ของขวัญจากคืนที่(ไร้)รัก

ของขวัญจากคืนที่(ไร้)รัก

อักษรสีทอง

5.0
ความคิดเห็น
15.3K
ชม
18
บท

ปภาวีหลงรักนัธทวัฒน์ข้างเดียวมานานแล้ว ในวันที่เขาหมั้นหมายกับผู้หญิงคนอื่น เป็นวันที่เธอพลาดพลั้งมีอะไรกับเขาโดยไม่ได้ตั้งใจ เธอตกอยู่ในสภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เมื่อพ่อขายเธอให้เป็นเมียเก็บของเขาในราคา 3 ล้าน ตอนกลางวันเธอเป็นคนรับใช้ที่โดนทุกคนในบ้านกดขี่รังแก ส่วนค่ำคืน เธอคือนางบำเรอของท่านประธานที่มองว่าเธอเป็นเพียงของเล่นเท่านั้น เมื่อเธอเกิดตั้งครรภ์ขึ้นมาและอยู่ในความเสี่ยง ‘แท้งคุกคาม’ หนทางเดียวที่จะปกป้องลูกฝาแฝดชายหญิงในท้องไว้ได้คือเธอต้องหนีไปจากเขา...!!

บทที่ 1 แค่ในฝัน NC18+

เสียงทุบประตูดังปึงปังทำให้ปภาวีงัวเงียตื่นนอน...เธอง่วงมาก...วันนี้เป็นวันที่เธอง่วงที่สุดจนต้องแอบมาหลับอยู่ที่ห้องรับแขก เธอยึดโซฟาตัวนุ่มเป็นที่นอน...เสียงเพลงที่ดังแว่วเข้าหูไม่ได้เป็นอุปสรรคสำหรับเธอเลย

จนกระทั่ง...มีใครบางคนเดินเข้ามาในห้อง มือใหญ่คว้าตัวเธอยกขึ้นอุ้ม และนั่นก็เป็นเหตุให้เธอลืมตาตื่น เตรียมจะส่งเสียงกรีดร้องอยู่แล้ว หากว่าคนผู้นั้นจะไม่ใช่คนคุ้นเคย

“คุณนัธ...” หญิงสาวพึมพำในลำคอ สะลึมสะลือ แต่รู้สึกได้ว่าโดนเขาโยนลงบนเตียงกว้าง ที่นอนยุบยวบนุ่มนิ่ม ทำให้เธอไม่เจ็บ แต่กลับตระหนกแทนเมื่อร่างสูงตามมาคร่อมทับ

“คุณนัธ...” เป็นอีกครั้งที่เธอพึมพำเรียกชื่อเขา ในใจไหววูบ เมื่อโดนเขาจูบริมฝีปาก...ปากเรียวเผยอค้างอย่างไม่ได้ตั้งใจ ส่งผลให้เขาสอดลิ้นเข้ามารุกรานในโพรงปากของเธอได้สะดวก

“อื้อ...” เธอดิ้น พยายามเบือนหน้าหนี สัญชาตญาณบอกเธอว่ามีบางสิ่งผิดปกติ...

ผู้ชายเย็นชาที่แทบจะไม่เคยเหลียวแลเธอเลยสักครั้ง มาวันนี้กลับจูบเธอ ราวกับว่ารักเธอมาก...ไม่สิ ไม่ใช่รัก แต่เป็นความใคร่ต่างหากล่ะ

เธอได้กลิ่นเหล้าจากริมฝีปากของเขา รสขมแต่ซาบซ่านฉุดดึงเธอให้ดำดิ่งสู่อารมณ์ราคะที่เขาเป็นคนจุดขึ้น

ร่างกายของเธอไร้เรี่ยวแรง จากที่ขัดขืนในตอนแรกก็กลายเป็นว่าตัวอ่อนเหมือนขี้ผึ้งโดนไฟลน

เมื่อเขาถอนจูบแล้ว เธอก็ห้ามเสียงสั่น “มะ ไม่ ไม่ได้นะคะคุณนัธ วันนี้เป็นวันหมั้นของคุณนะ ไม่ได้...”

ดวงตาคู่คมหรี่มองเธอ ไม่สนใจคำเตือนนั้นสักนิด ซ้ำยังถอดเสื้อผ้าออกจากตัวเธอ เผยร่างงามเย้ายวนเปลือยเปล่า เธอพยายามยกมือขึ้นปิดทรวงอก หนีบขา ใบหน้าร้อนผ่าวด้วยความอับอาย แต่เขาก็ยังจับขาเธอให้แยกออกกว้าง ดึงมือเธอออกจากเต้าอวบที่อะร้าอร่ามคู่นั้น

ลมหายใจของเขาแรงขึ้น สันกรามบดเข้าหากันแน่น ถอดเสื้อสูทขาวออก พร้อมปลดเข็มขัดรูดซิบกางเกงลง...เผยให้เห็นอวัยวะความเป็นชายที่พร้อมใช้งาน

เหมือนลมหายใจของปภาวีจะสะดุดลงไปครู่หนึ่ง เธอหน้าแดงไม่ต่างจากกุ้งเผา รีบถดกายจะหนี แต่เขาตามยึดยื้อทาบทับจนเธอหมดทางรอด เรี่ยวแรงของเขามหาศาล ต่างจากเธอที่อ่อนเปลี้ยไร้เรี่ยวแรง อาจเป็นเพราะความรักที่มีต่อเขาเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ประกอบกับวันนี้รู้สึกงัวเงียเหมือนคนครึ่งหลับครึ่งตื่น ทำให้เธอไม่มีแรงจะขัดขืน

หรือว่านี่จะเป็นความฝัน...ใช่แล้ว ต้องเป็นฝันแน่ๆ

เพราะในโลกความเป็นจริง ไม่มีทางที่นัธวัฒน์จะชายตาแลเธอแน่

แค่ในฝันก็พอ...

เธอปล่อยกายเพลิดเตลิดไปกับสัมผัสเล้าโลมชวนวาบหวาม อกใจไหวระทึกเมื่อริมฝีปากหยักได้รูปจาบจ้วงล่วงเกินปลายยอดถันสลับไปมาทั้งสองเต้า

เธอกระสันซ่านเสียว สูดปาก บิดกายเร่า นิ้วกลางแข็งแรงของเขาสอดเข้าไปใจกลางกลางบุปผา สอดเข้าไปครึ่งข้อนิ้ว เธอนิ่วหน้าเล็กน้อย ในขณะที่เขารู้สึกได้ถึงแรงดูดที่ปลายนิ้ว...มันเร่งเร้าเย้ายวนให้เขาเผด็จศึกครอบครองเธอซะเดี๋ยวนั้น

เนื้อตัวของเขาร้อนผ่าว พอๆ กับเธอ แม้ว่าในตอนนี้จะเป็นฤดูหนาว เขาดึงนิ้วออก จับสองขาเธอแยกให้กว้างสุดแล้วแทรกกายรวมเป็นหนึ่ง

“โอ๊ย ! ” หญิงสาวเบิกตาโพลง อาการง่วงงุนหายวับ เมื่อความเจ็บแปลบแล่นไปทั่วร่องกุหลาบ...ราวกับข้างในนั้นจะฉีกออกจากกัน มันเป็นความเจ็บที่ทำให้เธอรับรู้ได้ว่า...สิ่งที่เกิดไม่ใช่ฝัน แต่ทว่าเป็นความจริง

จะผลักไสตอนนี้ก็สายไปเสียแล้ว เขาเริ่มขยับจังหวะเร่งเร้า ดันแก่นกายเข้าๆ ออกๆ ในตัวเธอ

ความเจ็บในตอนนี้หายไปกว่าครึ่ง ความเสียวมาแทนที่ เธอเด้งกายแอ่นสะโพกเข้ารับ

เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังสนั่นห้อง สองเต้าอวบกระเด้งกระดอน เขาหอบหายใจถี่ๆ เร่งความเร็วถี่รัวที่ทำเอาเธอแทบขาดหายใจ

เสียงครางกระเส่า มาพร้อมกับเนื้อตัวที่สั่นไหวตามแรงกระแทกกระทั้น

นัธทวัฒน์ขบกรามแน่น ร่างสูงกระตุกเกร็งเมื่อปลดปล่อยหยดน้ำอุ่นๆ เข้าไปในร่องหลืบของเธอ

เขาแช่ตัวตนค้างไว้เช่นนั้นพักหนึ่ง ก่อนจะถอดถอนออก รูดซิบกางเกง แล้วทิ้งตัวลงนอน ทั้งที่ยังไม่ได้ใส่เสื้อ

ปภาวีดีดตัวลุกนั่งด้วยเนื้อตัวสั่นเทา มองชายร่างสูงที่ในตอนนี้หลับไปแล้ว เธอควานหาเสื้อผ้ามาสวม ทว่าเพิ่งใส่ได้แค่ชุดชั้นใน ประตูก็เปิดออก เธอรีบดึงผ้าห่มมาคลุมตัวไว้ มองผู้ที่ก้าวเข้ามาด้วยสายตาตื่นตระหนก แต่พอรู้ว่าใครเข้ามา เธอก็เริ่มผ่อนคลายความตึงเครียดลง

“พ่อ !”

“หึหึ” ธริศยกมือถือขึ้นถ่ายรูปเธอที่อยู่บนเตียงเดียวกับนัธทวัฒน์ เธอเบิกตาโพลง รีบร้องเสียงดัง

“พ่อ ! พ่อถ่ายรูปทำไมน่ะ”

“เก็บหลักฐานไง”

“ทำไมคะ จะเอารูปพวกนั้นไปทำไม”

“จะเอาไปทำไมเดี๋ยวแกก็รู้เองนั่นแหละ ใส่เสื้อผ้าแล้วรอในนี้ล่ะ” ชายวัยกลางคนสั่ง แล้วก็ออกจากห้องไป ปภาวีรีบสวมเสื้อผ้าต่อ ในใจวุ่นวายสับสน...แววตาของพ่อที่เธอได้เห็นเมื่อครู่นี้ทำให้เธอไม่สบายใจเอาเสียเลย จากที่โล่งใจว่าคนที่เข้ามาเห็นคือพ่อ อย่างน้อยพ่อคงอยู่ข้างเธอ ปกป้องเธอได้ แต่ตอนนี้เธอไม่มั่นใจเอาเสียเลยว่าพ่อจะยอมอยู่เฉยๆ

เธอต้องหว่านล้อมพ่อให้เก็บเรื่องนี้เป็นความลับ...ใช่แล้ว พ่อต้องเห็นใจเธอแน่ๆ เพราะเธอเป็นลูกสาวเพียงคนเดียวของพ่อ

มือเรียวเย็นเฉียบยกกุมขมับ พลางถอนหายใจยืดยาว...

พ่อแม่ของเธอเป็นคนรับใช้ของบ้านภูษิตพิพัธน์...แม่เป็นแม่ครัว มีหน้าที่ทำอาหาร ส่วนพ่อเป็นคนขับรถประจำตระกูล ตั้งแต่จำความได้ เธอก็อาศัยอยู่ที่เรือนเล็กซึ่งเป็นที่พักสำหรับคนรับใช้ที่ได้รับความไว้เนื้อเชื่อใจจากเจ้านายให้มาอาศัยค้างคืนได้ ...เรือนน้อยที่อยู่ท่ามกลางต้นลีลาวดีที่ออกดาวสีขาวสะพรั่ง เธอใช้ชีวิตมีความสุขตามอัตภาพ จนกระทั่งเริ่มแตกเนื้อสาว เธอก็หลงรักลูกชายของเจ้านายพ่อแม่...เขาชื่อนัธทวัฒน์ อายุมากกว่าเธอ 6 ปี

เธอเจียมตัวมาตลอดว่าไม่คู่ควรกับเขาและไม่ควรคิดไปไกลจนเกินเลย เพราะจะมีเพียงเธอเท่านั้นที่ต้องเจ็บปวด

เธอตั้งใจเรียนจนจบ ม.6 แม่ก็เสียชีวิตไป พ่อไม่สามารถส่งเธอเรียนมหาวิทยาลัยได้ เธอเลยเลือกเรียน ปวส. จบการศึกษามาในวัย 20 ปี เธอได้งานทำเป็นพนักงานฝ่ายการตลาดที่บริษัทแห่งหนึ่ง

แม้จะมีงานทำแล้ว แต่เธอก็ยังคงอาศัยอยู่กับพ่อที่เรือนคนรับใช้...ไม่อยากอยู่ห่างจากนัธทวัฒน์ แม้ว่านานๆ จะได้เห็นหน้าเขาชัดๆ สักครั้งก็ตาม ซ้ำเธอยังไม่เคยอยู่ในสายตาเขา เธอก็ไม่เป็นไร...

เธอตั้งปณิธานไว้ว่า...เขาแต่งงานเมื่อไหร่ เธอจะย้ายออกไปอยู่ที่อื่น เพราะคงทำใจลำบากหากต้องเห็นเขาอยู่เคียงข้างผู้หญิงคนอื่น

เวลาผ่านไปจนเธออายุ 23 ปี ส่วนเขาอายุ 29ปี วันที่เธอเสียใจสุดก็มาถึง เมื่อนัธทวัฒน์หมั้นหมายกับเจษิตา...สาวสวยผมสีคาราเมล ทั้งรูปร่างหน้าตาและฐานะทางสังคม เหมาะสมกับเขาทุกอย่าง วันนี้เป็นวันที่จัดพิธีหมั้นของเขาและเจษิตา เธอตั้งใจจะอยู่ช่วยงานเขาให้เต็มที่ แล้ววันพรุ่งนี้จะขนของไปหาห้องเช่าที่อื่นอยู่

เธอจะเลิกอยู่ในโลกความฝัน แล้วมาสู่ความเป็นจริงเสียที...เธอจะตั้งใจทำงาน เก็บเงิน แล้วฝังการแอบรักข้างเดียวนี้ไปกับความทรงจำ

ในวันพรุ่งนี้เธอจะมีชีวิตใหม่...

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ อักษรสีทอง

ข้อมูลเพิ่มเติม
อุ้มรักเมียลับของท่านประธาน

อุ้มรักเมียลับของท่านประธาน

โรแมนติก

5.0

เพราะน้ำเมาในคืนนั้น เธอจึงพลาดท่า ‘ท้องไม่มีพ่อ’ เธอจำผู้ชายคนนั้นไม่ได้ ไม่รู้ว่าเขาคือใคร สิ่งที่จำได้ดีคือเสียงของเขาเท่านั้น วันเวลาผ่านไป เธอคลอดลูกชายฝาแฝด มีคนแปลกหน้ามาจับตัวเธอและลูกๆไป…คฤหาสน์หลังใหญ่ราวกับวังคือสถานที่เธอและลูกถูกพาตัวมา เธอได้พบใครคนหนึ่งซึ่งมีใบหน้าหล่อเหลาราวกับเทพบุตร แต่ทว่าแววตากลับเย็นชาเหมือนน้ำแข็ง เขาเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้ “ในที่สุด ผมก็ตามหาคุณเจอเสียทีนะ” เธอจำได้…เสียงทุ้มทรงอำนาจที่ไม่เคยลืมเลย เขาคือผู้ชายในคืนนั้น ! “คุณตามหาฉันเจอได้ยังไง” “ไม่มีอะไรที่ผมต้องการแล้วจะไม่ได้หรอกนะ ถึงแม้จะใช้เวลานานไปหน่อยก็เถอะ” หญิงสาวนั่งคุกเข่ากอดลูกๆแนบอก เนื้อตัวสั่นระริก ถามด้วยเสียงที่สั่นจนควบคุมไม่อยู่ “คุณต้องการอะไร” “ตอนแรกแค่อยากรู้ว่าผู้หญิงคนไหนกันที่มาเสียตัวให้ผมแล้วก็ชิ่งหนีไป แต่พอรู้ว่าคุณมีลูก ผมก็ต้องการลูก” “ไม่ได้นะ” เธอกอดลูกชายทั้งสองแน่นกว่าเดิม “เด็กๆเป็นลูกของฉัน ไม่เกี่ยวกับคุณ” ร่างสูงขยับมายืนใกล้ๆ หรี่ตามองเธอและเด็กๆ ก่อนยกมุมปากเป็นรอยยิ้มหยัน “มีแค่มดลูก คุณจะท้องได้เองหรือไง ถ้าไม่ได้สเปิร์มจากผมไปน่ะ” หญิงสาวหน้าร้อนวูบ… เพิ่งรู้ก็วันนี้เองว่า พ่อของลูกเธอนั้นไม่ใช่ผู้ชายธรรมดา แต่เป็นประธานบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ร่ำรวยมหาศาล ที่สำคัญเขาต้องการลูกๆ เธอจะต้องหนีจากเงื้อมมือของเขาให้ได้ อุตส่าห์อุ้มท้องมาตั้ง 9 เดือน จะยอมให้เขามาพรากลูกไปจากอกไม่ได้เด็ดขาด แม้จะตั้งใจเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าจะต้องหนีให้ได้ แต่ทว่าสุดท้ายแล้ว…นอกจากจะหนีไม่พ้นแล้ว อย่าว่าแต่ลูกเลย แม้แต่หัวใจของเธอก็ตกเป็นของเขา !

คู่นอนสุดที่รัก

คู่นอนสุดที่รัก

โรแมนติก

5.0

เธอเป็นเลขาของเขา ส่วนเขาก็เป็นเจ้านายของเธอ.... อัมพิกาตกหลุมรักนิโคลัสตั้งแต่แรกเห็น ทว่า...สถานะระหว่างเลขากับท่านประธานช่างต่างกันจนเธอไม่อาจคาดหวังเกินตัว 1 ปีผ่านไป จากการได้ทำงานใกล้ชิด เธอยิ่งหวั่นไหวจนยากจะถอนหัวใจ ได้แต่เก็บงำความรักไว้เป็นความลับในใจ ไม่สามารถเอ่ยปากไปได้ จนวันหนึ่ง เธอและเขาต่างเมาด้วยกันทั้งคู่จนมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกัน เธอยินยอมเพราะรัก แต่เขามีเพียงความใคร่ ในวันที่เสียตัวให้เขาแล้ว เขาพาเธอไปอยู่ด้วยกันที่บ้าน...ที่นั่น ก็มีสาวสวยอยู่แล้วคนหนึ่ง เขาตั้งกติกาว่า ระหว่างเธอกับผู้หญิงคนนั้น...หากใครมีทายาทให้เขาได้ก่อน เขาจะยอมจดทะเบียนสมรสด้วย เพราะสิ่งที่เขาต้องการไม่ใช่ความรัก แต่เป็นทายาทสืบสกุล ! ผู้ชายเลือดเย็นคนนี้น่ะหรือที่เธอรัก...ต่อให้เธอเกิดตั้งท้องขึ้นมาก็อย่าฝันเลยว่าเธอจะยอมให้เห็นหน้าลูก !!

เสน่หาภรรยา ม.ปลาย

เสน่หาภรรยา ม.ปลาย

โรแมนติก

5.0

สรวิชญ์คือรักแรกของฝากขวัญ... เธอเป็นลูกสาวหัวหน้าคนงาน ส่วนเขาคือลูกชายเจ้าของไร่สิงห์คำรามที่อายุมากกว่าเธอ 5 ปี ความใกล้ชิดก่อเกิดความสายสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง เธอในวัยเยาว์ ไร้เดียงสา เรียนยังไม่จบมัธยมปลายก็เสียตัวให้เขา เธอวาดฝันถึงอนาคตที่ดี ความรักที่สวยงาม แต่แล้ว...ในวันที่เธอจบการศึกษาชั้น ม.6 คือวันเดียวกับที่ถูกเขาทอดทิ้ง พ่อพาเธอไปอยู่กรุงเทพเพื่อฟื้นฟูสภาพจิตใจ ในขณะที่ท้องของเธอเริ่มโตขึ้นทุกวัน โดยที่สรวิชญ์ไม่เคยรู้เลยว่าเธออุ้มท้องสายเลือดของเขาอยู่ เวลาผ่านไป 6 ปี ลูกสาวของเธออายุ 5 ขวบ เธอได้เดินทางกลับมาที่ไร่สิงห์คำรามเพื่อดูแลสรัณซึ่งเป็นเจ้านายเก่าของพ่อ เธอและเขาได้พบกันอีกครั้ง...เขาไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว จากหนุ่มหน้าใส กลายเป็นผู้ชายดุดัน ไว้หนวดเครา ตัวโตร่างใหญ่ ที่สำคัญ...เขามีคู่หมั้นแล้ว แต่เธอไม่มีทางให้เขาสมหวังหรอกนะ เธอเคยเสียใจมากแค่ไหน เขาต้องได้รับความเสียใจมากกว่าเธอ ฝากขวัญไม่รู้เลยว่า...ความอยากเอาคืนในวันนั้น จะทำให้เธอตกหลุมรักอดีตสามีเป็นครั้งที่สอง ทว่าเธอไม่ใช่เด็กสาวม.ปลายผู้ไร้เดียงสาอีกแล้ว เธอไม่มีวันทำผิดพลาดเหมือนเมื่อก่อนแน่ๆ !

ถ่านไฟรักสามีเก่า

ถ่านไฟรักสามีเก่า

โรแมนติก

5.0

เธอเคยคิดว่าเขา รัก’จึงยอมยกให้ทั้งตัวและหัวใจ ทว่าในความจริง เธอเป็นได้แค่ ‘เมียในความลับ’ ที่ทำได้เพียงรอเวลาให้เขามานอนด้วย เจ้าสาวที่เขาจะแต่งงานด้วย ไม่ใช่เธอ แต่เป็นผู้หญิงคนอื่น และฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้ความอดทนของเธอขาดลงก็คือการที่เธอตั้งครรภ์ แต่เขากลับแนะนำให้ไปทำแท้ง พอที...เธอไม่สามารถคบกับผู้ชายใจร้ายเช่นเขาได้อีก พรอุษาตัดสินใจตัดขาดความสัมพันธ์ที่มีแต่ความเจ็บปวด อุ้มท้องลูกน้อยหนีไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ 4 ปีผ่านไป บาดแผลในใจเริ่มจางหาย พร้อมลูกสาวที่เติบโตมาอย่างน่ารัก แล้วในวันหนึ่ง...โชคชะตาก็ทำให้เธอบังเอิญพบเจอกับสามีเก่าอีกครั้ง ถ่านไฟที่ยังไม่ทันได้ดับสนิทเริ่มติดไฟขึ้นมาอีกครั้ง...แต่ทว่าเธอจะไม่มีวันยอมผิดพลาดอีกเป็นครั้งที่สองแน่ๆ ...................... “นี่มัน” ชายหนุ่มย่นหัวคิ้ว ดึงแผ่นทดสอบมาดู... ถึงเขาจะเป็นผู้ชาย แต่ก็ใช่ว่าจะไม่รู้ว่าที่ถืออยู่นี้คืออะไร แล้วความหมายของสองขีดแดงคืออะไร...สายตาคู่คมจ้องหน้าเธออย่างเดือดดาล “เธอท้องเหรอ” “คือ...มัน...เอ่อ” เธออึกอัก “เธอท้อง...” เขากดเสียงให้ต่ำลงไปอีก ส่งผลให้เธอตัวลีบเล็ก อึกอัก “พิมลองตรวจดู ไม่คิดเหมือนกันว่ามันจะขึ้นสองขีด” “ไม่คิดงั้นเหรอ” ชายหนุ่มแค่นเสียง แสยะมุมปาก ปล่อยมือจากเธอพร้อมขยำแผ่นทดสอบปาลงพื้น “ฉันจะถือซะว่าเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้น ไปเอาเด็กออกซะ”

อุ้มรักสายเลือดท่านประธาน

อุ้มรักสายเลือดท่านประธาน

โรแมนติก

4.7

เธอได้รับมอบหมายให้สัมภาษณ์นักธุรกิจชื่อดัง แต่ไม่นึกเลยว่าการพบกันครั้งแรกระหว่างเขาและเธอ...จะทำให้เธอสูญเสียพรหมจรรย์ไป เขามีเงิน มีอำนาจ และมีคู่หมั้นอยู่แล้ว เป็นผู้ชายที่เธอควรหลีกหนีให้ไกลที่สุด เธอตั้งใจจะลืมเรื่องคืนนั้นแล้วใช้ชีวิตตามปกติ แต่ทว่า...เช้ามา เธอก็ตกงาน จากนั้นก็โดนนักเลงมาข่มขู่คุกคาม แถมยังโดนเจ้าของห้องเช่าไล่ออกอีกต่างหาก เธอมั่นใจว่าคนที่หาเรื่องกลั่นแกล้งเธอก็คือคู่หมั้นของนนทิวรรธน์ ที่เธอต้องมาซวยก็เพราะผู้ชายคนนี้คนเดียว !! เธอบุกไปบ้านเขาเพื่อทวงความยุติธรรม เพื่อให้เขามอบความปลอดภัยให้เธอ แต่ไม่นึกเลยว่าเธอจากกลายเป็นเมียลับของเขาโดยไม่ได้ตั้งใจ สถานะเมียลับที่อยู่ในความคุ้มครองของเขา ได้เงินทองมากมาย ใช้ชีวิตสุขสบาย แต่ไม่เคยได้รับความรัก และในวันที่เขาจะแต่งงาน คือวันเดียวกับที่เธอเพิ่งรู้ตัวว่าตั้งครรภ์ และที่สำคัญสุดคือ...หัวใจทั้งดวงของเธอเป็นของเขาไปแล้ว ซ้ำร้าย…เธอมีโอกาสได้อยู่ใกล้ชิดเขาเพียง 1 เดือน ก็โดนเขาขับไล่อย่างไม่ไว้หน้า เธอต้องเก็บเสื้อผ้าออกมาจากชีวิตด้วยความรู้สึกที่ย่ำแย่...ทิ้งสถานะเมียลับให้เป็นเพียงความทรงจำ พร้อมกับฝังความลับเรื่องการตั้งครรภ์ไม่ให้ล่วงรู้ถึงหูเขา 2 ปีต่อมา เธอได้พบกับอดีตสามีอีกครั้ง ในฐานะเลขาชั่วคราวกับท่านประธานบริษัท ความลับเรื่องลูก...เขายังไม่รู้ และจะไม่มีวันได้รู้เด็ดขาด แต่ใครจะนึกล่ะว่าความลับไม่มีในโลก !

หนังสือที่คุณอาจชอบ

คุณหนูปกปิดตัวตนไม่ได้แล้ว

คุณหนูปกปิดตัวตนไม่ได้แล้ว

Critter
5.0

เมื่อตอนเด็ก หลินอวี่เคยช่วยชีวิตเหยาซีเยว่ที่กำลังจะตาย ต่อมา หลินอวี่กลายเป็นพืชหลังจากประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ เธอแต่งงานเข้าตระกูลหลินโดยไม่ลังเลใจและใช้ทักษะทางการแพทย์ของเธอเพื่อรักษาหลินอวี่ สองปีของการแต่งงานและการดูแลอย่างสุดหัวใจของเธอเพียงเพื่อตอบแทนบุญคุณ และเพื่อที่เขาจะให้ความสำคัญกับตัวเองบ้าง แต่ความพยายามทั้งหมดของเธอกลับไร้ประโยชน์เมื่อคนในใจของหลินอวี่กลับมาประเทศ เมื่อหลินอวี่โยนข้อตกลงการหย่ามาใส่เธออย่างไร้ความปราณี เธอก็รีบเซ็นชื่อทันที ทุกคนหัวเราะเยาะเธอที่เป็นผู้หญิงที่ถูกครอบครัวใหญ่ทอดทิ้ง แต่ใครจะไปรู้ว่า เธอคือ Moon นักแข่งรถที่ไม่มีใครเทียบได้บนสนามแข่งรถ เป็นนักออกแบบแฟชั่นที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ เป็นอัจฉริยะของแฮ็กเกอร์ และเธอยังเป็นหมอมหัศจรรย์ระดับโลก... อดีตสามีของเธอเสียใจมากจนคุกเข่าลงกับพื้นขอร้องให้เธอกลับมา ผู้เผด็จการคนหนึ่งอุ้มเธอไว้ในอ้อมแขนของเขาแล้วพูดว่า "ออกไป! นี่คือภรรยาของฉัน!" เหยาซีเยว่ "?"

ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา

ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา

l3oonm@
5.0

“ท่านผู้อำนวยการคะ ทางทีมสำรวจแจ้งว่าคนไม่เพียงพอที่จะเข้าไปเก็บตัวอย่างพันธุ์พืชในป่าเมืองเหอหนานค่ะ” ซูเจิน ที่ได้ยินก็หูผึ่งทันที เธอนั่งทำการอยู่ในห้องวิจัยตั้งแต่เรียนจบ ถึงตอนนี้ก็สี่ปีได้แล้ว ผู้อำนวยที่เข้ามาตรวจงานวิจัยล่าสุด ก็มองไปรอบห้อง เพื่อดูว่ามีใครต้องการเสนอตัวไปทำงานในครั้งนี้หรือไม่ แต่หลายคนที่เขามองไป ต่างหลบสายตาของเขา จะมีใครอยากออกไปเสี่ยงอันตราย เดินป่าขึ้นเขาให้เหนื่อยสู้นั่งทำงานในห้องปรับอากาศเย็นๆ ดีกว่า เมื่อไม่มีใครคิดจะเสนอตัว เขาจึงได้สอบถามหาผู้ที่สมัครใจทันที “มีใครอยากจะอาสาไปไหม” ไว้กว่าความคิด ซูเจินยกมือขึ้น “ฉันค่ะ” เพื่อนสนิทรีบดึงเสื้อของเธอเพื่อจะห้ามปราม “จะบ้าหรอ เธอไม่เคยไปสักครั้ง ไม่รู้หรือว่างานนี้เสี่ยงแค่ไหน” เสียงกระซิบของเสี่ยวชิง เอ่ยลอดไรฟันออกมา เมื่อปีที่แล้ว ที่ทีมสำรวจเดินทางเข้าไปที่ป่าเหอหนาน พื้นป่าที่ไม่อาจสำรวจได้อย่างทั่วถึง สร้างความท้าทายให้เหล่านักพฤกษศาสตร์จากทุกองค์กร แต่ไม่ว่าจะส่งเข้าไปกี่ครั้งก็ไปไม่ถึงป่าชั้นกลางเสียที แม้จะใช้เทคโนโลยีที่ล้ำหน้าเข้าช่วยเพียงได้ ก็สำรวจได้เพียงป่าชั้นนอก แถมยังพาชีวิตคนไปทิ้งอีกนับไม่ถ้วน ปีนี้ทางองค์กรของซูเจิน หยิบโครงการสำรวจป่าเหอหนานขึ้นมาใหม่ แต่กว่าจะหาทีมสำรวจได้ครบคนก็กินเวลาไปหลายเดือน ถึงตอนนี้คนก็ยังไม่พอจนต้องมาถามหาจากทีมวิจัยให้ช่วยเหลือ “คุณอยากไปจริงหรือ” เขาเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง “ค่ะ ฉันอยากลองทำงานนี้” ซูเจินยิ้มออกมา “ได้ อีกสองวัน คุณก็เตรียมตัวให้พร้อม” เมื่อมีคนเสนอตัวแล้ว ผู้อำนวยการก็ออกไปพบทีมสำรวจ เพื่อวางแผนการทำงาน ทั้งยังให้ซูเจินตามเขาไปเข้ารวมการประชุมในครั้งนี้ด้วย “เธอมันบ้าไปแล้ว” เพื่อร่วมงานต่างเดินเข้ามาหาซูเจิน แล้วตำหนิเธอที่กล้ายกมือเสนอตัว “เอาน่า ไว้กลับมาฉันจะเอาเรื่องสนุกมาเล่าให้พวกเธอฟัง” ซูเจินยิ้มหวานออกมา ก่อนที่จะเก็บของแล้วไปเข้าร่วมประชุมกับทีมสำรวจ สองวันต่อมาซูเจินก็แบกกระเป๋าเดินทางมาที่จุดนัดพบ เธอออกเดินทางด้วยรถตู้ขององค์กร พร้อมทีมสำรวจอีกเกือบยี่สิบชีวิต ยังดีที่เธอได้แบกกระเป๋าเพียงใบเดียว หากต้องแบกเต็นท์นอน อาหารด้วย คงได้เป็นภาระของคนอื่นอย่างแน่นอน ภายในป่าเหอหนาน น่ากลัวว่าที่ซูเจินคิดไว้เยอะ พอตะวันตกดิน หากไม่มีแสงไฟที่ทีมสำรวจนำมาด้วยคงจะมืดจนมองไม่เห็นอะไร เสียงแมลงทั้งสัตว์ป่าร้องตลอดทั้งคืน สร้างความหวาดกลัวให้กับคนที่ไม่เคยเข้าป่าสักครั้งอย่างเธอได้อย่างดี ยังดีที่เจ้าหน้าที่ผู้นำทางติดตามมาด้วยอีกหลายคน พวกเขาจึงได้อยู่ผลัดเปลี่ยนเวรยาม เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์ป่าเข้ามาถึงตัวพวกเขา หลายวันที่อยู่ในป่า ซูเจินเก็บตัวอย่างพันธุ์ได้หลายชนิด แต่ทั้งทีม ยังเดินไม่หลุดป่าชั้นนอกเลย ยังดีที่อาหารที่เตรียมมาเพียงพอให้พวกเขาอยู่ไปได้อีกหลายวัน “เอ๊ะ” เข้าวันที่เจ็ดของการสำรวจป่า ซูเจิน เห็นดอกไม้แปลกตา ที่ขึ้นอยู่ท่ามกลางพงหญ้ารก เธอจึงเดินห่างจากกลุ่มทีมสำรวจเข้าไปดูทันที เพราะไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องอะไรได้ ระยะห่างที่อยู่ไกลจากพวกเขา หากร้องเรียกก็ยังได้ยินอยู่ เธอหยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นมา พร้อมทั้งจดรายละเอียดก่อนที่จะดึงต้นไม้เก็บเข้าถุงเก็บตัวอย่างที่เตรียมมา แต่เมื่อมือของซูเจินสัมผัสไปที่ดอกไม้ เธอก็ต้องตกตะลึง เหมือนมีกระแสไฟวิ่งผ่านปลายนิ้วไปจนทั่วทั้งตัว “โอ๊ยย” เสียงร้องอย่างเจ็บปวดของซูเจิน เรียกความสนใจให้คนทั้งหมดรีบวิ่งมาทางที่เธออยู่ ซูเจินเห็นเพียงแสงสีขาวที่สว่างวาบไปทั่ว แล้วภาพตรงหน้าของเธอก็ดำมืดลง

คลื่นรักอสูร

คลื่นรักอสูร

มาชาวีร์
4.8

(คลื่นรักอสูร) ...เพราะเธอขึ้นเรือผิดลำ คลื่นร้ายจึงซัดแทบกระเจิง... “เธอมันก็แค่ผู้หญิงขายตัว จะมาทำเล่นตัวเรื่องมากไม่ได้รู้ไหม ต่อให้เป็นสินค้าด้อยคุณภาพยังไงก็เถอะ ก็ต้องหัดรู้จักตามใจแขกบ้าง แต่นี่อะไรหาเรื่องใส่ตัวแท้ ๆ คนสอนไม่บอกหรือยังไงว่าไอ้ละครเล่นตัวนี่มันน่ารำคาญไม่ได้ดึงดูดลูกค้าเลย” บารเมษฐ์ต่อว่าพร้อมกวาดสายตามองเหยียดหยามตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ก่อนคลายมือออกจากปลายคางอย่างช้า ๆ “ฉันไม่ได้มาขายตัวสักหน่อย” คนได้รับอิสรภาพรีบบอกเขา “หืม” เขาทำหน้าไม่เชื่อ “ฉันแค่ขึ้นเรือผิดลำ ฉันไม่ได้มาขายตัวจริง ๆ คุณอย่าทำอะไรฉันเลยนะคะคุณบารเมษฐ์” วินาทีนี้เธอกลัวเขามากกว่าใครบนเรือลำนี้เสียอีก เลยเลือกที่จะบอกความจริงกับเขาไป “ขึ้นเรือผิดลำ?” คนพูดหรี่ตาลงอย่างสงสัย “ใช่ค่ะ ฉันขึ้นเรือผิดลำจริง ๆ” “แบบนี้นี่เอง มิน่าล่ะสองคนในห้องเครื่องนั่นถึงได้ลุกลี้ลุกลนนัก” บารเมษฐ์นึกไปถึงท่าทางของอนุชิตกับธาวิน ซึ่งดูเหมือนมีเรื่องเป็นกังวลอยู่ตลอดเวลา “คุณรู้แบบนี้แล้วก็ปล่อยฉันไปเถอะคุณบารเมษฐ์ อย่าทำอะไรฉันเลยนะคะ” นีนนาราขอความเห็นใจจากเขา แต่สายตาที่เขามองกลับมานั้นมันว่างเปล่าชอบกล “รู้อะไรไหมนีนเรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของฉันเลย เธอเป็นคนอยู่ผิดที่ผิดทางเอง เพราะงั้นเธอก็ต้องรับสภาพที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้เองเหมือนกัน” “ห้ะ คุณ นี่คุณ คุณทำไมเป็นคนไม่มีเหตุผลแบบนี้” หญิงสาวต่อว่าเขา ก่อนจะหน้าซีดหน้าเซียวลง เพราะเสียงหัวเราะเบา ๆ ในลำคอของเขาบ่งชัดว่าคืนนี้เธอไม่รอดแน่ “ปล่อยฉันนะ! ปล่อย!” นีนนาราดิ้นหนีเขาก็จับกดลงที่เดิม “งานก็คืองานนะคนสวย มาขายตัวก็คือมาขายตัว อย่าทำเสียเรื่องสินีน” บารเมษฐ์ย่อมเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งอยู่แล้ว เขาอยากรู้ว่าผู้หญิงคนนี้จะมาไม้ไหนอีกแน่ “ก็บอกว่าไม่ใช่ยังไงล่ะ ว้าย!”

บุตรเช่นข้า หาได้ต้องการบิดาเช่นท่าน

บุตรเช่นข้า หาได้ต้องการบิดาเช่นท่าน

จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ
5.0

หลินตงหยาง อายุ 27 ปี เติบโตมากับแม่เพียงสองคน ในวัยเด็กหลินตงหยางเคยมีพ่อผู้ให้กำเนิดแต่หลังจากที่พ่อได้งานใหม่ในเมืองหลวงพ่อที่เคยมีก็ไม่มีอีกแล้ว พ่อกลับมาหย่าขาดกับแม่ทันทีที่ไปทำงานในเมืองหลวงได้เพียง 2 เดือน ด้วยให้เหตุผลในการหย่าว่า แม่กับและเขาคือตัวถ่วงความเจริญในชีวิตพ่อ สาเหตุก็ไม่มีอะไรมากแค่พ่อหน้าตาหล่อเหลาและเป็นที่ถูกใจของลูกสาวหัวหน้างาน เพื่อตำแหน่งงานและความเป็นอยู่ที่สบายขึ้น พ่อเลือกที่จะทิ้งภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากที่ผ่านเรื่องยากลำบากมาด้วยกัน หย่าขาดกับภรรยาเพื่อไปแต่งงานใหม่ มีชีวิตใหม่ในเมืองหลวง โดยทิ้งคนข้างหลัง ทิ้งภรรยาที่เคยสาบานว่าจะอยู่ครองคู่กันตลอดไป ในปีที่เขาเรียนจบมหาวิทยาลัย แม่ก็ล้มป่วยและจากเขาไปในที่สุด สาเหตุที่หลินตงหยางเสียชีวิต เพราะทำงานหนัก อาชีพโปรแกรมเมอร์ตัวเล็กๆ อย่างเขา ต้องพยายามทำงานให้ได้ตามที่หัวหน้าสั่งมา ในที่สุดเขาก็พัฒนาเกมกำลังภายในของบริษัทได้สำเร็จ หลินตงหยางนอนหลับไปด้วยความสบายใจ แต่ทว่าพอเขาลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที นี่ไม่ใช่คอนโดหรูย่านใจกลางเมืองปักกิ่ง หลังคามุงหญ้านี่คืออะไร มันควรจะเป็นเพดานสีขาวสิ เมื่อมองไปรอบๆ ห้องนี่คืออะไร นี่มันไม่ใช่ผนังที่ทำมาจากคอนกรีต มันคือดินเหนียว หลินตงหยางคิดว่าตัวเองฝันไป เขาหลับตาลงอีกครั้งแล้วลืมตาขึ้น ทุกอย่างยังเหมือนเดิม มารดามันเถอะ เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง หลังจากแน่ใจแล้วว่าไมไ่ด้ฝัน ตอนนั้นเองเขารู้สึกปวดหัวขึ้นมาอย่างรุนแรง และในหัวของเขามีภาพเหตุการณ์ของเด็กชายที่ชื่อเดียวกับเขา หลินตงหยาง อายุ 10 ขวบ เรื่องราวชีวิตตั้งแต่เกิดจนตายไปของเด็กชาย ทำเอาหลินตงหยางกำมือแน่น ก่อนจะสบถออกมา “พ่อสารเลว เฉินซื่อเหม่ยชัดๆ” และตามมาด้วยเสียงร้องไห้ของน้องสาว สาเหตุที่เด็กชายหลินตงหยางเสียชีวิต เพราะถูกผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นย่าแย่งผักป่าและทุบตี ทั้งๆ ที่คนพวกนั้นได้ตัดขาดพับพวกเขาสามแม่ลูกแล้ว แต่ยังมิวายข่มเหงรังแก

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ