icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
สาวน้อยหัวใจไต่รัก

สาวน้อยหัวใจไต่รัก

ปูริดา

5.0
ความคิดเห็น
18.3K
ชม
72
บท

“คิดอะไรไม่ดีอยู่แน่ๆ เลยเรา” “เปล่านะคะ เพียงแค่...” หญิงสาวเบี่ยงกายเล็กน้อย สองแขนกลมกลึงยกขึ้นโอบรอบบ่ากว้าง ช้อนสายตากลมโตพลางกระพือปีกบินราวกับผีเสื้อโบยบิน นิ้วยาวยกขึ้นทาบบนกลีบปากหนา คลี่กลีบปากแย้มยิ้มหวานฉ่ำเชื่อม “ถ้าพ่อเมฆหรือแม่ข้าวมาเห็นเราสองคนในสภาพอย่างนี้...” กันต์กนิษฐ์บดเบียดเรือนร่างนุ่มนิ่มกับความแข็งแกร่ง ยั่วยวนป่วนอารมณ์โดโนแวนให้ลุกพรึบจนยากระงับความต้องการส่วนลึกเอาไว้ “หยุดเลยยายตัวแสบ ทำอย่างนี้ได้ยังไงกันฮึ เราเป็นผู้หญิงนะ ใครรู้เข้าจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน” “เราเป็นคู่หมั้นกันแล้วนี่คะ แค่จูบกันนิดหน่อยไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย ยังไงก็ไม่สึกไม่หรอ เอ๊ะ...หรือคุณป๋าถือว่าได้เจาะไข่แดงกระถินแล้วจะไม่รับผิดชอบ กระถินไม่ยอมน่ะ จะฟ้องแม่ข้าวและพ่อเมฆให้ตีจนหัวแบะเลย” “เฮ้ย!” โดโนแวนถึงกับมึนงงราวกับถูกตีที่ทัดดอกไม้ กลอกนัยน์ตาไปมา “คุณป๋าไปทำอย่างนั้นกับเราตั้งแต่เมื่อไหร่ อย่ามาตู่นะยายตัวยุ่ง” กันต์กนิษฐ์เคาะนิ้วกับข้างแก้ม เบ้ปากไปมาพลางเลิกคิ้วเหมือนคิดหาคำตอบที่โดโนแวนหาข้ออ้างหลีกหนีไม่ได้ ก่อนคลี่ยิ้มนัยน์ตาวาวใส “เมื่อคืนไงคะ เราจูบกัน มีพยานเห็นเยอะแยะเลย” “พยาน!” คิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน นึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก เมื่อคืนมีใครเสียที่ไหนกัน “ที่ไหนกันฮึยายตัวแสบ เรานี่นะ...ฉลาดแกมโกงจริงๆ ยั่วจนคุณป๋าเผลอสะดุดเท้าตัวเองชนกับปากยายเด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมต่างหากล่ะ”

บทที่ 1 ตอนที่ 1

ตอนที่ 1

“อะไรนะ! มันมาอีกแล้ว”

เสียงเข้มดุดังลอยตามลมมาทำให้ดรุณีน้อยวัยแรกรุ่นที่เดินหลังค้อม พร้อมย่อเข่าลงให้เตี้ยที่สุดและยังจรดปลายเท้าลงบนพื้นสนามหญ้าอย่างที่คิดว่าเบาที่สุดเพื่อไม่ให้ถูกจับได้หยุดชะงัก

เสียงของพ่อดูเหมือนจะอารมณ์ไม่ดีเอามาก ๆ เลย...เกิดอะไรขึ้น คิ้วโค้งได้รูปขมวดเข้าหากันด้วยความสงสัย

เรื่องที่ทำให้พ่ออารมณ์เสียมีอยู่ไม่มาก หนึ่งในจำนวนนั้นก็คือเรื่องของ...

หญิงสาวคลี่ยิ้มเมื่อคิดได้ แต่ถ้าจะให้มั่นใจก็ต้องคอยฟังอีกครั้ง ใช่เรื่องที่เธอคิดอยู่หรือเปล่า และไม่ได้คิดเข้าข้างตนเองมากจนหูฝาดไป

“มันมาทำไมอีก เพิ่งกลับไปไม่ใช่หรือไง ไอ้หน้าหอกหักนั่นน่ะ”

เสียงที่แว่วดังลอยตามกระแสลมมาอีกครั้ง ทำให้ดรุณีน้อยดีใจจนยิ้มกว้างเกือบถึงใบหู นัยน์ตากลมโตพร่างพราวระยับ ด้วยรู้ดีว่าไอ้เจ้าหน้าหอกหักที่บิดากล่าวถึงเป็นชายที่เธอพร่ำเพ้อคิดถึงอยู่ทุกขณะจิตจนเผลอร้องออกมาว่า...

“ไชโย!”

ดรุณีน้อยนามกันต์กนิษฐ์ หรือสมญานามว่ากระถินที่ถูกผู้เป็นบิดาเรียกเมื่อยามรัก แต่เมื่อไหร่ที่เกิดหงุดหงิดไม่สบอารมณ์ก็จะกลายเป็นกระถินริมรั้วไปเสีย แทบกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ แต่ต้องเก็บระงับอาการดีใจจนเนื้อเต้นเอาไว้ รีบมองหาที่ซ่อน เพื่อฟังการสนทนาของคู่สามีภรรยาที่หวานจนลืมวัยและไม่กลัวมดจะขึ้น ด้วยความอยากรู้ที่แทรกซึมไปทุกอณูเนื้อ

ร่างโปร่งบางที่วันนี้สวมใส่เสื้อเชิ้ตแขนสั้น พับชายแขนเลยศอกมาเกือบถึงบ่า จับเสื้อที่ต้นแขนดึงมาพักไว้บนลาดไหล่กว้าง สวมกางเกงยีนขาสั้นอวดลำขาเสลาเรียวยาว จบที่รองเท้าผ้าใบคู่เก่งสีซีดจางจนแทบมองไม่ออกแล้วว่าเป็นสีอะไร ด้วยชุดที่สวมใส่อยู่นั้น...

บิดาไม่ชอบใจอย่างแรง จมูกโด่งยู่ย่น ใบหน้าเรียวรูปไข่มีแววเหนื่อยหน่าย ศีรษะทุยสะบัดแรงๆ กลีบปากอิ่มสีชมพูอ่อนเบะออกพลางขมุบขมิบ

‘ไม่เข้าใจเลยจริงๆ ทำไมสองสามปีมานี้พ่อถึงได้แสดงอาการไม่ชอบขี้หน้าเขม่นคุณป๋าเคนสุดหล่อของเธอนัก ไม่แค่เขม่นแต่ยังชอบพูดจากระแนะกระแหนอีกด้วย ได้ยินแล้วหงุดหงิดรำคาญใจจะแย่’

“โธ่...พี่เมฆ จะเขม่นเคนไปถึงไหนกันคะ”

เสียงหวานใสของหญิงอีกคนที่อยู่ในห้องโต้กลับ ดึงความสนใจของดรุณีน้อยให้รีบจรดปลายเท้าไปใกล้หน้าต่าง เธอจับหมวกมีปีกที่ใช้เก็บเส้นผมหนาดกดำและยาวสลวยไม่ให้ร่วงหล่นลงมาคลอเคลียลำคอระหง ขณะมองสองคนที่นั่งสนทนากันในห้องรับแขกด้วยหัวใจที่เต้นแรง รอยยิ้มเกลื่อนใบหน้า

ตอนแรกเธอเสียใจแทบแย่ เมื่อรู้ข่าวว่าคุณป๋า...โดโนแวนมาแล้ว แต่อ้างว่ามีงานด่วนต้องรีบกลับในทันที จนคลาดกับเธอซึ่งกำลังเดินทางกลับมาเพียงแค่...ไม่ถึงชั่วโมง มันทำให้เธอหงุดหงิดเพราะคิดว่าปิดเทอมคราวนี้จะไม่ได้พบเจอกับชายหนุ่มอีกเหมือนเคย เฮ้อ! เศร้าใจชะมัดเลย

ใบหน้าผุดผ่องพรรณหมองเศร้าเล็กน้อย...นี่ก็อีกคน ไม่รู้เป็นอะไรนักหนา ตอนเธอไปเรียนก็มาบ่อยมาก เรียกได้ว่าแทบจะทุกอาทิตย์เลย แต่พอเธอปิดเทอม ไม่เคยมาให้เห็นหน้า ชอบอ้างว่าติดงาน ยุ่งจนปลีกตัวไปไหนไม่ได้ แต่กลับมีข่าวควงสาวไปกินข้าวได้ไม่เว้นแต่ละวัน คอยดูนะ เจอตัวเมื่อไหร่ เธอจะจัดการขั้นเด็ดขาดเลย นัยน์ตากันต์กนิษฐ์วามวาวเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น

‘หนีได้หนีไปนะคุณป๋าเคนจ๋า เดี๋ยวหนูกระถินเจอตัวเมื่อไหร่ จะจัดแผนการขั้นสุดยอดให้เลยค่ะ เชื่อว่าคุณป๋าเคนจะต้องเข่าอ่อน หนีไปไหนไม่รอดแน่นอน’

กันต์กนิษฐ์หมายมั่นปั้นมือ ถ้าไม่รุก เห็นทีจะไม่ได้โดโนแวนมาครอบครองเป็นแน่แท้ เมื่อรักก็ต้องทุ่มเทหมดหน้าตัก แต่ถ้าใช้วิธีที่คิดอยู่ละก็...ถ้าพ่อกับแม่รู้เข้า คงจะเป็นลมล้มพับหายาดมมาจ่อจมูกแทบไม่ทันเชียวล่ะ

“มันเพิ่งกลับไปเมื่อไม่กี่วันนี้เองนะ เสือกกลับมาทำหอกอะไรอีกล่ะ” คนพูดออกอาการฮึดฮัดขัดอกขัดใจจนหนวดกระดิก เพราะรอยยิ้มหวานละมุน นัยน์ตาหวานพร่างพราวของภรรยา

“พี่เมฆละก็...พูดจาให้ไพเราะหน่อยสิคะ ไปเรียกเคนว่าไอ้บ้าง มันบ้าง ได้ยังไงกัน ไม่น่ารักเลย” ศรีภรรยาต่อว่าเสียงใส สะบัดค้อนใส่สามีวงโต

“มันก็รู้ไม่ใช่หรือไงกัน เรื่องที่พี่ไม่ชอบขี้หน้านะ เสือกมาอีกทำไม” คนเป็นสามียังถามด้วยความขุ่นเคืองระคนประชดประชัน ใบหน้าคมเข้มฉายแววไม่ชอบใจ ทำเสียงขลุกขลักฮึ่มๆ ง่ำๆ ในลำคอ

‘อยากมาป่วนความสุขในชีวิตเขามากนัก คราวนี้เขาควรจะต้องจัดหนัก ชนิดที่ว่ารีบขึ้นรถขับออกไปขึ้นเครื่องกลับประเทศตัวเองไม่ทันเลยเชียวล่ะ’

รอยยิ้มมุ่งมาดแต้มที่มุมปากหนา นัยน์ตาเข้มเป็นประกายวาวจ้าขึ้นมาแวบหนึ่งก่อนจะจางหายไป

“พี่เมฆ!” ผู้เป็นภรรยาซึ่งแม้อายุจะเลยเลขสามไปถึงครึ่งแล้ว ทว่าใบหน้ายังใสและอ่อนเยาว์ จนคนที่ได้เห็นมักคาดคะเนอายุเธออยู่ที่ปลายยี่สิบร้องเรียกสามีเสียงเข้ม

“พูดให้ดีๆ หน่อยสิคะ ให้เกียรติเคนหน่อย ยังไงเคนก็เป็นผู้มีพระคุณทั้งกับคุณ ข้าวฟ่างและหนูกระถินนะคะ”

“ถึงไม่มีมัน พี่ก็ดูแลลูกกับเมียได้” โตยธรสวนกลับด้วยอารมณ์พาลเต็มที่ ใบหน้าหล่อคมเข้มแข็งกระด้างขึ้นมาทันควัน หนวดเหนือริมฝีปากกระดิก

มนต์สิกานต์สะบัดศีรษะอย่างอิดหนาระอาใจ ไม่ว่าเวลาผ่านไปกี่ปี ผู้เป็นสามีก็ไม่คลายความไม่ชอบหน้าหนุ่มน้อยที่ริอ่านปีนเกลียวจีบสาวรุ่นพี่อย่างเธอเอาเสียเลย

“พี่เมฆจะไม่ชอบเคนไปถึงไหนกันละคะ ถ้าโกรธเรื่องนั้นก็เชื่อใจกันบ้างสิคะ ข้าวฟ่างไม่มีวันรักเคนได้หรอก ก็รักพี่เมฆจนยอมได้ทุกอย่างเสียขนาดนี้ อีกอย่างก่อนไปโทษเคนนะ โทษตัวเองก่อนดีไหมคะ ถ้าไม่ทำให้เข้าใจผิด น้อยใจคิดว่าพี่เมฆไม่รัก ข้าวฟ่างก็ไม่มีวันทำอย่างนั้นหรอกค่ะ” ศรีภรรยาต่อว่าต่อขานเสียงใส ใบหน้ารูปไข่เอิบอิ่มแย้มยิ้มหวานเป็นเนืองนิตย์ออกแววเหนื่อยระอา

มนต์สิกานต์เดินไปทรุดกายลงนั่งใกล้กับสามี แต่ผู้เป็นสามีกลับยื่นมือมาจับแขนกลมกลึงและกระตุกเล็กน้อย ร่างบอบบางอย่างไม่น่าเชื่อว่าผ่านการมีบุตรมาแล้วหนึ่งคน เพราะหุ่นเธอยังคงเพรียวบางสะโอดสะองน่ามองน่าจับต้องไปเสียหมดทุกส่วนก็ถลาไปนั่งอยู่บนตักกว้าง

โตยธรจับปลายคางมนให้หันมาประจันหน้าด้วย “จะให้เชื่อได้ยังไงกันล่ะ ถ้าไม่รักไม่ชอบ ทำไมข้าวฟ่างถึงได้ยอมไปกับมันง่ายๆ ล่ะ”

ชายหนุ่มทำเสียงกระเง้ากระงอดใส่และไม่รอฟังคำตอบที่ทำให้ตัวเองไม่พอใจ เขาจรดจุมพิตลงบนเรียวปากนุ่มของเมียรัก บดคลึงอย่างแผ่วเบาและอ่อนโยน ฟันขาวขบกัดกลีบปากอิ่ม สอดแทรกเรียวลิ้นอุ่นชื้นไปในโพรงปากนุ่ม กระหวัดกวัดเกี่ยวกับลิ้นเล็กๆ ดูดซับความหวานราวน้ำผึ้งรวงอย่างหลงใหล ฝ่ามืออุ่นระอุเลื่อนไล้นวดเฟ้นกายอรชรปลุกปั่นสร้างความวาบหวามให้กับเมียรัก ก่อนยอมถอนออกอย่างเสียดาย

มนต์สิกานต์อมยิ้มแก้มตุ่ย จับแขนกำยำโอบรัดรอบกายอรชรซึ่งเอนอิงแผ่นอกกว้าง “เป็นเพราะใครละคะที่ทำให้ข้าวฟ่างเลือกใช้วิธีนั้น” หญิงสาวบีบจมูกโด่งเบาๆ พลางแนบปากไปบนแก้มหนา

“ใช่สิ พี่ทำอะไรก็ไม่ดี ทำอะไรก็ผิดไปหมด สู้ไอ้เจ้านั่นไม่ได้ มันดีกว่าพี่ทุกอย่างนี่” โตยธรยังทำเสียงกระเง้ากระงอด ปากหนากดลงบนแก้มนุ่มซ้ายขวาและเลยไปถึงริมฝีปากอิ่มเต็ม กดเม้มแผ่วเบาก่อนจะสอดแทรกเรียวลิ้นเข้าไปควานหาความหวานปานน้ำผึ้งอย่างพึงพอใจ

อ่านต่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

หนังสืออื่นๆ ของ ปูริดา

ข้อมูลเพิ่มเติม
บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ