Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
วิวาห์ซ่อนกลรัก

วิวาห์ซ่อนกลรัก

B.J.BEN

5.0
ความคิดเห็น
106K
ชม
118
บท

รัชวินทร์รู้ดีว่า ถึงจะมีหรือไม่มีแผนการของญาติผู้ใหญ่ เขาก็บังเกิดความรู้สึกพิเศษกับแก้วกัลยา เด็กสาวในอุปการะของคุณตาคุณยาย และเธอก็เป็นผู้หญิงคนเดียวที่ทำให้เขาอยากสร้างครอบครัวที่แสนอบอุ่น

บทที่ 1 1

รัชวินทร์ แอนเดอร์สัน นักธุรกิจหนุ่มเนื้อหอมผู้ประสบความสำเร็จและร่ำรวยมหาศาล กำลังขับรถจี๊ปคันโตมุ่งหน้าไปยังบ้านสวนของผู้เป็นยายเพื่อไปเยี่ยมครอบครัวในต่างจังหวัด ตอนนี้เป็นช่วงแห่งการพักร้อนมาราธอนของเขา หลังจากทำงานอย่างหนักมาหลายปี จนกิจการทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง เขาจึงอยากพักเงียบๆ เพื่อเลียแผลใจ จากการถูกทรยศหักหลัง เมื่อแฟนสาวที่คบหาดูใจกัน นอกใจไปมีผู้ชายคนอื่น

ความที่อยากขับรถเองและแวะซื้อของระหว่างทางเนื่องจากไม่ได้พักร้อนมานานแล้ว เขาจึงไม่มีคนขับรถให้ต้องวุ่นวาย ขับไปพักไป แวะดูข้าวของมากมายระหว่างทาง ซึ่งเขาไม่เคยได้สัมผัสบรรยากาศแบบนี้มานานแล้ว น้องชายซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องที่ช่วยกันบริหารงานเป็นผู้สนับสนุนให้เขาพักร้อนได้นานที่สุดเท่าที่จะนานได้

รถจี๊ปแล่นเข้ามาในอาณาเขตอันร่มรื่นของหมู่บ้านเล็กๆ ในต่างจังหวัด เขาฮัมเพลงไปพร้อมๆ กับการมองทัศนียภาพรอบข้างที่เขียวขจี ซึ่งหาชมได้ยากยิ่ง พยายามสลัดเรื่องราวเจ็บปวดในชีวิตทิ้งไปโดยสิ้น แม้เขาจะบอกใครๆ ว่าไม่เป็นอะไร แต่ความเจ็บลึกในอกที่ฝังรากลึกเนื่องจากแผลเหวอะหวะ ก็ยากยิ่งที่จะลืมเลือนไปได้อย่างง่ายดาย เขาเป็นคนมีชีวิตมีจิตใจ ไม่ใช่หุ่นยนต์ไร้ความรู้สึก ที่จะทำอะไรตามคำสั่ง เพราะทุกอย่างที่ทำ เขาทำมันด้วยใจ

เขายังจำได้ดีถึงคำพูดของน้องชาย ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องของเขาเอ่ยเตือนสติและเชื่อมั่นว่าเขาจะผ่านมันไปได้ด้วยดี

‘สักวันนายจะเจอผู้หญิงที่ดี ที่เหมาะสมคู่ควรจะอยู่เคียงข้างนาย ฉันเชื่อแบบนั้น’

เดรก... เป็นน้องชายที่เติบโตมาพร้อมๆ กับเขาในขณะอยู่เมืองนอก อายุห่างกันปีเดียว ปีนี้เขาอายุ 27 เดรก อายุ 26 และเขายังมีน้องชายร่วมสายเลือดอีกคนคือชัชวินทร์ อายุ 25 ปี

อี๊ด!!! เอี๊ยด!!!

เสียงเบรกรถกะทันหันของรัชวินทร์เบียดกับถนนแข็งๆ ที่เป็นหินบดหยาบ ซึ่งเป็นทางทอดตัวไปในหมู่บ้าน ชายหนุ่มรีบลงไปดูหน้ารถทันทีเพราะเมื่อครู่เขามัวแต่มองวิวด้านนอก และคิดอะไรเพลินๆ เลยไม่ทันเห็นว่ามีผู้หญิงเดินตัดหน้ารถออกมาจากข้างทาง

“เป็นยังไงบ้าง” น้ำเสียงติดจะกังวลเอ่ยถามก่อนจะรีบเข้าไปดูบาดแผลตามเนื้อตัวของคนที่ล้มลงไปหน้ารถยนต์ แก้วกัลยาเงยหน้าขึ้นเพื่อจะตอบว่าไม่เป็นไร แต่เธอก็ต้องอ้าปากค้าง ก่อนจะก้มหน้างุด

รัชวินทร์เองก็อึ้งไปเช่นเดียวกันเมื่อได้สบสายตาหวานหยดของคนตรงหน้า เขาค่อยๆ เชยคางเธอขึ้นมองดวงหน้างามอีกครั้งด้วยความตกตะลึง

“นางไม้หรือเปล่านี่ แต่เอ่อ... หน้าเธอคุ้นๆ เหมือนฉันเคยเห็นที่ไหนมาก่อน” คนถามเสียงเหมือนละเมอ เรียกสติให้แก้วกัลยาอีกครั้ง เธอกะพริบตาปริบๆ เพราะตัวเองก็เอาแต่มองเขาค้าง

“ดิฉันไม่ได้เป็นอะไรมากค่ะ” เธอเบี่ยงหน้าหนีจากมือหนาที่เชยคางเอาไว้อย่างนุ่มนวล ก่อนจะพยายามลุกขึ้น เขาจึงรีบประคองเอาไว้

“ขอตัวก่อนนะคะ” นึกน้อยใจวูบขึ้นมาในอกเมื่อเขาจำเธอไม่ได้ อยากจะไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด

“อ้าวคุณ อย่าเพิ่งไปสิ คุณอยู่ในหมู่บ้านนี้เหรอครับ” รัชวินทร์ตะโกนถาม เมื่อเห็นร่างนุ่มนิ่มรีบเดินหนีไปอย่างรวดเร็ว เขาถึงกับเกาหัวไปมาเพราะเธอหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้

“เอาน่า ยังไงก็อยู่ที่นี่ เขาคงหาเธอเจอ ในเมื่อหมู่บ้านเล็กๆ ที่นี่มีกันอยู่ไม่กี่ครัวเรือนเท่านั้นเอง แต่หน้าคุ้นมาก เหมือน!!! บ้าเอ๊ย เพ้อแล้วแก คงไม่บังเอิญขนาดนั้นมั้ง”

เขาคงคิดมากไปเอง ไม่บังเอิญขนาดนั้นมั้ง รัชวินทร์เดินไปขึ้นรถก่อนจะขับไปอีกไม่กี่นาทีก็ถึงบ้านเรือนไทยหลังใหญ่ หลายปีแล้วที่ไม่ได้กลับมาเยี่ยมผู้เป็นตาและยายเลย คงตั้งแต่ที่เขาไปเรียนต่อต่างประเทศ และทำงานอย่างเต็มตัว ไหนต้องรับช่วงต่อกิจการจากปู่และย่าที่โน่นอีก

เหตุผลสำคัญอีกข้อคือเมื่อหลายปีก่อน ตากับยายเอ่ยเรื่องที่จะให้เขาแต่งงานกับเด็กในอุปการะของท่าน ซึ่งเขาไม่ชอบการคลุมถุงชนแบบนั้นเลยสักนิด แม้จะยอมรับว่าเธอน่ารัก แต่เขาก็ค้านและปฏิเสธหัวชนฝา เพราะอยากที่จะเลือกด้วยตัวเอง ด้วยเหตุนี้เขาจึงไม่ได้กลับมาเหยียบบ้านเกิดของมารดาหลายปี

นอกเหนือจากที่ตอนนี้เขาอยากกลับมาพักผ่อนที่นี่อย่างสงบ ตัดขาดจากความวุ่นวายทั้งหลายทั้งปวง ส่วนเรื่องการคลุมถุงชนเมื่อหลายปีก่อน คิดว่าพวกท่านคงจะลืมมันไปแล้ว หรือไม่ก็เข้าใจดีว่าเขาไม่ปรารถนาให้มันเป็นเช่นนั้น หรือป่านนี้เด็กนั่นคงจะมีคนรักและแต่งงานไปแล้วก็ได้ เพราะหลังจากเขาไปอยู่เมืองนอกกับปู่ย่า ก็ไม่มีใครเอ่ยถึงเจ้าหล่อนให้เขาได้ระคายหูอีกเลย

ตอนที่เขาคิดว่าจะไม่กลับมาเมืองไทยอีก มีแต่บิดามารดาเท่านั้นที่หมั่นแวะเวียนมาเยี่ยมเยียนตาและยาย เขาเคยสงสัยว่าเหตุใดมารดาจึงไม่รับท่านทั้งสองไปอยู่ด้วยกันที่กรุงเทพฯ เพราะมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ไม่ต้องอัตคัดแบบนี้ แต่คำตอบที่ได้รับทำให้เขาไร้เหตุผลอันใดมาคัดค้านอีก เมื่อพวกท่านต้องการอยู่กับธรรมชาติ และผูกพันกับบ้านเก่าที่นี่มาก ตั้งแต่คุณตาจีบคุณยายใหม่ๆ และทั้งสองก็ตัดสินใจร่วมชีวิตกันนับแต่นั้นมา

นี่เป็นรอบหลายปีที่เขาทำงานอย่างหนัก และสนุกกับงานที่ทำ จนเรียกว่าบ้างาน ถ้าไม่เพราะบิดามารดาอยากกลับมาอยู่บ้านสวน เขาคงยังอยู่ที่ไหนสักแห่งบนโลกใบนี้

การมาเยี่ยมคุณตาและคุณยายก็ถือเป็นเรื่องดี เพราะท่านบ่นคิดถึงเขาอยู่บ่อยๆ อยากเห็นหน้าเขานอกจากจดหมายที่เขาส่งมาหาพวกท่านด้วยความคิดถึง พวกท่านมักตัดพ้อไปในจดหมาย เขาเองรู้สึกผิดจึงส่งของขวัญมาให้ญาติผู้ใหญ่ทั้งสองทุกครั้งที่มีโอกาส และไม่เคยพลาดการตอบจดหมายของพวกท่านเลย

ตากับยายของเขายึดถือความสันโดษและชอบอยู่อย่างสงบกับธรรมชาติ ท่านนิยมวิธีการส่งความคิดถึงทางจดหมายเหมือนรุ่นที่พวกท่านจีบกันเมื่อครั้งยังหนุ่มสาว เพราะให้ความละเมียดละไมในการใส่อารมณ์ความรู้สึกอย่างสละสลวยไปตามเนื้อความที่ซาบซึ้งและห่วงหาอาทรส่งถึงกัน

บิดาและมารดาของเขาส่งคนมาดูแลพวกท่านอย่างใกล้ชิด เรียกว่าไว้ใจได้ วางใจได้เลยทีเดียว ส่วนปู่กับย่าของเขานั้นเป็นคู่รักที่รักกันมาก ถึงจะอายุมากแล้วก็ยังชอบท่องเที่ยวไปทั่วโลก แตกต่างจากคุณยาและคุณยายเพราะพวกท่านรักความสงบ

คุณปู่กับคุณย่าของเขานั้นชอบทำอะไรเหมือนวัยรุ่น ออกจะเป็นแนวฮาๆ และตลกเสียด้วยซ้ำ พวกท่านยังไปดูหนังด้วยกัน ฟังเพลงมุ้งมิ้งกันสองคน ว่ายน้ำกัน ขับเรือ หรือไม่ก็เดินออกกำลังกายด้วยกัน มันเป็นภาพชินตาที่เขาเห็นบ่อยๆ เมื่อติดต่อกันด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยในปัจจุบัน

อากาศเย็นสบายที่กระทบมาโดนตัวของเขาทำให้ชายหนุ่มหลับตาแล้วยกมือขึ้นสูดอากาศบริสุทธิ์เข้าปอดอย่างเต็มที่ บรรยากาศแบบนี้นี่เอง บิดามารดาจึงอยากมาพักผ่อนที่นี่ เขาเองอยากจะอยู่ที่นี่ให้นานเหลือเกิน เพราะภาระงานที่สะสางเสร็จสิ้น และไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง แถมยังมีน้องชายช่วยดูแลให้อีกแรง ทุกอย่างก็ขับเคลื่อนไปตามที่วางเอาไว้ อีกอย่างเพราะเทคโนโลยีเดี๋ยวนี้ทันสมัย ไปไหนมาไหนก็ทำงานได้ แค่มีอุปกรณ์สื่อสารและคอมพิวเตอร์พกพา พ่วงท้ายด้วยอินเตอร์เน็ตแค่นี้ก็สะดวกสบายหายห่วง ไม่ว่าจะนอนพักผ่อนอยู่ส่วนไหนของโลก ก็ทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง

“ตาราร์ด” เสียงอ่อนโยนเอื้อเอ็นดูของผู้เป็นยายทำให้รัชวินทร์ลดมือลงและลืมตามองเบื้องหน้า ก่อนจะยิ้มกว้างเมื่อเห็นท่านกำลังยืนยิ้มอยู่ที่บันไดบ้านหลังใหญ่

“คุณยาย” รัชวินทร์เดินเข้าไปสู่อ้อมกอดของคุณยายอย่างแสนคิดถึง ไม่เจอกันหลายปีคุณยายของเขายังแข็งแรงอยู่เลย อาจเพราะเป็นคนรักสุขภาพและอยู่ในที่อากาศบริสุทธิ์แบบนี้ เลยดูอ่อนเยาว์กว่าอายุจริงหลายปี

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ B.J.BEN

ข้อมูลเพิ่มเติม

หนังสือที่คุณอาจชอบ

เมียผมน่ารักจัง

เมียผมน่ารักจัง

Penn Tofallis
5.0

กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"

The devil's Lover  เล่ห์รักยัยตัวร้าย

The devil's Lover เล่ห์รักยัยตัวร้าย

Me'JinJin
5.0

ภีม ภีมวัจน์ อภิรักษ์วัฒนกุล ทายาทรุ่นที่ 3 แห่ง AK Group นักธุรกิจหนุ่มที่ได้รับรางวัลผู้บริหารหน้าใหม่ไฟแรงถึง 4 ปีซ้อน อายุ 26 ปี หล่อ รวย รักสนุกแต่ไม่คิดจะหยุดที่ใคร ใบหน้าหล่อเหลาที่แสนเย็นชาคือเสน่ห์ที่ดึงดูดสาวๆให้เข้ามาพัวพันกับเขาอยู่เสมอ ความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่าจบลงเพียงชั่วข้ามคืนเพียงเพราะเขายังไม่เจอคนที่ ถูกใจ จนกระทั่งวันหนึ่งที่โชคชะตาเล่นตลกให้เขาได้พบกับเธอ แม่สาววันไนท์ที่ใช้ลิปสติกเขียนบนใบหน้าของเขาด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย แถมยังเซ็นเช็คให้เขาถึงหนึ่งร้อยล้านบาทพร้อมยิ้มมุมปากบอกเขาว่าคือ ค่าตัว หลังจากวันนั้นเขาได้แต่ I told พระแม่ว่าขออย่าให้ได้พบ ได้เจอกับผู้หญิงคนนี้อีกเลยแต่ใครเลยจะรู้ว่าพระแม่ไม่แยแสต่อคำขอร้องของเขาด้วยซ้ำถึงได้ส่ง ตัวแม่ ตัวมัม มาล่อลวงหัวใจของ เขาให้สั่นไหวและตกหลุมรักเธอจนโงหัวไม่ขึ้น กอหญ้า การต์รวี พิสิฐกุลวัตรดิลก / เกียรติมงคลรัตน อายุ 21 ปี ลูกสาวฝาแฝดคนเล็กของแก้มใส พิสิฐกุลวัตรดิลก สาวน้อยแสนแสบและแสนซน ใครดีมาเธอดีตอบ ใครร้ายมาเธอฟาดกลับคืนหมดไม่สนลูกใครหน้าไหนทั้งนั้น ตัวแม่ ตัวมัมเรื่องความใจกล้า เสียตัวแล้วเสียไปเธอไม่เสียใจแถมเธอยังใจดีเซ็นเช็คค่าตัวให้เขาถึงหนึ่งร้อยล้านบาท พร้อมภาวนาต่อพระแม่ว่าเธอ I told ผู้ชายคนนี้พียงคนเดียวเท่านั้น และใช่พระแม่เห็นใจและเข้าใจเธอถึงได้ส่งเธอให้มาเจอกับเขา ผู้ชายปากร้ายแต่หน้าตาหล่อเหลาที่ทำให้เธอหลงเสน่ห์ของเขาจนอยากจะชวนขึ้นเตียงวันละหลายหน จากความคิดที่เพียงแค่อยากเล่นสนุกกลับกลายเป็นความสัมพันธ์ที่ยากจะตัดใจและเธอเองก็ไม่เคยคิดที่จะตัดใจ ถ้าเธอล่อลวงหัวใจของเขามาเป็นของเธอไม่ได้ก็อย่ามาเรียกเธอว่าตัวแม่ตัวมัมอีกเลย คำเตือน ⚠️ Trigger Warning นิยายเรื่องนี้มีเนื่อหาการร่วมเพศอย่างชัดเจนรบกวนผู้อ่านใช้วิจารณญาณในการเสพ

บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง

บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง

มาชาวีร์
4.7

หลี่เมิ่งเหยาย้อนเวลามาอยู่ในร่าง ของเด็กสาววัยสิบสองปี ในวันที่มารดาอนุผู้โง่เขลา ถูกขับไล่ออกจากจวน โชคยังดีที่ตอนตาย นางสวมกำไลหยกโลกันตร์เอาไว้ มันจึงติดตามนางมาที่นี่ด้วย +++ 1 : มารดาโง่ จนถูกไล่ออกจากตระกูล จวนตระกูลหลี่เจ้าเมืองถัง สตรีสองนางถูกสาวใช้จับคุกเข่าลง ตรงหน้าของหลี่หงซวนเจ้าเมืองถัง ทั้งยังเป็นพ่อสามีของทั้งคู่อีกด้วย ท่านกำลังสอบสวนเรื่องของสะใภ้ใหญ่ของบ้านสาม ถูกฮูหยินรองกับอนุรวมหัวกันลอบทำร้าย ด้วยการวางยาขับเลือดในถ้วยน้ำแกงบำรุงครรภ์ ทำให้นางต้องสูญเสียทารกในครรภ์ไป “ท่านพ่อข้าไม่รู้จริง ๆ ว่านั่นเป็นยาขับเลือด ฮูหยินรองบอกว่าเป็นน้ำแกงบำรุงครรภ์ ให้ข้าเป็นคนนำไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ เป็นนางนั่นเอง นางหลอกข้า !” เฉาซูหลิ่งชี้นิ้วไปทางสตรีด้านข้าง ร้อนรนเอ่ยออกมาเหมือนคนไม่ได้รับความเป็นธรรม “อนุเฉาเจ้าอย่ามาใส่ร้ายข้านะ เจ้าทำคนเดียวทั้งนั้นไม่เกี่ยวกับข้าเลย” ฮูหยินรอง ถูซวงอี้ ชี้นิ้วใส่หน้าเฉาซูหลิ่งกลับคืน ต่างคนต่างโยนความผิดให้กัน ฮูหยินผู้เฒ่าหลิวเยี่ยนหนานโบกมือให้คนเข้ามา “ข้าให้โอกาสพวกเจ้าสองคนพูดความจริง แต่กลับไม่มีใครยอมรับความผิดแม้แต่คนเดียว มันน่าจับส่งทางการให้รู้แล้วรู้รอด” พ่อบ้านหลัวให้คนลากสาวใช้คนหนึ่งเข้ามา สภาพของนางถูกทรมานจนเนื้อตัวบวมช้ำไปหมด “เรียนนายท่านข้าให้คนไปค้นห้องสาวใช้ทุกคนในจวน พบเทียบยาซ่อนไว้ใต้หมอน จากห้องของสาวใช้คนนี้ขอรับ” ถูซวงอี้ถึงกับคุกเข่าต่อไปไม่ไหว ทิ้งตัวลงไปนั่งอยู่บนพื้น สาวใช้ที่ถูกทรมานจนสภาพน่าเวทนานั่น เป็นเสี่ยวอิงสาวใช้สินเดิมของนางเอง “ฮูหยินรอง ข้าขอโทษ ข้าทนต่อไปไม่ไหวจริง ๆ ข้าขอโทษ !” เสี่ยวอิงโขกศีรษะลงตรงหน้าของถูซวงอี้แรง ๆ น้ำตาไหลนองหน้าจน แทบไม่เป็นผู้เป็นคนอยู่แล้ว พ่อบ้านหลัวเอ่ย “ข้าให้คนไปถามที่หอโอสถแล้วขอรับนายท่าน เป็นเทียบยาขับเลือดจริง ๆ” หลี่หงซวนมองไปทางบุตรชายคนที่สามของตน พบว่าเขามีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก สตรีที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าคือฮูหยินรอง กับอนุภรรยาที่เขารักใคร่ไม่ต่างกัน เหตุใดถึงได้คิดร้ายต่อฮูหยินใหญ่ของเขาได้ เป็นเหตุให้เขาต้องสูญเสียลูกที่อยู่ในท้องของนางไป เดิมทีฮูหยินใหญ่ของเขาก็ตั้งท้องยากอยู่แล้ว เขารอมาตั้งนานกว่าจะมีวันนี้ได้ ไม่คิดมาก่อนว่าจะต้องสูญเสียไปเช่นนี้ “หย่วนเจ๋อนี่เป็นเรื่องในเรือนของเจ้า เจ้าอยากตัดสินเรื่องนี้ด้วยตัวเองหรือไม่” ผู้เป็นบิดาเอ่ยถามบุตรชาย “ไม่ ข้าไม่อยากเห็นหน้าพวกนางอีกต่อไป แล้วแต่ท่านพ่อเถอะขอรับ ข้าขอตัวไปดูฮูหยินใหญ่ก่อน” หลี่หย่วนเจ๋อคำนับบิดา สะบัดแขนเสื้อเดินจากไปในทันที หางตายังไม่แม้แต่จะมองสตรีทั้งสองนาง เฉาซูหลิ่งลนลานตามเขาไป “ท่านพี่ช่วยข้าด้วย ข้าไม่ผิดนะเจ้าคะ ท่านพี่ !” แต่ถูกบ่าวรับใช้ขวางทางเอาไว้ หลี่หงซวน “หยุดโวยวายได้แล้วอนุเฉา เจ้าเป็นคนถือถ้วยน้ำแกงใส่ยาขับเลือด ไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ด้วยตัวเอง ยังคิดจะหนีความผิดนี้ไปได้อีกรึ” “ท่านพ่อขะข้าข้า...ไม่ผิด” เฉาซูหลิ่งทิ้งตัวไปด้านหลังอย่างหมดเรี่ยวแรง เดิมทีนางก็ไม่เป็นที่โปรดปรานของพ่อแม่สามีอยู่แล้ว เพราะไม่สามารถให้กำเนิดบุตรชายได้ ครั้นได้บุตรสาวก็นิสัยขี้ขลาดขี้กลัว ไหนเลยจะเชิดหน้าชูตาให้ตระกูลหลี่ได้ เฉาซูหลิ่งนั่งเหม่อลอย คล้ายคนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ขณะที่หลี่หงซวนกำลังประกาศโทษทัณฑ์ของพวกนาง ถูซวงอี้กับคนของนาง ถูกขายออกจากจวน ไปอยู่หอนางโลมอย่างเงียบ ๆ ชาตินี้อย่าได้ก้าวเท้า กลับมาเหยียบที่จวนตระกูลหลี่อีก ส่วนเฉาซูหลิ่งถูกขับไล่ออกจากจวน ไปพร้อมกับบุตรสาว ให้ไปอยู่เรือนร้างของตระกูลหลี่ที่เมืองฉาง ห้ามกลับมาที่ตระกูลหลี่อีกชั่วชีวิต “ท่านพ่อท่านขับไล่ข้าไป ข้ายังพอรับได้ เหตุใดต้องขับไล่เหยาเอ๋อร์ไปด้วย นางเพิ่งจะสิบสองปีเองนะเจ้าคะ” เฉาซูหลิ่งนึกถึงบุตรสาวร่างกายผ่ายผอม นอนซมเพราะพิษไข้อยู่ เกิดนึกสงสารนางขึ้นมาจับใจ ฮูหยินผู้เฒ่าหันไปมองสามีเล็กน้อย นางเห็นเด็กสาวคนนั้นมาตั้งแต่เกิด แม้ไม่ได้เอ็นดูแต่ก็นับว่าเป็นสายเลือดเดียวกัน “ฮูหยินเรื่องนี้ข้าตัดสินใจไปแล้ว ไม่อาจคืนคำได้” คำพูดของประมุขของตระกูล มีหรือใครจะกล้าขัด เฉาซูหลิ่งปล่อยเสียงร้องไห้โฮออกมาดัง ๆ นางโง่งมจนทำให้บุตรสาว ต้องมารับเคราะห์กรรมตามไปด้วย “ลากตัวอนุเฉาออกไป หารถม้าสักคันให้คนส่งนาง ไปที่เรือนร้างเมืองฉาง” คำสั่งของหลี่หงซวนเป็นคำขาด บ่าวไพร่รีบทำตามในทันที ครั้นได้อยู่ด้วยกันเพียงลำพังกับฮูหยินผู้เฒ่า หลี่หงซวนถึงได้บอกเหตุผล ที่ต้องตัดสินใจทำเช่นนี้ นั่นเพราะตระกูลจี้ได้ยื่นคำขาดมา ให้ขับไล่พวกเขาออกไปให้หมด อย่าให้เหลืออยู่แม้แต่ตนเดียว ไม่ต้องการให้คนที่ทำร้ายบุตรสาวของพวกเขา อยู่ระคายสายตาของจี้ชิวหรงอีกต่อไป ฮูหยินผู้เฒ่าแค่นออกมาหนึ่งคำ “อ้างเหตุผลข้าง ๆ คู ๆ ความจริงแล้วต้องการกำจัดอนุในเรือนบุตรสาวทิ้งให้หมด นี่กระทั่งเด็กคนหนึ่งก็ไม่เว้น แต่ก็เอาเถอะ เหยาเอ๋อร์อยู่ที่นี่ ก็ใช่จะมีประโยชน์อันใด นางไม่ได้อยู่ในสายตาของพวกเราด้วยซ้ำ ให้นางไปกับแม่ของนางนั่นแหละดีแล้ว” หลี่หงซวนนั้นเป็นเพียงเจ้าเมืองเล็ก ๆ มีตำแหน่งเป็นขุนนางขั้นที่ห้า ฝั่งตระกูลจี้บ้านเดิมของจี้ชิวหรงนั้น อยู่ในเมืองหลวงมีตำแหน่งใหญ่โตกว่าหนึ่งขั้น เรื่องนี้เขาจึงต้องขบคิด ถึงผลได้ผลเสียในอนาคตอีกด้วย การเสียสละอนุกับหลานสาวคนหนึ่ง เพื่อชดเชยให้แก่คนตระกูลจี้ นับว่าเป็นเรื่องสมควรทำแล้ว “ข้าก็คิดเช่นฮูหยินนั่นแหละ เพียงแต่สะใภ้สามแท้งคราวนี้ ไม่รู้จะยังสามารถตั้งท้องได้อีกหรือไม่ พวกเรารอดูไปก่อนดีกว่า หากนางไม่สามารถตั้งท้องได้จริง ๆ เราค่อยหาอนุมาให้หย่วนเจ๋อภายหลังก็ยังได้ ยามนั้นคนตระกูลจี้จะเอาอะไรมาง้างกับเราได้อีก” “จริงดังท่านว่าเจ้าค่ะ” ฝ่ายเฉาซูหลิ่งที่ถูกคนใช้ ลากตัวออกมาให้เก็บของในเรือน นางส่งเสียงเอะอะโวยวายตลอดทาง พร่ำบอกต้องการพบหลี่หย่วนเจ๋อให้ได้ แต่ถูกสาวใช้ขวางไว้ไม่ให้ไป นางจำใจกลับไปยังห้องนอนของตัวเอง รีบเก็บของสำคัญใส่ห่อผ้าเพื่อออกเดินทาง

หย่าให้รักร้าวราน

หย่าให้รักร้าวราน

คุณธิดา
5.0

หากความรักของเราเปรียบเหมือนแก้วใบหนึ่ง แก้วใบนี้คงร้าวจนใกล้แตกเต็มที อีกฝ่ายต้องการประคองรักนี้ไว้อย่างอดทน แต่อีกคนกลับทำลายจนหัวใจของเธอย่อยยับแหลกลาน ความอดทนของคนเรามีวันที่สิ้นสุดน่ะ “หย่า” คงเป็นทางออกที่ดีที่สุด ถ้าอย่างนั้นก็เชิญเขาไปในที่ชอบ ๆ ทางใครทางมัน แต่เมื่อเวลาพัดผ่าน ด้วยเหตุผลของกามเทพ ทั้งคู่ได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง และเมื่อได้พบหน้าเธอ เขาขอแก้ตัว และบอกเธอว่า เขายังรักเธอ ทว่าในวันที่เธอเดินจากไป เธอมีลูกน้อยติดท้องมาด้วย และปัญหาของคนเป็นแม่ เจ้าเด็กน้อยหนูอยากจะมีพ่อครับ แล้วเธอควรทำอย่างไรต่อไป ++++++++++ คำโปรย เมื่อเข้าไปถึง และเห็นภาพตรงหน้า ปริญเขาไม่ได้อยู่คนเดียว ในอ้อมกอดและวงแขนของเขา มีร่างผู้หญิงคนหนึ่ง และสิ่งที่ทำให้หัวใจของทอดาวสลาย ทั้งสองคนกำลังจูบกัน เพล้ง... ข้าวของในมือร่วงลงไป พร้อมกับร่างของทอดาวที่แทบทรุด เธอเซไปจนปะทะกับฝาบ้าน คนสองคนที่กำลังจูบกันอยู่รีบผละออกจากกันแล้วหันมามอง ทอดาวแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองด้วยซ้ำไป เธอไม่เคยคิดเลยว่าปริญเขาจะทำแบบนี้กับเธอ ทำอะไรที่แสนทุเรศในบ้านที่เป็นเรือนหอของเธอกับเขา ทอดาวน้ำตาคลอ เธอพยายามประคองสติโดยใช้ฝาผนังเป็นที่พึ่ง ‘แล้วลูกของเราล่ะ และนี่คืออะไร มันหมายความว่ายังไง ทำไมเขาทำแบบนี้กับฉัน’ ความคิดอันแรก ครอบครัวของเธอต้องแตกแยกแล้ว พร้อมกับคำถามเกิดขึ้นมามากมายในหัวของทอดาว เธอหน้าถอดสีซีดจางจนไม่มีสีเลือด สิ่งที่น่าเจ็บปวด เมื่อผู้หญิงคนนั้นเห็นเธอที่เป็นภรรยาของปริญแล้วจะกระดากอายถอยห่างจากสามีของชาวบ้าน แต่ไม่เลย สองมือของหล่อนคนนั้นยังสอดรัดเอาลำตัวและหน้าอกของตัวเองเบียดไปกับผิวแขนของปริญ

ข้าไม่ใช่คนดีท่านอย่าได้หวัง

ข้าไม่ใช่คนดีท่านอย่าได้หวัง

จิรัฐติกาล
3.5

จางลี่สตรีเกิดมาพร้อมกับความเกลียดชัง บิดามารดาไม่รัก พี่สาวรังเกียจ รอบด้านทำร้ายร่างกาย ชาติภพนี้นางถูกคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีทำร้ายจนตาย เมื่อเกิดพบชาติใหม่อีกครั้ง นางก็ขอตอบแทบพวกเขาอย่างสาสม อย่าคิดว่าชาติภพนี้พวกเขาจะได้อยู่สุขสบาย นางในชาตินี้จะถนอมพวกเขาเป็นอย่างดี “ข้าไม่ใช่คนดี ท่านอย่าได้หวังว่าข้าจะดีเหมือนคนอื่น หากท่านปรารถนา พบสตรีที่ดีก็เชิญไปหาที่อื่น” บุรุษปริศนาที่ติดตามนางจะเลือกเส้นทางไหน แล้วนางจะตอบแทนพวกเขาเหล่านั้นเช่นไร รอพวกเขาหาคำตอบ แต่บอกได้เลยว่านางหาได้ใจดีเหมือนชาติที่แล้วไม่ “ข้าเตือนท่านแล้ว ว่าอย่าได้หวังว่าข้าจะเป็นคนดี”

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ