เธอเป็นภรรยาของเขา...แต่เป็นได้แค่ภรรยาที่อยู่ในความลับเท่านั้น มีหน้าที่ให้ความสุขเขาบนเตียง ยามต้องการ เขาก็มาหา พอได้สมใจแล้ว เขาก็กลับ ในเมื่อเขามีผู้หญิงอีกคนที่คู่ควรยืนอยู่ข้างกายในฐานะคู่หมั้น คนที่ทั้งสวย รวย และเป็นคนที่แม่ของเขาคัดสรรมาให้ แล้วผู้หญิงธรรมดาๆ ฐานะไม่ร่ำรวย จะไปสู้อะไรได้ หรือว่าเธอจะต้องเป็น “ภรรยาในความลับ” ของเขาตลอดไป ทั้งๆ ที่เธอหลงรักเขาเต็มหัวใจ
“ฉันจ้าง 1 แสน ช่วยทำยังไงก็ได้ให้ลูกชายของฉันหันมาชอบผู้หญิง”
ประโยคนี้บุษกรได้ฟังมาตั้งแต่สัปดาห์ก่อน ตอนนั้นเธอไม่คิดจะรับปากทำงานที่ดูไร้สาระและไร้ศักดิ์ศรี คำว่า ‘ตกลง’ ไม่เคยมีอยู่ในสมองของเธอ
จนกระทั่งวันนี้...
วันที่บุษบา พี่สาวของเธอเสียชีวิตกะทันหัน เธอต้องกู้หนี้ยืมสินนับแสนบาทเพื่อเอามาจัดงานศพให้พี่ เพราะพี่ไม่ได้ทำประกันอะไรไว้เลย
และนับจากนั้น ชีวิตเรียบง่ายพอเพียงของบุษกรก็เปลี่ยนไป...
แปะก๊วย ลูกชายเจ้าหนี้ดันปิ๊งเธอตั้งแต่แรกพบ และพยายามใช้ทุกวิถีทางเพื่อให้ได้เธอไปเป็นภรรยา
เคราะห์ซ้ำกระหน่ำซัด หลานของเธอซึ่งเป็นลูกสาวแท้ๆ ของบุษบาก็ถูกคนเป็นพ่อพาไปอยู่ด้วย และไม่ยอมคืนให้
บรรเจิด ให้เหตุผลว่าเขาเป็นพ่อย่อมมีสิทธิ์ในตัวน้องจันทร์เจ้ามากกว่าเธอที่มีศักดิ์เป็นแค่น้า
เธอคงไม่ลำบากใจเท่านี้ หากไม่ใช่เพราะคำสั่งเสียครั้งสุดท้ายของบุษบา
“รับปากพี่ได้ไหมเบลว่าจะไม่ทิ้งจันทร์เจ้า น้องไม่เหลือใครแล้ว พ่อแท้ๆ ก็เอาแต่กินเหล้าแถมชอบทำร้ายร่างกายอีก พี่อุตส่าห์พาน้องหนีมาจากพ่อใจสัตว์ได้แล้ว ถ้าน้องกลับไปอยู่กับหมอนั่น สักวันมันอาจพลั้งมือฆ่าน้องก็ได้”
เธอเองก็รักจันทร์เจ้า เพราะพอจะรู้พฤติกรรมของอดีตพี่เขยมาบ้าง จึงรับปาก
ไม่กี่วันหลังจากนั้น บุษบาก็เสียชีวิตอย่างสงบ เด็กหญิงจันทร์เจ้าถูกคนเป็นพ่อลักพาตัวไปในขณะที่บุษกรกำลังวุ่นวายอยู่กับงานศพ
เธอพยายามติดตามทวงถามจะขอหลานมาเลี้ยงเอง แต่บรรเจิดซึ่งเป็นบิดาของจันทร์เจ้าได้ปฏิเสธ เธอไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะเธอเป็นแค่น้า ยังไงพ่อแท้ๆ ก็ต้องมีสิทธิ์ในตัวจันทร์เจ้ามากกว่าเธออยู่แล้ว
บรรเจิดได้ยื่นข้อเสนอว่าถ้าหากอยากได้จันทร์เจ้ามาอยู่ด้วยจะต้องจ่ายเงิน 1 แสนบาท
ฟังดูก็ไม่ต่างจากเอาลูกตัวเองไปเรียกค่าไถ่
แต่คนอย่างบรรเจิด อะไรก็ทำได้อยู่แล้วล่ะ
ในตอนนี้บุษกรจึงต้องการเงิน จำนวน 2 แสน
เธอเปิดร้านขายดอกไม้ร้านเล็กๆ ซึ่งเศรษฐกิจเช่นนี้ มีคนมาซื้อดอกไม้น้อยลง และเธอจะต้องทำงานอีกกี่ปีกันกว่าจะเก็บเงินแสนได้เพราะเธอต้องใช้จ่าย ซื้อกินไปทุกวัน
เสียงกรุ๋งกริ๋งของโมบายที่ติดตรงขอบบนประตูดังขึ้นเมื่อมีใครคนหนึ่งผลักประตูกระจกเข้ามา
“ยินดีต้อนรับค่า” หญิงสาวส่งเสียงสดใสไปโดยอัตโนมัติ ก่อนจะหุบยิ้มฉับพลันเมื่อเห็นว่าใครมา...
แปะก๊วยนั่นเอง
“ที่รัก วันนี้ก็สวยอีกแล้วนะ” หนุ่มวัย 26 ผมทรงสกินเฮด หน้าเสี้ยม ใต้ตาบวม ผิวคล้ำ ฟันเหยินได้เอ่ยปากทักทายราวกับว่า สนิทสนมเป็นคนรู้ใจของเธอมานานแรมปี
“จะรับดอกอะไรคะ” เธอพยายามปั้นสีหน้าเป็นมิตร ถามเสียงสุภาพโดยไม่สนใจท่าทีก้อร่อก้อติกของอีกฝ่าย
“จะเหมาหมดร้านเลยก็ยังได้ ถ้าที่รักยอมไปเที่ยวกับก๊วย”
“เที่ยว ? ” คิ้วเรียวเลิกขึ้นสูง “ต้องขอโทษด้วยนะคะ ฉันคงต้องปฏิเสธ”
“โธ่” ชายหนุ่มทอดเสียงหมดอาลัย เท้าแขนที่เคาน์เตอร์ ยื่นหน้ามองเธอตาปรอย “ก๊วยตื้อคุณมานานแล้วนะเบล เมื่อไหร่คุณจะ ใจอ่อนเสียที”
“ก็คนมันไม่ชอบจะฝืนทำว่าชอบ เห็นทีจะไม่ได้หรอกค่ะ”
คำตอบตรงประเด็นของเธอสร้างความขุ่นเคืองให้แปะก๊วย ไม่น้อย เขาเป็นลูกเจ้าของตลาดย่านนี้ มีอิทธิพลที่สุดในตำบลนี้ แต่เธอกลับกล้าผยองใส่เขา ช่างเป็นผู้หญิงที่อวดดีซะจริงๆ
“แล้วเมื่อไหร่จะคืนเงินล่ะ”
“จะรีบคืนให้ไวที่สุดค่ะ”
“ตอนคุณจะยืม พ่อก๊วยให้ยืมอย่างไว พอตอนจะคืน ทำไมคุณถึงโยกโย้อ้างโน่นนี่ไม่คืนสักที”
“ฉันไม่กล้าบอกหรอกค่ะว่าภาระฉันเยอะ แต่ขอโอกาสอีกหน่อย ไม่นานหรอกค่ะ ฉันจะต้องมีเงินไปคืนคุณแน่ๆ”
“หนี้หนึ่งล้าน ก๊วยขอภายในสามเดือนนะ ถ้าไม่ได้ก็เตรียมตัวเตรียมใจไว้ได้เลย”
หน้าเรียวซีดเผือด เบิกตากว้าง “อะไรนะคะ กี่บาทนะ”
“หนึ่งล้านไง” เขายิ้มเหมือนเย้ย ช่างเป็นรอยยิ้มที่น่าตบที่สุดเท่าที่เคยเจอมา
“ฉันยืมมาแสนเดียวนะคะ”
“ดูหลักฐานในใบสัญญาไหมล่ะ” เขาเลิกคิ้วท้าทาย เมื่อเห็นเธอเม้มปาก กำมือแน่น ไม่พูดอะไร เขาก็หยิบกระดาษที่ม้วนไว้ในกระเป๋าสะพายข้างมาคลี่กางต่อหน้าเธอ “เห็นชัดเต็มตาไหมครับที่รักว่าหนึ่งล้าน ไม่ใช่หนึ่งแสน”
หญิงสาวจ้องจนตาแทบถลน เลขศูนย์จากที่มี 5 ตัว เพิ่มขึ้นมาเป็น 6
“ตั้งใจโกงกันนี่” เธอแหวลั่น
“โกงที่ไหน” เขายักไหล่ เหยียดยิ้ม “เป็นหนี้ก็ต้องใช้คืนสิครับ หรือจะไม่คืนล่ะ”
คราวนี้บุษกรตัวสั่น เธอได้ยินคนเขาเล่าลือกันมานานว่าพ่อของแปะก๊วยนั้นทวงหนี้โหดเพียงใด มีคนเคยโดนซ้อมจนตายโดยที่ตำรวจไม่สามารถจับกุมฆาตกรได้มาแล้ว
“แค่นี้ถึงกับหน้าซีดเชียวรึ” เขายื่นมือข้ามเคาน์เตอร์มาจับ คางเล็ก
หญิงสาวรีบปัดมือเขาทิ้งทันที
“ไม่ละอายใจบ้างเหรอ”
“ทำไมต้องละอาย บอกไว้ก่อนเลยนะถ้าไม่คืนหนี้ภายในสามเดือน คุณจะไม่เหลืออะไรเลย ทั้งรถทั้งบ้านรวมทั้งร้านดอกไม้นี่ด้วย”
“ทำไมใจร้ายนัก”
“ถ้าหาเงินไม่ทันและก็ไม่อยากสูญเสียทุกอย่างไป คุณก็แค่ยอมเป็นเมียก๊วย แล้วก๊วยจะถือซะว่าเราไม่เคยมีหนี้ต่อกัน คุณจะไม่ต้องทำงานงกๆ จนเหนื่อยอีก”
“กลับไปซะ” เธอบอกเสียงเย็น
“ว่าไงนะ” ตะแคงหูเหมือนคนหูหนวกไม่ค่อยได้ยิน
“ฉันบอกให้กลับไปไงเล่า ถ้าต้องเป็นเมียคุณ ฉันยอมตายดีกว่าอีก”
บทที่ 1 จ้างให้มายั่ว
24/02/2022
บทที่ 2 ความจำเป็น
24/02/2022
บทที่ 3 ฉันจะเอาคืน
24/02/2022
บทที่ 4 คุณหมอภาม
24/02/2022
บทที่ 5 ของแข็ง(ของคุณหมอ)
24/02/2022
บทที่ 6 เสียตัวให้เขา
24/02/2022
บทที่ 7 ให้เธอเป็นได้แค่เมียเก็บ
24/02/2022
บทที่ 8 สายตาที่แสนเย็นชา
24/02/2022
บทที่ 9 รสสวาทที่น่าหลงใหล
24/02/2022
บทที่ 10 เกิดอารมณ์กับเธออีกแล้ว
24/02/2022
บทที่ 11 ลืมกินยาคุม
15/03/2022
บทที่ 12 เขาเป็นน้องชาย
15/03/2022
บทที่ 13 จูบ !
15/03/2022
บทที่ 14 ผู้ชายอบอุ่น
15/03/2022
บทที่ 15 เดี๋ยวจัดให้ 3 ดอก
15/03/2022
บทที่ 16 ไร้ศักดิ์ศรี
15/03/2022
บทที่ 17 จันทร์เจ้า
15/03/2022
บทที่ 18 ลิ้มรสไอติมยักษ์บนเตียง
15/03/2022
บทที่ 19 บาดแผลในใจ
15/03/2022
บทที่ 20 อารมณ์ไม่ดี !
15/03/2022
บทที่ 21 ฉันเป็นแค่แฟนเก่า
15/03/2022
บทที่ 22 ไม่มีสถานะ
15/03/2022
บทที่ 23 ช่วยต่อลมหายใจ
15/03/2022
บทที่ 24 ความเจ็บปวดที่ไม่มีใครเข้าใจ
15/03/2022
บทที่ 25 โกรธ !
15/03/2022
บทที่ 26 ยกเลิกงานหมั้น
15/03/2022
บทที่ 27 ค่ำคืนที่ว้าเหว่
15/03/2022
บทที่ 28 หน้าที่ของเมียเก็บ
15/03/2022
บทที่ 29 ฉันจะเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว
15/03/2022
บทที่ 30 เพิ่งรู้ว่ารักเธอ
15/03/2022
บทที่ 31 อยากให้เธอมาเป็นลูกสะใภ้ของแม่
15/03/2022
บทที่ 32 ทำเพื่อคุณ
15/03/2022
บทที่ 33 ฉันกำลังท้อง
15/03/2022
บทที่ 34 แต่งงานกันนะ
15/03/2022
บทที่ 35 รักนะคะคุณหมอ (อวสาน)
15/03/2022
หนังสืออื่นๆ ของ อักษรสีทอง
ข้อมูลเพิ่มเติม