Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
เมียรักนายหัวสิงห์

เมียรักนายหัวสิงห์

B.J.BEN

5.0
ความคิดเห็น
184.4K
ชม
97
บท

สิงหรัตน์ ไกรวรานนท์ โชคชะตาทำให้เขาต้องรับเธอมาเป็นภรรยา แต่เขากลับรักเธอสุดหัวใจ พิณทิรา ไตรสุรเดช เพราะต้องตอบแทนบุญคุณผู้มีพระคุณ เธอจึงยอมตกกระไดพลอยโจนไปเป็นภรรยาเขา ผู้ชายเถื่อนๆ ที่เธอเผลอรักเขาอย่างไม่มีข้อแม้

บทที่ 1 1

สิงหรัตน์ ไกรวรานนท์ นายหัวหนุ่มแห่งเกาะเสือ กำลังไล่ยิงลูกน้องคนสนิทอย่างประกิต และราตรีภรรยาที่ชายหนุ่มพามาอาศัยอยู่ยังเกาะแห่งนี้หลายเดือน

ปัง! ปัง! ปัง! เสียงปืนที่ดังก้องไปทั่วหาดของเกาะเสือ ทำให้เหล่าบรรดาลูกน้อง คนงาน และชาวบ้านต่างมามุงดูเหตุการณ์ด้วยความตกใจ

สายลมพัดโชยเอาเม็ดทรายขาวละเอียดปะทะกับร่างสูงของนายหัวหนุ่มหล่อเชื้อสายลูกน้ำเค็ม

ดวงตาแข็งกร้าวดุดันมองไปยังคนที่ทรยศหักหลังทั้งสอง แล้วลั่นไกปืนระรัว ไล่ล่าประกิตและราตรีที่หนีหัวซุกหัวซุนขึ้นเรือหนีไป

“นายหัว ตามไปไหมครับ” สายลมเอ่ยถามผู้เป็นนาย

“ไม่ต้อง!” น้ำเสียงดุดันเอ่ยตอบ ไม่มีใครรู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ ไตรภูมิกับคมกล้าหันสบตากันนิ่ง ไม่คิดว่าประกิต คนที่เจ้านายไว้ใจที่สุดจะทรยศหักหลังได้ถึงเพียงนี้ และราตรีภรรยาสาวที่เจ้านายให้การดูแลเป็นอย่างดีจะทำกันได้ลงคอ

เหตุการณ์ระทึกขวัญนั้นเป็นที่โจษจันกันไปทั่วเกาะ…

ประกิตกับราตรีหนีตายมาขอความช่วยเหลือจากพายัพซึ่งเป็นลูกน้องของเรวัตร เจ้าของเกาะเสืออีกฟากหนึ่ง ซึ่งเกาะแห่งนี้แบ่งเป็นสองส่วน มีพื้นที่กว้างใหญ่และอุดมสมบูรณ์ไปด้วยผืนป่า… แถมพายัพยังเป็นศัตรูคู่แค้นกับครอบครัวของสิงหรัตน์มานานนม...

สิงหรัตน์ บุรุษร่างสูงใหญ่ เกือบ 187 เซนติเมตร ผมดกหนายาวประบ่า ใบหน้ารกไปด้วยหนวดเครา ถ้าดูเพียงผิวเผินเหมือนโจรเถื่อนดุร้ายจนไม่มีใครอยากเข้าใกล้

แต่ชายหนุ่มมีเครื่องหน้าสมบูรณ์คมเข้ม คนทั่วไปแค่เห็นก็มองเมินเพราะรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูทั้งโหด เถื่อน และติดดิน แต่หากสาวๆ หลายคนได้รู้ว่าชายหนุ่มคนนี้เพียบพร้อมไปด้วยรูปสมบัติและทรัพย์สมบัติ เขาคงไม่เป็นอันทำอะไรเพราะต้องคอยหลบหนีหญิงสาวทั้งหลายที่อยากโชคดีตกถังข้าวสารในชั่วข้ามคืน

... ดวงตาคมดุแฝงไว้ด้วยเสน่ห์เหลือร้าย คิ้วเข้มพาดเฉียงดำสนิทรับกับขนตาดกหนา หน้าเหลี่ยมที่ปลายคางมีรอยผ่าดูบึกบึนสมชายชาตรี ริมฝีปากสีเข้มหยักเป็นคันศร ผิวเรียบตึงสีแทนเพราะการทำงานกลางแจ้งทำให้เรือนร่างแกร่งกำยำบึกบึนสง่างามสมชายชาตรี กล้ามเป็นมัดๆ และร่างกายอุดมไปด้วยเส้นขน

สิงหรัตน์ ชายหนุ่มที่สมบูรณ์แบบ ทั้งหน้าที่การงาน ฐานะและรูปร่างหน้าตา แต่เขาไม่เคยต้องการหญิงสาวคนใดมาเคียงข้าง ยังใช้ชีวิตโสดอย่างอิสระไม่ผูกติดกับใคร

เขาคิดว่าหากจะมีภรรยาสักคน ผู้หญิงคนนั้นต้องเห็นความดีของเขา ไม่ใช่ทรัพย์สมบัติภายนอกที่เขามีอยู่

ใช่ว่าเขาจะจมอยู่กับอดีตฝังใจอย่างที่ใครๆ พูดกัน แต่เพราะไม่มีหญิงสาวคนไหนมีค่าให้เขาต้องรัก และทุ่มเทหัวใจให้ในตอนนี้...

นายหัวหนุ่มจอดรถโฟร์วิลคันแกร่งที่กำแพงรั้วบ้าน “ไตรสุรเดช” ซึ่งเป็นบ้านเรือนไทยหลังใหญ่ รั้วบ้านเป็นไม้แทบทั้งสิ้นจึงสามารถมองลอดเข้าไปด้านในได้อย่างชัดเจน

เขาค่อยๆ เปิดประตูลงจากรถ ดวงตาสีสนิมคมดุตวัดสายตามองลอดผ่านแว่นกันแดดยี่ห้อดังที่ปิดบังดวงตาเอาไว้ ในขณะที่ใบหน้านิ่งไร้อารมณ์

ร่างสูงใหญ่ก้าวเดินมั่นคงไปยังรั้วบ้านอันร่มรื่น พร้อมด้วยหัวใจที่กระหายอยากเห็นหน้าหญิงสาวผู้เป็นว่าที่เจ้าสาว

เจ้าสาวที่เขาไม่เคยต้องการสักนิด!!!

... แต่เพราะไม่อยากขัดใจบิดา และครั้งนี้ก็เป็นครั้งแรกที่คนเกเรอย่างเขายอมตามใจบุพการี

หึ! ผู้หญิงแค่ดอกไม้ให้เชยชมพอหมดกลิ่นหอมก็โยนทิ้งถังขยะอย่างไร้ค่า

ยิ่งถ้าผู้หญิงที่เห็นแก่เงินยิ่งหมดกลิ่นชั่วข้ามคืน หรือบางครั้งอาจจะไม่มีกลิ่นเลยด้วยซ้ำ

ดังเช่นสุภาษิตที่ว่าสวยแต่รูปจูบไม่หอม แค่หลอกล่อให้แมลงตัวผู้บินเข้าหา แต่ต้องผิดหวังเพราะน้ำหวานจากรวงผึ้งโดนชอนไชไปจนหมดสิ้นไม่เหลือทิ้งไว้ให้ภมรหน้าโง่ตัวถัดไปอีก

ชายหนุ่มค่อยๆ ถอดแว่นราคาแพงออกอย่างเชื่องช้า สายตามองเห็นหญิงสาวคนหนึ่งที่กำลังรดน้ำต้นไม้อยู่ในสวน รูปร่างอรชรกลมกลึงภายใต้เสื้อแขนกุดสีฟ้าอ่อนกับกระโปรงสีชมพูลายลูกไม้

เขากะประมาณส่วนสูงของเธอน่าจะไม่เกิน 165 เซนติเมตร ผมสลวยดำขลับจนถึงแผ่นหลังมัดเอาไว้อย่างไม่ค่อยพิถีพิถันมากนัก

ร่างบอบบางหันหลังให้เขาอยู่ จึงไม่ได้เห็นหน้าเธอ สิงหรัตน์ยืนจ้องอยู่เพียงครู่เธอจึงหันกลับมาให้เขาได้เห็นใบหน้าสวยหวานเต็มๆ ตา

นายหัวหนุ่มหัวใจหนุ่มกระตุกวูบ ก้อนเนื้อข้างซ้ายกำลังเต้นกระหน่ำรุนแรงเพียงแค่เห็นใบหน้าของหญิงสาวเต็มๆ ตา

ใช่ว่าไม่เคยเห็นผู้หญิงสวย แต่เธอทำให้เขารู้สึกแตกต่าง ความรู้สึกประหลาดล้ำเกิดขึ้นในหัวใจ เขาไม่เชื่อเรื่องรักแรกพบ แต่เชื่อเรื่องชอบแรกพบ เขาบอกตัวเองว่าเขาชอบเธอเข้าให้แล้ว...

แม้จะไม่ได้อยู่ใกล้มากนักแต่สายตาคมดุก็สามารถกวาดไล่มองเรือนร่างของหญิงสาวได้ชัดเจน ใบหน้ารูปหัวใจ หน้าผากมนเพราะผมที่รวบไว้ด้านหลัง คิ้วเรียวโก่ง ขณะกะพริบตามองเห็นแพขนตางอนงามขยับขึ้นลงจนเขานึกชื่นชมเสียไม่ได้

นายหัวหนุ่มยอมรับกับตัวเองว่าเธอเป็นหญิงสาวคนแรกที่ทำให้อัตราการเต้นของหัวใจผิดจังหวะ ถ้ามีโอกาสเขาจะทำโทษให้หนำใจโทษฐานที่ยั่วอย่างเดียงสาให้เขารุ่มร้อนในอก

สิงหรัตน์มองดวงตาสีน้ำตาลเข้มมีแววหวานปนเศร้า ก่อนเลื่อนสายตาลงมองริมฝีปากรูปกระจับที่เผยอออกน้อยๆ ด้วยรอยยิ้มขณะเอาใจใส่กับบรรดาดอกกุหลาบหลากสีในสวนงดงามของบ้าน จมูกโด่งงามที่ดูน่าขบกัดหยอกเย้า รวมถึงผิวขาวผุดผ่องสัมผัส ทำให้เขาอยากแนบชิดมากกว่าการมอง

ความต้องการที่ซุกซ่อนอยู่ภายในกายกำลังตื่นตัวอย่างห้ามไม่อยู่ ชายหนุ่มเผลอสบถกับความคิดของตัวเอง

เขาใคร่อยากรู้ว่าเธอเป็นใคร มีความสัมพันธ์กับ “ไตรสุรเดช” เช่นไร

... แต่หากเธอเป็นว่าที่เจ้าสาวของเขาล่ะ ใบหน้าคมเข้มกระตุกยิ้มเล็กน้อยเมื่อชายหนุ่มทอดสายตามองไปยังร่างอรชร

หญิงสาวคงยังไม่รู้ว่ามีคนแอบมองเพราะมัวเพลิดเพลินกับการรดน้ำต้นไม้ แม้เขาจะเห็นเธอยิ้ม แต่ก็ช่างเป็นรอยยิ้มที่ปนเศร้าเสียนี่กระไร

เมื่อถูกมองมากๆ เข้า พิณทิราเหมือนรู้ตัว กวาดสายตามองรอบกาย ร่างสูงจึงรีบหลบไปอีกด้านทันที

หญิงสาวขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะส่ายหน้าไปมา เมื่อคิดว่าตัวเองคงคิดมาก เพราะรู้สึกว่ามีสายตาของใครจ้องมองอยู่ อาจเป็นคนที่เดินผ่านไปผ่านมาก็เป็นได้ เพราะเธออยู่ใกล้รั้วบ้าน

“นังพิณ! มาทำอะไรอยู่ตรงนี้ ฉันเรียกหาแกตั้งนานสองนานจนเสียงแหบเสียงแห้งไปหมดแล้ว”

เสียงตวาดแสบแก้วหูลั่นมาจากทางด้านหลัง พิณทิราปล่อยบัวรดน้ำหลุดจากมือ ลนลานถอยหนีเมื่อรู้ดีว่าพายุใหญ่กำลังตั้งเค้าหนัก เธอรู้ว่าเสียงแบบนี้ของวิธาดาบ่งบอกว่ากำลังอยู่ในอารมณ์เช่นไร

“พิณมารดน้ำต้นไม้ค่ะคุณวิ”

พิณทิรารีบตอบอย่างเกรงใจ วิธาดาใบหน้าหยิกงอหมดความสวยไปทันทีที่โมโห จ้องมองอีกฝ่ายเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ

“ฉันให้แกไปซักผ้า เสร็จหรือยัง มัวแต่รดน้ำต้นกุหลาบอยู่นั่นแหละ จะรักอะไรกันนักกันหนา”

วิธาดาเหยียดริมฝีปากสีแดงสดที่เคลือบลิปสติกมองน้องสาวต่างสายเลือดด้วยความเกลียดชัง

“เสร็จแล้วค่ะคุณวิ”

พิณทิรารีบตอบ เพื่อไม่ให้อารมณ์ของอีกฝ่ายขุ่นมัวมากกว่าเดิม

“รีดผ้าหรือยัง ชุดที่ฉันจะใส่ไปงานเลี้ยง แกรีดหรือยัง นังพิณ!!!”

วิธาดาหาเรื่องเต็มที่ เสียงกราดเกรี้ยวชวนแสบแก้วหูดังออกไปนอกรั้วบ้าน คนที่แอบซุ่มดูอยู่แทบเอามืออุดหู สิงหรัตน์ส่ายหน้าไปมากับนิสัยของหล่อน

... แค่ได้ยินเสียงก็นึกไปถึงใบหน้าที่ไม่น่ามอง

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ B.J.BEN

ข้อมูลเพิ่มเติม
เสน่หาเมียแสนรัก

เสน่หาเมียแสนรัก

โรแมนติก

5.0

โปรย เสน่หาเมียแสนรัก ฉากหน้าคือการที่เขาถูกบังคับให้แต่งงาน แต่ฉากหลังคือเขาหึงหวงและห่วงเธอสุดหัวใจ ตัวอย่างบางช่วงบางตอน "คงมีความสุขมากสินะที่ทุกอย่างเป็นแบบนี้" เขมนัทต์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น ทำให้บงกชเพชรต้องหันไปดูที่มาของเสียง "คุณนัทต์ อุ๊ย! ปล่อยนะคะ" บงกชเพชรดันร่างของเขาออกห่าง แต่เขายิ่งดึงเธอมากอดรัดเอาไว้แนบอก "อยากให้ปล่อยจริงๆ น่ะเหรอ เธออยากให้ฉันกอดจูบมากกว่าล่ะมั้ง" เขมนัทต์ยื่นหน้าเข้าไปหา แต่บงกชเพชรเบี่ยงหลบพร้อมทั้งดันปลายคางของเขาออกห่าง "ถอยไปนะ" สีหน้าเหมือนรังเกียจของเธอทำให้เขายิ่งอยากเอาชนะ "อื้อ..." ปากน้อยโดนบดจูบอย่างดูดดื่ม ไม่ว่าจะร้องประท้วงเพียงใด คนเอาแต่ใจก็ยังบดจูบจนปากแทบช้ำ เพียะ! ใบหน้าของเขมนัทต์หันไปตามแรงตบ เขาดุนดันกระพุ่งแก้มเพราะรู้สึกเจ็บ ๆ คัน ๆ ก่อนที่จะรวบร่างเธอมาจูบอย่างดุเดือด เพียะ! ใบหน้าของเขมนัทต์หันไปตามแรงตบอีกรอบ เขาดึงเธอมากอดจูบอย่างดุเดือดกว่าเดิม บงกชเพชรดิ้นรนจนหลุดจากอ้อมแขนแกร่ง ก่อนที่จะวิ่งหนี แต่เธอโดนกระชากเข้าไปบดจูบอีก "อื้อ... คนบ้าป่าเถื่อน" เธอดิ้นหนีใช้หลังมือเช็ดริมฝีปากของตัวเองอย่างรังเกียจ มองเขาอย่างตกตะลึงไม่คิดว่าเขมนัทต์จะกล้าทำอะไรป่าเถื่อนกับเธอแบบนี้ "เป็นไงรสชาติตบจูบของฉัน" "คนสารเลว" บงกชเพชรกัดปากตัวเองจนเจ็บ มองเขาอย่างเจ็บใจ "แต่งงานเธอจะโดนหนักกว่านี้อีก โดนจูบทั้งตัว!" ประโยคของเขาทำเอาเธอหน้าแดงก่ำลามไปถึงใบหู "บัวเกลียดคุณนัท" "แล้วไง เธอออดอ้อนคุณย่าบีบบังคับให้ฉันแต่งงานด้วย ก็อยากโดนฉันกอดจูบสักครั้งไม่ใช่เหรอ ฉันก็กอดจูบให้เอาบุญแล้วไง" "ความคิดสกปรก ถ้าคุณไม่อยากแต่งงานก็ควรบอกคุณย่าไปตรง ๆ ไม่ใช่เอาความโกรธมาลงที่ฉันแบบนี้" บงกชเพชรพูดอย่างเจ็บใจ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

เธอพลาดที่ทิ้งฉัน

เธอพลาดที่ทิ้งฉัน

Moritz Hearsum
5.0

ซูมู่หยูคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลที่พลัดพรากจากกันไปนาน หลังจากกลับมาสู่ครอบครัว เธอพยายามอย่างเต็มที่เพื่อเอาใจญาติๆ ไม่ว่าจะเป็นตัวตน เกียรติศักดิ์ หรือผลงานการออกแบบ เธอก็ถูกบังคับให้มอบสิ่งเหล่านี้ให้กับลูกสาวบุญธรรม อย่างไรก็ตาม เธอไม่ได้รับความรักและการดูแลจากครอบครัวแต่อย่างใด แต่กลับโดนเอาเปรียบตลอด นับแต่นั้นเป็นต้นมา มู่หยูไม่ยอมให้ใครอีกเลย และตัดความรู้สึกและความรักทั้งหมดออกไป ปัจจุบันเธอเป็นสายดำระดับเก้า เชี่ยวชาญภาษาถึงแปดภาษา เป็นผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ และนักออกแบบระดับโลก ซูมู่หยูกล่าวว่า "จากนี้ไป ฉันเป็นหนึ่งของตระกูลซู"

โชคชะตาของพระชายา

โชคชะตาของพระชายา

Raff Madison
3.7

ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

มาชาวีร์
4.8

เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที

ฉันนี่แหละเศรษฐี

ฉันนี่แหละเศรษฐี

Abelard Evans
5.0

ผมต้องทำงานนอกเวลาทุกวันเพื่อหารายได้ประคองชีวิตและจ่ายค่าเรียนมหาวิทยาลัยด้วยตัวเอง เนื่องจากฐานะครอบครัวยากจนและไม่สามารถส่งเสียผมเข้ามหาวิทยาลัยได้ และตอนเรียนที่มหาวิทยาลัย ผมก็ได้พบกับเธอ-สาวแสนสวยที่หนุ่มๆ ทุกคนในชั้นเรียนต่างก็ใฝ่ฝันถึง ไม่เว้นแม้แต่ผมเอง แต่ผมก็รู้ตัวดีว่าตัวเองไม่คู่ควรกับเธอ ถึงอย่างนั้นก็ตาม ผมก็รวบรวมความกล้าสารภาพกับเธอจนได้ สุดท้ายผมนึกไม่ถึงว่าเธอจะยอมตกลงเป็นแฟนกับผม เธอบอกกับผมว่าอยากได้ของขวัญเป็นไอโฟนรุ่นล่าสุด ผมก็ไปรับงานซักเสื้อผ้าให้เพื่อนร่วมชั้นเรียนเพื่อพยายามเก็บเงินซื้อให้เธอจนได้ และในที่สุดหนึ่งเดือนต่อมา ผมก็ซื้อมาได้จริง ๆ แต่ขณะที่ผมกำลังห่อของขวัญเพื่อนำไปมอบให้เธอ ก็พบว่าเธอกำลังมีอะไรกับหัวหน้าทีมฟุตบอลในห้องล็อกเกอร์ เธอเหมือนเปลี่ยนเป็นอีกคนหนึ่งซึ่งผมไม่เคยรู้จักเลย เธอหัวเราะเยาะความโง่เขลาของผม เหยียดหยามศักดิ์ศรีของผม ปล่อยให้เขาซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นแฟนใหม่ของเธอไปแล้ว ทุบตีผม ผมนอนเจ็บอยู่บนพื้นอย่างสิ้นหวัง ต่อมา จู่ ๆ ผมก็ได้รับโทรศัพท์จากพ่อ ตั้งแต่วันนั้น ชีวิตของผมก็ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างกับหนัามือเป็นหลังมือ ใครจะไปรู้ว่า ผมเป็นลูกชายของมหาเศรษฐี

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ