Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
5.0
ความคิดเห็น
198.6K
ชม
67
บท

แมทธิวถูกบังคับให้แต่งงานกับมะลิชายหนุ่มเฝ้าบอกทุกคนรวมทั้งตัวเองว่าไม่เต็มใจและชิงชังแม่เจ้าสาวเด็กเป็นที่สุดแต่สุดท้ายก็แพ้หัวใจตัวเองรักผู้หญิงที่ตัวเองบอกว่าเกลียดจนหมดใจ “คุณแมทธิว...!” หล่อนอุทานและหันกลับหลังไปมอง ก็ได้เห็นผู้ชายที่หล่อนคิดถึงทุกลมหายใจยืนอยู่ เขาใช้สะโพกพิงกับต้นเสาทรงโรมันเอาไว้ ขณะจ้องมองหล่อนด้วยสายตาดูแคลน “เก่งแบบนี้นี่เอง ฉันถึงได้ดิ้นหนีบ่วงวิวาห์ของเธอไม่หลุด” เขาเดินเข้ามาหา กลิ่นไออำมหิตที่แผ่ซ่านมาจากเรือนกายกำยำเขย่าโสตประสาทของหล่อนให้สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง มะลิขยับตัวถอยหลังหนี แต่แมทธิวคว้าเอาไว้ซะก่อน ร่างอรชรปลิวราวกับเศษฝุ่นเข้าไปในอ้อมแขนทรงพลังนั้นเต็มแรง “ปล่อยค่ะ...” “ทำไม... ดิ้นทำไม ในเมื่อเป็นเธอไม่ใช่หรือที่ต้องการให้เราจบกันแบบนี้” เขาหัวเราะยิ้ม มองหล่อนด้วยสายตาประกาศศึก มะลิตัวสั่นเทา อยากจะดิ้นรนอยากจะขัดขืนแต่เรี่ยวแรงของหล่อนไม่เคยมีเลยเวลาอยู่ใกล้ชิดกับผู้ชายคนนี้ ผู้ชายที่ขโมยทุกอย่างไปจากหล่อน แม้กระทั่งลมหายใจ “ไม่ใช่นะคะ... มะลิไม่ได้ต้องการแบบนี้...” เขาไม่เชื่อ ในสายตาของเขาไม่มีร่องรอยคล้อยตามคำแก้ตัวของหล่อนเลย มะลิน้ำตาซึมเมื่อแมทธิวใช้ความแข็งแรงกว่าดันร่างของหล่อนให้เข้าไปกระแทกเข้ากับกำแพงที่ใกล้ที่สุด ขณะที่ร่างของเขาทาบเข้ามาประกบ เนื้อตัวทุกสัดส่วนเบียดเคล้ากันจนไม่เหลือช่องว่าง “เธอมันก็แค่ผู้หญิงแพศยา นักขุดทอง ผู้หญิงที่จ้องแต่จะงาบผู้ชายที่มีเงิน... และขอบอกเอาไว้นะว่าสิ่งที่เธอคิดว่ามันคือสวรรค์น่ะ...” คนตัวโตเค้นเสียงลอดไรฟันขาวสะอาดออกมา ใบหน้าหล่อลากดินเต็มไปด้วยเปลวไฟแห่งโทสะ “แท้จริงแล้วมันคือนรกต่างหาก... และฉันนี่แหละจะเป็นคนพิพากษาเธอเอง เตรียมตัว เตรียมใจลิ้มรสของคำว่านรกเอาไว้ได้เลย เพราะเธอจะได้ซาบซึ้งกับมันทั้งๆ ที่ยังมีลมหายใจอยู่แน่นอน”

บทที่ 1 ตอนที่ 1

คฤหาสน์หรูสไตล์โคโลเนียลตั้งอยู่บนอาณาจักรกว้างขวางถึง 15 เอเคอร์ทางตอนใต้ของกรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร คฤหาสน์หลังนี้เป็นคฤหาสน์สีขาวทั้งหลัง ชวนตะลึงด้วยวิวทิวทัศน์ของเมืองลอนดอนและทะเลสาบที่ถูกจำลองขึ้นมาได้อย่างเหมือนจริง ในขณะที่ด้านหน้ามีแม่น้ำเทมส์เป็นที่เปรียบประดุจดั่งสายเลือดของคนอังกฤษไหลผ่าน ด้านข้างมองเห็นลอนดอนอายหรือมิลเลเนียลวีลได้ไม่ยากเย็นนัก ทุกอย่างดูเหมาะสมและลงตัวอย่างที่สุด แต่ทำไมนะ ทำไมมะลิกลับมีความรู้สึกว่ามันยังไม่ถูกต้อง มันยังมีอะไรผิดที่ผิดทางอยู่

ก็ตัวหล่อนยังไงล่ะ หญิงสาวบอกตัวเองอย่างขมขื่น ตัวของหล่อนเองที่ผิดที่ผิดทางมาตลอด ผู้หญิงที่ต่ำยิ่งกว่าเศษขยะในถัง ผู้หญิงที่ไร้ค่าจนแทบไม่สามารถเงยหน้าขึ้นมองแผ่นฟ้ากว้างได้เต็มตา ผู้หญิงที่สกปรกยิ่งกว่าหนูโสโครกเสียอีก สายตาของแมทธิว บราวน์บอกแบบนั้นทุกครั้งที่จ้องมองมายังหล่อน

ความเจ็บปวดไหลพล่านไปตามกระแสเลือดอย่างรุนแรง น้ำตาแห่งความอัปยศอดสูซึมออกมาคลอเบ้า พยายามจะไม่ร้องไห้ พยายามจะไม่เสียใจ แต่ก็ทำไม่ได้ ทำไม่ได้เลยจริงๆ เมื่อสายตาของแมทธิวที่มองมานั้นมันตอกย้ำว่าหล่อนควรอยู่ตรงไหน อยู่ตรงไหนในคฤหาสน์หรูแห่งนี้

ไม่มีสิทธิ์ที่จะเป็นจ้าวหัวใจของเขาได้ เป็นได้แค่เพียงผู้หญิงไร้ค่าที่เขาไม่มีทางปฏิเสธได้เท่านั้น ผู้หญิงแพศยา ผู้หญิงละโมบ ผู้หญิงที่ร้ายกาจยิ่งกว่าแม่สาวนักขุดทองก็คือหล่อน นี่แหละคือสิ่งที่หล่อนเป็นในสายตาของแมทธิว บราวน์

น้ำตาที่พยายามจะซ่อนเอาไว้ทะลักออกมาลวกแก้มนวลอย่างสุดกลั้น สาวน้อยสะอื้นไห้เบาๆ และก็ต้องรีบยกมือขึ้นป้ายมันทิ้งอย่างลนลานเมื่อเสียงฝีเท้าของใครบางคนดังขึ้นด้านหลัง เสียงเท้าหนักๆ แบบนี้ไม่มีทางเป็นใครไปได้นอกจาก...

หญิงสาวหมุนตัวกลับมาแล้วก็พบว่าคนที่ยืนด้านหลังคือแมทธิว บราวน์ ผู้ชายที่ฝังแน่นอยู่ในสมองของหล่อนราวกับถูกติดด้วยกาวตราช้าง ทุกลมหายใจของหล่อนมีแต่เขา มีแต่ผู้ชายหล่อลากไส้แต่สายตาแสนดุดันคนนี้เพียงคนเดียวเท่านั้น ไม่รู้หรอกว่าหลงรักเขาได้ยังไง หลงรักตั้งแต่เมื่อไหร่ พอมารู้ตัวอีกทีก็มีเขาอยู่เต็มหัวใจเสียแล้ว สลัดยังไงก็ไม่ยอมออก เขาฝังแน่นฝังลึกและกัดกินไปทั้งจิตวิญญาณของหล่อนจนหมดสิ้น ไม่เหลืออะไรให้หล่อนภาคภูมิใจเลยแม้แต่นิดเดียว

“คุณแมทธิว...”

“อย่ามาทำหน้าดีใจแบบนั้น”

น้ำเสียงถือตัวของเขายิ่งตอกย้ำว่าเขานั้นเกลียดชังขยะแขยงในตัวของหล่อนมากแค่ไหน มะลิก้มหน้าซ่อนน้ำตาที่กำลังจะทะลักออกมาเอาไว้อย่างสุดกำลัง ก่อนจะฝืนตอบออกไปด้วยน้ำเสียงที่สั่นเทาจนน่าเวทนา

“มะลิไม่ได้ดีใจ...”

“แล้วยิ้มทำไม อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ว่าไอ้เรื่องบ้าๆ นี่เป็นความคิดของใคร...”

ในสายตาของเขาหล่อนไม่มีความดีเลยแม้แต่น้อย ทุกอย่าง... ทุกอย่างที่เกิดขึ้นหล่อนผิดมาตลอด ผิดตั้งแต่เหยียบย่างมาบนผืนแผ่นดินของอังกฤษแล้วล่ะ ผิด... ที่มาเจอเขาที่นี่ และก็ผิดที่จะต้องกลายเป็นเจ้าสาวนอกหัวใจของเขา

“มะลิขอโทษค่ะ คือมะลิ...”

“หุบปากซะ ฉันไม่อยากฟังคำพูดของผู้หญิงแพศยาแบบเธออีก” เขาจ้องเขม็งมองมาที่หล่อน กระแสความชิงชังพุ่งพล่านออกมาจากดวงตาคมกริบนั้นจนหล่อนต้องเมินหน้าหนี เจ็บปวดจนแทบจะกระอักออกมาเป็นเลือด

“มะลิ... มะลิขอโทษ”

“ก็บอกแล้วไงว่าไม่ต้องขอโทษแล้ว เพราะสิ่งที่เธอต้องทำในตอนนี้ก็คือรองรับอารมณ์เถื่อนของฉันให้สุดความสามารถก็แล้วกัน”

ชายหนุ่มตวาดใส่หน้าหล่อนเสียงเกรี้ยวกราด ทุกอณูเนื้อของเขาถูกห่อหุ้มด้วยโทสะร้าย เปลวไฟเผาไหม้อยู่ในดวงตาคมกริบ มะลิน้ำตาทะลักออกมาอย่างสุดกลั้น กายสาวสั่นระริกขณะลนลานถอยหลังหนีเมื่อพ่อตัวโตขยับเข้ามาหาด้วยท่าทางคุกคามไม่ผิดจากเสือร้ายที่พร้อมจะขย้ำเหยื่อไร้ทางสู้

“แล้วเธอจะรู้ว่า...มัจจุราชที่ว่าร้ายน่ะ ยังร้ายน้อยกว่าฉันเสียอีก...”

ทำไมหล่อนจะไม่รู้ล่ะ ทำไมหล่อนจะไม่ซาบซึ้งว่าแมทธิว บราวน์ร้ายกาจแค่ไหน โดยเฉพาะกับหล่อน กับผู้หญิงที่เขาเกลียดเข้าไส้แบบหล่อน มะลิสะอื้นไห้ด้วยความเจ็บช้ำ พลางยกมือขึ้นป้ายน้ำตาทิ้งเมื่อเห็นเดซี่เดินเข้ามาสมทบ

“ทำอะไรน้องอีกล่ะแมทธิว ดูสิตาแดงเชียว”

คนถูกเรียกกระแทกลมหายใจออกมาก่อนจะหันไปตอบมารดาบังเกิดเกล้าของตัวเองด้วยน้ำเสียงที่ทั้งต่ำทั้งลึกบอกให้รู้ว่าข่มโทสะเอาไว้แค่ไหน

สำออย บีบน้ำตา เจ้ามารยา นี่แหละสิ่งที่แม่ดอกมะลิกำลังแสดงอยู่ นึกว่าเขาตามเกมของหล่อนไม่ทันหรือไง พอเห็นแม่ของเขาเดินเข้ามาก็น้ำตาร่วงราวกับนักแสดงเจ้าบทบาท ทุเรศสิ้นดี ผู้หญิงอย่างนี้น่ะหรือจะมาเป็นเมียเป็นแม่ของลูกเขา ไม่มีทาง!

“ผมจะไปทำอะไรลูกสะใภ้คนดีของคุณแม่ได้ล่ะครับ เธอเก่งจะตายไป” แม้แต่ตอนนี้เขาก็ยังไม่ละเว้นหล่อน ยังเหยียดหยามเย้ยหยันให้หล่อนต่ำต้อยยิ่งกว่าเศษหญ้าใต้ฝ่าเท้าของเขาเสียอีก มะลิป้ายน้ำตาทิ้งก่อนจะปั้นยิ้มขมขื่นออกมา

“ไม่มีอะไรหรอกค่ะคุณป้า มะลิแค่... ฝุ่นเข้าตา...”

นึกแล้วเชียวว่าจะต้องแสดงบทนางเอกแบบนี้ ฝุ่นเข้าตา แมทธิวหยันเยาะอยู่ภายในอก มองแม่ดอกมะลิที่ตีบทนางเอกเจ้าน้ำตาแตกกระจุยด้วยความดูแคลน ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าแม่นี่จะเล่นละครได้เก่งฉกาจถึงเพียงนี้ เก่งชนิดที่เรียกได้ว่าหากเขาไม่รู้เช่นเห็นชาติของหล่อนเสียก่อน คงเชื่อสนิทใจเลยว่าเจ้าหล่อนเป็นคนดี น่าสงสาร และน่าทะนุถนอม

“โธ่หนูมะลิของป้า... อย่าเสียใจเลยนะเพราะสักวันเจ้าคนที่บอกว่าเกลียดหนูนักเกลียดหนูหนาจะต้องมาคุกเข่าขอความรักจากหนูเชื่อป้าสิ”

เดซี่ดึงร่างอรชรของมะลิเข้ามากอดอย่างรักใคร่ พลางจ้องมองหน้าลูกชายอย่างตำหนิติเตียน แต่พ่อเจ้าประคุณหาสนใจที่ไหน ยังคงแค่นยิ้มหยันออกมาไม่สร่างซา แถมยังปากดีโจมตีลูกสะใภ้ของหล่อนไม่หยุดเสียอีก

“อย่าหวังว่าจะเป็นผมนะครับ เพราะสิ่งใดที่ผมเกลียด... ผมก็จะเกลียดมากขึ้นทุกวินาที ไม่มีทางเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นได้”

มะลิเจ็บปวดกับคำพูดบาดลึกของแมทธิวยิ่งนัก แต่ก็ไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้นอกจากสะอื้นไห้เงียบๆ กับอกของเดซี่ต่อไป

เดซี่มองมะลิอย่างสงสาร ก่อนจะซัดลูกชายตัวแสบกลับไปอย่างไม่ปรานี “แล้วแม่จะคอยดู จะคอยดูวันที่ลูกแพ้หัวใจตัวเอง และวันนั้นอย่ามาให้แม่ช่วยก็แล้วกัน”

“ผมว่าคุณแม่ขึ้นสวรรค์ไปสักร้อยปีแล้ว เรื่องน่าสะอิดสะเอียนแบบนั้นก็คงไม่มีทางเกิดขึ้น”

ไหล่กว้างทรงพลังของแมทธิวไหวน้อยๆ อย่างไม่แยแส ขณะเดินผิวปากตรงไปยังประตูทางออกห้องรับแขก แต่เหมือนคิดอะไรได้จึงหยุดเดิน

“ผมให้เวลาห้านาทีนะครับ ถ้าลูกสะใภ้คนดีของคุณแม่ยังไม่ไปที่รถ ผมจะไม่รอ...”

แล้วร่างสูงใหญ่ในชุดลำลองสีเขียวขี้ม้าก็ก้าวยาวๆ ออกไปจากห้องรับแขกกว้าง เดซี่มองตามไปด้วยสายตาอ่อนอกอ่อนใจ

“ไอ้ลูกคนนี้มันปากจัดติดใครนะ”

เดซี่พึมพำก่อนจะดันร่างของมะลิที่สะอื้นเบาๆ กับอกของตัวเองให้ออกห่าง ยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาให้อย่างอ่อนโยน

“หนูมะลิ... เชื่อป้านะว่าสักวัน แมทธิวจะต้องรักหนู...”

มันไม่มีทางเป็นไปได้ ไม่มีทางเป็นอย่างที่เดซี่กำลังบอกได้ แต่หล่อนก็ไม่มีทางปริปากพูดออกไปให้ผู้มีพระคุณไม่สบายใจหรอก หล่อนยิ้ม ใช่ ต้องยิ้มกว้างเท่านั้น แม้ว่าภายในใจจะรวดร้าวทรมานสักแค่ไหนก็ตาม

“ความดีของหนูจะทำให้หัวใจที่แข็งกระด้างของเจ้าแมทธิวมันอ่อนลง เชื่อป้านะ...”

ไม่มีทางเลือกอื่นใดอีก นอกจากพยักหน้ารับน้อยๆ มือบางยกขึ้นป้ายน้ำตาทิ้งอย่างรวดเร็วเมื่อมันทำท่าจะไหลออกมาประจานความเจ็บปวดของหล่อนอีก

“มะลิจะพยายามค่ะ”

“ขอบคุณมากนะหนูมะลิ ถ้าลูกสะใภ้ของป้าคือหนูมะลิ ป้าคงตายตาหลับ”

หญิงสาวได้แต่ฝืนยิ้มแห้งแล้งมอบให้ ก่อนจะก้มหน้าซ่อนความเจ็บปวดเอาไว้ภายในอกด้วยการมองปลายเท้าของตัวเอง เดซี่ยกมือขึ้นลูบศีรษะทุยสวยของเด็กสาวตรงหน้า

“ไปเถอะ ขอให้สนุกกับการท่องเที่ยวครั้งนี้นะจ๊ะ”

ความรู้สึกของหล่อนช่างห่างไกลจากคำว่าสนุกเหลือเกิน แต่ก็ไม่สามารถแสดงมันออกไปได้ นอกจากยิ้ม ยิ้มอย่างเดียวเท่านั้น

“ค่ะคุณป้า...”

“งั้นไปเถอะ เดี๋ยวพ่อลูกชายอารมณ์ร้อนของป้าจะอาละวาดใส่ถ้าไปช้า”

และมันก็เป็นอย่างที่เดซี่คาดเดาไว้จริงๆ เมื่อพอหล่อนพาร่างบอบบางของตัวเองก้าวขึ้นมาบนรถเท่านั้นพ่อคุณพ่อทูนหัวก็เริ่มต้นชวนลงสนามสงครามทันที

“คิดว่าเป็นใครกัน ถึงให้ฉันนั่งรอนานขนาดนี้”

“คือมะลิ”

“เลิกติดอ่างได้ไหมเวลาอยู่ต่อหน้าฉันน่ะ ทำไม... บทนางเอกที่เขียนเอาไว้เขาให้แกล้งทำเป็นติดอ่างตลอดเวลาที่อยู่ต่อหน้าว่าที่ผัวหรือไง ใช่ไหม แม่ดอกมะลิ”

เขาหยามหยันเสียงกระด้าง มองหล่อนอย่างชิงชัง มะลิน้ำตาซึมขยับกายชิดประตูฝั่งตัวเองอย่างสุดความสามารถ

“ไม่ใช่นะคะ... มะลิไม่ได้เป็นแบบนั้น...”

“รู้ไหมว่าไม่มีผู้ชายดีๆ ทีไหนอยากได้เธอเป็นเมียหรอก หากไม่ถูกบังคับน่ะ”

น้ำตาที่ซ่อนเอาไว้ทะลักออกมาอาบแก้ม เขาขยับเข้ามาใกล้ มองอย่างชิงชังจนคนถูกมองหัวใจแทบแหลกสลาย

“น่าขยะแขยงที่สุด...”

“มะลิขอโทษ... มะลิขอโทษ”

“เก็บคำขอโทษของเธอไปใช้กับไอ้หน้าโง่คนอื่นเถอะ เพราะฉันฉลาดพอที่จะรู้ว่าทุกคำพูดที่เล็ดลอดออกมาจากปากของเธอนั้นมันปลิ้นปล้อนแค่ไหน...”

แล้วรถสปอร์ตคันงามก็พุ่งทะยานไปข้างหน้าอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยร่างเล็กถลาไปด้านหน้าจนศีรษะแทบจะชนกับกระจกหน้ารถ มือบางลนลานคว้าเข็มขัดนิรภัยมารัดรอบกาย ก่อนจะปล่อยให้ตัวเองค่อยๆ ล่วงลงสู่ก้นเหวแห่งความทุกข์ทรมานอย่างไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้

เจ็บปวดหรือเกินกับความเกลียดชังที่แมทธิว บราวน์มอบให้ เขาเกลียดหล่อน เกลียดหล่อนยิ่งกิ้งกือไส้เดือนและแน่นอนว่าเขาจะเกลียดหล่อนไปจนวันตาย

อ่านต่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

หนังสืออื่นๆ ของ เนื้อนวล

ข้อมูลเพิ่มเติม
บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ