นาง...ศิษย์สำนักเต๋า เรียบร้อยดุจผ้าขาวที่พับไว้ เขา...เจ้าสำนักดินแดนตะวันตก ดิบเถื่อนและไม่ไว้หน้าใคร เมื่อนางต้องมาพบกับเขา ความอดทนและความเป็นกุลสตรีของนางต้องแตกออกเป็นเสี่ยงไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ! “อยู่กับข้าไม่ดีตรงไหน ข้าเป็นถึงเจ้าสำนักเสือขาว เป็นลูกบุญธรรมของข่านเผ่าทูเจวี๋ย หน้าตาหล่อเหลา มีวรยุทธ์สูงส่ง เจ้าคิดว่าข้ายังไม่ดีพอสำหรับเจ้าอีกหรือ” ชายหนุ่มกล่าว “ข้าไม่สน” นางตอบกลับโดยไม่หยุดคิด คราวนี้เขาไม่พูดอะไรอีก ยอมปล่อยมือจากนางแต่โดยดี หนำซ้ำยังลุกขึ้นยืน มือเกี่ยวบนขอบกางเกงซึ่งเป็นอาภรณ์ชิ้นเดียวบนตัวของเขา ดวงตาก็มองจดจ่อบนใบหน้าของนาง ระหว่างที่นางมองเขาอย่างไม่เข้าใจ เขาก็ถอดกางเกงของตนต่อหน้าต่อตานางโดยไม่มีการบอกกล่าวล่วงหน้า หญิงสาวลืมตัวเบิกตามองส่วนสงวนของเขาเต็มๆ คนเปลือยเปล่าล่อนจ้อยต่อหน้านางกลับไม่สะทกสะท้าน ยังหันกลับมากำชับนาง “ข้าจะอาบน้ำ อย่าแอบดูข้าล่ะ” หญิงสาวหน้าแดงแจ๋ เปล่งเสียงคำรามใส่ด้วยความเดือดดาล ก่อนจะวิ่งออกจากห้องไปทันที “สายตาของข้าแปดเปื้อนแล้ว คนสารเลว!”
‘เกิดเป็นมนุษย์ล้วนแล้วแต่มีโชคชะตาที่เปลี่ยนแปลงได้ตลอด สวรรค์ไม่เคยอนุญาตให้ใครได้มีช่วงเวลาสงบสุขนานนักหรอก นี่แหละคือความเป็นมนุษย์ละ’
นั่นก็คือคำสอนยาวเหยียดของเจ้าสำนักอู๋เล่ยซิงในยามที่ศิษย์ในสำนักตะโกนโทษดินฟ้าเมื่อพบเจอกับปัญหาที่คิดไม่ตก... ก็เหมือนกับที่นางกำลังประสบพบเจอในตอนนี้นี่ไง!
ไป๋หลันคือศิษย์สำนักเต๋าซานเหลิงที่ขึ้นชื่อเรื่องรักความสงบมากที่สุด ในทางเดียวกัน นางก็เป็นคนที่ใจอ่อนกับศิษย์พี่ศิษย์น้องในสำนักมากที่สุดเช่นกัน ในเมื่อศิษย์น้องจู่ๆ ก็ล้มป่วยออกทำภารกิจไม่ได้ สำหรับไป๋หลัน นางรู้ดีเชียวละว่าศิษย์น้องคนนี้มิได้ป่วย ก็แค่เกิดปอดแหกขึ้นมาเท่านั้นเอง
หญิงสาวคิดพลางแหงนหน้ามองท้องฟ้า ชายเสื้อและชายกระโปรงสีขาวขยับไหวยามกระแสลมพัดผ่าน ทั้งสีหน้าและแววตาของนางแสดงว่ากำลังลังเล นางไม่แน่ใจว่าควรจะเดินหน้าต่อหรือถอยหลังกลับดี ทั้งที่รับปากศิษย์น้องคนที่สามไปแล้วแท้ๆ ว่านางจะทำภารกิจแทนให้สำเร็จ หากแต่ว่าเมื่อนางมาถึงดินแดนตะวันตก นางกลับเกิดความลังเลที่จะทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายเสียอย่างนั้น
เมื่อไม่นานนี้เอง เจ้าสำนักอู่เล่ยซิงถูกราชสำนักวานให้สืบเรื่องเภทภัยทางดินแดนตะวันตก ตอนแรกนางและศิษย์คนอื่นๆ เข้าใจว่าเภทภัยในที่นี้ก็คือภูตผีปีศาจ ศิษย์น้องคนที่สามมีความเชี่ยวชาญเรื่องไล่ผีจับปีศาจ เหตุนี้นางจึงถูกเลือก แต่ต่อมาเมื่อรู้ว่าเภทภัยนี้ไม่ได้เกิดจากภูตผี ศิษย์น้องคนที่สามจึงล้มป่วยกะทันหัน!
เรื่องนั้นยืนยันได้เมื่อนางเดินทางมาถึงเมืองซาเป่ย ตลอดทางนางได้ยินคนพูดถึงโจรทะเลทรายมากกว่าปีศาจร้ายเสียอีก
และสิ่งที่ทำให้นางลังเลว่าจะก้าวต่อไปข้างหน้าดีหรือไม่ หาใช่เพราะนางเกิดความหวาดกลัวเหมือนศิษย์น้องคนที่สามแต่อย่างใด นางเพียงแค่กลัวว่าหากจวนตัวจนเกิดการต่อสู้ นางก็ไม่อยากลงมือต่อสู้จนฝ่ายนั้นต้องบาดเจ็บหรือล้มตาย นั่นนับว่าเป็นบาปมหันต์ หากอีกฝ่ายเป็นภูตผี พลาดพลั้งมือไปก็ถือว่าเป็นอีกเรื่องหนึ่งมิใช่หรือ
จะบอกว่านางมั่นใจในฝีมือตนเองก็ได้ แต่สำนักเต๋าซานเหลิ่งมิใช่สำนักหญิงล้วนกระจอกๆ ที่จะพ่ายให้กับโจรผู้ร้ายหรือผีสางง่ายๆ แต่สิ่งที่ทำให้วิตกมากกว่าก็คือการกลัวว่าตนจะพลั้งเผลอกระทำบาป
นางถอนใจอีกระลอก แล้วบ่นงึมงำ
“เภทภัยอะไรกัน ก็แค่กลุ่มโจรทะเลทรายเองไม่ใช่หรือ ให้ทางการจัดการก็ได้แล้วนี่นา”
“แม่นาง เจ้าไม่รู้อะไร กลุ่มโจรทะเลทรายพวกนี้ไม่ใช่โจรกระจอกๆ นะ” ท่านป้าที่เดินผ่านมาได้ยินเข้าพอดี นางหยุดและพูดราวกับว่าคนมาใหม่อย่างนางช่างไม่รู้อะไรเอาเสียเลย!
“ทำไมหรือท่านป้า โจรกลุ่มนี้น่ากลัวอย่างไรเจ้าคะ” ไป๋หลันไม่รู้จะพูดอะไร รู้เพียงว่านางเผลอพูดสิ่งที่ไม่สมควร จึงทำแต่ได้เออออและถาม
“หัวหน้าโจรกลุ่มนี้ไม่ใช่คนธรรมดา” พูดแล้วท่านป้าก็มองซ้ายขวา ทำท่าอยากพูดให้มากกว่านี้ แต่ก็ติดว่าจะมีใครมาได้ยินเข้า เมื่อเห็นรอบด้านไม่มีใครสนใจพวกนาง ท่านป้าก็พูดต่อ “พูดไปแล้วก็เหยียบไว้ตรงนี้เลยนะ ข้าได้ยินมาว่าโจรทะเลทรายกลุ่มนี้ แม้แต่ทางการก็ยังไม่กล้าจัดการ หัวหน้าของมันไม่ใช่มนุษย์ธรรมดาด้วยซ้ำ หืม... บางคนล่ำลือว่าคนคนนี้กินเลือดสดๆ แทนน้ำ กินเนื้อหนังของหญิงสาวเป็นอาหาร อี๋... ข้าไม่พูดแล้ว ขนลุก!”
“จริงหรือท่านป้า”
ไป๋หลันมีสายตาที่แสดงออกว่าสนใจ
“หากเจ้าไม่เชื่อที่ข้าพูดก็ลองไปหาข่าวที่เมืองหู่ต้าและเมืองเหอเถียนดูสิ ทั้งสองเมืองนั้นก็ถูกโจรกลุ่มเดียวกันนี้รุกราน เห็นว่าหญิงสาวหายไปรายวันเชียวนะ” ท่านป้ามองนางตั้งแต่หัวจรดเท้า “แต่เจ้าก็เถอะ เป็นสาวเป็นนางอย่าไปเลยจะดีกว่า คนต่างถิ่นเยี่ยงเจ้าเป็นสิ่งที่พวกมันชอบนัก”
ไป๋หลันยิ้มอย่างลำบากใจ ความจริงนางมาที่นี่ก็เพื่อสืบเรื่องนี้ หากนางไม่ไปแล้วจะนำข่าวอะไรกลับไปรายงายกับเจ้าสำนักกันล่ะ
คิดอยู่ชั่วครู่ นางก็ประสานมือค้อมศีรษะให้หญิงสูงวัยด้วยท่าทางจอมยุทธ์หญิง
“ขอบคุณท่านป้าที่เป็นห่วงข้าเจ้าค่ะ”
ท่านป้าพยักหน้าหงึกๆ จากนั้นก็เดินเลี่ยงออกไป
ไป๋หลันครุ่นคิดต่อ มีหญิงสาวหายตัวไปหลายรายเชียวหรือ มิหนำซ้ำยังมีข่าวลือว่าพวกมันกินเลือดสดๆ ต่างน้ำหรือกลุ่มโจรพวกนี้จะไม่ธรรมดา หรือว่า... จะเป็นภูตผี
แต่ไม่ว่าจะเป็นภูตผีปีศาจหรือเป็นฝีมือของมนุษย์ นางตั้งมั่นแล้วว่าต้องตามสืบให้สำเร็จ ก็นี่เป็นหน้าที่ของนางนี่!
บทที่ 1 รับคำสั่ง
22/01/2022
บทที่ 2 ภารกิจ
22/01/2022
บทที่ 3 มุ่งหน้าสู่สำนักเสือขาว
22/01/2022
บทที่ 4 ชายผู้นี้ช่างประหลาด
22/01/2022
บทที่ 5 เหมือนจะลืมอะไรบางอย่าง
22/01/2022
บทที่ 6 เจ้าสำนักทัวป๋าอู๋จี้
22/01/2022
บทที่ 7 ข้าไม่ใช่นักพรตหญิง!
22/01/2022
บทที่ 8 เผยพิรุธ
22/01/2022
บทที่ 9 นางคือภรรยาของข้า
22/01/2022
บทที่ 10 ใจตรงกัน
22/01/2022
บทที่ 11 สามีภรรยาทะเลาะกัน
22/01/2022
บทที่ 12 ให้เจ้าเรียกข้าว่าสามี
22/01/2022
บทที่ 13 ถูกลักพาตัว
22/01/2022
บทที่ 14 หอนางโลม!
22/01/2022
บทที่ 15 ความร้อนใจของทัวป๋าอู๋จี้
22/01/2022
บทที่ 16 ฮั่วเกอ
22/01/2022
บทที่ 17 ท่านถอดชุดของข้า
22/01/2022
บทที่ 18 ท่านหมอเจียงไป๋
22/01/2022
บทที่ 19 พาแนะนำตัว
22/01/2022
บทที่ 20 ศิษย์สำนักเต๋าเป็นสิ่งที่ยุ่งยาก
22/01/2022
บทที่ 21 ชื่นชมธรรมชาติ
22/01/2022
บทที่ 22 พบแม่นางจู
22/01/2022
บทที่ 23 คำพูดที่แฝงนัย
22/01/2022
บทที่ 24 จุดชนวนให้ยิ่งเข้าใจผิด
22/01/2022
บทที่ 25 เข้าร่วมประชุม
22/01/2022
บทที่ 26 พายุทราย
22/01/2022
บทที่ 27 พวกเจ้าเหมาะสมกันมาก
22/01/2022
บทที่ 28 ข้าเป็นอะไรไปแล้ว!
22/01/2022
บทที่ 29 หญิงงาม
22/01/2022
บทที่ 30 ความเพลิดเพลินของทัวป๋าอู๋จี้
22/01/2022
บทที่ 31 สถานการณ์ล่อแหลม
22/01/2022
บทที่ 32 ความสงสัยของไป๋หลัน
22/01/2022
บทที่ 33 นายหญิง
22/01/2022
บทที่ 34 เจอฮั่วเกออีกครั้ง
22/01/2022
บทที่ 35 กลับสำนักเสือขาว
23/01/2022
บทที่ 36 ทัวป๋าอู๋จี้อารมณ์ดี
23/01/2022
บทที่ 37 งานแต่งของจูจิน
23/01/2022
บทที่ 38 เลี้ยงส่ง
23/01/2022
บทที่ 39 ไป๋หลันกำลังจะออกเดินทาง
23/01/2022
บทที่ 40 คู่หมั้น
23/01/2022
หนังสืออื่นๆ ของ ManaMi
ข้อมูลเพิ่มเติม