ตอนเธออยู่ทำร้ายจิตใจต่างๆ นานา ตอนเธอจากไป...เขาเหมือนคนกำลังจะตาย เขาเห็นเธอเป็นเพียงดอกไม้ริมทางที่จะเด็ดมาดอมดมเมื่อไหร่ก็ได้ และเหยียบย่ำน้ำใจเธออย่างแสนสาหัส ทำให้เธอเจ็บปวดกับคำว่า “เมียลับ” แต่ความทุกข์ทรมานที่ได้รับแลกกับความสุขของมารดา...พวงชมพูยอม ……………… “ได้ข่าวมาว่า ตอนที่ฉันไม่อยู่ เธอไปแรดกับผู้ชายคนอื่นใช่ไหม” คนถูกถามตัวสั่น ไม่กล้าสบตาร้อนแรงของปราณปวิชที่แทบจะประหารเธอทางสายตา “ฉันถามไม่ได้ยินหรือไง ตอบมา” พวงชมพูสะดุ้งสุดตัว ตัวเนื้อสั่นไปหมด ปากแข็งขึ้นมาราวกับถูกหินถ่วง “ฉันถามไม่ได้ยินหรือไง ฮะ” คราวนี้เสียงเขาตะเบ็งจนเธอสะดุ้ง ใบหน้าอาบไปด้วยความตกใจและหวาดกลัวเมื่อเห็นสีหน้าเขาตอนนี้ “ชม...ชมไปบ้านพี่ทัชมาค่ะ แต่เราไม่ได้มีอะไรกันอย่างที่คุณปราบเข้า...ว้าย!” มือใหญ่จับท่อนแขนเล็กไว้แน่น ก่อนเหวี่ยงร่างงามไปบนที่นอน “ฉันเคยบอกเธอแล้วใช่ไหมว่า ตราบใดที่เธอเป็นนางบำเรอของฉัน เธออย่าริอ่านไปร่านกับผู้ชายคนอื่น ในเมื่อไม่ฟัง เธอก็ต้องได้รับบทเรียน” ม่านตาพวงชมพูขยายกว้าง เมื่อเขาหยิบบางอย่างออกมาจากกระเป๋ากางเกง “ไม่ค่ะ ไม่เอา ไม่เอาแบบนี้” พวงชมพูพูดเสียงสั่น กระเถิบตัวหนีเสือร้ายขี้โมโหที่พร้อมขย้ำตนให้ตายคาเตียง ทั้งที่รู้ว่า ไม่อาจหนีรอดจากเงื้อมมือเขาได้ “อยากเจ็บตัวเอง ช่วยไม่ได้” เขาคำรามเสียงเข้ม แววตาจ้องมองพวงชมพูประหนึ่งสัตว์ร้ายจ้องมองเหยื่อ ก้าวสามขุมไปหากวางน้อยที่กำลังหาทางเอาตัวรอด
งานการกุศลถูกจัดขึ้นภายในโรงแรมหรูกลางเมืองโดยสมาคมคุณหญิงลัดดา ในความดูแลของคุณหญิงนารถลดาผู้เป็นลูก งานครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อมอบทุนการศึกษาให้เด็กนักเรียนในโรงเรียนที่อยู่ในโครงการของสมาคมที่มีอยู่ด้วยกันสิบสองโรงเรียน
รูปแบบของการจัดงานเป็นงานประมูลของโบราณของคุณหญิงลัดดากับสามีที่สะสมมานานกว่าห้าสิบปีที่มีมากกว่าหนึ่งร้อยห้าสิบชิ้น คุณหญิงนารถลดาคิดว่า หากเก็บไว้เฉยๆ ก็ไร้ประโยชน์ จึงนำออกมาประมูลสามสิบชิ้น เพื่อนำรายได้ทั้งหมดโดยไม่หักค่าใช้จ่ายนำไปช่วยเหลือเด็กผู้ยากไร้และขาดแคลนทุนทรัพย์ในการเรียน นอกจากงานประมูลของโบราณ ยังมีการแสดงของเด็กนักเรียนที่ได้รับทุนการศึกษาจากห้าโรงเรียนในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล
ก่อนการแสดงจะเริ่มขึ้นในอีกครึ่งชั่วโมง ห้องสำหรับให้นักเรียนเตรียมความพร้อมในการแสดงที่อยู่ไม่ห่างกับห้องจัดงานก็กำลังวุ่นวายพอสมควร เนื่องจากมีสองโรงเรียนนำเด็กอนุบาลสองและสามมาทำการแสดง เด็กจอมซนพากันวิ่งเล่น ชนนั่นชนนี่จนข้าวของตกหล่นสู่พื้น ครูกับผู้ปกครองเด็กต้องพากันเก็บและปรามเด็กไม่ให้ดื้อไม่ให้ซน ซึ่งมันก็ยากสำหรับเด็กวัยนี้ ส่วนอีกสามโรงเรียนนำเด็กชั้นประถมศึกษาปีที่หนึ่งและสองมาทำการแสดง เด็กในวัยนี้แม้ว่าจะซนแต่มีความเชื่อฟังมากกว่าชั้นอนุบาล
หนึ่งในเด็กชั้นประถมศึกษาปีที่หนึ่งจากโรงเรียนวัดไผ่วัวนามว่า เพชรกล้าหรือน้องเพชร ผู้มีใบหน้าหล่อตั้งแต่ ผิวพรรณดีราวกับเป็นลูกผู้รากมากดี ใครเห็นก็ทักว่า เป็นลูกคนมีเงิน แต่แท้จริงแล้วเพชรกล้าเป็นลูกชายของผู้หญิงธรรมดา ที่ปากกัดตีนถีบหาเงินตัวเป็นเกลียวเพื่อเลี้ยงลูกและมารดา รวมถึงตัวเธอเองด้วย เด็กชายมองไปยังประตูห้องแต่งตัวตลอดเวลา ราวกับว่ารอใครบางคนอยู่
“แม่ยังไม่มาเลยน้านก แม่จะมาไหมฮะ” เพชรกล้าถามรัชนีกร เพื่อนสนิทพวงชมพู มารดาแสนสวยของตน และยังเป็นพี่เลี้ยงจำเป็นของผู้พูด “แม่บอกว่าจะมา ยังไม่เห็นมาเลย”
การแสดงในวันนี้เป็นการแสดงนอกโรงเรียนครั้งแรกของเพชรกล้า เด็กชายประหม่าและตื่นเต้น อยากได้กำลังใจจากมารดามากที่สุด ทว่าจนป่านนี้ยังไร้วี่แววพวงชมพู เพชรกล้ากลัวว่า มารดาจะผิดคำสัญญา
“มาสิครับ แม่ชมโทรมาบอกน้าเมื่อกี้ว่า ใกล้ถึงแล้ว ยังไงแม่ชมมาทันแน่นอนครับ” รัชนีกรตอบให้หลานชายคลายความกังวล
“จริงนะฮะ” เพชรกล้าถามย้ำ
“จริงสิครับ แม่ชมเคยโกหกหรือผิดสัญญาเพชรไหมครับ แม่ชมมาล้านเปอร์เซ็นต์ครับ” รัชนีกรตอบย้ำ เพชรกล้ายิ้มออกมาได้
“น้านก ผมอยากเข้าห้องน้ำ ปวดฉี่”
“ไปครับน้าพาไป แต่ต้องไปบอกครูปิ่นก่อนนะครับ”
เพชรกล้าพยักหน้ารับรู้ รัชนีกรเดินไปบอกครูนงเยาว์ แล้วเสร็จจึงพาเพชรกล้าไปเข้าห้องน้ำที่อยู่ไม่ไกลจากห้องแต่งตัว
น้าหลานแยกกันเข้าห้องน้ำ แล้วตกลงกันว่าใครทำธุระเสร็จก่อนให้มารอด้านนอก บังเอิญว่ารัชนีกรเกิดปวดท้องหนักขึ้นมาจึงเข้าห้องน้ำนานกว่าเพชรกล้าที่ออกมายืนรอตรงจุดที่รัชนีกรบอก ทว่าความเป็นเด็กยืนรอนานก็เกิดอาการเบื่อ และในขณะนั้นก็มีคนใส่ชุดมาสคอตรูปสัตว์และตัวการ์ตูนที่กำลังเดินไปยังงานเลี้ยงอีกห้องหนึ่งเดินผ่านมา เพชรกล้ารีบก้าวเท้าวิ่งไปดูทันที ความรีบร้อนอยากดูมาสคอตและไม่ทันระวัง จังหวะที่กำลังวิ่งเลี้ยวไปทางด้านขวา เพชรกล้าชนกับชายคนหนึ่งที่กำลังเดินเลี้ยวซ้ายเพื่อเข้าห้องน้ำ ร่างเล็กกระเด็นลงไปนั่งวัดพื้น ชายร่างสูงใหญ่ตกใจรีบย่อตัวดูอาการเด็กชายที่ตนชน
“เป็นยังไงบ้างครับ เจ็บตรงไหนหรือเปล่า ลุงขอโทษนะครับ ลุงไม่ทันระวัง”
ปราณปวิชลูกชายคุณหญิงนารถลดา เจ้าของงานการกุศลที่เพชรกล้าต้องขึ้นแสดงบนเวทีเอ่ยขอโทษและถามด้วยความเป็นห่วง เพชรกล้าเงยหน้ามองคนถาม
นัยน์ตาปราณปวิชนิ่งค้างยามสบสายตาอันบริสุทธิ์ของเด็กชายแปลกหน้า ที่คล้ายกับว่าเขากำลังส่องกระจกมองดูตัวเองในเยาว์วัย อีกทั้งนัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มคู่นั้นเหมือนมีพลังดึงดูดให้เขาไม่อยากเคลื่อนสายตาจากใบหน้าเด็กชาย เพียงแค่ไม่กี่วินาทีที่ได้สบตา ปราณปวิชรู้สึกผูกพันกับเด็กคนนี้ขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก เขาแปลกใจมากที่รู้สึกเช่นนี้ ตอบตัวเองไม่ได้ว่าเป็นเพราะเหตุใด
“ไม่เป็นไรฮะ ผมไม่เจ็บฮะ”
เพชรกล้าตอบขณะที่ปราณปวิชประคองให้ลุกขึ้นยืน ยังไม่ทันที่ปราณปวิชจะพูดคำใด เสียงของรัชนีกรได้ดังขึ้นแล้วรีบเดินแกมวิ่งมาหาหลานชาย
“เพชรกล้า” ปราณปวิชมองต้นเสียงที่คิดว่าเป็นแม่ของเด็กชาย “เกิดอะไรขึ้นครับ”
รัชนีกรรีบดึงตัวหลานชายให้มายืนข้างตน แต่แล้วเธอก็ต้องอึ้งไปเล็กน้อยเมื่อเห็นหน้าชายหนุ่มตรงหน้าแบบเต็มตา ก่อนหลุบตามองหน้าเพชรกล้า สองคนนี้หน้าตาละม้ายคล้ายกันมากเหมือนเป็นเครือญาติกัน แต่คงไม่ใช่เพราะพวงชมพูเคยบอกว่า พ่อบังเกิดเกล้าของเพชรกล้าไม่มีญาติพี่น้อง เป็นลูกที่ถูกทิ้งให้เติบโตอยู่ในสถานเด็กกำพร้า และที่สำคัญเขาได้ตายจากโลกนี้ไปแล้ว รัชนีกรคิดว่าคงเป็นคนหน้าเหมือนที่เหมือนกันได้แม้ว่าไม่ใช่ญาติพี่น้อง
“ผมเดินชนลูกชายคุณน่ะครับ ผมขอโทษนะครับ”
ปราณปวิชกล่าวอย่างสุภาพ
“เพชรกล้าไม่ใช่ลูกของฉันค่ะ ฉันเป็นเพื่อนแม่ของเพชรกล้า” รัชนีกรบอกให้เขาเข้าใจ “เพชรครับ แม่มาแล้วนะลูก เรารีบกลับไปที่ห้องแต่งตัวดีกว่านะ จะได้ไปเตรียมตัวขึ้นแสดง”
“ฮะ ไปหาแม่กันฮะ” สีหน้าเพชรกล้าดีใจที่มารดามาทันตามสัญญา “ผมไปก่อนนะฮะคุณลุง”
“เพชรแสดงในงานการกุศลของสมาคมคุณหญิงลัดดาใช่ไหมครับ” ปราณปวิชถาม
“ใช่ค่ะ เพชรได้รับทุนน่ะค่ะ และเป็นตัวแทนโรงเรียนมาแสดงในงานวันนี้ค่ะ” คนที่ตอบคือรัชนีกร “ฉันกับเพชรขอตัวก่อนนะคะ ใกล้ถึงเวลาแสดงแล้ว”
ปราณปวิชไม่ได้พูดโต้ตอบ เขาส่งยิ้มให้น้าหลานที่เดินจูงมือกันไปยังห้องจัดเลี้ยง ขณะที่เพชรกล้าเดินตามรัชนีกร เด็กชายได้หันมามองหน้าปราณปวิชที่ยังคงยืนอยู่ที่เดิมและมองไปยังสองน้าหลาน ทั้งสองจึงมองสบตากันแล้วยิ้มให้กัน
บนเวทีมีการแสดงของตัวแทนเด็กนักเรียนที่ได้รับทุนการศึกษา ผลัดเปลี่ยนมาสร้างความสุขและรอยยิ้มให้กับคนที่มาร่วมงาน โดยเฉพาะกับปราณปวิชที่เฝ้ารอคอยดูการแสดงของเด็กชายที่เขาเดินชนตรงทางเข้าห้องน้ำแบบใจจดใจจ่อ ซึ่งปกติแล้วเขาจะเฉยๆ กับการแสดงเหล่านี้ที่นั่งดูตามมารยาท ไม่ได้ยินดียินร้ายอะไร ทว่าครั้งนี้ไม่ใช่ เขาตั้งตารอเลยก็ว่าได้ ปราณปวิชอดแปลกใจไม่ได้ว่า เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้
เมื่อถึงคิวโรงเรียนวัดไผ่วัวนักเรียนจำนวนเก้าคนขึ้นมาแสดงบนเวที ปราณปวิชที่นั่งอยู่โต๊ะแถวหน้าสุดยิ้มกว้างและโบกมือให้เพชรกล้าที่ยืนอยู่แถวหน้า เพชรกล้าเห็นปราณปวิชจึงยิ้มให้และแสดงตามที่ฝึกซ้อมไว้
“เด็กผู้ชายที่อยู่แถวหน้าสุดหน้าตาเหมือนปราบตอนเด็กๆ เลยนะ” ปริญญาพูดกับภรรยาที่หันไปมองเด็กชายคนดังกล่าวตามสามมีบอก
บทที่ 1 1
20/02/2022
บทที่ 2 2
20/02/2022
บทที่ 3 3
20/02/2022
บทที่ 4 4
20/02/2022
บทที่ 5 5
20/02/2022
บทที่ 6 6
20/02/2022
บทที่ 7 7
20/02/2022
บทที่ 8 8
20/02/2022
บทที่ 9 9
20/02/2022
บทที่ 10 10
20/02/2022
บทที่ 11 11
23/02/2022
บทที่ 12 12
23/02/2022
บทที่ 13 13
23/02/2022
บทที่ 14 14
23/02/2022
บทที่ 15 15
23/02/2022
บทที่ 16 16
23/02/2022
บทที่ 17 17
23/02/2022
บทที่ 18 18
23/02/2022
บทที่ 19 19
23/02/2022
บทที่ 20 20
23/02/2022
บทที่ 21 21
23/02/2022
บทที่ 22 22
23/02/2022
บทที่ 23 23
23/02/2022
บทที่ 24 24
23/02/2022
บทที่ 25 25
23/02/2022
บทที่ 26 26
23/02/2022
บทที่ 27 27
23/02/2022
บทที่ 28 28
23/02/2022
บทที่ 29 29
23/02/2022
บทที่ 30 30
23/02/2022
บทที่ 31 31
23/02/2022
บทที่ 32 32
23/02/2022
บทที่ 33 33
23/02/2022
บทที่ 34 34
23/02/2022
บทที่ 35 35
23/02/2022
บทที่ 36 36
23/02/2022
บทที่ 37 37
23/02/2022
บทที่ 38 38
23/02/2022
บทที่ 39 39
23/02/2022
บทที่ 40 40
23/02/2022
หนังสืออื่นๆ ของ อัญญาณี
ข้อมูลเพิ่มเติม