Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
นางซินยั่วเสน่หา

นางซินยั่วเสน่หา

B.J.BEN

5.0
ความคิดเห็น
40K
ชม
73
บท

ดลรวี... เพื่อนพี่ชายที่เธอรักสุดหัวใจ เขามีบุญคุณเคยช่วชีวิตเธอเอาไว้ หลังจากนั้น เธอก็มอบกายมอบใจให้เขา ปฏิญาณกับตัวเองว่าโตขึ้นจะเป็นเจ้าสาวของเขา พิรันดา... สาวน้อยที่เข้ามาปั่นป่วนหัวใจของเขาในวันอกหัก เด็กสาวที่ทำให้เขาได้เจอกับรักครั้งใหม่ที่แสนหวานและมั่นคง

บทที่ 1 1

เสียงกริ่งหน้าบ้านทำให้ร่างสูงของดลรวีผละจากอาหารที่นำออกมาจากเตาไมโครเวฟ คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันเล็กน้อย

“ใครกันนะมากดกริ่งตั้งแต่เช้าแบบนี้”

ร่างสูงใหญ่ประมาณร้อยแปดสิบเก้าเซนติเมตรของของดลรวี อาร์เทอร์ ภูมิพิพัฒน์ หนุ่มหล่อเลือดผสมไทย-สเปนเดินไปเปิดประตูบ้านอย่างไม่เร่งรีบ

หลังจากเขาส่งข่าวให้พลผู้เป็นเพื่อนรักหาแม่บ้านคนใหม่ให้มาแทนคนเก่าที่แต่งงานแล้วย้ายตามสามีไป ข่าวคราวยังเงียบหายเพราะยังไม่ได้การตอบรับจากเพื่อนเลยแม้แต่น้อย เขาจึงยังต้องทำอาหารทานเองและจ้างคนมาตัดหญ้า ตัดแต่งต้นไม้ รวมถึงทำความสะอาดบ้านแทนแม่บ้านที่เพิ่งลาออกไป

ดลรวีเปิดประตูบ้านก็เจอกับหญิงสาวร่างบอบบาง รูปร่างหน้าตาสะอาดหมดจด ผิวขาวเนียนอมชมพู ผมยาวสีดำสนิทผูกไว้เป็นหางม้า หน้าตาจิ้มลิ้ม ริมฝีปากสีแดงเป็นรูปกระจับ จมูกโด่งสวย ดวงตากลมโต คิ้วโก่งเรียวงาม แก้มระเรื่อตามธรรมชาติ แม้ร่างจะอรชรแต่เขาสัมผัสถึงความอวบอิ่มของเรือนร่างสาว สิ่งที่ขัดสายตาของเขาเป็นที่สุดก็คงจะเป็นเสื้อผ้าที่เธอสวมใส่ หญิงสาวใส่เสื้อยืดสีแดงสดกับผ้าถุงลายไทย เขาอดอมยิ้มไม่ได้ แทบจะหลุดหัวเราะออกมาด้วยซ้ำ เพราะดูยังไงก็ไม่เข้ากับเธอเลยสักนิด

หลังจากสำรวจเรือนร่างของคนตรงหน้าจนพอใจ ชายหนุ่มจึงกระแอมเบาๆ เรียกสติให้กับตัวเองมากกว่าจะเตือนคนตรงหน้า เพราะคนที่เผลอมองสำรวจสาวน้อยตรงหน้าจนถ้วนทั่วคือเขาเองต่างหาก และดูเหมือนว่าเธอกำลังมองเขาไม่วางตาเหมือนกัน

ชายหนุ่มขมวดคิ้วเล็กน้อย ตาโตใสแจ๋วกลมแบ๊วของคนตรงหน้า เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน ทำให้เขาชะงักงัน ดลรวีรู้สึกว่าหญิงสาวกำลังมองเขาเหมือนสำรวจด้วยความสนใจ

“มาหาใครครับ”

เขาพูดเสียงสุภาพติดจะขรึม รู้สึกว่าเธอคุ้นหน้านัก เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน แต่พยายามนึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก สงสัยช่วงนี้เขาคงทำงานหนักไปหน่อย สมองอันชาญฉลาดและสามารถจดจำสิ่งต่างๆ รอบกายได้ดีแม้คนที่เพิ่งเห็นหน้ากันเพียงครั้งเดียวกลับทำงานไม่มีประสิทธิภาพดังเดิม

พิรันดา กิติคุณทรัพย์สาวน้อยวัย 22 ปี มองสบสายตาของชายหนุ่มในดวงใจด้วยรอยยิ้มพิมพ์ใจ เขายังหล่อเหลาทรงเสน่ห์อบอุ่นดังเดิม

โอ้... พี่ดลของเธอ กี่ปีๆ ก็ยังหล่อกระชากใจ แถมดวงตาคมกริบคู่นี้ช่างทรมานหัวใจของเธอให้เต้นแรงเหมือนมีใครมาเขย่าให้มันสั่นไหวแทบกระเด็นกระดอนออกมานอกอก

“หนูเป็นแม่บ้านที่คุณพลส่งมาค่ะ”

หญิงสาวตอบเขาสำเนียงแปลกๆ เหน่อๆ เหมือนพูดภาษาไทยไม่ค่อยชัด ทำให้ดลรวีเลิกคิ้วเล็กน้อยก่อนคลายออกด้วยความสงสัย

พิรันดาสะกดกั้นความดีใจเอาไว้ในส่วนลึกของจิตใจ หลายปีแล้วสินะที่เธอไม่ได้เจอเขาเลย เขาจะยังจำเธอได้อีกไหมหนอ

พี่ดลจำน้องดาตัวอ้วนกลมของพี่ดลขา... ได้อีกหรือเปล่าคะ

“แม่บ้านที่พลหาให้รึ งั้นเชิญเข้ามาในบ้านก่อนสิ”

เจ้าของบ้านผายมือเชื้อเชิญเข้าไปในบ้าน แปลกใจว่าเหตุใดพลถึงไม่ส่งข่าวคราวมาบอกก่อน แต่กลับส่งแม่บ้านมาให้เขาเลยแบบนี้ หรือแทนที่เพื่อนรักจะเป็นคนพาแม่บ้านมาส่งด้วยตัวเอง

...แต่คิดไปอีกทางเพื่อนคงงานยุ่งก็เป็นได้

ดลรวีเปิดประตูบ้านเดินนำหญิงสาวเข้ามาในบ้านหลังใหญ่ พิรันดากวาดสายตาดูบ้านของเขาเพื่อสำรวจความเปลี่ยนแปลง ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม ดังเช่นที่เธอเคยมาตอนเด็กๆ ทุกมุมของบ้านล้วนเก็บความทรงจำเอาไว้ให้รำลึกถึงเสมอ

รอยยิ้มและเสียงหัวเราะกลับมาให้เธอรำลึกถึงในห้วงคำนึงอีกครั้งเมื่อกวาดสายตามองไปรอบกาย เธอเห็นภาพดลรวีกำลังอุ้มร่างป้อมๆ ติดจะอ้วนของเธอเมื่อสมัยเด็กๆ แล้วเขาก็โยนร่างเด็กหญิงตัวกลมขึ้นเพื่อหยอกเย้า ก่อนจะจับร่างเธอหมุนไปรอบกายพร้อมกับเสียงหัวเราะที่ประสานกันอย่างความสุข

ชายหนุ่มขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะคลายออกเมื่อเห็นแม่บ้านที่เพื่อนส่งมานั่งบนโซฟาในห้องรับแขก เขาไม่ได้คิดจะแยกฐานะชนชั้นทางสังคม แต่รู้สึกว่าหญิงสาวตรงหน้าจะไม่ค่อยรู้ธรรมเนียมเท่าใดนัก

ดลรวีกระแอมสองสามครั้งเป็นการเตือน มองว่าที่แม่บ้านตรงหน้านิ่งๆ ด้วยสายตาคมกริบคราแรกหญิงสาวทำหน้างุนงง ก่อนจะรู้ตัวว่าเธอนั่งผิดที่จึงรีบทรุดนั่งลงกับพื้น

พิรันดาลอบผ่อนลมหายใจเบาๆ เมื่อเห็นสายตาว่าที่เจ้านายมองมาอย่างตำหนิติเตียน

สายตาเข้มสีเทาฟ้ามองหน้าคนที่นั่งพับเพียบอยู่บนพื้นพรมนิ่ง คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันยุ่งมากขึ้นเนื่องจากยิ่งมองเธอเท่าไหร่ เขายิ่งคลับคล้ายคลับคลามากเท่านั้น เหมือนเคยเห็นเธอที่ไหนมาก่อน แต่เขากลับคิดไม่ออก ยิ่งคิดยิ่งเบลอหนัก เลยโทษว่าตัวเองคงทำงานหนักไป

“เธอเป็นคนที่นายพลส่งมาเหรอ แล้วชื่ออะไรล่ะ”

ดลรวีเริ่มถามประวัติว่าที่แม่บ้านที่เพื่อนรักส่งมา สลัดความสงสัยออกไปจากสมอง

“ชื่อดาวค่ะ”

สำเนียงแปร่งๆ พูดไทยไม่ค่อยชัดนั้นทำให้ดลรวีนึกขัดหูเล็กน้อย แต่เขาก็ไม่ได้ติดใจอะไรมากมาย

“อืม.. ชื่อดาวเหรอ ถ้าเธอเป็นคนที่นายพลส่งมา คงไม่ต้องสอบถามอะไรมาก เพื่อนฉันคงคัดสรรมาเป็นอย่างดีแล้ว แต่ไม่ได้หมายความว่าฉันจะรับเธอเข้าทำงานเลยหรอกนะ”

แม้จะใจดีที่ได้แม่บ้านเสียที แต่ชายหนุ่มอยากทดลองงานแม่บ้านคนใหม่เสียก่อน เขาต้องการความเป็นส่วนตัว

... และที่สำคัญไม่ต้องการให้ผู้หญิงคนไหนมายุ่งวุ่นวายกับชีวิตมากนัก

ในคราแรกคิดว่าเพื่อนรักจะส่งแม่บ้านวัยกลางคน หรือเป็นผู้ใหญ่มากกว่านี้ แต่คนที่นั่งพับเพียบอยู่บนพื้นพรมดูหน้าตาท่าทางยังเด็กนัก เขาคำนวณอายุคงประมาณยี่สิบต้นๆ ไม่ขาดไม่เกิน

ดลรวีลอบผ่อนลมหายใจเล็กน้อย เขาคิดว่าหญิงสาวตรงหน้าคงทำงานได้ไม่นาน และไม่แน่ใจว่าจะทำงานบ้านอะไรเป็นบ้าง แต่ยังไงก็ต้องพิสูจน์กันอีกทีว่ามีดีอะไร เพื่อนรักถึงได้ส่งแม่บ้านคนนี้มาให้เขา

“อ้าว...”

พิรันดาเผลออุทาน แต่พอปะทะกับสายตาคมที่ติดจะดุก็ก้มหน้างุด นึกค่อนขอดในใจที่เขาทำท่าทางเจ้าระเบียบเหมือนเดิม เขาจะเป็นแบบนี้กับผู้ใต้บังคับบัญชา แต่กับพี่ชายและเธอ ดลรวีมักยิ้มแย้มเป็นกันเอง

“เอาเป็นว่าฉันจะให้เธอลองพิสูจน์ความสามารถเป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์ นายพลคงบอกรายละเอียดกับเธอคร่าวๆ แล้วว่าต้องทำอะไรบ้าง แต่เดี๋ยวฉันจะบอกเธออีกครั้งเพื่อเป็นการย้ำให้ตระหนักในหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ เวลาหนึ่งอาทิตย์ถือว่าเป็นการทดลองงาน หากผ่าน... ฉันถึงจะรับเธอเข้าทำงานในตำแหน่งแม่บ้าน แต่ถ้าหากไม่ผ่าน จะจ่ายค่าแรงหนึ่งอาทิตย์ที่เธอมาทำงานให้เพื่อไม่เป็นการเอาเปรียบจนเกินไป และฉันคงต้องหาคนใหม่”

... คำพูดของชายหนุ่มทำให้พิรันดาลอบยิ้ม ไม่มีอะไรที่ยากเกินความสามารถของเธออยู่แล้ว เรื่องแค่นี้ง่ายมาก แต่พี่ดลของเธอยังเนี๊ยบเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน ดีที่เธอกลับมาทัน ไม่งั้นเขาคงชิงมีแม่บ้านตัดหน้าเธอไปก่อน

“ค่ะ จะให้หนูเริ่มงานวันไหนคะ”

พิรันดาแทนตัวเองว่าหนูเพราะเป็นความเคยชิน ประกอบกับอายุของเธอห่างจากเขาเกือบสิบสองปี

แม้ชายหนุ่มจะสะดุดกับคำเรียกแทนตัวเองว่า “หนู” แต่ดูจากหน้าตาท่าทางคงอายุยังน้อยอยู่ เขาจึงไม่คิดจะถือสาปล่อยให้เธอเรียกตามสบาย ไม่อยากบังคับทำให้อีกฝ่ายอึดอัดใจอะไรมากนัก

“วันนี้เธอสะดวกหรือเปล่า ยังไงเธอต้องย้ายเข้ามาอยู่ในบ้าน”

เขาถามเสียงเรียบ ยังสำรวจเธอไม่คลาดสายตา แต่เป็นไปอย่างสุภาพมากกว่าจะจาบจ้างหยาบคาย

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ B.J.BEN

ข้อมูลเพิ่มเติม

หนังสือที่คุณอาจชอบ

รสสวาทเขยบำเรอกาม

รสสวาทเขยบำเรอกาม

กาสะลอง
5.0

“อ๊ะ… อ๊อย... ” ดวงตาของฝ้ายคำหลับพริ้ม เม้มปากแน่น เมื่อโดนสามีกดใบหน้าแนบเน้นซุกไซ้เข้าหาความเป็นสาว ฉั่วๆ ๆ ๆ ๆ ๆ เสียงลิ้นสากเฉาะรัว ลากเลียเลยขึ้นเป็นจังหวะยาวๆ ตามรูปทรงของกลีบสวาท เบียดกันแน่นเป็นพูงามอร่ามอะร้าอยู่ตรงง่ามขาของหญิงสาวที่เข่าสองข้างโดนดันแบะอ้า แอ่นร่องสวาทให้สามีเบิร์นอย่างดิบเถื่อน “อ๊า... ซี้ด... อูย... เสียวค่ะ... ฮึ่ก” ทั้งที่หล่อนพยายามกัดฟัน เม้มริมฝีปากแน่น สะกดกลั้นเสียงคราง กลัวว่าจะหลุดออกมาน่าอาย หากความเสียวซ่านก็ทำให้เสียงของคนโดนเลียร่องหอย เล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากสั่นระริก ปลายลิ้นของอลังค์จุ่มจ้วงทะลวงเลียกลีบมาลีสีชมพูสดสวยอย่างโหยหา “อ๊า... อ๊า... อ๊า... ” หญิงสาวร้องครางตามจังหวะลิ้นปาดเลียรัวๆ สลับลากเสยขึ้นๆ ลงๆ ตามแนวความยาวของร่องสวาท เรียกน้ำเสียวของหญิงสาวให้สาดทะลักออกมาอย่างมิอาจสะกดกลั้นเอาไว้ได้ “อ๊า... ที่รักจ๋าฝ้ายเสียวเหลือเกิน... ซี้ดอูย... สะ... เสียวมาก” คนโดนจู่โจมหนอกเนินสวาท เปล่งเสียงร้องครางครวญออกมาอย่างซื่อสัตย์ต่อความรู้สึกของตัวเอง ปลายลิ้นของอลังค์เสียบรัวเข้าใส่กลีบบอบบาง โดนแบะบีบจนเบ่งบวมขึ้นมารับปลายลิ้น บดขยี้ลงบนความนุ่มอ่อน ไชชอนสำรวจซอกหลืบอย่างมีลีลา สมกับเป็นสายเบิร์นตัวจริง อลังค์ไม่ทำให้หญิงสาวผิดหวัง ทำเอาผู้หญิงสามคนที่กำลังมองดูภาพของการเล้าโลมสุดเร่าร้อนผ่านหน้าจอมอนิเตอร์จนเกิดอาการน้ำเดินไปตามๆ กัน

สามีเป็นถึงเศรษฐีพันล้าน

สามีเป็นถึงเศรษฐีพันล้าน

Davin Howson
5.0

ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวของเฉียวซิงเฉินหนีไปกับผู้หญิงอีกคน เธอโกรธมาก จึงสุ่มหาชายคนหนึ่งมาแต่งงานด้วยทันที "ตราบใดที่คุณกล้าแต่งงานกับฉัน ฉันก็ยอมเป็นเมียคุณ" หลังจากแต่งงาน เธอได้ค้นพบว่าสามีของเธอคือลูกชายคนโตของตระกูลลู่ที่ขึ้นชื่อว่าไร้ประโยชน์ ชื่อลู่ถิงเซียว ทุกคนเยาะเย้ยว่า "เธอยนี่ช่วยไม่ได้จริงๆ" และผู้ชายที่ทรยศเธอก็มาเกลี้ยกล่อมว่า "ไม่เห็นต้องทำร้ายตัวเองเพราะฉันหรอก สักวันเธอต้องเสียใจแน่ๆ" เฉียวซิงเฉินหัวเราะเยาะและโต้ตอบว่า "ไปให้พ้น ฉันกับสามีรักกันมาก" ทุกคนต่าก็คิดว่าเธอเป็นบ้า ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อตัวตนที่แท้จริงของลู่ถิงเซียวถูกเปิดเผย ที่แท้เขาเป็นคนรวยอันดับต้นๆในโลก ในการถ่ายทอดสดทั่วโลก ชายคนนี้คุกเข่าข้างเดียว ถือแหวนเพชรมูลค่าหลักพันล้าน และพูดช้าๆ ว่า "คุณภรรยา ชีวิตที่เหลือนี้ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ"

ภรรยากระดูกเหล็ก

ภรรยากระดูกเหล็ก

Kaleb Mugnai
4.9

[แนวลูกเด็กน่ารัก+สาวเก่ง+แก้แค้น]ฉวี่ชิงเกอแต่งงานกับฟู่หนานจิ่นมาเป็นเวลา 5 ปี เธอใช้ชีวิตเหมือนแม่บ้าน เธอคิดว่าตัวเองท้องแล้วจะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขาดีขึ้น แต่สุดท้ายสิ่งที่ได้มาคือ ข้อตกลงการหย่า เมื่อคลอดลูก ฉวี่ชิงเกอแทบจะไม่รอดเพราะมีคนทำร้าย เธอถึงรู้สํานึก ห้าปีต่อมา เธอกลายเป็น"ท่านประธานฉวี่"แล้วกลับมาแก้แค้น คนที่เคยรังแกเธอต่างก็ได้รับการสั่งสอนอย่างสะหัส และความจริงที่ถูกปิดบังไว้ก็ค่อย ๆ ถูกเปิดเผยออกมาก อดีตสามีคิดจะขอคืนดีกับเธอเหรอ คิดง่ายไปหน่อยไหม? ฟู่หนานจิ่นอ้อนวอน"ที่รัก ลูกต้องการหม่ามี๊ ขอแต่งงานใหม่ได้ไหม?"

รักใหม่พันล้าน

รักใหม่พันล้าน

Hilarius Erikson
5.0

เสิ่นชิงชิว หลานสาวของเศรษฐีที่รวยที่สุดในเมืองไห้ คบหาอยู่กับลู่จั๋วมาเป็นเวลาสามปีแล้ว แต่ความจริงใจของเธอกลับสูญเปล่า ลู่จั๋วปฏิบัติกับเธอเพียงในฐานะหญิงบ้านนอกคนหนึ่ง และทอดทิ้งเธอในวันแต่งงาน โดยไปหารักแรกของเขา หลังจากเลิกรากันอย่างเด็ดขาด เสิ่นชิงชิวก็กลับมามีสถานะเป็นสาวรวยอีกครั้ง ได้รับมรดกมูลค่าหลายร้อยพันล้าน และเริ่มต้นชีวิตที่รุ่งโรจน์ที่สุด แต่แล้วมักจะมีคนโผล่มาทไให้กับเธอหงุดหงิดอยู่เสมอ! ขณะที่เธอกำลังจัดการกับผู้ร้าย คุณชายฟู่ผู้มีอำนาจนั้นก็ปรบมือและโห่ร้องว่า "ที่รักของฉันสุดยอดมากจริงๆ"

ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย

ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย

l3oonm@
5.0

จือหลินเธอเป็นเด็กกำพร้า ที่ถูกมารดาทอดทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันแรกที่ลืมตามาดูโลก ต่อมาทางโรงพยาบาลจึงส่งตัวเธอให้กับสถานสงเคราะห์ พออายุได้สามปี ก็มีองค์กรหนึ่งมารับเลี้ยงตัวเธอ แต่พวกเขาเลี้ยงเธอและเด็กคนอื่นๆ ไว้เพื่อเป็นหนูทดลองเท่านั้น ครั้งแรกที่ถูกนำตัวมา ต่างก็โดนจับฉีดยาเข้าสู่ร่างกาย เพื่อหาเด็กที่เลือดต้านเชื้อที่ฉีดเข้าไปได้เท่านั้น หากร่างกายทนรับไม่ไว้สิ่งที่ทางองค์กรมอบให้คือความตาย จือหลินอาจเป็นเพราะเลือดของเธอพิเศษกว่าเด็กคนอื่น ไม่ว่าฉีดยาตัวไหนเข้าสู่ร่างกายเธอก็ทนรับได้ทั้งนั้น นับจากนั้นมาเธอจึงถูกเลี้ยงดูจากองค์กรมาอย่างดี เรื่องการศึกษาเธอก็สามารถเรียนรู้ทุกสิ่งได้อย่างเต็มที่ แต่เพราะความฉลาดของเธอจึงถูกส่งให้เรียนวิทยาศาสตร์การแพทย์และเรียนแพทย์ควบคู่ไปด้วย เมื่อเรียนจบมาแล้ว จือหลินยังคงทำการให้องค์กรเช่นเดิม แม้จะไม่ได้เป็นนักฆ่าเช่นเพื่อนคนอื่นที่มาพร้อมกัน แต่เธอก็ต้องฝึกไม่ต่างจากพวกเขา ยิ่งเมื่อต้องนำเด็กเข้ามาเป็นหนูทดลองเช่นเดียวกับเธอในตอนเล็ก ต่อให้ไม่อยากทำก็ต้องทำ หากฝ่าฝืนไม่ทำการชิปที่ถูกฝังอยู่ในตัวจะถูกกระตุ้นให้ได้รับความทรมานทันที นานวันเข้า ความดำมืดก็ก่อเกิดในใจ ไม่ว่าจะฉีดยาให้เด็กร้ายแรงเพียงใดจือหลินก็เลิกรู้สึกผิดไปเสียแล้ว เพราะการทำงานของเธอตลอดหลายปีที่ผ่านมาทำให้ทางองค์กรยกย่องและมักจะให้สิ่งดีๆ กับเธอเสมอ เมื่อมีชิปตัวหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อฝังมิติอีกห้วงหนึ่งไว้ภายในร่างกาย จือหลินนางก็ได้รับเลือกให้ทดลองใช้สิ่งนี้ด้วยเช่นกัน จือหลินถูกฝังชิปมิติเข้าที่แกนสมองของเธอ ความเจ็บปวดที่ได้รับทำให้เธอแทบสิ้นสติ เมื่อชิปถูกฝังลงไปแล้ว เพียงไม่นานก็มีเสียงจากระบบให้เธอยืนยันตัวตน ก่อนที่จะปรากฏภาพต่างๆ ภายในหัวของเธอ ของจากภายนอกล้วนแต่ถูกส่งเข้าไปเก็บไว้ด้านในได้ทั้งสิ้น หากเป็นเนื้อสด ผักผลไม้ ยังคงความสดอยู่เช่นเดิมแม้จะเก็บไว้นานมากเพียงใด ห้วงมิติของจือหลินเหมือนเป็นห้องสูทในคอนโดของเธอเองที่มีทุกอย่างพร้อมใช้อยู่ภายใน แม้แต่ห้องทดลอง ห้องทำงานของเธอก็ปรากฏอยู่ในนั้นเช่นกัน นับจากนั้นจือหลินจึงซื้อของเขาเก็บภายในมิติของเธอเป็นจำนวนมาก ตัวเธอเพียงผู้เดียวที่สามารถเข้าออกในห้วงมิติได้ วันเวลาผ่านไปจนจือหลินล่วงเข้าวัยสามสิบปี เธอสามารถผลิตยาที่ทำให้ทั่วโลกจับตามองออกมาได้ ยายื้อชีวิตจากความตาย แต่การทดลองของเธอที่ผ่านมาต้องใช้คนจำนวนมากในการเข้าทดลอง จือหลินสามารถยื้อชีวิตของชายชราที่กำลังจะหมดลมหายใจให้กลับมามีชีวิตปกติได้ เมื่อเธอกักตัวเขาไว้ได้หกเดือนเห็นว่าไม่มีสิ่งใดที่ผิดปกติจึงคิดจะปล่อยเขาออกไปใช้ชีวิตเช่นเดิม แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อชายชราที่กำลังจะเดินออกจากห้องทดลองล้มลงต่อหน้าทุกคนที่เข้าร่วมชื่นชมผลงานของเธอ จือหลินรีบเข้าไปตรวจดูความผิดปกติทันที ก็พบว่าเขาหยุดหายใจเสียแล้ว เจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงต้องพาชายชราคนนั้นกลับเข้าไปในห้องทดลองเพื่อหาสาเหตุ ผ่านไปเพียงสองครึ่งชั่วโมงเขากลับลืมตาขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ แต่แววตาที่มองมาทางทุกคนได้เปลี่ยนไป ในดวงตาของชายชราผู้นั้นมีเพียงตาขาวไม่มีตาดำเช่นคนมีชีวิต “เกิดเรื่องอะไรขึ้น” ผู้อำนวยการองค์กรเดินเข้ามาหาจือหลินแล้วเอ่ยถามอย่างตื่นตระหนก เพราะนักข่าวที่ข่าวเชิญมายังอยู่ที่ด้านนอกเพื่อรอฟังคำตอบ “ขอดิฉันตรวจสอบก่อนค่ะ” จือหลินกุมหน้าผากอย่างมึนงง เธอก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร คนทั้งหมดยืนมองชายชราที่เดินท่าทางประหลาดอยู่ในห้องทดลอง ในตอนนี้เขาเริ่มหยิบสิ่งของทำร้ายตัวเองอย่างบ้าคลั่ง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งรีบวิ่งเข้าไปในห้องทดลองเพื่อห้ามไม่ให้เขาทำร้ายตัวเอง ชายชราเมื่อได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาก็พุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว และเริ่มกัดกินเนื้อตัวของเขาอย่างโหดร้าย คนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดต่างยกมือขึ้นปิดปากอย่างตกใจ เพราะกลัวข่าวเรื่องนี้จะรั่วไหล ผู้อำนวยการสั่งให้คนไปแจ้งนักข่าวให้กลับไปก่อน ทางองค์กรจะแถลงการณ์เรื่องนี้ในภายหลัง เจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายล้มลงเสียชีวิตไม่นานก็มีสภาพไม่ต่างจากชายชราคนนั้น เสียงวุ่นวายไม่ได้จบลงที่ห้องทดลองของจือหลินเพียงแห่งเดียว เพราะห้องทดลองอื่นก็ล้วนพบเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ต่างกัน ผู้อำนวยการจำต้องส่งสัญญาณเคลื่อนย้ายเจ้าหน้าที่ออกจากตึกทดลองให้เร็วที่สุด จือหลินไม่รู้ว่ายาของนางจะสร้างผลเสียมากถึงเพียงนี้ เพราะเจ้าหน้าที่หลายคนล้วนจบชีวิตจนกลายเป็นซอมบี้ไปเสียแล้ว ตึกทดลองถูกปิดตาย เพื่อไม่ให้ซอมบี้ที่อยู่ด้านในออกมาสร้างความเสียหายภายนอกได้ “เรื่องนี้ดิฉันขอจัดการด้วยตนเองค่ะ” จือหลินเดินเข้าไปหาผู้อำนวยการที่ห้องทำงานของเขา เพื่อบอกสิ่งที่เธอคิดว่าอย่างดีแล้วในหลายวันที่ผ่านมา เมื่อเห็นว่าผู้อำนวยการไม่ห้ามในสิ่งที่เธอจะทำจือหลินจึงเดินไปที่หน้าตึกทดลองพร้อมระเบิดเวลาในมือ เธอคิดจะทำลายสิ่งของทุกอย่างที่เธอสร้างขึ้นมาลงด้วยมือของเธอเอง จือหลินเปิดประตูตึกทดลองแล้วรีบปิดลงทันที เธอเดินเข้าไปที่กลางตึกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะระหว่างทางเธอต้องคอยต่อสู้กับซอมบี้ที่จะเข้ามาทำร้ายเธอไปด้วย เสียงสัญญาณระเบิดดังขึ้น จือหลินหลับตาลง พร้อมทั้งถอนหายใจให้กับเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมา เสียงระเบิดดังไปทั่วบริเวณพร้อมทั้งตึกทดลองที่ถล่มลงมาจนแทบไม่เหลือซาก “เจ็บชะมัด” จือหลินร้องครางออกมาเบาๆ แต่เมื่อรู้สึกตัวได้เธอก็รีบพยุงตัวขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วพร้อมมองไปรอบๆ อย่างไม่อยากเชื่อ เธอคิดว่าตายไปแล้วเสียอีก แต่ทำไมถึงได้มีความรู้สึกเจ็บได้ “นี้มันเรื่องบ้าอะไรอีกว่ะเนี่ย” จือหลินเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ รอบๆ ตัวเธอในตอนนี้เป็นป่าทึบ มือของเธอก็ไม่ใช่ของเธออย่างแน่นอนเพราะมีขนาดเล็กราวกับเป็นเด็กน้อยคนหนึ่งเท่านั้น ตอนที่เธอมึนงงสับสน เรื่องราวความทรงจำของเจ้าของร่างก็ไหลเข้าสู่หัวของเธอจนต้องลงไปนอนดิ้นกับพื้น

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ