายหนุ่มที่นั่งอยู่ติดกับท่าน แนะนำต่อด้วยสีหน้าปลื้มอกปลื้มใจนักหนา

“ส่วนนี่ภวินท์ ลูกศิษย์คนเก่งของพ่อเอง”

เธอได้รับการแนะนำจากบิดาแบบนั้นในวันนั้น

ภวินท์เป็นชายหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่ง แววตาคู่คมเข้มจ้องเธอราวกับมองเด็กอมมือ ฐิตตาได้แต่นิ่งไม่ตอบรับว่าอะไร แต่ภายในใจเดือดดาลราวกับน้ำร้อนจัดที่ต้มทิ้งเอาไว้บนเตาไฟระอุ

และนั่นก็เป็นครั้งแรกที่เธอได้พบกับนักศึกษาแพทย์ภวินท์ จากนั้นเป็นต้นมาเธอไม่ได้พบเจอเขาอีก มีก็แต่นางอัมพรที่คอยรับใช้บิดาของเธอจากนั้น ก่อนจะได้เลื่อนขึ้นมาเป็นคุณหัวหน้าแม่บ้านในเวลาต่อมา

ฐิตตาต้องกลับไปที่โรงเรียนและอยู่ประจำที่หอพักจวบจนจบมัธยมศึกษาตอนปลาย หากเป็นช่วงปิดเทอมเธอจะไปอยู่ที่บ้านของคุณตาโชติ ญาติผู้ใหญ่ที่เหลือเพียงคนเดียวของเธอ แทนที่จะกลับบ้านมาพบหน้าบิดา

เธอไม่ไปเรียนติวอย่างที่บิดาต้องการ ไม่สอบเข้าในคณะที่บิดาบอกให้ไป ฐิตตาต่อต้านทุกอย่างที่บิดาสั่งเมื่อรับรู้เพิ่มเติมว่านอกเหนือจากดื่มหนักแล้ว ท่านยังมีข่าวซุบซิบในวงสังคมเรื่องพฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศ เธอไม่ได้รังเกียจหากท่านจะเป็นแบบนั้น แต่เธอไม่พอใจที่บิดาเห็นสองแม่ลูกนั่นดีกว่าเธอ ให้ความสำคัญคนอื่นมากกว่าเธอ

ฐิตตาเรียนในมหาวิทยาลัยในคณะที่ตนเองสนใจจนจบ ก็ถูกบิดาพาตัวกลับมาที่บ้านราวกับนักโทษคุมขัง ท่านบอกให้เธอเข้าไปในห้องที่ตอนนั้นมีเพียงท่าน คุณอาทนายสุนัย เจ้าหน้าที่ของเขต เธอและนายแพทย์ภวินท์เท่านั้น

พร้อมยื่นคำขาดให้เธอจดทะเบียนสมรสกับนายแพทย์ภวินท์

“คุณพ่อทำบ้าอะไรคะเนี่ย”

จำได้ว่าตอนนั้นเธอไม่ยินยอม และไม่ได้คำอธิบายใดๆ ทั้งสิ้นจากบิดา นายแพทย์ชวัลก็ไม่คิดจะปริปากบอกอะไรกับเธอ ทำแต่เพียงสั่ง

“เซ็นชื่อลงไปถิง”

“ไม่!”

“อย่างนั้นพ่อจะโอนบ้านหลังนี้ให้หมอวิน”

“คุณพ่อทำแบบนั้นไม่ได้นะคะ นี่เป็นบ้านของคุณแม่ คุณพ่อมีแต่ตัว เงินที่เอาไปลงทุนในโรงพยาบาลนั่นก็ของคุณแม่” ฐิตตาเถียงเสียงสั่น มองบิดานิ่งอยู่นาน ก่อนผุดรอยยิ้มยียวนใส่ท่าน “คิดจะจับถิงแต่งงานบังหน้าให้หรือยังไงคะ คนอื่นเขาจะได้ไม่ดูถูกคุณพ่อใช่ไหมเรื่องรักร่วมเพศกับเด็กของคุณพ่อนั่นน่ะ อยากแต่งนักคุณพ่อก็แต่งเอาเองสิ คุณพ่อหลงผู้ชายจนหน้ามืดตามัวไปแล้ว...”

เธอยังบริภาษท่านไม่จบดี ก็ถูกท่านตวัดมือตบลงบนซีกแก้มจนเสียววาบและชายิบไปหมด แก้มนวลใสปรากฏรอยนิ้วขึ้นในตอนนั้นเอง ดวงตาของหญิงสาววาวฉ่ำด้วยน้ำตาก่อนจะหยดแหมะลงมาไม่ขาดสาย คุณพ่อไม่เคยตบตีเธอมาก่อน เรียกว่านี่เป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายก็คงได้ละมัง

นายแพทย์ชวัลมองเธอด้วยสายตาจริงจัง แล้วสั่งคำเดิม

“เซ็นชื่อลงไป พ่อไม่ได้ขู่เรานะ แต่พ่อจะทำจริงๆ เลือกเอาเองว่าจะให้พ่อโอนบ้านเป็นชื่อของหมอวินไหม”

ฐิตตามองท่านอย่างโกรธเคือง สุดท้ายก็เห็นบิดาจับปากกายัดใส่ในมือของตนเอง เธอนิ่งมองท่านอยู่อย่างนั้นอีกครู่แล้วตวัดเขียนชื่อลงไปในทะเบียนสมรส ค่อยผละจาก

คุณพ่อซื้อรถ ซื้อข้าวของมากมายให้นายคนนั้น แล้วยังจะยกบ้านนี้ให้อีก

นางอัมพรถูกเลื่อนขึ้นเป็นหัวหน้าแม่บ้าน

ให้ท้ายกันแบบนี้สิ สองแม่ลูกนั่นถึงได้มีท่าทีหยิ่งผยองใส่เธอ

ฐิตตาคิดอย่างแค้นใจ แล้วเปลี่ยนเครื่องแต่งตัวจะออกไปข้างนอก แต่ก็ไปไหนไม่ได้ ประตูถูกใส่กุญแจเอาไว้ที่หน้าห้อง บิดาขังเธอเอาไว้ที่ในนั้นทั้งวัน

รุ่งขึ้นเธอถูกจับเข้าพิธีสมรสที่จัดขึ้นเงียบๆ

สายวันนั้นหลังเสร็จพิธีเธอเปลี่ยนชุดแล้วขับรถออกจากบ้านไปเลย แล้วไม่กลับเข้ามาอีก ทั้งยังปิดโทรศัพท์หนีด้วย จงใจไม่ให้ใครติดต่อเธอได้นั่นแหละ

จากที่คิดว่าเป็นการแต่งงานแบบเงียบๆ จากนั้นอีกไม่กี่วัน เพื่อนก็เอาบทสัมภาษณ์ของนายแพทย์ภวินท์มาให้เธอดู เขาบอกกับสื่อสั้นๆ ว่าแต่งงานแล้วกับบุตรีของนายแพทย์ชวัล และไม่ได้ให้รายละเอียดอะไรมากกว่าไปกว่านั้น

นี่เขาจะป่าวประกาศให้คนอื่นรู้ทำไม

เธอหรือสู้อุตส่าห์เงียบปากเอาไว้เพราะไม่อยากให้ใครรู้เรื่องนี้แม้แต่คนเดียว

“จริงหรือถิง นี่แกแต่งงานแล้วจริงหรือ”

เพื่อนคนที่หอบเอาข่าวมาให้ดูถามเสียงสูง ท่าทีของอีกฝ่ายตื่นเต้นเสียจนน่ารำคาญ ฐิตตาทำตัวให้เป็นข่าวทุกวัน โดยเฉพาะเรื่องฉาวโฉ่ ฐิตตาแต่งตัวเปรี้ยวเฉี่ยวเข็ดฟันออกไปปาร์ตี้ทุกคืน ควงผู้ชายที่ส่วนใหญ่ก็เพื่อนในกลุ่มนั่นเองที่ล้วนแต่เป็นเพื่อนสาวของเธอทั้งนั้น กอดบ้าง จูบบ้าง อวดสื่อ ฐิตตาไม่แคร์ใคร เธอคิดตื้นๆ ว่าหากนายแพทย์ภวินท์เห็นว่าเธอเหลวแหลก รังแต่จะทำให้เขาเสียชื่อเสียง เขาคงจะรีบประเคนใบหย่าให้เธอเป็นแน่

แต่แล้วก็เงียบ ไม่มีปฏิกิริยาใดๆ จากเขา ซ้ำร้ายอีกสองเดือนถัดมา เธอก็รู้ข่าวการเสียชีวิตของบิดาบนสื่อออนไลน์พร้อมทุกคน ว่าท่านพลัดตกจากดาดฟ้าของโรงพยาบาล และข่าวก็ถูกใครบางคนบิดเบือนปกปิดความจริงเอาไว้ นานวันเข้าไม่มีคนขุดคุ้ยรวมถึงอำนาจเงินก็สามารถทำให้ข่าวนั่นเงียบหายไปตามกาลเวลาได้ในที่สุด

เสียงก้าวย่างหนักๆ ฟังดูมั่นคงแฝงดุดันเล็กน้อยดังก้องกังวานไปทั่วทั้งชั้นนั้นบนตึกสูงระฟ้ากลางมหานคร นายแพทย์ภวินท์เพิ่งออกจากห้องผ่าตัดเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อนหน้า และต้องนั่งวินมอเตอร์ไซค์ฝ่าจราจรแน่นขนัดเพื่อมาให้เห็นกับตาตัวเองว่าภรรยาตีทะเบียนมาที่ปาร์ตี้ปัญญาอ่อนนั่นจริงๆ ทั้งที่เธอเพิ่งดิสชาร์จไปเมื่อตอนบ่าย ด้วยอาการเป็นลมหมดสติทำอย่างไรก็ไม่ฟื้น จนต้องนำตัวส่งโรงพยาบาล

ขนาดนี้แล้วยังไม่เจียมตัวอีก

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ SHASHAwriter

ข้อมูลเพิ่มเติม
เมียเก่าที่เขาไม่เคยรัก

เมียเก่าที่เขาไม่เคยรัก

โรแมนติก

5.0

ภาวรีแหงนหน้าขึ้นแล้วยิ้มกวนโมโหใส่หน้าเขา "มาขวางทำไม เชยไม่สนพี่เขื่อนแล้วนะรู้ไหม ให้หย่าก็ได้เลย ไปเลย เพราะไรรู้มะ เพราะพี่เขื่อนสู้หนุ่ม ๆ ในร้านไม่ได้เลยสักคน ในนั้นถึงใจกว่าพี่เขื่อนตั้งเยอะ" ลัพธวิทย์หรี่ตามอง ถามเสียงเรียบ "ถึงใจแบบไหน" "ใหญ่กว่า อึด แล้วก็เอาเก่งกว่าพี่เขื่อน" ได้ยินเสียงตัวเองพูดจาก๋ากั่นออกไปแบบนั้นแล้วก็ให้ตกใจไม่น้อย พอได้ยินคำตอบของเธอที่หลับตาฟังก็รู้ว่าจงใจพูดจายั่วยุเขา ลัพธวิทย์ก็ค่อยหัวเราะออกมาลั่น พร้อมค่อนแคะกลับไป "น้ำหน้าอย่างเราเนี่ยหรือ กล้านอนกับผู้ชายตามบาร์" ภาวรีหน้าชาเมื่อถูกจับไต๋ได้ว่าโกหก เธอลอยหน้าลอยตาแล้วตอบเขากลับ "ทำไมจะไม่กล้า แม่เปิดห้องให้เชยลองแล้วด้วย หนุ่ม ๆ ในบาร์โฮสต์ทำให้เชยรู้แล้วล่ะว่าของพี่เขื่อนนี่เทียบชั้นกันไม่ติด แบบนั้นน่ะ..." ภาวรีพูดแล้วกวาดตาลงมองอย่างหยามเหยียด บอกต่อจนจบประโยค "น่าจะเอาไว้แค่ฉี่มากกว่านะ"

ห้องลับของคุณรัชญ์

ห้องลับของคุณรัชญ์

โรแมนติก

5.0

"ถอดชุดบนตัวเธอออกมาเดี๋ยวนี้!" "หนูทำไม่ได้..." ขวัญลดายังพูดไม่จบดีเลยว่าเธอถอดชุดที่ใส่บนตัวออกไม่ได้เพราะมันรัดมาก ๆ นี่ก็นัดกับออยลี่ ลูกของป้าเนืองไว้แล้วให้มาช่วยถอดชุด ไม่รู้น้องคนที่วานให้ช่วยเหลือจะหลับไปแล้วหรือยัง ไม่อย่างนั้นเธอคงต้องฉีกมันออกแทนการถอด แต่เจ้าของห้องลับที่ใคร ๆ พูดปากต่อปากกันว่า ห้องนี้ใครเข้ามาแล้วต้องเสว ก็ปราดเข้ามาปล้ำถอดชุดของเธอออกจนหมด แต่เพราะชุดมันรัดมาก ๆ ดลวรัชญ์ลงมือถอดไปก็สบถไปพลางด้วยอาการหัวเสีย "แต่งตัวเชี่ยอะไรวะ รู้ไหมว่ามันรัดหน้าอก รัดโหนกจนเห็นเป็นเนินนูน นึกว่าลานจอดฮอ" พอชุดถูกถอดออกจนหมด ขวัญลดาค่อยหายใจได้ลึกขึ้นจากเดิม นึกขอบคุณที่เขาช่วยเหลือเธอในครั้งนี้ แม้จะดูเป็นการช่วยที่ไม่ปกตินักก็ตามที "หนูรู้ค่ะ" "รู้แต่ก็ยังใส่" "คุณป้าบอกว่ามันมีชุดเดียว ชุดนี้เมื่อก่อนท่านตัดไว้ให้พี่โรส แต่คุณเล่นพาพี่โรสมานอน หนูก็เลย..." "หึง?" เสียงเข้มถามขัดคำตอบของเธอ ขวัญลดามองเขาแล้วได้แต่ส่ายหน้า เธอยังไม่รู้จักเลยว่า หึง อาการเป็นอย่างไร "ไม่ใช่ค่ะ หนูกำลังอธิบายเรื่องที่ว่าทำไมต้องใส่ชุดนี้" "เธอหึง" คนชอบให้ทุกอย่างหมุนรอบตัวเองอย่างดลวรัชญ์สรุปในสิ่งที่ตัวเองคิดได้ พร้อมด้วยมุมปากที่ยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม ก่อนจะเกร็งมันไว้ให้เหยียดตรงดังเดิม "และเธอเบี่ยงประเด็นนะลดา" "แล้วแต่คุณเลยค่ะ" ขวัญลดาบอกอย่างยอมแพ้ ++++++ เนื้อหานิยายเน้นอ่านเพลิน ๆ ย่อยง่าย ๆ และจบดี แฮปปี้ค่ะ

ตราบาปรัก ผู้ชายใจร้าย

ตราบาปรัก ผู้ชายใจร้าย

โรแมนติก

5.0

คำโปรย ปริญญ์เคยบอกว่ารักเธอ แต่เมื่อมีเหตการณ์บางอย่างทำให้ต้องเลิกรากันไป เขาย้อนกลับมาทำดีด้วย และขอเธอแต่งงาน หลังแต่งงานกับจินดาพรรณมาสี่ปี ปริญญ์เที่ยวคบหาผู้หญิงคนใหม่ไปเรื่อย ๆ เพื่อให้เธออับอาย ... นี่น่ะหรือความรักของเขา ตัวอย่างเนื้อหา "เดี๋ยวดา เรื่องที่เราคุยกันไว้ ดาต้องทบทวนดี ๆ ก่อน..." "พรุ่งนี้เลยปิน พรุ่งนี้ไปเจอกันตามที่ตกลงไว้ได้เลย" ปริญญ์มองเธอนิ่งอยู่เป็นนานสองนาน กว่าจะพูดอะไรได้สักคำหนึ่ง ก็ยากเย็นเต็มที "หรือไม่ ปินว่าเราลอง..." "อย่าเอาแต่พูดหลอกล่อกันแบบนี้อยู่อีกเลยปิน เราสองคนจบกันเท่านี้เถอะ ทิ้งทุกอย่างเอาไว้แค่นี้ ขอให้เลิกแล้วต่อกัน เราจะได้ไม่เกลียดกันมากไปกว่านี้ หรือปินอยากให้ดาเกลียด จนไม่ไปเผาผีกันเลย ก็ได้นะปิน" ได้ยินและได้รู้ถึงความคิดของจินดาพรรณแล้ว ในใจของปริญญ์ปวดแปลบ เสียดและเสียวไปทั้งทรวงอก เขาอึ้งจนพูดอะไรไม่ออก คิดได้ในตอนนั้นเองว่านี่เขาทำอะไรต่อมิอะไรลงไปนั้น มันแย่มาก จินดาพรรณถึงได้บอกว่าเกลียดเขาถึงขนาดนี้ ปริญญ์รู้สึกได้ถึงก้อนขม ๆ ในคอ เขาฝืนที่จะกล้ำกลืนมันลงไป แล้วขยับเท้าเพื่อถอยหลังออกมา มาได้เพียงครึ่งก้าวแล้วก็ทำอะไรไม่ถูก สายตาเจ็บปวดของเขายังคงมองไปยังจินดาพรรณ เปิดปากเพื่อจะพูดบางประโยคออกไป "แต่ดา...ปินระ...ปินรั" จินดาพรรณหมุนตัว เพื่อกลับเข้าห้อง เธอไม่อยากฟังสิ่งที่เขากำลังจะพูด แต่กลับโดนดึงตัวเข้าไปกอดเอาไว้แนบแน่น เธอไม่ได้ออกแรงดิ้น ทำเพียงปิดตาลง ซ่อนความรู้สึกเจ็บปวดเอาไว้ข้างในลึก ๆ บอกตัวเองว่าอย่าได้ถลำตัวและหัวใจไปกับภาพลวงตาของปริญญ์ อย่าได้หลงคารมของเขาอีกเป็นอันขาด บทจะหวาน ปริญญ์ก็ทำให้เชื่อได้ทั้งนั้น และเขาก็ทำเพียงเพราะต้องการให้เธอหลงเชื่อ เขาหลอกเธอซ้ำ ๆ แล้วทิ่มแทงเธอให้ผิดหวัง เจ็บปวดและเสียใจ ครั้งนี้ก็คงเหมือนกัน ปริญญ์สูดดมกลิ่นของภรรยาเข้าจมูกจนลึกสุดปอด ถูไถใบหน้าไปมาอย่างที่โหยหามาโดยตลอด พร้อมกับพึมพำที่ข้างหูของเธอ "ปินให้เวลาดาคิดอีกสามวัน ระหว่างนี้ถ้าดาเปลี่ยนใจ ก็ไม่ต้องไป แต่ถ้าดายังคิดแบบเดิม วันนั้นเราค่อยไปเจอที่บริษัทตามที่คุยไว้ แต่ระหว่างนี้ ดาต้องคิดดูดี ๆ ก่อนนะ อย่าใช้อารมณ์ตัดสินใจเด็ดขาด" จินดาพรรณถอนลมหายใจของตัวเองออกยาว ๆ เธอนี่หรือใช้อารมณ์เป็นที่ตั้ง ตลอดมามีแต่ปริญญ์ที่ทำแบบนั้น และเธอไม่ต้องการเป็นที่รองรับอารมณ์ของเขาอีกแล้ว คิดได้แบบนั้นค่อยเปิดตาขึ้น แล้วออกแรงดันตัวเองจากอ้อมกอดของเขา หันมามองที่เขาด้วยสายตาว่างเปล่า บอกออกไปตามอย่างที่ตัดสินใจเอาไว้แล้วก่อนหน้านี้ "ดาไม่ต้องคิด ไม่ต้องตัดสินใจอะไรอีกแล้วล่ะปิน ถ้าปินว่างพอ พรุ่งนี้เราก็ไปจัดการเรื่องหย่าให้เรียบร้อยได้เลย" ****************************** แนวพระเอกโบ้ ไม่ได้นอกใจ จบดีและไม่มีใครตุยค่ะ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ที่แท้เป็นผู้มีอิทธิพลระดับโลก

ที่แท้เป็นผู้มีอิทธิพลระดับโลก

Odey Jagoe
5.0

เสิ่นซือหนิงซ่อนตัวตนไว้ยอมทำทุกอย่างให้ แต่ความจริงใจของเธอกลับถูกสามีทำลายไปหมด และสิ่งที่เธอได้รับนั้นคือข้อตกลงการหย่า ด้วยความผิดหวังเธอจึงหันหลังจากไปและกลายเป็นตัวเองที่แท้จริงอีกครั้ง หลังจากได้เห็นความใกล้ชิดของสามีกับคนรักของเขา เธอก็จากไปด้วยความผิดหวัง จากนั้นเปิดเผยตัวตนที่เป็นนักปรุงน้ำหอมอัจฉริยะระดับนานาชาติ ผู้ก่อตั้งองค์กรข่าวกรองที่มีชื่อเสียง และผู้สืบทอดในโลกแฮ็กเกอร์ อดีตสามีของเธอเลยเสียใจมาก เมื่อเมิ่งซือเฉินรู้ว่าตัวเองทำผิด เขาก็เสียใจมาก หนิง ผมผิดไปแล้ว ให้โอกาสผมอีกครั้งเถอะ ทว่าฮั่วจิ่งชวนขาพิการนั้นกลับลุกขึ้นยืนและจับมือกับเธอว่า "อยากคบกับเธอ นายยังไม่มีค่าพอ"

ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา

ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา

l3oonm@
5.0

“ท่านผู้อำนวยการคะ ทางทีมสำรวจแจ้งว่าคนไม่เพียงพอที่จะเข้าไปเก็บตัวอย่างพันธุ์พืชในป่าเมืองเหอหนานค่ะ” ซูเจิน ที่ได้ยินก็หูผึ่งทันที เธอนั่งทำการอยู่ในห้องวิจัยตั้งแต่เรียนจบ ถึงตอนนี้ก็สี่ปีได้แล้ว ผู้อำนวยที่เข้ามาตรวจงานวิจัยล่าสุด ก็มองไปรอบห้อง เพื่อดูว่ามีใครต้องการเสนอตัวไปทำงานในครั้งนี้หรือไม่ แต่หลายคนที่เขามองไป ต่างหลบสายตาของเขา จะมีใครอยากออกไปเสี่ยงอันตราย เดินป่าขึ้นเขาให้เหนื่อยสู้นั่งทำงานในห้องปรับอากาศเย็นๆ ดีกว่า เมื่อไม่มีใครคิดจะเสนอตัว เขาจึงได้สอบถามหาผู้ที่สมัครใจทันที “มีใครอยากจะอาสาไปไหม” ไว้กว่าความคิด ซูเจินยกมือขึ้น “ฉันค่ะ” เพื่อนสนิทรีบดึงเสื้อของเธอเพื่อจะห้ามปราม “จะบ้าหรอ เธอไม่เคยไปสักครั้ง ไม่รู้หรือว่างานนี้เสี่ยงแค่ไหน” เสียงกระซิบของเสี่ยวชิง เอ่ยลอดไรฟันออกมา เมื่อปีที่แล้ว ที่ทีมสำรวจเดินทางเข้าไปที่ป่าเหอหนาน พื้นป่าที่ไม่อาจสำรวจได้อย่างทั่วถึง สร้างความท้าทายให้เหล่านักพฤกษศาสตร์จากทุกองค์กร แต่ไม่ว่าจะส่งเข้าไปกี่ครั้งก็ไปไม่ถึงป่าชั้นกลางเสียที แม้จะใช้เทคโนโลยีที่ล้ำหน้าเข้าช่วยเพียงได้ ก็สำรวจได้เพียงป่าชั้นนอก แถมยังพาชีวิตคนไปทิ้งอีกนับไม่ถ้วน ปีนี้ทางองค์กรของซูเจิน หยิบโครงการสำรวจป่าเหอหนานขึ้นมาใหม่ แต่กว่าจะหาทีมสำรวจได้ครบคนก็กินเวลาไปหลายเดือน ถึงตอนนี้คนก็ยังไม่พอจนต้องมาถามหาจากทีมวิจัยให้ช่วยเหลือ “คุณอยากไปจริงหรือ” เขาเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง “ค่ะ ฉันอยากลองทำงานนี้” ซูเจินยิ้มออกมา “ได้ อีกสองวัน คุณก็เตรียมตัวให้พร้อม” เมื่อมีคนเสนอตัวแล้ว ผู้อำนวยการก็ออกไปพบทีมสำรวจ เพื่อวางแผนการทำงาน ทั้งยังให้ซูเจินตามเขาไปเข้ารวมการประชุมในครั้งนี้ด้วย “เธอมันบ้าไปแล้ว” เพื่อร่วมงานต่างเดินเข้ามาหาซูเจิน แล้วตำหนิเธอที่กล้ายกมือเสนอตัว “เอาน่า ไว้กลับมาฉันจะเอาเรื่องสนุกมาเล่าให้พวกเธอฟัง” ซูเจินยิ้มหวานออกมา ก่อนที่จะเก็บของแล้วไปเข้าร่วมประชุมกับทีมสำรวจ สองวันต่อมาซูเจินก็แบกกระเป๋าเดินทางมาที่จุดนัดพบ เธอออกเดินทางด้วยรถตู้ขององค์กร พร้อมทีมสำรวจอีกเกือบยี่สิบชีวิต ยังดีที่เธอได้แบกกระเป๋าเพียงใบเดียว หากต้องแบกเต็นท์นอน อาหารด้วย คงได้เป็นภาระของคนอื่นอย่างแน่นอน ภายในป่าเหอหนาน น่ากลัวว่าที่ซูเจินคิดไว้เยอะ พอตะวันตกดิน หากไม่มีแสงไฟที่ทีมสำรวจนำมาด้วยคงจะมืดจนมองไม่เห็นอะไร เสียงแมลงทั้งสัตว์ป่าร้องตลอดทั้งคืน สร้างความหวาดกลัวให้กับคนที่ไม่เคยเข้าป่าสักครั้งอย่างเธอได้อย่างดี ยังดีที่เจ้าหน้าที่ผู้นำทางติดตามมาด้วยอีกหลายคน พวกเขาจึงได้อยู่ผลัดเปลี่ยนเวรยาม เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์ป่าเข้ามาถึงตัวพวกเขา หลายวันที่อยู่ในป่า ซูเจินเก็บตัวอย่างพันธุ์ได้หลายชนิด แต่ทั้งทีม ยังเดินไม่หลุดป่าชั้นนอกเลย ยังดีที่อาหารที่เตรียมมาเพียงพอให้พวกเขาอยู่ไปได้อีกหลายวัน “เอ๊ะ” เข้าวันที่เจ็ดของการสำรวจป่า ซูเจิน เห็นดอกไม้แปลกตา ที่ขึ้นอยู่ท่ามกลางพงหญ้ารก เธอจึงเดินห่างจากกลุ่มทีมสำรวจเข้าไปดูทันที เพราะไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องอะไรได้ ระยะห่างที่อยู่ไกลจากพวกเขา หากร้องเรียกก็ยังได้ยินอยู่ เธอหยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นมา พร้อมทั้งจดรายละเอียดก่อนที่จะดึงต้นไม้เก็บเข้าถุงเก็บตัวอย่างที่เตรียมมา แต่เมื่อมือของซูเจินสัมผัสไปที่ดอกไม้ เธอก็ต้องตกตะลึง เหมือนมีกระแสไฟวิ่งผ่านปลายนิ้วไปจนทั่วทั้งตัว “โอ๊ยย” เสียงร้องอย่างเจ็บปวดของซูเจิน เรียกความสนใจให้คนทั้งหมดรีบวิ่งมาทางที่เธออยู่ ซูเจินเห็นเพียงแสงสีขาวที่สว่างวาบไปทั่ว แล้วภาพตรงหน้าของเธอก็ดำมืดลง

เมียลับมหาเศรษฐี

เมียลับมหาเศรษฐี

เนื้อนวล
4.9

เมื่อความสัมพันธ์ลับๆ จบลง เพราะเขาต้องไปแต่งงานมีครอบครัว หล่อนจึงต้องหอบใจช้ำๆ และอีกชีวิตหนึ่งในครรภ์เดินจากไปอย่างไม่มีทางเลือก “ทำไมโลกมันกลมแบบนี้คะคุณภูมิ... ทำไมเราต้องเจอกันอีกด้วยคะ... ฮือออ” มือเล็กยกขึ้นปิดหน้าร่ำไห้ปิ่มจะขาดใจ ร่างกายสั่นเทิ้มน่าเวทนา การได้พบเจอกับภูมิระพีอีกครั้ง มันยิ่งทำให้แผลใจหัวใจขยายใหญ่มากยิ่งขึ้น นี่หล่อนจะทำยังไงดี... จะรับมือกับสถานการณ์เช่นนี้ยังไง แล้วไหนจะยังลูกชายอีก หากภูมิระพีรู้ว่าหล่อนมีลูกของเขาติดท้องมา เขาอาจจะทำยังไง จะแย่งลูกไปจากหล่อนไหม

บุตรเช่นข้า หาได้ต้องการบิดาเช่นท่าน

บุตรเช่นข้า หาได้ต้องการบิดาเช่นท่าน

จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ
5.0

หลินตงหยาง อายุ 27 ปี เติบโตมากับแม่เพียงสองคน ในวัยเด็กหลินตงหยางเคยมีพ่อผู้ให้กำเนิดแต่หลังจากที่พ่อได้งานใหม่ในเมืองหลวงพ่อที่เคยมีก็ไม่มีอีกแล้ว พ่อกลับมาหย่าขาดกับแม่ทันทีที่ไปทำงานในเมืองหลวงได้เพียง 2 เดือน ด้วยให้เหตุผลในการหย่าว่า แม่กับและเขาคือตัวถ่วงความเจริญในชีวิตพ่อ สาเหตุก็ไม่มีอะไรมากแค่พ่อหน้าตาหล่อเหลาและเป็นที่ถูกใจของลูกสาวหัวหน้างาน เพื่อตำแหน่งงานและความเป็นอยู่ที่สบายขึ้น พ่อเลือกที่จะทิ้งภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากที่ผ่านเรื่องยากลำบากมาด้วยกัน หย่าขาดกับภรรยาเพื่อไปแต่งงานใหม่ มีชีวิตใหม่ในเมืองหลวง โดยทิ้งคนข้างหลัง ทิ้งภรรยาที่เคยสาบานว่าจะอยู่ครองคู่กันตลอดไป ในปีที่เขาเรียนจบมหาวิทยาลัย แม่ก็ล้มป่วยและจากเขาไปในที่สุด สาเหตุที่หลินตงหยางเสียชีวิต เพราะทำงานหนัก อาชีพโปรแกรมเมอร์ตัวเล็กๆ อย่างเขา ต้องพยายามทำงานให้ได้ตามที่หัวหน้าสั่งมา ในที่สุดเขาก็พัฒนาเกมกำลังภายในของบริษัทได้สำเร็จ หลินตงหยางนอนหลับไปด้วยความสบายใจ แต่ทว่าพอเขาลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที นี่ไม่ใช่คอนโดหรูย่านใจกลางเมืองปักกิ่ง หลังคามุงหญ้านี่คืออะไร มันควรจะเป็นเพดานสีขาวสิ เมื่อมองไปรอบๆ ห้องนี่คืออะไร นี่มันไม่ใช่ผนังที่ทำมาจากคอนกรีต มันคือดินเหนียว หลินตงหยางคิดว่าตัวเองฝันไป เขาหลับตาลงอีกครั้งแล้วลืมตาขึ้น ทุกอย่างยังเหมือนเดิม มารดามันเถอะ เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง หลังจากแน่ใจแล้วว่าไมไ่ด้ฝัน ตอนนั้นเองเขารู้สึกปวดหัวขึ้นมาอย่างรุนแรง และในหัวของเขามีภาพเหตุการณ์ของเด็กชายที่ชื่อเดียวกับเขา หลินตงหยาง อายุ 10 ขวบ เรื่องราวชีวิตตั้งแต่เกิดจนตายไปของเด็กชาย ทำเอาหลินตงหยางกำมือแน่น ก่อนจะสบถออกมา “พ่อสารเลว เฉินซื่อเหม่ยชัดๆ” และตามมาด้วยเสียงร้องไห้ของน้องสาว สาเหตุที่เด็กชายหลินตงหยางเสียชีวิต เพราะถูกผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นย่าแย่งผักป่าและทุบตี ทั้งๆ ที่คนพวกนั้นได้ตัดขาดพับพวกเขาสามแม่ลูกแล้ว แต่ยังมิวายข่มเหงรังแก

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ