Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
รักวุ่นวายของเจ้าชายซุปตาร์

รักวุ่นวายของเจ้าชายซุปตาร์

LIPPO/WEALTHY

5.0
ความคิดเห็น
753
ชม
26
บท

ดาราชื่อดังอย่างทิชาพบรักกับจันทร์ จันทร์หอมที่เป็นพ่อค้าขายผักในตลาด คนทั้งสองต้องร่วมกันฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ โดยมีแม่ของทิชาเป็นต้นเหตุที่คอยกีดกันความรักของเขาทั้งสองคนตลอดเวลา จนกระทั่งแม่ทิชานำตัวเองเป็นข้อต่อรองเพื่อที่จะให้ทิชาได้แต่งงานกับหลานชายของตน ซึ่งเป็นการกีดกันไม่ให้ทิชาได้สมหวังในความรักกับคนธรรมดาอย่างจันทร์ ความรักของคนทั้งสองจะเป็นอย่างไรและไปในทิศทางไหน มาติดตามกับความรักของคนทั้งคู่ไปพร้อมๆ กันค่ะ

บทที่ 1 ด่ากราด

ควีน ณพงศ์

"แกจะมาที่นี่อีกทำไม ฉันเคยบอกแล้วใช่ไหมว่าดารามีชื่อเสียงอย่างแกอ่ะ พี่จันทร์เขาไม่สนใจหรอกกลับไปซะ!"

เสียงตวาดด่าดังลั่นตลาดเจ๊หยก เขียวขจี จากน้ำเสียงเด็กหนุ่มที่กำลังยืนชี้หน้าด่าใครคนหนึ่งด้วยวาจามาดร้ายตามสไตล์ลูกชายเจ้าของตลาด

"คุยกันดีๆ สิครับคุณควีนทำไมต้องพูดจารุนแรงใส่กันด้วยครับ"

ชายหนุ่มคนหนึ่งพูดขึ้นขณะที่ประคองใครคนนัั้นมาอยู่ทางด้านหลังของตนเพื่อความปลอดภัย

"ปล่อยเขาเถอะจันทร์ เราไม่สนใจหรอกเพราะถึงยังไงเราก็รู้ว่าจันทร์สนใจใครมากกว่ากัน"

คำพูดของคนที่ถูกพูดถึงส่งผลให้เด็กหนุ่มลูกชายเจ้าของตลาดถึงกับดิ้นพล่านด้วยความโกรธ ในขณะที่ข้างกายก็มีชายอีกคนหนึ่งคอยประคองตัวเพื่อไม่ให้ล้มลงสู่พื้นปูนซีเมนต์บริเวณช่องทางเดินกลางตลาด

"คุณควีนระวังล้มนะครับ...”

"ปล่อยฉัน! แกก็เห็นไม่ใช่เหรอว่ามันพูดกับฉันยังไง ไปสิ! ไปจัดการมันจะมัวยืนบื้ออะไรตรงนี้ ให้มันได้รู้จะมาพูดกับฉันแบบนี้ไม่ได้"

ชายหนุ่มที่ถูกออกคำสั่ง มีทีท่าลังเลก่อนจะถูกผู้เป็นนายผลักหลังเข้าใส่คนทั้งสองที่ยืนอยู่ต่อหน้า

"อย่าเข้ามานะเขม ถ้านายเข้ามาจะหาว่าเราไม่เตือน คุณควีนครับผมว่าเรามีเรื่องต้องคุยกันนะ...”

จันทร์พูดขึ้นเพราะเป็นต้นเหตุให้เกิดเรื่องทะเลาะวิวาทระหว่างสองคนนี้อยู่บ่อยครั้ง เขาออกเสียงห้ามลูกน้องคนสนิทของควีน ก่อนจะหันไปพูดจาดีๆ กับลูกชายเจ้าของตลาด

"จันทร์นายพูดแบบนี้หมายความว่ายังไงอ่ะ จะคุยอะไรกับเขา?"

ดาราหนุ่มเอ่ยถามอีกฝ่ายด้วยความสงสัยและมีสีหน้าไม่พอใจ จังหวะนั้นลูกเจ้าของตลาดก็สวนขึ้นทันใด

"แกคงไม่รู้สินะ ว่าทุกครั้งที่พี่จันทร์เรียกฉันไปคุยน่ะมันเกิดอะไรขึ้นบ้าง เห็นพี่จันทร์แบบนี้เด็ดมากนะจะบอกให้ ฉันถึงพยายามหาเรื่องทะเลาะกับแกทุกครั้งที่แกมาที่นี่ไง 555"

ผลัวะ!!

ดาราหนุ่มถึงกับหูแดงหน้าร้อนผ่าวแล้วรุดเข้าปล่อยหมัดใส่มุมปากของคนพูดเสียเต็มแรง ส่งผลให้ควีนล้มลงใส่ชั้นวางผักสดที่จันทร์นำมาวางขายจนพังเสียหายตามแรงคนล้มใส่แทบไม่เหลือเค้าโครงเดิม

โดยที่ใครไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น แม้แต่เขมลูกน้องคนสนิทของควีนก็เข้ามาช่วยไว้ไม่ทัน แล้วมีทีท่าว่าทิชาจะเดินเข้าหาควีนอีกรอบ แต่ถูกอีกคนคว้าตัวไว้ ก่อนที่ลูกเจ้าของตลาดจะฟาดฝ่ามือเล็กเข้าที่แก้มของลูกน้องคนสนิทอย่างแรง

เพี๊ยะ!!

แล้วยืนดูผลงานของตัวเองด้วยสายตาเหยียดๆ

"สมน้ำหน้า!! แกทำให้ฉันต้องถูกมันต่อยแกก็ต้องโดนฉันตบแบบนี้แหละสมกับที่แกไม่เข้ามาช่วยฉัน"

"คุณควีนหยุดเถอะครับ เขมเจ็บไหม เราขอโทษนะ" จันทร์เอ่ยถามลูกน้องของควีนอย่างเห็นใจ

"ไม่เป็นไรหรอกจันทร์ ขอบใจนะ"

"พี่จันทร์จะไปขอโทษมันทำไม สมควรแล้วที่โดนแบบนั้น ไอ้คนที่ผิดก็อีดาราบ้าผู้ชายนั่นแหละ ทำให้เกิดเรื่องวุ่นๆ ขึ้น ถ้าจะโทษๆ มันดีกว่า...”

ควีนว่าดาราหนุ่มด้วยท่าทางจีบปากจีบคอ เกือบทำให้เขาต้องเจ็บตัวอีกรอบจากดาราหนุ่มที่มีท่าทางโกรธอยู่

"พอได้แล้วผมจะพาทิชากลับตามที่คุณต้องการ ผมขอให้เลิกแล้วต่อกันนะครับ...”

"ไม่!!..."

ดาราหนุ่มและลูกเจ้าของตลาดแทบจะพูดพร้อมกัน ทำให้ชายหนุ่มอย่างจันทร์รู้สึกหนักใจเพิ่มขึ้น

ทิชา ทิชานนท์

จังหวะเดียวกันนั้นเสียงริงโทนโทรศัพท์ของดาราหนุ่มดังขึ้น ทิชาหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกงแล้วยกขึ้นดูก็รู้ว่าเป็นเบอร์ที่คุ้นเคย

"ว่ายังไงครับพี่แมคมีอะไรหรือเปล่า ผมกำลังจะเดินกลับไปที่รถครับ"

"คุณอานภาโทรมาครับน้องทิชารีบมาที่รถเลยครับ พี่สตาร์ทรถรออยู่ที่หน้าตลาดนะครับ" น้ำเสียงคนปลายสายดูเครียดจนดาราหนุ่มรับรู้ได้

"ได้ครับพี่แมคผมกำลังรีบไปครับ"

ดาราหนุ่มกดวางสายแล้วเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าคนรัก ซึ่งจันทร์ก็รู้ถึงเรื่องราวที่คนทั้งคู่พูดกันดี

"รีบไปเถอะเดี๋ยวแม่ของนายจะเป็นห่วงเอา" พ่อค้าหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนแรงลงอย่างเห็นได้ชัด

"จะไปแล้วใช่ไหม รีบๆ ไปให้พ้นตลาดฉัน ฉันไม่อยากเห็นหน้าแกอีก ถ้าเป็นไปได้นะก็ไม่ต้องมาเหยียบที่นี่อีกเลยยิ่งดี อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ข่าวว่าแกกำลังจะหมั้นกับลูกสาวเจ้าของจิวเวลรี่แบรนด์ดังน่ะ รีบหมั้นรีบแต่งแล้วก็ขนเอาตระกูลของแกไปอยู่ต่างประเทศให้หมดด้วยก็ดีนะ ฉันกับพี่จันทร์จะได้มีความสุขกันสักทีไปเลยไป 555" คำถากถางที่ดูเย้ยหยันยังคงถูกพร่ำออกมาจากปากของลูกชายเจ้าของตลาดอย่างไม่ขาดคำ

ทันทีที่เขาได้ฟังคำบอกของพ่อค้าหนุ่มที่พูดต่อดาราหนุ่มจบลงพร้อมทั้งยังมีเสียงหัวเราะที่แสดงออกถึงการมีชัยชนะในสงครามน้ำลายครั้งนี้ ทำให้ควีนต้องเจ็บตัวอีกครั้งเมื่อดาราหนุ่มวิ่งเข้าไปปล่อยหมัดเน้นๆ เข้าที่รอยเดิมอีก 2 ครั้งติดๆ กัน เป็นไปตามคาดไม่มีใครสามารถช่วยป้องกันปากน้อยๆ ของควีนได้ทันอีกเช่นเคยและผลการกระทำจากน้ำมือของดาราหนุ่มก็ไปตกที่ลูกน้องคนสนิทอย่างเขมอีกตามเคย

ทำให้ทิชารีบวิ่งเข้าไปประคองเขมให้ลุกขึ้นมา หลังจากถูกฝ่ามือเล็กของเจ้านายตบจนล้มลงเป็นครั้งที่สองก่อนที่ดาราหนุ่มจะกล่าวขอโทษคนเจ็บอย่างคนรู้สึกผิด

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ LIPPO/WEALTHY

ข้อมูลเพิ่มเติม
ไอ้เสือของผม

ไอ้เสือของผม

นิยายวาย

5.0

ชีวิตที่พลิกผันเปลี่ยนเด็กหนุ่มกำพร้าให้มีเจ้าพ่อมาเฟียรับเขาไปอุปการะเลี้ยงดูราวกับน้องชายร่วมสายเลือด ความสัมพันธ์ของทั้งสองแปรเปลี่ยนเป็นคนรักในเวลาต่อมา จึงตัดสินใจที่จะมีลูกน้อยด้วยกัน แต่ใครจะรู้ว่าคนที่เด็กน้อยรักและเทิดทูนที่สุดในชีวิตจะกลายเป็นคนที่ทำลายชีวิตเขาให้พังพินาศที่สุดด้วยเช่นกัน การตัดสินใจที่จะหนีออกมาจากคฤหาสน์สุดหรู เพราะเขาไม่สามารถทนกับความรุนแรงและความเจ้าชู้ได้ ในที่สุดเด็กหนุ่มกลับได้พบรักกับนายแบบนู้ดชื่อดังอย่างไม่ตั้งใจ… เรื่องราวต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร ชีวิตของเขาจะพลิกผันอีกหรือไม่ไปติดตามพร้อมๆกันค่ะ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ท่านแม่ทัพข้าคือศรีภรรยา NC25+

ท่านแม่ทัพข้าคือศรีภรรยา NC25+

ซีไซต์
5.0

องค์หญิงสิบสามนามหลินฮุ่ยหมินสตรีผู้ที่งดงามโดดเด่นไม่เป็นรองผู้ใดแต่กลับมีฐานะต่ำต้อยในวังหลวงด้วยพระมารดาเสียชีวิตตั้งแต่นางยังเด็ก ท่ามกลางความคับแค้นใจนางยังต้องคำสาปร้ายต้องกลายร่างเป็นสัตว์ทุกคืนวันพระจันทร์เต็มดวง เขาคือ หยางเอ้อหลาง แม่ทัพหนุ่มผู้มีความสามารถรูปโฉมสง่างามและเป็นวีรบุรุษคนสุดท้ายของสกุลหยาง ทั้งยังเป็นที่รักเคารพของชาวเมือง ทว่าด้วยความสามารถและตำแหน่งใหญ่โต ฮ่องเต้มิอาจวางใจจึงได้คิดกำจัดเขาให้พ้นตำแหน่งเสีย โดยมอบสมรสพระราชทานให้หยางเอ้อหลางกับพระธิดาของตน เดิมทีชีวิตของคนสองคนย่อมไม่บรรจบ เมื่อสตรีที่หมายหมั้นกับหยางเอ้อหลางคือองค์หญิงใหญ่ที่ปักใจรักเขาตั้งแต่เยาว์วัย ทว่าเรื่องไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อคนทั้งคู่เกิดอุบัติเหตุจนคนเข้าพิธีสมรสกลายเป็นองค์หญิงสิบสาม ท่ามกลางความหวาดกลัวขององค์หญิงสิบสามที่กลัวความลับจะเปิดเผย ท่ามกลางหยางเอ้อหลางที่พยายามพาสกุลหยางให้รอดพ้น ท่ามกลางการแตกหักของความสัมพันธ์พี่น้องที่แสนรักใคร่ระหว่างองค์หญิงใหญ่และองค์หญิงสิบสามเพราะบุรุษเพียงผู้เดียว หลินฮุ่ยหมินจะทำเช่นใด เพื่อจะยุติเรื่องราวน่าเวียนหัวนี้

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

มาชาวีร์
5.0

หลังผ่าตัดนักพรตเฒ่าผู้หนึ่งนั้น นางวูบหมดสติและเสียชีวิตลงไป ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที ก็อยู่ในร่างของคุณหนูปัญญาอ่อนที่มีชื่อเดียวกันผู้นี้เสียแล้วทั้งยังจำอดีตชาติยามเป็นปรมาจารย์เต๋าได้อีกด้วย +++ 1 : ไล่ออกจากอารามไท่ผิงกวน แคว้นจิ้น ราชวงศ์เซวียน อารามไท่ผิงกวน “ไป ๆ อาจารย์ขับไล่พวกท่านออกจากอารามแล้ว อย่าได้มาเหยียบที่นี่อีก” “ศิษย์พี่รองรีบปิดประตูเร็วเข้า !” ตุบ ! ห่อผ้าสองห่อถูกโยนออกมาจากประตูอาราม ปัง ! ตามด้วยเสียงปิดประตูลงสลักอย่างหนาแน่น สตรีนางหนึ่งยืนตัวตรงเป็นสง่า เสื้อผ้ากับเส้นผมของนางปลิวไสวดั่งไผ่ลู่ลม หลินซือเยว่เงยหน้าขึ้นมองป้ายชื่ออารามไท่ผิงกวนด้วยสายตาเลื่อนลอย อาศัยอยู่ที่นี่มานานเท่าใดแล้วนะ บางครั้งนางเองก็ลืมเลือนวันเวลาไปเหมือนกัน “คุณหนูเจ้าคะ ศิษย์น้องทั้งสองของท่านทำเกินไปแล้วนะเจ้าคะ เหตุใดถึงไล่พวกเราสองคนออกจากอารามได้เล่า” เผิงฉือกระทืบเท้าเบา ๆ ตรงไปฉวยห่อผ้าทั้งสองบนพื้น ขึ้นมาคล้องแขนตัวเองไว้ “หากไม่ได้รับคำสั่งจากอาจารย์ ศิษย์น้องทั้งสองคงไม่กล้าขับไล่ข้าออกจากอารามหรอก” น้ำเสียงของนางสงบนิ่งฟังแล้วสบายหูยิ่งนัก หาได้มีความโกรธเกลียดแต่อย่างใด “นั่นรถม้า” นิ้วเรียวสวยชี้ไปยังรถม้าคันที่มีคนนั่งเฝ้าอยู่ “ป้าเผิงไปถามดูว่าใช่รถม้าของเราหรือไม่” เผิงฉือไม่รอช้ารีบตรงไปหาคนเฝ้ารถม้าที่อยู่ใต้ต้นไผ่ในทันที ไม่ช้านางก็กลับมาพร้อมกับรอยยิ้มนิด ๆ “เป็นรถม้าของเราจริง ๆ เจ้าคะคุณหนู คนขับบอกว่าเป็นคนของตระกูลหลินเจ้าค่ะ ได้รับคำสั่งจากท่านพ่อของคุณหนู ให้มารับคุณหนูกลับตระกูลหลินเพื่อไปแต่งงานเจ้าค่ะ” “กลับไปแต่งงานนี่เอง” นางเอ่ยเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่ หันหลังกลับไปทางประตูอาราม ประสานมือค้อมตัวคำนับลาอาจารย์ เผิงฉือเห็นเช่นนั้นก็อดที่จะคำนับตามนางไม่ได้ ภายในอารามไท่ผิงกวน “อาจารย์เหตุใดถึงไม่บอกลากับศิษย์พี่ใหญ่ไปตรง ๆ ล่ะ ทำเช่นนี้นางไม่โกรธท่านไปจนวันตายเลยรึ” เหอกุ้ยแม้มีอายุยี่สิบแปดปีแล้ว ทว่าเขากราบเป็นศิษย์เจ้าอาวาสชุนหวังเหล่ยหลังสตรีผู้นั้น จึงได้เป็นเพียงแค่ศิษย์พี่รองเท่านั้น “นั่นสิอาจารย์ ศิษย์พี่ใหญ่นางไม่เคยออกจากอารามไปไหนไกล ท่านทำเช่นนี้ไม่ใช่ขับไล่นางไปสู่ความตายหรอกรึ” จางเจียเฟิ่งเห็นด้วยกับศิษย์พี่รองของเขา “ให้มันน้อย ๆ หน่อยเจ้าศิษย์โง่ทั้งสอง พวกเจ้าคิดว่าอารามไท่ผิงกวนแห่งนี้ สามารถอยู่รอดมาได้เพราะใครกัน หากไม่ใช่เพราะฝีมือของศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้า เห็นนางเงียบ ๆ แบบนั้น ความคิดนางกว้างไกลยิ่งนัก อาจารย์อย่างข้ายังเทียบนางไม่ติดด้วยซ้ำไป” เจ้าอาวาสชุนปีนี้อายุอานามปาเข้าไปหกสิบห้าปีแล้ว ทว่าร่างกายยังแข็งแรง อารามเต๋าแห่งนี้มีวิถีแบบไม่เคร่งครัด ใช้ชีวิตเยี่ยงฆราวาสผู้หนึ่ง สามารถแต่งงานมีครอบครัวได้ “อาจารย์นางอยู่ในอารามวาดยันต์กันภัยให้ชาวบ้านที่มากราบไหว้ ตั้งโต๊ะรักษาโรคภัยให้ผู้คนในตัวอำเภอฝู แต่หนนี้นางต้องกลับบ้านไปเพื่อแต่งงาน นางบริสุทธิ์ถึงเพียงนั้นมิถูกสามีจับกลืนกินจนไม่เหลือกระดูกหรอกรึ” เหอกุ้ยนึกภาพเทพเซียนผู้สูงส่งอย่างหลินซือเยว่ หากต้องร่วมเตียงกับบุรุษหยาบกระด้าง เพียงเท่านั้นเขาก็ทำใจไม่ได้จริง ๆ แทบอยากจะไปแย่งตัวศิษย์พี่ใหญ่ของตัวเองกลับคืนมา “เลิกคร่ำครวญได้แล้ว กลับไปกวาดลานอารามกับตรวจดูน้ำมันตะเกียงให้เรียบร้อย ศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้าไม่อยู่ เจ้าทั้งสองต้องรีบร่ำเรียนศึกษาหาความรู้ อารามไท่ผิงกวนจะได้เจริญรุ่งเรืองในภายภาคหน้าต่อไปได้” เจ้าอาวาสชุนทำเสียงดังใส่ลูกศิษย์ทั้งสอง “ไป ๆ ข้าจะสวดมนต์” โบกมือไล่ทั้งคู่ให้ออกจากห้องสวดมนต์ไป เจ้าอาวาสชุนรีบลุกไปปิดประตูลั่นกลอน ท่าทางลุกลี้ลุกลนจนผิดปกติ ย่องเบา ๆ ไปที่ใต้เตียงนอน ดึงหีบไม้เก่าเก็บออกมา ครั้นกดสลักเปิดออก ก็พบตั๋วเงินจำนวนสามพันตำลึงอยู่ในนั้น ตระกูลหลินที่ไม่ได้บริจาคน้ำมันตะเกียงมาหลายปี จู่ ๆ ก็ส่งตั๋วเงินมาให้ พร้อมกับขอรับคนกลับไปเพื่อแต่งงาน ช่วงนี้ชาวบ้านมาทำบุญที่อารามน้อยลง หลินซือเยว่ก็ไม่รู้ว่าเกิดอันใดขึ้นกับนาง ถึงไม่ยอมลงจากอารามไปรักษาผู้คน รายได้เลยหายหดแทบจ่ายอาหารการกิน(สุรานารี)ไม่พอ ตั๋วเงินสามพันตำลึงนี่มาได้ทันเวลาพอดี ! แครก ๆ ๆ ๆ เสียงกวาดลานหน้าอารามดังขึ้นพร้อมกับเสียงบ่นของเหอกุ้ย “ข้ารู้ว่านางเก่งเอาตัวรอดได้ ข้าเพียงไม่อยากให้นางไปก็เท่านั้น” “ศิษย์พี่รองท่านอย่าได้เสียใจไปเลย ไม่ใช่ว่ามีแต่นางที่ต้องแต่งงานมีครอบครัว ท่านเองก็เถอะที่บ้านส่งคนมารับทุกปีไม่ใช่รึ” จางเจียเฟิ่งรู้ดีว่าตนและเหอกุ้ย ถูกครอบครัวลงโทษด้วยการส่งมาอยู่ยังอารามแห่งนี้ ทว่าเพียงชั่วคราวเท่านั้น “ตัวข้านั้นไม่เป็นไรหรอก เจ้านั่นแหละศิษย์น้องสาม ข้าได้ยินว่าที่บ้านของเจ้า เพิ่งหาคู่หมั้นหมายคนใหม่ให้เจ้าอีกคนแล้วไม่ใช่รึ” สองศิษย์พี่น้องหยุดกวาดลานอาราม แล้วหันหน้าไปมองตากัน จากนั้นพวกเขาก็ถอนหายใจดัง ๆ พร้อมกัน ไม่มีศิษย์พี่ใหญ่อยู่ด้วย นับจากนี้ไปยามทำความผิดใครจะออกหน้าคอยช่วยเหลือ ยามเงินหมดใครจะให้หยิบยืม ยิ่งคิดพวกเขาก็ยิ่งไม่สบายใจเป็นอย่างมาก บนถนนมุ่งหน้าสู่เมืองหลวง รถม้าไม้ธรรมดาไม่เล็กไม่ใหญ่ ไร้ป้ายชื่อตระกูลบอกกล่าว คล้ายไม่อยากให้ผู้อื่นล่วงรู้ว่าคนที่นั่งอยู่ด้านในเป็นใคร เผิงฉือพยายามหลอกถามคนขับรถม้าอยู่หลายหน ถึงสถานการณ์ของตระกูลหลินในยามนี้ นางไม่เคยไปที่นั่นมาก่อนไม่รู้จักใครสักคน คนขับรถม้าตอบว่า เขามีหน้าที่มารับคุณหนูรองกลับบ้านเท่านั้น เรื่องอื่นนั้นเขาไม่รู้จริง ๆ “ได้ถามหรือไม่ ใช้เวลากี่วันในการเดินทาง” หลินซือเยว่เอ่ยเสียงเนิบ ๆ “ถามแล้วเจ้าค่ะ เขาบอกว่าราว ๆ สิบวันก็ถึงเมืองหลวงแล้ว” “สิบวันเชียวรึ” หลินซือเยว่มองห่อผ้าที่วางอยู่ด้านข้าง มีเพียงของใช้จำเป็นของนางไม่กี่ชิ้น พร้อมกับก้อนเงินจำนวนห้าสิบตำลึง “คงต้องแวะซื้อของในอำเภอฝูเสียก่อน” เผิงฉือรีบเปิดม่านบอกกับคนขับรถม้า แต่เขากลับทำเสียงฮึดฮัดคล้ายไม่พอใจ “เสียเวลาเดินทางเปล่า ๆ” น้ำเสียงเขากระด้างกระเดื่อง

ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา

ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา

l3oonm@
5.0

“ท่านผู้อำนวยการคะ ทางทีมสำรวจแจ้งว่าคนไม่เพียงพอที่จะเข้าไปเก็บตัวอย่างพันธุ์พืชในป่าเมืองเหอหนานค่ะ” ซูเจิน ที่ได้ยินก็หูผึ่งทันที เธอนั่งทำการอยู่ในห้องวิจัยตั้งแต่เรียนจบ ถึงตอนนี้ก็สี่ปีได้แล้ว ผู้อำนวยที่เข้ามาตรวจงานวิจัยล่าสุด ก็มองไปรอบห้อง เพื่อดูว่ามีใครต้องการเสนอตัวไปทำงานในครั้งนี้หรือไม่ แต่หลายคนที่เขามองไป ต่างหลบสายตาของเขา จะมีใครอยากออกไปเสี่ยงอันตราย เดินป่าขึ้นเขาให้เหนื่อยสู้นั่งทำงานในห้องปรับอากาศเย็นๆ ดีกว่า เมื่อไม่มีใครคิดจะเสนอตัว เขาจึงได้สอบถามหาผู้ที่สมัครใจทันที “มีใครอยากจะอาสาไปไหม” ไว้กว่าความคิด ซูเจินยกมือขึ้น “ฉันค่ะ” เพื่อนสนิทรีบดึงเสื้อของเธอเพื่อจะห้ามปราม “จะบ้าหรอ เธอไม่เคยไปสักครั้ง ไม่รู้หรือว่างานนี้เสี่ยงแค่ไหน” เสียงกระซิบของเสี่ยวชิง เอ่ยลอดไรฟันออกมา เมื่อปีที่แล้ว ที่ทีมสำรวจเดินทางเข้าไปที่ป่าเหอหนาน พื้นป่าที่ไม่อาจสำรวจได้อย่างทั่วถึง สร้างความท้าทายให้เหล่านักพฤกษศาสตร์จากทุกองค์กร แต่ไม่ว่าจะส่งเข้าไปกี่ครั้งก็ไปไม่ถึงป่าชั้นกลางเสียที แม้จะใช้เทคโนโลยีที่ล้ำหน้าเข้าช่วยเพียงได้ ก็สำรวจได้เพียงป่าชั้นนอก แถมยังพาชีวิตคนไปทิ้งอีกนับไม่ถ้วน ปีนี้ทางองค์กรของซูเจิน หยิบโครงการสำรวจป่าเหอหนานขึ้นมาใหม่ แต่กว่าจะหาทีมสำรวจได้ครบคนก็กินเวลาไปหลายเดือน ถึงตอนนี้คนก็ยังไม่พอจนต้องมาถามหาจากทีมวิจัยให้ช่วยเหลือ “คุณอยากไปจริงหรือ” เขาเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง “ค่ะ ฉันอยากลองทำงานนี้” ซูเจินยิ้มออกมา “ได้ อีกสองวัน คุณก็เตรียมตัวให้พร้อม” เมื่อมีคนเสนอตัวแล้ว ผู้อำนวยการก็ออกไปพบทีมสำรวจ เพื่อวางแผนการทำงาน ทั้งยังให้ซูเจินตามเขาไปเข้ารวมการประชุมในครั้งนี้ด้วย “เธอมันบ้าไปแล้ว” เพื่อร่วมงานต่างเดินเข้ามาหาซูเจิน แล้วตำหนิเธอที่กล้ายกมือเสนอตัว “เอาน่า ไว้กลับมาฉันจะเอาเรื่องสนุกมาเล่าให้พวกเธอฟัง” ซูเจินยิ้มหวานออกมา ก่อนที่จะเก็บของแล้วไปเข้าร่วมประชุมกับทีมสำรวจ สองวันต่อมาซูเจินก็แบกกระเป๋าเดินทางมาที่จุดนัดพบ เธอออกเดินทางด้วยรถตู้ขององค์กร พร้อมทีมสำรวจอีกเกือบยี่สิบชีวิต ยังดีที่เธอได้แบกกระเป๋าเพียงใบเดียว หากต้องแบกเต็นท์นอน อาหารด้วย คงได้เป็นภาระของคนอื่นอย่างแน่นอน ภายในป่าเหอหนาน น่ากลัวว่าที่ซูเจินคิดไว้เยอะ พอตะวันตกดิน หากไม่มีแสงไฟที่ทีมสำรวจนำมาด้วยคงจะมืดจนมองไม่เห็นอะไร เสียงแมลงทั้งสัตว์ป่าร้องตลอดทั้งคืน สร้างความหวาดกลัวให้กับคนที่ไม่เคยเข้าป่าสักครั้งอย่างเธอได้อย่างดี ยังดีที่เจ้าหน้าที่ผู้นำทางติดตามมาด้วยอีกหลายคน พวกเขาจึงได้อยู่ผลัดเปลี่ยนเวรยาม เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์ป่าเข้ามาถึงตัวพวกเขา หลายวันที่อยู่ในป่า ซูเจินเก็บตัวอย่างพันธุ์ได้หลายชนิด แต่ทั้งทีม ยังเดินไม่หลุดป่าชั้นนอกเลย ยังดีที่อาหารที่เตรียมมาเพียงพอให้พวกเขาอยู่ไปได้อีกหลายวัน “เอ๊ะ” เข้าวันที่เจ็ดของการสำรวจป่า ซูเจิน เห็นดอกไม้แปลกตา ที่ขึ้นอยู่ท่ามกลางพงหญ้ารก เธอจึงเดินห่างจากกลุ่มทีมสำรวจเข้าไปดูทันที เพราะไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องอะไรได้ ระยะห่างที่อยู่ไกลจากพวกเขา หากร้องเรียกก็ยังได้ยินอยู่ เธอหยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นมา พร้อมทั้งจดรายละเอียดก่อนที่จะดึงต้นไม้เก็บเข้าถุงเก็บตัวอย่างที่เตรียมมา แต่เมื่อมือของซูเจินสัมผัสไปที่ดอกไม้ เธอก็ต้องตกตะลึง เหมือนมีกระแสไฟวิ่งผ่านปลายนิ้วไปจนทั่วทั้งตัว “โอ๊ยย” เสียงร้องอย่างเจ็บปวดของซูเจิน เรียกความสนใจให้คนทั้งหมดรีบวิ่งมาทางที่เธออยู่ ซูเจินเห็นเพียงแสงสีขาวที่สว่างวาบไปทั่ว แล้วภาพตรงหน้าของเธอก็ดำมืดลง

ที่แท้เป็นผู้มีอิทธิพลระดับโลก

ที่แท้เป็นผู้มีอิทธิพลระดับโลก

Odey Jagoe
5.0

เสิ่นซือหนิงซ่อนตัวตนไว้ยอมทำทุกอย่างให้ แต่ความจริงใจของเธอกลับถูกสามีทำลายไปหมด และสิ่งที่เธอได้รับนั้นคือข้อตกลงการหย่า ด้วยความผิดหวังเธอจึงหันหลังจากไปและกลายเป็นตัวเองที่แท้จริงอีกครั้ง หลังจากได้เห็นความใกล้ชิดของสามีกับคนรักของเขา เธอก็จากไปด้วยความผิดหวัง จากนั้นเปิดเผยตัวตนที่เป็นนักปรุงน้ำหอมอัจฉริยะระดับนานาชาติ ผู้ก่อตั้งองค์กรข่าวกรองที่มีชื่อเสียง และผู้สืบทอดในโลกแฮ็กเกอร์ อดีตสามีของเธอเลยเสียใจมาก เมื่อเมิ่งซือเฉินรู้ว่าตัวเองทำผิด เขาก็เสียใจมาก หนิง ผมผิดไปแล้ว ให้โอกาสผมอีกครั้งเถอะ ทว่าฮั่วจิ่งชวนขาพิการนั้นกลับลุกขึ้นยืนและจับมือกับเธอว่า "อยากคบกับเธอ นายยังไม่มีค่าพอ"

หยางจื้อซี เกิดใหม่ในหมู่บ้านป่าหมอก

หยางจื้อซี เกิดใหม่ในหมู่บ้านป่าหมอก

จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ
5.0

หยางจื้อซี เด็กกำพร้าจากศตวรรษที่21 ถูกองค์กรมืดเลี้ยงดูจนเติบโตและทำให้เธอกลายเป็นมนุษย์กลายพันธ์ ในระหว่างที่ถูกส่งตัวไปทำภารกิจลับ เธอกลับถูกคนในองค์กรมืดหักหลังและถูกฆ่าโดยเพื่อนสนิทที่เธอไว้ใจมากที่สุด ก่อนสิ้นใจเธอถามเพื่อนสนิทว่าทำไม แต่ไม่ได้รับคำตอบจากปากของอีกฝ่าย สิ่งที่เธอได้รับคือรอยยิ้มที่ดูถูกเหยียดหยามและ คำว่า “โง่” จากปากของอีกฝ่ายเท่านั้น หลังจากที่ตายไปแล้วสิ่งที่เธอคิดไว้ คงจะเป็นนรกหรือที่ไหนสักแห่งที่เป็นโลกหลังความตาย แต่ทว่ามันกลับไม่เป็นเช่นนัน เธอตื่นขึ้นมาในร่างของ หยางจื้อซี เด็กหญิงอายุ เพียง 13 ขวบปีในหมู่บ้านป่าหมอก ในดินแดนโบราณล้าหลังที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ คล้ายกับว่าเป็นโลกคู่ขนานที่อยู่อีกมิติหนึ่ง เธอตื่นขึ้นมาในบ้านที่ผุพัง ครอบครัวยากจน มีแม่ที่อ่อนแอและเจ็บป่วย มีพี่น้องที่อายุน้อย มีปู่ย่าตายายที่เห็นแก่ตัวและใจร้าย มีลุงที่เห็นแก่ได้ป้าสะใภ้ที่เต็มไปด้วยความละโมบโมบโลภมาก หยางจื้อซี คิดว่านับจากนี้ไปชีวิตจะต้องอยู่ได้ด้วยตัวเอง หากใครมารังแกก็แค่ทุบตี เธอไม่เชื่อว่าด้วยพลังที่ติดตัวเธอมาจากชาติที่แล้วจะไม่สามารถอยู่รอดได้ในโลกล้าหลังแห่งนี้

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
รักวุ่นวายของเจ้าชายซุปตาร์
1

บทที่ 1 ด่ากราด

30/12/2021

2

บทที่ 2 ดาราหนุ่ม

30/12/2021

3

บทที่ 3 ใช้เส้น

30/12/2021

4

บทที่ 4 ถูกพรากผู้

30/12/2021

5

บทที่ 5 เป็นห่วงน้อง

30/12/2021

6

บทที่ 6 ตรอมใจ

30/12/2021

7

บทที่ 7 หวั่นกลัว

30/12/2021

8

บทที่ 8 ปลอมตัว

30/12/2021

9

บทที่ 9 สถานการณ์ตึงเครียด

30/12/2021

10

บทที่ 10 รู้สึกผิด

30/12/2021

11

บทที่ 11 ปราพยศ

25/03/2023

12

บทที่ 12 รักครั้งใหม่

25/03/2023

13

บทที่ 13 พ่อค้าขายผัก

25/03/2023

14

บทที่ 14 หลบหนี

25/03/2023

15

บทที่ 15 วิวาห์ล่ม

25/03/2023

16

บทที่ 16 สำนึกผิด

25/03/2023

17

บทที่ 17 ชุลมุน

25/03/2023

18

บทที่ 18 ตัดใจ

25/03/2023

19

บทที่ 19 ประชดลูก

25/03/2023

20

บทที่ 20 ข้อเสนอ

25/03/2023

21

บทที่ 21 รู้สึกผิด

25/03/2023

22

บทที่ 22 ปรึกษาใจ

25/03/2023

23

บทที่ 23 ปล่อยวาง

25/03/2023

24

บทที่ 24 วันสำคัญ

25/03/2023

25

บทที่ 25 คิดไม่ซื่อ

25/03/2023

26

บทที่ 26 เสียสละ (ตอนจบ)

25/03/2023