Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
เจ้าสาวอุปถัมภ์

เจ้าสาวอุปถัมภ์

B.J.BEN

5.0
ความคิดเห็น
759
ชม
20
บท

“เรื่องมิ่งขวัญว่าไงเฮีย” อธิปไตยเปลี่ยนเรื่อง เห็นพี่ชายโมโหก็เลยไม่อยากพูดเรื่องเขียนฟ้าอีก “ว่าไงอะไรยังไง” “เฮียยัดเยียดความเป็นผัวให้เด็กมันแล้ว จะไม่รับผิดชอบหรือไง” “ก็ให้แม่ดูแลไป” “แม่จะส่งมิ่งขวัญไปเรียนในเมือง” “ก็ดีแล้ว ยังเด็กอยู่ ควรจะเรียนหนังสือ” “เฮียรู้ด้วยนะว่ามิ่งขวัญยังเด็ก” อธิไตยประชดพี่ชายหน่อยๆ “เออ... มีตานะโว้ย” “อ้อ... ผมก็ไม่ได้ว่าเฮียตาบอด” “ไอ้นี่กวนส้นรองเท้า” “แม่บอกว่ามิ่งขวัญเรียนจบกลับมา จะให้แต่งงานกับเฮีย” “แค่กๆๆๆ” คนเมาสำลัก ไอติดกันหลายครั้ง ตบอกไปมา มองน้องชายเหมือนเห็นสิ่งแปลกประหลาด “ไหนบอกรับมาเป็นน้อง” “ตอนแรกก็คิดอย่างงั้น แต่เฮียดันไปกินตับเด็กมันซะก่อน” “คืนนั้นมันเมา” “มิ่งขวัญนิสัยดีนะเฮีย อยู่บ้านเราเดือนนึงใครๆ ก็รุมรัก เข้ากับทุกคนได้ดี มีน้ำใจ พูดเพราะ ขยันขันแข็ง แม่นี่ปลื้มมากกว่าใครเพื่อน ทำอาหารอร่อยมากเลยเฮีย” “ขี้เหร่จะตายไป” คนเมาพูดแล้วเสมองไปทางอื่น... ซะเมื่อไหร่ล่ะ เด็กนั่นน่ารักจะตายไป แต่คนอย่างเขาเหรอจะยอมรับ! “เห้อ...” “ถอนใจอะไรของแก” “จู่ๆ ก็นึกสงสาร” “แกสงสารฉันล่ะสิ จู่ๆ ก็ได้เมียขี้เหร่” “เปล่า สงสารเด็กมัน หมดอนาคตกับเฮียนี่แหละ” “แค่กๆๆๆๆ” อธิราชสำลักหูตาแดงไปหมด “ไอ้!” เขาหันมาจะด่าน้องชายแต่ด่าไม่ออก “เด็กมันเพิ่งสิบแปด แล้วดูเฮียสิแก่งั่ก มิ่งขวัญจบปริญญาตรี อีกสี่ปีเฮียเกือบสี่สิบ สงสารเด็กมัน” “ไอ้!” คนด่ามือไม้สั่น ไอ้น้องเวรตะไลมันหาว่าเขาแก่ “มาบอกเฮียแค่นี้แหละ” “ไม่จำเป็นก็ได้” “เปล่า แม่ให้มาดูว่าตายหรือไง หนวดเคราโกนบ้างนะ โจรยังดูดีกว่าเฮียอีก” “ไอ้โซ่” “อือ... เฮียว่าไง” “มึงเคยโดนเตะไหมวะ” “ไม่เคย” “อยากโดนไหม” “แก่ๆ แบบเฮียวิ่งเตะผมไหวเหรอ” “ไอ้โซ่มึง มึง มึง!” ภาษาพ่อขุนหลุดออกมาเต็มเหนี่ยว อธิปไตยเผ่นแนบ

บทที่ 1 1

บทนำ

มณีรัตน์กระแทกก้นลงบนเก้าอี้ในห้องนั่งเล่นด้วยใบหน้าหงิกงอ จนคนเป็นสามีต้องหันไปมองหน้าลูกชายทั้งสองตาปริบๆ รู้เลยว่าภรรยาต้องไปหงุดหงิดใจอะไรมาอย่างแน่นอน

“คุณแม่เป็นอะไรครับ” อธิปไตย วสุธิกุล ลูกชายคนเล็กวัยสามสิบเอ่ยถามมารดาเสียงนุ่ม

“หมั่นไส้ยายกำไลนัก เวลาแม่ไปซื้ออะไร มันชอบมาซื้อตัดหน้าแม่อยู่เรื่อย” กำไลที่มณีรัตน์เอ่ยถึงคือกชกร อดีตเพื่อนรักของเธอนั่นเอง

ในอดีตนั้นเธอกับกชกรรักกันมาก แต่มาผิดใจกันเรื่องผู้ชาย ก็อธิวัฒน์สามีคนปัจจุบันของเธอเองนี่แหละ เขากับเธอรักกัน แต่กชกรแอบรักอธิวัฒน์ด้วย แต่ผู้ชายไม่เล่นด้วย เขาเลือกเธอ กชกรเลยโกรธ หาว่าเธอแย่งผู้ชายที่แอบชอบไปครองต่อหน้าต่อตา หลังจากนั้นหล่อนก็ไปแต่งงานกับนภดล เพื่อนของอธิวัฒน์แทน เวลาเจอกันก็จะชอบพูดจาแดกดันหาเรื่องประชดประชันอยู่เรื่อย แรกๆ เธอก็ไม่ได้คิดอะไร แต่พอหลายปีเข้าชักจะหนักข้อขึ้น ทุกวัน ที่ร้ายไปกว่านั้นเจ้าลูกชายคนโตของเธอดันไปชอบ เขียนฟ้า ลูกสาวคนเดียวของกชกรเสียอีก

“คุณแม่ก็ชอบไปมีเรื่องกับน้ากำไล” อธิราชส่ายหน้าไปมา เลยได้ดวงตาเขียวปั้ดจากมารดาตอบกลับมาในทันที

อธิราช วสุธิกุล วัยสามสิบห้าปีเป็นลูกชายคนโตของคุณ มณีรัตน์และคุณอธิวัฒน์ ครอบครัวนี้ทำสวนทำไร่เพราะมีที่ดินมากเป็นพันไร่

ส่วนครอบครัวของกชกรกับนภดลนั้นค้าขาย ฐานะทางบ้านมีฐานะร่ำรวยไม่ต่างกัน

“เจ้าแซน แกไปชอบลูกสาวนังกำไลได้ยังไงกัน ผู้หญิงสวยออกเต็มบ้านเต็มเมืองไปหมด ทำไมแกเลือกเอาสักคน ฉันละหนักใจกับแกจริงๆ เลย”

มณีรัตน์พูดด้วยความหงุดหงิดใจ โบกพัดในมือไปมาให้หายจากความร้อนรุ่มในอก

“ความรักมันห้ามกันได้ที่ไหนล่ะครับคุณแม่”

“ห้ามได้สิ ฉันไม่อยากไปดองหรือนับญาติกับมัน”

“แต่ถ้าคุณแม่ไม่ไปขอเขียนฟ้าให้เฮีย รับรองเลยว่าคุณแม่จะโดนนินทา หาว่าจน ไม่มีปัญญาไปสู่ขอลูกสาวเขานะครับ ป้ากำไลพูดไปทั่วตลาดว่าคุณแม่ประกาศไปแล้วว่าสินสอดลูกชายสองคนถึงไหนถึงกัน” อธิปไตยพูด แล้วกลั้นขำ บางทีพวกผู้ใหญ่ก็ทะเลาะกันเรื่องไร้สาระ

“เจ้าโซ่ แกก็เห็นทุกอย่างเป็นเรื่องตลกไปหมด แกเถอะ สามสิบแล้ว ชาตินี้จะมีเมียไหม จะมีผู้หญิงโชคร้ายคนไหนได้แกเป็นผัว ห้ะ!”

“โอ๊ย! แรงอะคุณแม่ ผมไม่ได้ชั่วช้าสารเลวขนาดนั้น พูดซะผมไม่มีอะไรดีเลย”

“น้อยไปสิไม่ว่า”

“คุณแม่ก็หาให้ผมสิครับ หาให้แต่เฮีย ผมก็รอให้คุณแม่หาผู้หญิงดีๆ ให้ผมเหมือนกัน”

“โอ๊ย! ฉันไม่อยากเอาหนังหน้าไปรับประกันอะไรให้แกหรอก เกิดแกไปทำลูกสาวเขาน้ำตาเช็ดหัวเข่าขึ้นมา ฉันจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน”

“ไว้บนบ่าเหมือนเดิมไงครับ”

“เพื่อนเล่นแกรึ”

“ขอโทษครับ”

“ฉันล่ะอ่อนใจกับแกเหลือเกิน”

“โหย... คุณแม่พูดซะผมนี่ชั่วเลยนะครับ แล้วเฮียแซนดูเป็นเทวดาขึ้นมาเลย” อธิปไตยแกล้งโอดครวญ

“แกน่าจะสำนึกบ้างนะ” มณีรัตน์จิกกัดลูกชาย ในขณะที่อธิราชนั่งฟังน้องชายกับมารดาเถียงกันไปมา ส่วนบิดานั้นไม่ต้องพูดถึง เป็นผู้ฟังที่ดีตลอดปีตลอดชาติ

“ผมไปข้างนอกดีกว่าครับ”

“แกจะไปไหนเจ้าแซน”

“ไม่บอกครับ”

“ไอ้ๆๆ ไอ้เจ้าลูกคนนี้นี่” มณีรัตน์ชี้นิ้วสั่นระริก มองตามลูกชายคนโตไปอย่างหงุดหงิดใจ

“เฮียคงไปหาว่าที่เมียแหละครับ”

“รู้ดี แกตามไปดูหน่อยสิ”

“ไม่ครับ ผมไม่ว่าง เฮียแซนโตจนหมาเลียก้นไม่ถึงแล้ว ปล่อยไปเถอะครับ”

“ไม่รู้ว่าจะไปรักไปชอบอะไรนักหนากับลูกนังกำไลมัน ไม่เห็นจะสวย สักนิด”

“ถ้าเขียนฟ้าไม่สวย ผู้หญิงทุกคนบนโลกคงขี้เหร่กันหมดแล้วละครับ คุณแม่”

“ขาวซีดขนาดนั้นมันสวยยังไง ผอมอย่างกับกุ้งแห้ง พี่ชายแกไม่รู้จักผู้หญิงที่มีน้ำมีนวลหรือไง”

“อ้วนๆ น่ะเฮียไม่เอาหรอกคุณแม่ เฮียชอบผู้หญิงแขนเล็ก ขาเล็ก นมใหญ่ เอวคอด สะโพกสะบึม”

“ผู้หญิงแบบนั้นเอามาทำไม มานั่งชี้นิ้วเป็นคุณนายน่ะรึ บ้านเราทำไร่ไม่ใช่เปิดห้างสรรพสินค้า”

“แล้วแม่จะให้เมียเฮียมาทำไร่ไถนาหรือไง เฮียโตแล้วแม่ ปล่อยเฮียไปบ้างเถอะ ไม่กลัวเฮียมีปัญหาชีวิตหรือไง”

“ปัญหาชีวิตบ้าบอคอแตกอะไรของแก พูดซะฉันเป็นพวกเผด็จการ”

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ B.J.BEN

ข้อมูลเพิ่มเติม

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

มาชาวีร์
4.8

เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที

หลังหย่าเธอกลายเป็นมหาเศรษฐี

หลังหย่าเธอกลายเป็นมหาเศรษฐี

Lewie Parenti
5.0

"ความรักทำให้คนตาบอด" เซิงเกอละทิ้งชีวิตที่สงบสุขเพื่อแต่งงานกับชายคนนั้น ยินยอมทำตัวเหมือนคนรับใช้ที่ไร้ตัวตนมาสามปีเต็ม แต่ในที่สุดเธอก็ตระหนักว่าความพยายามของเธอ มันไร้ประโยชน์สิ้นดี เพราะในใจของสามีตัวเองมีแต่รักแรกของเขา เซิงเกอรู้สึกผิดหวังอย่างมาก และขอหย่าอย่างเด็ดขาด "ถึงเวลาแล้ว ฉันไม่ปกปิดอีกแล้ว จะบอกความจริงให้" ทันใดนั้น โลกออนไลน์ก็ระเบิดขึ้นทันที มีข่าวลือว่าสาวรวยพันล้านคนหนึ่งหย่าร้างแล้ว ดังนั้น ซีอีโอนับไม่ถ้วนและชายหนุ่มรูปงามต่างรีบเข้าหาเธอเพื่อเอาชนะใจเธอ เฝิงอวี้เหนียนเห็นดังนั้นจึงทนไม่ไหวอีกต่อไปเลยจัดงานแถลงข่าวในวันถัดไป โดยขอร้องอย่างจริงจังว่า: ผมรักเซิงเกอ ขอร้องคุณภรรยากลับบ้านนะ

ฉ่ำรักเมียนักธุรกิจ

ฉ่ำรักเมียนักธุรกิจ

แหวนก้อย
5.0

‘ทริปฮันนิมูนที่ไม่ได้มีแค่เรา แต่ฉันและเขายังมีผู้ร่วม ทริปเข้ามาสร้างสีสันอีกมากมาย’ หลังแต่งงาน ตฤณก็พาภรรยาสาววัยละอ่อนอย่างยี่หวาไปฮันนิมูนเหมือนคู่สามีภรรยาคู่อื่น ๆ แต่การเดินทางไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์กับสามีผู้เป็นนักธุรกิจในครั้งนี้ กลับทำให้ยี่หวาได้รู้ว่าตฤณสามีของเธอมีรสนิยมทางเพศแบบไหน และที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นคือ เขาทำให้เธอได้รู้จักตัวตนของตัวเองอย่างที่เธอไม่คิดว่าจะได้รู้จักด้วยซ้ำ ตฤณจะพายี่หวาไปฮันนิมูนที่ไหน อย่างไร และกับใคร ติดตามอ่านได้ใน “ฉ่ำรักเมียนักธุรกิจ” แนะนำตัวละคร ยี่หวา : สาวสวยวัย 24 ปี ผู้มีผิวขาว และรูปร่างอวบอัด แต่น่าทะนุถนอม นิสัยอ่อนหวาน ว่าง่าย แต่เป็นคนอยากรู้อยากลอง ยี่หวาเพิ่งจะรู้ว่าสิ่งที่ตฤณทำกับเธอในห้องหอนั้นมันก็แค่น้ำจิ้ม เพราะเมื่อเดินทางไปฮันนิมูนกับตฤณจริง ๆ เธอกลับได้เรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ จนเธอติดอกติดใจอย่างยากจะถอนตัว สำหรับยี่หวาแล้ว 'คืนเข้าหอที่เคยคิดว่าเด็ด ยังไม่เผ็ดเท่าทริปฮันนิมูนที่สามีหนุ่มจัดให้' ตฤณ : นักธุรกิจหนุ่มวัย 34 ปีหนุ่มลูกเสี้ยว บ้างาน แต่เวลาคลายเครียดก็สนุกสุดเหวี่ยง โดยเฉพาะเรื่องเซ็กส์ ตฤณหมั้นหมายกับยี่หวาตามความเห็นชอบของผู้ใหญ่เพราะถูกใจในความน่ารัก แต่ยิ่งไปกว่านั้นคือเพราะยี่หวาเป็นเด็กดี และไม่เคยดื้อกับเขาเลยสักครั้ง ว่านอนสอนง่ายแบบนี้สิ ถึงจะใช้ชีวิตคู่ไปด้วยกันตลอดรอดฝั่ง

พี่เขยคลั่งสวาท

พี่เขยคลั่งสวาท

กาสะลอง
5.0

“หยุดทำบ้าๆ นะพี่สิงห์...อ๊อย...” น้ำผึ้งขนลุกซู่ เขาจูบไซ้ซอกคอของหล่อน ขณะหญิงสาวกำลังยืนส่องกระจกอยู่หน้าอ่างล้างหน้า “พี่ขออีกนิด แค่ภายนอกเท่านั้นนะจ๊ะ ไม่เสียหายอะไรนี่นา...นะครับ” พี่เขยปะเหลาะปะแหละอย่างคนเอาแต่ได้ เสียงออดอ้อนอ่อนหวานเริ่มทำให้น้องเมียใจอ่อนหวามไหว ปล่อยให้มือของเขาเคล้นคลึงสะโพกของหล่อนอย่างนึกมันเขี้ยว สอดท่อนแขนเข้ามาระหว่างง่ามก้น หงายฝ่ามือลูบไล้เข้ามาถึงหนอกเนื้ออุ่นจัดอีกครั้ง ตะล่อมล้วงเข้ามาโอบเนินนูนเหมือนหลังเต่า บีบขยำเบาๆ เหมือนจะประมาณความอวบใหญ่ล้นอุ้งมือ “ของผึ้งใหญ่จัง” มือสัมผัสกลีบเนื้อเป็นพูแน่น โหนกนูนและใหญ่กว่าของเจนนี่มากมาย “อ๊าย...” น้ำผึ้งเสียว กระดกก้นขึ้นโดยอัตโนมัติ สิงหาบีบขยำความเป็นผู้หญิงของหล่อนเป็นจังหวะ หัวใจเต้นแรงกับความอวบใหญ่ที่อัดแน่นอยู่ในอุ้งมือของตน “อย่า...พี่สิงห์...หยุดเดี๋ยวนี้นะ เดี๋ยวพี่เจนนี่มาเห็นผึ้งซวยแน่ๆ” น้องเมียร้องห้ามอย่างสับสนใจ ส่ายก้นทำท่าว่าจะดิ้นหนี แต่ช้ากว่ามือใหญ่ของสิงหาอีกข้างที่กดลงบนแผ่นหลังของหล่อนเหมือนจะล็อกกายไม่ให้ขยับหนี

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ