ภรรยานิรันดร์

ภรรยานิรันดร์

SHASHAwriter

5.0
ความคิดเห็น
91.1K
ชม
104
บท

พ่อม่ายสายซึน นิรันดร์ อัศวหาญญ์วรกุล ชายผู้กำพร้าภรรยามากว่าสิบสามปี กำลังประสบปัญหาหนัก เมื่อปลายฝน บุตรสาววัยหัวเลี้ยวหัวต่อ คบเพื่อนต่างเพศ นอกจากจะเขม่นหน้าเพื่อนชายของลูกแล้ว แม่ของเด็กนั่นยังทำนิรันดร์ คันยุบยับในหัวใจอีกด้วย ##### “เราไม่ควรทำแบบนี้กันอีกนะคุณนิรันดร์ แล้วก็ควรถอยออกไปยืนให้ห่างจากฉัน” บอกจบเธอแกะมือของเขาออก แต่นิรันดร์ก็ไม่ยินยอม เขารัดแขนแน่นมากกว่าเดิม แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง “คุณอยากต่อว่าผมแบบไหนก็ได้ทั้งนั้นนะ แต่อย่ามาห้ามผม อย่ามาสั่งผมให้อยู่ห่าง ๆ จากคุณ” ในเมื่อสู้แรงเขาไม่ได้ เลยยิ่งหน้าบึ้งตึง ถามเขากลับ “นี่คุณยังไม่สร่างเมาอีกหรือยังไง” “ผมรู้ตัวรู้สติดีทุกขั้นทุกตอนที่เราทำร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นนาทีนั้น หรือแม้แต่ตอนนี้ เบียร์แค่นั้นไม่ทำให้ผมเมาได้หรอกนะ ผมไม่ได้เมา” ได้ยินเขายืนยันเสียงแข็งแบบนั้นแล้วก็ออกร้อนผ่าวที่ใบหน้าไม่น้อย สูดลมหายใจเข้าแรง ๆ ตอกกลับ “แต่ฉันเมา และฉันก็รังเกียจตัวเองมากที่ทำเรื่องไม่ดีไม่งามแบบนั้นลงไป คุณคงคิดว่าฉันนอนกับใครต่อใครแบบนี้เสมอใช่ไหม...” มองแววตาเหมือนเด็กน้อยสำนึกผิดแบบนั้นแล้วก็ส่ายหน้าเบาๆ “ความคิดแบบนั้นไม่ได้อยู่ในหัวผมเลย” นิรันดร์กระชับอ้อมแขนของเขาเพื่อจะกอดรัดเธอให้แนบแน่นกว่าเดิม แต่เธอต้องใจแข็ง จะปล่อยให้เขาทำแบบนี้ต่อไปไม่ได้แล้ว มันมากเกินพอ รังแต่จะทำให้เธอรังเกียจตัวเองมากขึ้นทุกที ๆ “มันไม่ควรเกิดเรื่องแบบนี้ และคุณรู้ไหมว่าฉันเคยนึกรังเกียจทุกครั้ง ที่ได้ยินเรื่องนอกรีต ผิดประเวณีแบบนี้ ฉันไม่ใช่คนที่พูดอย่างทำอย่าง มือถือสากปากถือศีล และ... ฉันไม่รู้ว่าปล่อยให้มันเลยเถิดแบบนั้นไปได้ยังไง และ...” ขิมแขไม่เคยเป็นแบบนี้ เธอรู้ตัวดีว่ากำลังพูดจาวกวนไปมา แล้วก็ไม่สามารถพาบทสนทนาระหว่างกัน เข้าเนื้อหาหลักได้สักที ถอนใจ รวบรวมสติบอกเขา “และ...” เธอต้องพูดมันออกไปด้วยหัวใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะนัก ยิ่งสบกับดวงตาดำทรงอำนาจของนิรันดร์ก็ยิ่งใจหายหนักเข้าไปใหญ่ ทำไมเธอต้องรู้สึกโหยหาเขาขนาดนี้ด้วยนะ ขิมแขเม้มปากแน่น ขืนสบตากับเขา บอกออกไปด้วยเสียงที่พยายามไม่ให้สั่นมากจนเกินไปนัก “...ลืมเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ด้วย” พูดจบ เธอเห็นสายตาของเขาที่มองตอบมา มันเหมือนกับว่าเธอเป็นผู้หญิงรักสนุกที่คิดฟันเขาแล้วก็ทิ้งไปอย่างไรอย่างนั้น แต่แล้วเธอไม่ควรต้องสนใจสายตาของเขา คนถูกฟันแล้วทิ้งยืนบดกรามนิ่ง มองเธอด้วยแววตาที่ขิมแขไม่อยากเห็นอีก เขาเค้นเสียงถามออกมา “ถ้าผมไม่ลืม” “นั่นมันก็เป็นปัญหาของคุณแล้วล่ะค่ะ” “ทำไมคุณพูดปัดความรับผิดชอบแบบนี้” “แล้วจะให้ฉันทำยังไง ไปขอหย่าจากสามีแล้วมารับผิดชอบเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างนั้นน่ะหรือ” ขิมแขเองก็โกรธจนตัวสั่นปากสั่นเช่นกัน ไม่เคยมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับเธอมาก่อน ระรัวออกไปแล้วก็ให้ตกใจในสิ่งที่ตัวเองพูดอยู่ไม่น้อย “ถ้าทำอย่างปากว่าไม่ได้ ก็อย่าพูดมันออกมา”

บทที่ 1 1

ภาพไฟลุกท่วมรถยนต์สมรรถภาพเยี่ยมตรงหุบเขาเบื้องล่างสว่างวาบอยู่ตรงหน้านี่เอง ก่อนที่มันจะระเบิดตูมเสียงดังสนั่นขึ้นอีกครั้ง น้ำตาที่ไม่เคยคิดว่าชาตินี้จะมี ค่อย ๆ ไหลซึมออกจากดวงตาเย็นชาดุจพญาอินทรีย์ของนิรันดร์ อัศวหาญญ์วรกุล ชายหนุ่มยืนมองควันไฟที่พวยพุ่งจากต้นตอเชื้อเพลิงนิ่ง อย่างที่ทำอะไรลงไปมากกว่านั้นไม่ได้อีกแล้ว

คงทำได้เพียงแต่ภาวนา ขอให้คนในรถปลอดภัย และยังคงมีชีวิตอยู่ ขอให้ปาฏิหาริย์บนโลกนี้จงมีอยู่จริง

ภรรยาของเขาต้องไม่ตาย

แต่แล้วความจริงก็ฉายชัดขึ้น เมื่อเขายืนรออยู่อย่างนั้นจนเจ้าหน้าที่นำซากรถพร้อมกับซากของคนที่ติดอยู่ด้านในขึ้นมาได้สำเร็จ ทันทีที่เห็นร่างของภรรยาที่หลังพวงมาลัยดำหงิกจนแทบจำสภาพไม่ได้ นิรันดร์ได้แค่ครางเรียกชื่อเธอแผ่วเบาอย่างคนหมดเรี่ยวแรง กระนั้นเสียงนั่นก็ยังดังก้องไปทั่วทั้งหัวใจของเขา

“ปิ่น!”

นิรันดร์ได้ยินตัวเองตะโกนเรียกชื่อเล่นของภรรยาออกมาอีกคำ ก่อนสะดุ้งตื่นจากฝันร้าย ที่ตามหลอกหลอนมายาวนานถึงสิบสามปี

ขมับของเขาเต้นตุบๆ เป็นจังหวะหนักหน่วงเลยทีเดียว อีกทั้งเหงื่อกาฬยังไหลซึมไปทั่วทั้งศีรษะ คล้ายออกวิ่งมาราธอนเป็นระยะทางแสนไกล เหลือบดูเวลา เพิ่งผ่านเที่ยงคืนมาได้แค่ชั่วโมงเดียวเท่านั้น และหากว่าฝันถึงอดีตภรรยาแบบนี้ เขาคงนอนไม่หลับอีกต่อไป

ค่อยลุกจากที่นอน นั่งสงบความคิดและลมหายใจของตัวเอง เดินไปเปิดม่าน มองฝ่าความมืดมิดแบบเดียวกับที่แฝงเร้นอยู่ในหัวใจของเขาออกดู ถึงได้พบเงาลาง ๆ ของม้านั่งตัวโปรดของเธอ ที่แม้จะเก่าจนแทบใช้การไม่ได้ แต่เขาก็ยังคงให้มันตั้งที่เดิมไม่เคลื่อนย้ายไปไหน ข้าวของเครื่องใช้เสื้อผ้าของเธอยังคงอยู่ที่เดิมอย่างนั้น...ไม่เคยเปลี่ยน

ความเงียบเหงาเกาะกินลึกเรื่อยเข้าไปในหัว จนนึกรังเกียจมัน

ผละหนีความรู้สึกพวกนั้น ตรงไปที่ประตูห้อง ลงไปยังชั้นล่างของบ้าน รินน้ำสีอำพันใส่เกือบเต็มแก้ว แล้วยกดื่มพรวดเดียวจนหมด เหล้าแรงร้อนผ่าวลวกผ่านหลอดอาหารเป็นทางยาวถึงในช่องท้องช่วยดับความรู้สึกเหงาและอ่อนแอในจิตใจได้บ้าง เมื่อนึกถึงภรรยาที่รักสุดหัวใจ

เดินเรียบเรื่อยเอื่อย ๆ ไปที่ห้องนอนของบุตรสาว เปิดประตูเบาๆ เข้าไปยืนมองแก้วตาดวงใจอีกดวงที่นอนพริ้มหลับสนิทบนเตียงนอนก็ให้คลายใจลงมาได้บ้าง แม้จะเสียภรรยาไป แต่เขายังมีบุตรสาวที่เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเธออยู่ครึ่งหนึ่งตรงหน้านี่

ดีที่ปลายฝนหน้าตาละม้ายเขามากกว่าจะไปทางแม่ของแก ดวงหน้าสวยคม คิ้วเข้มถอดแบบจากเขาแทบไม่ผิดเพี้ยน แล้วถอนใจเบาๆ เพราะแววตาของแกเหมือนกับอดีตภรรยาที่จากไปแล้วแทบเป็นคนเดียวกัน ดื้อเงียบ บางทีก็ดูเจ้าเล่ห์เจ้าแผนการบ้าง ยิ้มขืนๆ เมื่อภาพของผู้เป็นภรรยาในอดีตแทรกผ่านเข้ามาในความทรงจำอีกครั้ง หัวตาของเขาร้อนผ่าวขึ้นอีกแล้ว ยกนิ้วขึ้นบีบมันแน่นๆ แล้วยิ้มปนขำเมื่อแว่วเสียงงึมงำเบาๆ จากบุตรสาวที่หลับอยู่

นิรันดร์เดินเข้าไปมองใกล้ๆ ด้วยสายตาอ่อนโยน ยื่นมือลูบศีรษะบุตรสาว แล้วขยับผ้าห่มคลุมให้เบาๆ ผละจากมา

พาตัวเองออกจากห้องนอนของปลายฝนแล้ว อดไม่ได้ที่จะเข้าไปยังห้องที่เคยเป็นห้องหอของเขากับอดีตภรรยา หยุดยืนมองภาพวาดขนาดใหญ่กว่าตัวจริงเล็กน้อย จ้องลึกเข้าไปในดวงตาของคนในภาพนิ่งนาน ความรู้สึกปวดร้าวเพราะการจากลาแปลบปลาบขึ้นในหัวใจของเขาพลันนั้นเอง พร้อมกับคำมั่นที่เขาพร่ำบอกเธอเสมอแว่วผ่านเข้ามาในหัวสมองของเขาอีกครั้ง

‘ผมจะรักคุณเพียงคนเดียว และจะดูแลคุณให้ดีที่สุด ตราบเท่าที่ผมจะมีลมหายใจ

“ใช่ๆแบบนั้นเลย ที่เคยเห็นเขาทำในคลิปอ่ะ ภูต้องดันเข้ามาอีกสิ ดันอีกนิด อ๊ะ! ทำไมมันเจ็บจังเลยล่ะภูผา” เสียงกำกับจากปากเล็กช่างจำนรรจาสีชมพูจางที่เบื้องล่างนั่น ทำเอาเด็กหนุ่มร่างหนากว่าที่คร่อมทับอยู่ด้านบนต้องหยุด ออกปากแย้งด้วยเสียงแตกพานตามวัย

“เราไม่ควรทำ...แบบนี้เลยฝน” พูดแล้วก็อายอยู่ไม่น้อย

“เถอะน่า ทำเร็วๆ เข้า ก่อนที่จะ...โอ๊ะ! โอย มันตึงมากเลยภู แล้วก็ แล้วก็เจ็บนิดๆ ด้วย” เด็กสาวร้องโอดโอย เขย่าเสียงเล็กน้อย พร้อมยิ้มทะเล้นใส่เด็กหนุ่มที่ใช้ร่างหนากว่าดันตนเองอยู่ เร่งให้อีกฝ่ายออกแรงโถมใส่มากขึ้นอีก ยิ่งเห็นใบหน้าอีกฝ่ายแดงจัด ก็ยิ่งสนุก

“ภูรีบดันเข้ามาอีกสิ ดันอีก ดันเข้ามาอีก อีกนิดภูผา อ๊ะ...”

ภูผามองใบหน้าน่ารักของเด็กสาวที่นอนหน้าแดงอยู่เบื้องล่างใต้เรือนกายของตนก็เรียกอย่างเป็นห่วง หน้าของเขาเองก็แดงไม่แพ้กัน

“ไหวแน่นะฝน”

“เถอะน่า ดันอีก อีกนิดเดียว”

“แต่ภูว่าเราทำแบบนี้...ไม่...”

“ไม่ต้องแต่ ไม่ต้องอะไรทั้งนั้น ทำเถอะ เร็วๆ เข้า”

“ก็ได้ครับ” เด็กหนุ่มอ้อมแอ้มบอก โหนกแก้มกลายเป็นสีแดงจัด ปลายฝนมองแล้วนึกชอบใจใหญ่ บอกต่ออีกนิด

“อืม...มันเจ็บ แต่รู้สึกดีมากเลยนะภู ถึงว่าคนเขาถึงชอบทำกัน”

เด็กหนุ่มเบือนหน้าหนี ถามเสียงอ่อย “พอหรือยังครับ”

“อีกนิดสิคะภู อืม…ดีจังเลย เราน่าจะทำแบบนี้ตั้งนานแล้วนะว่าไหม”

เด็กหนุ่มหันขวับมามอง ส่ายหน้า ทำตาดุใส่

“ครั้งนี้ครั้งสุดท้าย ต่อไปภูจะไม่ตามใจฝนแบบนี้อีกแล้วนะ”

“ทำไมพูดแบบนี้ ไหนตอนเราตกลงคบกัน ภูบอก จะตามใจฝนทุกอย่างไง”

“ไม่ใช่แบบนั้นครับ...” เสียงห้าวแหบแตกพานเอ่ยอย่างอ่อนใจ

“เงียบไปเลยภูผา พูดแบบนี้แสดงว่าจะเลิกคบกันใช่ไหม”

สิ้นเสียงถอนลมหายใจอย่างจนปัญญาของเด็กหนุ่ม

ประตูห้องนอนถูกไขกุญแจเปิดทันที พร้อมร่างสูงใหญ่ราวภูเขาเฉียดสองเมตรยืนจ้องเด็กวัยรุ่นชายหญิงสองคนบนพื้น

วินาทนั้นเองที่ใบหน้าของชายคนนั้นขรึมเข้ม แววตาดุดันเหมือนแผดเผาทุกสิ่งอย่างได้ด้วยประกายตาของตนเอง ก่อนที่ชายฉกรรจ์อีกสามคนจะโผล่พรวดตามหลังมา พอเห็นเหตุการณ์ในห้องแล้ว ก็ต่างพากันหลบไม่กล้ามองต่อ บางคนรีบหันไปทางอื่นทันที

เสียงเข้มถามดังขึ้น เมื่อเห็นร่างของบุตรสาวนอนหงายบนพื้นโดยมีเด็กหนุ่มไม่คุ้นหน้าคร่อมทับอยู่ด้านบน

“นั่น...ทำอะไรกัน”

เด็กหนุ่มขยับตัวออกราวกับร่างนุ่มนิ่มที่คร่อมเมื่อครู่คือของร้อนจัด ปลายฝนยังคงนอนหงาย เจ้าตัวยันศอกมองมาที่บิดา ถามกลับด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด สีหน้าไม่พอใจอยู่พอสมควร

“คุณพ่อใช้กุญแจไขเข้ามาในห้องของลูกแบบนี้ได้ยังไงคะ คุณพ่อกำลังละเมิดความเป็นส่วนตัวอยู่นะคะ”

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ SHASHAwriter

ข้อมูลเพิ่มเติม
เมียเก่าที่เขาไม่เคยรัก

เมียเก่าที่เขาไม่เคยรัก

โรแมนติก

5.0

ภาวรีแหงนหน้าขึ้นแล้วยิ้มกวนโมโหใส่หน้าเขา "มาขวางทำไม เชยไม่สนพี่เขื่อนแล้วนะรู้ไหม ให้หย่าก็ได้เลย ไปเลย เพราะไรรู้มะ เพราะพี่เขื่อนสู้หนุ่ม ๆ ในร้านไม่ได้เลยสักคน ในนั้นถึงใจกว่าพี่เขื่อนตั้งเยอะ" ลัพธวิทย์หรี่ตามอง ถามเสียงเรียบ "ถึงใจแบบไหน" "ใหญ่กว่า อึด แล้วก็เอาเก่งกว่าพี่เขื่อน" ได้ยินเสียงตัวเองพูดจาก๋ากั่นออกไปแบบนั้นแล้วก็ให้ตกใจไม่น้อย พอได้ยินคำตอบของเธอที่หลับตาฟังก็รู้ว่าจงใจพูดจายั่วยุเขา ลัพธวิทย์ก็ค่อยหัวเราะออกมาลั่น พร้อมค่อนแคะกลับไป "น้ำหน้าอย่างเราเนี่ยหรือ กล้านอนกับผู้ชายตามบาร์" ภาวรีหน้าชาเมื่อถูกจับไต๋ได้ว่าโกหก เธอลอยหน้าลอยตาแล้วตอบเขากลับ "ทำไมจะไม่กล้า แม่เปิดห้องให้เชยลองแล้วด้วย หนุ่ม ๆ ในบาร์โฮสต์ทำให้เชยรู้แล้วล่ะว่าของพี่เขื่อนนี่เทียบชั้นกันไม่ติด แบบนั้นน่ะ..." ภาวรีพูดแล้วกวาดตาลงมองอย่างหยามเหยียด บอกต่อจนจบประโยค "น่าจะเอาไว้แค่ฉี่มากกว่านะ"

ห้องลับของคุณรัชญ์

ห้องลับของคุณรัชญ์

โรแมนติก

5.0

"ถอดชุดบนตัวเธอออกมาเดี๋ยวนี้!" "หนูทำไม่ได้..." ขวัญลดายังพูดไม่จบดีเลยว่าเธอถอดชุดที่ใส่บนตัวออกไม่ได้เพราะมันรัดมาก ๆ นี่ก็นัดกับออยลี่ ลูกของป้าเนืองไว้แล้วให้มาช่วยถอดชุด ไม่รู้น้องคนที่วานให้ช่วยเหลือจะหลับไปแล้วหรือยัง ไม่อย่างนั้นเธอคงต้องฉีกมันออกแทนการถอด แต่เจ้าของห้องลับที่ใคร ๆ พูดปากต่อปากกันว่า ห้องนี้ใครเข้ามาแล้วต้องเสว ก็ปราดเข้ามาปล้ำถอดชุดของเธอออกจนหมด แต่เพราะชุดมันรัดมาก ๆ ดลวรัชญ์ลงมือถอดไปก็สบถไปพลางด้วยอาการหัวเสีย "แต่งตัวเชี่ยอะไรวะ รู้ไหมว่ามันรัดหน้าอก รัดโหนกจนเห็นเป็นเนินนูน นึกว่าลานจอดฮอ" พอชุดถูกถอดออกจนหมด ขวัญลดาค่อยหายใจได้ลึกขึ้นจากเดิม นึกขอบคุณที่เขาช่วยเหลือเธอในครั้งนี้ แม้จะดูเป็นการช่วยที่ไม่ปกตินักก็ตามที "หนูรู้ค่ะ" "รู้แต่ก็ยังใส่" "คุณป้าบอกว่ามันมีชุดเดียว ชุดนี้เมื่อก่อนท่านตัดไว้ให้พี่โรส แต่คุณเล่นพาพี่โรสมานอน หนูก็เลย..." "หึง?" เสียงเข้มถามขัดคำตอบของเธอ ขวัญลดามองเขาแล้วได้แต่ส่ายหน้า เธอยังไม่รู้จักเลยว่า หึง อาการเป็นอย่างไร "ไม่ใช่ค่ะ หนูกำลังอธิบายเรื่องที่ว่าทำไมต้องใส่ชุดนี้" "เธอหึง" คนชอบให้ทุกอย่างหมุนรอบตัวเองอย่างดลวรัชญ์สรุปในสิ่งที่ตัวเองคิดได้ พร้อมด้วยมุมปากที่ยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม ก่อนจะเกร็งมันไว้ให้เหยียดตรงดังเดิม "และเธอเบี่ยงประเด็นนะลดา" "แล้วแต่คุณเลยค่ะ" ขวัญลดาบอกอย่างยอมแพ้ ++++++ เนื้อหานิยายเน้นอ่านเพลิน ๆ ย่อยง่าย ๆ และจบดี แฮปปี้ค่ะ

ตราบาปรัก ผู้ชายใจร้าย

ตราบาปรัก ผู้ชายใจร้าย

โรแมนติก

5.0

คำโปรย ปริญญ์เคยบอกว่ารักเธอ แต่เมื่อมีเหตการณ์บางอย่างทำให้ต้องเลิกรากันไป เขาย้อนกลับมาทำดีด้วย และขอเธอแต่งงาน หลังแต่งงานกับจินดาพรรณมาสี่ปี ปริญญ์เที่ยวคบหาผู้หญิงคนใหม่ไปเรื่อย ๆ เพื่อให้เธออับอาย ... นี่น่ะหรือความรักของเขา ตัวอย่างเนื้อหา "เดี๋ยวดา เรื่องที่เราคุยกันไว้ ดาต้องทบทวนดี ๆ ก่อน..." "พรุ่งนี้เลยปิน พรุ่งนี้ไปเจอกันตามที่ตกลงไว้ได้เลย" ปริญญ์มองเธอนิ่งอยู่เป็นนานสองนาน กว่าจะพูดอะไรได้สักคำหนึ่ง ก็ยากเย็นเต็มที "หรือไม่ ปินว่าเราลอง..." "อย่าเอาแต่พูดหลอกล่อกันแบบนี้อยู่อีกเลยปิน เราสองคนจบกันเท่านี้เถอะ ทิ้งทุกอย่างเอาไว้แค่นี้ ขอให้เลิกแล้วต่อกัน เราจะได้ไม่เกลียดกันมากไปกว่านี้ หรือปินอยากให้ดาเกลียด จนไม่ไปเผาผีกันเลย ก็ได้นะปิน" ได้ยินและได้รู้ถึงความคิดของจินดาพรรณแล้ว ในใจของปริญญ์ปวดแปลบ เสียดและเสียวไปทั้งทรวงอก เขาอึ้งจนพูดอะไรไม่ออก คิดได้ในตอนนั้นเองว่านี่เขาทำอะไรต่อมิอะไรลงไปนั้น มันแย่มาก จินดาพรรณถึงได้บอกว่าเกลียดเขาถึงขนาดนี้ ปริญญ์รู้สึกได้ถึงก้อนขม ๆ ในคอ เขาฝืนที่จะกล้ำกลืนมันลงไป แล้วขยับเท้าเพื่อถอยหลังออกมา มาได้เพียงครึ่งก้าวแล้วก็ทำอะไรไม่ถูก สายตาเจ็บปวดของเขายังคงมองไปยังจินดาพรรณ เปิดปากเพื่อจะพูดบางประโยคออกไป "แต่ดา...ปินระ...ปินรั" จินดาพรรณหมุนตัว เพื่อกลับเข้าห้อง เธอไม่อยากฟังสิ่งที่เขากำลังจะพูด แต่กลับโดนดึงตัวเข้าไปกอดเอาไว้แนบแน่น เธอไม่ได้ออกแรงดิ้น ทำเพียงปิดตาลง ซ่อนความรู้สึกเจ็บปวดเอาไว้ข้างในลึก ๆ บอกตัวเองว่าอย่าได้ถลำตัวและหัวใจไปกับภาพลวงตาของปริญญ์ อย่าได้หลงคารมของเขาอีกเป็นอันขาด บทจะหวาน ปริญญ์ก็ทำให้เชื่อได้ทั้งนั้น และเขาก็ทำเพียงเพราะต้องการให้เธอหลงเชื่อ เขาหลอกเธอซ้ำ ๆ แล้วทิ่มแทงเธอให้ผิดหวัง เจ็บปวดและเสียใจ ครั้งนี้ก็คงเหมือนกัน ปริญญ์สูดดมกลิ่นของภรรยาเข้าจมูกจนลึกสุดปอด ถูไถใบหน้าไปมาอย่างที่โหยหามาโดยตลอด พร้อมกับพึมพำที่ข้างหูของเธอ "ปินให้เวลาดาคิดอีกสามวัน ระหว่างนี้ถ้าดาเปลี่ยนใจ ก็ไม่ต้องไป แต่ถ้าดายังคิดแบบเดิม วันนั้นเราค่อยไปเจอที่บริษัทตามที่คุยไว้ แต่ระหว่างนี้ ดาต้องคิดดูดี ๆ ก่อนนะ อย่าใช้อารมณ์ตัดสินใจเด็ดขาด" จินดาพรรณถอนลมหายใจของตัวเองออกยาว ๆ เธอนี่หรือใช้อารมณ์เป็นที่ตั้ง ตลอดมามีแต่ปริญญ์ที่ทำแบบนั้น และเธอไม่ต้องการเป็นที่รองรับอารมณ์ของเขาอีกแล้ว คิดได้แบบนั้นค่อยเปิดตาขึ้น แล้วออกแรงดันตัวเองจากอ้อมกอดของเขา หันมามองที่เขาด้วยสายตาว่างเปล่า บอกออกไปตามอย่างที่ตัดสินใจเอาไว้แล้วก่อนหน้านี้ "ดาไม่ต้องคิด ไม่ต้องตัดสินใจอะไรอีกแล้วล่ะปิน ถ้าปินว่างพอ พรุ่งนี้เราก็ไปจัดการเรื่องหย่าให้เรียบร้อยได้เลย" ****************************** แนวพระเอกโบ้ ไม่ได้นอกใจ จบดีและไม่มีใครตุยค่ะ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

การกลับมาอย่างมีชัย

การกลับมาอย่างมีชัย

Leroi Glenister
5.0

ลูหว่านแต่งงานอย่างลับๆ มาสามปีแล้วและไม่เคยเห็นหน้าสามีมาก่อนเลย แต่แล้วสิ่งที่เธอได้รับในที่สุดกลับเป็นข้อตกลงารกย่าและข่าวที่เขาใช้เงินฟุ่มเฟือยเพื่อตามจีบสาวรักในใจของเขา ในที่สุดเธอก็ตื่นขึ้นมาและตัดสินใจหย่าร้าง หลังจากนั้น ลู่หว่านก็มุ่งหน้าที่พัฒนาในตัว โดยมีตัวตนหลายตัวตน เป็นหมอเทวดา สายลับระดับสูง แฮ็กเกอร์ชั้นนำ นักออกแบบชื่อดัง นักแข่งรถ และหัวหน้าฝ่ายวิจัยทางวิทยาศาสตร์ หลังจากเปิดเผยตัวตนมากมายของลู่หว่าน อดีตสามีของเธอก็รู้สึกเสียใจอย่างยิ่ง ชายคนนั้นร้องขอว่า "หว่านหว่าน ให้โอกาสผมอีกครั้ง ทรัพย์สินทั้งหมดของผมเป็นของคุณ และชีวิตของผมก็มอบให้คุณด้วย"

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

มาชาวีร์
4.8

เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที

ที่แท้เป็นคุณหนูตัวจริง

ที่แท้เป็นคุณหนูตัวจริง

Nadia Lada
5.0

เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ