5.0
ความคิดเห็น
2.3K
ชม
29
บท

ตรัยไม่เคยรู้ตัวว่ารักเด็กหญิงตัวน้อยตอนไหน พอรู้ตัวก็รักไปเสียแล้ว แถมยังรักหมดหัวใจ ยิ่งโตยิ่งหวง ยิ่งหึงยิ่งรัก เขาจะทำอย่างไรดีเล่า ในเมื่อเด็กหญิงพราวมุกตัวน้อย ที่เจริญวัยเป็นสาวสะพรั่ง ดันคิดกับเขาเพียงแค่พี่ชายคนหนึ่งเท่านั้น แบบนี้เขาจึงต้องใช้หัวใจทั้งดวงพิสูจน์ให้เธอรู้ว่าเขารักเธอมากแค่ไหน เพื่อพิชิตหัวใจของเธอ!!!

บทที่ 1 1

“ถ้าเพื่อนพี่สนใจเราจริงๆ เราจะรับไว้พิจารณารึเปล่าล่ะ” พายัพเอ่ยถามน้องสาวที่อยู่ในชุดนักศึกษาด้วยท่าทีจริงจัง ไร้ท่าทีล้อเล่นแม้แต่น้อย

“เพื่อนคนไหนคะพี่พาย” พราวมุกยิ้มหวานให้พี่ชายขณะเอ่ยถาม เพื่อนๆ ของพี่ชาย ต่างก็มีผู้หญิงล้อมหน้าล้อมหลัง อีกอย่างเธอก็ไม่ได้คิดกับใครเกินเลยไปถึงขั้นคนรัก เธอรักและนับถือพี่ชายเช่นไร ก็นับถือเพื่อนของพี่ชายเช่นนั้น พายัพพี่ชายของเธอเองออกจะหวงๆ ไม่ชอบให้เพื่อนมาเกาะแกะเธอด้วย หลายครั้งที่เอ่ยเตือนเพื่อนตัวเอง แถมยังด่าเพื่อนเจ็บๆ แสบๆ จนเธอหัวเราะท้องแข็งตั้งหลายครั้ง แล้วรอบนี้มาแปลก กลับมาถามเธอแบบนี้

“เจ้าตรัยมันสนใจเราน่ะ เห็นบอกว่าชอบเรา” พายัพบอกน้องสาวตรงๆ ไม่อ้อมค้อม ในบรรดาเพื่อนเขาทั้งหมด ตรัยดูจะไม่สนใจผู้หญิงคนไหน หรือเจ้าชู้ประตูดิน

“ยี้... ไม่เอาหรอกค่ะ พวกเพื่อนๆ ของพี่พายมีผู้หญิงเยอะแยะ ฝากบอกพี่ตรัยด้วยนะคะว่าพราวนับถือพี่ตรัยเหมือนพี่ชาย ปล่อยให้พราวมีอนาคตที่ดีเถอะค่ะ คิกๆ” พราวมุกพูดขำๆ กับพี่ชาย จริงๆ เธอเองก็รู้ว่าตรัยแตกต่างจากคนอื่น แต่เธอนับถือตรัยเหมือนพี่ชายคนหนึ่งเท่านั้น ไม่เคยคิดเกินเลยเป็นอื่น อีกอย่างตรัยเองก็เอ็นดูเธอ ไม่คิดว่าจะอยากจีบเธอด้วย มันทำให้เธอรู้สึกแปลกๆ ที่เขามาคิดแบบนี้กับเธอได้ แม้ส่วนลึกของจิตใจจะเทิดทูนบูชาเขาเป็นฮีโร่ก็ตามที แต่เธออยากเก็บความรู้สึกดีๆ แบบนี้เอาไว้ หากคบกันเป็นคนรัก ถ้าเลิกรากันไป เธอกลัวจะมีปัญหา หรือมองหน้ากันไม่ติด เธออยากให้ตรัยเป็นพี่ชายที่น่ารักเป็นฮีโร่ในใจของเธอต่อไป ตอนเด็กๆ นอกจากพายัพพี่ชายของเธอแล้ว ก็มีตรัยนี่แหละที่คอยปกป้องดูแลเธอ ไม่ให้ใครมารังแก

“โอเค แล้วจะบอกมันให้” พายัพโยกศีรษะน้องสาวคนเดียวไปมาด้วยความเอ็นดู ก่อนจะเดินออกไปนอกบ้าน เขาไม่เคยบังคับน้องสาวตัวเอง รักและดูแลกันมาตลอด อะไรที่เป็นความสุขของน้อง คนเป็นพี่อย่างเขาไม่เคยขัด

พราวมุกอมยิ้ม เดินขึ้นห้องไปด้วยความเหนื่อยเพราะเธอเรียนอยู่ปีสุดท้าย กำลังจะเรียนจบมหาวิทยาลัยอีกไม่กี่เดือน เหลือแค่ฝึกงานเท่านั้น แล้วเธอก็ไม่ได้ติดใจอะไรอีกในคำพูดของพี่ชาย เพราะคิดว่าพี่ชายอาจจะถามเล่นๆ เท่านั้นเอง

หลังจากที่บิดามารดาเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อหลายปีก่อน พายัพก็ดูแลเธอมาตลอด เขาเปิดบริษัททำธุรกิจเกี่ยวกับการก่อสร้าง ซึ่งกิจการเป็นไปได้ด้วยดี เพิ่งมาปีนี้แหละที่เศรษฐกิจประเทศตกต่ำ พี่ชายจะบ่นๆ กับเพื่อนในกลุ่มเดียวกัน เธอแอบได้ยินถึงปัญหาที่เกิดขึ้น แต่กระนั้นก็ยังพยุงกิจการไปได้

“นายได้ยินที่น้องฉันพูดแล้วใช่ไหมไอ้ตรัย” พอคล้อยหลังมาได้ พายัพก็กรอกเสียงเข้าไปในโทรศัพท์

“ได้ยินชัดเต็มสองรูหูเลยเว้ย!” ตรัยตอบกลับไป จำได้ว่าตัวเองนั่งอึ้งอยู่นานเมื่อได้ยินการสนทนาโต้ตอบระหว่างพี่น้อง นี่พราวมุกเห็นเขาเป็นพี่ชายเท่านั้นเองน่ะรึ ถ้าเธอลองเปิดใจสักนิด เขาก็คงจะไม่นั่งหดหู่อยู่แบบนี้ แถมเธอยังพูดปิดท้ายด้วยว่าปล่อยให้เธอมีอนาคตที่ดีเถอะ เกิดมายังไม่เคยโดนผู้หญิงว่าขนาดนี้ ถึงจะเข้าข้างตัวเองว่าเธอพูดเล่นขำๆ ก็ตามที แต่ใจฝ่อไปไม่น้อย

ที่สำคัญเธอเป็นผู้หญิงที่เขาแอบชอบตั้งแต่เด็กๆ ฟันน้ำนมยังไม่หลุด ฟันแท้ยังไม่ขึ้นด้วยซ้ำ เพราะเขากับพายัพบ้านอยู่ใกล้กัน เรียนมาด้วยกันตั้งแต่อนุบาลจึงสนิทกันมาก

“ยายพราวไม่ชอบนาย จบนะไอ้ตรัย ฉันไม่เคยบังคับน้องตัวเอง” คนขี้หวงเอ่ยบอก แต่ถึงจะหวงขนาดไหน เขาก็ไม่เคยขัดใจน้องสาวได้เลยสักครั้ง ถ้าพราวมุกชอบเพื่อนของเขาจริง เขาก็จะไม่ขัดขวางแต่จะคอยดูอยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ หากมีอะไรเกิดขึ้นจะได้ช่วยเหลือได้ทัน คนเป็นพี่อย่างเขาไม่ได้หวังอะไรมากมายในชีวิต ขอแค่น้องสาวมีความสุข แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว

“รู้แล้วน่า ฉันรักพราวจริงๆ แต่ถ้าน้องนายไม่รักไม่ชอบฉัน ฉันก็ไม่บังคับใจใครหรอกว่ะ งั้นแค่นี้ก่อนนะ” ตรัยเคาะนิ้วไปมา อย่างใช้ความคิด เขาอาจจะยอมถอยออกมาก่อน แต่ใช่ว่าจะถอยตลอดไป คนอย่างเขาทำอะไรมีแผนการ และรอบคอบเสมอ บางทีนี่อาจจะเป็นบทพิสูจน์ตัวเขา ให้พราวมุกได้เห็นว่าเขารักเธอคนเดียว ไม่ยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงคนไหน

ระยะเวลาอาจจะทำให้อะไรๆ ดีขึ้น ในเมื่อตอนนี้ พราวมุกเองยังไม่มีใคร เขาก็ยังมีความหวัง

“เออๆ เดี๋ยวพาไปกินเหล้า” พายัพรีบพูดเอาใจเพื่อน นึกเห็นใจตรัยอยู่เหมือนกัน แต่ถ้าให้เขาเลือกระหว่างเพื่อนกับน้อง เขาก็ต้องเลือกน้องสาวที่คลานตามกันมาอยู่แล้ว

“กินทำไมวะ” ตรัยถามกลับ

“แก้อกหัก” พายัพตอบแล้วหัวเราะ

“เออๆ นายต้องเลี้ยงนะเว้ย ฉันเป็นหม้ายขันหมากแบบนี้ พวกนายต้องช่วยปลอบใจ” ตรัยพูดติดตลก ทั้งๆ ที่ใบหน้าเครียดเขม็ง ในสมองขบคิดแผนการมากมายเต็มไปหมด

“บ้าแล้ว! ยังไม่ได้สู่ขอ จะเป็นหม้ายขันหมากได้ยังไงวะ” พายัพหัวเราะลงลูกคอ แต่โล่งใจที่เพื่อนเข้าใจและไม่คิดจะเซ้าซี้ให้น้องสาวของเขาต้องรำคาญใจ ถ้าเป็นแบบนั้นเขานี่แหละจะขัดขวาง ในเมื่อตอบว่าไม่ ก็คือไม่ เขาเป็นคนพูดคำไหนคำนั้น ไม่พูดมากไร้สาระ

ตรัยวางโทรศัพท์จากเพื่อนรักก่อนจะเคาะนิ้วไปมาบนโต๊ะทำงานของตัวเองอย่างครุ่นคิด เขารู้ดีว่าพายัพหวงน้องสาว แต่เขารักจริงหวังแต่ง ตอนนี้คงต้องทำให้ใครๆ ตายใจไปก่อน แล้วค่อยรุกทีเดียว เขาคงต้องทำตัวกลมกลืนและสนิทสนมกับพราวมุกเหมือนเคย

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ B.J.BEN

ข้อมูลเพิ่มเติม
วิวาห์คลั่งรัก

วิวาห์คลั่งรัก

สมัยใหม่

5.0

เมื่อโชคชะตาบังคับให้เขาและเธอซึ่งเป็นคู่กัดต้องกลายเป็นคู่แต่งงานแบบสายฟ้าแลบ! ระหว่างอดีตที่เต็มไปด้วยการปะทะคารม กับปัจจุบันที่ต้องใช้ชีวิตร่วมชายคา... เรื่องวุ่น ๆ จึงเริ่มต้นขึ้น ตั้งแต่แปรงสีฟันยันหัวใจ เขา...ผู้ชายเจ้าเล่ห์ ขี้แกล้ง และขี้หวงอย่างหนัก เธอ...หญิงสาวปากแข็ง ขี้ประชด แต่แอบอ่อนโยนในทุกความใส่ใจ จากบ้านไม้ริมคลอง กลายเป็นสนามรักและสงครามขนาดย่อม ที่ไม่มีใครยอมใคร แต่หัวใจสองดวงกลับเริ่มเปลี่ยนไปทีละนิด... เพราะบางที...โชคชะตาอาจไม่ได้บังคับ แต่มันอาจกำลังพาเขาและเธอ... กลับมายังที่ที่เรียกว่า "บ้าน" ด้วยกัน

หนังสือที่คุณอาจชอบ

จองจำรักร้าย

จองจำรักร้าย

l3oonm@
5.0

จินเยว่ ตำรวจสาว เธอได้รับภารกิจให้เข้าจับกุมพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ ที่สายข่าวได้แจ้งเข้ามาวันนี้จะมีการเจรจาซื้อขายครั้งใหญ่เกิดขึ้น ผู้บังคับบัญชาให้จินเยว่ที่ตอนนี้เป็นถึงหัวหน้าสายสืบ พาลูกน้องไปสำรวจพื้นที่ก่อน อย่าเพิ่งเข้าปะทะเพราะเขาจะส่งกองกำลังเข้าไปช่วยเหลือ แต่ลูกน้องของจินเยว่เห็นโอกาสที่จะเข้าจับกุมได้แล้ว เลยไม่รอกองกำลังพิเศษที่กำลังเดินทางมาช่วยเหลือ ตอนแรกคิดว่าพ่อค้ายาเสพติดจะพาคนมาฝ่ายละไม่เกินยี่สิบคน แต่กลายเป็นว่าเธอโดนซ้อนแผนเสียแล้ว จะถอยก็ไม่ทัน จินเยว่เข้าช่วยลูกน้องจนเธอได้รับบาดเจ็บสาหัส ระหว่างความเป็นกับความตาย สติของเธอเริ่มพร่ามัว เสียงเรียกที่ได้ยินแยกไม่ออกว่าเป็นใครเรียก แต่เธอจำได้ว่ากองกำลังพิเศษมาช่วยไม่ทัน ตอนที่เธอถูกยิงไม่ใช่ว่าจะโดนแค่นัดเดียวทางรอดย่อมไม่มี แต่ตอนนี้ใครกันที่เรียกเธอ หากเป็นหมอก็รักษาเลย ฉันขอนอนต่อก่อน แต่หากเป็นยมทูตรอสักครู่ฉันไม่ได้นอนเต็มตาเช่นนี้มาหลายคืนแล้ว "จินเยว่ ลูกรัก ตื่นเถิดลูก" "จินเยว่ อย่าเงียบเช่นนี้ เจ้าอย่าทำให้แม่กลัว"

วิวาห์ครั้งใหม่กับพ่อหนุ่มเศรษฐีแสนร้ายกาจ

วิวาห์ครั้งใหม่กับพ่อหนุ่มเศรษฐีแสนร้ายกาจ

Rabbit
5.0

[นักธุรกิจหนุ่มระดับต้นแสนร้ายกาจ VS นักปรุงน้ำหอมสาวพิการเลอโฉม บริสุทธิ์ทั้งคู่] บุคคลลึกลับส่งคลิปวิดีโอสามีนอกใจมาให้ ทำลายชีวิตที่ดูสงบของยูหยุนหนิง ทำให้เธอเข้าใจเรื่องหนึ่ง คนรักที่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กจะหลอกเรา เพื่อนที่เติบโตมาด้วยกันจะหลอกเรา แต่นายแบบไหล่กว้างเอวคอดขายาวไม่มีทางหลอกเรา เพียงแต่ชายหนุ่มรูปหล่อขายตัวเพื่อเลี้ยงสุนัขคนนี้ กลิ่นน้ำหอมบนตัวของคุณ ทำไมถึงเหมือนกับนักธุรกิจหนุ่มระดับต้นของตระกูลเสี่ยวเลย? * ตอนที่เธอเปล่งประกายเจิดจรัส เขาเป็นลูกที่ถูกทอดทิ้งของตระกูล กล้าแค่ขโมยจูบแรกของเธอในความมืด เมื่อเธอตกจากที่สูง เขาทิ้งทุกอย่างกลับประเทศ แต่กลับเห็นเธอตอบตกลงคำขอแต่งงานของคนอื่นทั้งน้ำตา ตอนเธอถูกหักหลังอย่างเจ็บปวด เขามีอำนาจอยู่ในมือ เขาคือคนที่สนับสนุนอยู่เบื้องหลัง เป็นคนที่ช่วยชีวิตตอนที่เธอเสี่ยงอันตราย เป็นกำลังใจที่มั่นคงที่สุดของเธอ เมื่อเธอลุกขึ้นยืนอีกครั้ง เขาคุกเข่าข้างหนึ่ง จริงใจเป็นอย่างมาก “ได้โปรดแต่งงานกับผม” * “อยากรู้ไหมว่า ตอนที่เธอตอบตกลงคำขอแต่งงานของผู้ชายสารเลวคนนั้น ผมกำลังคิดอะไรอยู่? ” “คิดอะไรอยู่เหรอคะ? ” “อย่าให้ผมมีโอกาสนะ” “แล้วถ้าไม่มีโอกาสละคะ? ” “ถ้าอย่างนั้นก็สร้างโอกาสขึ้นมา” เพราะในโลกนี้ ไม่มีใครรักยูหยุนหนิงได้มากกว่าเสี่ยวฉืออีกแล้ว

เจ้าหญิงน้อยของพี่ๆ ทั้งสาม

เจ้าหญิงน้อยของพี่ๆ ทั้งสาม

Silas Thorn
5.0

ซูหลีพยายามทำทุกอย่างเพื่อเอาใจตระกูลซูมาตลอดห้าปี แต่ก็ต้องพ่ายแพ้ต่อคำใส่ร้ายของน้องสาวเพียงคำเดียว เรื่องที่ซูหลีเป็นคุณหนูปลอมก็ถูกเปิดเผย ทำให้คู่หมั้นทิ้งเธอ เพื่อนๆ ก็ห่างเหิน และพี่ชายขับไล่เธอออกจากบ้าน บอกให้เธอกลับไปหาพ่อแม่ชาวนาของเธอ ในที่สุดซูหลีก็สิ้นหวังและตัดสินใจตัดขาดความสัมพันธ์กับตระกูลซู ยึดความช่วยเหลือทุกอย่างคืนและไม่อดทนอีกต่อไป แต่เธอไม่คาดคิดเลยว่าชาวนาที่พี่ชายพูดถึงนั้นกลับกลายเป็นตระกูลลั่วผู้มั่งคั่งที่สุดในประเทศ ในคืนเดียวเธอเปลี่ยนจากคุณหนูตัวปลอมที่ถูกทุกคนรังเกียจเป็นลูกสาวของมหาเศรษฐีที่มีพี่ชายสามคนที่รักเธอ พี่ชายคนโตที่เป็นผู้บริหารใหญ่“เลิกประชุม จองตั๋วเครื่องบินกลับประเทศ ฉันอยากดูสิว่าใครกล้าแกล้งน้องสาวฉัน” พี่ชายคนที่สองที่เป็นนักวิทยาศาสตร์ยอดเยี่ยมระดับโลก“หยุดการวิจัย ฉันจะไปรับน้องสาวกลับบ้านเดี๋ยวนี้ ” พี่ชายคนที่สามที่เป็นนักดนตรีระดับโลก “เลื่อนคอนเสิร์ต ไม่มีอะไรสำคัญเท่าน้องสาวของฉัน” จู่ๆ คนทั้งเมืองจิงก็ต้องตกใจช็อก ตระกูลซูเสียใจจนสุดขีด คู่หมั้นก็กลับมาขอคืนดี ผู้คนที่มาขอจีบเธอก็แห่กันมาถึงหน้าบ้าน ไม่ทันที่ซูหลีจะตอบสนอง ตระกูลชือซึ่งเป็นตระกูลสูงสุดในเมืองจิงและมีตำแหน่งสูงสุดในกองทัพเรือ ก็เสนอใบสมรสให้เธอ ทำให้เธอกลายเป็นคนดังในสังคมชั้นสูง!

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

มาชาวีร์
4.8

เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที

ขย่มรักอาจารย์ฮอตเนิร์ด

ขย่มรักอาจารย์ฮอตเนิร์ด

ซีไซต์
5.0

หนานอันพริตตี้สาวสู้ชีวิตอายุยี่สิบปีแอบชอบผู้ชายคนหนึ่งอย่างหนักและอยากได้เขามาเป็นแฟนใจจะขาด แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สนใจเธอ หญิงสาวได้ไปดูดวงแม่หมอคนนั้นจึงบอกให้เธอมาขอพรที่ศาลเจ้าเล็ก ๆ ในอำเภอแห่งหนึ่งที่ห่างไกลเพื่อให้เธอสมหวังและต้องไปในวันที่ฟ้ามืดที่สุดของเดือนในอีกสองวันข้างหน้าถึงจะเห็นผล หนานอันเชื่อแม่หมอเพราะอยากได้ผัว เธอจึงไม่รอช้ารีบคว้ากระเป๋าเป้เดินทางมายังศาลเจ้าทันที เมื่อหนานอันเข้าไปภายในศาลเจ้าก็พบว่า มีสตรีสูงวัยคนหนึ่งอายุราวหกสิบกว่าปีกำลังกวาดศาลเจ้าอยู่ ...... "ได้ของสิ่งนี้ไปต้องสมหวังอย่างแน่นอน" คุณยายพูดพร้อมกับรอยยิ้ม น้ำเสียงนี้ฟังดูเยือกเย็นเป็นอย่างยิ่ง หนานอันยิ้มให้คุณยายจู่ ๆ ขนแขนของเธอก็ตั้งชันขึ้นมา เธอกำลังจะลุกขึ้นในตอนนั้นก็เกิดฟ้าผ่าเปรี้ยงลงมา หนานอันหวีดร้องด้วยความตกใจทว่าเมื่อหันไปมองคุณยายเธอไม่เห็นแม้แต่เงาแล้ว หนานอันประหลาดใจมากร้องเรียกคุณยายอยู่หลายคำ แต่ว่าในตอนนี้เธอก็ไม่มีเวลาให้คิดสิ่งใดแล้วเพราะเกิดสิ่งที่ไม่คาดคิดขึ้นเมื่อฟ้าผ่าลงมาที่ศาลเจ้าเข้าอย่างจังหนานอันที่อยู่ด้านในจึงถูกฟ้าผ่าไปด้วยและสติดับวูบลงไปทันใด ไม่รู้ว่านานเท่าใดที่หนานอันตกอยู่ในความมืดมิด และเมื่อเธอตื่นขึ้นมาทุกอย่างรอบกายของเธอก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป...

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ