icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
วิวาห์ชัง ชุด เจ้าสาวพรหมจรรย์ของมหาเศรษฐี

วิวาห์ชัง ชุด เจ้าสาวพรหมจรรย์ของมหาเศรษฐี

เนื้อนวล

5.0
ความคิดเห็น
232.6K
ชม
50
บท

แม็กซิมัส ซาเมนดอฟ จำใจแต่งงานกับผู้หญิงแพศยาที่เผลอมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งด้วยเพียงแค่ครั้งเดียว เขาเกลียดหล่อนมาก เกลียดผู้หญิงที่ยอมเอาตัวเข้าแลก เพื่อจับผู้ชายอย่างหล่อนเข้าไส้ เขาจึงกระทำกับหล่อนอย่างหยาบคาย ป่าเถื่อน ปฏิบัติกับหล่อนเยี่ยงโสเภณี พร้อมพาคนรักเก่ามาเหยียบหน้าถึงที่ครั้งแล้วครั้งเล่า ก็ในเมื่อหล่อนอยากได้เขานัก หล่อนก็จะได้ แต่ได้แค่ทะเบียนสมรสนะ เพราะความรักเขาให้หญิงอื่นไปหมดแล้ว ปั้นหยา แอบรักแม็กซิมัส... แอบรัก แอบมองมานานแสนนาน และยินดีที่ได้เห็นเขามีความสุขกับญาติผู้น้องของตนเองอย่างจริงใจ แต่แล้วโชคชะตาก็เล่นตลก หล่อนไม่รู้ว่าตนเองหล่นตุ๊บลงบนเตียงของเขาได้ยังไง และไม่รู้ว่าทำไมถึงได้เกิดความสัมพันธ์ลึกซึ้งระหว่างกันขึ้น หล่อนพร่ำบอกกับเขาว่าไม่รู้เรื่อง แต่เขาไม่เคยเชื่อเลย แถมยังยัดเยียดข้อกล่าวหาร้ายแรงใส่มือมาอย่างไร้เมตตา "เราหย่ากันเถอะค่ะ" หล่อนบอกทั้งน้ำตา หลังจากเพิ่งถูกแม็กซิมัสข่มขืนอย่างป่าเถื่อนไปสองครั้งติด "ยอมแพ้แล้วหรือคนเก่ง" เขาถามเสียงหยันเยาะ พร้อมหยิบธนบัตรสีเทาจำนวนห้าใบปาใส่หน้าหล่อน เหมือนที่เคยกระทำทุกครั้งหลังจากเสร็จกิจกับกายสาวที่เขาเฝ้าบอกว่าเกลียดแสนเกลียด ปั้นหยานิ่งเงียบ น้ำตาตกใน หัวใจเจ็บจนชาชิน กัดฟันพาร่างกายที่บอบช้ำจากการถูกชำเราจากผู้ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสามีลุกขึ้นนั่ง ทุกอณูเนื้อกรีดร้องเจ็บปวดแสนสาหัส "ตอบสิ เงียบทำไม" "ฉันต้องการหย่า" หล่อนย้ำความต้องการของตัวเองออกไปอีกครั้งด้วยเสียงเบาหวิวปานเสียงของลมหายใจ "ได้สิ อยากหย่าเมื่อไหร่บอกมาเลย" น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความลิงโลดยินดี เมื่อกำลังจะได้รับอิสรภาพที่ถวิลหา จนคนฟังเช่นหล่อนปวดหนึบไปทั้งดวงใจ "เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ค่ะ" เขาปรายตามองหล่อนอย่างชิงชังขยะแขยงไม่คิดปิดบัง "แต่ถ้าเธอกำลังฝันหวานถึงสินสมรสละก็... เลิกฝันซะ เพราะฉันจะไม่ให้แม้แต่เหรียญเดียว" หล่อนไม่ได้ตอบเขา กัดฟันเดินหนีเข้าห้องน้ำทั้งน้ำตา พร้อมกับเก็บเรื่องลูกในท้องเอาไว้เป็นความลับ และคนใจร้ายอย่างเขาจะไม่มีวันรู้ตลอดกาล

บทที่ 1 ตอนที่ 1

ร่างสูงเกือบหนึ่งร้อยเก้าสิบเซนติเมตรของ แม็กซิมัส ซาเมนดอฟ ก้าวเข้ามาภายในไนต์คลับหรูใจกลางเมืองหลวง เพื่อมาตามนัดของเหล่าเพื่อนสนิทอีกสามคนที่นานๆ จะมีโอกาสได้เจอกันพร้อมหน้าพร้อมตาเสียที

พวกเขาทั้งสี่คนแยกย้ายกันไปใช้ชีวิตของตนเองหลังจากเรียนจบจาก Princeton University ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยในกลุ่ม IVY LEAGUE ของประเทศสหรัฐอเมริกา

“เฮ้...”

แม็กซิมัสยกมือขึ้นโบกทักทายกลุ่มเพื่อน เมื่อเห็นพวกเขาทั้งสามคนในระยะไม่ไกลนัก สองเท้ารีบก้าวเดินเข้าไปหา

“โทษทีนะที่มาสาย พอดีเพิ่งไปส่งอันนาที่บ้านน่ะ”

แม็กซิมัสอธิบายเหตุผลที่ตนเองมาช้ากว่าเวลานัดกับเพื่อนของตนเองด้วยความไม่สบายใจนัก

“เฮ้ย ไม่ต้องขอโทษหรอก พวกฉันก็เพิ่งมาถึงไม่นานเหมือนกัน”

เคลวิน แม็คคลาเรน เจ้าของไร่ชาใหญ่เป็นอันดับหนึ่งของเมืองไทยเอ่ยขึ้นพร้อมกับรอยยิ้ม ขณะใช้สายตาคมเข้มสีน้ำตาลของตนเองมองเพื่อนสนิทที่ไม่ค่อยได้เจอกันนักอย่างสำรวจตรวจตรา ก่อนจะพบว่าหนึ่งในสี่จตุรเทพแห่งปริ้นซ์ตันหล่อเหลาขึ้นมาก และกาลเวลาไม่อาจจะทำร้ายได้เลย

ดวงตาของแม็กซิมัสที่อยู่ใต้คิ้วหนาดกเป็นสีเขียวจัด จมูกโด่งเป็นสันอย่างผู้ดี ริมฝีปากบางเฉียบหยักสวยน่ามอง แต่หากยามที่แม็กซิมัสไม่มีรอยยิ้ม ใบหน้าของเขาจะดูกระด้างไม่ต่างจากก้อนหินดีๆ นี่เอง ส่วนผิวกายและผิวหน้าออกสีแทนน้ำผึ้ง รูปร่างใหญ่โตล่ำสัน บ่ากว้างมาก เส้นผมถูกตัดแต่งตามสมัยนิยมด้วยความประณีต โดยรวมแล้วแม็กซิมัสไม่ต่างจากเทพบุตรเลยแม้แต่น้อย

“ขอบใจ”

แม็กซิมัสกล่าวขอบคุณเพื่อน ก่อนจะหย่อนกายลงนั่งบนเก้าอี้ และเอ่ยถามถึงเพื่อนอีกคนที่ยังไม่ปรากฏตัว

“แล้วนี่ไอ้อเล็กยังมาไม่ถึงหรือ”

อเล็กซิส โอคอนเนอร์ อีกหนึ่งหนุ่มในกลุ่มจตุรเทพแห่งปริ้นซ์ตัน เขาคือทายาทแสนล้านของโรงแรมระดับเจ็ดดาวที่มีสาขาอยู่ทั่วโลก

อเล็กซิสมีดวงตาสีฟ้ากระจ่าง รอยยิ้มของเขากระชากใจสาวน้อยใหญ่จนทำให้มีผู้หญิงมากมายเข้ามาในชีวิต แต่ชายหนุ่มก็เหมือนของต้องห้ามจากอิสตรี เพราะเขาไม่เคยปรารถนาจะให้หญิงใดครอบครองหัวใจ

เขาสามารถแตะต้องและสนุกกับการไล่ล่าผู้หญิงได้ แต่ผู้หญิงเหล่านั้นไม่มีสิทธิ์ที่จะมาแตะต้องหัวใจของเขา

“ยัง แต่มันส่งข้อความมาบอกแล้วว่าจะเข้ามาสายหน่อย เพราะต้องไปส่งคู่หมั้นที่บ้านน่ะ”

คราวนี้ ชาร์ลี เฮนเดอร์สัน เป็นผู้ตอบ ซึ่งชาร์ลีก็คือหนึ่งในสี่จตุรเทพแห่งปริ้นซ์ตันเช่นกัน แต่ชาร์ลีพิเศษกว่าเพื่อนคนอื่นหน่อยก็เพราะว่าเขามีสายเลือดของเจ้าชายอยู่ในกายด้วยครึ่งหนึ่ง

“คู่หมั้นคนไหนวะชาร์ลี?”

แม็กซิมัสถามชาร์ลี ขณะไล่สายตาสำรวจเพื่อนสนิทอย่างพิจารณา ซึ่งก็พบว่าชาร์ลียังคงหล่อเหลา และสง่าสมกับมีสายเลือดของราชินิกุลเหมือนเมื่อครั้งก่อนไม่ผิดเพี้ยน

ใบหน้าของชาร์ลีเป็นรูปสี่เหลี่ยม หน้าผากกว้าง ดวงตารียาวหวานฉ่ำ สีของนัยน์ตาคือสีทองอำพัน จมูกโด่งเป็นสันสวยงาม ริมฝีปากหยักสวยอิ่มราวกับอิสตรี ผิวกายเป็นสีขาวอมชมพู ในขณะที่เรือนร่างสูงใหญ่ กำยำ เพราะชาร์ลีเป็นผู้ชายที่รักการออกกำลังกายเป็นชีวิตจิตใจ

“ก็แม่เจนจิราอะไรนั่นไง ที่ครอบครัวมันหมั้นหมายเอาไว้ตั้งแต่เด็กน่ะ” ชาร์ลีตอบอย่างรู้จริง เพราะอเล็กซิสเล่าให้ฟัง

“อ้าว ก็ไหนไอ้อเล็กมันบอกว่าไม่ชอบแม่นั่นไงล่ะ” แม็กซิมัสแย้งขึ้น

“มันก็คงขัดพ่อแม่มันไม่ได้นั่นแหละ” คราวนี้เป็นเคลวินที่ตอบขึ้นมาบ้าง ก่อนที่เขาจะพูดต่อ

“แล้วนายเป็นไงบ้างล่ะ ไอ้แม็ก”

แม็กซิมัสสบตากับเคลวิน เขายิ้มน้อยๆ ให้กับเพื่อน

“ฉันก็สบายดีนะ กับอันนาก็เข้ากันได้ดี แล้วตอนนี้ฉันก็กำลังคิดถึงเรื่องแต่งงานอยู่ แต่ยังไม่ได้บอกน้องอัน อยากทำเซอร์ไพรส์น่ะ”

เคลวินเบิกตากว้าง ก่อนจะถามซ้ำออกมา

“นายแน่ใจแล้วหรือว่าอันนาคือผู้หญิงที่ใช่สำหรับนาย ฉันว่านายควรจะดูใจเธอไปอีกสักพักนะ”

“นั่นสิ ข่าวเธอก็ไม่ค่อยจะดีสักเท่าไหร่”

ชาร์ลีสนับสนุนความคิดเห็นของเคลวิน แต่แม็กซิมัสไม่สนใจ เพราะอันนาเป็นผู้หญิงที่ดีในสายตาของเขาเสมอ

“ฉันไม่เคยเชื่อข่าวเหลวไหลพวกนั้นหรอก และที่สำคัญอันนาเป็นคนดี แถมยังมีชีวิตน่าสงสารมาก ฉันอยากจะช่วยให้เธอหลุดพ้นจากนรกที่เรียกว่าครอบครัวเสียที”

“ความรักนะโว้ยไอ้แม็ก ไม่ใช่ความสงสาร”

เคลวินยังทักท้วงไม่เลิก แต่เขาพูดเพราะหวังดีซึ่งแม็กซิมัสก็เข้าใจ

“ฉันก็คิดว่าฉันรักอันนานะ”

ชาร์ลีส่ายหน้าไปมา ก่อนจะแสดงความคิดเห็นอีกครั้ง

“ถ้าฉันเป็นนายนะ ฉันจะเลือกคบหากับญาติของอันนาแทน”

“ฉันก็เหมือนกัน เธอชื่ออะไรนะ...”

เคลวินพยายามนึก แต่นึกไม่ออก แม็กซิมัสจึงต้องเอ่ยชื่อนั้นขึ้นมาแทน

“ปั้นหยา”

“เออ ใช่... ปั้นหยา คุณปั้นหยา”

แม็กซิมัสยิ้มหยัน เมื่อได้ยินชื่อของผู้หญิงที่เขาไม่ถูกชะตาด้วยเลยแม้แต่น้อย

“เห็นหน้าซื่อๆ แบบนั้น แอบกลั่นแกล้งอันนาไม่รู้กี่ครั้งแล้ว พวกนายรู้ไหม”

เคลวินกับชาร์ลีหันมองหน้ากัน ก่อนจะส่ายหน้าดิกพร้อมๆ กันอย่างเหลือเชื่อ

“ไม่จริงมั้ง”

“นั่นสิ หน้าตาซื่อ ไร้เดียงสาอย่างคุณปั้นหยาจะไปกลั่นแกล้งใครได้ นี่ถ้าบอกว่าแฟนนายกลั่นแกล้งคุณปั้นหยา ฉันยังว่าน่าเชื่อกว่าเลย จริงไหมชาร์ล”

“ถูกต้อง”

แม็กซิมัสถอนใจแรงๆ และก็ไม่อยากจะเถียงกับเพื่อนๆ ด้วยเรื่องส่วนตัวของตนเองอีก

“แต่ฉันรักอันนา และพวกนายก็ต้องเคารพการตัดสินใจของฉัน จริงไหม”

“คร้าบบบ คุณแม็กซิมัส”

ทั้งชาร์ลีและเคลวินต่างพยักหน้าพร้อมกัน

แม็กซิมัสยกแก้วเหล้าขึ้นดื่ม เบ้หน้าเล็กน้อยเมื่อรสชาติของแอลกอฮอล์บาดคอ

“แล้วนายเป็นไงบ้างล่ะเคน ไร่ชาไปได้สวยไหม”

เคลวินไหวไหล่กว้างบึกบึนของตัวเองเล็กน้อย ก่อนจะตอบออกมา

“กำลังไปได้สวยเลยว่ะ นี่ฉันกำลังมองหาที่ดินเพิ่ม กะว่าจะซื้อเพื่อขยายไร่ชาให้มากขึ้น”

“ฉันดีใจด้วย แล้วคุณณิล่ะ สบายดีไหม”

แม็กซิมัสถามถึงณิชา ซึ่งเป็นคนรักของเคลวินมาตั้งแต่ตอนที่เรียนในมหาวิทยาลัยไอวี่ลีกด้วยกัน ทั้งคู่คบหากันมายาวนานมาก แต่ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะลั่นระฆังวิวาห์ในเร็วๆ นี้

“ณิสบายดี แต่วันนี้มาเจอพวกนายไม่ได้ เพราะต้องไปงานเลี้ยงกับพ่อของเธอน่ะ”

“แล้วเมื่อไหร่นายจะแต่งงานวะเคน”

“ยังไม่ใช่ตอนนี้หรอก เพราะฉันยังสนุกกับการทำงานอยู่ ยังไม่อยากถูกขังอยู่ในอุ้งมือของผู้หญิงน่ะ”

“เดี๋ยวคุณณิก็หนีไปแต่งกับคนอื่นหรอก”

แม็กซิมัสเตือนเพื่อน แต่เคลวินไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนัก และเปลี่ยนไปคุยเรื่องชาร์ลีแทน

“เรื่องของฉันจบแล้ว ถามนายบ้างดีกว่าชาร์ลี นายเป็นยังไงบ้าง”

ชาร์ลีที่นั่งจิบเหล้าอยู่ระบายยิ้ม “ฉันสบายดี แต่ชีวิตก็วุ่นวายกับงานเหมือนพวกนายนั่นแหละ”

“แล้วเรื่องนายกับไลลาน้องสาวบุญธรรมล่ะ พ่อกับแม่นายรู้หรือยังว่าพวกนายรักกัน” แม็กซิมัสเอ่ยถามอย่างอยากรู้ความคืบหน้าของเพื่อนสนิท

ศีรษะทุยสวยของชาร์ลีส่ายเล็กน้อย รอยยิ้มบนใบหน้าตอนนี้เคร่งเครียดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

“ฉันปิดไม่ให้พ่อกับแม่รู้ เพราะไม่อย่างนั้นไลลาอาจจะถูกส่งตัวไปอยู่ที่อื่น”

“นายนี่ก็แปลกนะชาร์ลี ผู้หญิงสวยๆ มีให้เลือกเป็นแสนเป็นล้านคนบนโลกนี้ แต่นายกลับเลือกที่จะรักน้องสาวบุญธรรมของตัวเองซะงั้น”

ชาร์ลีจ้องหน้าแม็กซิมัสเจ้าของคำถามแทงใจดำ

“ความรักมันห้ามไม่ได้หรอกว่าจะเกิดขึ้นกับใคร คนไหน”

“แล้วนายแน่ใจหรือว่านายรักไลลาจริงๆ ไม่ใช่แค่เพราะความผูกพันน่ะ” คราวนี้เป็นเคลวินบ้างที่เอ่ยถาม

ชาร์ลีนิ่งไปเล็กน้อย ก่อนจะฝืนยิ้มตอบ

“คงทั้งรักทั้งผูกพันนั่นแหละ”

แล้วชาร์ลีก็ยกแก้วเหล้าขึ้นจิบอีกครั้ง พร้อมกับนั่งเงียบๆ ในขณะที่แม็กซิมัสกับเคลวินพูดคุยกันต่อเนื่อง

“เด็กที่นายอุปการะเอาไว้โตเป็นสาวหรือยังเคน” แม็กซิมัสเอ่ยถามเรื่องของเฌอปรางเมื่อนึกขึ้นได้

“โตแล้ว ปีนี้ก็น่าจะสิบแปดแล้วล่ะ นายถามถึงเฌอปรางทำไมหรือ” เคลวินย้อนถามกลับด้วยความแปลกใจ

“เปล่า ก็แค่อยากรู้เฉยๆ ทำไมนายจะต้องทำท่าหวงก้างแบบนี้ด้วยวะ”

“เปล่าสักหน่อย ฉันจะไปหวงก้างอะไรกันวะ ฉันไม่เคยมีความคิดอยากเป็นสมภารสักหน่อย”

“ให้มันแน่เถอะ”

“มันแน่อยู่แล้ว ฉันไม่ชอบเด็ก ยิ่งอายุห่างกันเกือบยี่สิบปีแบบนี้ ฉันยิ่งไม่เอาใหญ่เลย”

“ทำไมวะ มีเมียเด็กกระชุ่มกระชวยหัวใจดีออก”

แม็กซิมัสแซวเพื่อนขำๆ

“เพราะฉันเอาดุไง กลัวเด็กมันจะตายคาเตียง”

เสียงหัวเราะของหนุ่มหล่ออย่างแม็กซิมัสและชาร์ลีดังกังวานขึ้นหลังจากได้ยินคำตอบของเคลวิน

“เอ่อ... แล้วนี่ไอ้อเล็กมันจะมาไหมเนี่ย”

หลังจากนั่งคุยเรื่องสัพเพเหระไปเกือบชั่วโมง เคลวินก็ยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมองเวลา

“นี่ๆ มันโทรเข้าเครื่องฉันพอดี” ชาร์ลีตอบเพื่อน ก่อนจะรีบกดรับสายของอเล็กซิส

“ว่าไงอเล็ก”

“ฉันคงไปไม่ทัน นี่แม่บังคับให้ฉันนั่งคุยกับคนบ้านนี้ต่อ ปวดหัวชะมัดว่ะ”

“เออๆ ไม่เป็นไร เอาไว้นัดเจอกันครั้งหน้าก็ได้” ชาร์ลีตอบเพื่อนไปตามสาย

“ขอให้สนุกนะอเล็ก”

“สนุกกะผีอะไรวะ รำคาญจริตผู้หญิงพวกนี้จะตาย แค่นี้ก่อนนะ แม่เรียกแล้ว”

อเล็กซิสตัสสายสนทนาไปแล้ว ชาร์ลีก็วางโทรศัพท์มือถือลงบนโต๊ะข้างแก้วเหล้า ก่อนจะรายงานเพื่อนอีกสองคนที่นั่งรอฟังอย่างใจจดจ่อ

“มันมาไม่ทันว่ะ”

เคลวินถอนใจออกมา “ว่าแล้วเชียว ไอ้อเล็กนี่มันเชื่อฟังแม่ยังกับอะไรดี”

“ไม่เป็นไรหรอก เอาไว้เจอกันพร้อมหน้าอีกทีตอนงานแต่งฉันก็ได้” แม็กซิมัสพูดอย่างอารมณ์ดี

“สรุปนี่นายจะแต่งเร็วๆ นี้จริงหรือไอ้แม็ก” เคลวินถามย้ำอีกครั้งเพื่อความมั่นใจ

“ไม่ใช่ภายในปีนี้ แต่ก็ไม่เกินปีหน้านี่แหละ พวกนายคอยฟังข่าวจากฉันก็แล้วกัน”

เคลวินกับชาร์ลีมองหน้ากัน และก็ได้แต่ถอนใจออกมายาวเหยียด

อ่านต่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

หนังสืออื่นๆ ของ เนื้อนวล

ข้อมูลเพิ่มเติม
บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ