Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
แม่มดสาวเจ้าเสน่ห์

แม่มดสาวเจ้าเสน่ห์

B.J.BEN

5.0
ความคิดเห็น
13K
ชม
81
บท

...เธอ...ซินนี่แม่มดสาวสุดเซ็กซี่ เธอมาพร้อมภารกิจสำคัญ นั่นก็คือการตามหาเนื้อคู่ แต่เนื้อคู่ของเธอสิ ทำไมช่างซื่อบื้อเสียจริง แต่อย่างไรเสียเธอต้องทำให้เขารักให้ได้ภายในสามเดือน ไม่งั้นจะต้องถูกสาปเป็นแมวป่าตลอดชีวิต ...เขา...เอกภาพ อธิราช ดร.หนุ่ม นักวิทยาศาสตร์ผู้ชอบศึกษาค้นคว้า ชอบวิจัยและการทดลอง ใช้ชีวิตอยู่บ้านกับหลานๆ ตัวอ้วนกลมทั้งสอง ลูกชายและลูกสาวที่พี่สาวและพี่เขยที่ได้ฝากฝังเอาไว้ก่อนตาย ...แล้วการเจอกันของทั้งคู่ก็เกิดขึ้น

บทที่ 1 1

“ซินนี่ถึงเวลาแล้วที่เจ้าจะต้องเดินทางไปยังโลกมนุษย์” คำพูดของผู้เป็นยายทำให้ซินนี่งุนงง ท่านพูดเหมือนกับว่าเธอจะต้องเดินทางไปทำภารกิจอันใดที่สำคัญมาก ทั้งๆ ที่ปกติเธอก็แอบหนีเที่ยวไปยังโลกมนุษย์กับอาจารย์อูลก้าอยู่เสมอๆ

“ท่านยายหมายความว่าเช่นไร ข้าไม่เข้าใจ” ซินนี่มองผู้เป็นยายกับแม่ด้วยความสงสัย

“ซินนี่หลานรัก เจ้าเข้าสู่วัยแห่งการมีคู่แล้ว โลกเวทมนตร์ของเราถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่ง ที่จะสืบทอดเชื้อสายแม่มดของพวกเราต่อไป เจ้าต้องลงไปตามหาเนื้อคู่ของเจ้ายังโลกมนุษย์ เนื้อคู่ของเจ้าอยู่ที่นั่น เรื่องนี้ เจ้าคงรู้ดี” นาเนียร์ทอดตามองหลานสาวคนเดียวอย่างนึกชื่นชม ซินนี่ในวัยสาว สวยสดงดงามเกินแม่มดตนใด รวมถึงเป็นที่หมายปองของเหล่าบรรดาพ่อมดทั้งหลายในโลกเวทมนตร์ แต่ไม่ใช่เนื้อคู่จึงไม่สามารถฝืนครองคู่กันได้ ทำให้พ่อมดเหล่านั้นเพียงแค่แอบชื่นชม เพราะหากพ่อมดแม่มดตนใดฝืนกฎข้อนี้แล้ว ทั้งสองจะต้องถูกสาปไปชั่วชีวิต

“โลกมนุษย์เหรอเจ้าคะท่านยาย” ซินนี่ทวนคำของผู้เป็นยาย เธอแอบหนีไปยังโลกมนุษย์กับอาจารย์อูลก้าบ่อย หากครั้งนี้ต้องไปจริงๆ ก็ใจหายมิใช่น้อย เพราะไม่ใช่เป็นการหนีเที่ยวชวนตื่นเต้นเหมือนก่อน แต่เหมือนกับต้องไปทำภารกิจสำคัญ เช่นไรเสีย เธอก็ยังชอบการอยู่โลกเวทมนตร์มากกว่าอยู่ดี

ซินนี่คิดว่าตอนนี้ถึงวัยของการมีคู่แล้วจริงๆ เนื่องจากแม่มดวัยเดียวกันต่างมีคู่กันไปเกือบหมดแล้ว เธอมัวแต่เล่นซุกซนจึงไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้มาก่อน สงสัยว่าคราวนี้จะจวนตัวเอามากๆ ยายกับแม่จึงได้เรียกมาคุย ซึ่งเป็นที่รู้กันในโลกเวทมนตร์ว่า หากพ่อมดแม่มดตนใดเข้าสู่วัยหนุ่มสาวก็ต้องออกตามหาเนื้อคู่ของตนกันทั้งนั้น

“ใช่ เจ้ามีเวลาสามเดือน ซินนี่หลานรักของยาย หากเจ้าไม่สามารถครองใจเนื้อคู่ของเจ้าได้ เจ้าจะถูกสาปเป็นแมวป่าตลอดชีวิต นี่คือกฎของโลกเวทมนตร์ที่เจ้าก็คงรู้ดี” คำพูดของผู้เป็นยายเหมือนจะย้ำเตือนให้เธอได้คิด เธอรู้ดี แต่ไม่คิดจะทำต่างหาก

ซินนี่ถอนใจเบาๆ เพียงแค่ได้ยินว่าจะต้องถูกสาปเป็นแมวป่าตลอดชีวิตก็รู้สึกสยองอยู่พอควร แต่แม่มดอย่างซินนี่ไม่เคยกลัวอะไรอยู่แล้ว ถ้าเธอได้เจอเขาจริง แค่ร่ายเวทมนตร์ใส่ เพียงเท่านี้ เขาก็หลงเสน่ห์เธอ ยอมสารภาพรักแต่โดยดีแล้ว

“ท่านยายล้อเล่นกับข้ารึ ทำไมเหลือเวลาแค่สามเดือนเอง” ซินนี่ถามย้ำ ไม่ค่อยมั่นใจว่าทำไมถึงเหลือเวลาน้อยเช่นนี้ แม้จะรู้ว่าผู้เป็นยายหาได้เคยล้อเล่น แต่กว่าเธอจะหาเขาเจอคงนานพอสมควร โลกมนุษย์กว้างใหญ่ไพศาล ที่สำคัญ เวทมนตร์ที่ไม่ได้เรื่องของเธอคงตามหาเขาได้ยากยิ่ง คิดแล้วต้องเจ็บใจที่ไม่ได้ตั้งใจฝึกวิชา ถ้าฝึกวิชาแก่กล้ากว่านี้คงส่องหาเขาเจอโดยง่าย

“ยายเคยล้อเล่นกับเจ้ารึซินนี่ ระยะเวลาทั้งหมดที่เจ้าต้องทำให้เขาสารภาพรักกับเจ้าคือเวลาสามเดือน” นาเนียร์ย้ำด้วยน้ำเสียงมั่นคง

“ท่านยาย โลกมนุษย์ออกกว้างใหญ่ไพศาล ข้าจะไปหาเขาเจอได้ยังไงเล่า แล้วถึงเจอก็จะรู้ได้เช่นไรเล่าว่าเขาเป็นเนื้อคู่ของข้า” ซินนี่ขมวดคิ้วยุ่งกับสิ่งที่ผู้เป็นยายบอก

“หากเจ้าเจอเขาจริงๆ เขาจะมีแสงสีเงินออกจากตัว ปรากฏให้เจ้าเห็น คนนั้นคือเนื้อคู่ของเจ้า”

“แสงสีเงินเหรอคะท่านยาย”

“ใช่ ซินนี่ลูกรัก มนุษย์ที่เป็นเนื้อคู่กับแม่มด พ่อมดจะมีแสงสีเงินปรากฏให้เห็น เพื่อบอกให้รู้ว่านั่นคือเนื้อคู่” เวเนียร์บอกลูกสาวเพื่อเป็นการสำทับ

“ท่านยายกับท่านแม่จะให้ข้าออกเดินทางวันไหนเหรอคะ” ซินนี่ถามไถ่ นึกถึงโลกมนุษย์ก็ตื่นเต้นอยู่ไม่น้อย

ปกติเธอมีอาจารย์สองคนคือ คูลโซ่กับอูลก้า อาจารย์คูลโซ่ค่อนข้างจะเถรตรง เคร่งขรึมมากทีเดียว เวลาเธอเรียนเวทมนตร์กับท่านต้องสงบเสงี่ยมมาก จนแทบกระดิกตัวไปไหนไม่ได้ หากเธอทำอะไรผิดแค่นิดเดียวจะถูกลงโทษเสมอๆ จนเธอไม่กล้าทำอันใดให้อาจารย์โกรธ ดังนั้น เธอจึงต้องเอาแบบท่านคือต้องหัดสุขุมวางตัวให้เหมาะสมเอาไว้

สำหรับอาจารย์อูลก้าซึ่งเป็นอาจารย์อีกท่าน เขาค่อนข้างตลก เป็นกันเองแล้ว แถมยังพาเธอแอบหนีไปเที่ยวยังโลกมนุษย์เป็นประจำ ถ้าท่านรู้ว่าเธอไปโลกมนุษย์ สงสัยคงจะชวนเธอไปเที่ยวจนหนำใจ ไม่ต้องแอบหนีเหมือนเช่นที่ผ่านมา

“อีกสามวันจะเป็นคืนพระจันทร์เต็มดวงพอดี เจ้าต้องออกเดินทาง แต่มีข้อแม้ว่า...” นาเนียร์เว้นวรรคเอาไว้เพื่อให้หลานสาวสนใจไถ่ถามมากกว่านี้ เพียงแค่นางเห็นแววตาก็รู้ว่าหลานสาวแสนซนกำลังคิดอะไรพิเรนทร์ตามเคย

“ข้อแม้อันใดเล่าท่านยาย” ซินนี่หลุดจากภวังค์ความคิดเรื่องเที่ยว รีบถามเอาใจผู้เป็นยายเมื่อเห็นท่านหน้างอ

“เจ้าต้องเจอเนื้อคู่ของเจ้าภายในหนึ่งเดือน ก่อนพระจันทร์จะเต็มดวงอีกครั้ง ไม่เช่นนั้นเจ้าจะถูกสาปเป็นแมวป่า แล้วถึงตอนนั้น ยายกับแม่หรือใครๆ คงช่วยเจ้าไม่ได้”

“ท่านยาย ทำไมเร็วแบบนั้น” ซินนี่อวดครวญ แค่สามเดือนว่าเร็วแล้วที่จะให้เขาบอกรัก เธอยังไม่รู้จะหาเขาเจอหรือเปล่า แต่นี่เดือนเดียว คิดแล้วกลุ้ม แต่ยังพอใจชื้นขึ้นมาบ้าง เมื่อคิดถึงอาจารย์อูลก้า ท่านเชี่ยวชาญ มีประสบการณ์เรื่องโลกมนุษย์มากทีเดียว คงพอช่วยเหลืออะไรเธอได้บ้างแหละ

ซินนี่ค้านในใจเรื่องเนื้อคู่ว่าไม่เห็นจำเป็นสักนิด ทำไมโลกเวทมนตร์ต้องมีกฎแปลกประหลาดแบบนี้ด้วยนะ จริงแล้วๆ เธอยังไม่รักใคร ไม่อยากมีคู่ด้วยซ้ำ แม้จะมีพ่อมดมาสร้างสัมพันธ์ด้วย เธอก็ไม่เคยสนใจจะสมัครรักใคร่กับผู้ใด ทั้งอาจเป็นเพราะไม่ใช่เนื้อคู่ และอาจไม่สนใจเรื่องความรักด้วยก็เป็นได้

“เป็นกฎที่เจ้าต้องดำรงเผ่าพันธุ์ของเราต่อไป” นาเนียร์ดักคออย่างรู้ทันความคิดหลานสาว ซินนี่เลือกที่จะนั่งไม่ปริปากเอ่ยอันใด “เจ้าไปเตรียมตัวเถอะซินนี่ เดี๋ยวท่านอาจารย์ทั้งสองจะมอบของวิเศษให้เจ้า เจ้ามัวแต่เที่ยวเล่น จอร์จฝึกวิชากับอาจารย์เดียวกับเจ้า เขากลับกำลังจะสำเร็จวิชาขั้นสูง ส่วนเจ้ายังไปไม่ถึงไหน”

นาเนียร์ตำหนิหลานสาวพร้อมส่ายหน้าไปมาก่อนโบกมือให้เธอไปได้ ซินนี่อยากถามผู้เป็นยายอีกหลายเรื่อง แต่เปลี่ยนใจที่เห็นผู้เป็นยายทำหน้าเคร่งเครียด

“ค่ะ ท่านยาย”

“เดี๋ยวก่อนซินนี่” เสียงของมารดาทำให้ซินนี่หันหลับมามองด้วยความสงสัย

“ท่านแม่มีอันใดบอกให้ข้ารับรู้อีกรึ”

“เจ้าต้องทำให้เนื้อคู่ของเจ้าบอกรักก่อนสามเดือนก็จริง แต่เจ้าห้ามเสพสมร่วมรักกับเขาก่อนเขาจะสารภาพรักกับเจ้า ที่สำคัญ ห้ามใช้เวทมนตร์บังคับให้เขาสารภาพรัก มิเช่นนั้นเจ้าจะกลายเป็นแมวป่าทันที แล้วจะไม่ได้กลับมาเกิดเป็นแม่มดอีก จะต้องใช้ชีวิตเป็นแมวตลอดไปชั่วกัปชั่วกัลป์”

เวเนียร์ได้สบตากับบุตรสาวจึงรีบสำทับด้วยความเป็นห่วง นางรู้นิสัยของซินนี่ดี

“ร้ายแรงขนาดนั้นเชียว” ซินนี่ทำสีหน้าสยอง การที่ผู้เป็นยายและผู้เป็นแม่บอกว่าต้องเป็นแมวป่าตลอดไป มันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ สำหรับเธอจริงๆ แถมยังใช้เวทมนตร์ให้มนุษย์คนนั้นบอกรักไม่ได้อีก หากเขาไม่บอกรักเธอขึ้นมา เธอจะทำอย่างไรเล่า มิถูกสาปหรือไง

“ความจริง หากเจ้าสามารถพิชิตใจเขาได้ก็ไม่มีอะไรยาก ยายกับแม่เชื่อว่าเจ้าต้องทำได้” เป็นครั้งแรกที่ยายให้กำลังใจในตัวเธอ หญิงสาวยิ้มให้ยายกับแม่เพื่อให้คำมั่นสัญญาว่าเธอจะต้องทำให้จงได้

“ค่ะท่านยาย ท่านแม่ ข้าจะจำเอาไว้ งั้นข้าขอไปพบอาจารย์ทั้งสองก่อน”

“ไปเถอะซินนี่ ขอให้เจ้าตั้งใจฟังอาจารย์ของเจ้าให้ดี เพราะเจ้าต้องเรียนรู้อีกมาก”

ซินนี่ไปหาอาจารย์คูลโซ่ก่อนตามคำสั่งของยายและแม่ ระหว่างที่เดินทาง เธอได้ยินเสียงคุ้นหูเรียกเธอมาแต่ไกล

“ซินนี่ๆ” เสียงเรียกไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นใคร เธอจำได้ดีว่าเป็นเสียงของอูลก้า อาจารย์ที่ขี้โม้เป็นที่สุด

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ B.J.BEN

ข้อมูลเพิ่มเติม
ทาสรักมาเฟียเถื่อน

ทาสรักมาเฟียเถื่อน

โรแมนติก

5.0

เขา...คือมาเฟียเถื่อน ผู้เย็นชา โหดเหี้ยม และไม่เคยปล่อยให้ใคร “รอด” หากข้ามเส้นของเขา เธอ...คือสาวสวยธรรมดา ที่ดันเข้าไปเห็น "บางอย่าง" ในคลับใต้ดินของเขาเข้าโดยไม่ได้ตั้งใจ เพื่อ “ปิดปาก” เขาใช้ร่างกายของเธอเป็นข้อแลกเปลี่ยน แต่แทนที่จะลบเธอจากชีวิต... เขากลับ ขังเธอไว้ในหัวใจ แบบถอนตัวไม่ขึ้น “ฉันจะไม่ปล่อยให้เธอหนีไปไหนอีกแล้ว เธอต้องอยู่...เพื่อให้ฉันรัก และปั๊มลูกทุกคืน!” จากเพียงแค่ “ทาสรักในเตียงมาเฟีย” เขากลับรักเธอ...จนกลายเป็นสามีที่คลั่งรักที่สุดในโลก ท่ามกลางแรงรัก อารมณ์ดิบ และคำว่า ‘กรรม’ ที่ผูกมัดทั้งสองไว้ เรื่องราวของเขาและเธอจะลงเอยเช่นไร... เมื่อหัวใจของคนเถื่อน ถูกผู้หญิงคนเดียวทำให้ “อ่อนโยน” ได้เพียงแค่รอยยิ้มของเธอ

แกล้งนักรักหมดใจ

แกล้งนักรักหมดใจ

โรแมนติก

5.0

เมื่อ ภูผา ทายาทนักธุรกิจพันล้าน ถูกส่งตัวมาอยู่ที่บ้านนอกกลางทุ่งนา เขาต้องใช้ชีวิตร่วมชายคากับ ดาหลา ลูกสาวกำนันจอมแก่นที่มองเขาเป็นแค่ "หนุ่มกรุงไม่เอาไหน" จากความหมั่นไส้ กลายเป็นความห่วงใย... จากแผงผักริมตลาดนัด สู่แผนเปิดโปงที่เขย่าทั้งวงการธุรกิจ เมื่อหนุ่มเจ้าสำอางต้องมาเลี้ยงน้องควายทองแท้ที่ชอบให้ขัดหลังเสียเหลือเกิน แท้จริงคือ CEO ตัวจริงเสียงจริง! ความรัก ความลับ และแผนร้ายที่ซ่อนอยู่หลังรอยยิ้มจะพาทุกหัวใจอบอุ่นไปพร้อมกลิ่นหอมของไอดิน และคำว่ารักที่งอกงามกลางทุ่งนา เพราะบางที...ควายตัวเดียว ก็พาเราพบรักแท้ได้

บอสเถื่อนหลงเมีย

บอสเถื่อนหลงเมีย

โรแมนติก

5.0

เพราะเธอช่วยชีวิตเขาไว้...โดยไม่หวังสิ่งใดตอบแทน ในนาทีที่เธอคิดว่าเป็นแค่การทำดีธรรมดา กลับกลายเป็นการสะกิดหัวใจของชายหนุ่มผู้เย็นชาที่ไม่เคยเปิดใจให้ใคร "ธามกร วัฒนเดช" บอสหนุ่มผู้เก็บงำความเจ็บปวดไว้ใต้ท่าทีเรียบนิ่ง เขาไม่เคยเชื่อในน้ำใจของใคร...จนวันที่หญิงสาวตัวเล็กคนหนึ่งยอมเสี่ยงอันตรายเพื่อช่วยเขา และเธอ... "แก้วจอมขวัญ อินทราวงศ์" พนักงานบัญชีคนใหม่ ที่ไม่รู้เลยว่าแค่ ความดีเล็ก ๆ ในวันนั้น จะเปลี่ยนชีวิตเธอไปตลอดกาล จากคำขอบคุณ กลายเป็นความห่วงใย จากเจ้านายผู้เย็นชา กลายเป็นผู้ชายที่เดินเข้ามาทำให้หัวใจของเธอสั่นไหวทุกวินาที เขาค่อย ๆ เติมเต็มรอยร้าวในชีวิตของเธอ และเธอกลายเป็นคนเดียวที่เขาอยากปกป้องไปตลอดชีวิต "ถ้าคุณยังไม่กล้ารักผม งั้นขอให้ผมได้รักคุณก่อนนะ แก้วจอมขวัญ"

หนังสือที่คุณอาจชอบ

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

มาชาวีร์
5.0

หลังผ่าตัดนักพรตเฒ่าผู้หนึ่งนั้น นางวูบหมดสติและเสียชีวิตลงไป ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที ก็อยู่ในร่างของคุณหนูปัญญาอ่อนที่มีชื่อเดียวกันผู้นี้เสียแล้วทั้งยังจำอดีตชาติยามเป็นปรมาจารย์เต๋าได้อีกด้วย +++ 1 : ไล่ออกจากอารามไท่ผิงกวน แคว้นจิ้น ราชวงศ์เซวียน อารามไท่ผิงกวน “ไป ๆ อาจารย์ขับไล่พวกท่านออกจากอารามแล้ว อย่าได้มาเหยียบที่นี่อีก” “ศิษย์พี่รองรีบปิดประตูเร็วเข้า !” ตุบ ! ห่อผ้าสองห่อถูกโยนออกมาจากประตูอาราม ปัง ! ตามด้วยเสียงปิดประตูลงสลักอย่างหนาแน่น สตรีนางหนึ่งยืนตัวตรงเป็นสง่า เสื้อผ้ากับเส้นผมของนางปลิวไสวดั่งไผ่ลู่ลม หลินซือเยว่เงยหน้าขึ้นมองป้ายชื่ออารามไท่ผิงกวนด้วยสายตาเลื่อนลอย อาศัยอยู่ที่นี่มานานเท่าใดแล้วนะ บางครั้งนางเองก็ลืมเลือนวันเวลาไปเหมือนกัน “คุณหนูเจ้าคะ ศิษย์น้องทั้งสองของท่านทำเกินไปแล้วนะเจ้าคะ เหตุใดถึงไล่พวกเราสองคนออกจากอารามได้เล่า” เผิงฉือกระทืบเท้าเบา ๆ ตรงไปฉวยห่อผ้าทั้งสองบนพื้น ขึ้นมาคล้องแขนตัวเองไว้ “หากไม่ได้รับคำสั่งจากอาจารย์ ศิษย์น้องทั้งสองคงไม่กล้าขับไล่ข้าออกจากอารามหรอก” น้ำเสียงของนางสงบนิ่งฟังแล้วสบายหูยิ่งนัก หาได้มีความโกรธเกลียดแต่อย่างใด “นั่นรถม้า” นิ้วเรียวสวยชี้ไปยังรถม้าคันที่มีคนนั่งเฝ้าอยู่ “ป้าเผิงไปถามดูว่าใช่รถม้าของเราหรือไม่” เผิงฉือไม่รอช้ารีบตรงไปหาคนเฝ้ารถม้าที่อยู่ใต้ต้นไผ่ในทันที ไม่ช้านางก็กลับมาพร้อมกับรอยยิ้มนิด ๆ “เป็นรถม้าของเราจริง ๆ เจ้าคะคุณหนู คนขับบอกว่าเป็นคนของตระกูลหลินเจ้าค่ะ ได้รับคำสั่งจากท่านพ่อของคุณหนู ให้มารับคุณหนูกลับตระกูลหลินเพื่อไปแต่งงานเจ้าค่ะ” “กลับไปแต่งงานนี่เอง” นางเอ่ยเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่ หันหลังกลับไปทางประตูอาราม ประสานมือค้อมตัวคำนับลาอาจารย์ เผิงฉือเห็นเช่นนั้นก็อดที่จะคำนับตามนางไม่ได้ ภายในอารามไท่ผิงกวน “อาจารย์เหตุใดถึงไม่บอกลากับศิษย์พี่ใหญ่ไปตรง ๆ ล่ะ ทำเช่นนี้นางไม่โกรธท่านไปจนวันตายเลยรึ” เหอกุ้ยแม้มีอายุยี่สิบแปดปีแล้ว ทว่าเขากราบเป็นศิษย์เจ้าอาวาสชุนหวังเหล่ยหลังสตรีผู้นั้น จึงได้เป็นเพียงแค่ศิษย์พี่รองเท่านั้น “นั่นสิอาจารย์ ศิษย์พี่ใหญ่นางไม่เคยออกจากอารามไปไหนไกล ท่านทำเช่นนี้ไม่ใช่ขับไล่นางไปสู่ความตายหรอกรึ” จางเจียเฟิ่งเห็นด้วยกับศิษย์พี่รองของเขา “ให้มันน้อย ๆ หน่อยเจ้าศิษย์โง่ทั้งสอง พวกเจ้าคิดว่าอารามไท่ผิงกวนแห่งนี้ สามารถอยู่รอดมาได้เพราะใครกัน หากไม่ใช่เพราะฝีมือของศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้า เห็นนางเงียบ ๆ แบบนั้น ความคิดนางกว้างไกลยิ่งนัก อาจารย์อย่างข้ายังเทียบนางไม่ติดด้วยซ้ำไป” เจ้าอาวาสชุนปีนี้อายุอานามปาเข้าไปหกสิบห้าปีแล้ว ทว่าร่างกายยังแข็งแรง อารามเต๋าแห่งนี้มีวิถีแบบไม่เคร่งครัด ใช้ชีวิตเยี่ยงฆราวาสผู้หนึ่ง สามารถแต่งงานมีครอบครัวได้ “อาจารย์นางอยู่ในอารามวาดยันต์กันภัยให้ชาวบ้านที่มากราบไหว้ ตั้งโต๊ะรักษาโรคภัยให้ผู้คนในตัวอำเภอฝู แต่หนนี้นางต้องกลับบ้านไปเพื่อแต่งงาน นางบริสุทธิ์ถึงเพียงนั้นมิถูกสามีจับกลืนกินจนไม่เหลือกระดูกหรอกรึ” เหอกุ้ยนึกภาพเทพเซียนผู้สูงส่งอย่างหลินซือเยว่ หากต้องร่วมเตียงกับบุรุษหยาบกระด้าง เพียงเท่านั้นเขาก็ทำใจไม่ได้จริง ๆ แทบอยากจะไปแย่งตัวศิษย์พี่ใหญ่ของตัวเองกลับคืนมา “เลิกคร่ำครวญได้แล้ว กลับไปกวาดลานอารามกับตรวจดูน้ำมันตะเกียงให้เรียบร้อย ศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้าไม่อยู่ เจ้าทั้งสองต้องรีบร่ำเรียนศึกษาหาความรู้ อารามไท่ผิงกวนจะได้เจริญรุ่งเรืองในภายภาคหน้าต่อไปได้” เจ้าอาวาสชุนทำเสียงดังใส่ลูกศิษย์ทั้งสอง “ไป ๆ ข้าจะสวดมนต์” โบกมือไล่ทั้งคู่ให้ออกจากห้องสวดมนต์ไป เจ้าอาวาสชุนรีบลุกไปปิดประตูลั่นกลอน ท่าทางลุกลี้ลุกลนจนผิดปกติ ย่องเบา ๆ ไปที่ใต้เตียงนอน ดึงหีบไม้เก่าเก็บออกมา ครั้นกดสลักเปิดออก ก็พบตั๋วเงินจำนวนสามพันตำลึงอยู่ในนั้น ตระกูลหลินที่ไม่ได้บริจาคน้ำมันตะเกียงมาหลายปี จู่ ๆ ก็ส่งตั๋วเงินมาให้ พร้อมกับขอรับคนกลับไปเพื่อแต่งงาน ช่วงนี้ชาวบ้านมาทำบุญที่อารามน้อยลง หลินซือเยว่ก็ไม่รู้ว่าเกิดอันใดขึ้นกับนาง ถึงไม่ยอมลงจากอารามไปรักษาผู้คน รายได้เลยหายหดแทบจ่ายอาหารการกิน(สุรานารี)ไม่พอ ตั๋วเงินสามพันตำลึงนี่มาได้ทันเวลาพอดี ! แครก ๆ ๆ ๆ เสียงกวาดลานหน้าอารามดังขึ้นพร้อมกับเสียงบ่นของเหอกุ้ย “ข้ารู้ว่านางเก่งเอาตัวรอดได้ ข้าเพียงไม่อยากให้นางไปก็เท่านั้น” “ศิษย์พี่รองท่านอย่าได้เสียใจไปเลย ไม่ใช่ว่ามีแต่นางที่ต้องแต่งงานมีครอบครัว ท่านเองก็เถอะที่บ้านส่งคนมารับทุกปีไม่ใช่รึ” จางเจียเฟิ่งรู้ดีว่าตนและเหอกุ้ย ถูกครอบครัวลงโทษด้วยการส่งมาอยู่ยังอารามแห่งนี้ ทว่าเพียงชั่วคราวเท่านั้น “ตัวข้านั้นไม่เป็นไรหรอก เจ้านั่นแหละศิษย์น้องสาม ข้าได้ยินว่าที่บ้านของเจ้า เพิ่งหาคู่หมั้นหมายคนใหม่ให้เจ้าอีกคนแล้วไม่ใช่รึ” สองศิษย์พี่น้องหยุดกวาดลานอาราม แล้วหันหน้าไปมองตากัน จากนั้นพวกเขาก็ถอนหายใจดัง ๆ พร้อมกัน ไม่มีศิษย์พี่ใหญ่อยู่ด้วย นับจากนี้ไปยามทำความผิดใครจะออกหน้าคอยช่วยเหลือ ยามเงินหมดใครจะให้หยิบยืม ยิ่งคิดพวกเขาก็ยิ่งไม่สบายใจเป็นอย่างมาก บนถนนมุ่งหน้าสู่เมืองหลวง รถม้าไม้ธรรมดาไม่เล็กไม่ใหญ่ ไร้ป้ายชื่อตระกูลบอกกล่าว คล้ายไม่อยากให้ผู้อื่นล่วงรู้ว่าคนที่นั่งอยู่ด้านในเป็นใคร เผิงฉือพยายามหลอกถามคนขับรถม้าอยู่หลายหน ถึงสถานการณ์ของตระกูลหลินในยามนี้ นางไม่เคยไปที่นั่นมาก่อนไม่รู้จักใครสักคน คนขับรถม้าตอบว่า เขามีหน้าที่มารับคุณหนูรองกลับบ้านเท่านั้น เรื่องอื่นนั้นเขาไม่รู้จริง ๆ “ได้ถามหรือไม่ ใช้เวลากี่วันในการเดินทาง” หลินซือเยว่เอ่ยเสียงเนิบ ๆ “ถามแล้วเจ้าค่ะ เขาบอกว่าราว ๆ สิบวันก็ถึงเมืองหลวงแล้ว” “สิบวันเชียวรึ” หลินซือเยว่มองห่อผ้าที่วางอยู่ด้านข้าง มีเพียงของใช้จำเป็นของนางไม่กี่ชิ้น พร้อมกับก้อนเงินจำนวนห้าสิบตำลึง “คงต้องแวะซื้อของในอำเภอฝูเสียก่อน” เผิงฉือรีบเปิดม่านบอกกับคนขับรถม้า แต่เขากลับทำเสียงฮึดฮัดคล้ายไม่พอใจ “เสียเวลาเดินทางเปล่า ๆ” น้ำเสียงเขากระด้างกระเดื่อง

ที่แท้เป็นคุณหนูตัวจริง

ที่แท้เป็นคุณหนูตัวจริง

Nadia Lada
5.0

เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"

วิวาห์สายฟ้าแลบ

วิวาห์สายฟ้าแลบ

กวินท์
5.0

เสิ่นหยวูแต่งงานกับเหอซวี่ที่เป็นสูติแพทย์ตอนอายุยี่สิบสี่ปี สองปีต่อมา เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ห้าเดือนแล้ว เหอซวี่ก็วางแผนแท้งลูกเธอด้วยมือตัวเอง และหย่าร้างกับเธอ ระหว่างช่วงเวลาที่มืดมนเหล่านี้ ตู้หยวุนปรากฏตัวเข้าในชีวิตของเสิ่นหยวู เขาทำดีต่อเธออย่างอ่อนโยน และให้ความอบอุ่นแก่เธออย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็ทำให้เธอต้องเจ็บปวดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนเช่นกัน สุดท้าย เสิ่นหยวูจึงเข้มแข็งขึ้นหลังผ่านพ้นไปกับทุกอย่างแล้ว แต่เมื่อความจริงก็ถูกเปิดเผยในที่สุด เธอจะยอมรับและอดทนได้ไหม? อยู่เบื้องหลังตู้หยวุนผู้ที่หล่อเหลาดูมีเสน่ห์นั้นเป็นใคร?และเมื่อพบคำตอบแล้ว เสิ่นหยวูจะรับมือยังไง ?

ข้าเก็บภรรยาได้ที่ชายหาด (ภาคต่อ สามีข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง)

ข้าเก็บภรรยาได้ที่ชายหาด (ภาคต่อ สามีข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง)

จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ
5.0

ชาติที่แล้วของไห่เฉิงเขาเป็นประมุขมารที่ไม่สมหวังในความรัก มาแสนภพแสนชาติ และภพชาติที่หนึ่งแสนของเขา มีเหตุให้ต้องทำลายดวงจิตมารของตนเอง และเหลือเสี้ยวดวงจิตเอาไว้เพียงน้อยนิด ดวงจิตที่เหลืออยู่เขาอ้อนวอนขอต่อมหาเทพขอให้เขาได้เกิดเป็นมนุษธรรมดา ที่สมหวังในความรักม่ีครอบครัวที่อบอุ่น และไม่ขอจดจำอดีตชาติของตัวเองอีกต่อไป เขาขอเริ่มต้นใหม่ในดินแดนมนุษย์และไม่ว่าจะเกิดอีกกี่ครั้งกี่ภพกี่ชาติ ขอให้เขาได้สมหวังในความรักทุกภพทุกชาติไป

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ