สำหรับทิพย์วารีแล้ว เจ้าชายทาริซ วัฟซาลัม อิสมาอีล อาห์เม็ด อุมัร เปรียบดั่งแผ่นฟ้ากว้างใหญ่ สูงไกลสุดเอื้อมถึง แต่เธอจะทำเช่นไร เมื่อฟ้าที่คิดว่าสูงสุดเอื้อม อยากหลอมรวมดวงใจให้แผ่นฟ้าจรดผืนน้ำ...ตลอดไป ------------------ “คนเราถ้าลองได้รักใครสักคน เวลามันไม่สำคัญไปกว่าเรารู้ว่าใจของเราคิดและรู้สึกอย่างไรหรอก...รักก็คือรัก แค่ได้มองสบตา เราก็รู้แล้วว่าใช่ และเราก็ไม่ควรถามหาเหตุผลกับความรักด้วย เพราะเมื่อไหร่ที่เราถามหานั่นหมายความว่าใจของเราเริ่มไม่มั่นคง และเราก็จะไม่มีทางได้คำตอบจากมัน เพราะเราจะคอยหาเหตุผลนั่นนี่มาเข้าข้างตัวเองจนลืมฟังเสียงของหัวใจ...สำหรับเราสองคน ถึงเราเพิ่งรู้จักกัน แต่ผมก็อยากให้น้ำเชื่อใจผม ว่าผมจะไม่เปลี่ยนใจไปจากน้ำแน่ เพราะผมถูกสอนมาตลอดชีวิตว่าเมื่อไหร่ที่ผมเอ่ยคำพูดใดออกไป นั่นหมายความว่ามันจะต้องเป็นไปตามนั้น เพราะฉะนั้นถ้าผมไม่มั่นใจผมจะไม่พูดเด็ดขาด....ผมบอกว่าจะรอ จะให้โอกาสน้ำก็จริง แต่ผมก็จะไม่อยู่เฉย ถ้าหากว่ามีคนอื่นเข้ามาในชีวิตของน้ำ แล้วเวลาไม่กี่วันที่น้ำว่า ผมก็ได้แสดงตัวตนที่แท้จริง และเปิดเผยทุกอย่างกับน้ำจนหมดเปลือก....ถึงตอนนี้ ก็อยู่ที่น้ำแล้ว ว่าจะกล้าวางชีวิตและหัวใจให้ผมดูแลหรือเปล่า” “...ช่วยกอดหน่อยสิคะ” “หือ?”
ปัง!
แว่วเสียงปืนดัง แม้เพียงนัดเดียว หากรอบบริเวณเต็มไปด้วยความเงียบสงัด ก็ทำให้เรือยางลำเล็กที่กำลังลอยตัวอยู่บนผืนน้ำขณะล่องสำรวจอยู่รอบๆ เกาะหยุดชะงักทันที ในขณะที่เรือเร็วอีกลำกำลังพุ่งตัวออกไปกลางทะเลด้วยความเร็ว ท่ามกลางแสงโรยราของดวงอาทิตย์ที่กำลังจะลาลับขอบฟ้า
เป็นที่รู้กันของคนในพื้นที่ว่าเกาะแห่งนี้ยังไม่เปิดให้นักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมธรรมชาติแสนงดงามของที่นี่ เพราะฉะนั้นคนที่มาที่นี่ก็คือชาวบ้านหรือว่าคนในพื้นที่เท่านั้น
แต่ถึงธรรมชาติจะเสกสรรปั้นแต่งออกมางดงามสักเพียงใด หากความสวยงามเพียงอย่างเดียว มันไม่ได้ช่วยให้ท้องอิ่มได้ ดังนั้นชาวบ้านหรือว่าคนส่วนใหญ่ที่ต่างต้องทำมาหากินเลี้ยงปากเลี้ยงท้องจึงพากันไปกระจุกตัวอยู่ตามหมู่เกาะต่างๆ ที่มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศเสียเป็นส่วนมาก
เรือยางลำเล็กเบนหัวเรือไปยังเกาะที่ตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางผืนน้ำโอบล้อมทันทีเมื่อสำนึกได้ถึงความไม่ชอบมาพากล...
เด็กสาวขับเรือพุ่งไปยังทิศทางของเสียงที่ได้ยินเมื่อสักครู่...
แสงตะวันที่กำลังจะลาลับขอบฟ้าไปพร้อมๆ กับอาทิตย์ดวงโตค่อยๆ จมหายไปในท้องทะเลกว้างทำให้เด็กสาวต้องเร่งสปีดความเร็วขึ้นอีกเท่าตัว
แล้วเธอก็ได้เห็นจริงๆ เมื่อขับเรืออ้อมมาอีกฟากของเกาะ....
มีคนนอนฟุบอยู่บนหาดทรายสีขาวละเอียด
เห็นคนได้รับบาดเจ็บอยู่ตรงหน้า ทิพย์วารีก็แทบไม่เสียเวลาคิดหน้าคิดหลัง ไม่แม้แต่จะฉุกใจคิดว่าอีกฝ่ายอาจจะเป็นคนร้ายหรือพวกลักลอบเข้าเมือง ซึ่งล้วนแต่เป็นไปได้ทั้งนั้นในพื้นที่แห่งนี้ แต่ตอนนี้ดูเหมือนวิญญาณของลูกน้ำเค็มที่มีใจเอื้อเฟื้อและไม่นิ่งดูดายกับคนที่ประสบความเดือดร้อนจะเอาชนะทุกสิ่ง จนลืมคำนึงถึงความปลอดภัยของตัวเองไปจนหมดสิ้น
ร่างเล็กกระโดดลงจากเรือทันทีหลังจัดการกับเรือของตัวเองเรียบร้อย
“คุณ..คุณ”
เด็กสาวลองเรียกคนเจ็บ แต่ไม่มีเสียงหรือปฏิกิริยาใดๆ ตอบรับกลับมาทั้งสิ้น ทิพย์วารีก็เลยตัดสินใจพลิกร่างใหญ่โตที่มีเพียงกางเกงขาสั้นสวมอยู่ เปิดเปลือยกายท่อนบนให้เธอได้เห็นเลือดแดงฉานจากบาดแผลที่ถูกยิงมากยิ่งขึ้น
เขาถูกยิงที่หัวไหล่ หากเลือดที่ไหลทะลักออกมาเป็นทางอาบเนื้อตัวทำให้เด็กสาวรีบยกหลังมือขึ้นอังกับจมูกโด่งสวยของคนเจ็บ มืออีกข้างจับชีพจรตรงข้อมือ...
เด็กสาวเป่าลมหายใจออกมาด้วยความโล่งอกเมื่อรู้ว่าเขายังไม่ตาย
“คุณ..คุณ”
จากภาษาไทยในตอนแรกถูกเปลี่ยนมาเป็นภาษาอังกฤษเมื่อเห็นชัดแล้วว่าหนุ่มตรงหน้าเป็นชาวต่างชาติแน่ๆ
แม้จะตกอยู่ในสถานการณ์คับขัน แต่ด้วยหน้าตาและรูปร่างของคนนอนหมดสติอยู่บนผืนทรายก็ทำให้หยุดพิจารณามองไม่ได้
ตั้งแต่เด็กจนโต ชีวิตของเธอคลุกคลีอยู่กับผู้คนมากมายไม่ว่าจะเป็นชาวไทยหรือชาวต่างชาติ...หลายชาติหลายภาษาที่แวะเวียนมาเที่ยวยังหมู่เกาะและท้องทะเลแถบนี้ แต่เธอก็ไม่เคยเห็นว่าใครจะมีรูปร่างหน้าตาชวนสะดุดตาผู้คนเท่าเขา...
รวมทั้งเธอด้วย
ผู้ชายตรงหน้าอายุไม่น่าจะเกินสามสิบปี...
ผมของเขาเปียกลู่แทบหาทรงไม่ได้ แต่สีดำของมันก็ส่งให้ใบหน้าหล่อเหลาคมเข้มเด่นสะดุดตาขึ้นอีกหลายเท่าตัวทีเดียว ในขณะที่ปาก จมูก คิ้ว คาง ดูรับกันไปหมด ยิ่งเขามีผิวที่ขาวละเอียดลออไปทั้งเนื้อทั้งตัวแบบนี้ ผิวเขาสวยเสียจนทำให้เธออดมองมาที่ตัวเองไม่ได้...
ผิวคล้ำจากแดดลมที่หลายคนเคยบอกว่าชอบ และอยากจะมีผิวสีน้ำผึ้งแบบเธอบ้าง แต่เธอกลับไม่ชอบมันสักนิด
เธออยากตัวขาวเหมือนผู้ชายคนนี้...
ผิวของเขาเรียกว่าขาวใสอมชมพูเลยก็ว่าได้ ขาวไปทั้งหน้าตาเนื้อตัว เวลาได้มองแบบนี้ มันให้ความรู้สึกเหมือนเวลามองเจ้าชายยังไงอย่างนั้น
‘ผู้ชายผิวบาง’
สำหรับหนุ่มตรงหน้าต้องให้นิยามนี้เลย และหน้าตาแบบนี้ รูปร่างแบบนี้ ทำให้เธอนึกไปทางอื่นไม่ได้เลย
‘เจ้าชาย’
เขาเหมือนเจ้าชายจริงๆ นั่นแหละ แต่ว่าเจ้าชายที่ไหนจะเดินทางมาคนเดียวตามลำพัง เพราะเวลาเธอเห็นบรรดาเจ้าชายเจ้าหญิงเสด็จทีก็มักจะมีองครักษ์เป็นสิบเป็นร้อยคอยติดสอยห้อยตามอารักขาความปลอดภัยอยู่ตลอดเวลา ไม่มีทางถูกปล่อยให้ไปไหนมาไหนคนเดียว แล้วตกเป็นเป้าล่อปืนแบบหนุ่มหล่อคนนี้หรอก
ทิพย์วารีหันไปมองเรือยางลำเล็กของตัวเองที่ลอยอยู่ห่างจากฝั่งพอสมควร แล้วก็หันกลับมามองคนเจ็บตรงหน้าที่ยังคงนอนหายใจรวยรินไม่ได้สติ
ตัวเขาใหญ่ขนาดนี้ไม่มีทางที่เธอจะแบกเขาไปใส่เรือยางของเธอได้แน่นอน...
อย่าว่าแต่พาขึ้นไปบนเรือเลย แค่เธอลากเขาพ้นจากพื้นทราย เธอก็คงไม่แคล้วปล่อยให้เขาจมดิ่งไปนอนนิ่งอยู่ที่ก้นทะเลอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะเขาไม่ได้สติแบบนี้ แรงของเธอไม่พอรับน้ำหนักของเขาเอาไว้ได้แน่ๆ
ก่อนจะมาที่นี่ เธอบอกกับพลรบว่าจะมาแวะที่เกาะแห่งนี้ จากนั้นก็จะขอติดเรือเพื่อนบ้านที่มาส่งนักท่องเที่ยวกลับเข้าฝั่งเลย เพราะฉะนั้นจะหวังให้มีคนมาช่วยหรือว่ามาตามหาตัวเธอนั้น ตัดทิ้งไปได้เลย
ปัญหาของเธอตอนนี้คือหนุ่มตรงหน้า เธอจะเอายังไงกับเขา เพราะเรื่องจะปล่อยเขาทิ้งไว้แบบนี้ ให้นอนรอความตาย หรือไม่ก็ปล่อยให้คลื่นซัดหอบเอาร่างสมบูรณ์แบบนี้ลงไปในทะเล ล้วนไม่อยู่ในความคิดของเธอทั้งสิ้น
ทางเดียวที่จะหยุดเลือดที่กำลังไหลทะลัก ก่อนที่มันจะหมดจากตัวเขานั่นก็คือ เธอจะต้องเอาตัวเขาขึ้นไปไว้ที่เกาะให้ได้จากนั้นก็ค่อยหาสมุนไพรมาใส่แผลให้เขา ก่อนที่ความมืดจะปกคลุมแล้วเธอไม่สามารถมองเห็นและแยกแยะออกว่าต้นอะไรเป็นต้นอะไร แล้วเอาอะไรก็ไม่รู้มาใส่แผลให้เขา
แต่ปัญหาคือ เธอจะแบกร่างใหญ่ยักษ์นี้ไปยังไง
บทที่ 1 เขาเป็นใคร
28/01/2022
บทที่ 2 ช่วยเหลือ
28/01/2022
บทที่ 3 ติดเกาะ
28/01/2022
บทที่ 4 เด็กสาวผู้มีพระคุณ
28/01/2022
บทที่ 5 เพ้อ
28/01/2022
บทที่ 6 ผมหนาว
28/01/2022
บทที่ 7 ฉันใส่ให้ก็ได้
28/01/2022
บทที่ 8 หนาวเนื้อห่มเนื้อจึงหายหนาว
28/01/2022
บทที่ 9 แหวนแทนคุณ
28/01/2022
บทที่ 10 ฉันไม่อยากดูนายแก้ผ้า
28/01/2022
บทที่ 11 เจ้าชายกับเด็กขับเรือ
28/01/2022
บทที่ 12 ยิ้มพิมพ์ใจ
28/01/2022
บทที่ 13 นี่น่ะหรือเจ้าชาย
28/01/2022
บทที่ 14 จับจอง
28/01/2022
บทที่ 15 แหวนดื้อด้าน
28/01/2022
บทที่ 16 ผมชอบน้ำ
28/01/2022
หนังสืออื่นๆ ของ ขวัญปัฐน์-ป.ศิลา
ข้อมูลเพิ่มเติม