Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
สาวน้อยหัวใจไต่รัก

สาวน้อยหัวใจไต่รัก

ปูริดา

5.0
ความคิดเห็น
18.3K
ชม
72
บท

“คิดอะไรไม่ดีอยู่แน่ๆ เลยเรา” “เปล่านะคะ เพียงแค่...” หญิงสาวเบี่ยงกายเล็กน้อย สองแขนกลมกลึงยกขึ้นโอบรอบบ่ากว้าง ช้อนสายตากลมโตพลางกระพือปีกบินราวกับผีเสื้อโบยบิน นิ้วยาวยกขึ้นทาบบนกลีบปากหนา คลี่กลีบปากแย้มยิ้มหวานฉ่ำเชื่อม “ถ้าพ่อเมฆหรือแม่ข้าวมาเห็นเราสองคนในสภาพอย่างนี้...” กันต์กนิษฐ์บดเบียดเรือนร่างนุ่มนิ่มกับความแข็งแกร่ง ยั่วยวนป่วนอารมณ์โดโนแวนให้ลุกพรึบจนยากระงับความต้องการส่วนลึกเอาไว้ “หยุดเลยยายตัวแสบ ทำอย่างนี้ได้ยังไงกันฮึ เราเป็นผู้หญิงนะ ใครรู้เข้าจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน” “เราเป็นคู่หมั้นกันแล้วนี่คะ แค่จูบกันนิดหน่อยไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย ยังไงก็ไม่สึกไม่หรอ เอ๊ะ...หรือคุณป๋าถือว่าได้เจาะไข่แดงกระถินแล้วจะไม่รับผิดชอบ กระถินไม่ยอมน่ะ จะฟ้องแม่ข้าวและพ่อเมฆให้ตีจนหัวแบะเลย” “เฮ้ย!” โดโนแวนถึงกับมึนงงราวกับถูกตีที่ทัดดอกไม้ กลอกนัยน์ตาไปมา “คุณป๋าไปทำอย่างนั้นกับเราตั้งแต่เมื่อไหร่ อย่ามาตู่นะยายตัวยุ่ง” กันต์กนิษฐ์เคาะนิ้วกับข้างแก้ม เบ้ปากไปมาพลางเลิกคิ้วเหมือนคิดหาคำตอบที่โดโนแวนหาข้ออ้างหลีกหนีไม่ได้ ก่อนคลี่ยิ้มนัยน์ตาวาวใส “เมื่อคืนไงคะ เราจูบกัน มีพยานเห็นเยอะแยะเลย” “พยาน!” คิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน นึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก เมื่อคืนมีใครเสียที่ไหนกัน “ที่ไหนกันฮึยายตัวแสบ เรานี่นะ...ฉลาดแกมโกงจริงๆ ยั่วจนคุณป๋าเผลอสะดุดเท้าตัวเองชนกับปากยายเด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมต่างหากล่ะ”

บทที่ 1 ตอนที่ 1

ตอนที่ 1

“อะไรนะ! มันมาอีกแล้ว”

เสียงเข้มดุดังลอยตามลมมาทำให้ดรุณีน้อยวัยแรกรุ่นที่เดินหลังค้อม พร้อมย่อเข่าลงให้เตี้ยที่สุดและยังจรดปลายเท้าลงบนพื้นสนามหญ้าอย่างที่คิดว่าเบาที่สุดเพื่อไม่ให้ถูกจับได้หยุดชะงัก

เสียงของพ่อดูเหมือนจะอารมณ์ไม่ดีเอามาก ๆ เลย...เกิดอะไรขึ้น คิ้วโค้งได้รูปขมวดเข้าหากันด้วยความสงสัย

เรื่องที่ทำให้พ่ออารมณ์เสียมีอยู่ไม่มาก หนึ่งในจำนวนนั้นก็คือเรื่องของ...

หญิงสาวคลี่ยิ้มเมื่อคิดได้ แต่ถ้าจะให้มั่นใจก็ต้องคอยฟังอีกครั้ง ใช่เรื่องที่เธอคิดอยู่หรือเปล่า และไม่ได้คิดเข้าข้างตนเองมากจนหูฝาดไป

“มันมาทำไมอีก เพิ่งกลับไปไม่ใช่หรือไง ไอ้หน้าหอกหักนั่นน่ะ”

เสียงที่แว่วดังลอยตามกระแสลมมาอีกครั้ง ทำให้ดรุณีน้อยดีใจจนยิ้มกว้างเกือบถึงใบหู นัยน์ตากลมโตพร่างพราวระยับ ด้วยรู้ดีว่าไอ้เจ้าหน้าหอกหักที่บิดากล่าวถึงเป็นชายที่เธอพร่ำเพ้อคิดถึงอยู่ทุกขณะจิตจนเผลอร้องออกมาว่า...

“ไชโย!”

ดรุณีน้อยนามกันต์กนิษฐ์ หรือสมญานามว่ากระถินที่ถูกผู้เป็นบิดาเรียกเมื่อยามรัก แต่เมื่อไหร่ที่เกิดหงุดหงิดไม่สบอารมณ์ก็จะกลายเป็นกระถินริมรั้วไปเสีย แทบกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ แต่ต้องเก็บระงับอาการดีใจจนเนื้อเต้นเอาไว้ รีบมองหาที่ซ่อน เพื่อฟังการสนทนาของคู่สามีภรรยาที่หวานจนลืมวัยและไม่กลัวมดจะขึ้น ด้วยความอยากรู้ที่แทรกซึมไปทุกอณูเนื้อ

ร่างโปร่งบางที่วันนี้สวมใส่เสื้อเชิ้ตแขนสั้น พับชายแขนเลยศอกมาเกือบถึงบ่า จับเสื้อที่ต้นแขนดึงมาพักไว้บนลาดไหล่กว้าง สวมกางเกงยีนขาสั้นอวดลำขาเสลาเรียวยาว จบที่รองเท้าผ้าใบคู่เก่งสีซีดจางจนแทบมองไม่ออกแล้วว่าเป็นสีอะไร ด้วยชุดที่สวมใส่อยู่นั้น...

บิดาไม่ชอบใจอย่างแรง จมูกโด่งยู่ย่น ใบหน้าเรียวรูปไข่มีแววเหนื่อยหน่าย ศีรษะทุยสะบัดแรงๆ กลีบปากอิ่มสีชมพูอ่อนเบะออกพลางขมุบขมิบ

‘ไม่เข้าใจเลยจริงๆ ทำไมสองสามปีมานี้พ่อถึงได้แสดงอาการไม่ชอบขี้หน้าเขม่นคุณป๋าเคนสุดหล่อของเธอนัก ไม่แค่เขม่นแต่ยังชอบพูดจากระแนะกระแหนอีกด้วย ได้ยินแล้วหงุดหงิดรำคาญใจจะแย่’

“โธ่...พี่เมฆ จะเขม่นเคนไปถึงไหนกันคะ”

เสียงหวานใสของหญิงอีกคนที่อยู่ในห้องโต้กลับ ดึงความสนใจของดรุณีน้อยให้รีบจรดปลายเท้าไปใกล้หน้าต่าง เธอจับหมวกมีปีกที่ใช้เก็บเส้นผมหนาดกดำและยาวสลวยไม่ให้ร่วงหล่นลงมาคลอเคลียลำคอระหง ขณะมองสองคนที่นั่งสนทนากันในห้องรับแขกด้วยหัวใจที่เต้นแรง รอยยิ้มเกลื่อนใบหน้า

ตอนแรกเธอเสียใจแทบแย่ เมื่อรู้ข่าวว่าคุณป๋า...โดโนแวนมาแล้ว แต่อ้างว่ามีงานด่วนต้องรีบกลับในทันที จนคลาดกับเธอซึ่งกำลังเดินทางกลับมาเพียงแค่...ไม่ถึงชั่วโมง มันทำให้เธอหงุดหงิดเพราะคิดว่าปิดเทอมคราวนี้จะไม่ได้พบเจอกับชายหนุ่มอีกเหมือนเคย เฮ้อ! เศร้าใจชะมัดเลย

ใบหน้าผุดผ่องพรรณหมองเศร้าเล็กน้อย...นี่ก็อีกคน ไม่รู้เป็นอะไรนักหนา ตอนเธอไปเรียนก็มาบ่อยมาก เรียกได้ว่าแทบจะทุกอาทิตย์เลย แต่พอเธอปิดเทอม ไม่เคยมาให้เห็นหน้า ชอบอ้างว่าติดงาน ยุ่งจนปลีกตัวไปไหนไม่ได้ แต่กลับมีข่าวควงสาวไปกินข้าวได้ไม่เว้นแต่ละวัน คอยดูนะ เจอตัวเมื่อไหร่ เธอจะจัดการขั้นเด็ดขาดเลย นัยน์ตากันต์กนิษฐ์วามวาวเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น

‘หนีได้หนีไปนะคุณป๋าเคนจ๋า เดี๋ยวหนูกระถินเจอตัวเมื่อไหร่ จะจัดแผนการขั้นสุดยอดให้เลยค่ะ เชื่อว่าคุณป๋าเคนจะต้องเข่าอ่อน หนีไปไหนไม่รอดแน่นอน’

กันต์กนิษฐ์หมายมั่นปั้นมือ ถ้าไม่รุก เห็นทีจะไม่ได้โดโนแวนมาครอบครองเป็นแน่แท้ เมื่อรักก็ต้องทุ่มเทหมดหน้าตัก แต่ถ้าใช้วิธีที่คิดอยู่ละก็...ถ้าพ่อกับแม่รู้เข้า คงจะเป็นลมล้มพับหายาดมมาจ่อจมูกแทบไม่ทันเชียวล่ะ

“มันเพิ่งกลับไปเมื่อไม่กี่วันนี้เองนะ เสือกกลับมาทำหอกอะไรอีกล่ะ” คนพูดออกอาการฮึดฮัดขัดอกขัดใจจนหนวดกระดิก เพราะรอยยิ้มหวานละมุน นัยน์ตาหวานพร่างพราวของภรรยา

“พี่เมฆละก็...พูดจาให้ไพเราะหน่อยสิคะ ไปเรียกเคนว่าไอ้บ้าง มันบ้าง ได้ยังไงกัน ไม่น่ารักเลย” ศรีภรรยาต่อว่าเสียงใส สะบัดค้อนใส่สามีวงโต

“มันก็รู้ไม่ใช่หรือไงกัน เรื่องที่พี่ไม่ชอบขี้หน้านะ เสือกมาอีกทำไม” คนเป็นสามียังถามด้วยความขุ่นเคืองระคนประชดประชัน ใบหน้าคมเข้มฉายแววไม่ชอบใจ ทำเสียงขลุกขลักฮึ่มๆ ง่ำๆ ในลำคอ

‘อยากมาป่วนความสุขในชีวิตเขามากนัก คราวนี้เขาควรจะต้องจัดหนัก ชนิดที่ว่ารีบขึ้นรถขับออกไปขึ้นเครื่องกลับประเทศตัวเองไม่ทันเลยเชียวล่ะ’

รอยยิ้มมุ่งมาดแต้มที่มุมปากหนา นัยน์ตาเข้มเป็นประกายวาวจ้าขึ้นมาแวบหนึ่งก่อนจะจางหายไป

“พี่เมฆ!” ผู้เป็นภรรยาซึ่งแม้อายุจะเลยเลขสามไปถึงครึ่งแล้ว ทว่าใบหน้ายังใสและอ่อนเยาว์ จนคนที่ได้เห็นมักคาดคะเนอายุเธออยู่ที่ปลายยี่สิบร้องเรียกสามีเสียงเข้ม

“พูดให้ดีๆ หน่อยสิคะ ให้เกียรติเคนหน่อย ยังไงเคนก็เป็นผู้มีพระคุณทั้งกับคุณ ข้าวฟ่างและหนูกระถินนะคะ”

“ถึงไม่มีมัน พี่ก็ดูแลลูกกับเมียได้” โตยธรสวนกลับด้วยอารมณ์พาลเต็มที่ ใบหน้าหล่อคมเข้มแข็งกระด้างขึ้นมาทันควัน หนวดเหนือริมฝีปากกระดิก

มนต์สิกานต์สะบัดศีรษะอย่างอิดหนาระอาใจ ไม่ว่าเวลาผ่านไปกี่ปี ผู้เป็นสามีก็ไม่คลายความไม่ชอบหน้าหนุ่มน้อยที่ริอ่านปีนเกลียวจีบสาวรุ่นพี่อย่างเธอเอาเสียเลย

“พี่เมฆจะไม่ชอบเคนไปถึงไหนกันละคะ ถ้าโกรธเรื่องนั้นก็เชื่อใจกันบ้างสิคะ ข้าวฟ่างไม่มีวันรักเคนได้หรอก ก็รักพี่เมฆจนยอมได้ทุกอย่างเสียขนาดนี้ อีกอย่างก่อนไปโทษเคนนะ โทษตัวเองก่อนดีไหมคะ ถ้าไม่ทำให้เข้าใจผิด น้อยใจคิดว่าพี่เมฆไม่รัก ข้าวฟ่างก็ไม่มีวันทำอย่างนั้นหรอกค่ะ” ศรีภรรยาต่อว่าต่อขานเสียงใส ใบหน้ารูปไข่เอิบอิ่มแย้มยิ้มหวานเป็นเนืองนิตย์ออกแววเหนื่อยระอา

มนต์สิกานต์เดินไปทรุดกายลงนั่งใกล้กับสามี แต่ผู้เป็นสามีกลับยื่นมือมาจับแขนกลมกลึงและกระตุกเล็กน้อย ร่างบอบบางอย่างไม่น่าเชื่อว่าผ่านการมีบุตรมาแล้วหนึ่งคน เพราะหุ่นเธอยังคงเพรียวบางสะโอดสะองน่ามองน่าจับต้องไปเสียหมดทุกส่วนก็ถลาไปนั่งอยู่บนตักกว้าง

โตยธรจับปลายคางมนให้หันมาประจันหน้าด้วย “จะให้เชื่อได้ยังไงกันล่ะ ถ้าไม่รักไม่ชอบ ทำไมข้าวฟ่างถึงได้ยอมไปกับมันง่ายๆ ล่ะ”

ชายหนุ่มทำเสียงกระเง้ากระงอดใส่และไม่รอฟังคำตอบที่ทำให้ตัวเองไม่พอใจ เขาจรดจุมพิตลงบนเรียวปากนุ่มของเมียรัก บดคลึงอย่างแผ่วเบาและอ่อนโยน ฟันขาวขบกัดกลีบปากอิ่ม สอดแทรกเรียวลิ้นอุ่นชื้นไปในโพรงปากนุ่ม กระหวัดกวัดเกี่ยวกับลิ้นเล็กๆ ดูดซับความหวานราวน้ำผึ้งรวงอย่างหลงใหล ฝ่ามืออุ่นระอุเลื่อนไล้นวดเฟ้นกายอรชรปลุกปั่นสร้างความวาบหวามให้กับเมียรัก ก่อนยอมถอนออกอย่างเสียดาย

มนต์สิกานต์อมยิ้มแก้มตุ่ย จับแขนกำยำโอบรัดรอบกายอรชรซึ่งเอนอิงแผ่นอกกว้าง “เป็นเพราะใครละคะที่ทำให้ข้าวฟ่างเลือกใช้วิธีนั้น” หญิงสาวบีบจมูกโด่งเบาๆ พลางแนบปากไปบนแก้มหนา

“ใช่สิ พี่ทำอะไรก็ไม่ดี ทำอะไรก็ผิดไปหมด สู้ไอ้เจ้านั่นไม่ได้ มันดีกว่าพี่ทุกอย่างนี่” โตยธรยังทำเสียงกระเง้ากระงอด ปากหนากดลงบนแก้มนุ่มซ้ายขวาและเลยไปถึงริมฝีปากอิ่มเต็ม กดเม้มแผ่วเบาก่อนจะสอดแทรกเรียวลิ้นเข้าไปควานหาความหวานปานน้ำผึ้งอย่างพึงพอใจ

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ ปูริดา

ข้อมูลเพิ่มเติม
ปลูกรักฮูหยินแม่ทัพปีศาจ

ปลูกรักฮูหยินแม่ทัพปีศาจ

โรแมนติก

5.0

ก็ไม่ได้คิดหรอกนะว่าวันหนึ่งจะพบเจอกับเรื่องแปลก ๆ แต่เมื่ออยู่แล้วไร้ความหมายไม่มีคนที่รักและรักเรา เขาจึงเลือกที่จะแลกทั้งที่ไม่ได้มั่นใจเลยว่าจะได้พบกับคนที่รักจริงหรือเปล่า แต่ก็ตัดสินใจเลือกไปแล้ว... “อาซวงเป็นของข้าใช่หรือไม่” ก็มิค่อยเข้าใจสักเท่าไหร่และคิดว่ามิน่าจะมีอะไรมากมาย เก้าเทียนรุ่ยจึงพยักหน้ารับ “ขอรับ” “ถึงเราจะมิได้ร่วมทุกข์ร่วมสุขเช่นที่ท่านมีกับสหายที่ร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่ นอนกลางดินกินกลางทรายมาด้วยกันมาอย่างชิงชวนหรือคนอื่น ๆ หากนับตั้งแต่ที่เราได้พบรวมถึงอยู่ด้วยกัน ข้าก็คิดว่าเราผ่านอะไรมามากมายพอที่จะทำให้ข้ารู้ถึงความรู้สึกที่ตนเองมีต่อท่าน” เก้าเทียนรุ่ยมองสบสายตาเสวียนลิ่วหลางที่มองเขาด้วยความงุนงง ในดวงตามีความสับสนระคนมิแน่ใจ คล้ายจะมีคำถามตามติดมาด้วย ทำให้เขาเผลอยิ้มหวานออกไป เสวียนลิ่วหลางได้แต่ยิ้มด้วยความเขินอาย “ข้าก็มิรู้ว่าจะวางตัวเช่นไรดี พึงพอใจอยากให้เจ้าอยู่ชิดใกล้...หากก็มิอยากบังคับหากเจ้ามิเต็มใจ” “แต่ก็มิอาจทำใจได้หากจะต้องปล่อยมือ” เก้าเทียนรุ่ยเอ่ยอย่างเข้าใจ “เมื่อยังต้องรอให้อาซวงรู้สึกเช่นเดียวกัน นอกจากข้าจะทำให้ผู้อื่นรับรู้แล้วว่าคนนี้...” เสวียนลิ่วหลางจับมือเก้าเทียนรุ่ยมาจูบขณะมองสบเข้าไปในดวงตากลมใสก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่มทุ้มหากเต็มไปด้วยความหนักแน่น “ข้าจอง” “ตะเกียบยังต้องอยู่เป็นคู่ถึงจะใช้กินอาหารได้ หยินก็ยังคู่หยางถึงจะสมดุล เมื่อข้าพบคนที่ใช่ เหตุใดถึงต้องปล่อยมือเล่า”

ขอให้รักกลับคืนมาได้ไหม

ขอให้รักกลับคืนมาได้ไหม

โรแมนติก

5.0

ความรักไม่ผิด...เรารักเขา เขาไม่รักเรา ก็ไม่ผิด แต่การรอคอยมันย่อมมีระยะเวลาสิ้นสุดลงเมื่อ...ใจเราไม่อาจรอรักจากเขาได้อีกแล้ว มันก็ถึงเวลา...สิ้นสุดยุติการรอคอที่เลื่อนลอยไร้จุดหมาย “นั่นสิคะ หนูดาวก็งงอยู่ ทำไมถึงหนีพี่เหนือไม่พ้นสักที ตั้งแต่หนูดาวตัดสินใจทำแบบนั้นลงไป พี่เหนือทำให้หนูดาวแปลกใจจนงงและสับสนไปหมด” “หือ” “ปกติพี่เหนือจะผลักไสให้หนูดาวไปไกล ๆ ชอบใช้สายตาแบบว่า...ฉันรำคาญเธอนะ เห็นหน้าเธอแล้วมันหงุดหงิดใจมาก จะไปเองดี ๆ หรือจะให้ฉันเตะโด่งเธอไป...ประมาณนี้นะคะ แต่พอหนูดาวเอาแหวนหมั้นไปคืน กลับต้องเจอกับพี่เหนือทุกวัน...และยังอยู่ด้วยกันแทบจะตลอดทั้งวันเลยด้วย ขนาดคิดหนีมาทำงานที่นี่ สุดท้ายยังหนีพี่เหนือไม่พ้นเลยด้วย” “เราคงเป็นคู่เวรคู่กรรมกันละมั้ง ทำยังไงก็หนีกันไม่พ้น เสร็จงานที่นี่ เห็นทีพี่คงจะต้องจับมัดเราให้หนักกว่าเดิม” พันดาวมองแดนเหนืออย่างตื่นตะลึง เรียวปากสีชมพูอ้าค้าง “นี่พี่เหนือ...”

ไฟรักไฟเชลย

ไฟรักไฟเชลย

โรแมนติก

5.0

เพื่อน้องสาว เขาจึงหลอกลวงนำตัวเธอมา “คุณโกรธอะไรใครก็ไปเอาคืนกับคนนั้นสิ มายุ่งกับฉันทำไม ปล่อยฉันนะไอ้วายร้าย!” “เผอิญว่าฉันดันอยากได้เธอด้วยผิง ก็เธอมันขาวอวบยั่วยวนราคะใช่ย่อยนิ แค่จับลูบไล้หน่อยเดียวก็พร้อมจะร้อนเป็นไฟแล้ว” ชายหนุ่มลูบไล้ฝ่ามืออุ่นร้อนบนลำตัวกลมกลึง สะกิดเอากระดุมหลุดออกจากรางทีละเม็ดจนหมด จูบอุ่นร้อนทาบทับซุกไซ้ซอกคอขาวผ่อง “ฉันขอร้องนะคุณใหญ่...ถ้าฉันผิดจริง ฉันยอมให้คุณลงโทษได้ทุกอย่าง คุณจะย่ำยีลงทัณฑ์ฉันยังไงก็ได้ ฉันจะไม่ร้องขอความปราณีแม้แต่นิดเดียว จะไม่หนีอย่างที่ทำอยู่ทุกวัน จะไม่คิดไม่เคียดแค้นคุณเลย แต่ถ้าฉันไม่ผิด คุณปล่อยฉันไปนะ...ได้โปรด” “รู้อะไรไหมผิง...ไม่มีผู้ชายคนไหนโง่ยอมปล่อยให้ผู้หญิงสวย ๆ เซ็กซี่ แล้วก็ปลุกเร้าอารมณ์ได้อย่างกับน้ำมันราดลงไปกองไฟให้หลุดรอดมือไปหรอกนะ” แต่ใครจะรู้ล่ะ...ความใกล้ชิดที่เกิดขึ้น จะนำสิ่งใดมาสู่เขาบ้าง เรื่องหัวใจก็ยังต้องจัดการ เรื่องการงานก็ต้องตรวจสอบหาความจริง

นางไพรยั่วสวาท

นางไพรยั่วสวาท

โรแมนติก

5.0

กฎของหมู่บ้าน ทำให้สองศรีพี่น้องต้องเร่งหา...ผัว! ให้ได้ “ตัวสั่นเชียว กลัวหรือจ๊ะฟองจ๋า” “โถ...น่าสงสารจริง เมียของผัว” มือหนาลูบไล้ผิวเนื้อนวลนุ่มลื่นขณะเดียวกันก็เกี่ยวเอาชายเสื้อของหญิงสาวดึงมันออกไปจากกายสาวก่อนจะแนบฝ่ามือลงบนทรวงอกอวบใหญ่ เสียงหวานแหบพร่าดังออกมาจากกลีบปากเล็ก “ร้องได้เลยจ้ะฟองจ๋า ผัวอยากได้ยินเสียงหวาน ๆ ของฟองที่สุด” “โถ่...จะปิดทำไมละจ๊ะสร้อยจ๋า” แม่เจ้าโว้ย! ใหญ่ฉิบหายเลย ใหญ่จนเขาอยากเห็นใกล้ ๆ อยากได้ลิ้มลองรสชาติในตอนนี้เลย “เดี๋ยวเราสองคนจะไม่เพียงแค่ได้เห็นทุกซอก...ทุกมุมของสร้อยแล้ว เราสองคนจะทั้งจับ...ทั้งเลีย แล้วก็อัดกระแทกให้ร่องสวาทของสร้อยแทบพังไปเลยจ๊ะ” ตรวนสวาทนางไพร : ใครกันแน่ที่เป็นผู้ล่า ใครกันแน่ที่เป็นเหยื่อ แน่ใจหรือว่าแพรพลอยคือเหยื่อให้ห้าหนุ่มอย่างพวกเขาเสพสวาทอย่างเร่าร้อน “ไม่เอาอย่างนี้นะโรม...อย่าทำแพรเลยนะ” แพรพลอยร้องห้ามเสียงสั่นพร่าเมื่อรู้ว่าโรมรันจะทำอะไร ไหนจะหนุ่ม ๆ ทั้งสี่ที่ไร้อาภรณ์ปกปิด ทำให้เธอได้เห็นอาวุธของแต่ละคนที่มันช่าง...ใหญ่! ไหนจะคำพูดที่บอกก่อนหน้านี้ที่บอกว่า...จะอัดกระแทกเธอให้ยับ! ทำเอาเธอถึงกับกับหวาดหวั่นไม่ใช่น้อย ยิ่งตอนนี้ทุกคนได้มายืนล้อมรอบเธอแล้วด้วย “พี่ได้ยินไม่ผิดใช่ไหมจ๊ะ...ที่น้องแพรบอกว่าอย่าช้า ให้พวกเรารีบเอาน้องแพรเร็ว ๆ นะ”

เกลียวรักคลื่นปรารถนา

เกลียวรักคลื่นปรารถนา

โรแมนติก

5.0

เพียงแค่เห็นหน้า เขาก็ถูกใจแล้ว แม้เธอจะมีลูกติดมา เขาก็ไม่คิดที่จะปล่อย ยังคงตามเอาใจลูกสาวตัวน้อยและจีบเธออย่างไม่ลดละ “เย้ เย้ แม่เอาอีกหนุก หนุก เอาอีก เอาอีก” โซดาเริ่มลุยน้ำลงไปกอบทรายที่เปียกน้ำใส่ศีรษะอันนิโต้เรื่อยๆ ไม่ยอมหยุด สิมิลันหัวเราะจนท้องแข็ง อันโตนิโอ้เอาคืนคนอารมณ์ดีด้วยการกอบทรายเปียกใส่ร่างบางบ้าง “ว้าย! เล่นอะไรนะคุณสกปรกจะตาย” “อ้าวที่คุณกับลูกทำผมล่ะ นี่แนะ” มือใหญ่ขยี้ผมบนศีรษะสิมิลัน โซดาเริ่มเอาอย่างสองมืออวบขยี้ผมบนศีรษะมารดาและศีรษะตัวเองจนยุ่งเหยิงและเปียกชื่น แล้วยืนหัวเราะเสียงใสแจ๋ว ดวงตาเป็นประกายสดใส ยิ้มจนเห็นฟันในปากแทบทุกซี่ “ไม่เลิกใช่ไหมคุณเอ โซดารุมพ่อเอเลยลูก” สองมือเล็กเรียวผลักร่างใหญ่ลงนอนบนพื้นทราย พร้อมกอบทรายเปียกชื้นละเลงบนกายแข็งแกร่ง สองแรงแข็งขันสองมือรุมกอบทรายละเลงบนกายหนาใหญ่จนเปียกชื้น ยังไม่พอสองนิ้วเล็กๆ จี้ไปเอวหนาจนชายหนุ่มหัวเราะท้องแข็ง โซดาเองก็เอาอย่างคนเป็นแม่ มือใหญ่ทั้งห้านิ้วจี้เอวแข็งแกร่ง อันโตนิโอ้ก็ไม่ยอมแพ้ มือใหญ่จี้เอวสองแม่ลูกกลับบ้าง เสียงหัวเราะของสองผู้ใหญ่หนึ่งเด็กดังลั่นหาดทรายสีขาว

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ต้องมนต์บุปผา

ต้องมนต์บุปผา

โรแมนติก

5.0

หลิวซือซือผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งที่นอกจากรูปร่างหน้าตาที่สวยหยดย้อยแล้ว แทบจะไม่มีความสามารถหรือความโดดเด่นในเรื่องอื่น และหากจะว่ากันไปหญิงสาวก็เป็นคนที่ค่อนข้างใสซื่อบริสุทธิ์อยู่ไม่น้อย เพราะได้รับการรับเลี้ยงประดุจไข่ในหินจากผู้เป็นพ่อและแม่ที่มีฐานะไม่ธรรมดา เธอรักในอาชีพนักแสดงแม้พ่อแม่จะคัดค้านแต่สุดท้ายก็ตามใจเธอเพราะไม่ต้องการให้ลูกสาวเสียใจ อยู่มาวันหนึ่งด้วยบทบาทที่ต้องแสดงในซีรีส์ย้อนยุค ทำให้พ่อของเธอหาขลุ่ยโบราณเล่มหนึ่งมาให้ ตั้งแต่ได้รับขลุ่ยมาหลิวซือซือก็มักฝันประหลาด ว่าเธอได้พบผู้ชายคนหนึ่งในเขาเป็นแม่ทัพอยู่ระหว่างสงครามอีกทั้งตนเองยังมีโอกาสช่วยเขาหลายครั้ง ที่น่าประหลาดใจคือ ฝันนั้นของเธอเหมือนจะเป็นความจริงไปแล้ว เขาคือใครและเกี่ยวข้องกับเธอด้วยเหตุใด ทำไมเธอจึงมักฝันประหลาดเช่นนี้???

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

โรแมนติก

5.0

หลังผ่าตัดนักพรตเฒ่าผู้หนึ่งนั้น นางวูบหมดสติและเสียชีวิตลงไป ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที ก็อยู่ในร่างของคุณหนูปัญญาอ่อนที่มีชื่อเดียวกันผู้นี้เสียแล้วทั้งยังจำอดีตชาติยามเป็นปรมาจารย์เต๋าได้อีกด้วย +++ 1 : ไล่ออกจากอารามไท่ผิงกวน แคว้นจิ้น ราชวงศ์เซวียน อารามไท่ผิงกวน “ไป ๆ อาจารย์ขับไล่พวกท่านออกจากอารามแล้ว อย่าได้มาเหยียบที่นี่อีก” “ศิษย์พี่รองรีบปิดประตูเร็วเข้า !” ตุบ ! ห่อผ้าสองห่อถูกโยนออกมาจากประตูอาราม ปัง ! ตามด้วยเสียงปิดประตูลงสลักอย่างหนาแน่น สตรีนางหนึ่งยืนตัวตรงเป็นสง่า เสื้อผ้ากับเส้นผมของนางปลิวไสวดั่งไผ่ลู่ลม หลินซือเยว่เงยหน้าขึ้นมองป้ายชื่ออารามไท่ผิงกวนด้วยสายตาเลื่อนลอย อาศัยอยู่ที่นี่มานานเท่าใดแล้วนะ บางครั้งนางเองก็ลืมเลือนวันเวลาไปเหมือนกัน “คุณหนูเจ้าคะ ศิษย์น้องทั้งสองของท่านทำเกินไปแล้วนะเจ้าคะ เหตุใดถึงไล่พวกเราสองคนออกจากอารามได้เล่า” เผิงฉือกระทืบเท้าเบา ๆ ตรงไปฉวยห่อผ้าทั้งสองบนพื้น ขึ้นมาคล้องแขนตัวเองไว้ “หากไม่ได้รับคำสั่งจากอาจารย์ ศิษย์น้องทั้งสองคงไม่กล้าขับไล่ข้าออกจากอารามหรอก” น้ำเสียงของนางสงบนิ่งฟังแล้วสบายหูยิ่งนัก หาได้มีความโกรธเกลียดแต่อย่างใด “นั่นรถม้า” นิ้วเรียวสวยชี้ไปยังรถม้าคันที่มีคนนั่งเฝ้าอยู่ “ป้าเผิงไปถามดูว่าใช่รถม้าของเราหรือไม่” เผิงฉือไม่รอช้ารีบตรงไปหาคนเฝ้ารถม้าที่อยู่ใต้ต้นไผ่ในทันที ไม่ช้านางก็กลับมาพร้อมกับรอยยิ้มนิด ๆ “เป็นรถม้าของเราจริง ๆ เจ้าคะคุณหนู คนขับบอกว่าเป็นคนของตระกูลหลินเจ้าค่ะ ได้รับคำสั่งจากท่านพ่อของคุณหนู ให้มารับคุณหนูกลับตระกูลหลินเพื่อไปแต่งงานเจ้าค่ะ” “กลับไปแต่งงานนี่เอง” นางเอ่ยเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่ หันหลังกลับไปทางประตูอาราม ประสานมือค้อมตัวคำนับลาอาจารย์ เผิงฉือเห็นเช่นนั้นก็อดที่จะคำนับตามนางไม่ได้ ภายในอารามไท่ผิงกวน “อาจารย์เหตุใดถึงไม่บอกลากับศิษย์พี่ใหญ่ไปตรง ๆ ล่ะ ทำเช่นนี้นางไม่โกรธท่านไปจนวันตายเลยรึ” เหอกุ้ยแม้มีอายุยี่สิบแปดปีแล้ว ทว่าเขากราบเป็นศิษย์เจ้าอาวาสชุนหวังเหล่ยหลังสตรีผู้นั้น จึงได้เป็นเพียงแค่ศิษย์พี่รองเท่านั้น “นั่นสิอาจารย์ ศิษย์พี่ใหญ่นางไม่เคยออกจากอารามไปไหนไกล ท่านทำเช่นนี้ไม่ใช่ขับไล่นางไปสู่ความตายหรอกรึ” จางเจียเฟิ่งเห็นด้วยกับศิษย์พี่รองของเขา “ให้มันน้อย ๆ หน่อยเจ้าศิษย์โง่ทั้งสอง พวกเจ้าคิดว่าอารามไท่ผิงกวนแห่งนี้ สามารถอยู่รอดมาได้เพราะใครกัน หากไม่ใช่เพราะฝีมือของศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้า เห็นนางเงียบ ๆ แบบนั้น ความคิดนางกว้างไกลยิ่งนัก อาจารย์อย่างข้ายังเทียบนางไม่ติดด้วยซ้ำไป” เจ้าอาวาสชุนปีนี้อายุอานามปาเข้าไปหกสิบห้าปีแล้ว ทว่าร่างกายยังแข็งแรง อารามเต๋าแห่งนี้มีวิถีแบบไม่เคร่งครัด ใช้ชีวิตเยี่ยงฆราวาสผู้หนึ่ง สามารถแต่งงานมีครอบครัวได้ “อาจารย์นางอยู่ในอารามวาดยันต์กันภัยให้ชาวบ้านที่มากราบไหว้ ตั้งโต๊ะรักษาโรคภัยให้ผู้คนในตัวอำเภอฝู แต่หนนี้นางต้องกลับบ้านไปเพื่อแต่งงาน นางบริสุทธิ์ถึงเพียงนั้นมิถูกสามีจับกลืนกินจนไม่เหลือกระดูกหรอกรึ” เหอกุ้ยนึกภาพเทพเซียนผู้สูงส่งอย่างหลินซือเยว่ หากต้องร่วมเตียงกับบุรุษหยาบกระด้าง เพียงเท่านั้นเขาก็ทำใจไม่ได้จริง ๆ แทบอยากจะไปแย่งตัวศิษย์พี่ใหญ่ของตัวเองกลับคืนมา “เลิกคร่ำครวญได้แล้ว กลับไปกวาดลานอารามกับตรวจดูน้ำมันตะเกียงให้เรียบร้อย ศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้าไม่อยู่ เจ้าทั้งสองต้องรีบร่ำเรียนศึกษาหาความรู้ อารามไท่ผิงกวนจะได้เจริญรุ่งเรืองในภายภาคหน้าต่อไปได้” เจ้าอาวาสชุนทำเสียงดังใส่ลูกศิษย์ทั้งสอง “ไป ๆ ข้าจะสวดมนต์” โบกมือไล่ทั้งคู่ให้ออกจากห้องสวดมนต์ไป เจ้าอาวาสชุนรีบลุกไปปิดประตูลั่นกลอน ท่าทางลุกลี้ลุกลนจนผิดปกติ ย่องเบา ๆ ไปที่ใต้เตียงนอน ดึงหีบไม้เก่าเก็บออกมา ครั้นกดสลักเปิดออก ก็พบตั๋วเงินจำนวนสามพันตำลึงอยู่ในนั้น ตระกูลหลินที่ไม่ได้บริจาคน้ำมันตะเกียงมาหลายปี จู่ ๆ ก็ส่งตั๋วเงินมาให้ พร้อมกับขอรับคนกลับไปเพื่อแต่งงาน ช่วงนี้ชาวบ้านมาทำบุญที่อารามน้อยลง หลินซือเยว่ก็ไม่รู้ว่าเกิดอันใดขึ้นกับนาง ถึงไม่ยอมลงจากอารามไปรักษาผู้คน รายได้เลยหายหดแทบจ่ายอาหารการกิน(สุรานารี)ไม่พอ ตั๋วเงินสามพันตำลึงนี่มาได้ทันเวลาพอดี ! แครก ๆ ๆ ๆ เสียงกวาดลานหน้าอารามดังขึ้นพร้อมกับเสียงบ่นของเหอกุ้ย “ข้ารู้ว่านางเก่งเอาตัวรอดได้ ข้าเพียงไม่อยากให้นางไปก็เท่านั้น” “ศิษย์พี่รองท่านอย่าได้เสียใจไปเลย ไม่ใช่ว่ามีแต่นางที่ต้องแต่งงานมีครอบครัว ท่านเองก็เถอะที่บ้านส่งคนมารับทุกปีไม่ใช่รึ” จางเจียเฟิ่งรู้ดีว่าตนและเหอกุ้ย ถูกครอบครัวลงโทษด้วยการส่งมาอยู่ยังอารามแห่งนี้ ทว่าเพียงชั่วคราวเท่านั้น “ตัวข้านั้นไม่เป็นไรหรอก เจ้านั่นแหละศิษย์น้องสาม ข้าได้ยินว่าที่บ้านของเจ้า เพิ่งหาคู่หมั้นหมายคนใหม่ให้เจ้าอีกคนแล้วไม่ใช่รึ” สองศิษย์พี่น้องหยุดกวาดลานอาราม แล้วหันหน้าไปมองตากัน จากนั้นพวกเขาก็ถอนหายใจดัง ๆ พร้อมกัน ไม่มีศิษย์พี่ใหญ่อยู่ด้วย นับจากนี้ไปยามทำความผิดใครจะออกหน้าคอยช่วยเหลือ ยามเงินหมดใครจะให้หยิบยืม ยิ่งคิดพวกเขาก็ยิ่งไม่สบายใจเป็นอย่างมาก บนถนนมุ่งหน้าสู่เมืองหลวง รถม้าไม้ธรรมดาไม่เล็กไม่ใหญ่ ไร้ป้ายชื่อตระกูลบอกกล่าว คล้ายไม่อยากให้ผู้อื่นล่วงรู้ว่าคนที่นั่งอยู่ด้านในเป็นใคร เผิงฉือพยายามหลอกถามคนขับรถม้าอยู่หลายหน ถึงสถานการณ์ของตระกูลหลินในยามนี้ นางไม่เคยไปที่นั่นมาก่อนไม่รู้จักใครสักคน คนขับรถม้าตอบว่า เขามีหน้าที่มารับคุณหนูรองกลับบ้านเท่านั้น เรื่องอื่นนั้นเขาไม่รู้จริง ๆ “ได้ถามหรือไม่ ใช้เวลากี่วันในการเดินทาง” หลินซือเยว่เอ่ยเสียงเนิบ ๆ “ถามแล้วเจ้าค่ะ เขาบอกว่าราว ๆ สิบวันก็ถึงเมืองหลวงแล้ว” “สิบวันเชียวรึ” หลินซือเยว่มองห่อผ้าที่วางอยู่ด้านข้าง มีเพียงของใช้จำเป็นของนางไม่กี่ชิ้น พร้อมกับก้อนเงินจำนวนห้าสิบตำลึง “คงต้องแวะซื้อของในอำเภอฝูเสียก่อน” เผิงฉือรีบเปิดม่านบอกกับคนขับรถม้า แต่เขากลับทำเสียงฮึดฮัดคล้ายไม่พอใจ “เสียเวลาเดินทางเปล่า ๆ” น้ำเสียงเขากระด้างกระเดื่อง

จิตวิญญาณข้าถูกผนึก

จิตวิญญาณข้าถูกผนึก

โรแมนติก

5.0

อวิ๋นหลาน นักฆ่าอันดับหนึ่งแห่งศตวรรษที่ 25 ได้ข้ามภพและเกิดใหม่ในร่างของหญิงสาวผู้ไร้ประโยชน์ซึ่งมีชื่อเดียวกันในจวนเทพเจ้าแห่งสงคราม รากวิญญาณถูกทำลายไป? บำเพ็ญวิชาไม่ได้? คู่หมั้นถอนหมั้น? ทุกคนหัวเราะเยาะนาง? การควบคุมอสูร ยาพิษ ยาลูกกลอนปีศาจ อาวุธลับ...นางจัดการได้อย่างสบายๆ อดีตผู้ไร้ค่า แต่บัดนี้มาแก้แค้นชาาเจ้าชู้ เอาคืนทุกคนที่รังแกตนเอง ได้ประสบความสำเร็จ และขึ้นไปสู่จุดสูงสุด ผู้แข็งแกร่งอย่าคิดจะทำอะไรตามใจ ผู้อ่อนแออย่าท้อแท้ กล้ามารุกรานข้า งั้นก็อย่าหาว่าข้าไม่เตือนก็แล้วกัน เขาเป็นจ้าวแห่งอาณาจักรปีศาจ ชอบเอาใจนาง นางฆ่าคน เขาช่วยปิดปาก นางทำลายศพ เขาช่วยกำจัดหลักฐาน เขายอมทำทุกอย่างเพื่อนาง ชีวิตนี้ยอมร่วมทุกข์ร่วมสุขไม่ทอดทิ้งกัน

นักล่าคู่กับหมอมหัศจรรย์

นักล่าคู่กับหมอมหัศจรรย์

โรแมนติก

3.5

เดิมทีฟางจินซิ่วมีอวกาศติดตัวได้เปิดคลินิกการแพทย์แผนจีนในยุคปัจจุบันและเจริญรุ่งเรือง ไม่มีการแข่งขันหนัก และทำงานมีวันหยุด เธอใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย แต่แล้วมีวันหนึ่งที่เธอตื่นขึ้นมากลับข้ามมิติกลายเป็นชาวนาที่ฟมู่บ้านยากจน อีกทั้งได้เจอภัยแล้ง จากนั้นก็โดนขาย โชคดีที่ครอบครัวที่ซื้อเธอแตกต่างจากที่เธอจินตนาการไว้ เธอไม่ได้ถูกทารุณกรรม แต่ได้รับการดูแลอย่างดี ในยุคแห่งความขาดแคลนอาหาร และมีภัยแล้ง ฟางจินซิ่วตัดสินใจตอบแทนความเมตตาของครอบครัวนี้ แม่สามีป่วยหนัก? สำหรับปัญหาเล็กๆ น้อยๆ เธอเก็บสมุนไพรและแช่ในสระศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งรักษาเธอให้หายดีภายในไม่กี่นาที ที่บ้านไม่มีอาหาร? ปัญหาเล็กๆ น้อยๆ เธอไปล่าสัตว์กับครอบครัวและโชคก็เข้าข้างเธอ ไม่ว่าเธอจะไปที่ไหน เหยื่อก็จะตกหลุมพรางเสมอ กินแต่เนื้อสัตว์โดยไม่มีผักหรือ? มันเป็นปัญหาเล็กๆ เทน้ำในสระศักดิ์สิทธิ์เพียงหยดเดียว ก็สามารถปลูกพืชได้ทุกชนิดและกินผักและผลไม้อะไรก็ได้ที่พวกเธอต้องการ ญาติที่อิจฉากำลังมาก่อเรื่องเมื่อเห็นว่าพวกเธอใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย สำหรับปัญหาเล็กน้อยนี้ เธอเรียกผู้ชายที่มีความแข็งแกร่งของเธอมาจัดการพวกเขา อะไร คุณถามว่าสามีของฉันทำไมเชื่อฟังได้ขนาดนี้? จงหวี่เดินเข้ามาด้วยสายตาเร่าร้อน “คุณภรรยา ตราบใดเจ้ายอมอยู่เคียงข้างข้าตลอดชีวิต ถึงเอาชีวิตข้าไปข้าก็ยอม”

ฉันไม่มีทางยอมแพ้

ฉันไม่มีทางยอมแพ้

โรแมนติก

5.0

เมื่อเธออายุยี่สิบ ชิงฉือได้รู้ว่าตนเองไม่ใช่ลูกโดยกำเนิดของตระกูลต้วน เธอถูกลูกสาวที่แท้จริงของตระกูลต้วนล้อมกรอบ จนถูกพ่อแม่บุญธรรมไล่ออกจากบ้านและกลายเป็นตัวตลกในเมือง เมื่อเธอกลับไปหาพ่อแม่ชาวนา จากนั้นก็พบว่าบิดาผู้ให้กำเนิดของเธอเป็นคนที่รวยที่สุดในเมืองเจียงเฉิงส่วนพี่ชายของตนเองเป็นอัจฉริยะในแวดวงต่างๆ ทุกคนมองดูเด็กสาวตัวเล็กคนนี้ด้วยความเห็นใจและถือว่าเธอเป็นสมบัติล้ำค่า แต่ค่อยๆ พบว่า... ที่แท้ว่าน้องสาวเป็นคนมากความสามารถ? อดีตแฟนหนุ่มผู้น่ารังเกียจหัวเราะเยาะ "อย่ามาตามเซ้าซี้ไม่เลิก ฉันมีแต่เมียนเมียนอยู่ในใจ!" คนใหญ่แห่งเมืองหลวงปรากฏตัว "เมียฉันจะเห็นหัวนายเหรอ?"

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
สาวน้อยหัวใจไต่รัก
1

บทที่ 1 ตอนที่ 1

25/02/2022

2

บทที่ 2 ตอนที่ 2

25/02/2022

3

บทที่ 3 ตอนที่ 3

25/02/2022

4

บทที่ 4 ตอนที่ 4

25/02/2022

5

บทที่ 5 ตอนที่ 5

25/02/2022

6

บทที่ 6 ตอนที่ 6

25/02/2022

7

บทที่ 7 ตอนที่ 7

25/02/2022

8

บทที่ 8 ตอนที่ 8

25/02/2022

9

บทที่ 9 ตอนที่ 9

25/02/2022

10

บทที่ 10 ตอนที่ 10

25/02/2022

11

บทที่ 11 ตอนที่ 11

26/02/2022

12

บทที่ 12 ตอนที่ 12

26/02/2022

13

บทที่ 13 ตอนที่ 13

26/02/2022

14

บทที่ 14 ตอนที่ 14

26/02/2022

15

บทที่ 15 ตอนที่ 15

26/02/2022

16

บทที่ 16 ตอนที่ 16

26/02/2022

17

บทที่ 17 ตอนที่ 17

26/02/2022

18

บทที่ 18 ตอนที่ 18

26/02/2022

19

บทที่ 19 ตอนที่ 19

26/02/2022

20

บทที่ 20 ตอนที่ 20

26/02/2022

21

บทที่ 21 ตอนที่ 21

26/02/2022

22

บทที่ 22 ตอนที่ 22

26/02/2022

23

บทที่ 23 ตอนที่ 23

26/02/2022

24

บทที่ 24 ตอนที่ 24

26/02/2022

25

บทที่ 25 ตอนที่ 25

26/02/2022

26

บทที่ 26 ตอนที่ 26

27/02/2022

27

บทที่ 27 ตอนที่ 27

27/02/2022

28

บทที่ 28 ตอนที่ 28

27/02/2022

29

บทที่ 29 ตอนที่ 29

27/02/2022

30

บทที่ 30 ตอนที่ 30

27/02/2022

31

บทที่ 31 ตอนที่ 31

27/02/2022

32

บทที่ 32 ตอนที่ 32

27/02/2022

33

บทที่ 33 ตอนที่ 33

27/02/2022

34

บทที่ 34 ตอนที่ 34

27/02/2022

35

บทที่ 35 ตอนที่ 35

27/02/2022

36

บทที่ 36 ตอนที่ 36

27/02/2022

37

บทที่ 37 ตอนที่ 37

28/02/2022

38

บทที่ 38 ตอนที่ 38

28/02/2022

39

บทที่ 39 ตอนที่ 39

28/02/2022

40

บทที่ 40 ตอนที่ 40

28/02/2022