Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
เล่ห์เสน่หาพญามาร

เล่ห์เสน่หาพญามาร

ปูริดา

5.0
ความคิดเห็น
29.5K
ชม
89
บท

แต่ถ้าเธออยากจะฟังอีกฉันก็จะบอกอีกครั้ง ว่าฉันอยากครอบครองเป็นเจ้าของร่างนุ่มนิ่ม...แสนหวาน อยากเห็นใบหน้าแดงๆ เหมือนกับผลทับทิม ดวงตาเปล่งประกายเหมือนดวงดาราบนท้องฟ้ายามมอบบอกกับฉันว่า...ต้องการให้ฉันเป็นส่วนหนึ่ง ปากนี้...” นิ้วยาวลากไล้กดย้ำบนริมฝีปากนุ่ม “ร้องอ้อนวอนขอให้ฉันแปลงกายเป็นปลาใหญ่วนเวียนแหวกว่ายในโถงอุ่นระอุฉ่ำนุ่ม เปล่งเสียงครางๆ หวานๆ ยามกลืนกินโมกข์น้อยไม่ยอมหยุด” โมกข์บอกเสียงกระเส่า ลมหายใจเริ่มหอบพร่า กายแกร่งปวดร้าวกับมือและปากเล็กที่เคลื่อนไหวบางเบาแต่หนักหน่วง “อยากมีร่างนุ่มๆ นอนคลอเคลียแนบชิด และทำให้เตียงนอนฉันร้อนราวกับไฟเผาทุกๆ คืน” เสียงแหบหวานหลุดออกมาจากปากอิ่มนุ่ม สองแก้มร้อนผ่าวจนต้องรีบก้มหน้าหลบสายตาร้อนแรงเต็มไปด้วยความต้องการที่มากล้นเหลือ ดังเช่นมือหนาที่ลูบไล้สร้างความปั่นป่วนวาบหวามทั่วกายน้อยๆ ให้สั่นสะท้านเหมือนนกน้อยบินไปท่ามกลางฝนพรำ

บทที่ 1 ตอนที่ 1

“กรี๊ด...พี่พลทำไมทำแบบนี้กับเปรมล่ะคะ เปรมทำผิดอะไร ทำไมพี่ถึงต้องทิ้งเปรมไปหานังคนใช้นั่นด้วย”

ร่างโปร่งบางเดินเข้าไปหาชายหนุ่มร่างสูงใหญ่

สองมือเรียวจับแขนใหญ่เขย่าและทุบตีอย่างแรงตามอารมณ์ที่ปะทุขึ้น

“พี่ก็รู้ว่ามันไม่คู่ควร มันเป็นเพียงแค่คนใช้ภายในบ้าน”

“ถึงลูกจันทร์เป็นเพียงแค่คนใช้ แต่ก็เป็นคนดีและน่ารัก

ดีกว่าคนบางคนที่หน้าไหว้หลังหลอก คบกันหวังแต่เอารัดเอาเปรียบและผลประโยชน์ส่วนตัว”

ชายหนุ่มร่างใหญ่ตอบกลับอย่างไม่ไว้หน้า ดวงตาดุไล่มองร่างโปร่งบางตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าอย่างดูถูกดูแคลน

“กรี๊ด...พี่พล เปรมจะฟ้องคุณลุงคุณป้าว่าพี่พลด่าเปรม”

ร่างโปร่งกระทืบเท้าแรงๆ พร้อมเสียงร้องแปดหลอดจนแสบแก้วหู ใบหน้าขาวสวยแดงระเรื่อ

ดวงตาเป็นประกายเจิดจ้าและลุกโชน เต็มไปด้วยความรักและเคียดแค้นที่ไม่ได้อยู่ในความสนใจของชายหนุ่ม

“หยุดได้แล้วเปรมยุดา เธอจะมาแสดงตัวเป็นหญิงปากตลาดที่บ้านฉันไม่ได้

ถ้าเธอยังแสดงกิริยาท่าทางแบบนี้ก็กลับไปซะ บ้านนี้ไม่ต้อนรับ”

“กรี๊ด...”

“คัท”

เสียงกรีดร้องบาดแก้วหูของสาวน้อยร่างอรชรอ้อนแอ้นดังขึ้น

พร้อมกับเสียงนุ่มทุ้มของสารัชผู้กำกับหนุ่มไฟแรงแห่งกองละครเรื่องที่แม้กระทั่งตัวนักแสดงเองก็ยังไม่รู้เลย

เพราะชายหนุ่มผู้เป็นเจ้าของบทประพันธ์และสปอนเซอร์ในการจัดสร้างละครเรื่องนี้ขอไว้

ให้ทุกคนแสดงตามบทที่เขาส่งไปให้เท่านั้น

แต่ก็นั่นแหละ ใครๆ ก็ย่อมจะไม่มีปัญหาอยู่แล้ว

ขอเพียงผลตอบแทนที่ได้รับดีพอและได้ร่วมงานกับนักเขียนหนุ่มมากฝีมือ แถมยังเป็นสปอนเซอร์รายใหญ่ที่ทุ่มงบไม่อั้นในการจัดทำละครเรื่องนี้

แค่นั้นยังไม่พอ ชายหนุ่มยังเสนอให้ทางทีมงานเข้ามาใช้พื้นที่ในรีสอร์ทเพื่อถ่ายทำละครเรื่องนี้อีกด้วย

ที่เพียงได้เห็น ไม่ว่าใครต่างก็ต้องอึ้ง

ทึ่งและตกตะลึงในความโอ่อ่าหรูหราของสถานที่ และที่สำคัญคือคนบุคคลผู้เป็นเจ้าของอย่างโมกข์

สาระสน ที่ไม่แค่ร่ำรวยหากแต่รูปร่างและหน้าตาจัดเข้าขั้นพระเอกหนังไทยได้อย่างสบายๆ

เลยล่ะ

“คุณโมกข์ขา ลิสาทำได้ดีหรือยังคะ” ชาลิสานางร้ายดาวรุ่งดวงใหม่มาแรงถามเสียงหวานเชื่อม

พร้อมกับร่างโปร่งบางวิ่งกลับมาที่จอมอนิเตอร์อย่างรวดเร็ว

เพื่อหาคนที่เธอถามไปเมื่อครู่ ทั้งที่ความจริงแล้วโมกข์เป็นเพียงแค่นักประพันธ์

ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องการแสดงเลยสักนิด

ร่างอวบอั๋นในชุดนุ่งน้อยห่มน้อยทำเอาผู้คนที่อยู่รายรอบต่างก็กลัวว่า

ไอ้ของที่แม่ให้มาที่ใหญ่โตราวกับส้มโอสองผลนั้นจะหลุดออกมาอวดสายตาให้กับคนในกองถ่ายได้เห็น

แต่ดูเหมือนชาลิสาจะไม่สนใจแม้แต่น้อย เพราะมัวแต่ส่งสายตาหวานเยิ้มและเชิญชวนให้กับโมกข์

ร่างอวบอิ่มเอนตัวไปด้านหน้า หวังให้ชายหนุ่มที่เธอถูกใจ ได้สัมผัสกับความอวบอิ่มเต่งตึงและกลิ่นหอมของเครื่องประทินผิวที่เธออาบลงไป

ก่อนที่จะเข้าฉากอาละวาดใส่พระเอกของเรื่อง ซึ่งกำลังจะทิ้งเธอไปหายายตัวประกอบหน้าใสที่นั่งซับเหงื่ออยู่ไม่ไกล

โมกข์ละสายตาจากการพูดคุยกับสารัชและจอมอนิเตอร์หันมองคนถาม

แต่สายตากลับผ่านไปเห็นหญิงสาวอีกนางที่นั่งทำปากพะงาบๆ เลียนแบบคำพูดชาลิสา

แล้วก็เกิดอาการหมั่นไส้คนที่กำลังทำอยู่เป็นอย่างมาก ดวงตาสองคู่สบกันก่อนที่คนหนึ่งจะทำหน้าหงิกงอใส่แล้วยังเมินหน้าหนี

แค่นั้นยังไม่พอหญิงสาวยังลุกขึ้นและเดินหนีไปอีกทาง

สิ่งที่ได้เห็นทำให้โมกข์หงุดหงิดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เคยมีแต่ผู้หญิงวิ่งเข้าใส่

ใครๆ ก็อยากจะอยู่ในอ้อมกอดเขา

แต่แม่สาวคนนั้น...ที่ดูเหมือนว่าเป็นเพียงนักแสดงตัวประกอบที่เขายังไม่รู้จักชื่อ

ดันทำเหมือนกับว่าเขาเป็นไส้เดือนกิ้งกือที่เธอเกลียดและต้องรีบหนีให้ห่าง

เห็นแล้วมันหงุดหงิดและคันยิบๆ ในใจ แล้วคนอย่างเขาก็ยอมไม่ได้ที่จะให้ผู้หญิงไม่มีหัวนอนปลายเท้าทำแบบนี้ใส่ด้วย

แล้วสมองอันฉลาดและแหลมคมก็เริ่มหมุนวนเป็นลูกข่าง

เขาต้องหาทางเข้าใกล้แม่สาวตัวประกอบจอมหยิ่งนั่น และหาทางสั่งสอนให้รู้สำนึกเสียบ้างว่ากำลังเล่นอยู่กับใคร

ใบหน้าคมยิ้มกริ่ม ดวงตาคมดุแวววาวจ้องมองตามเหยื่อสาวแสนสวยอย่างที่คนถูกมองต้องหนาวสั่นในหัวใจถ้าได้เห็น

เพราะมันมีทั้งความดูถูกดูแคลน รังเกียจหยามเหยียด

แต่ก็ซุกซ่อนไว้ด้วยไฟปรารถนาอันร้อนแรง

“คุณโมกข์มองดูอะไรอยู่หรือคะ”

ชาลิสาถามและมองตามสายตาคมไปแต่ก็ไม่เห็นว่าจะมีสิ่งใดผิดปรกติ

หรือว่ามีใครอยู่ตรงที่สายตาของโมกข์หยุดอยู่สักนิด สองมือเรียวจับใบหน้าคมให้หันมาสนใจตัวเอง

“ว่าไงคะคุณโมกข์ขา ลิสาเล่นดีหรือยังคะ”

หญิงสาวถามย้ำอีกครั้งอย่างต้องการคำชมจากปากเขาให้ชื่นอกชื่นใจ

กายอวบอิ่มเอนตัวลงไปเสียดสีกับกายใหญ่ ทำให้ชายหนุ่มร้อนรุ่มและต้องการได้เธอไปเป็นคนคลายร้อนรุ่มในกายให้

“ไม่ทราบครับ คุณลิสาคงจะต้องถามจากคุณสารัชมากกว่า”

โมกข์ตอบกลับอย่างรำคาญใจและเบื่อหน่าย ถ้าเป็นก่อนที่จะได้เห็นหน้าแม่ตัวประกอบนั่น

เขาก็ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะปล่อยให้ชาลิสาปลุกเร้าอารมณ์ปรารถนาในกาย

แต่พอได้เห็นใบหน้าสวยหวานนั่น...เขาถึงกับลืมหญิงสาวและผู้หญิงอีกหลายคนที่เคยสนิทชิดเชื้อด้วยไปเสียสนิท

สองมือใหญ่ดันกายอวบอิ่มออกห่าง

สายตายังมองตามร่างบอบบางของแม่สาวตัวประกอบที่หายไปยังซอกหนึ่งของตึกเรียบร้อยแล้ว

ยิ่งคิดก็ยิ่งโกรธตัวเอง ทั้งที่ระยะทางก็ไม่ได้ใกล้เลยสักนิด

แต่ในสมองและสายตากลับเห็นและจดจำใบหน้าของแม่สาวคนนั้นชัดเจนเหลือเกิน

ใบหน้ารูปไข่ ดวงตากลมโตเป็นประกายวาววับ ล้อมกรอบด้วยขนตายาวงอน

จมูกโด่งรับกับริมฝีปากอิ่มเต็มสีชมพูระเรื่อ ราวกับกำลังเชิญชวนให้เข้าหา

และมอบจุมพิตแสนหวานให้สักครั้งสองครั้งเป็นการเริ่มต้นทำความรู้จักกันและกัน เพียงแค่คิดเท่านั้นกายใหญ่ก็ปวดร้าวด้วยความต้องการ

ชาลิสาหงุดหงิดที่วันนี้โมกข์ไม่ได้เอาใจใส่เธอเหมือนวันก่อนๆ

หรือเพราะตอนนี้มีอะไรกันแล้ว และเขากำลังจะผละจากเธอไปหาผู้หญิงคนใหม่

แล้วดูเหมือนว่าแม่นางเอกหน้าหวานปานระวีที่เข้าฉากวันนี้ก็ให้ท่าชายหนุ่มอยู่เหมือนกัน

ใจดวงน้อยร้อนรุ่มราวกับมีไฟกองใหญ่สุม ใบหน้าแดงขึ้น

หายใจเข้าปอดด้วยความรุนแรง

แพ้ใครเธอไม่ว่าแต่ถ้าต้องแพ้ปานระวีผู้หญิงตีสองหน้าเก่ง ต่อหน้าโมกข์ก็ทำตัวเป็นสาวเรียบร้อยอ่อนหวาน

แต่ลับหลังแล้วแม่ค้าในตลาดที่ปากว่าด่าเก่งยังต้องยอมแพ้เลย

ไม่...ต้องไม่ยอมให้ใครมาแย่งโมกข์ไปได้ ชายหนุ่มที่ทั้งรูปหล่อ

ร่ำรวยและทำงานเก่งแบบนี้ใครๆ ก็อยากได้เป็นเจ้าของ ถ้าเขายอมหยุดที่เธอ

นั่นก็หมายความว่า...สบายไปทั้งชาติเลยทีเดียว

ชิ...นังปานระวี คิดหรือว่าฉันจะปล่อยบ่อเงินบ่อทองให้แกง่ายๆ ไม่มีทางหรอกย่ะ

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ ปูริดา

ข้อมูลเพิ่มเติม
ปลูกรักฮูหยินแม่ทัพปีศาจ

ปลูกรักฮูหยินแม่ทัพปีศาจ

โรแมนติก

5.0

ก็ไม่ได้คิดหรอกนะว่าวันหนึ่งจะพบเจอกับเรื่องแปลก ๆ แต่เมื่ออยู่แล้วไร้ความหมายไม่มีคนที่รักและรักเรา เขาจึงเลือกที่จะแลกทั้งที่ไม่ได้มั่นใจเลยว่าจะได้พบกับคนที่รักจริงหรือเปล่า แต่ก็ตัดสินใจเลือกไปแล้ว... “อาซวงเป็นของข้าใช่หรือไม่” ก็มิค่อยเข้าใจสักเท่าไหร่และคิดว่ามิน่าจะมีอะไรมากมาย เก้าเทียนรุ่ยจึงพยักหน้ารับ “ขอรับ” “ถึงเราจะมิได้ร่วมทุกข์ร่วมสุขเช่นที่ท่านมีกับสหายที่ร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่ นอนกลางดินกินกลางทรายมาด้วยกันมาอย่างชิงชวนหรือคนอื่น ๆ หากนับตั้งแต่ที่เราได้พบรวมถึงอยู่ด้วยกัน ข้าก็คิดว่าเราผ่านอะไรมามากมายพอที่จะทำให้ข้ารู้ถึงความรู้สึกที่ตนเองมีต่อท่าน” เก้าเทียนรุ่ยมองสบสายตาเสวียนลิ่วหลางที่มองเขาด้วยความงุนงง ในดวงตามีความสับสนระคนมิแน่ใจ คล้ายจะมีคำถามตามติดมาด้วย ทำให้เขาเผลอยิ้มหวานออกไป เสวียนลิ่วหลางได้แต่ยิ้มด้วยความเขินอาย “ข้าก็มิรู้ว่าจะวางตัวเช่นไรดี พึงพอใจอยากให้เจ้าอยู่ชิดใกล้...หากก็มิอยากบังคับหากเจ้ามิเต็มใจ” “แต่ก็มิอาจทำใจได้หากจะต้องปล่อยมือ” เก้าเทียนรุ่ยเอ่ยอย่างเข้าใจ “เมื่อยังต้องรอให้อาซวงรู้สึกเช่นเดียวกัน นอกจากข้าจะทำให้ผู้อื่นรับรู้แล้วว่าคนนี้...” เสวียนลิ่วหลางจับมือเก้าเทียนรุ่ยมาจูบขณะมองสบเข้าไปในดวงตากลมใสก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่มทุ้มหากเต็มไปด้วยความหนักแน่น “ข้าจอง” “ตะเกียบยังต้องอยู่เป็นคู่ถึงจะใช้กินอาหารได้ หยินก็ยังคู่หยางถึงจะสมดุล เมื่อข้าพบคนที่ใช่ เหตุใดถึงต้องปล่อยมือเล่า”

ขอให้รักกลับคืนมาได้ไหม

ขอให้รักกลับคืนมาได้ไหม

โรแมนติก

5.0

ความรักไม่ผิด...เรารักเขา เขาไม่รักเรา ก็ไม่ผิด แต่การรอคอยมันย่อมมีระยะเวลาสิ้นสุดลงเมื่อ...ใจเราไม่อาจรอรักจากเขาได้อีกแล้ว มันก็ถึงเวลา...สิ้นสุดยุติการรอคอที่เลื่อนลอยไร้จุดหมาย “นั่นสิคะ หนูดาวก็งงอยู่ ทำไมถึงหนีพี่เหนือไม่พ้นสักที ตั้งแต่หนูดาวตัดสินใจทำแบบนั้นลงไป พี่เหนือทำให้หนูดาวแปลกใจจนงงและสับสนไปหมด” “หือ” “ปกติพี่เหนือจะผลักไสให้หนูดาวไปไกล ๆ ชอบใช้สายตาแบบว่า...ฉันรำคาญเธอนะ เห็นหน้าเธอแล้วมันหงุดหงิดใจมาก จะไปเองดี ๆ หรือจะให้ฉันเตะโด่งเธอไป...ประมาณนี้นะคะ แต่พอหนูดาวเอาแหวนหมั้นไปคืน กลับต้องเจอกับพี่เหนือทุกวัน...และยังอยู่ด้วยกันแทบจะตลอดทั้งวันเลยด้วย ขนาดคิดหนีมาทำงานที่นี่ สุดท้ายยังหนีพี่เหนือไม่พ้นเลยด้วย” “เราคงเป็นคู่เวรคู่กรรมกันละมั้ง ทำยังไงก็หนีกันไม่พ้น เสร็จงานที่นี่ เห็นทีพี่คงจะต้องจับมัดเราให้หนักกว่าเดิม” พันดาวมองแดนเหนืออย่างตื่นตะลึง เรียวปากสีชมพูอ้าค้าง “นี่พี่เหนือ...”

ไฟรักไฟเชลย

ไฟรักไฟเชลย

โรแมนติก

5.0

เพื่อน้องสาว เขาจึงหลอกลวงนำตัวเธอมา “คุณโกรธอะไรใครก็ไปเอาคืนกับคนนั้นสิ มายุ่งกับฉันทำไม ปล่อยฉันนะไอ้วายร้าย!” “เผอิญว่าฉันดันอยากได้เธอด้วยผิง ก็เธอมันขาวอวบยั่วยวนราคะใช่ย่อยนิ แค่จับลูบไล้หน่อยเดียวก็พร้อมจะร้อนเป็นไฟแล้ว” ชายหนุ่มลูบไล้ฝ่ามืออุ่นร้อนบนลำตัวกลมกลึง สะกิดเอากระดุมหลุดออกจากรางทีละเม็ดจนหมด จูบอุ่นร้อนทาบทับซุกไซ้ซอกคอขาวผ่อง “ฉันขอร้องนะคุณใหญ่...ถ้าฉันผิดจริง ฉันยอมให้คุณลงโทษได้ทุกอย่าง คุณจะย่ำยีลงทัณฑ์ฉันยังไงก็ได้ ฉันจะไม่ร้องขอความปราณีแม้แต่นิดเดียว จะไม่หนีอย่างที่ทำอยู่ทุกวัน จะไม่คิดไม่เคียดแค้นคุณเลย แต่ถ้าฉันไม่ผิด คุณปล่อยฉันไปนะ...ได้โปรด” “รู้อะไรไหมผิง...ไม่มีผู้ชายคนไหนโง่ยอมปล่อยให้ผู้หญิงสวย ๆ เซ็กซี่ แล้วก็ปลุกเร้าอารมณ์ได้อย่างกับน้ำมันราดลงไปกองไฟให้หลุดรอดมือไปหรอกนะ” แต่ใครจะรู้ล่ะ...ความใกล้ชิดที่เกิดขึ้น จะนำสิ่งใดมาสู่เขาบ้าง เรื่องหัวใจก็ยังต้องจัดการ เรื่องการงานก็ต้องตรวจสอบหาความจริง

นางไพรยั่วสวาท

นางไพรยั่วสวาท

โรแมนติก

5.0

กฎของหมู่บ้าน ทำให้สองศรีพี่น้องต้องเร่งหา...ผัว! ให้ได้ “ตัวสั่นเชียว กลัวหรือจ๊ะฟองจ๋า” “โถ...น่าสงสารจริง เมียของผัว” มือหนาลูบไล้ผิวเนื้อนวลนุ่มลื่นขณะเดียวกันก็เกี่ยวเอาชายเสื้อของหญิงสาวดึงมันออกไปจากกายสาวก่อนจะแนบฝ่ามือลงบนทรวงอกอวบใหญ่ เสียงหวานแหบพร่าดังออกมาจากกลีบปากเล็ก “ร้องได้เลยจ้ะฟองจ๋า ผัวอยากได้ยินเสียงหวาน ๆ ของฟองที่สุด” “โถ่...จะปิดทำไมละจ๊ะสร้อยจ๋า” แม่เจ้าโว้ย! ใหญ่ฉิบหายเลย ใหญ่จนเขาอยากเห็นใกล้ ๆ อยากได้ลิ้มลองรสชาติในตอนนี้เลย “เดี๋ยวเราสองคนจะไม่เพียงแค่ได้เห็นทุกซอก...ทุกมุมของสร้อยแล้ว เราสองคนจะทั้งจับ...ทั้งเลีย แล้วก็อัดกระแทกให้ร่องสวาทของสร้อยแทบพังไปเลยจ๊ะ” ตรวนสวาทนางไพร : ใครกันแน่ที่เป็นผู้ล่า ใครกันแน่ที่เป็นเหยื่อ แน่ใจหรือว่าแพรพลอยคือเหยื่อให้ห้าหนุ่มอย่างพวกเขาเสพสวาทอย่างเร่าร้อน “ไม่เอาอย่างนี้นะโรม...อย่าทำแพรเลยนะ” แพรพลอยร้องห้ามเสียงสั่นพร่าเมื่อรู้ว่าโรมรันจะทำอะไร ไหนจะหนุ่ม ๆ ทั้งสี่ที่ไร้อาภรณ์ปกปิด ทำให้เธอได้เห็นอาวุธของแต่ละคนที่มันช่าง...ใหญ่! ไหนจะคำพูดที่บอกก่อนหน้านี้ที่บอกว่า...จะอัดกระแทกเธอให้ยับ! ทำเอาเธอถึงกับกับหวาดหวั่นไม่ใช่น้อย ยิ่งตอนนี้ทุกคนได้มายืนล้อมรอบเธอแล้วด้วย “พี่ได้ยินไม่ผิดใช่ไหมจ๊ะ...ที่น้องแพรบอกว่าอย่าช้า ให้พวกเรารีบเอาน้องแพรเร็ว ๆ นะ”

เกลียวรักคลื่นปรารถนา

เกลียวรักคลื่นปรารถนา

โรแมนติก

5.0

เพียงแค่เห็นหน้า เขาก็ถูกใจแล้ว แม้เธอจะมีลูกติดมา เขาก็ไม่คิดที่จะปล่อย ยังคงตามเอาใจลูกสาวตัวน้อยและจีบเธออย่างไม่ลดละ “เย้ เย้ แม่เอาอีกหนุก หนุก เอาอีก เอาอีก” โซดาเริ่มลุยน้ำลงไปกอบทรายที่เปียกน้ำใส่ศีรษะอันนิโต้เรื่อยๆ ไม่ยอมหยุด สิมิลันหัวเราะจนท้องแข็ง อันโตนิโอ้เอาคืนคนอารมณ์ดีด้วยการกอบทรายเปียกใส่ร่างบางบ้าง “ว้าย! เล่นอะไรนะคุณสกปรกจะตาย” “อ้าวที่คุณกับลูกทำผมล่ะ นี่แนะ” มือใหญ่ขยี้ผมบนศีรษะสิมิลัน โซดาเริ่มเอาอย่างสองมืออวบขยี้ผมบนศีรษะมารดาและศีรษะตัวเองจนยุ่งเหยิงและเปียกชื่น แล้วยืนหัวเราะเสียงใสแจ๋ว ดวงตาเป็นประกายสดใส ยิ้มจนเห็นฟันในปากแทบทุกซี่ “ไม่เลิกใช่ไหมคุณเอ โซดารุมพ่อเอเลยลูก” สองมือเล็กเรียวผลักร่างใหญ่ลงนอนบนพื้นทราย พร้อมกอบทรายเปียกชื้นละเลงบนกายแข็งแกร่ง สองแรงแข็งขันสองมือรุมกอบทรายละเลงบนกายหนาใหญ่จนเปียกชื้น ยังไม่พอสองนิ้วเล็กๆ จี้ไปเอวหนาจนชายหนุ่มหัวเราะท้องแข็ง โซดาเองก็เอาอย่างคนเป็นแม่ มือใหญ่ทั้งห้านิ้วจี้เอวแข็งแกร่ง อันโตนิโอ้ก็ไม่ยอมแพ้ มือใหญ่จี้เอวสองแม่ลูกกลับบ้าง เสียงหัวเราะของสองผู้ใหญ่หนึ่งเด็กดังลั่นหาดทรายสีขาว

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ฉันไม่มีทางยอมแพ้

ฉันไม่มีทางยอมแพ้

Tann Aronson
5.0

เมื่อเธออายุยี่สิบ ชิงฉือได้รู้ว่าตนเองไม่ใช่ลูกโดยกำเนิดของตระกูลต้วน เธอถูกลูกสาวที่แท้จริงของตระกูลต้วนล้อมกรอบ จนถูกพ่อแม่บุญธรรมไล่ออกจากบ้านและกลายเป็นตัวตลกในเมือง เมื่อเธอกลับไปหาพ่อแม่ชาวนา จากนั้นก็พบว่าบิดาผู้ให้กำเนิดของเธอเป็นคนที่รวยที่สุดในเมืองเจียงเฉิงส่วนพี่ชายของตนเองเป็นอัจฉริยะในแวดวงต่างๆ ทุกคนมองดูเด็กสาวตัวเล็กคนนี้ด้วยความเห็นใจและถือว่าเธอเป็นสมบัติล้ำค่า แต่ค่อยๆ พบว่า... ที่แท้ว่าน้องสาวเป็นคนมากความสามารถ? อดีตแฟนหนุ่มผู้น่ารังเกียจหัวเราะเยาะ "อย่ามาตามเซ้าซี้ไม่เลิก ฉันมีแต่เมียนเมียนอยู่ในใจ!" คนใหญ่แห่งเมืองหลวงปรากฏตัว "เมียฉันจะเห็นหัวนายเหรอ?"

บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง

บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง

มาชาวีร์
4.7

หลี่เมิ่งเหยาย้อนเวลามาอยู่ในร่าง ของเด็กสาววัยสิบสองปี ในวันที่มารดาอนุผู้โง่เขลา ถูกขับไล่ออกจากจวน โชคยังดีที่ตอนตาย นางสวมกำไลหยกโลกันตร์เอาไว้ มันจึงติดตามนางมาที่นี่ด้วย +++ 1 : มารดาโง่ จนถูกไล่ออกจากตระกูล จวนตระกูลหลี่เจ้าเมืองถัง สตรีสองนางถูกสาวใช้จับคุกเข่าลง ตรงหน้าของหลี่หงซวนเจ้าเมืองถัง ทั้งยังเป็นพ่อสามีของทั้งคู่อีกด้วย ท่านกำลังสอบสวนเรื่องของสะใภ้ใหญ่ของบ้านสาม ถูกฮูหยินรองกับอนุรวมหัวกันลอบทำร้าย ด้วยการวางยาขับเลือดในถ้วยน้ำแกงบำรุงครรภ์ ทำให้นางต้องสูญเสียทารกในครรภ์ไป “ท่านพ่อข้าไม่รู้จริง ๆ ว่านั่นเป็นยาขับเลือด ฮูหยินรองบอกว่าเป็นน้ำแกงบำรุงครรภ์ ให้ข้าเป็นคนนำไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ เป็นนางนั่นเอง นางหลอกข้า !” เฉาซูหลิ่งชี้นิ้วไปทางสตรีด้านข้าง ร้อนรนเอ่ยออกมาเหมือนคนไม่ได้รับความเป็นธรรม “อนุเฉาเจ้าอย่ามาใส่ร้ายข้านะ เจ้าทำคนเดียวทั้งนั้นไม่เกี่ยวกับข้าเลย” ฮูหยินรอง ถูซวงอี้ ชี้นิ้วใส่หน้าเฉาซูหลิ่งกลับคืน ต่างคนต่างโยนความผิดให้กัน ฮูหยินผู้เฒ่าหลิวเยี่ยนหนานโบกมือให้คนเข้ามา “ข้าให้โอกาสพวกเจ้าสองคนพูดความจริง แต่กลับไม่มีใครยอมรับความผิดแม้แต่คนเดียว มันน่าจับส่งทางการให้รู้แล้วรู้รอด” พ่อบ้านหลัวให้คนลากสาวใช้คนหนึ่งเข้ามา สภาพของนางถูกทรมานจนเนื้อตัวบวมช้ำไปหมด “เรียนนายท่านข้าให้คนไปค้นห้องสาวใช้ทุกคนในจวน พบเทียบยาซ่อนไว้ใต้หมอน จากห้องของสาวใช้คนนี้ขอรับ” ถูซวงอี้ถึงกับคุกเข่าต่อไปไม่ไหว ทิ้งตัวลงไปนั่งอยู่บนพื้น สาวใช้ที่ถูกทรมานจนสภาพน่าเวทนานั่น เป็นเสี่ยวอิงสาวใช้สินเดิมของนางเอง “ฮูหยินรอง ข้าขอโทษ ข้าทนต่อไปไม่ไหวจริง ๆ ข้าขอโทษ !” เสี่ยวอิงโขกศีรษะลงตรงหน้าของถูซวงอี้แรง ๆ น้ำตาไหลนองหน้าจน แทบไม่เป็นผู้เป็นคนอยู่แล้ว พ่อบ้านหลัวเอ่ย “ข้าให้คนไปถามที่หอโอสถแล้วขอรับนายท่าน เป็นเทียบยาขับเลือดจริง ๆ” หลี่หงซวนมองไปทางบุตรชายคนที่สามของตน พบว่าเขามีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก สตรีที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าคือฮูหยินรอง กับอนุภรรยาที่เขารักใคร่ไม่ต่างกัน เหตุใดถึงได้คิดร้ายต่อฮูหยินใหญ่ของเขาได้ เป็นเหตุให้เขาต้องสูญเสียลูกที่อยู่ในท้องของนางไป เดิมทีฮูหยินใหญ่ของเขาก็ตั้งท้องยากอยู่แล้ว เขารอมาตั้งนานกว่าจะมีวันนี้ได้ ไม่คิดมาก่อนว่าจะต้องสูญเสียไปเช่นนี้ “หย่วนเจ๋อนี่เป็นเรื่องในเรือนของเจ้า เจ้าอยากตัดสินเรื่องนี้ด้วยตัวเองหรือไม่” ผู้เป็นบิดาเอ่ยถามบุตรชาย “ไม่ ข้าไม่อยากเห็นหน้าพวกนางอีกต่อไป แล้วแต่ท่านพ่อเถอะขอรับ ข้าขอตัวไปดูฮูหยินใหญ่ก่อน” หลี่หย่วนเจ๋อคำนับบิดา สะบัดแขนเสื้อเดินจากไปในทันที หางตายังไม่แม้แต่จะมองสตรีทั้งสองนาง เฉาซูหลิ่งลนลานตามเขาไป “ท่านพี่ช่วยข้าด้วย ข้าไม่ผิดนะเจ้าคะ ท่านพี่ !” แต่ถูกบ่าวรับใช้ขวางทางเอาไว้ หลี่หงซวน “หยุดโวยวายได้แล้วอนุเฉา เจ้าเป็นคนถือถ้วยน้ำแกงใส่ยาขับเลือด ไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ด้วยตัวเอง ยังคิดจะหนีความผิดนี้ไปได้อีกรึ” “ท่านพ่อขะข้าข้า...ไม่ผิด” เฉาซูหลิ่งทิ้งตัวไปด้านหลังอย่างหมดเรี่ยวแรง เดิมทีนางก็ไม่เป็นที่โปรดปรานของพ่อแม่สามีอยู่แล้ว เพราะไม่สามารถให้กำเนิดบุตรชายได้ ครั้นได้บุตรสาวก็นิสัยขี้ขลาดขี้กลัว ไหนเลยจะเชิดหน้าชูตาให้ตระกูลหลี่ได้ เฉาซูหลิ่งนั่งเหม่อลอย คล้ายคนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ขณะที่หลี่หงซวนกำลังประกาศโทษทัณฑ์ของพวกนาง ถูซวงอี้กับคนของนาง ถูกขายออกจากจวน ไปอยู่หอนางโลมอย่างเงียบ ๆ ชาตินี้อย่าได้ก้าวเท้า กลับมาเหยียบที่จวนตระกูลหลี่อีก ส่วนเฉาซูหลิ่งถูกขับไล่ออกจากจวน ไปพร้อมกับบุตรสาว ให้ไปอยู่เรือนร้างของตระกูลหลี่ที่เมืองฉาง ห้ามกลับมาที่ตระกูลหลี่อีกชั่วชีวิต “ท่านพ่อท่านขับไล่ข้าไป ข้ายังพอรับได้ เหตุใดต้องขับไล่เหยาเอ๋อร์ไปด้วย นางเพิ่งจะสิบสองปีเองนะเจ้าคะ” เฉาซูหลิ่งนึกถึงบุตรสาวร่างกายผ่ายผอม นอนซมเพราะพิษไข้อยู่ เกิดนึกสงสารนางขึ้นมาจับใจ ฮูหยินผู้เฒ่าหันไปมองสามีเล็กน้อย นางเห็นเด็กสาวคนนั้นมาตั้งแต่เกิด แม้ไม่ได้เอ็นดูแต่ก็นับว่าเป็นสายเลือดเดียวกัน “ฮูหยินเรื่องนี้ข้าตัดสินใจไปแล้ว ไม่อาจคืนคำได้” คำพูดของประมุขของตระกูล มีหรือใครจะกล้าขัด เฉาซูหลิ่งปล่อยเสียงร้องไห้โฮออกมาดัง ๆ นางโง่งมจนทำให้บุตรสาว ต้องมารับเคราะห์กรรมตามไปด้วย “ลากตัวอนุเฉาออกไป หารถม้าสักคันให้คนส่งนาง ไปที่เรือนร้างเมืองฉาง” คำสั่งของหลี่หงซวนเป็นคำขาด บ่าวไพร่รีบทำตามในทันที ครั้นได้อยู่ด้วยกันเพียงลำพังกับฮูหยินผู้เฒ่า หลี่หงซวนถึงได้บอกเหตุผล ที่ต้องตัดสินใจทำเช่นนี้ นั่นเพราะตระกูลจี้ได้ยื่นคำขาดมา ให้ขับไล่พวกเขาออกไปให้หมด อย่าให้เหลืออยู่แม้แต่ตนเดียว ไม่ต้องการให้คนที่ทำร้ายบุตรสาวของพวกเขา อยู่ระคายสายตาของจี้ชิวหรงอีกต่อไป ฮูหยินผู้เฒ่าแค่นออกมาหนึ่งคำ “อ้างเหตุผลข้าง ๆ คู ๆ ความจริงแล้วต้องการกำจัดอนุในเรือนบุตรสาวทิ้งให้หมด นี่กระทั่งเด็กคนหนึ่งก็ไม่เว้น แต่ก็เอาเถอะ เหยาเอ๋อร์อยู่ที่นี่ ก็ใช่จะมีประโยชน์อันใด นางไม่ได้อยู่ในสายตาของพวกเราด้วยซ้ำ ให้นางไปกับแม่ของนางนั่นแหละดีแล้ว” หลี่หงซวนนั้นเป็นเพียงเจ้าเมืองเล็ก ๆ มีตำแหน่งเป็นขุนนางขั้นที่ห้า ฝั่งตระกูลจี้บ้านเดิมของจี้ชิวหรงนั้น อยู่ในเมืองหลวงมีตำแหน่งใหญ่โตกว่าหนึ่งขั้น เรื่องนี้เขาจึงต้องขบคิด ถึงผลได้ผลเสียในอนาคตอีกด้วย การเสียสละอนุกับหลานสาวคนหนึ่ง เพื่อชดเชยให้แก่คนตระกูลจี้ นับว่าเป็นเรื่องสมควรทำแล้ว “ข้าก็คิดเช่นฮูหยินนั่นแหละ เพียงแต่สะใภ้สามแท้งคราวนี้ ไม่รู้จะยังสามารถตั้งท้องได้อีกหรือไม่ พวกเรารอดูไปก่อนดีกว่า หากนางไม่สามารถตั้งท้องได้จริง ๆ เราค่อยหาอนุมาให้หย่วนเจ๋อภายหลังก็ยังได้ ยามนั้นคนตระกูลจี้จะเอาอะไรมาง้างกับเราได้อีก” “จริงดังท่านว่าเจ้าค่ะ” ฝ่ายเฉาซูหลิ่งที่ถูกคนใช้ ลากตัวออกมาให้เก็บของในเรือน นางส่งเสียงเอะอะโวยวายตลอดทาง พร่ำบอกต้องการพบหลี่หย่วนเจ๋อให้ได้ แต่ถูกสาวใช้ขวางไว้ไม่ให้ไป นางจำใจกลับไปยังห้องนอนของตัวเอง รีบเก็บของสำคัญใส่ห่อผ้าเพื่อออกเดินทาง

ภรรยาห้าตำลึงเงิน

ภรรยาห้าตำลึงเงิน

จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ
5.0

คนเราบางครั้งก็หวนนึกขึ้นมาได้ว่าตายแล้วไปไหน ซึ่งเป็นคำถามที่ไร้คำตอบเพราะไม่มีใครสามารถมาตอบได้ว่าตายไปแล้วไปไหน หากจะรอคำตอบจากคนที่ตายไปแล้วก็ไม่เห็นมีใครมาให้คำตอบที่กระจ่างชัด ชลดา หญิงสาวที่เลยวัยสาวมามากแล้วทำงานในโรงงานทอผ้าซึ่งตอนนี้เป็นเวลาพักเบรค ชลดาและเพื่อนๆก็มานั่งเมาท์มอยซอยเก้าที่โรงอาหารอันเป็นที่ประจำสำหรับพนักงานพักผ่อน เพื่อนของชลดาที่อยู่ๆก็พูดขึ้นมาว่า "นี่พวกแกเวลาคนเราตายแล้วไปไหน" เอ๋ "ถามอะไรงี่เง่าเอ๋ ใครจะไปตอบได้วะไม่เคยตายสักหน่อย" พร "แกล่ะดารู้หรือเปล่าตายแล้วไปไหน" เอ๋ยังถามต่อ "จะไปรู้ได้ยังไง ขนาดพ่อแม่ของฉันตายไปแล้วยังไม่รู้เลยว่าพวกท่านไปอยู่ที่ไหนกัน เพราะท่านก็ไม่เคยมาบอกฉันสักคำ" "อืม เข้าใจนะแก แต่ก็อยากรู้อ่ะว่าตายแล้วคนเราจะไปไหนได้บ้าง" "อืม เอาไว้ฉันตายเมื่อไหร่ จะมาบอกนะว่าไปไหน" ชลดาตอบเพื่อนไม่จริงจังนักติดไปทางพูดเล่นเสียมากกว่า "ว๊าย ยัยดาพูดอะไร ตายเตยอะไรไม่เป็นมงคล ยัยเอ๋แกก็เลิกถามได้แล้ว บ้าไปกันใหญ่" พรหนึ่งในกลุ่มเพื่อนโวยวายขึ้นมาทันที แต่ใครจะรู้ว่าหลังจากวันนั้นที่คุยกันที่โรงอาหารจะเป็นการคุยเล่นกันวันสุดท้ายของชลดา เพราะหลังจากเลิกงานกลับมาชลดาก็เสียชีวิตระหว่างเดินทางกลับหอพักด้วยสาเหตุวัยรุ่นยกพวกตีกันและมีการยิงกันเกิดขึ้นและชลดาคือผู้โชคร้ายที่ผ่านทางมาพอดี ท่ามกลางความเสียใจของเพื่อนๆ เอ๋ได้แต่หวังว่า ชลดาคงไม่มาบอกกับเธอจริงๆหรอกใช่ไหมว่าตายแล้วไปไหน

บุตรเช่นข้า หาได้ต้องการบิดาเช่นท่าน

บุตรเช่นข้า หาได้ต้องการบิดาเช่นท่าน

จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ
5.0

หลินตงหยาง อายุ 27 ปี เติบโตมากับแม่เพียงสองคน ในวัยเด็กหลินตงหยางเคยมีพ่อผู้ให้กำเนิดแต่หลังจากที่พ่อได้งานใหม่ในเมืองหลวงพ่อที่เคยมีก็ไม่มีอีกแล้ว พ่อกลับมาหย่าขาดกับแม่ทันทีที่ไปทำงานในเมืองหลวงได้เพียง 2 เดือน ด้วยให้เหตุผลในการหย่าว่า แม่กับและเขาคือตัวถ่วงความเจริญในชีวิตพ่อ สาเหตุก็ไม่มีอะไรมากแค่พ่อหน้าตาหล่อเหลาและเป็นที่ถูกใจของลูกสาวหัวหน้างาน เพื่อตำแหน่งงานและความเป็นอยู่ที่สบายขึ้น พ่อเลือกที่จะทิ้งภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากที่ผ่านเรื่องยากลำบากมาด้วยกัน หย่าขาดกับภรรยาเพื่อไปแต่งงานใหม่ มีชีวิตใหม่ในเมืองหลวง โดยทิ้งคนข้างหลัง ทิ้งภรรยาที่เคยสาบานว่าจะอยู่ครองคู่กันตลอดไป ในปีที่เขาเรียนจบมหาวิทยาลัย แม่ก็ล้มป่วยและจากเขาไปในที่สุด สาเหตุที่หลินตงหยางเสียชีวิต เพราะทำงานหนัก อาชีพโปรแกรมเมอร์ตัวเล็กๆ อย่างเขา ต้องพยายามทำงานให้ได้ตามที่หัวหน้าสั่งมา ในที่สุดเขาก็พัฒนาเกมกำลังภายในของบริษัทได้สำเร็จ หลินตงหยางนอนหลับไปด้วยความสบายใจ แต่ทว่าพอเขาลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที นี่ไม่ใช่คอนโดหรูย่านใจกลางเมืองปักกิ่ง หลังคามุงหญ้านี่คืออะไร มันควรจะเป็นเพดานสีขาวสิ เมื่อมองไปรอบๆ ห้องนี่คืออะไร นี่มันไม่ใช่ผนังที่ทำมาจากคอนกรีต มันคือดินเหนียว หลินตงหยางคิดว่าตัวเองฝันไป เขาหลับตาลงอีกครั้งแล้วลืมตาขึ้น ทุกอย่างยังเหมือนเดิม มารดามันเถอะ เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง หลังจากแน่ใจแล้วว่าไมไ่ด้ฝัน ตอนนั้นเองเขารู้สึกปวดหัวขึ้นมาอย่างรุนแรง และในหัวของเขามีภาพเหตุการณ์ของเด็กชายที่ชื่อเดียวกับเขา หลินตงหยาง อายุ 10 ขวบ เรื่องราวชีวิตตั้งแต่เกิดจนตายไปของเด็กชาย ทำเอาหลินตงหยางกำมือแน่น ก่อนจะสบถออกมา “พ่อสารเลว เฉินซื่อเหม่ยชัดๆ” และตามมาด้วยเสียงร้องไห้ของน้องสาว สาเหตุที่เด็กชายหลินตงหยางเสียชีวิต เพราะถูกผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นย่าแย่งผักป่าและทุบตี ทั้งๆ ที่คนพวกนั้นได้ตัดขาดพับพวกเขาสามแม่ลูกแล้ว แต่ยังมิวายข่มเหงรังแก

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
เล่ห์เสน่หาพญามาร
1

บทที่ 1 ตอนที่ 1

25/02/2022

2

บทที่ 2 ตอนที่ 2

25/02/2022

3

บทที่ 3 ตอนที่ 3

25/02/2022

4

บทที่ 4 ตอนที่ 4

25/02/2022

5

บทที่ 5 ตอนที่ 5

25/02/2022

6

บทที่ 6 ตอนที่ 6

25/02/2022

7

บทที่ 7 ตอนที่ 7

25/02/2022

8

บทที่ 8 ตอนที่ 8

25/02/2022

9

บทที่ 9 ตอนที่ 9

25/02/2022

10

บทที่ 10 ตอนที่ 10

25/02/2022

11

บทที่ 11 ตอนที่ 11

02/06/2022

12

บทที่ 12 ตอนที่ 12

02/06/2022

13

บทที่ 13 ตอนที่ 13

02/06/2022

14

บทที่ 14 ตอนที่ 14

02/06/2022

15

บทที่ 15 ตอนที่ 15

02/06/2022

16

บทที่ 16 ตอนที่ 16

02/06/2022

17

บทที่ 17 ตอนที่ 17

02/06/2022

18

บทที่ 18 ตอนที่ 18

02/06/2022

19

บทที่ 19 ตอนที่ 19

02/06/2022

20

บทที่ 20 ตอนที่ 20

02/06/2022

21

บทที่ 21 ตอนที่ 21

02/06/2022

22

บทที่ 22 ตอนที่ 22

02/06/2022

23

บทที่ 23 ตอนที่ 23

02/06/2022

24

บทที่ 24 ตอนที่ 24

02/06/2022

25

บทที่ 25 ตอนที่ 25

02/06/2022

26

บทที่ 26 ตอนที่ 26

02/06/2022

27

บทที่ 27 ตอนที่ 27

02/06/2022

28

บทที่ 28 ตอนที่ 28

02/06/2022

29

บทที่ 29 ตอนที่ 29

02/06/2022

30

บทที่ 30 ตอนที่ 30

02/06/2022

31

บทที่ 31 ตอนที่ 31

02/06/2022

32

บทที่ 32 ตอนที่ 32

02/06/2022

33

บทที่ 33 ตอนที่ 33

02/06/2022

34

บทที่ 34 ตอนที่ 34

02/06/2022

35

บทที่ 35 ตอนที่ 35

02/06/2022

36

บทที่ 36 ตอนที่ 36

02/06/2022

37

บทที่ 37 ตอนที่ 37

02/06/2022

38

บทที่ 38 ตอนที่ 38

02/06/2022

39

บทที่ 39 ตอนที่ 39

02/06/2022

40

บทที่ 40 ตอนที่ 40

02/06/2022