Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
เชลยทรายทาสชีคเถื่อน

เชลยทรายทาสชีคเถื่อน

B.J.

5.0
ความคิดเห็น
29.4K
ชม
87
บท

ทันทีที่ชีคอัฟฟาน อาลี โซมาล ชีคหนุ่มประมุขแห่งซาล ได้สบสายตากับตัวประกันสาวคนสวย มาราตี ซูไรละห์ เขาก็ตกตะลึง เธอเป็นผู้หญิงที่สวย งดงาม น่าปรารถนาและเย้ายวนยิ่ง แต่มันผิดเวลา ผิดสถานที่ และผิดวิสัยไปจากเดิม เพราะเธอมาในฐานะของพี่สาว เขาไม่ชอบถูกหลอกลวง กลายเป็นคนโง่ให้อาและพี่ชายของหล่อนหัวเราะเยาะ ที่สำคัญกัวลากำลังคิดการอันใดที่เป็นกบฏและแข็งข้อเช่นนั้นรึ “พูดอะไรตลกเช่นนี้ มาราตี” คำพูดของเขาทำให้หญิงสาวตระหนก “ท่านรู้!!!” เธออ้าปากค้างมองเขาด้วยความตกตะลึง เขารู้ได้อย่างไรว่าเธอไม่ใช่ซูไรดา แต่เขายังรับเธอมาจากผู้เป็นอาอย่างหน้าตาเฉย ไม่แสดงอันใดให้อีกฝ่ายระแคะระคายสักนิด “ทำไมข้าจะไม่รู้ มีอะไรบ้างในซาลที่จะรอดพ้นสายตาของข้าไปได้ แม้แต่ผู้หญิงสวยๆ อย่างเจ้ามาราตี” เธอไม่คิดว่าเขาจะรู้จักเธอ อัฟฟานเชยคางมนให้แหงนขึ้นสบสายตาสีเหล็กกล้าเปล่งประกายด้วยอำนาจสะกดให้เธอแทบขยับตัวไปไหนไม่ได้ มาราตีนิ่งอึ้งหัวใจสั่นไหวรุนแรงกว่าเดิม ประกายตาร้อนแรงแทบแผดเผาให้เธอมลายสิ้น

บทที่ 1 1

รัฐซาล...

ฮิจเราะห์ศักราช (ฮ.ศ.) ที่ 1350 เดือนซอฟัร

ชีคอัสมิน วัย 50 ปี หัวหน้าเผ่าโซธานปกครองชนเผ่าทางตอนใต้ ซึ่งเป็นดินแดนอยู่ติดชายฝั่งทะเล ตั้งอยู่บนคาบสมุทรขนาดเล็กที่แตกมาจากคาบสมุทรอาหรับ

พระองค์ได้ถูกสถาปนาขึ้นครองราชย์เป็นชีคปกครองรัฐซาล มีชื่อเต็มว่า ชีคอัสมิน อาลี โซมาลหลังจากก่อรัฐประหารชีคฮามัด เหม็ด ซาเฮ็ด คอลิฟ ผู้นำรัฐที่โหดเหี้ยมป่าเถื่อนปกครองบ้านเมืองอย่างไร้มนุษยธรรมจนเกิดความระส่ำระสายและเกิดโจรก่อการร้ายดักซุ่มโจมตีเส้นทางค้าขาย ชนเผ่าใหญ่น้อยต่างๆ แข็งข้อตั้งตัวเป็นใหญ่ ไม่ยินยอมตกอยู่ภายใต้อำนาจอีกต่อไป

ในอดีต...

ทางตอนใต้ของซาลคือชนเผ่าโซธาน อุดมด้วยแร่ทองคำมหาศาล มีชนเผ่าขนาดกลางสองชนเผ่าที่ยอมอยู่ใต้การปกครองคือ ชนเผ่ามัลมาเลีย ซึ่งเป็นชนเผ่าขนาดกลางอยู่ทางทิศตะวันออก พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบสูงมีภูเขาสลับซับซ้อนมากมาย ส่วนชนเผ่าที่สองคือจาปง พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบลุ่ม เป็นดินแดนที่อยู่ส่วนกลางรอยต่อระหว่างโซธาน, มัลมาเลีย เมืองหลวงและกัวลา และถัดไปเป็นชนเผ่าทั้งห้าในดินแดนทะเลทราย

...และทางตอนเหนือของซาลเป็นชนเผ่ากัวลา มีชนเผ่าขนาดเล็กอยู่ใต้การปกครองคือ มุฟาลาล,อัลกุเดา,อัชชาเดา, อัดวะเดา และจะยะลาล ซึ่งเป็นดินแดนทะเลทรายแทบทั้งสิ้น

ทางตะวันออกของกัวลาต่อติดกับรัฐซาลาล ดินแดนแห่งดาราศาสตร์ ฤกษ์ยาม การทำนาย พยากรณ์ การเสี่ยงทาย อันอุดมไปด้วยสินค้าหลายชนิดสำหรับทำการค้า ทางตะวันตกติดต่อกับรัฐมุไซ ทางเหนือติดต่อกับรัฐซามาล ซึ่งทั้งสองรัฐมีพ่อค้าชาวอาหรับนำสินค้ามาขายในทะเลทรายจนเกิดการค้าและการแลกเปลี่ยนมากมายขึ้น ณ ดินแดนแห่งนี้

ซาลเป็นรัฐเล็กๆ ที่เกิดจากชนเผ่าต่างๆ รวมตัวกัน แต่ยังไม่มั่นคงเพราะผู้นำขาดคุณธรรมและเผด็จการ ชนเผ่าต่างๆ ที่อยู่ภายใต้อำนาจจึงแข็งข้อมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ

ผู้นำสำคัญสองคนคือ ชีคอัสมินหัวหน้าเผ่าโซธานอยู่ทางตอนใต้ และชีครอมาลีซึ่งเป็นหัวหน้าเผ่ากัวลาอยู่ทางตอนเหนือ จึงคิดการใหญ่ ทั้งสองรวมอำนาจโดยเข้ายึดครองชนเผ่าขนาดกลางและขนาดเล็กที่อยู่ใกล้เคียง จึงเกิดสงครามชนเผ่ายาวนานหลังจากยึดอำนาจจากชีคฮามัด เหม็ด ซาเฮ็ด คอลิฟ

ทั้งสองกระทำการใหญ่ได้สำเร็จ... เนื่องด้วยเป็นชนเผ่าที่มีขนาดใหญ่สามารถกุมกำลังไพร่พลมากมายจนยึดครองชนเผ่าเล็กๆ ไว้ภายใต้การปกครองได้ทั้งหมด แม้คราแรกจะเกิดสงครามระหว่างชนเผ่าก็ตามที แต่สุดท้ายชนเผ่าเล็กๆ เหล่านั้นก็ยอมสวามิภักดิ์ในที่สุด

เผ่าไฟยาห์...เดิมทีเป็นเมืองหลวงซึ่งเป็นชนเผ่าขนาดใหญ่อยู่ตอน กลางของรัฐ แต่เพราะผู้นำที่คลั่งไคล้ในอำนาจ ปกครองด้วยความไม่เป็นธรรมเก็บภาษีขูดรีดขูดเนื้อคนในรัฐ ชนเผ่าต่างๆ จึงเกิดการต่อต้าน ประกอบกับชีคฮามัดไร้ทายาทเพราะไม่เคยถูกใจหญิงใดมากพอที่จะแต่งตั้งให้มาครองบัลลังก์คู่กายได้ หญิงสาวมากมายต่างฆ่าตัวตายหรือไม่ก็ถูกตัดหัวเพราะทนความป่าเถื่อนและไม่เป็นที่ถูกพระทัย

ดังนั้นหลังจากโซธานซึ่งแบ่งกำลังออกยึดอำนาจทางตอนใต้สำเร็จ อัสมินที่ได้สมคบคิดซ่องสุมกำลังกับรอมาลีเพื่อนรักมาหลายปี จึงได้ส่งคนสนิทคือ เนาฟัลไปปกครองไฟยาห์เอาไว้

หลังจากยึดอำนาจโดยการรวมรัฐได้แล้ว... ความไม่พอใจก็เกิดขึ้นในชนเผ่ากัวลา

“ท่านพ่อ เหตุใดท่านจึงได้ทำเช่นนี้” อับดุลอาซิบุตรชายคนเล็กวัย 20 ปี ถามบิดาด้วยน้ำเสียงฉุนเฉียวสะกดกลั้นอารมณ์ขุ่นเคืองเอาไว้ไม่มิด

“พ่อรู้ว่าเจ้าหมายความถึงเรื่องใด แต่อัสมินมีบุญคุณช่วยชีวิตพ่อเอาไว้ เขาเหมาะสมที่จะปกครองซาล” ชีครอมาลี หัวหน้าเผ่ากัวลาวัย 49 ปีกล่าวกับบุตรชาย

“เพราะบุญคุณ ท่านพ่อถึงยอมสละตำแหน่งประมุขครองรัฐให้ลุงอัสมิน คนของเราไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง ความจริงต้องให้ประชาชนเป็นผู้เลือกว่าจะให้ใครเป็นประมุข และเราก็มีคนมากกว่าโซธานรวมกันถึงหกชนเผ่า ท่านพ่อจะต้องได้ขึ้นครองราชย์อย่างแน่นอน” คำพูดของบุตรชายคนเล็กทำให้รอมาลีนิ่งเงียบ

“อาซิ เจ้าอย่าได้กดดันท่านพ่ออีกเลย สำหรับพี่ ยังไงก็เชื่อในการตัดสินใจของท่านพ่อ” อับดุลอาเหม็ด บุตรชายคนโตวัย 30 ปี มองสบตากับบิดาอย่างเข้าใจ

คำพูดของพี่ชายทำให้อับดุลอาซิหงุดหงิดยิ่งขึ้น

“แล้วท่านพ่อจะบอกคนของเราว่าอย่างไรกัน พวกเขายอมเสียสละเพื่อท่าน แต่ท่านยอมสละอำนาจให้เผ่าโซธาน ต่อไปเราจะต้องลำบาก แล้วท่านพ่อจะต้องเสียใจที่ไม่เชื่อข้าในวันนี้” อับดุลอาซิพูดทิ้งท้ายเอาไว้ให้บิดาและพี่ชายได้คิดด้วยความไม่พอใจยิ่งยวด ก่อนเดินจากไป

“ท่านพ่อ” อับดุลอาเหม็ดเรียกบิดาเสียงขรึม

“พ่อจะพูดกับคนในเผ่าของเราและเผ่าอื่นๆ เอง เจ้าอย่าได้กังวลไปเลย” ผู้นำของกัวลาวัยกลางคนพูดด้วยน้ำเสียงมั่นคง คิดว่าการตัดสินใจครั้งนี้ดีแล้ว และจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงอย่างเด็ดขาด

เสียงวิพากษ์วิจารณ์แสดงถึงความไม่พอใจของคนในชนเผ่ากัวลาและผู้สนับสนุนจากชนเผ่าอื่นๆ หนาหูขึ้น แต่ทุกเสียงก็เงียบสงบลงเมื่อหัวหน้าเผ่าประกาศถึงเจตนารมณ์อันแน่วแน่ในครั้งนี้

“รอมาลีสหายรัก แม้เจ้าจะสละตำแหน่งอันทรงเกียรตินี้ให้แก่ข้า แต่ข้าจะไม่ลืมน้ำใจของเจ้าในครั้งนี้เลย เราเปรียบเสมือนพี่น้องร่วมสายโลหิต ลูกหลานของเราจงเป็นพี่น้องกันตลอดไป กัวลาถือว่าเป็นมิตรที่ดีต่อเราไม่เสื่อมคลาย” ชีคอัสมินกล่าวกับสหายรักด้วยความชื่นชม

“หามิได้อัสมินเพื่อนรัก กัวลาถือว่าเป็นชนเผ่าในปกครองของซาล ขอให้ท่านจงดูแลราษฎรให้อยู่เย็นเป็นสุขตามเจตนารมณ์ในการรวมแผ่นดินครั้งนี้ อย่าให้เหมือนชีคฮามัด เช่นไรเสีย เรายินดีเป็นราษฎรที่จงรักภักดีตลอดไป และจะช่วยเหลือพัฒนารัฐให้เจริญรุ่งเรืองต่อไปในภายภาคหน้า”

“ท่านเป็นคนดีเหลือเกิน ข้าซาบซึ้งในการเสียสละครั้งยิ่งใหญ่ของท่าน หากท่านไม่รังเกียจข้าจะสู่ขอนูรไอรินดาหลานสาวของท่านให้แก่ คาลิฟบุตรชายคนเดียวของเรา เพื่อกระชับสัมพันธไมตรีให้เราทั้งสองแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น และถ้าจะให้ดีข้าอยากให้ลูกชายของท่านได้รับราชการทหารในซาล”

ชีคอัสมินพูดด้วยน้ำเสียงแสดงถึงความจริงใจและฉลาดหลักแหลม เขามองการณ์ไกลถึงปัญหาในอนาคต หากคาลิฟบุตรชายเพียงคนเดียววัย 30 ปีที่เกิดจากภรรยาเอกได้ดองกับชนเผ่ากัวลา ก็ถือเป็นสิ่งที่ดีแก่บังลังก์และความมั่นคงในอนาคต

“ไม่มีปัญหา ถือว่าเป็นเกียรติยิ่งนักที่เราจะได้เป็นทองแผ่นเดียวกัน ถือเป็นเกียรติแก่นูรไอรินดาหลานสาวเพียงคนเดียวของข้า”

รอมาลีตกปากรับคำด้วยใบหน้ายินดีปรีดา ที่หลานสาวเพียงคนเดียวเลือดเนื้อเชื้อไขของฟาตีล๊ะผู้เป็นน้องสาวจะได้ออกเรือนเพราะหญิงสาวในกัวลาหากมีชายใดมาสู่ขอจะได้รับการพิจารณาจากผู้ใหญ่ก่อนเสมอ ว่าเห็นดีเห็นงามด้วยหรือไม่ โดยธรรมเนียมอันนี้ทำให้หญิงสาวทั้งหลายไม่มีสิทธิ์เลือกคู่ครองเอง ไม่มีสิทธิ์ลักลอบคบหาดูใจกับชายใดหรือได้เสียก่อนเวลาอันสมควร

ฮิจเราะห์ ศักราช (ฮ.ศ.) ที่ 1351 เดือนรอบิอุล เอาวัล

ชีคอัสมินได้ส่งสาส์นไปยังหัวหน้าเผ่าต่างๆ เพื่อให้ส่งบุตรสาวเข้ามาบรรณาการ รวมถึงส่งบุตรชายเข้ารับราชการทหารเพื่อป้องกันการแข็งข้อและกบฏทำให้ชนเผ่าต่างๆ มีความคิดแตกต่างกัน ส่วนใหญ่เป็นการคิดมักใหญ่ใฝ่สูง เพราะหากบุตรสาวถูกตาต้องใจก็เป็นผลดีกับชนเผ่า ที่สำคัญการให้บุตรชายได้รับราชการในวังก็เป็นสิ่งดีที่จะได้มียศถาบรรดาศักดิ์ รวมถึงกำลังไพร่พล แต่ชีคประมุขผู้ครองรัฐมองการณ์ไกลกว่านั้นมากมายนัก

ในปีต่อมาชีครอมาลีเสียชีวิตลง ตำแหน่งหัวหน้าเผ่าจึงตกเป็นของอับดุลอาเหม็ด ในวัย 31 ปีเขามีภรรยาหนึ่งคนและลูกชายหนึ่งคน

...และหลังจากชีคอัสมินครองราชย์ได้สิบปีก็ทรงสวรรคต ในวัย 60 ปี ชีคคาลิฟบุตรชายเพียงคนเดียวจึงขึ้นเป็นประมุขของซาลต่อจากพระราชบิดา ในวัย 40 ปี มีบุตรชายคนโตที่กำเนิดจากภรรยาเอกตอนอายุ 29 ปี มีนามว่าอัฟฟาน

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ B.J.

ข้อมูลเพิ่มเติม
หวานใจเฮียเจ้า

หวานใจเฮียเจ้า

โรแมนติก

5.0

โปรย หวานใจเฮียเจ้า ปิ่นเพชรยืนมองประตูห้องน้ำอย่างลังเล เขากำลังอาบน้ำเช่นนี้ เธอควรจะเข้าไปดูแลเขาไหมนะ เขาไม่เคยเรียกร้อง ทำให้เธอรู้สึกอึดอัด ถ้าเขาจะทำอะไรก็ควรทำสักที เธอมาอยู่กับเขาเพื่อสิ่งนี้ไม่ใช่หรือ ตัดสินใจได้ดังนั้น ปิ่นเพชรก็ทะลึ่งพรวดพราดเข้าไปในห้องน้ำของเขาในทันที เจ้าทัพตกใจเมื่อจู่ ๆ เธอก็โผเข้ามากอดเขาเอาไว้ทั้งตัว ในขณะที่เขาเองก็กำลังเปลือยเปล่าอยู่ “มีอะไร” เขาเอ่ยถามเหมือนเพิ่งหาเสียงเจอ ไม่คิดว่าเธอจะโผล่พรวดเข้ามาแบบนี้ “คือปิ่นจะมาช่วยอาบน้ำให้คุณน่ะค่ะ” คนบอกว่าจะมาช่วยอาบน้ำกอดเขาเอาไว้แน่น ไม่กล้าผละออกห่างหรือเงยหน้ามองเขาเพราะอาย “จะมาช่วยอาบน้ำให้ผม แต่กอดผมเอาไว้ซะแน่นแบบนี้จะอาบได้ยังไงกันครรับ” เขาเอ่ยเสียงนุ่ม พลางกลั้นยิ้มเอาไว้ “ก็คุณโป๊อยู่” “มาช่วยผมอาบน้ำก็ต้องรู้สิครับว่าผมโป๊” “เอ่อ...” เธออึกอัก เขาจึงค่อย ๆ ดันเธอออกห่าง ก่อนจะมองหน้าเธอไม่วาง เจ้าทัพทาบริมฝีปากลงไปหาริมฝีปากน้อยสั่นระริกของเธอ เธอเกร็งตัวหลับตาแน่น จิกมือเข้าที่บ่าของเขา ท่าทีของเธอบอกว่ากำลังหวาดกลัว และไม่พร้อม ทำให้เขาต้องละริมฝีปากออกห่าง เมื่อเขาจูบลงไปแต่เธอกลับปิดปากแน่น “คุณไม่ต้องฝืนใจตัวเองหรอกนะ ผมไม่บังคับคุณจนกว่าคุณจะเต็มใจ” ประโยคของเขาทำให้เธอชะงักและอึ้งไป

หวานใจเฮียเจตน์

หวานใจเฮียเจตน์

โรแมนติก

5.0

“เดี๋ยวพลอยไปเอาเสื้อผ้ามาให้พี่แล้วกันค่ะ” เขาทำท่าจะตามมา เธอเลยรีบปรามเอาไว้ “พี่ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องพลอยดีกว่า ยืนรอตรงนี้มันหนาว” “ไม่ได้ค่ะ” “กลัวพี่เหรอ” “กลัวค่ะ” เธอตอบตามตรง จะไปอวดดีว่าไม่กลัวเขา เดี๋ยวก็เจอดีเข้าหรอก “พี่ไม่ทำอะไรหรอก ถ้าพลอยไม่ยอม” “แน่ใช่ไหม” เธอพูดอย่างไม่ไว้ใจ “แน่ครับ” เขาเอานิ้วไปเกี่ยวไว้ทางด้านหลัง ก่อนจะฉีกยิ้มให้เธออย่างบริสุทธิ์ใจ “พลอยไม่ไว้ใจพี่เจตน์หรอกค่ะ พี่น่ะเสือผู้หญิง รออยู่นี่แหละค่ะ พลอยจะไปเอาเสื้อผ้ามาให้” เธอรีบตัดบท ไม่ยอมใจอ่อนง่าย ๆ พลอยไพลินเปิดตู้เสื้อผ้าและหยิบชุดให้เขา พอหันมาก็ต้องสะดุ้ง “อุ๊ย! พี่เจตน์เข้ามาตอนไหนคะ พลอยบอกว่าให้รออยู่ข้างนอกไง” “ห้องน้องพลอยเรียบร้อยจังเลยครับ หอมด้วย” เขาได้กลิ่นหอมอ่อน ๆ จากห้องนอนของเธอ “ชุดพี่เจตน์ค่ะ” เธอยื่นให้เขา เขาก็รับมาถือเอาไว้ “ชุดน้องพลอยหอมจังเลยครับ” เจตน์ยกขึ้นมาดม ก่อนจะยิ้มหวานให้เธอ “เวลาพี่เจตน์จีบผู้หญิงก็ใช้มุขนี้เหรอคะ” “พี่ไม่เคยจีบผู้หญิง” “จะบอกว่าผู้หญิงวิ่งเข้าหาพี่เองเหรอคะ” “น้องพลอยเห็นยังไงก็อย่างนั้นแหละ” “...” เธอเงียบไม่ได้ตอบโต้ “หึงพี่เหรอ” เขาเดินเข้าหา ก่อนจะใช้มือดันไปที่ตู้เสื้อผ้า ทำให้เธอตกอยู่ในอ้อมแขนของเขา “ใครจะไปหึงพี่กันล่ะคะ” “น้องพลอยก็เปียกไปหมดแล้ว เปลี่ยนชุดพร้อมพี่ไหม” “อุ๊ย! อย่ามาลามกกับพลอยนะคะ” เธอยกขึ้นกอดอกเมื่อเขาหลุบสายตามองต่ำลง “ยังไม่ตอบเลยว่าหึงพี่เหรอ” เขาขยับเข้าไปใกล้ พลางกระซิบถามตรงริมหู ลมหายใจร้อนแรงของเขาเป่ารดอยู่ตรงพวงแก้มหอมกรุ่น “ไม่ได้หึงค่ะ” เธอตอบเขาออกไป ท้องไส้ปั่นป่วนไปหมด การใกล้ชิดกับผู้ชายที่เต็มไปด้วยเสน่ห์เหลือร้ายแบบเขา ทำให้เธอใจสั่น พยายามจะอยู่ให้ไกลจากเขา เพราะรู้ว่าหัวใจตัวเองคงทานทนไม่ไหว แต่ก็เผลอเปิดโอกาสให้เขาเข้ามาในชีวิตอยู่ร่ำไป “อย่าค่ะ” เธอดันใบหน้าของเขาออกห่าง เมื่อเขาทำท่าจะก้มลงมาประทับริมฝีปากกับกลีบปากหวานฉ่ำของเธอ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

อย่าไปยุ่งกับทายาทสาวลึกลับ

อย่าไปยุ่งกับทายาทสาวลึกลับ

Tripp Zakarison
5.0

อวิ๋นเจินอาศัยอยู่ในตระกูลอวิ๋นมาเป็นเวลา 20 ปี กลับพบว่าเธอเป็นลูกสาวปลอม พ่อแม่บุญธรรมของเธอวางยาเธอเพื่ออยากจะได้เงินมาลงทุน หลังจากที่อวิ๋นเจินรู้เรื่องนี้ เธอก็ถูกไล่กลับไปที่ชนบท จากนั้นเธอก็ค้นพบว่าตัวเองคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลเฉียวและมีชีวิตที่หรูหราสุด ๆ หลังจากกลับมา เธอได้รับความรักจากครอบครัวและมีชื่อเสียงโด่งดัง น้องสาวจอมปลอมใส่ร้ายอวิ๋นเจิน แต่เธอไม่คาดคิดว่าอวิ๋นเจินจะมีความสามารถต่างๆ เมื่อต้องเผชิญกับการยั่วยุ เธอได้แสดงความสามารถและทักษะต่างๆ มากมายเพื่อจัดการผู้รังแก มีข่าวลือกันว่าอวิ๋นเจินยังคงโสด และชายหนุ่มชื่อดังแห่งเมืองงก็ผลักเธอไปเข้ากำแพง "คุณนายกู้ ถึงตามราเปิดเผยตัวตนได้แล้วนะ"

คุณท่าน คุณนายมาหาอีกแล้ว

คุณท่าน คุณนายมาหาอีกแล้ว

Thacher
5.0

ในวันครบรอบแต่งงาน เหวินซือถูกเมียน้อยของสามีวางยาและไปมีอะไรกับคนแปลกหน้า เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ไป แต่เมียน้อยคนนั้นกลับตั้งท้องลูกของสามี ภายใต้ความกดดันต่างๆ เหวินซื่อสูญรู้สึกสิ้นหวังและตัดสินใจหย่า แต่สามีของเธอกลับไม่แยแสโดยคิดว่าเธอกำลังเล่นลูกไม้อยู่ หลังจากการหย่ากัน เหวินซือกลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงและมีผู้ชายนับไม่ถ้วนที่ตามจีบเธอ อดีตสามีไม่ยอมและขอคืนดีไปถึงที่ จากนั้นก็ว่า เธออยู่ในอ้อมแขนของคนใหญคนโตคนหนึ่ง และชายคนนั้นก็พูดอย่างสงบว่า "ดูให้ดี นี่คือพี่สะใภ้ของนาย"

รอยรักรอยร้าว

รอยรักรอยร้าว

Del Goodman
5.0

เซียวหลิ่นตาบอดจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ลูกสาวคนรวยทุกคนต่างหลีกเลี่ยงเขา มีแต่สวี่โยวหรานยอมแต่งงานกับเขาโดยไม่ลังเล สามปีต่อมา เซียวหลิ่นกลับมามองเห็นได้อีกครั้ง จากนั้รเขา็ยื่นข้อตกลงการหย่าเพื่อยุติการแต่งงานนี้ เขากล่าวอย่างเย็นชาว่า "ฉันพลาดกับชิงชิงมานนานมากพอแล้ว ฉันไม่อยากให้เธอต้องรอนานกว่านี้!" สวี่โยวหรานลงนามในข้อตกลงการหย่าโดยไม่ลังเล ทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเธอตลอด - หัวเราะเยาะว่าที่เธอแต่งเข้าตระกูลเซียวถือว่าเกาะผู้มีอิทธิพลเข้า จากนั้นก็มาหัวเราะเยาะเธอที่ถูกทอดทิ้ง เป็นหญิงที่ไร้ค่า แต่ทุกคนกลับไม่รู้ว่า เธอคือหมออัศจรรย์ที่รักษาดวงตาของเซียวหลิ่นให้หายดี เป็นผู้ออกแบบเครื่องประดับมูลค่าหลักร้อยล้าน ผู้เป็นมือหนึ่งแห่งหุ้นที่ครองตลาดหุ้น และแม้แต่แฮกเกอร์ระดับแนวหน้าและลูกสาวแท้ๆ ของผู้มีอิทธิพล อดีตสามีมาขอร้องขอคืนดี ซีอีโอผู้เผด็จการก็โยนเซียวหลิ่นออกไปนอกประตูอย่างเย็นชา "ดูดีๆ นี่ภรรยาของผม"

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

มาชาวีร์
5.0

หลังผ่าตัดนักพรตเฒ่าผู้หนึ่งนั้น นางวูบหมดสติและเสียชีวิตลงไป ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที ก็อยู่ในร่างของคุณหนูปัญญาอ่อนที่มีชื่อเดียวกันผู้นี้เสียแล้วทั้งยังจำอดีตชาติยามเป็นปรมาจารย์เต๋าได้อีกด้วย +++ 1 : ไล่ออกจากอารามไท่ผิงกวน แคว้นจิ้น ราชวงศ์เซวียน อารามไท่ผิงกวน “ไป ๆ อาจารย์ขับไล่พวกท่านออกจากอารามแล้ว อย่าได้มาเหยียบที่นี่อีก” “ศิษย์พี่รองรีบปิดประตูเร็วเข้า !” ตุบ ! ห่อผ้าสองห่อถูกโยนออกมาจากประตูอาราม ปัง ! ตามด้วยเสียงปิดประตูลงสลักอย่างหนาแน่น สตรีนางหนึ่งยืนตัวตรงเป็นสง่า เสื้อผ้ากับเส้นผมของนางปลิวไสวดั่งไผ่ลู่ลม หลินซือเยว่เงยหน้าขึ้นมองป้ายชื่ออารามไท่ผิงกวนด้วยสายตาเลื่อนลอย อาศัยอยู่ที่นี่มานานเท่าใดแล้วนะ บางครั้งนางเองก็ลืมเลือนวันเวลาไปเหมือนกัน “คุณหนูเจ้าคะ ศิษย์น้องทั้งสองของท่านทำเกินไปแล้วนะเจ้าคะ เหตุใดถึงไล่พวกเราสองคนออกจากอารามได้เล่า” เผิงฉือกระทืบเท้าเบา ๆ ตรงไปฉวยห่อผ้าทั้งสองบนพื้น ขึ้นมาคล้องแขนตัวเองไว้ “หากไม่ได้รับคำสั่งจากอาจารย์ ศิษย์น้องทั้งสองคงไม่กล้าขับไล่ข้าออกจากอารามหรอก” น้ำเสียงของนางสงบนิ่งฟังแล้วสบายหูยิ่งนัก หาได้มีความโกรธเกลียดแต่อย่างใด “นั่นรถม้า” นิ้วเรียวสวยชี้ไปยังรถม้าคันที่มีคนนั่งเฝ้าอยู่ “ป้าเผิงไปถามดูว่าใช่รถม้าของเราหรือไม่” เผิงฉือไม่รอช้ารีบตรงไปหาคนเฝ้ารถม้าที่อยู่ใต้ต้นไผ่ในทันที ไม่ช้านางก็กลับมาพร้อมกับรอยยิ้มนิด ๆ “เป็นรถม้าของเราจริง ๆ เจ้าคะคุณหนู คนขับบอกว่าเป็นคนของตระกูลหลินเจ้าค่ะ ได้รับคำสั่งจากท่านพ่อของคุณหนู ให้มารับคุณหนูกลับตระกูลหลินเพื่อไปแต่งงานเจ้าค่ะ” “กลับไปแต่งงานนี่เอง” นางเอ่ยเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่ หันหลังกลับไปทางประตูอาราม ประสานมือค้อมตัวคำนับลาอาจารย์ เผิงฉือเห็นเช่นนั้นก็อดที่จะคำนับตามนางไม่ได้ ภายในอารามไท่ผิงกวน “อาจารย์เหตุใดถึงไม่บอกลากับศิษย์พี่ใหญ่ไปตรง ๆ ล่ะ ทำเช่นนี้นางไม่โกรธท่านไปจนวันตายเลยรึ” เหอกุ้ยแม้มีอายุยี่สิบแปดปีแล้ว ทว่าเขากราบเป็นศิษย์เจ้าอาวาสชุนหวังเหล่ยหลังสตรีผู้นั้น จึงได้เป็นเพียงแค่ศิษย์พี่รองเท่านั้น “นั่นสิอาจารย์ ศิษย์พี่ใหญ่นางไม่เคยออกจากอารามไปไหนไกล ท่านทำเช่นนี้ไม่ใช่ขับไล่นางไปสู่ความตายหรอกรึ” จางเจียเฟิ่งเห็นด้วยกับศิษย์พี่รองของเขา “ให้มันน้อย ๆ หน่อยเจ้าศิษย์โง่ทั้งสอง พวกเจ้าคิดว่าอารามไท่ผิงกวนแห่งนี้ สามารถอยู่รอดมาได้เพราะใครกัน หากไม่ใช่เพราะฝีมือของศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้า เห็นนางเงียบ ๆ แบบนั้น ความคิดนางกว้างไกลยิ่งนัก อาจารย์อย่างข้ายังเทียบนางไม่ติดด้วยซ้ำไป” เจ้าอาวาสชุนปีนี้อายุอานามปาเข้าไปหกสิบห้าปีแล้ว ทว่าร่างกายยังแข็งแรง อารามเต๋าแห่งนี้มีวิถีแบบไม่เคร่งครัด ใช้ชีวิตเยี่ยงฆราวาสผู้หนึ่ง สามารถแต่งงานมีครอบครัวได้ “อาจารย์นางอยู่ในอารามวาดยันต์กันภัยให้ชาวบ้านที่มากราบไหว้ ตั้งโต๊ะรักษาโรคภัยให้ผู้คนในตัวอำเภอฝู แต่หนนี้นางต้องกลับบ้านไปเพื่อแต่งงาน นางบริสุทธิ์ถึงเพียงนั้นมิถูกสามีจับกลืนกินจนไม่เหลือกระดูกหรอกรึ” เหอกุ้ยนึกภาพเทพเซียนผู้สูงส่งอย่างหลินซือเยว่ หากต้องร่วมเตียงกับบุรุษหยาบกระด้าง เพียงเท่านั้นเขาก็ทำใจไม่ได้จริง ๆ แทบอยากจะไปแย่งตัวศิษย์พี่ใหญ่ของตัวเองกลับคืนมา “เลิกคร่ำครวญได้แล้ว กลับไปกวาดลานอารามกับตรวจดูน้ำมันตะเกียงให้เรียบร้อย ศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้าไม่อยู่ เจ้าทั้งสองต้องรีบร่ำเรียนศึกษาหาความรู้ อารามไท่ผิงกวนจะได้เจริญรุ่งเรืองในภายภาคหน้าต่อไปได้” เจ้าอาวาสชุนทำเสียงดังใส่ลูกศิษย์ทั้งสอง “ไป ๆ ข้าจะสวดมนต์” โบกมือไล่ทั้งคู่ให้ออกจากห้องสวดมนต์ไป เจ้าอาวาสชุนรีบลุกไปปิดประตูลั่นกลอน ท่าทางลุกลี้ลุกลนจนผิดปกติ ย่องเบา ๆ ไปที่ใต้เตียงนอน ดึงหีบไม้เก่าเก็บออกมา ครั้นกดสลักเปิดออก ก็พบตั๋วเงินจำนวนสามพันตำลึงอยู่ในนั้น ตระกูลหลินที่ไม่ได้บริจาคน้ำมันตะเกียงมาหลายปี จู่ ๆ ก็ส่งตั๋วเงินมาให้ พร้อมกับขอรับคนกลับไปเพื่อแต่งงาน ช่วงนี้ชาวบ้านมาทำบุญที่อารามน้อยลง หลินซือเยว่ก็ไม่รู้ว่าเกิดอันใดขึ้นกับนาง ถึงไม่ยอมลงจากอารามไปรักษาผู้คน รายได้เลยหายหดแทบจ่ายอาหารการกิน(สุรานารี)ไม่พอ ตั๋วเงินสามพันตำลึงนี่มาได้ทันเวลาพอดี ! แครก ๆ ๆ ๆ เสียงกวาดลานหน้าอารามดังขึ้นพร้อมกับเสียงบ่นของเหอกุ้ย “ข้ารู้ว่านางเก่งเอาตัวรอดได้ ข้าเพียงไม่อยากให้นางไปก็เท่านั้น” “ศิษย์พี่รองท่านอย่าได้เสียใจไปเลย ไม่ใช่ว่ามีแต่นางที่ต้องแต่งงานมีครอบครัว ท่านเองก็เถอะที่บ้านส่งคนมารับทุกปีไม่ใช่รึ” จางเจียเฟิ่งรู้ดีว่าตนและเหอกุ้ย ถูกครอบครัวลงโทษด้วยการส่งมาอยู่ยังอารามแห่งนี้ ทว่าเพียงชั่วคราวเท่านั้น “ตัวข้านั้นไม่เป็นไรหรอก เจ้านั่นแหละศิษย์น้องสาม ข้าได้ยินว่าที่บ้านของเจ้า เพิ่งหาคู่หมั้นหมายคนใหม่ให้เจ้าอีกคนแล้วไม่ใช่รึ” สองศิษย์พี่น้องหยุดกวาดลานอาราม แล้วหันหน้าไปมองตากัน จากนั้นพวกเขาก็ถอนหายใจดัง ๆ พร้อมกัน ไม่มีศิษย์พี่ใหญ่อยู่ด้วย นับจากนี้ไปยามทำความผิดใครจะออกหน้าคอยช่วยเหลือ ยามเงินหมดใครจะให้หยิบยืม ยิ่งคิดพวกเขาก็ยิ่งไม่สบายใจเป็นอย่างมาก บนถนนมุ่งหน้าสู่เมืองหลวง รถม้าไม้ธรรมดาไม่เล็กไม่ใหญ่ ไร้ป้ายชื่อตระกูลบอกกล่าว คล้ายไม่อยากให้ผู้อื่นล่วงรู้ว่าคนที่นั่งอยู่ด้านในเป็นใคร เผิงฉือพยายามหลอกถามคนขับรถม้าอยู่หลายหน ถึงสถานการณ์ของตระกูลหลินในยามนี้ นางไม่เคยไปที่นั่นมาก่อนไม่รู้จักใครสักคน คนขับรถม้าตอบว่า เขามีหน้าที่มารับคุณหนูรองกลับบ้านเท่านั้น เรื่องอื่นนั้นเขาไม่รู้จริง ๆ “ได้ถามหรือไม่ ใช้เวลากี่วันในการเดินทาง” หลินซือเยว่เอ่ยเสียงเนิบ ๆ “ถามแล้วเจ้าค่ะ เขาบอกว่าราว ๆ สิบวันก็ถึงเมืองหลวงแล้ว” “สิบวันเชียวรึ” หลินซือเยว่มองห่อผ้าที่วางอยู่ด้านข้าง มีเพียงของใช้จำเป็นของนางไม่กี่ชิ้น พร้อมกับก้อนเงินจำนวนห้าสิบตำลึง “คงต้องแวะซื้อของในอำเภอฝูเสียก่อน” เผิงฉือรีบเปิดม่านบอกกับคนขับรถม้า แต่เขากลับทำเสียงฮึดฮัดคล้ายไม่พอใจ “เสียเวลาเดินทางเปล่า ๆ” น้ำเสียงเขากระด้างกระเดื่อง

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ