Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
อ้อมสิเน่หาจอมบาป

อ้อมสิเน่หาจอมบาป

มาชาวีร์

5.0
ความคิดเห็น
58.9K
ชม
54
บท

“ฉันดูแลเธอดีขนาดนี้ แต่เธอมันเลี้ยงไม่เชื่องบีจี!” ถุงใส่ยาบำรุงครรภ์ลอยละลิ่วผ่านหน้าของหญิงสาวที่กำลังนั่งร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่บนโซฟาไปกองอยู่บนพื้นห้อง “บอกมาไอ้ผู้ชายคนนั้นมันเป็นใคร” แอลถึงกับสติขาดสะบั้นกับเรื่องที่ได้รับรู้มา รับไม่ได้ที่มินจันทร์ตั้งท้องได้สี่สัปดาห์ นั่นหมายความว่าก่อนที่จะมาอยู่กับเขาหญิงสาวต้องเคยมีความสัมพันธ์กับชายอื่นมาก่อน แอลไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงได้รู้สึกโกรธมากมายขนาดนี้ “ฉันไม่รู้” คนใจเสียส่ายหน้าไปมาทั้งน้ำตา เธอจะไปรู้ได้อย่างไรว่าไอ้ผู้ชายในค่ำคืนนั้นเป็นใครในเมื่อไม่ได้เห็นหน้าค่าตากันแบบชัดเจน “ร่านขนาดนี้ยังกล้ามาทำตัวไร้เดียงสาใสซื่อกับฉันอีกนะบีจี ทั้งที่ข้างในเน่าเฟะไปถึงไหนต่อไหนแล้ว” (อ้อมสิเน่หาจอมบาป)

บทที่ 1 ตอนที่ : 1 พรหมจรรย์สีขาว

1

พรหมจรรย์สีขาว

บุรุษผู้มีใบหน้าเคร่งขรึมค่อยๆ เอนแผ่นหลังหนาลงพิงเก้าอี้ทำงานตัวโปรด ขาแกร่งด้านซ้ายยกขึ้นพาดบนท่อนขาอีกข้างในท่าไขว่ห้าง แขนทั้งสองยกขึ้นกอดอกด้วยท่าทีสบายใจ ตรงกันข้ามกับสายตาคู่คมที่มันถ่ายทอดความรู้สึกออกมาอีกอย่าง เมื่อมันมองตรงไปยังคนบนพื้นห้องด้วยสายตาเอาเรื่อง แอล คอร์เทส จ้องมองคนที่กำลังถูกลูกน้องของเขารุมสกรัมอยู่ด้วยสายตาว่างเปล่า เจ้าพ่อสถานบันเทิงยักษ์ใหญ่วัยสามสิบห้าปีแห่งลาสเวกัส กำลังรู้สึกเหมือนถูกลูกแมวตัวน้อยๆ กระตุกหนวดเข้าให้ สาเหตุมาจากชายหนุ่มเอเชียตรงหน้าที่หาญกล้าโกงค่าบริการสาวๆ ของเขาในค่ำคืนนี้

“ไม่มีเงินยังกล้ามาเที่ยว” ถ้อยคำภาษาอังกฤษถูกเอ่ยออกมาจากริมฝีปากหนาของคนที่นั่งหน้าตึงอยู่บนเก้าอี้ ทำให้คนที่แทบจะหมอบราบอยู่บนพื้นบนใบหน้าเต็มไปด้วยร่องรอยของการถูกทำร้าย ฝืนเงยขึ้นมองหน้าคนพูดอย่างช้าๆ ความผิดพลาดของเขาในครั้งนี้เกิดจากการผิดหวังอย่างรุนแรง เมื่อแฟนสาวประกาศตัดความสัมพันธ์อย่างไม่ทันได้ตั้งตัว ทำให้ชายหนุ่มคนหนึ่งถึงกับผิดหวังเข้าขั้นเสียศูนย์ จนทำให้ก้าวเท้าเข้ามายังสถานที่แห่งนี้ กระทั่งเรียกใช้บริการสาวๆ ของที่นี่ถึงสามคนเพื่อประชดความผิดหวังในชีวิต ความสุขของเขามันพังครืนลงเมื่อถึงเวลาเรียกเช็กบิล และยอดของมันก็แพงลิบลิ่วจนไม่มีปัญญาจะหามาจ่ายได้

“ฉันถาม” เจ้าของดวงตาสีนิลจ้องเขม็งไปยังคนที่อยู่บนพื้น พร้อมกับคำถามที่ฟังดูแล้วคล้ายจะข่มขู่เสียมากกว่า

“ขอผ่อนจ่ายได้ไหม” มุธินทร์พยายามทำใจกล้าต่อรองกับคนตรงหน้า ทั้งที่ความจริงแล้วหวาดกลัวอีกฝ่ายจนน้ำเสียงสั่นเทาไปหมด

“ไม่ได้!” เจ้าของเบลลาเดโอคลับตะคอกสวนกลับในทันควัน ถ้าคนตรงหน้าเมาหรือสติสัมปชัญญะไม่สมบูรณ์ก็พอจะเข้าใจได้บ้าง แต่ว่าผู้ชายคนนี้กลับมีสติรับรู้การกระทำทุกอย่าง ดังนั้นเขาจึงไม่อาจปล่อยปละละเลยเรื่องนี้ไปได้ ร่างสูงทะมึนหยัดกายลุกขึ้นจากเก้าอี้ตรงไปยังคนที่อยู่บนพื้น เขาค่อยๆ ย่อตัวลงนั่งทับบนส้นเท้าของตัวเอง แล้วเคลื่อนใบหน้าอันหล่อเหลาแต่น่าเกรงขามเข้าไปใกล้อีกคน

“ฉันให้เวลายี่สิบสี่ชั่วโมงหาเงินมาให้ได้ ไม่อย่างงั้นก็คงต้องขอหูสักข้างเป็นค่าทำขวัญสาวๆ ของฉันแทน” เสียงมัจจุราชกระซิบดังชัดถ้อยชัดคำ คนได้ฟังถึงกับหลับตาลงแน่นรู้สึกหวาดกลัวต่อคำพูดอันแสนจะโหดร้ายที่ออกมาจากปากของแอล ยี่สิบสี่ชั่วโมงเขาไม่มีปัญญาหาเงินมาคืนได้อย่างแน่นอน

“ผมไม่มีหรอก” มุธินทร์ลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ พร้อมกับสารภาพตามตรง ใครจะคิดว่าอารมณ์ประชดชีวิตเพียงชั่ววูบ จะนำผลร้ายมาสู่ตัวเขาเองได้มากมายถึงเพียงนี้

“ฉันไม่ใจร้ายขนาดนั้นหรอก ถ้ามีอะไรที่มีมูลค่ามาแลกเปลี่ยนก็พอจะอนุโลมได้” เจ้าของเบลลาเดโอคลับยังมีทางเลือกเผื่อให้แก่ลูกค้า มุธินทร์เงยหน้าขึ้นมองเจ้าของสถานบันเทิงแห่งนี้ในทันที ‘มีมูลค่า’ อย่างนั้นเหรอ เขากับน้องสาวมาอยู่ที่ลาสเวกัสได้เพียงหนึ่งเดือนเท่านั้นเอง อะไรที่เป็นของมีค่าหรือมีราคานั้นแทบจะไม่มี ยิ่งตอนนี้ด้วยแล้วพวกเขาก็ยิ่งย่ำแย่ เมื่อร้านอาหารที่เขากับมินจันทร์อุตส่าห์ข้ามน้ำข้ามทะเลมาทำงานตามคำแนะนำของญาติสนิทนั้นเกิดเลิกกิจการ จนทำให้สองพี่น้องต้องลอยแพไม่มีที่ไป เรื่องร้ายวิ่งมาซ้ำเติมเมื่อแฟนสาวของเขาที่คบหากันมานาน โทรศัพท์ทางไกลมาบอกเลิกอย่างกะทันหันและกำลังจะแต่งงานในไม่กี่วันข้างหน้า นั่นเป็นสาเหตุของการประชดชีวิตที่แสนจะบัดซบในตอนนี้

“ผมไม่มี” น้ำเสียงแห้งแล้งเอ่ยออกมาได้เพียงเท่านั้น ทั้งหมัดและฝ่าเท้าก็ระดมใส่เต็มร่างของเขาจนต้องทรุดฮวบไปอยู่บนพื้นอีกรอบหนึ่ง ส่วนคนร่างสูงนั้นค่อยๆ ยืดลำตัวลุกขึ้นจนเต็มความสูงเกือบสองเมตรของตัวเอง ก่อนจะหันไปมองหน้าของลูกน้องคนหนึ่งที่ยืนอยู่ด้านข้าง

“เอามีดมาตัดหูของมัน” วาจาเย็นเยือกดังขึ้นเป็นผลให้มุธินทร์ถึงกับกลัวจนตัวสั่น เขารีบนำพาร่างกายอันแสนจะสะบักสะบอมคลานเข้าไปใกล้คนที่ยืนเด่นเป็นสง่าอยู่กลางห้อง

“อย่าทำอย่างนั้นเลยนะครับ ผมไม่มีจริงๆ” คำอ้อนวอนไม่ได้กระทบความรู้สึกของแอลแม้แต่น้อย เขาหันไปพยักหน้าให้คนของตัวเองจัดการตามคำสั่งได้ คนเป็นลูกน้องดึงมีดสั้นออกมาจากซองรองเท้าบูต เพียงแค่คมมีดแวววับปรากฏอยู่ตรงหน้า มุธินทร์ถึงกับใจหายวาบลนลานสั่นกลัวไปหมด และทันทีที่มันถูกจ่อลงบนใบหูของเขา ความคิดฝ่ายต่ำก็เข้าครอบงำจิตใจอันอ่อนแอในทันที

“ผมยอมแล้ว! ผมมีของมีค่าอยู่อย่างหนึ่ง” คำพูดที่หลุดออกมาทำให้เจ้าของเบลลาเดโอคลับแห่งนี้ยิ้มเยาะออกมาอย่างถูกใจ การข่มขู่ลูกค้าประเภทนี้มักได้ผลเสมอ

“อะไร?”

“น้องสาวของผมเอง” คนบนพื้นกลั้นใจตอบออกมาอย่างลำบากยากเย็น รอยยิ้มของแอลหุบฉับ! ลงในทันที จากนั้นก็ก้าวตรงเข้าไปหาคนที่ล้มอยู่ที่พื้น ผัวะ! หลังมือซัดเปรี้ยงใส่คนที่นั่งอยู่จนเซถลาไปด้านข้างเลือดไหลออกมากบปาก ด้วยรู้สึกโกรธคนที่กล้าเอาสายเลือดเดียวกันมาชดใช้เรื่องนี้ได้

“อย่าทำผมเลย ผมมีแค่นี้จริงๆ” มุธินทร์ยกมือขึ้นห้ามคนที่ทำท่าจะเข้ามาทำร้ายตัวเองต่อ

“แค่นี้ น้องสาวของนายนี่นะ มันคุ้มค่าตรงไหน ไม่รู้จะผ่านผู้ชายมาแล้วกี่คน” แม้จะโกรธอีกเรื่องแต่เขาก็อดสบประมาทไม่ได้ แอลเห็นมานักต่อนักว่าคนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เข้ามาทำงานที่นี่แต่ละคน ก็คงไม่พ้นอาชีพอย่างว่าหรือไม่ก็เป็นเมียเก็บของใครที่นี่สักคน

“คุ้มนะคุ้มจริงๆ ผมขอยืนยัน” ดวงตาคู่คมสั่นระริกด้วยความกลัว จ้องมองดูคมมีดในมือของลูกน้องแอลด้วยความไม่ไว้วางใจ นาทีนี้ความเป็นพี่ชายคนดีมันหายไปพร้อมๆ กับความหวาดกลัวที่จดจ่ออยู่ตรงหน้า

“คุ้มยังไง” แอลมองสบสายตากับคนจนตรอกหมดหนทางบนพื้น แต่พยายามหาทางเอาตัวรอดไปเรื่อยด้วยสายตาแกมสมเพช

“น้องผมยังบริสุทธิ์อยู่” มุธินทร์บอกเขาด้วยน้ำเสียงขมขื่น จะมีพี่ชายคนไหนในโลกใบนี้ที่กล้าเอาความบริสุทธิ์ของน้องสาวมาต่อรองกับความเป็นความตายของตัวเอง

“ฮะ ฮะ ฮะ ยังบริสุทธิ์” แอลเงยหน้าขึ้นมองเพดานห้องแล้วปล่อยเสียงหัวเราะออกมาดังลั่น ลูกน้องของเขาแต่ละคนหันไปมองหน้ากันด้วยสายตาแห่งความสงสัย ไม่เว้นอีกคนที่นอนกระอักเลือดอยู่บนพื้น แต่ละคนไม่มีใครเดาออกว่าเจ้านายของตัวเองนั้นกำลังคิดอะไรอยู่ และเมื่อหัวเราะจนหนำใจแล้วแอลก็ก้มหน้าลงต่ำ จ้องมองไปยังอีกคนที่อยู่บนพื้นห้อง ตอนแรกก็คิดว่ามันไม่ใช่หนทางที่เขาจะเลือก แต่พอเจอคนโกหกคำโตเข้ากลับทำให้อยากจะพิสูจน์ให้รู้สำนึกเสียแล้ว

“จริงๆ นะครับ” มุธินทร์รู้สึกกลัวสายตาของเขาอย่างบอกไม่ถูก กลัวว่าแอลจะไม่เชื่อแล้วตัวเองอาจจะต้องเสียหูข้างหนึ่งไปจริงๆ

“ถ้าไม่จริง ไม่เพียงแค่หูที่นายจะต้องเสีย แต่อาจหมายรวมถึงแขนขาหรือชีวิตของนายด้วย” เขาข่มขู่คนที่หน้าตาตื่นกลัวอยู่บนพื้นด้วยน้ำเสียงเหี้ยมเกรียม

“บริสุทธิ์จริงๆ ผมไม่ได้โกหก” มุธินทร์รีบบอกเขาอีกรอบด้วยน้ำเสียงแหบเครือ แอลมองหน้าของคนจนตรอกแล้วก็นึกอยากจะพิสูจน์ให้มันรู้แล้วรู้รอดไปว่าจริงหรือเปล่า จะได้จบเรื่องงี่เง่าเต่าตุ่นนี่เสียที

“เดี๋ยวนี้”

“อะไรนะครับ”

“ฉันบอกว่าพาฉันไปหาน้องสาวของนายเดี๋ยวนี้” ดวงตาสีนิลจ้องเขม็งบ่งบอกว่าเขาไม่ยอมให้ใครมาหลอกง่ายๆ เด็ดขาด ชายหนุ่มอีกคนถึงกับกลืนน้ำลายลงคอด้วยความขลาดกลัว ตอนแรกคิดวางแผนไว้ว่าจะเอามินจันทร์มาเป็นแค่ข้ออ้างจากนั้นค่อยพาหลบหนีไปทีหลัง แต่ที่เขานึกไม่ถึงก็คือแอลจะต้องการมินจันทร์ตอนนี้เลย เขาประเมิน แอล คอร์เทส ผิดไปจริงๆ

“ฉันก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าหูของนายจะยังคงอยู่ที่เดิมของมันหรือเปล่า” เสียงทุ้มของแอลดังขึ้น คนฟังถึงกับสะอึก ดวงตาคู่เข้มสื่อให้เขารู้ว่าอย่าได้คิดตุกติกเป็นอันขาด ถูกดักทางเอาไว้แบบนี้มุธินทร์จึงไม่มีทางเลือกอื่นได้อีก นอกจากจะกล้ำกลืนฝืนพาเจ้าพ่อแห่งเบลลาเดโอคลับไปหาน้องสาวของตัวเองที่อะพาร์ตเมนต์

สถานที่เบื้องหน้าทำให้แอลถึงกับต้องผ่อนลมหายใจออกมาอย่างระอาใจ ผู้คนช่างพลุกพล่านแออัดเดินกันขวักไขว่วุ่นวายเต็มไปหมด ไชน่าทาวน์เป็นแหล่งความโกลาหลที่เขาไม่คิดจะย่างกรายเข้ามา ถ้าไม่มีเหตุจำเป็นอันใด

“ไปตามตัวน้องสาวของนายออกมา” เขาสั่งคนที่นั่งอยู่ภายในรถคันเดียวกัน มุธินทร์ถึงกับแสดงสีหน้าเลิ่กลั่กออกมาด้วยความลำบากใจ

“มีอะไร” แอลถามด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยสบอารมณ์ในท่าทางดังกล่าว

“แค่นี้ผมก็รู้สึกเลวเต็มทนแล้ว อย่าให้ผมต้องเป็นคนไปตามเธอออกมาเลย คุณขึ้นไปบนอะพาร์ตเมนต์เองเถอะครับ” คนพูดล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงยีนส์สีเข้ม แล้วดึงพวงกุญแจห้องออกมายื่นให้แก่เขา แอลชักสีหน้าด้วยความไม่พอใจเล็กน้อย แต่ความคิดฝ่ายต่ำบางอย่างก็เข้าครอบงำจนได้ มีอะไรกับสาวเอเชียในไชน่าทาวน์แห่งนี้ ก็คงจะดูตื่นเต้นเร้าใจไปอีกแบบ เขาตัดสินใจเอื้อมมือออกไปคว้ากุญแจบนฝ่ามือของอีกคน

“กลับไปได้แล้ว ฉันโทรตามเมื่อไหร่ค่อยมารับ อีกอย่างดูมันเอาไว้ดีๆ อย่าให้เล่นตุกติกเด็ดขาด” เขาสั่งลูกน้องทั้งสองคน ก่อนจะก้าวลงจากรถคันหรูไป ถ้าน้องสาวของหมอนั่นไม่บริสุทธิ์จริงละก็ งานนี้สนุกแน่ คงได้เห็นคนตายทั้งเป็นก็คราวนี้ เขาก็แค่อยากจะพิสูจน์ว่า มุธินทร์กล้าโกหกเขาจริงหรือเปล่า ถ้ากล้า เขาก็จะได้ตอบแทนให้อย่างสาสมเลยทีเดียว

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ มาชาวีร์

ข้อมูลเพิ่มเติม
บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง

บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง

โรแมนติก

5.0

หลี่เมิ่งเหยาย้อนเวลามาอยู่ในร่าง ของเด็กสาววัยสิบสองปี ในวันที่มารดาอนุผู้โง่เขลา ถูกขับไล่ออกจากจวน โชคยังดีที่ตอนตาย นางสวมกำไลหยกโลกันตร์เอาไว้ มันจึงติดตามนางมาที่นี่ด้วย +++ 1 : มารดาโง่ จนถูกไล่ออกจากตระกูล จวนตระกูลหลี่เจ้าเมืองถัง สตรีสองนางถูกสาวใช้จับคุกเข่าลง ตรงหน้าของหลี่หงซวนเจ้าเมืองถัง ทั้งยังเป็นพ่อสามีของทั้งคู่อีกด้วย ท่านกำลังสอบสวนเรื่องของสะใภ้ใหญ่ของบ้านสาม ถูกฮูหยินรองกับอนุรวมหัวกันลอบทำร้าย ด้วยการวางยาขับเลือดในถ้วยน้ำแกงบำรุงครรภ์ ทำให้นางต้องสูญเสียทารกในครรภ์ไป “ท่านพ่อข้าไม่รู้จริง ๆ ว่านั่นเป็นยาขับเลือด ฮูหยินรองบอกว่าเป็นน้ำแกงบำรุงครรภ์ ให้ข้าเป็นคนนำไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ เป็นนางนั่นเอง นางหลอกข้า !” เฉาซูหลิ่งชี้นิ้วไปทางสตรีด้านข้าง ร้อนรนเอ่ยออกมาเหมือนคนไม่ได้รับความเป็นธรรม “อนุเฉาเจ้าอย่ามาใส่ร้ายข้านะ เจ้าทำคนเดียวทั้งนั้นไม่เกี่ยวกับข้าเลย” ฮูหยินรอง ถูซวงอี้ ชี้นิ้วใส่หน้าเฉาซูหลิ่งกลับคืน ต่างคนต่างโยนความผิดให้กัน ฮูหยินผู้เฒ่าหลิวเยี่ยนหนานโบกมือให้คนเข้ามา “ข้าให้โอกาสพวกเจ้าสองคนพูดความจริง แต่กลับไม่มีใครยอมรับความผิดแม้แต่คนเดียว มันน่าจับส่งทางการให้รู้แล้วรู้รอด” พ่อบ้านหลัวให้คนลากสาวใช้คนหนึ่งเข้ามา สภาพของนางถูกทรมานจนเนื้อตัวบวมช้ำไปหมด “เรียนนายท่านข้าให้คนไปค้นห้องสาวใช้ทุกคนในจวน พบเทียบยาซ่อนไว้ใต้หมอน จากห้องของสาวใช้คนนี้ขอรับ” ถูซวงอี้ถึงกับคุกเข่าต่อไปไม่ไหว ทิ้งตัวลงไปนั่งอยู่บนพื้น สาวใช้ที่ถูกทรมานจนสภาพน่าเวทนานั่น เป็นเสี่ยวอิงสาวใช้สินเดิมของนางเอง “ฮูหยินรอง ข้าขอโทษ ข้าทนต่อไปไม่ไหวจริง ๆ ข้าขอโทษ !” เสี่ยวอิงโขกศีรษะลงตรงหน้าของถูซวงอี้แรง ๆ น้ำตาไหลนองหน้าจน แทบไม่เป็นผู้เป็นคนอยู่แล้ว พ่อบ้านหลัวเอ่ย “ข้าให้คนไปถามที่หอโอสถแล้วขอรับนายท่าน เป็นเทียบยาขับเลือดจริง ๆ” หลี่หงซวนมองไปทางบุตรชายคนที่สามของตน พบว่าเขามีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก สตรีที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าคือฮูหยินรอง กับอนุภรรยาที่เขารักใคร่ไม่ต่างกัน เหตุใดถึงได้คิดร้ายต่อฮูหยินใหญ่ของเขาได้ เป็นเหตุให้เขาต้องสูญเสียลูกที่อยู่ในท้องของนางไป เดิมทีฮูหยินใหญ่ของเขาก็ตั้งท้องยากอยู่แล้ว เขารอมาตั้งนานกว่าจะมีวันนี้ได้ ไม่คิดมาก่อนว่าจะต้องสูญเสียไปเช่นนี้ “หย่วนเจ๋อนี่เป็นเรื่องในเรือนของเจ้า เจ้าอยากตัดสินเรื่องนี้ด้วยตัวเองหรือไม่” ผู้เป็นบิดาเอ่ยถามบุตรชาย “ไม่ ข้าไม่อยากเห็นหน้าพวกนางอีกต่อไป แล้วแต่ท่านพ่อเถอะขอรับ ข้าขอตัวไปดูฮูหยินใหญ่ก่อน” หลี่หย่วนเจ๋อคำนับบิดา สะบัดแขนเสื้อเดินจากไปในทันที หางตายังไม่แม้แต่จะมองสตรีทั้งสองนาง เฉาซูหลิ่งลนลานตามเขาไป “ท่านพี่ช่วยข้าด้วย ข้าไม่ผิดนะเจ้าคะ ท่านพี่ !” แต่ถูกบ่าวรับใช้ขวางทางเอาไว้ หลี่หงซวน “หยุดโวยวายได้แล้วอนุเฉา เจ้าเป็นคนถือถ้วยน้ำแกงใส่ยาขับเลือด ไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ด้วยตัวเอง ยังคิดจะหนีความผิดนี้ไปได้อีกรึ” “ท่านพ่อขะข้าข้า...ไม่ผิด” เฉาซูหลิ่งทิ้งตัวไปด้านหลังอย่างหมดเรี่ยวแรง เดิมทีนางก็ไม่เป็นที่โปรดปรานของพ่อแม่สามีอยู่แล้ว เพราะไม่สามารถให้กำเนิดบุตรชายได้ ครั้นได้บุตรสาวก็นิสัยขี้ขลาดขี้กลัว ไหนเลยจะเชิดหน้าชูตาให้ตระกูลหลี่ได้ เฉาซูหลิ่งนั่งเหม่อลอย คล้ายคนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ขณะที่หลี่หงซวนกำลังประกาศโทษทัณฑ์ของพวกนาง ถูซวงอี้กับคนของนาง ถูกขายออกจากจวน ไปอยู่หอนางโลมอย่างเงียบ ๆ ชาตินี้อย่าได้ก้าวเท้า กลับมาเหยียบที่จวนตระกูลหลี่อีก ส่วนเฉาซูหลิ่งถูกขับไล่ออกจากจวน ไปพร้อมกับบุตรสาว ให้ไปอยู่เรือนร้างของตระกูลหลี่ที่เมืองฉาง ห้ามกลับมาที่ตระกูลหลี่อีกชั่วชีวิต “ท่านพ่อท่านขับไล่ข้าไป ข้ายังพอรับได้ เหตุใดต้องขับไล่เหยาเอ๋อร์ไปด้วย นางเพิ่งจะสิบสองปีเองนะเจ้าคะ” เฉาซูหลิ่งนึกถึงบุตรสาวร่างกายผ่ายผอม นอนซมเพราะพิษไข้อยู่ เกิดนึกสงสารนางขึ้นมาจับใจ ฮูหยินผู้เฒ่าหันไปมองสามีเล็กน้อย นางเห็นเด็กสาวคนนั้นมาตั้งแต่เกิด แม้ไม่ได้เอ็นดูแต่ก็นับว่าเป็นสายเลือดเดียวกัน “ฮูหยินเรื่องนี้ข้าตัดสินใจไปแล้ว ไม่อาจคืนคำได้” คำพูดของประมุขของตระกูล มีหรือใครจะกล้าขัด เฉาซูหลิ่งปล่อยเสียงร้องไห้โฮออกมาดัง ๆ นางโง่งมจนทำให้บุตรสาว ต้องมารับเคราะห์กรรมตามไปด้วย “ลากตัวอนุเฉาออกไป หารถม้าสักคันให้คนส่งนาง ไปที่เรือนร้างเมืองฉาง” คำสั่งของหลี่หงซวนเป็นคำขาด บ่าวไพร่รีบทำตามในทันที ครั้นได้อยู่ด้วยกันเพียงลำพังกับฮูหยินผู้เฒ่า หลี่หงซวนถึงได้บอกเหตุผล ที่ต้องตัดสินใจทำเช่นนี้ นั่นเพราะตระกูลจี้ได้ยื่นคำขาดมา ให้ขับไล่พวกเขาออกไปให้หมด อย่าให้เหลืออยู่แม้แต่ตนเดียว ไม่ต้องการให้คนที่ทำร้ายบุตรสาวของพวกเขา อยู่ระคายสายตาของจี้ชิวหรงอีกต่อไป ฮูหยินผู้เฒ่าแค่นออกมาหนึ่งคำ “อ้างเหตุผลข้าง ๆ คู ๆ ความจริงแล้วต้องการกำจัดอนุในเรือนบุตรสาวทิ้งให้หมด นี่กระทั่งเด็กคนหนึ่งก็ไม่เว้น แต่ก็เอาเถอะ เหยาเอ๋อร์อยู่ที่นี่ ก็ใช่จะมีประโยชน์อันใด นางไม่ได้อยู่ในสายตาของพวกเราด้วยซ้ำ ให้นางไปกับแม่ของนางนั่นแหละดีแล้ว” หลี่หงซวนนั้นเป็นเพียงเจ้าเมืองเล็ก ๆ มีตำแหน่งเป็นขุนนางขั้นที่ห้า ฝั่งตระกูลจี้บ้านเดิมของจี้ชิวหรงนั้น อยู่ในเมืองหลวงมีตำแหน่งใหญ่โตกว่าหนึ่งขั้น เรื่องนี้เขาจึงต้องขบคิด ถึงผลได้ผลเสียในอนาคตอีกด้วย การเสียสละอนุกับหลานสาวคนหนึ่ง เพื่อชดเชยให้แก่คนตระกูลจี้ นับว่าเป็นเรื่องสมควรทำแล้ว “ข้าก็คิดเช่นฮูหยินนั่นแหละ เพียงแต่สะใภ้สามแท้งคราวนี้ ไม่รู้จะยังสามารถตั้งท้องได้อีกหรือไม่ พวกเรารอดูไปก่อนดีกว่า หากนางไม่สามารถตั้งท้องได้จริง ๆ เราค่อยหาอนุมาให้หย่วนเจ๋อภายหลังก็ยังได้ ยามนั้นคนตระกูลจี้จะเอาอะไรมาง้างกับเราได้อีก” “จริงดังท่านว่าเจ้าค่ะ” ฝ่ายเฉาซูหลิ่งที่ถูกคนใช้ ลากตัวออกมาให้เก็บของในเรือน นางส่งเสียงเอะอะโวยวายตลอดทาง พร่ำบอกต้องการพบหลี่หย่วนเจ๋อให้ได้ แต่ถูกสาวใช้ขวางไว้ไม่ให้ไป นางจำใจกลับไปยังห้องนอนของตัวเอง รีบเก็บของสำคัญใส่ห่อผ้าเพื่อออกเดินทาง

รักร้ายจอมทระนง

รักร้ายจอมทระนง

โรแมนติก

5.0

“แหวนไปไหน” “คะ” หญิงสาวรีบหดมือหนีในทันที “พี่ถามว่าแหวนไปไหน” คริษฐ์ยังย้ำคำถามเดิมแล้วจ้องหน้าคู่หมั้นสาวแบบไม่พอใจ “คืออยู่ที่ออฟฟิศมันต้องล้างแก้วกาแฟบ่อย ๆ รุ้งก็เลยถอดเก็บเอาไว้ค่ะกลัวมันจะสึกเสียก่อน” คำตอบของหญิงสาวค่อยทำให้คริษฐ์รู้สึกผ่อนคลายลงเล็กน้อย “ถ้าถอดออกพี่จะถือว่ารุ้งขอถอนหมั้นพี่นะ” “ก็ไม่ได้ถอนสักหน่อย แค่ถอดเก็บเอาไว้เฉย ๆ” “งั้นก็ใส่เสียสิ เดี๋ยวนี้เลย” คริษฐ์ถลึงตาใส่แกมบังคับ “ใส่ก็ใส่ค่ะ” คนพูดตัดพ้อเล็กน้อย แล้วหันไปหยิบกระเป๋าด้านข้างมาเปิดเพื่อหยิบแหวนหมั้นของตนออกมาสวมใส่ จากนั้นก็หันหลังมือให้เขาดู “พอใจหรือยังคะ” “ดี” “ว่าแต่พี่คริษฐ์มานั่งรอรุ้งทำไมคะ มีธุระสำคัญหรือเปล่า” หญิงสาววกมาหาคำถามแรกที่เธออยากรู้ แต่เขาดันจุดประเด็นเรื่องแหวนขึ้นมาแทรกเสียก่อน “แม่ให้พี่มาหาคู่หมั้นตัวเองบ้าง” ฟังเขาพูดแล้วรุ้งพรายชักเครียดขึ้นมาหน่อย ๆ “ถ้าคุณป้าพิมพ์ไม่บอกพี่คริษฐ์ก็คงไม่มาหารุ้งใช่ไหมคะ” “แล้วทำไมรุ้งถึงไม่ไปหาพี่เองบ้างล่ะ” “ก็รุ้งกลัวพี่คริษฐ์รำคาญ” บทสนทนาสิ้นสุดลงด้วยความเงียบด้วยกันทั้งสองฝ่าย คริษฐ์ถอนหายใจเบา ๆ ส่วนรุ้งพรายก็ก้มหน้าต่ำลง ทำไมถึงได้รู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก “พี่ไลน์หาอ่านแล้วทำไมไม่ตอบ” คริษฐ์เป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นก่อนหลังจากเงียบมาเกือบหนึ่งนาที “พอดีรุ้งมาอ่านตอนดึกแล้วไม่อยากรบกวนพี่คริษฐ์ค่ะ” “ตอบมาสักคำก็ยังดี อย่าทำเหมือนพี่ไม่มีตัวตนนะรุ้ง จำเอาไว้ด้วยว่าพี่เป็นคู่หมั้นของรุ้ง” “มันไม่น่าจะเป็นแบบนี้นะคะพี่คริษฐ์” “อะไรกันที่ว่าไม่น่าจะเป็นแบบนี้” “รุ้งว่าเราถอนหมั้นกันดีกว่าไหมคะ ดูพี่คริษฐ์อึดอัดกับการหมั้นของเราเหลือเกิน ขนาดจะมาหารุ้งก็ต้องให้คุณป้าพิมพ์บังคับมาเลย” “แม่ไม่ได้บังคับพี่” “ไม่บังคับก็เหมือนบังคับนั่นแหละค่ะ ตั้งแต่ตอนเด็กแล้วพี่ คริษฐ์แทบไม่เคยขัดใจคุณป้าพิมพ์ได้เลย ถ้ามันเหนื่อยและยุ่งยากมากรุ้งขอถอนหมั้นไปเลยก็ได้ค่ะ” รุ้งพรายดึงแหวนออกจากนิ้วนางข้างซ้าย แล้ววางแหมะอยู่ตรงหน้าของเขา คริษฐ์มองแหวนมองคนแล้วอารมณ์ของเขาก็เดือดดาลขึ้น บทจะอยากได้ก็วิ่งตามติดเป็นเงา บทจะสลัดทิ้งก็ง่าย ๆ แบบนี้เหรอรุ้งพราย “ใส่กลับไปเดี๋ยวนี้” ชายหนุ่มแทบจะกัดฟันพูดออกมา “ไม่ค่ะ อ๊ะ! พี่คริษฐ์จะทำอะไรรุ้งไม่ใส่” รุ้งพรายถูกคริษฐ์กระชากมือมาแล้วจัดการสวมแหวนกลับที่เดิม “ใส่แล้วห้ามถอด ห้ามทำให้แม่พี่เสียใจรู้ไหม” “พี่คริษฐ์!” (รักร้ายจอมทระนง)

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

โรแมนติก

5.0

หลังผ่าตัดนักพรตเฒ่าผู้หนึ่งนั้น นางวูบหมดสติและเสียชีวิตลงไป ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที ก็อยู่ในร่างของคุณหนูปัญญาอ่อนที่มีชื่อเดียวกันผู้นี้เสียแล้วทั้งยังจำอดีตชาติยามเป็นปรมาจารย์เต๋าได้อีกด้วย +++ 1 : ไล่ออกจากอารามไท่ผิงกวน แคว้นจิ้น ราชวงศ์เซวียน อารามไท่ผิงกวน “ไป ๆ อาจารย์ขับไล่พวกท่านออกจากอารามแล้ว อย่าได้มาเหยียบที่นี่อีก” “ศิษย์พี่รองรีบปิดประตูเร็วเข้า !” ตุบ ! ห่อผ้าสองห่อถูกโยนออกมาจากประตูอาราม ปัง ! ตามด้วยเสียงปิดประตูลงสลักอย่างหนาแน่น สตรีนางหนึ่งยืนตัวตรงเป็นสง่า เสื้อผ้ากับเส้นผมของนางปลิวไสวดั่งไผ่ลู่ลม หลินซือเยว่เงยหน้าขึ้นมองป้ายชื่ออารามไท่ผิงกวนด้วยสายตาเลื่อนลอย อาศัยอยู่ที่นี่มานานเท่าใดแล้วนะ บางครั้งนางเองก็ลืมเลือนวันเวลาไปเหมือนกัน “คุณหนูเจ้าคะ ศิษย์น้องทั้งสองของท่านทำเกินไปแล้วนะเจ้าคะ เหตุใดถึงไล่พวกเราสองคนออกจากอารามได้เล่า” เผิงฉือกระทืบเท้าเบา ๆ ตรงไปฉวยห่อผ้าทั้งสองบนพื้น ขึ้นมาคล้องแขนตัวเองไว้ “หากไม่ได้รับคำสั่งจากอาจารย์ ศิษย์น้องทั้งสองคงไม่กล้าขับไล่ข้าออกจากอารามหรอก” น้ำเสียงของนางสงบนิ่งฟังแล้วสบายหูยิ่งนัก หาได้มีความโกรธเกลียดแต่อย่างใด “นั่นรถม้า” นิ้วเรียวสวยชี้ไปยังรถม้าคันที่มีคนนั่งเฝ้าอยู่ “ป้าเผิงไปถามดูว่าใช่รถม้าของเราหรือไม่” เผิงฉือไม่รอช้ารีบตรงไปหาคนเฝ้ารถม้าที่อยู่ใต้ต้นไผ่ในทันที ไม่ช้านางก็กลับมาพร้อมกับรอยยิ้มนิด ๆ “เป็นรถม้าของเราจริง ๆ เจ้าคะคุณหนู คนขับบอกว่าเป็นคนของตระกูลหลินเจ้าค่ะ ได้รับคำสั่งจากท่านพ่อของคุณหนู ให้มารับคุณหนูกลับตระกูลหลินเพื่อไปแต่งงานเจ้าค่ะ” “กลับไปแต่งงานนี่เอง” นางเอ่ยเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่ หันหลังกลับไปทางประตูอาราม ประสานมือค้อมตัวคำนับลาอาจารย์ เผิงฉือเห็นเช่นนั้นก็อดที่จะคำนับตามนางไม่ได้ ภายในอารามไท่ผิงกวน “อาจารย์เหตุใดถึงไม่บอกลากับศิษย์พี่ใหญ่ไปตรง ๆ ล่ะ ทำเช่นนี้นางไม่โกรธท่านไปจนวันตายเลยรึ” เหอกุ้ยแม้มีอายุยี่สิบแปดปีแล้ว ทว่าเขากราบเป็นศิษย์เจ้าอาวาสชุนหวังเหล่ยหลังสตรีผู้นั้น จึงได้เป็นเพียงแค่ศิษย์พี่รองเท่านั้น “นั่นสิอาจารย์ ศิษย์พี่ใหญ่นางไม่เคยออกจากอารามไปไหนไกล ท่านทำเช่นนี้ไม่ใช่ขับไล่นางไปสู่ความตายหรอกรึ” จางเจียเฟิ่งเห็นด้วยกับศิษย์พี่รองของเขา “ให้มันน้อย ๆ หน่อยเจ้าศิษย์โง่ทั้งสอง พวกเจ้าคิดว่าอารามไท่ผิงกวนแห่งนี้ สามารถอยู่รอดมาได้เพราะใครกัน หากไม่ใช่เพราะฝีมือของศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้า เห็นนางเงียบ ๆ แบบนั้น ความคิดนางกว้างไกลยิ่งนัก อาจารย์อย่างข้ายังเทียบนางไม่ติดด้วยซ้ำไป” เจ้าอาวาสชุนปีนี้อายุอานามปาเข้าไปหกสิบห้าปีแล้ว ทว่าร่างกายยังแข็งแรง อารามเต๋าแห่งนี้มีวิถีแบบไม่เคร่งครัด ใช้ชีวิตเยี่ยงฆราวาสผู้หนึ่ง สามารถแต่งงานมีครอบครัวได้ “อาจารย์นางอยู่ในอารามวาดยันต์กันภัยให้ชาวบ้านที่มากราบไหว้ ตั้งโต๊ะรักษาโรคภัยให้ผู้คนในตัวอำเภอฝู แต่หนนี้นางต้องกลับบ้านไปเพื่อแต่งงาน นางบริสุทธิ์ถึงเพียงนั้นมิถูกสามีจับกลืนกินจนไม่เหลือกระดูกหรอกรึ” เหอกุ้ยนึกภาพเทพเซียนผู้สูงส่งอย่างหลินซือเยว่ หากต้องร่วมเตียงกับบุรุษหยาบกระด้าง เพียงเท่านั้นเขาก็ทำใจไม่ได้จริง ๆ แทบอยากจะไปแย่งตัวศิษย์พี่ใหญ่ของตัวเองกลับคืนมา “เลิกคร่ำครวญได้แล้ว กลับไปกวาดลานอารามกับตรวจดูน้ำมันตะเกียงให้เรียบร้อย ศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้าไม่อยู่ เจ้าทั้งสองต้องรีบร่ำเรียนศึกษาหาความรู้ อารามไท่ผิงกวนจะได้เจริญรุ่งเรืองในภายภาคหน้าต่อไปได้” เจ้าอาวาสชุนทำเสียงดังใส่ลูกศิษย์ทั้งสอง “ไป ๆ ข้าจะสวดมนต์” โบกมือไล่ทั้งคู่ให้ออกจากห้องสวดมนต์ไป เจ้าอาวาสชุนรีบลุกไปปิดประตูลั่นกลอน ท่าทางลุกลี้ลุกลนจนผิดปกติ ย่องเบา ๆ ไปที่ใต้เตียงนอน ดึงหีบไม้เก่าเก็บออกมา ครั้นกดสลักเปิดออก ก็พบตั๋วเงินจำนวนสามพันตำลึงอยู่ในนั้น ตระกูลหลินที่ไม่ได้บริจาคน้ำมันตะเกียงมาหลายปี จู่ ๆ ก็ส่งตั๋วเงินมาให้ พร้อมกับขอรับคนกลับไปเพื่อแต่งงาน ช่วงนี้ชาวบ้านมาทำบุญที่อารามน้อยลง หลินซือเยว่ก็ไม่รู้ว่าเกิดอันใดขึ้นกับนาง ถึงไม่ยอมลงจากอารามไปรักษาผู้คน รายได้เลยหายหดแทบจ่ายอาหารการกิน(สุรานารี)ไม่พอ ตั๋วเงินสามพันตำลึงนี่มาได้ทันเวลาพอดี ! แครก ๆ ๆ ๆ เสียงกวาดลานหน้าอารามดังขึ้นพร้อมกับเสียงบ่นของเหอกุ้ย “ข้ารู้ว่านางเก่งเอาตัวรอดได้ ข้าเพียงไม่อยากให้นางไปก็เท่านั้น” “ศิษย์พี่รองท่านอย่าได้เสียใจไปเลย ไม่ใช่ว่ามีแต่นางที่ต้องแต่งงานมีครอบครัว ท่านเองก็เถอะที่บ้านส่งคนมารับทุกปีไม่ใช่รึ” จางเจียเฟิ่งรู้ดีว่าตนและเหอกุ้ย ถูกครอบครัวลงโทษด้วยการส่งมาอยู่ยังอารามแห่งนี้ ทว่าเพียงชั่วคราวเท่านั้น “ตัวข้านั้นไม่เป็นไรหรอก เจ้านั่นแหละศิษย์น้องสาม ข้าได้ยินว่าที่บ้านของเจ้า เพิ่งหาคู่หมั้นหมายคนใหม่ให้เจ้าอีกคนแล้วไม่ใช่รึ” สองศิษย์พี่น้องหยุดกวาดลานอาราม แล้วหันหน้าไปมองตากัน จากนั้นพวกเขาก็ถอนหายใจดัง ๆ พร้อมกัน ไม่มีศิษย์พี่ใหญ่อยู่ด้วย นับจากนี้ไปยามทำความผิดใครจะออกหน้าคอยช่วยเหลือ ยามเงินหมดใครจะให้หยิบยืม ยิ่งคิดพวกเขาก็ยิ่งไม่สบายใจเป็นอย่างมาก บนถนนมุ่งหน้าสู่เมืองหลวง รถม้าไม้ธรรมดาไม่เล็กไม่ใหญ่ ไร้ป้ายชื่อตระกูลบอกกล่าว คล้ายไม่อยากให้ผู้อื่นล่วงรู้ว่าคนที่นั่งอยู่ด้านในเป็นใคร เผิงฉือพยายามหลอกถามคนขับรถม้าอยู่หลายหน ถึงสถานการณ์ของตระกูลหลินในยามนี้ นางไม่เคยไปที่นั่นมาก่อนไม่รู้จักใครสักคน คนขับรถม้าตอบว่า เขามีหน้าที่มารับคุณหนูรองกลับบ้านเท่านั้น เรื่องอื่นนั้นเขาไม่รู้จริง ๆ “ได้ถามหรือไม่ ใช้เวลากี่วันในการเดินทาง” หลินซือเยว่เอ่ยเสียงเนิบ ๆ “ถามแล้วเจ้าค่ะ เขาบอกว่าราว ๆ สิบวันก็ถึงเมืองหลวงแล้ว” “สิบวันเชียวรึ” หลินซือเยว่มองห่อผ้าที่วางอยู่ด้านข้าง มีเพียงของใช้จำเป็นของนางไม่กี่ชิ้น พร้อมกับก้อนเงินจำนวนห้าสิบตำลึง “คงต้องแวะซื้อของในอำเภอฝูเสียก่อน” เผิงฉือรีบเปิดม่านบอกกับคนขับรถม้า แต่เขากลับทำเสียงฮึดฮัดคล้ายไม่พอใจ “เสียเวลาเดินทางเปล่า ๆ” น้ำเสียงเขากระด้างกระเดื่อง

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

ประวัติศาสตร์

4.8

เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที

จอมโจรไฟมาร

จอมโจรไฟมาร

โรแมนติก

5.0

หื่น โหด เหี้ยม นั่นแหละเขา ไฟมาร!!! "เป็นเมียข้าไม่น่ากลัวสักนิด เมียข้าเจ้าชื่ออะไร" ไฟมารถามขณะที่สายตากวาดมองทั่วร่างงามของนางราวกับจะประมาณว่า ถ้าเลยลงไปส่วนอื่นมันจะงามล้ำปานใด "ตอบ! " เขาตะคอกเมื่อนางไม่ยอมปริปากบอกออกมา "กอพเยีย" นางรีบร้อนตอบด้วยความกลัว "กอ-พะ-เยีย ใครมันช่างตั้งชื่อให้เรียกยากเพียงนี้" ไม่พูดเปล่ามือสากก็เคลื่อนไปดึงมือของนางออกจากอกงามอย่างช้าๆ "มะ...ไม่ อย่า...ทำข้าเลย" น้ำเสียงสั่นเครือร้องขอน้ำตาก็ปิ่มจะย้อยหยดออกจากเบ้า "ข้าบอกแล้วไง ว่าเป็นเมียข้าไม่น่ากลัวสักนิด" ไฟมารยิ้ม หาได้ใส่ใจต่อคำขอของนางไม่ เคลื่อนตัวเข้าหาอีกคนอย่างช้าๆ "ไม่! " ด้วยความกลัวกอพเยียถึงกับกรีดร้องออกมาดั่งคนเสียสติ ยกมือทุบตีหน้าอกของจอมโจรเป็นพัลวัน "ยอมดีๆ ไม่ชอบนะกอพเยีย" ไฟมารคำรามด้วยความโมโหในอาการคล้ายคนจิตกระเจิงของนาง กดนิ้วลงบนต้นแขนนุ่มสุดแรงเกิด "โอ๊ย ไอ้คนชั่ว! ไอ้ถ่อย! " นางลืมกระทั่งความกลัว ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยได้ถูกกระทำต่ำช้าถึงเพียงนี้ น้ำตาพังทลายออกมาระลอกแล้วระลอกเล่าด้วยความเจ็บ (จอมโจรไฟมาร)

ลมหายใจของตาย

ลมหายใจของตาย

โรแมนติก

5.0

"ทำเป็นพูดดียกโน่นนี่มาอ้างที่แท้ก็ไม่มีปัญญาพาแฟนมาด้วย เป็นไงล่ะเลยมานั่งอิจฉาจ้องดาเสียตาแทบจะหลุดออกมาจากเบ้าอย่างนี้งั้นสิ" พิธานพูดจบก็ดึงหญิงสาวด้านข้างเข้ามาหอมแก้มอวดเพื่อนรักให้กระอักหัวใจเล่น "อีโธ่ ทำมาเป็นอวดใครมันจะโชคดีมีของดีของตายอย่างแกล่ะ เรียกเมื่อไหร่ก็มาปฏิเสธสักครั้งก็ไม่เคย" "พอๆ เลิกพูดมาดื่มได้แล้วไอ้อั๋น" ศรันย์ราชไม่ได้คิดก่อนพูด และพิธานก็ไม่ได้ตำหนิในคำพูดของเพื่อน คนที่ต้องกระอักและหนาวเหน็บไปทั้งหัวใจกลับเป็นหญิงสาวเพียงคนเดียวที่นั่งอยู่ตรงนี้ ของตาย คำนี้ไม่เคยคิดถึงมาก่อน และการที่ผู้ชายสองคนนี้เอ่ยมันออกมาเหมือนเป็นเรื่องปกติ นั่นย่อมหมายความว่าในสายตาของพิธาน เธอเป็นแค่ ของตาย

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ข้าไม่ใช่คนดีท่านอย่าได้หวัง

ข้าไม่ใช่คนดีท่านอย่าได้หวัง

โรแมนติก

5.0

จางลี่สตรีเกิดมาพร้อมกับความเกลียดชัง บิดามารดาไม่รัก พี่สาวรังเกียจ รอบด้านทำร้ายร่างกาย ชาติภพนี้นางถูกคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีทำร้ายจนตาย เมื่อเกิดพบชาติใหม่อีกครั้ง นางก็ขอตอบแทบพวกเขาอย่างสาสม อย่าคิดว่าชาติภพนี้พวกเขาจะได้อยู่สุขสบาย นางในชาตินี้จะถนอมพวกเขาเป็นอย่างดี “ข้าไม่ใช่คนดี ท่านอย่าได้หวังว่าข้าจะดีเหมือนคนอื่น หากท่านปรารถนา พบสตรีที่ดีก็เชิญไปหาที่อื่น” บุรุษปริศนาที่ติดตามนางจะเลือกเส้นทางไหน แล้วนางจะตอบแทนพวกเขาเหล่านั้นเช่นไร รอพวกเขาหาคำตอบ แต่บอกได้เลยว่านางหาได้ใจดีเหมือนชาติที่แล้วไม่ “ข้าเตือนท่านแล้ว ว่าอย่าได้หวังว่าข้าจะเป็นคนดี”

คุณหมอขอรักนะคะ

คุณหมอขอรักนะคะ

โรแมนติก

5.0

เมื่ออาจารย์หมอรูปหล่อว่าที่สามีในอนาคตกำลังจะถูกจับแต่งงาน เธอซึ่งเป็นมดแดงแฝงพวงมะม่วงมานานจึงต้องแสดงตัว กลเม็ด หรือน้ำมันพราย เธอไม่เกี่ยง ขอเพียงแค่ให้ได้คุณหมอสุดหล่อมาเป็นสามีก็พอแล้ว “ท่อนชายถูกไถไถลไปมากับร่องชุ่ม เม็ดสวาทถูกหัวเอ็นบดขยี้หลายครั้งจนนิวารินร้องไม่เป็นภาษา และวินาทีที่รอคอยก็เดินทางมาถึง ท่อนชายพุ่งทะยานเข้ามาสุดแรง และมิดด้าม “อ๊ะ... ซี๊ดดดด” “โอ้วววว... แน่นมากนิว... แน่นที่สุด โอ้วววว” “ขยับค่ะพี่หมอ.... ขยับนะคะ นิว... นิวอยากเสร็จกับท่อนพี่หมอ... อ๊า... อา... ซี๊ดดด” “ร้อนแรงเหลือเกินคนสวยของพี่... อืมมม” บั้นเอวของวชิรวิชญ์ขยับเคลื่อนไหวแรงระรัว ครั้งแล้วครั้งเล่าที่กระแทกกระทั้นเข้าสู่โพรงหวาน จนกระทั่งสวรรค์ทั้งผืนถล่มลงมาใส่ เสียงครางเสียวซ่านของนิวารินถูกกลืนหายเข้าไปในลำคอแกร่งจนเหลือแต่เสียงอู้อี้ ก่อนที่พายุสวาทจะผ่านพ้นไป

จิตวิญญาณข้าถูกผนึก

จิตวิญญาณข้าถูกผนึก

โรแมนติก

5.0

อวิ๋นหลาน นักฆ่าอันดับหนึ่งแห่งศตวรรษที่ 25 ได้ข้ามภพและเกิดใหม่ในร่างของหญิงสาวผู้ไร้ประโยชน์ซึ่งมีชื่อเดียวกันในจวนเทพเจ้าแห่งสงคราม รากวิญญาณถูกทำลายไป? บำเพ็ญวิชาไม่ได้? คู่หมั้นถอนหมั้น? ทุกคนหัวเราะเยาะนาง? การควบคุมอสูร ยาพิษ ยาลูกกลอนปีศาจ อาวุธลับ...นางจัดการได้อย่างสบายๆ อดีตผู้ไร้ค่า แต่บัดนี้มาแก้แค้นชาาเจ้าชู้ เอาคืนทุกคนที่รังแกตนเอง ได้ประสบความสำเร็จ และขึ้นไปสู่จุดสูงสุด ผู้แข็งแกร่งอย่าคิดจะทำอะไรตามใจ ผู้อ่อนแออย่าท้อแท้ กล้ามารุกรานข้า งั้นก็อย่าหาว่าข้าไม่เตือนก็แล้วกัน เขาเป็นจ้าวแห่งอาณาจักรปีศาจ ชอบเอาใจนาง นางฆ่าคน เขาช่วยปิดปาก นางทำลายศพ เขาช่วยกำจัดหลักฐาน เขายอมทำทุกอย่างเพื่อนาง ชีวิตนี้ยอมร่วมทุกข์ร่วมสุขไม่ทอดทิ้งกัน

ท่านอ๋องข้าไม่ต้องการท่านเป็นสวามี

ท่านอ๋องข้าไม่ต้องการท่านเป็นสวามี

โรแมนติก

5.0

เพราะชาติก่อนคุณหมอสาวโง่เขลาเชื่อมั่นในความรัก จึงถูกวางยาพิษจนตาย ทว่าเมื่อลืมตาขึ้นมาอีกครั้งกลับเป็นสวีอี้หลิง บุตรสาวของท่านโหวซึ่งนางเองก็ถูกวางยาเช่นกัน การกลับมาเกิดใหม่ในครั้งนี้นางจะแก้ไขชะตาของคุณหนูที่น่าสงสารคนนี้ให้เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นให้ได้ สวีอี้หลิงคนนี้จะไม่คิดใส่ใจสามีที่ตนเองไม่ได้เต็มใจรับเป็นอันขาด ทว่าต่อให้ไม่สนใจ ถึงอย่างไรนางก็ต้องเป็นพระชายาของท่านอ๋องผู้มากความสามารถ ดังนั้นนางจะเป็นสตรีเรือนหลังที่เอาแต่จมทะเลน้ำตา และอ่อนแอไม่สู้คนไม่ได้! ต่อให้สามีไม่รักนางหรือชิงชังนางก็ช่าง นางเองก็มิได้ต้องการเขาเป็นสามีสักหน่อย แค่เพียงมอบหนังสือหย่าให้เท่านั้น สวีอี้หลิงก็พร้อมจากไปทันที ชีวิตสองชาติภพนางจะไม่ยอมให้ใครหลอกอีกแล้ว!

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
อ้อมสิเน่หาจอมบาป
1

บทที่ 1 ตอนที่ : 1 พรหมจรรย์สีขาว

21/02/2022

2

บทที่ 2 ตอนที่ : 2 พรหมจรรย์สีขาว 2

21/02/2022

3

บทที่ 3 ตอนที่ : 3 เมืองคนบาป

21/02/2022

4

บทที่ 4 ตอนที่ : 4 เมืองคนบาป 2

21/02/2022

5

บทที่ 5 ตอนที่ : 5 เมืองคนบาป 3

21/02/2022

6

บทที่ 6 ตอนที่ : 6 รสสวาทคืนเดียว

21/02/2022

7

บทที่ 7 ตอนที่ : 7 รสสวาทคืนเดียว 2

21/02/2022

8

บทที่ 8 ตอนที่ : 8 จนตรอก

21/02/2022

9

บทที่ 9 ตอนที่ : 9 จนตรอก 2

21/02/2022

10

บทที่ 10 ตอนที่ : 10 ลูกสาวคนโกงชาติ

21/02/2022

11

บทที่ 11 ตอนที่ : 11 ลูกสาวคนโกงชาติ 2

24/02/2022

12

บทที่ 12 ตอนที่ : 12 ลูกสาวคนโกงชาติ 3

24/02/2022

13

บทที่ 13 ตอนที่ : 13 ลูกสาวคนโกงชาติ 4

24/02/2022

14

บทที่ 14 ตอนที่ : 14 โสเภณีคืนแรก

24/02/2022

15

บทที่ 15 ตอนที่ : 15 โสเภณีคืนแรก 2

27/02/2022

16

บทที่ 16 ตอนที่ : 16 โสเภณีคืนแรก 3

27/02/2022

17

บทที่ 17 ตอนที่ : 17 กรงขังจอมบาป

27/02/2022

18

บทที่ 18 ตอนที่ : 18 กรงขังจอมบาป 2

27/02/2022

19

บทที่ 19 ตอนที่ : 19 อาณาเขตของแอล

27/02/2022

20

บทที่ 20 ตอนที่ : 20 อาณาเขตของแอล 2

27/02/2022

21

บทที่ 21 ตอนที่ : 21 ความจริงอันโหดร้าย

27/02/2022

22

บทที่ 22 ตอนที่ : 22 ความจริงอันโหดร้าย 2

27/02/2022

23

บทที่ 23 ตอนที่ : 23 ความจริงอันโหดร้าย 3

27/02/2022

24

บทที่ 24 ตอนที่ : 24 ผู้ชายชื่อ วินน์ มิราจ

27/02/2022

25

บทที่ 25 ตอนที่ : 25 ผู้ชายชื่อ วินน์ มิราจ 2

27/02/2022

26

บทที่ 26 ตอนที่ : 26 ความสุขของแอล

27/02/2022

27

บทที่ 27 ตอนที่ : 27 ชีวิตที่ไม่ต้องการ

27/02/2022

28

บทที่ 28 ตอนที่ : 28 ดวงใจถูกพราก

27/02/2022

29

บทที่ 29 ตอนที่ : 29 ดวงใจถูกพราก 2

27/02/2022

30

บทที่ 30 ตอนที่ : 30 ตอบแทนอย่างสาสม

27/02/2022

31

บทที่ 31 ตอนที่ : 31 ตอบแทนอย่างสาสม 2

27/02/2022

32

บทที่ 32 ตอนที่ : 32 ดูแลด้วยใจ

27/02/2022

33

บทที่ 33 ตอนที่ : 33 ดูแลด้วยใจ 2

27/02/2022

34

บทที่ 34 ตอนที่ : 34 ดูแลด้วยใจ 3

27/02/2022

35

บทที่ 35 ตอนที่ : 35 สายสัมพันธ์ขาดรอด

27/02/2022

36

บทที่ 36 ตอนที่ : 36 สายสัมพันธ์ขาดรอด 2

27/02/2022

37

บทที่ 37 ตอนที่ : 37 ตัดสินใจลาจาก

27/02/2022

38

บทที่ 38 ตอนที่ : 38 ตัดสินใจลาจาก 2

27/02/2022

39

บทที่ 39 ตอนที่ : 39 เริ่มต้นใหม่ในบ้านเกิด

27/02/2022

40

บทที่ 40 ตอนที่ : 40 เริ่มต้นใหม่ในบ้านเกิด 2

27/02/2022