ฝนโปรยในสายหมอก

ฝนโปรยในสายหมอก

56040789

5.0
ความคิดเห็น
68.5K
ชม
74
บท

“ฮือออ” เด็กน้อยแสงเหนือยิ่งส่งเสียงร้องไห้ ใบหน้าน่ารักที่ซบอยู่บนทรวงอกอิ่มนั้นแหงนขึ้นมองหน้าแม่ แล้วหันไปมองห้างสรรพสินค้า “สุดหล่อของแม่เงียบได้แล้วนะครับ” น้ำตาของลูกทำให้ม่านฝนหัวใจแตกสลายร้าวราน เธอหายใจเบาๆ ผ่อนออกมาช้าๆ แล้วก้มลงจูบหัวของแก “แม่ครับ เหนืออยากได้เกมนินเทนโดครับ” เด็กน้อยไม่ยอมฟังคำปลอบขวัญ ยิ่งสะอื้นไห้ปนคำพูดเมื่อแหงนหน้ามองแม่ “ถึงบ้านแล้ว เดี๋ยวแม่ซื้อหุ่นไอ้มดแดงให้นะครับ” ม่านฝนกลั้นน้ำตาไว้จนขอบตาแดงช้ำ เธอก้มลงหน้าผากชนหน้าผากของลูก กระซิบเสียงสั่นเครือชิดปลายจมูกโด่งคมเหมือนพ่อของแก “จริงนะครับ” คำพูดของแม่ทำให้เด็กน้อยหยุดร้องไห้ แต่ใบหน้ายังซบอกของแม่อยู่ แขนข้างหนึ่งก็กอดเอวคอดแม่ไว้แน่น อีกข้างก็กอดเจ้าตุ๊กตาเสือเน่าไว้แน่นเช่นกัน “จริงสิครับ” ม่านฝนรับปากลูกได้ เพราะเธอเห็นร้านค้าในหมู่บ้านมีของเล่นขายราคาไม่ถึงร้อยบาท ซึ่งพอซื้อให้ลูกได้ “แม่ครับ เหนือจะเอาสองตัวนะครับ ที่ร้านยายสายมีอุลตร้าแมนขายด้วยครับ” เด็กน้อยพูดอ้อนแม่ปนเสียงหายใจยาวๆ ยามสะอื้นไห้ “ถ้าเหนือหยุดร้อง แม่จะซื้ออมยิ้มให้เหนืออีกสองอันเลยเอาไหมครับ” ดวงหน้าหล่อแม้แววตาดวงเข้มก็คล้ายคลึงผู้ชายที่ทำให้หัวใจของเธอเป็นแผลเหวอะ ม่านฝนก้มลงจูบดวงตาคู่นั้นด้วยความรักและขมขื่น “อึกกก เหนือหยุดร้องไห้แล้วครับ” แสงเหนือเกาะลำคอของแม่กระชับแน่นพร้อมทั้งยิ้มยิงฟัน จนคุณแม่อดใจไม่ไหวจูบหอมฟันน้ำนมของแก “เป็นผู้ชายห้ามร้องงอแงนะครับ อายคนอื่นเขารู้ไหม” เมื่อลูกน้อยยังส่งเสียงสะอึก ม่านฝนก็กระซิบเสียงเบาบอกให้ลูกมองคนรอบข้างในรถ “เหนืออยากถึงบ้านเร็วๆ จังครับ เหนืออยากได้ของเล่นครับ” เด็กน้อยอายจนพวงแก้มย้วยแดงเป็นลูกมะเขือเทศ เมื่อได้หันหลังไปมองสายตาหลายคู่ที่จับจ้องอยู่

บทที่ 1 chapter1

บทนำ

คุณแม่เลี้ยงเดี่ยว

ณ...ห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง มีหลายสายตาผู้คนที่เดินผ่านไปมาต่างพากันจับจ้องเด็กชายตัวน้อยวัยสามขวบ ซึ่งเด็กคนนั้นนั่งคุกเข่า มือสองข้างเกาะกระจกหน้าร้าน ดวงตามีน้ำคลอเบ้าอยู่ตลอดเวลาจนพร่ามัว ต้องยกมือขึ้นเช็ดน้ำใสๆ ออก เพื่อจะได้มองเห็นของเล่นที่ตัวเองอยากได้

“เหนือลูกแม่ มองอะไรอยู่คะ?”

‘ม่านฝน บุญรักษา’ คุณแม่เลี้ยงเดี่ยววัยยี่สิบสี่ปี เธอหยุด

ชะงัก ก้าวขาไม่ออกเมื่อเห็นลูกนั่งเหมือนเด็กขอทานมองของเล่นในร้าน ซึ่งหญิงสาวรู้ว่าลูกอยากได้ของเล่นชิ้นนั้นมากแค่ไหน

“แม่ครับ”

‘แสงเหนือ บุญรักษา’ เด็กชายวัยเพียงสามขวบ หน้าตาหล่อเหลาเหมือนผู้ให้กำเนิดแน่ ถ้าโตเป็นหนุ่ม ขานรับแต่ไม่ยอมลุกและหันไปมองแม่ ซึ่งเด็กน้อยรู้ว่าแม่ไม่อยากพาเดินผ่านหน้าร้านขายของเล่นร้านนี้สักเท่าไร

“ไป กลับบ้านกันครับ”

ม่านฝนกะพริบตาไม่ให้น้ำตาไหล รู้สึกสะเทือนใจ หายใจไม่ออกเมื่อเห็นแววตาเศร้าของหนูน้อยอยากได้ของเล่นชิ้นนั้น ทำให้หญิงสาวต้องรีบเข้าไปหา แต่เธอไม่ยอมมองของในร้านซึ่งมันราคาแพงมากจนไม่อาจหาเงินมาซื้อให้ลูกได้

“แม่ครับ” เมื่อเห็นแม่เดินเข้ามา เด็กน้อยก็รีบลุก แล้วเงยหน้าที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตาขึ้น ยิ้มยิงฟันจนเห็นฟันน้ำนมเต็มปาก ก่อนจับมือแม่แล้วพาเดินเข้าไปในร้ายขายของเล่น เพราะอยากได้ของเล่นชิ้นนั้นมาหลายเดือนแล้ว

“ครับ?” คุณแม่แกล้งทำเป็นไม่รู้ว่าลูกต้องการอะไร เธอฉุดลูกไว้ แล้วนั่งยองๆ จับมือลูกมาหอม แล้วยิ้มหวานให้ด้วยหัวใจร้าวราน

“เหนืออยากได้หุ่นยนต์กับเครื่องเล่นเกมนินเทนโดครับ คุณแม่ซื้อให้เหนือนะครับ” เด็กน้อยถูกคุณแม่อุ้มให้นั่งบนหัวเข่า แล้วใช้แขนข้างหนึ่งโอบลำคอระหงของแม่ไว้

“ให้เงินเดือนแม่ออกก่อนนะครับ ค่อยซื้อ” ม่านฝนไม่ยอมมองตามสายตาของลูกที่จ้องกล่องขนาดใหญ่ในนั้นมีเกมนินเทนโด 3DS รุ่นใหม่ ราคาบ่งบอกว่าแพงมาก ถ้าซื้อรวมกับหุ่นยนต์คงไม่เหลือเงินจ่ายค่าห้องพักแน่ เธอจึงดึงลูกเข้ามากอดแล้วกระซิบเสียงสั่นเครือชิดแก้มของลูก

“แต่แม่สัญญาว่าจะซื้อให้เหนือวันนี้นี่ครับ ฮือออ” เด็กน้อยอยากได้ของเล่นจนใจแทบขาด พูดตัดพ้อคุณแม่พร้อมทั้งส่งเสียงร้องไห้โฮ

“เหนือ...ไม่ร้องนะครับ ตอนนี้ แม่ยังไม่มีเงินพอที่จะซื้อของเล่นให้ลูก เหนือเข้าใจใช่ไหมครับ” ม่านฝนหัวใจฉีกขาดเมื่อต้องพูดผลัดวันไปเรื่อยๆ เธอพูดเสียงสั่นเครือเช็ดน้ำตาให้ลูกด้วยเรียวปากอิ่ม

“แม่ครับ เหนืออยากได้ ฮือออ”

แสงเหนือร้องไห้สะอึกสะอื้น เมื่อแม่ชวนกลับบ้าน แต่เด็กน้อยก็เดินตามรอยเท้าของแม่พร้อมทั้งหันหลังกลับมามองของเล่นที่ตัวเองอยากได้แทบใจสลาย

อีกด้านหนึ่งของร้านขายของเล่น ก็มีหญิงชายคู่หนึ่งยืนมองของเล่นผ่านกระจกหน้าร้าน เสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นของเด็กชายตัวป้อมกอดตุ๊กตาเสือเดินตามแม่ผ่านเขาไป ทำให้ชายหนุ่มเอียงหน้ามองเล็กน้อย

“ฝ ฝน!” ชายหนุ่มชะงักต้องหันกลับไปจ้องเขม็งสองแม่ลูกอีกครั้ง

นี่เขาไม่ได้ตาฝาดไปใช่ไหม นั่นม่านฝนนี่ ใช่ เป็นเธอแน่ๆ และนั่นคงจะเป็นลูกชายของเธอที่เกิดจากพี่ชายต่างสายเลือดสินะ

‘แสงหมอก ธิติการณ์’ ชายหนุ่มวัยสามสิบเจ็ดปี สีหน้าเคร่งเครียดเมื่อนึกถึงอดีตอันแสนขมขื่นและบัดซบที่สุด ชายหนุ่มไม่ยอมละสายตาเจ็บปวดมองผู้หญิงคนนั่นเดินห่างไกลจนสุดสายตา

“พี่หมอกคะ เราเข้าไปดูของเล่นข้างในไหมคะ” ชุติมาเอ่ยชวน แต่เมื่อไม่มีคำตอบจากเขา เธอจึงหันมามองสามี ซึ่งชายหนุ่มเอาแต่จ้องไปทางบันไดเลื่อน

“เมื่อกี้ ชุว่าอะไรนะ” แขนกำยำถูกฉุดอย่างแรงทำให้แสงหมอกตื่นจากภวังค์ เขาลูบหน้าชาหนึบแล้วหันกลับมามองภรรยา

“เป็นอะไรหรือเปล่าคะ ทำไมทำหน้าแบบนั้นคะ?” ชุติมาละสายตาจากผู้คนตรงบันไดเลื่อนมามองหน้าสามีอย่างสงสัย

“ปละ เปล่าครับ” แสงหมอกปรับสีหน้าให้เป็นปกติ แล้วจับบ่านุ่ม ดันให้ภรรยาเดินนำหน้าเข้าไปในร้านขายของเล่น แต่สายตาสงสัยก็ยังหันไปมองบันไดเลื่อนหาสองแม่ลูกนั่น

“เมื่อกี้นี้ พี่หมอกมองอะไรเหรอคะ” ด้วยความสงสัยทำให้ชุติมาถามสามีทั้งที่ยังเดินนำหน้าเขาไปเลือกของเล่นไปพลาง

“มองคนรู้จัก แต่พี่คิดว่าคงตาฝาดน่ะ ชุอย่าสนใจเลย”

แสงหมอกบ่ายเบี่ยงจะตอบภรรยา โดยการเดินไปยืนมองกล่องนินเทนโด แล้วแปลกใจที่ตนเองรู้สึกอยากซื้อของชิ้นนี้เก็บไว้เหลือเกิน

“พี่หมอกจะซื้อของเล่นไปให้ใครเหรอคะ” ชุติมาเห็นสามีหยิบหุ่นยนต์ เธอจึงเอาหุ่นยนต์ในมือของสามีมาใส่ตะกร้าไว้

“พี่อยากซื้อของเล่นไปทำบุญที่บ้านเด็กกำพร้าน่ะ”

แสงหมอกก็ไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมถึงอยากทำบุญขึ้นมาทันที หลังจากได้เห็นเด็กน้อยคนนั้นร้องไห้วิ่งตามแม่ไปเมื่อครู่นี้ ซึ่งเป็นภาพที่ทำให้ชายหนุ่มร้าวราน จุกหน้าอกจนหายใจไม่ทั่วท้อง

“ทำบุญด้วยของเล่นแพงๆ เนี่ยนะคะ” ชุติมามองหน้าสามีอย่างสงสัย

“ช่วยพี่เลือกของเล่นพวกนี้หน่อยสิ หนังสือการ์ตูนก็ดีนะ” แสงหมอกจูงมือภรรยาเดินไปตามช่องทางเล็กๆ สายตาก็มองของเล่นหลายชิ้น

“พี่หมอกคะ อย่าบอกนะว่าจะซื้อหุ่นยนต์กับเครื่องเล่นนินเทนโดไปบริจาคเด็กกำพร้า” เมื่อเห็นสามีนั่งยองๆ จับกล่องของเล่น ชุติมาก็ร้องห้ามทันที ถึงเธอจะเป็นพวกไฮโซ แม่ของเธอมีเงินเป็นสิบๆ ล้าน แต่ด้วยนิสัยเห็นแก่ตัวและคิดถึงแต่ตัวเองทำให้ชุติมาไม่อยากบริจาคของดีๆ แพงๆ ให้เด็กด้อยโอกาส

“ไม่หรอก ของชิ้นนี้ พี่ดูไว้ก่อน ว่าจะซื้อไปฝากลูกของเพื่อนนะ”

แสงหมอกมองกล่องนินเทนโดแล้วนึกถึงใบหน้าน่ารักที่นองน้ำตาของเจ้าเด็กน้อยคนนั้น ทำไมเขารู้สึกเจ็บจี๊ดที่ขั้วหัวใจขึ้นมาทันที และไม่อยากจะซื้อของสองชิ้นนี้ไปให้ใครเลย ซึ่งในห้วงลึกของหัวใจ ชายหนุ่มกลับอยากจะซื้อของสองชิ้นนี้แล้ววิ่งตามสองแม่ลูกไป และเอาของเล่นให้เด็กน้อยนั่นด้วยซ้ำ

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ 56040789

ข้อมูลเพิ่มเติม
หัวใจร้าว(รัก)ในวันวาน

หัวใจร้าว(รัก)ในวันวาน

โรแมนติก

4.1

“ความรักของเรามันจบลงตั้งแต่พี่คิดนอกใจหนู เราสองคนกลับไปรักกันเหมือนเดิมไม่ได้อีกแล้ว” พัชชาเป็นคนไล่สามีและเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าให้เขา ซึ่งมันขัดกับจิตใจของเธอที่ยังรักและโหยหาไออุ่นและอ้อมกอดของสามี “นั่นเป็นความคิดของเธอ แต่สำหรับพี่ สี่ห้องหัวใจของพี่มันมีแต่เธอ ข้างในนี้มันเต้นบอกรักทุกครั้งเวลาพี่หายใจ” คำพูดของเมียทำให้คนเลวไม่เคยสำนึกโกรธจนลมออกหู เขาเดินเข้าไปกระชากกระเป๋าจากมือน้องมาถือไว้ พร้อมทั้งกัดฟันพูดเสียงดังใส่หน้าน้องว่า “ตลอดสี่ปีที่เราอยู่ด้วยกัน พี่รักเธอคนเดียวไม่เคยทำผิดนอกลู่นอกทาง มีแค่ครั้งนี้ครั้งเดียวที่พี่มะ...” พิสุทธิ์กำลังหาข้ออ้างแก้ตัวว่า ‘พี่มีอะไรกับมุกดาก็จริงแต่มันไม่ใช่ความรัก ที่พี่มีอะไรกับเขาก็เพราะความใคร่และแก้แค้นเขาที่เขาเคยหักหลังพี่’ แต่ชายหนุ่มก็ไม่ทันได้พูดจบประโยคเมื่อมีเสียงของลูกสาวเรียกเขา “คุณพ่อขา” หนูน้อยพิชญาเปิดประตูห้อง แกดีใจมากที่เห็นพ่อ เลยไม่ทันได้สังเกตมองว่าแม่ก็อยู่ในห้องด้วย “พีชลูกพ่อ” เสียงของลูกสาวทำให้พิสุทธิ์หยุดทุกอย่าง เขาปรับสีหน้าเคร่งเครียดให้เป็นปกติแล้วหันไปมอง เขายิ้มกว้างโน้มตัวอ้าแขนจะอุ้มลูกสาว “คุณแม่ คุณแม่กลับมาแล้ว” ทีแรกว่าจะเดินเข้าไปหาคุณพ่อ แต่พอเหลือบตาเห็นคุณแม่ เด็กน้อยพิชญาก็วิ่งเข้าไปหาคุณแม่ “ลูกแม่ แม่คิดถึงหนูมากรู้ไหมคะ” ด้านพัชชาเช็ดน้ำตาออกจากแก้ม แล้วปรับสีหน้าให้เป็นปกติ ยิ้มให้แกเมื่อลูกสาวเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด “ลูกพีชก็คิดถึงคุณแม่ค่ะ” เด็กน้อยพิชญาพูดอ้อนชิดพวงแก้มหอมของแม่ “ชื่นใจเหลือเกินลูกแม่” พัชชาอุ้มลูกสาวให้นั่งบนตัก เธอกอดลูกไว้ด้วยความรัก จูบหัวและดวงตาของแกเวลาลูกแหงนหน้ามองสบตากัน “คุณยายบอกว่าน้องไปอยู่บนสวรรค์แล้ว จริงเหรอคะ” เด็กน้อยพิชญาหน้าเศร้าหมอง ดวงตากลมแบ๊วคลอเบ้ามองเสื้อผ้าของน้อง “ชะ...ใช่ค่ะ” คำถามของลูกสาวทำให้พัชชาหายใจไม่ออก เธอฝืนยิ้มทั้งที่หัวใจช้ำเลือดช้ำหนองปลอบขวัญลูกสาวโดยการจูบดวงตาของแก “ลูกพีชคิดถึงน้องจังค่ะ” เด็กน้อยพิชญานั่งคร่อมกอดคอแม่ไว้ด้วยแขนข้างเดียว ส่วนอีกข้างก็ลูบท้องของแม่ เพื่อจะได้สัมผัสน้อง แต่ไม่มีน้องอยู่ในท้องของแม่อีกต่อไปแล้ว “แม่ก็คิดถึงน้องเหมือนกันค่ะ” พัชชาพยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหล เธอกำลังจะตายเมื่อก้มมองมือของลูกสาวที่ลูบหาน้องในท้อง “คุณแม่ขา ลูกพีชขอตุ๊กตาไดโนเสาร์ของน้องได้ไหมคะ” เด็กน้อยขยับไปนั่งขาแบะบนพื้น จับของเล่นของน้องมากอด

ตะวันส่องจันทร์

ตะวันส่องจันทร์

โรแมนติก

5.0

“กลับไปตอนนี้ก็ยังทันอยู่นะครับ ถ้าขืนคุณฉายช้ากว่านี้ คุณอาจจะเสียใจไปตลอดชีวิตเพราะอาจจะไม่มีโอกาสได้เจอหน้าคุณจันทร์อีกเลยก็ได้นะครับ” เสียงของกาวินทำให้ตะวันฉายเดินหนีไปยืนตรงตู้โชว์ แววตาสีเข้มหวั่นไหวเหมือนหัวใจของตัวเองที่เต้นอย่างแรง มองมือของตัวเองที่กำลังลูบสัมผัสใบหน้างามของน้องในกรอบรูปที่ตั้งอยู่บนโต๊ะโชว์ ‘ใช่! นายพูดถูก ฉันกลับไปหาจันทร์ตอนนี้ยังทัน เพราะฉันรู้ว่าจันทร์กำลังรอฉันให้ไปปลอบขวัญเธอ’ ตะวันฉายตอบคำถามลูกน้องในใจ “ไปหาคุณจันทร์เถอะครับ อย่าฝืนหัวใจของตัวเองเลย” กาวินอยากให้เจ้านายไปหาจันทร์ฉัตรก่อนที่ชายหนุ่มจะกลับไปใช้ชีวิตใหม่ที่ต่างประเทศอย่างถาวร “พี่รักเธอเพียงคนเดียวนะจันทร์ฉัตร...พี่รักเธอ อยากกอด อยากหอม อยากใช้ชีวิตร่วมกับเธอ” คำพูดของกาวินทำให้ตะวันฉายพูดเสียงสั่นอยู่ในลำคอตีบตัน ดวงตาสีเข้มกักกลั้นน้ำตาแห่งความร้าวรานไม่ให้ไหลจนแดงก่ำ เขาไม่อาจทนมองรอยยิ้มสดใสของน้องที่อยู่ในรูปได้จึงเดินหนีไปยืนตรงหน้าต่าง “พี่คิดถึงเธอ ใจพี่จะขาดตายอยู่แล้ว จันทร์” ตะวันฉายกลืนกินเสียงสะอึกลงคอแหบแห้ง จุกและแน่นหน้าอกมากเวลานี้ เขาหันมองไปทางไหนก็มีแต่ความมืดมิด เปรียบเสมือนหัวใจของเขาที่ดำดิ่งมืดบอด มองหาทางออกให้กับตัวเองไม่ได้เลย ตะวันฉายใจร้าวแตกละเอียดเมื่อต้องตัดสินใจที่จะจากน้องไปจริงๆ ทั้งที่ยังรัก…

พันธะหัวใจ(My Heart)

พันธะหัวใจ(My Heart)

โรแมนติก

5.0

“เมื่อไรคุณจะบอกเลิก แล้วหย่ากับเมียคุณสักทีคะ” วีนัส สาววัยสามสิบเอ็ดปี เธอสวยเซ็กซี่ แต่งตัวทันสมัยและเป็นผู้หญิงเก่งในเรื่องทำงาน วีนัสเข้ามาทำงานในตำแหน่งผู้ช่วยผู้อำนวยการแผนกเดียวกับกิตติจึงทำให้เขาและเธอได้รู้จักกัน ให้ความสนิทกันและลงเอยกันแบบหลบๆ ซ่อนๆ “ให้เวลาเจียวสักหน่อยนะ เดี๋ยวผมจะขอเธอหย่าเอง” กิตติที่นอนเปลือยเปล่าหมดแรงเอ่ยขึ้น แขนข้างหนึ่งยกขึ้นก่ายหน้าผาก ส่วนอีกข้างจับมวนบุหรี่ดูดควันสีเทาถูกดูดเข้าปอดแล้วพ่นออกมาอย่างแรงด้วยความเครียดเมื่อนึกถึงวันที่เขาจะต้องไปขอเลิกกับเปาวลี “หรือคุณไม่อยากแต่งงานกับฉันคะ ถึงปล่อยให้ฉันรอนานขนาดนี้” ร่างเปลือยเปล่านอนเกยทับร่างใหญ่โตที่นั่งหลังพิงหัวเตียง วีนัสพูดเสียงน้อยใจจึงทำให้กิตติขยับตัววางมวนบุหรี่ไว้ในถาดเขี่ยบุหรี่ เขาอุ้มร่างบางให้ขึ้นมานั่งทับบนหน้าท้องแววตาเริ่มหื่นก็จับจ้องมองทรวงอกใหญ่โตอย่างหลงใหล “คุณรู้ไหม เวลาผมอยู่กับคุณ...ผมมีความสุขมาก ทุกครั้งที่ผมมีคุณอยู่ข้างกาย มันทำให้ผมเหมือนเป็นตัวของตัวเอง ผมอยากทำอะไรก็ทำได้โดยไม่ต้องคิดมาก ผมสามารถทิ้งทุกอย่างลงบนตัวคุณได้ โดยที่ผมทำกับเจียวไม่ได้เลย คุณรู้ไหม เวลาผมอยู่กับเจียว ผมรู้สึกอึดอัดมากแค่ไหน” กิตติมีความสุขทุกครั้งเมื่อได้อยู่กับวีนัส เธอเป็นผู้หญิงเอาใจเก่งในเรื่องบนเตียง ทุกสิ่งทุกอย่างที่เปาวลีไม่เคยทำให้เขา แต่กับวีนัสทำหน้าที่บนเตียงได้เป็นอย่างดี จนทำให้ชายหนุ่มลุ่มหลงในรสสวาทที่ผู้ชายทุกคนโหยหาจากภรรยาแต่ไม่เคยได้รับ “ก็มาอยู่ด้วยกันที่นี่สิคะ จะกลับไปทำไมลำปางทุกวัน” วีนัสโน้มใบหน้าเข้าหาดวงหน้าหล่อ ริมฝีปากอิ่มเอิบประกบจูบปากหยัก หล่อนไซ้เรียวปากไปตามเนื้อตัว ไล้มาถึงหน้าท้องเป็นลอนแล้วเคลื่อนใบหน้าไปตรงหว่างขาของชายหนุ่ม

เจ้าสาวรอรัก

เจ้าสาวรอรัก

โรแมนติก

5.0

“คนแพ้ท้องแทนเมียก็แบบนี้แหละครับคุณผู้หญิง” สจ๊วตเอ่ยขึ้น พร้อมทั้งยื่นน้ำเปล่าให้กับหญิงสาว ตามด้วยน้ำมะนาวไม่ใส่น้ำตาลให้กับปุริม “แพ้ท้องแทนเมีย!! พี่ปุ๊!!...” อันทิตาหันไปมองสจ๊วตหนุ่ม แล้วหันมามองหน้าปุริมที่ยังทำหน้าตาตกใจเหมือนกัน “แค่ก!!...แค่ก!!...คุณว่าอะไรนะครับ” ปุริมสำลักน้ำมะนาว บ๊วยที่อมอยู่เกือบจะพ่นออกมาจากปาก ชายหนุ่มรีบเช็ดน้ำมะนาวที่ไหลย้อยตามเรียวปากหนา พร้อมทั้งเงยหน้าตื่นตระหนกมองสจ๊วต แล้วหันไปมองอันทิตา “ครับ...คุณผู้ชายคงจะแพ้ท้องแทนคุณผู้หญิงแน่เลยครับ ผมเคยเป็นครับ ตอนเมียผมท้องจะมีอาการแบบคุณผู้ชายนี่แหละครับ ยังไงก็ขอแสดงความยินดีกับคุณทั้งสองด้วยครับ” สจ๊วตเอ่ยบอก แล้วขอตัวไปทำหน้าที่บริการลูกค้าคนอื่นๆ

ซ่อนรักซ่อนรอยแค้น

ซ่อนรักซ่อนรอยแค้น

โรแมนติก

5.0

“เร็วๆ!” ร่างโตยังนั่งเอนกายหลังพิงเบาะโซฟาทำเป็นไม่สนใจร่างน้อยแต่ในใจของเขามันร้อนรุ่มอยากจะสัมผัสผิวนุ่มนิ่มและอยากลงทัณฑ์แม่จอมยั่วเสียตรงกลางห้องเสียเหลือเกิน เรียวหน้าหล่อก้มมองมือของตัวเองที่ยังถือแก้วเหล้าแล้วยกขึ้นจรดริมฝีปากกระดกน้ำเมาจากแก้วพร้อมทั้งเหลือบตาอันแข็งกร้าวดุจหินผามองร่างเมีย “นุ..นุชอยากไปดูลูก” เปรยเสียงสั่นเครือพร้อมทั้งถอดชุดชั้นในไม่กล้าที่จะเงยขึ้นมองชายหนุ่มรู้สึกถึงผิวเปลือยเปล่าร้อนวูบวาวเพราะกระแสเพลิงไฟจากดวงตาของพญายมทูตที่เอาแต่จ้องมองตน ร่างแน่งน้อยสั่นสะท้านใช้มือทั้งสองข้างปกปิดของสงวนเพื่อบันเทาความอับอาย หญิงสาวรีบก้มหน้าหลบสายของชายหนุ่มแล้วก้าวเดินอย่างเชื่องช้าด้วยหัวใจร้าวรานเจ็บจุกเข้าไปหามัจจุราชที่ยังนั่งอยู่เดิม “ทำหน้าที่ของเธอสิ” เขายังนั่งยกเท้าขึ้นพาดโต๊ะรับแขก เรียวปากหนาที่ขยับพูดนั้นยังคาบบุหรี่ดูดเอาควันสีเทาเข้าปอดแล้วพ่นออกทางจมูกและปากในเวลาเดียวกัน เขาช่างไม่ทุกข์ไม่ร้อนกับเสียงร้องไห้ของเด็กน้อยเลยสักนิด

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา

ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา

l3oonm@
5.0

“ท่านผู้อำนวยการคะ ทางทีมสำรวจแจ้งว่าคนไม่เพียงพอที่จะเข้าไปเก็บตัวอย่างพันธุ์พืชในป่าเมืองเหอหนานค่ะ” ซูเจิน ที่ได้ยินก็หูผึ่งทันที เธอนั่งทำการอยู่ในห้องวิจัยตั้งแต่เรียนจบ ถึงตอนนี้ก็สี่ปีได้แล้ว ผู้อำนวยที่เข้ามาตรวจงานวิจัยล่าสุด ก็มองไปรอบห้อง เพื่อดูว่ามีใครต้องการเสนอตัวไปทำงานในครั้งนี้หรือไม่ แต่หลายคนที่เขามองไป ต่างหลบสายตาของเขา จะมีใครอยากออกไปเสี่ยงอันตราย เดินป่าขึ้นเขาให้เหนื่อยสู้นั่งทำงานในห้องปรับอากาศเย็นๆ ดีกว่า เมื่อไม่มีใครคิดจะเสนอตัว เขาจึงได้สอบถามหาผู้ที่สมัครใจทันที “มีใครอยากจะอาสาไปไหม” ไว้กว่าความคิด ซูเจินยกมือขึ้น “ฉันค่ะ” เพื่อนสนิทรีบดึงเสื้อของเธอเพื่อจะห้ามปราม “จะบ้าหรอ เธอไม่เคยไปสักครั้ง ไม่รู้หรือว่างานนี้เสี่ยงแค่ไหน” เสียงกระซิบของเสี่ยวชิง เอ่ยลอดไรฟันออกมา เมื่อปีที่แล้ว ที่ทีมสำรวจเดินทางเข้าไปที่ป่าเหอหนาน พื้นป่าที่ไม่อาจสำรวจได้อย่างทั่วถึง สร้างความท้าทายให้เหล่านักพฤกษศาสตร์จากทุกองค์กร แต่ไม่ว่าจะส่งเข้าไปกี่ครั้งก็ไปไม่ถึงป่าชั้นกลางเสียที แม้จะใช้เทคโนโลยีที่ล้ำหน้าเข้าช่วยเพียงได้ ก็สำรวจได้เพียงป่าชั้นนอก แถมยังพาชีวิตคนไปทิ้งอีกนับไม่ถ้วน ปีนี้ทางองค์กรของซูเจิน หยิบโครงการสำรวจป่าเหอหนานขึ้นมาใหม่ แต่กว่าจะหาทีมสำรวจได้ครบคนก็กินเวลาไปหลายเดือน ถึงตอนนี้คนก็ยังไม่พอจนต้องมาถามหาจากทีมวิจัยให้ช่วยเหลือ “คุณอยากไปจริงหรือ” เขาเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง “ค่ะ ฉันอยากลองทำงานนี้” ซูเจินยิ้มออกมา “ได้ อีกสองวัน คุณก็เตรียมตัวให้พร้อม” เมื่อมีคนเสนอตัวแล้ว ผู้อำนวยการก็ออกไปพบทีมสำรวจ เพื่อวางแผนการทำงาน ทั้งยังให้ซูเจินตามเขาไปเข้ารวมการประชุมในครั้งนี้ด้วย “เธอมันบ้าไปแล้ว” เพื่อร่วมงานต่างเดินเข้ามาหาซูเจิน แล้วตำหนิเธอที่กล้ายกมือเสนอตัว “เอาน่า ไว้กลับมาฉันจะเอาเรื่องสนุกมาเล่าให้พวกเธอฟัง” ซูเจินยิ้มหวานออกมา ก่อนที่จะเก็บของแล้วไปเข้าร่วมประชุมกับทีมสำรวจ สองวันต่อมาซูเจินก็แบกกระเป๋าเดินทางมาที่จุดนัดพบ เธอออกเดินทางด้วยรถตู้ขององค์กร พร้อมทีมสำรวจอีกเกือบยี่สิบชีวิต ยังดีที่เธอได้แบกกระเป๋าเพียงใบเดียว หากต้องแบกเต็นท์นอน อาหารด้วย คงได้เป็นภาระของคนอื่นอย่างแน่นอน ภายในป่าเหอหนาน น่ากลัวว่าที่ซูเจินคิดไว้เยอะ พอตะวันตกดิน หากไม่มีแสงไฟที่ทีมสำรวจนำมาด้วยคงจะมืดจนมองไม่เห็นอะไร เสียงแมลงทั้งสัตว์ป่าร้องตลอดทั้งคืน สร้างความหวาดกลัวให้กับคนที่ไม่เคยเข้าป่าสักครั้งอย่างเธอได้อย่างดี ยังดีที่เจ้าหน้าที่ผู้นำทางติดตามมาด้วยอีกหลายคน พวกเขาจึงได้อยู่ผลัดเปลี่ยนเวรยาม เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์ป่าเข้ามาถึงตัวพวกเขา หลายวันที่อยู่ในป่า ซูเจินเก็บตัวอย่างพันธุ์ได้หลายชนิด แต่ทั้งทีม ยังเดินไม่หลุดป่าชั้นนอกเลย ยังดีที่อาหารที่เตรียมมาเพียงพอให้พวกเขาอยู่ไปได้อีกหลายวัน “เอ๊ะ” เข้าวันที่เจ็ดของการสำรวจป่า ซูเจิน เห็นดอกไม้แปลกตา ที่ขึ้นอยู่ท่ามกลางพงหญ้ารก เธอจึงเดินห่างจากกลุ่มทีมสำรวจเข้าไปดูทันที เพราะไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องอะไรได้ ระยะห่างที่อยู่ไกลจากพวกเขา หากร้องเรียกก็ยังได้ยินอยู่ เธอหยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นมา พร้อมทั้งจดรายละเอียดก่อนที่จะดึงต้นไม้เก็บเข้าถุงเก็บตัวอย่างที่เตรียมมา แต่เมื่อมือของซูเจินสัมผัสไปที่ดอกไม้ เธอก็ต้องตกตะลึง เหมือนมีกระแสไฟวิ่งผ่านปลายนิ้วไปจนทั่วทั้งตัว “โอ๊ยย” เสียงร้องอย่างเจ็บปวดของซูเจิน เรียกความสนใจให้คนทั้งหมดรีบวิ่งมาทางที่เธออยู่ ซูเจินเห็นเพียงแสงสีขาวที่สว่างวาบไปทั่ว แล้วภาพตรงหน้าของเธอก็ดำมืดลง

คุณนายยอมหย่าแล้ว

คุณนายยอมหย่าแล้ว

Calv Momose
4.9

หลังจากแต่งงานกันมาสามปี เวินเหลี่ยงก็ยังไม่เคยได้ความรักจากฟู่เจิ้งแต่อย่างใดเลย เมื่อรักแรกของเขากลับมา สิ่งที่รอเธออยู่คือหนังสือการหย่า "ถ้าฉันมีลูก คุณยังเลือกหย่าไหม?" เธออยากจับโอกาสสุดท้ายนี้ไว้ แต่แล้วมีแต่คำตอบที่เย็นชาว่า "ใช่" เวินเหลี่ยงหลับตาและเลือกที่จะปล่อยมือ ...ต่อมาเธอนอนอยู่บนเตียงคนไข้ด้วยความสิ้นหวังและลงนามในข้อตกลงการหย่า "ฟู่เจิ้ง เราไม่ได้เป็นหนี้กันอีกต่อไปแล้ว..." ชายที่มีความเด็ดขาดและเย็นชามาโดยตลอดนอนอยู่ข้างเตียงขอร้องให้อีกฝ่ายกลับมาด้วยเสียงแผ่วเบา "เหลียง ได้โปรดอย่าหย่าได้ไหม?"

ความรักเป็นพิษ

ความรักเป็นพิษ

Rascal
5.0

เจียนเยว่ใช้ชีวิตอย่างยากลำบากจนกระทั่งพบอาของเธอ แต่เธอก็ตกหลุมรักอาของเธออย่างควบคุมตัวเองไม่ได้ น่าเสียดายที่อาคนนั้นกำลังจะแต่งงาน เลยจัดให้เธอไปต่างประเทศ เพื่อแก้แค้น เธอจึงเรียนวิชาบุรุษวิทยาและหลังจากกลับมาอีกครั้ง เธอก็กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านบุรุษวิทยาที่มีชื่อเสียงที่สุด เชี่ยวชาญการรักษาภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ การหลั่งเร็ว ภาวะมีบุตรยาก... คราวนี้คุณอาดันเธอไว้ในห้องนอน "ถ้าอยากดูร่างกายของผู้ชายมาก ก็ช่วยตรวจให้ผมหน่อยสิ" เธอยิ้มอย่างชั่วร้าย และใช้มือปลดเข็มขัดของเขา "มิน่าเล่าขนาดอามีคู่หมั้นแล้ว แต่กลับไม่แต่งงานสักที ที่แท้มันใช้งานไม่ได้สินะ" "จะได้หรือไม่ได้ คุณก็ลองดูเองสิ" "ไม่เลย อาไปหาคนอื่นช่วยดูให้เถอะ"

ฉันไม่มีทางยอมแพ้

ฉันไม่มีทางยอมแพ้

Tann Aronson
5.0

เมื่อเธออายุยี่สิบ ชิงฉือได้รู้ว่าตนเองไม่ใช่ลูกโดยกำเนิดของตระกูลต้วน เธอถูกลูกสาวที่แท้จริงของตระกูลต้วนล้อมกรอบ จนถูกพ่อแม่บุญธรรมไล่ออกจากบ้านและกลายเป็นตัวตลกในเมือง เมื่อเธอกลับไปหาพ่อแม่ชาวนา จากนั้นก็พบว่าบิดาผู้ให้กำเนิดของเธอเป็นคนที่รวยที่สุดในเมืองเจียงเฉิงส่วนพี่ชายของตนเองเป็นอัจฉริยะในแวดวงต่างๆ ทุกคนมองดูเด็กสาวตัวเล็กคนนี้ด้วยความเห็นใจและถือว่าเธอเป็นสมบัติล้ำค่า แต่ค่อยๆ พบว่า... ที่แท้ว่าน้องสาวเป็นคนมากความสามารถ? อดีตแฟนหนุ่มผู้น่ารังเกียจหัวเราะเยาะ "อย่ามาตามเซ้าซี้ไม่เลิก ฉันมีแต่เมียนเมียนอยู่ในใจ!" คนใหญ่แห่งเมืองหลวงปรากฏตัว "เมียฉันจะเห็นหัวนายเหรอ?"

ท่านแม่ทัพข้าคือศรีภรรยา NC25+

ท่านแม่ทัพข้าคือศรีภรรยา NC25+

ซีไซต์
5.0

องค์หญิงสิบสามนามหลินฮุ่ยหมินสตรีผู้ที่งดงามโดดเด่นไม่เป็นรองผู้ใดแต่กลับมีฐานะต่ำต้อยในวังหลวงด้วยพระมารดาเสียชีวิตตั้งแต่นางยังเด็ก ท่ามกลางความคับแค้นใจนางยังต้องคำสาปร้ายต้องกลายร่างเป็นสัตว์ทุกคืนวันพระจันทร์เต็มดวง เขาคือ หยางเอ้อหลาง แม่ทัพหนุ่มผู้มีความสามารถรูปโฉมสง่างามและเป็นวีรบุรุษคนสุดท้ายของสกุลหยาง ทั้งยังเป็นที่รักเคารพของชาวเมือง ทว่าด้วยความสามารถและตำแหน่งใหญ่โต ฮ่องเต้มิอาจวางใจจึงได้คิดกำจัดเขาให้พ้นตำแหน่งเสีย โดยมอบสมรสพระราชทานให้หยางเอ้อหลางกับพระธิดาของตน เดิมทีชีวิตของคนสองคนย่อมไม่บรรจบ เมื่อสตรีที่หมายหมั้นกับหยางเอ้อหลางคือองค์หญิงใหญ่ที่ปักใจรักเขาตั้งแต่เยาว์วัย ทว่าเรื่องไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อคนทั้งคู่เกิดอุบัติเหตุจนคนเข้าพิธีสมรสกลายเป็นองค์หญิงสิบสาม ท่ามกลางความหวาดกลัวขององค์หญิงสิบสามที่กลัวความลับจะเปิดเผย ท่ามกลางหยางเอ้อหลางที่พยายามพาสกุลหยางให้รอดพ้น ท่ามกลางการแตกหักของความสัมพันธ์พี่น้องที่แสนรักใคร่ระหว่างองค์หญิงใหญ่และองค์หญิงสิบสามเพราะบุรุษเพียงผู้เดียว หลินฮุ่ยหมินจะทำเช่นใด เพื่อจะยุติเรื่องราวน่าเวียนหัวนี้

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
ฝนโปรยในสายหมอก
1

บทที่ 1 chapter1

25/02/2022

2

บทที่ 2 chapter2

25/02/2022

3

บทที่ 3 chapter3

25/02/2022

4

บทที่ 4 chapter4

25/02/2022

5

บทที่ 5 chapter5

25/02/2022

6

บทที่ 6 chapter6

25/02/2022

7

บทที่ 7 chapter7

25/02/2022

8

บทที่ 8 chapter9

25/02/2022

9

บทที่ 9 chapter10

25/02/2022

10

บทที่ 10 chapter11

25/02/2022

11

บทที่ 11 chapter12

25/02/2022

12

บทที่ 12 chapter13

25/02/2022

13

บทที่ 13 chapter14

25/02/2022

14

บทที่ 14 chapter15

25/02/2022

15

บทที่ 15 chapter16

26/02/2022

16

บทที่ 16 chapter17

26/02/2022

17

บทที่ 17 chapter18

26/02/2022

18

บทที่ 18 chapter19

26/02/2022

19

บทที่ 19 chapter20

26/02/2022

20

บทที่ 20 chapter21

26/02/2022

21

บทที่ 21 chapter22

26/02/2022

22

บทที่ 22 chapter23

26/02/2022

23

บทที่ 23 chapter24

26/02/2022

24

บทที่ 24 chapter25

26/02/2022

25

บทที่ 25 chapter26

26/02/2022

26

บทที่ 26 chapter27

26/02/2022

27

บทที่ 27 chapter28

26/02/2022

28

บทที่ 28 chapter29

26/02/2022

29

บทที่ 29 chapter30

26/02/2022

30

บทที่ 30 chapter31

26/02/2022

31

บทที่ 31 chapter32

26/02/2022

32

บทที่ 32 chapter33

26/02/2022

33

บทที่ 33 chapter34

26/02/2022

34

บทที่ 34 chapter35

26/02/2022

35

บทที่ 35 chapter36

26/02/2022

36

บทที่ 36 chapter37

26/02/2022

37

บทที่ 37 chapter38

26/02/2022

38

บทที่ 38 chapter39

26/02/2022

39

บทที่ 39 chapter40

26/02/2022

40

บทที่ 40 chapter41

26/02/2022