เพลิงรักเพลิงแค้น

เพลิงรักเพลิงแค้น

อัญญาณี

5.0
ความคิดเห็น
122.3K
ชม
91
บท

“คุณคมน์ฟังหนูนาก่อนค่ะ ได้โปรดฟังหนูนาก่อน” เธอยังคงพูดประโยคนี้ซ้ำไปซ้ำมา หวังจะให้เขายอมฟังเสียงนกเสียงกาอย่างเธอบ้าง หากปล่อยเอาไว้อย่างนี้มีหวังเธอกับประสงค์ต้องตายแน่นอน คมน์เวลานี้ไม่เหมือนคมน์ที่เธอเคยรู้จักเลย เขาคือปิศาจร้ายชัดๆ “จะตอแหลอะไรล่ะ จะตอแหลอะไร ฉันไม่เชื่องูพิษอย่างเธอหรอก อุตส่าห์เลี้ยงอย่างดี ทะนุถนอม ยังริอ่านไปนอกใจฉันไปมีอะไรกับไอ้หน้าอ่อนนั่นอีก วันนี้เธอกับชายชู้ได้ตายคามือคาเท้าฉันแน่...ว้าย..โอ๊ย” สิ้นคำพูดของคมน์ ร่างอรชรถูกเหวี่ยงลงบนพื้นห้องอย่างแรง เสียงแสดงความตกใจจึงหลุดออกมาจากลำคอสาว ตามด้วยเสียงร้องแสดงความเจ็บปวดเมื่อศีรษะของเธอกระแทกโดนมุมโต๊ะตัวเล็กที่วางหนังสือพอดี “สมน้ำหน้า แต่เธอไม่ได้ตายตรงนี้หรอก” เขาไม่รู้สึกสงสารหรือว่าเมตตารุจิเรศแม้แต่นิดเดียว ตรงกันข้ามสะใจเสียมากกว่า ร่างบอบบางลุกขึ้นยืนเดินถอยหลังหนีไปสามสี่ก้าว ก่อนจะยกมือนุ่มมาจับบริเวณที่ศีรษะกระแทก มันแค่ปูดขึ้นมาเล็กน้อยเท่านั้น “คุณคมน์ไม่มีเหตุผล ทำไมคุณคมน์ไม่ฟังหนูนาก่อนล่ะคะ” น้ำเสียงของเธอตัดพ้อและน้อยใจ “ไม่ฟัง เพราะสิ่งที่ฉันได้ยินมันบอกฉันหมดทุกอย่างแล้ว ร่าน...คำๆ นี้คงไม่เหมาะสมกับเธอเท่าไหร่ น่าจะเหมาะกับคำว่า เสี้ยน หรือไม่ก็คันมากกว่า ถึงได้แวะกลางทางให้ไอ้หน้าอ่อนมันช่วยเกาให้ ทำไม มันหนุ่มกว่าฉัน หรือว่ามันเก่งเรื่องบนเตียงกว่าฉัน ถึงได้หายไปครึ่งค่อนวันแบบนี้ เสี้ยนไม่รู้จักพอเหมือนแม่ของเธอไม่มีผิด”

บทที่ 1 1

1

หญิงสาวคนหนึ่งนั่งกอดเข่าอยู่มุมห้อง ภายในห้องมืดสนิทไร้แสงไฟ แม้แต่พระจันทร์ที่เคยส่องแสงทุกค่ำคืน คืนนี้กลับถูกเมฆบดบัง น้ำตาของรุจิเรศไหลรินตั้งแต่ถูกพาตัวมาอยู่ห้องนี้ ในความรู้สึกเธอ มันคล้ายกับคุกมืดในหนังเรื่องหนึ่งที่เคยดูเหลือเกิน มีทั้งกลิ่นอับชื้น แมลงสาบที่ไต่ตามขาและแขนของเธอ เสียงหนูที่ดังไม่หยุด นั่นไม่เท่ากับเสียงตุ๊กแกร้องประสานกันหลายตัว เธอไม่รู้ว่าสัตว์ทั้งหลายเหล่านี้อยู่ตรงไหนบ้าง เพราะดวงตาของเธอนั้นมองเห็นอยู่อย่างเดียวคือ ความมืดมิด รุจิเรศจึงเลือกที่จะนั่งอยู่ตรงนี้ ไม่ขยับเขยื้อนไปไหน

เสียงไขกุญแจดังอยู่ตรงประตู ก่อนที่ประตูนั้นจะถูกเปิดออก แสงไฟที่อยู่หน้าห้องส่องกระทบกับดวงหน้าหวาน จนเธอต้องหรี่ตาลงเพื่อลดอาการแสบตา ร่างของบุรุษสูงใหญ่ยืนเด่นตระหง่านอยู่หน้าประตูห้อง จ้องมองมายังร่างสาวไม่ไหวติง ความแค้นเคืองถูกเปล่งประกายวาบวับมาจากดวงตาคู่นั้น

“ป้าพุ่ม เอาตัวคุณหนูสกปรกคนนี้ไปอาบน้ำอาบท่าให้เรียบร้อย แล้วพาขึ้นไปหาฉันที่ห้อง”

บุรุษคนนั้นสั่งเสียงเย็นเฉียบ คำพูดที่เย็นเฉียบที่ไหลเข้ามาในหูของเธอนั้น ทำให้หัวใจดวงน้อยเกิดความหนาวเหน็บขึ้นฉับพลัน หนาวลึกลงไปถึงก้นบึ้งของหัวใจ ยิ่งคำพูดของเขาในประโยคท้าย จุดเยือกแข็งของความหนาวบังเกิดขึ้นในจิตใจของเธอทันที เวลาที่เธอไม่อยากให้มาถึง กำลังคืบคลานเข้ามาหาเธออย่างเชื่องช้า พอเขาพูดจบร่างงามสง่าก็หมุนกายเดินออกไปจากหน้าประตูทันที ก่อนที่ร่างของป้าพุ่มจะเดินเข้ามาในห้อง

“ไปค่ะ ไปอาบน้ำ”

ป้าพุ่มหญิงวัยห้าสิบเจ็ดปีเดินเข้ามาหาร่างเล็กที่ใบหน้ามีแต่คราบน้ำตาม เนื้อตัวมีแต่รอยฝุ่น ทำให้บดบังความขาวของสีผิว

“หนูนาไม่อยากไป” รุจิเรศพูดทั้งน้ำตา สะอื้นไห้ราวกับเด็กหลงทางหาทางกลับบ้านไม่ถูก ใช่ ตอนนี้เออยากกลับบ้านมากที่สุด แม้ว่าที่นั่นจะเป็นนรกสำหรับเธอตั้งแต่เกิดก็ตาม แต่ยังดีกว่าอยู่ที่นี่ อยู่กับคนที่ไม่รู้จัก อยู่กับสถานที่ที่ไม่คุ้น อยู่กับชายร่างใหญ่เจ้าของเสียงดุจน้ำแข็งคนนั้น

“คุณต้องไปค่ะ ถ้าคุณไม่อยากให้พ่อของคุณ หรือว่าคนในครอบครัวของคุณต้องเดือดร้อน”

ป้าพุ่มพูดอย่างใจเย็น น้ำเสียงไม่แข็งกระด้างมากเกินไป แต่ก็ไม่อ่อนหวาน นางพูดด้วยเหตุผล เหตุผลที่จะทำให้รุจิเรศไปกับนางแต่โดยดี

รุจิเรศนึกถึงบิดา นึกถึงครอบครัวที่อีกฝ่ายพูดออกมา ตั้งแต่จำความได้เธอเคยมีคำว่า ครอบครัว กับเขาด้วยหรือ เท่าที่จำได้อ้อมกอดของคนที่เป็นพ่อจะโอบกอดเธอไม่เกินสิบครั้งตั้งแต่เธอเกิดมา พี่สาวฝาแฝดต่างมารดาก็หาได้นับถือว่าเธอเป็นน้องสาวไม่ โขกสับเธอยิ่งกว่าทาสในเรือนเบี้ย โดยที่บิดาไม่เคยห้ามปรามเลยสักครั้งเดียว ดีที่ว่าท่านยังให้ที่พักพิง ส่งเสียให้ร่ำเรียนหนังสือ เธอมีความคิดอย่างหนึ่งว่า การศึกษาจะทำให้เธอมีชีวิตที่ดีขึ้น หาเงินเลี้ยงตัวเอง

คำว่าบุญคุณทีมีต่อผู้ให้กำเนิด ความรักบิดาที่มีอยู่อย่างเต็มเปี่ยมในหัวใจ แม้ว่าเธอจะไม่เคยได้รับความรักนั้นตอบกลับมา ทำให้เธอตัดสินใจจะมาเป็นนางบำเรอ ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ของบิดา เป็นการทดแทนบุญคุณที่เธอไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้

“หนูนากลัว” เธอพูดออกไปเสียงสั่นเครือ ยังไม่ยอมลุกไปไหน

“ความกลัวคือสิ่งที่คุณต้องเผชิญเมื่ออยู่ที่นี่ อย่าลืมสิคะ คุณพ่อของคุณตกลงอะไรไว้กับคุณคมน์ ถ้าคุณไม่ลุกก็ไม่มีใครว่านะคะ แต่พ่อและครอบครัวของคุณก็เตรียมตัวเตรียมใจเอาไว้ได้เลย”

ป้าพุ่มไม่พูดต่อว่าบิดาและครอบครัวของรุจิเรศต้องเจอกับอะไรบ้าง เพราะนางเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่า สิ่งที่คมน์จะมอบให้กับคนในตระกูล ธนากรดิรก รวมทั้งสาวร่างเล็กคนนี้เลือดเนื้อเชื้อไขของผู้หญิงที่ชื่ออังคณานั้น ไม่รู้ว่าจะมากมายแค่ไหน สิ่งที่นางสัมผัสได้จากคมน์ก็คือ ความโหดเหี้ยมที่มีอยู่อย่างเต็มเปี่ยม บวกกับความอาฆาตที่เกาะกินในใจของคมน์มานานนับยี่สิบเอ็ดปี มันมากมายนัก มากเกินกว่าที่ใครจะประมาณได้

รุจิเรศค่อยๆ ชันกายลุกขึ้นอย่างเชื่องช้า น้ำตาไหลรินออกมาอีกระลอก เสียงสะอื้นหนักขึ้นกว่าเดิม ป้าพุ่มประคองสาวร่างบางที่มีอาการอ่อนเพลีย ออกไปจากห้องเก็บของที่อยู่ชั้นใต้ดินของบ้านราชพฤกษ์ ตัวหญิงสาวไปขัดสีฉวีวรรณ เพื่อที่คืนนี้รุจิเรศจะต้องสังเวยร่างกายให้กระทิงดุผู้บ้าคลั่งในความแค้น พร้อมจะขวิดกระต่ายน้อยที่เขาหมายตาเอาไว้ตั้งแต่เกิด เขารอมาถึงยี่สิบเอ็ดปี รอจนกว่าเนื้อกระต่ายน้อยจะหวานได้ที่ เพื่อที่เขาจะได้ชิมและชำระแค้นอย่างสาสมใจ

<><><><><><><><><>

เท้าเล็กๆ ที่เดินตามร่างของป้าพุ่มค่อนข้างสั่น บางครั้งเธอมีความรู้สึกว่าขาทั้งสองข้างแทบจะยกไม่ขึ้น ดวงตาเศร้ามองบันไดไม้ขัดเงาเนื้อดีที่ทอดตัวสู่ชั้นที่สองของบ้านด้วยหัวใจสั่นไม่เป็นจังหวะ อยากจะหมุนตัวกลับแล้ววิ่งออกไปจากบ้านหลังนี้ แต่ก็ทำไม่ได้อย่างที่ใจคิดอีก ภาระที่เธอแบกไว้บนบ่ามันมากมายเกินกว่าจะหันหลังกลีบ มีแต่เผชิญหน้าและยินยอมเท่านั้น

“คุณคมน์ไม่ชอบให้ใครขัดใจโดยเฉพาะผู้หญิง คุณคมน์สั่งให้ทำอะไรก็ทำเข้าใจมั้ย?”

ป้าพุ่มหันมาบอกสาวร่างเล็กที่ยืนมองนางตาแป๊ว ใสซื่อบริสุทธ์จนนางเองอดที่จะสงสารไม่ได้ หากรุจิเรศไม่ใช่สายเลือดของอังคณาก็จะดีไม่น้อย คมน์อาจจะเมตตาปราณีไม่ใจร้ายกับเธอมากเกินไป จนต้องคลานลงเตียงเหมือนกับหญิงสาวบางคนที่เดินเข้ามาในชีวิตของคมน์ ป้าพุ่มสังเวชในใจยิ่งนักเมื่อมองร่างกายที่เล็กแกนของสาวตรงหน้า ไม่รู้ว่าจะทนคมน์ได้มากน้อยแค่ไหน ไม่ช็อกตายในครั้งแรกก็ถือว่าเก่งแล้ว

“คุณคมน์ดุเหรอคะป้า?” น้ำเสียงของคนที่ถามออกจะขลาดๆ

“กับบางคนเท่านั้น ตามป้าขึ้นมาได้แล้วคุณคมน์ไม่ชอบคอยผู้หญิงใครนานด้วย”

เป็นอีกเรื่องที่รุจิเรศต้องรู้เอาไว้ คมน์ไม่ชอบคอยผู้หญิงคนไหนนาน เพราะเขาคิดว่าผู้หญิงที่ซื้อมาได้ด้วยเงิน ต้องตรงต่อเวลาทำงานให้เต็มที่กับเงินที่เขาเสียไป ทางทอดยาวของบันไดที่เธอเดินขึ้นไปนั้น ทำไมมันสั้นเหลือเกินในความรู้สึกของเธอ เออยากให้มันมีสักพันขั้นจะได้ประวิงเวลาไว้ให้นานที่สุด มันไม่เป็นอย่างที่คาดหวัง บันไดเพียงยี่สิบเก้าขั้นเดินไม่ถึงหนึ่งนาทีก็ถึงแล้ว

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ อัญญาณี

ข้อมูลเพิ่มเติม
สวาทรัก อสูรร้าย

สวาทรัก อสูรร้าย

มหาเศรษฐี

5.0

"คนอย่างเธอความเจ็บปวดแค่นี้มันยังน้อยเกินไป เธอต้องเจ็บเหมือนกับที่มินามิเจ็บ และต้องเจ็บยิ่งกว่าหลายร้อยเท่า ฉันจะทำให้เธอตายอย่างช้าๆ แต่ทุกข์ทรมานแสนสาหัส เธอจะไม่ได้ยินหรือสัมผัสกับความอ่อนโยนเมตตาจากฉัน สิ่งที่ฉันจะมอบให้เธอมีเพียงความเกลียดชังเท่านั้น จำใส่กะโหลกไว้" เรียวเหวี่ยงร่างงามไปที่เตียงนอนอย่างแรง มือหนาจับที่ข้อเท้าของเธอไว้แน่นเมื่อรู้ว่าเธอกำลังกระเถิบตัวหนี "หนีสิ หนีเลย ถ้าเธอหนี คนที่ตายเป็นคนแรกคือแม่ของเธอ ฉันจะให้แม่เธอตายเหมือนหมูเหมือนหมาข้างถนน เหมือนกับที่เธอฆ่าแม่ของฉัน" ดวงตาเขาเปล่งแสงแรงกล้าของความอาฆาต เมื่อนึกถึงข้อนี้อยากจะฆ่าหญิงสาวตรงหน้าให้ตายตามมารดาและคนที่เขารัก แต่ความตายอาจจะไม่ทำให้เขาสะใจ นอกจากกระกระทำต่อไปนี้ที่สะใจเขามากที่สุด ทรรศิกาหยุดดิ้นรนขัดขืน เขาจึงปล่อยข้อเท้าของเธอให้เป็นอิสระ จัดการปลดเปลื้องเสื้อผ้าต่อหน้าเธอ ความกลัวเริ่มเกาะกินจิตใจของเธอมากขึ้นเรื่อยๆ อยากจะวิ่งหนีออกไปจากที่นี่ แต่เมื่อนึกถึงมารดา ทำให้เธอก้มหน้ารับชะตากรรมที่กำลังจะเกิดขึ้น เรื่องที่คุณน่าจะสน

ชิงรัก

ชิงรัก

มหาเศรษฐี

5.0

ความอิจฉาน้องสาวต่างมารดาคือจุดเริ่มต้นของแผนการ “ชิงไอศูรย์” มาเป็นของตน เธอจึงใช้เล่ห์เหลี่ยมง่ายๆ คือวางยานอนหลับเขา พอตื่นขึ้นมาก็จะติ๋งต่างว่า เขากับเธอมีอะไรกัน ทว่าแผนเกิดผิดพลาด ยาที่ผสมในไวน์กลับเป็นยาปลุกเซ็กซ์ ผลที่ออกมาคือ ไอศูรย์มีความสัมพันธ์ทางกายกับเธอจริงๆ ในที่สุด ชเนตตีได้แต่งงานกับเขาตามตั้งใจ ทว่าผลที่ออกมา ไม่ได้เป็นไปตามที่คิดไว้ “เนยใส่อะไรในแก้วไวน์ของพี่ใช่ไหม ไม่อย่างนั้นพี่จะไม่มีวันอยู่ในสภาพแบบนี้” เขาถามอีกครั้งเมื่อเห็นอีกฝ่ายเงียบ เสียงที่ถามเข้มห้วน ใบหน้ายังคงเรียบตึง สายตาถมึงทึงใส่ร่างอวบที่ย่นคอหนีน้ำเสียงแผดกร้าว “ตอบพี่มา” “ใส่อะไร เนยไม่รู้เรื่อง…ฮือ…พี่เจย์ทำผิดแล้วอย่ามาโทษว่าเนยวางยาพี่นะ…ฮือ” เธอยังคงปากแข็งต่อไป หลบสายตาแข็งกร้าวพัลวัน

ลิขิตรักพญามาร

ลิขิตรักพญามาร

มหาเศรษฐี

5.0

“ว้าย!!..” เธอร้องได้เพียงเท่านั้น ก่อนที่ปากของหยาดน้ำค้างจะถูกมือใหญ่ของใครบางคนปิดเอาไว้ ลำแขนอีกข้างรัดร่างน้อยไว้แน่น ก่อนจะลากไปที่พุ่มไม้รกข้างทาง “อย่าดิ้น อย่าร้อง ไม่งั้นจะจับปล้ำมันตรงนี้แหละ” เสียงที่พูดชิดเรียวหูสะอาด ทำให้เธอรู้ว่าเจ้าของเสียงนั้นคือใคร..เหมันต์ วิเศษเดโช เขาดันร่างเล็กให้แผ่นหลังแนบชิดกับต้นไม้ใหญ่ขนาดสี่คนโอบ ใช้ลำแขนกักร่างบางเอาไว้ “ปล่อยนะ” หญิงสาวพูดเสียงเบาทว่าหนักแน่น เธอไม่กล้าพูดเสียงดังมาก เพราะกลัวว่าคนที่เดินผ่านไปผ่านมาจะได้ยิน “ไปกล่อมพ่อหรือกล่อมลูกมาล่ะ ถึงได้อ้อยอิ่งเป็นชั่วโมงแบบนี้” น้ำเสียงของเหมันต์เขียวเหมือนกับใบหน้าที่เขียวคล้ำด้วยความโกรธ “มันเรื่องของฉัน..คุณไม่เกี่ยว..เราไม่มีอะไรต่อกันแล้ว คุณก็ได้ในสิ่งที่คุณต้องการแล้วนี่ จะมาเอาอะไรกับฉันอีก ปล่อยนะ ฉันจะกลับที่พัก” หยาดน้ำค้างพยายามดิ้นรนหนีพันธนาการที่รัดร่างอยู่ แต่ทว่าลำแขนของเขานั้นหาได้คลายออกไม่ ยิ่งรัดแน่นมากกว่าเก่า เมื่อได้ยินวลีของเธอ “ทำไมผมจะไม่เกี่ยว ในเมื่อน้ำค้างเป็นเมียของผม..เป็นเมีย หรือว่าจำไม่ได้ว่าเราสองคนมีความสุขกันมากแค่ไหน” เขาเท้าความหนหลังให้เธอได้ฟัง ฝ่ายหญิงนิ่งเงียบกับคำพูดของเขา เธอไม่เถียงว่ามีความสุขมากแค่ไหนเวลาได้อยู่ใกล้ชิดกับเรือนกายที่แสนแข็งแรงและอบอุ่น หากแต่ความทุกข์และความเสียใจที่เธอได้รับนั้นมันก็มากมายเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นความสุขหรือว่าความทุกข์ เธอก็ไม่มีวันลืมเช่นกัน และไม่มีทางจะกลับไปจมกับความทุกข์อีกแล้ว “ฉันไม่ใช่เมียคุณ..ถ้าคุณคิดว่าการที่เรามีอะไรกันแล้วฉันจะเป็นเมียคุณ พี่ว่านก็ต้องเป็นสามีของฉันเหมือนกัน” หยาดน้ำค้างคิดว่าวิธีนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุด วิธีที่เขาไม่มีทางมายุ่งเกี่ยวกับเธออีก อ้อมแขนที่รัดร่างนิ่มคลายออกโดยอัตโนมัติ หัวใจของคนที่ฟังเต้นเร็ว ดวงตาคมเข้มสีดำเรืองแสงในความมืดที่โรยตัวไปทั่วบริเวณ บ่งบอกอะไรหลายอย่างในแววตา เสียใจ ไม่คาดฝัน ไม่แน่ใจ

สะใภ้สุดขั้ว แม่ผัวสุดขอบ

สะใภ้สุดขั้ว แม่ผัวสุดขอบ

มหาเศรษฐี

5.0

จะกี่หมัดก็ไม่หวั่น กี่ยกก็ไม่กลัว เธอจะ Knock Out ด้วยหัวใจติดปลายนวม ภัทรียายินดีสานต่อค่ายมวยและรับผิดชอบหนี้สินรุงรังต่อจากพ่อซึ่งเสียชีวิต แต่ ณ วันนี้หนี้สินสามปีที่ผัดผ่อนมาตลอดทำให้เธอมืดแปดด้าน ไม่ว่าความหวังแสนริบหรี่แค่ไหน เธอก็คว้าไว้อย่างไม่รอช้า ไม่เว้นแม้แต่การเป็นภรรยาหลอกๆ ต่อให้ต้องโดนแม่สามีดูถูกทุกขณะ น้องสาวสามีจ้องเหยียดชาติกำเนิดทุกครั้งที่เจอหน้า ภัทรียาก็ไม่หวั่นเกรงแม้แต่น้อย เพราะเธอคือ... ‘มะปราง ลูกจ่าดาบ ศิษย์จอมทอง’ นักมวยสาวหุ่นกระชากใจหนุ่มๆ หากไม่เพราะกำลังจะถูกแม่จับคลุมถุงชน ธัชธรรมจึงต้องเลือกใช้วิธีสิ้นคิด จ้างนักมวยสาวหมัดหนักที่กำลังร้อนเงินมาเป็นภรรยากำมะลอ จดทะเบียนจริง อยู่ด้วยกันจริง...และทำท่าว่าจะต้องอยู่ด้วยกันอีกนาน รออีกอย่างเดียวเท่านั้น... รอให้สะใภ้กำมะลอยอมเป็นภรรยาตัวจริงของเศรษฐีหนุ่มหล่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

โชคชะตาของพระชายา

โชคชะตาของพระชายา

Raff Madison
3.8

ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"

จิตวิญญาณข้าถูกผนึก

จิตวิญญาณข้าถูกผนึก

Hyatt Bamberg
5.0

อวิ๋นหลาน นักฆ่าอันดับหนึ่งแห่งศตวรรษที่ 25 ได้ข้ามภพและเกิดใหม่ในร่างของหญิงสาวผู้ไร้ประโยชน์ซึ่งมีชื่อเดียวกันในจวนเทพเจ้าแห่งสงคราม รากวิญญาณถูกทำลายไป? บำเพ็ญวิชาไม่ได้? คู่หมั้นถอนหมั้น? ทุกคนหัวเราะเยาะนาง? การควบคุมอสูร ยาพิษ ยาลูกกลอนปีศาจ อาวุธลับ...นางจัดการได้อย่างสบายๆ อดีตผู้ไร้ค่า แต่บัดนี้มาแก้แค้นชาาเจ้าชู้ เอาคืนทุกคนที่รังแกตนเอง ได้ประสบความสำเร็จ และขึ้นไปสู่จุดสูงสุด ผู้แข็งแกร่งอย่าคิดจะทำอะไรตามใจ ผู้อ่อนแออย่าท้อแท้ กล้ามารุกรานข้า งั้นก็อย่าหาว่าข้าไม่เตือนก็แล้วกัน เขาเป็นจ้าวแห่งอาณาจักรปีศาจ ชอบเอาใจนาง นางฆ่าคน เขาช่วยปิดปาก นางทำลายศพ เขาช่วยกำจัดหลักฐาน เขายอมทำทุกอย่างเพื่อนาง ชีวิตนี้ยอมร่วมทุกข์ร่วมสุขไม่ทอดทิ้งกัน

บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง

บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง

มาชาวีร์
4.7

หลี่เมิ่งเหยาย้อนเวลามาอยู่ในร่าง ของเด็กสาววัยสิบสองปี ในวันที่มารดาอนุผู้โง่เขลา ถูกขับไล่ออกจากจวน โชคยังดีที่ตอนตาย นางสวมกำไลหยกโลกันตร์เอาไว้ มันจึงติดตามนางมาที่นี่ด้วย +++ 1 : มารดาโง่ จนถูกไล่ออกจากตระกูล จวนตระกูลหลี่เจ้าเมืองถัง สตรีสองนางถูกสาวใช้จับคุกเข่าลง ตรงหน้าของหลี่หงซวนเจ้าเมืองถัง ทั้งยังเป็นพ่อสามีของทั้งคู่อีกด้วย ท่านกำลังสอบสวนเรื่องของสะใภ้ใหญ่ของบ้านสาม ถูกฮูหยินรองกับอนุรวมหัวกันลอบทำร้าย ด้วยการวางยาขับเลือดในถ้วยน้ำแกงบำรุงครรภ์ ทำให้นางต้องสูญเสียทารกในครรภ์ไป “ท่านพ่อข้าไม่รู้จริง ๆ ว่านั่นเป็นยาขับเลือด ฮูหยินรองบอกว่าเป็นน้ำแกงบำรุงครรภ์ ให้ข้าเป็นคนนำไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ เป็นนางนั่นเอง นางหลอกข้า !” เฉาซูหลิ่งชี้นิ้วไปทางสตรีด้านข้าง ร้อนรนเอ่ยออกมาเหมือนคนไม่ได้รับความเป็นธรรม “อนุเฉาเจ้าอย่ามาใส่ร้ายข้านะ เจ้าทำคนเดียวทั้งนั้นไม่เกี่ยวกับข้าเลย” ฮูหยินรอง ถูซวงอี้ ชี้นิ้วใส่หน้าเฉาซูหลิ่งกลับคืน ต่างคนต่างโยนความผิดให้กัน ฮูหยินผู้เฒ่าหลิวเยี่ยนหนานโบกมือให้คนเข้ามา “ข้าให้โอกาสพวกเจ้าสองคนพูดความจริง แต่กลับไม่มีใครยอมรับความผิดแม้แต่คนเดียว มันน่าจับส่งทางการให้รู้แล้วรู้รอด” พ่อบ้านหลัวให้คนลากสาวใช้คนหนึ่งเข้ามา สภาพของนางถูกทรมานจนเนื้อตัวบวมช้ำไปหมด “เรียนนายท่านข้าให้คนไปค้นห้องสาวใช้ทุกคนในจวน พบเทียบยาซ่อนไว้ใต้หมอน จากห้องของสาวใช้คนนี้ขอรับ” ถูซวงอี้ถึงกับคุกเข่าต่อไปไม่ไหว ทิ้งตัวลงไปนั่งอยู่บนพื้น สาวใช้ที่ถูกทรมานจนสภาพน่าเวทนานั่น เป็นเสี่ยวอิงสาวใช้สินเดิมของนางเอง “ฮูหยินรอง ข้าขอโทษ ข้าทนต่อไปไม่ไหวจริง ๆ ข้าขอโทษ !” เสี่ยวอิงโขกศีรษะลงตรงหน้าของถูซวงอี้แรง ๆ น้ำตาไหลนองหน้าจน แทบไม่เป็นผู้เป็นคนอยู่แล้ว พ่อบ้านหลัวเอ่ย “ข้าให้คนไปถามที่หอโอสถแล้วขอรับนายท่าน เป็นเทียบยาขับเลือดจริง ๆ” หลี่หงซวนมองไปทางบุตรชายคนที่สามของตน พบว่าเขามีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก สตรีที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าคือฮูหยินรอง กับอนุภรรยาที่เขารักใคร่ไม่ต่างกัน เหตุใดถึงได้คิดร้ายต่อฮูหยินใหญ่ของเขาได้ เป็นเหตุให้เขาต้องสูญเสียลูกที่อยู่ในท้องของนางไป เดิมทีฮูหยินใหญ่ของเขาก็ตั้งท้องยากอยู่แล้ว เขารอมาตั้งนานกว่าจะมีวันนี้ได้ ไม่คิดมาก่อนว่าจะต้องสูญเสียไปเช่นนี้ “หย่วนเจ๋อนี่เป็นเรื่องในเรือนของเจ้า เจ้าอยากตัดสินเรื่องนี้ด้วยตัวเองหรือไม่” ผู้เป็นบิดาเอ่ยถามบุตรชาย “ไม่ ข้าไม่อยากเห็นหน้าพวกนางอีกต่อไป แล้วแต่ท่านพ่อเถอะขอรับ ข้าขอตัวไปดูฮูหยินใหญ่ก่อน” หลี่หย่วนเจ๋อคำนับบิดา สะบัดแขนเสื้อเดินจากไปในทันที หางตายังไม่แม้แต่จะมองสตรีทั้งสองนาง เฉาซูหลิ่งลนลานตามเขาไป “ท่านพี่ช่วยข้าด้วย ข้าไม่ผิดนะเจ้าคะ ท่านพี่ !” แต่ถูกบ่าวรับใช้ขวางทางเอาไว้ หลี่หงซวน “หยุดโวยวายได้แล้วอนุเฉา เจ้าเป็นคนถือถ้วยน้ำแกงใส่ยาขับเลือด ไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ด้วยตัวเอง ยังคิดจะหนีความผิดนี้ไปได้อีกรึ” “ท่านพ่อขะข้าข้า...ไม่ผิด” เฉาซูหลิ่งทิ้งตัวไปด้านหลังอย่างหมดเรี่ยวแรง เดิมทีนางก็ไม่เป็นที่โปรดปรานของพ่อแม่สามีอยู่แล้ว เพราะไม่สามารถให้กำเนิดบุตรชายได้ ครั้นได้บุตรสาวก็นิสัยขี้ขลาดขี้กลัว ไหนเลยจะเชิดหน้าชูตาให้ตระกูลหลี่ได้ เฉาซูหลิ่งนั่งเหม่อลอย คล้ายคนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ขณะที่หลี่หงซวนกำลังประกาศโทษทัณฑ์ของพวกนาง ถูซวงอี้กับคนของนาง ถูกขายออกจากจวน ไปอยู่หอนางโลมอย่างเงียบ ๆ ชาตินี้อย่าได้ก้าวเท้า กลับมาเหยียบที่จวนตระกูลหลี่อีก ส่วนเฉาซูหลิ่งถูกขับไล่ออกจากจวน ไปพร้อมกับบุตรสาว ให้ไปอยู่เรือนร้างของตระกูลหลี่ที่เมืองฉาง ห้ามกลับมาที่ตระกูลหลี่อีกชั่วชีวิต “ท่านพ่อท่านขับไล่ข้าไป ข้ายังพอรับได้ เหตุใดต้องขับไล่เหยาเอ๋อร์ไปด้วย นางเพิ่งจะสิบสองปีเองนะเจ้าคะ” เฉาซูหลิ่งนึกถึงบุตรสาวร่างกายผ่ายผอม นอนซมเพราะพิษไข้อยู่ เกิดนึกสงสารนางขึ้นมาจับใจ ฮูหยินผู้เฒ่าหันไปมองสามีเล็กน้อย นางเห็นเด็กสาวคนนั้นมาตั้งแต่เกิด แม้ไม่ได้เอ็นดูแต่ก็นับว่าเป็นสายเลือดเดียวกัน “ฮูหยินเรื่องนี้ข้าตัดสินใจไปแล้ว ไม่อาจคืนคำได้” คำพูดของประมุขของตระกูล มีหรือใครจะกล้าขัด เฉาซูหลิ่งปล่อยเสียงร้องไห้โฮออกมาดัง ๆ นางโง่งมจนทำให้บุตรสาว ต้องมารับเคราะห์กรรมตามไปด้วย “ลากตัวอนุเฉาออกไป หารถม้าสักคันให้คนส่งนาง ไปที่เรือนร้างเมืองฉาง” คำสั่งของหลี่หงซวนเป็นคำขาด บ่าวไพร่รีบทำตามในทันที ครั้นได้อยู่ด้วยกันเพียงลำพังกับฮูหยินผู้เฒ่า หลี่หงซวนถึงได้บอกเหตุผล ที่ต้องตัดสินใจทำเช่นนี้ นั่นเพราะตระกูลจี้ได้ยื่นคำขาดมา ให้ขับไล่พวกเขาออกไปให้หมด อย่าให้เหลืออยู่แม้แต่ตนเดียว ไม่ต้องการให้คนที่ทำร้ายบุตรสาวของพวกเขา อยู่ระคายสายตาของจี้ชิวหรงอีกต่อไป ฮูหยินผู้เฒ่าแค่นออกมาหนึ่งคำ “อ้างเหตุผลข้าง ๆ คู ๆ ความจริงแล้วต้องการกำจัดอนุในเรือนบุตรสาวทิ้งให้หมด นี่กระทั่งเด็กคนหนึ่งก็ไม่เว้น แต่ก็เอาเถอะ เหยาเอ๋อร์อยู่ที่นี่ ก็ใช่จะมีประโยชน์อันใด นางไม่ได้อยู่ในสายตาของพวกเราด้วยซ้ำ ให้นางไปกับแม่ของนางนั่นแหละดีแล้ว” หลี่หงซวนนั้นเป็นเพียงเจ้าเมืองเล็ก ๆ มีตำแหน่งเป็นขุนนางขั้นที่ห้า ฝั่งตระกูลจี้บ้านเดิมของจี้ชิวหรงนั้น อยู่ในเมืองหลวงมีตำแหน่งใหญ่โตกว่าหนึ่งขั้น เรื่องนี้เขาจึงต้องขบคิด ถึงผลได้ผลเสียในอนาคตอีกด้วย การเสียสละอนุกับหลานสาวคนหนึ่ง เพื่อชดเชยให้แก่คนตระกูลจี้ นับว่าเป็นเรื่องสมควรทำแล้ว “ข้าก็คิดเช่นฮูหยินนั่นแหละ เพียงแต่สะใภ้สามแท้งคราวนี้ ไม่รู้จะยังสามารถตั้งท้องได้อีกหรือไม่ พวกเรารอดูไปก่อนดีกว่า หากนางไม่สามารถตั้งท้องได้จริง ๆ เราค่อยหาอนุมาให้หย่วนเจ๋อภายหลังก็ยังได้ ยามนั้นคนตระกูลจี้จะเอาอะไรมาง้างกับเราได้อีก” “จริงดังท่านว่าเจ้าค่ะ” ฝ่ายเฉาซูหลิ่งที่ถูกคนใช้ ลากตัวออกมาให้เก็บของในเรือน นางส่งเสียงเอะอะโวยวายตลอดทาง พร่ำบอกต้องการพบหลี่หย่วนเจ๋อให้ได้ แต่ถูกสาวใช้ขวางไว้ไม่ให้ไป นางจำใจกลับไปยังห้องนอนของตัวเอง รีบเก็บของสำคัญใส่ห่อผ้าเพื่อออกเดินทาง

หัวใจร่วงโรย

หัวใจร่วงโรย

Evelyn Hart
5.0

ลู่หลีเคยได้รับการช่วยชีวิตจากสามีของเธอ แต่หลังจากเขาสูญเสียความทรงจำ เขากลับลืมเธอเสียสนิท สามปีหลังจากแต่งงาน เพ่ยซือหานถึงกับนอกใจต่อหน้าผู้คน ทำให้เธอรู้สึกอับอายขายหน้าอย่างมาก ลู่หลีรู้สึกผิดหวังมาก จากนั้นก็เซ็นเอกสารหย่าทันที ตั้งแต่นั้นมา เธอได้กลับมาเป็นหญิงสาวที่มีอำนาจอีกครั้ง หมอผีที่มีชื่อเสียงโด่งดังคือเธอ ตำนานนักแข่งรถคือเธอ แฮกเกอร์ระดับโลกคือเธอ และนักออกแบบอัจฉริยะก็เป็นเธอเช่นกัน ต่อมา เพ่ยซือหานไม่เพียงแต่เสียใจจนสุดขีด แต่ยังฟื้นความทรงจำได้อีกด้วย เขาถึงกับบุกเข้าไปในงานแต่งงาน “เสี่ยวหลี ขอร้องเถอะ ให้โอกาสผมอีกครั้ง!” แต่เอวของลู่หลีถูกโอบกอดไว้โดยใครอีกคนหนึ่งที่มีอำนาจ เขาหัวเราะในลำคอว่า “ที่รัก มีคนที่กำลังเล่นกับไฟ”

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ