อาญาสีชมพู

อาญาสีชมพู

SHASHAwriter

5.0
ความคิดเห็น
12K
ชม
36
บท

ทายาทตระกูลดังอย่างพฤกษ์ ผู้ไม่เคยถูกปฏิเสธและทำให้ผิดหวังแม้แต่เรื่องเดียวกลับถูกเด็กสาวบ้านนอกที่ชื่อน้องเหนือหักหน้าด้วยการไปหลงใหลชื่นชมอริของตนเองอย่างเชียร ใส ซื่อ บริสุทธิ์ผุดผาดนั่นมารยาชัดๆ เมื่อถึงแก่เวลาเขาจึงตามมาลงอาญากับเธอ แต่ไฉนเลยถึงกลายเป็นอาญาสีชมพูไปได้ ใครคาดหวังนางเอกใสซื่อบริสุทธิ์ผุดผาดเงียบหงิมสนิมสร้อย ‘อาญาสีชมพู’ ไม่มีให้คุณอย่างแน่นอน ทำไมแบบนั้น... ฝากติดตามด้วยนะคะ ##### เธอหลับตาลงทันทีพร้อมกับเอ่ยปากยอมรับด้วยหัวใจอันห่อเหี่ยวแห้งแล้งถึงที่สุด “นานแค่ไหน กับการเป็นผู้หญิงลับๆของคุณ” “เดือนเดียวก็หรูแล้ว ปกติผมไม่ชอบใช้อะไรซ้ำๆเกินสามครั้ง” “เดือนเดียว?” เธอทวนเขาเสียงเบาหวิว หมดสิ้นศรัทธาในตนเองถึงที่สุด “อ้อ นับวันเอาดีกว่า ต้องมาเป็นเวลาสามสิบวัน เผื่อวันไหนคนหัวเสเกิดเบี้ยวไม่มา ผมจะได้ไม่เสียเปรียบ” เธออยากตะโกนใส่หน้าเขาเสียตอนนี้ วินาทีนี้ว่าเขาไม่มีทางเสียเปรียบเลยแม้แต่นิดเดียว มีแต่ได้กับได้ แล้วนิ่งรับชะตากรรมอันแสนโหดร้าย ก่อนตอบออกไปด้วยเสียงสั่นเทา “ก็ได้ ฉันยอมรับข้อเสนอทุเรศๆนั่นแล้ว”

บทที่ 1 บทนำ

“คุณปภาณิน เชิญด้านในค่ะ”

หญิงสาวเจ้าของชื่อปิดหน้าจอโทรศัพท์ในมือของตนเองลง เมื่ออ่านข่าวกอซซิปของวงสังคมชั้นสูงจบพอดิบพอดี

ชายหนุ่มหญิงสาวคู่ในภาพข่าวกำลังมีข่าวดีกันในเร็ววันนี้ และอาจเป็นปลายปีที่จะมีงานมงคลสมรสยักษ์ใหญ่ปิดท้ายให้ได้ตื่นตาตื่นใจกัน

เธอกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากเต็มที ดึงสติมาอยู่กับสิ่งที่เพิ่งได้ยินเมื่อครู่ เสียงขานเรียกนั่นบอกว่าเธอกำลังจะได้พบกับเขาแล้ว หวังว่าครั้งนี้จะไม่เก้อเหมือนเมื่อสองครั้งแรกนั่นหรอกนะ

พฤกษ์ คือชื่อของเขา ที่ซึ่งครองตำแหน่ง Asia CEO Awards สามปีซ้อน นอกจากบริหารงานเก่งฉกาจแล้วเขายังเพิ่งให้ทีมทนายส่งจดหมายทวงหนี้ไปที่บ้านของเธอ พร้อมกำหนดชำระเงินต้นรวมดอกเบี้ยจำนวนสิบสองล้านภายในระยะเวลาสามสิบวัน หลังจากได้อ่านถ้อยความจบเธอรีบมาพบเขาทันทีเพื่อขอเจรจาผ่อนผันหนี้ แล้วก็ช่างตามตัวยากเหลือเกิน จนห้าวันผ่านไปแล้วเธอถึงเพิ่งได้พบเขาอย่างที่ตั้งใจ หวังไว้ไม่น้อยว่าเขาจะยอมเจรจาผ่อนผันช่วยเหลือเธอและครอบครัว

เรื่องราวระหว่างกันเมื่อสิบปีก่อนนั่น เขาน่าจะยังไม่ลืม

หญิงสาวลุกขึ้นยืนตัวตรงแหน็ว หลังเกร็งขึ้นโดยอัตโนมัติเมื่อคิดไปว่ากำลังจะได้พบหน้าเขา ใจของเธอก็เริ่มจะสั่นพอๆกับขาที่ต้องฝืนทรงตัวเอาไว้ไม่ให้ล้มพับลงไปกองที่พื้นเสียก่อน

อาคารปูนชั้นเดียวทอดยาวสู่เบื้องหน้านี้เป็นเพียงสำนักงานเล็กๆแห่งหนึ่งของพฤกษ์เท่านั้น ซึ่งสองที่แรกที่เธอต้องไปรออยู่นานค่อนวันเป็นสำนักงานใหญ่สำหรับกิจการหลักของเขา หลังจากต้องตัดใจเสียงานเสียการไปรอแต่กลับไม่ได้พบเจอตัว เพราะพนักงานเข้ามาแจ้งว่าพฤกษ์มีประชุมด่วน เธอแจ้งกลับว่ารอได้แต่แล้วกลับถูกไล่ให้กลับไปทั้งสองครั้ง

ใจชื้นขึ้นมาหน่อยที่ครั้งนี้เธอรอเขาเพียงห้าชั่วโมงเท่านั้น แถมยังไม่ถูกไล่ให้กลับแบบสองครั้งแรกอีกด้วย

ขณะเดินตามหลังพนักงานผู้นำทางพร้อมกับความคิดในหัวถึงเขา

พฤกษ์จะเปลี่ยนไปจากเดิมหรือไม่

สิบปีที่ไม่ได้พบหน้ากันเลย เขาจะสูงขึ้นอีกแค่ไหนและจะยังคงยิ้มง่าย เป็นพี่ชายช่างหยอกเย้าอย่างที่เคยไหมนะ แม้จะตามข่าวคราวของเขาอยู่ตลอดแต่ก็เป็นการเห็นทางเดียวผ่านสื่อทั้งนั้น เธอไม่มีโอกาสได้สบตาคมเข้มล้ำลึกของเขาจังๆอีกเลยตั้งแต่ครั้งนั้น

ก่อนกลืนน้ำลายลงคออย่างหนักใจขึ้นมาอีกไม่ได้ เมื่อคิดถึงเหตุการณ์ในวันที่เธอตัดสินใจทำลงไป เพราะไม่อยากให้เขากลายเป็นคนไม่เอาไหน

แม่เคยบอกเสมอ หากว่าเธอตั้งใจทำสิ่งดีดีอะไรลงไปแล้วจะได้ผลตอบแทนแบบเดียวกันกลับมา

แล้วความทรงจำพร้อมแววตาอ่อนโยนก็ฉายวาบขึ้น เธอยังจำได้ไม่ลืมเลือนว่าพฤกษ์ชอบพูดหยอกล้อแบบนี้เสมอ

‘ยิ้มหน่อยสิ น้องเหนือ พี่ชอบเวลาเรายิ้มนะรู้ไหม’

‘พี่อยากอยู่กับน้องเหนือแบบนี้ไปตลอดชีวิตเลย’

‘ขี้บ่นจังเลยนะเราน่ะ เดี๋ยวพี่จะเรียกเราว่าป้าเหนือ’

หญิงสาวคนนำทางพาเธอมาถึงห้องริมสุดที่มีประตูขนาดใหญ่หันมายิ้มให้แบบแกนๆแล้วพูดเสียงกระซิบ

“ท่านเพิ่งคอนเฟอเรนต์เสร็จค่ะ”

ปภาณิณยิ้มตอบรับไปอย่างฝืดฝืนเช่นกัน และไม่ได้พูดอะไรต่อจากนั้น เธอเป็นพวกไม่สนิทก็จะไม่ค่อยคุยอะไรด้วย หญิงสาวคนนั้นยกมือขึ้นเคาะแผ่นไม้ตรงหน้าสองสามที ถึงได้แว่วเสียงดังจากด้านในเชิงว่าอนุญาตให้เข้ามาได้ จึงเปิดประตู แย้มหน้าเข้าไปบอกก่อน

“คุณปญาณิณค่ะ”

ที่ด้านในไม่มีเสียงตอบรับอันใดกลับมา ปญาณิณเลยยิ่งใจเต้นแรงมากขึ้น ปอดของเธอนั้นดูเหมือนจะไม่ยอมสูบลมเข้าไปข้างในอีกแล้ว เลยเกิดอาการวูบวาบเห็นดาวขึ้นกะทันหัน แล้วฮึดสูดลมแรงๆเข้าปอด กระตุ้นให้พร้อมเผชิญหน้ากับเขา

เธอกำลังจะได้พบกับพฤกษ์แล้วในอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้านี้

หญิงสาวคนนำมาหลบทางเป็นเชิงบอกให้เธอก้าวเข้าไปด้านในได้เลย

ปภาณิณเม้มปากเรียกสติตนเอง ก่อนตัดสินใจเดินหน้าจนพ้นประตูไป ก็ให้เย็นยะเยือกสะท้านไปทั้งตัว อาจเป็นอุณหภูมิภายใน

ที่ตั้งไว้ต่ำกว่าปกตินั่นเอง แต่แล้วกลับพบสิ่งที่คิดว่าน่าประหวั่นพรั่นพรึงมากกว่านั้นนั่นคือสายตาคู่คมของเขาที่มองมาอยู่ตลอด

พฤกษ์นั่งไขว้ขาพิงพนักเก้าอี้บัลลังก์ตัวใหญ่มือประสานกันไว้บนหัวเข่าของเขา สายตาที่มองมาราวกับประเมินท่าทีของเธออยู่อย่างไรอย่างนั้น

เสียงปิดประตูดังก้องขึ้นทำลายความเงียบและบรรยากาศชวนอึดอัดนั้น และผู้หญิงคนที่เดินนำทางมานั่นก็หายลับไปแล้วในตอนนี้

ปญาณิณจึงได้แต่ยืนเก้ๆกังๆอย่างไม่รู้จะทำอะไรก่อน พลันเสียงเข้มงวดราบเรียบถามขึ้นอย่างห่างเหิน

“ไม่ทราบว่าต้องการพบผมทำไม”

“คือ...” อึกอักพูดอะไรไม่ออก ทั้งยังเย็นเฉียบที่ปลายมือปลายเท้าสลับร้อนหนาวเหมือนกับกำลังจับไข้

ก่อนหน้าคิดมาแล้วว่าจะเริ่มสนทนากับเขาอย่างไร แต่พอได้พบกันจริงๆ ก็ทำเอาประหม่าเสียจนสติหลุดลอยหายวับไปกับตา ได้แต่ยืนนิ่งเหมือนคนโง่เง่าคนหนึ่ง ประกอบกับสายตากดดันติดเหยียดหยันของเขาที่มองมาก็ยิ่งทำให้เธอรู้สึกอยากจะเป็นลม

พฤกษ์ไม่ได้มีท่าทีเป็นมิตรเลยสักนิดเดียว

เป็นไปได้หรือไม่ ว่าเหตุการณ์เมื่อครั้งนั้นจะทำให้เขารังเกียจเธอจนไม่อยากแม้แต่จะคุยหรือมองหน้ากันด้วยซ้ำ แต่ก็ไม่น่าจะใช่ เพราะไม่อย่างนั้น เขาคงปฏิเสธไม่ให้เธอเข้าพบเขาไปแล้วล่ะ

คิดเข้าข้างตัวเองแล้วค่อยใจชื้นขึ้นมาได้หน่อยหนึ่ง เผลอแลบลิ้นเลียริมฝีปากที่แห้งผากอันไม่ต่างไปจากในลำคอเท่าใดนัก ตั้งสติดีดีแล้วว่าออกไปอย่างที่เตรียมตัวมาแล้ว มันขลุกขลักเล็กน้อยแต่ก็จะพยายามให้การเจรจานี้ผ่านไปได้ด้วยดี และเธอไม่ควรแทนตัวอย่างสนิทสนมเหมือนที่ตั้งใจเอาไว้ ในเมื่อเขาเปิดการสนทนาแบบคนไม่เคยคุ้นเคย เธอก็ต้องกระทำตามแบบเขาบ้าง

“คือ...คือดิฉันได้รับจดหมายทวงหนี้แล้วค่ะ” เสียงที่บอกนั่นอ่อยลงจนแทบจับความไม่ได้ แล้วตัดสินใจอย่างหมดหนทาง “หากว่าดิฉันอยากจะขอ...”

“เรื่องนั้นผมสั่งเลขาให้แจ้งรายละเอียดไปแล้วนี่ ไม่ทราบว่ายังต้องการอะไร” เขาว่าเสียงเด็ดขาด สายตามองเธอนั้นเหมือนดาบคมกริบที่พร้อมจะเฉือนเนื้อของเธอออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยอยู่ตลอดเวลา

“อยากขอยืดเวลาออกไปสักระยะก่อนได้ไหมคะ”

พฤกษ์มองหน้าเธออึดใจเดียวก่อนปรากฏรอยยิ้มเย็นเยือกขึ้นที่มุมปากข้างหนึ่ง ถามราวกับใจดีแต่เปล่าเลย ปภาณิณรู้สึกได้ในน้ำเสียงเรียบเฉยว่ามันมีอาวุธร้ายซ่อนเร้นข้างในนั้น

“ทำไมผมต้องยืดเวลาออกไปด้วย”

สายตาคู่คมล้ำลึกดูราวกับเจ้าป่าที่พร้อมจะตะครุบเหยื่อ แน่นอนหากว่าพลาด เธอต้องเป็นเหยื่อที่ถูกหมายหัวอยู่แน่ๆ แล้วก็รู้ตัวว่าเธอไม่มีเหตุผลที่ฟังดูดีเลยสักข้อเดียวที่จะไปต่อรองอะไรกับเขา ในเมื่อเคยได้รับการผ่อนปรนแล้วถึงสามครั้ง แต่เพราะสถานะการเงินของครอบครัวที่มีปัญหาติดลบจนดิ่งลงเหวแบบหันหัวกลับได้ยากยิ่ง ทำให้ต้องบากหน้ามาขอเจรจานอกรอบเช่นนี้

และดูเหมือนพฤกษ์เองก็รู้ถึงจุดมืดบอดเกี่ยวกับครอบครัวของเธอดี

“ถือว่าเห็นแก่เหนือเถอะนะคะ...พี่พฤกษ์”

ในที่สุดเธอก็หลุดความพ่ายแพ้ออกมาจนได้ ใช้ความสัมพันธ์อันดีในอดีตอ้อนวอน ทั้งยังมองอย่างรอคอยความหวังจากเขา ชายหนุ่มที่วันนี้ดูสง่างาม แข็งแกร่ง ผิดจากเด็กหนุ่มในวันวานราวคนละคน

“ถ้าจะให้เห็นแก่เด็กผู้หญิงที่ชื่อเหนือ...ก็ได้”

เขาบอกมาพร้อมรอยยิ้มเย็นยะเยือกกว่าเดิม พฤกษ์ตวัดขาข้างที่ไขว้ไว้ลง ดันตัวยืนตรงแล้วปลดกระดุมสูทออกจนเห็นถึงแผงอกกำยำใต้เนื้อผ้าชั้นดีที่ด้านใน สาวท้าวมาหยุดยืนตรงหน้าเธอพร้อมกับเอ่ยปากขึ้น

“แลกกับการเป็นผู้หญิงลับๆของผม”

ในที่สุดความจริงก็กระแทกเข้าหน้าเธออย่างจัง เมื่อเขาไม่ได้เป็นพฤกษ์ที่แสนดีคนเดิมอีกต่อไปแล้ว เขายอมรับข้อเสนอก็จริงแต่มีเงื่อนไขที่ปภาณิณได้ยินแล้วถึงกับนิ่งขึงราวถูกแช่แข็งด้วยความเย็นที่เย็นจัด วินาทีนี้เองที่ร่างกายของเธอชาไปหมดรวมไปถึงหัวใจดวงเล็กๆที่เต้นรออย่างมีความหวัง

ผู้หญิงลับๆของเขาอย่างนั้นหรือ

ปภาณิณทวนคำเขาแล้วเม้มปากแน่นอย่างขุ่นเคือง หากเขายื่นข้อเสนอออกมาแบบนี้แสดงว่าเขาเองก็จำเธอได้ฝังใจไม่ต่างกัน

คงจำได้แม่นเลยสินะว่าเธอเกลียดผู้หญิงลับๆพวกนั้นและสาบานกับฟ้าฝนเอาไว้ว่าชาตินี้ทั้งชาติอาจรวมถึงชาติอื่นๆด้วย เธอจะไม่มีวันยอมเป็นผู้หญิงลับๆของใครโดยเด็ดขาด!

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ SHASHAwriter

ข้อมูลเพิ่มเติม
เมียเก่าที่เขาไม่เคยรัก

เมียเก่าที่เขาไม่เคยรัก

โรแมนติก

5.0

ภาวรีแหงนหน้าขึ้นแล้วยิ้มกวนโมโหใส่หน้าเขา "มาขวางทำไม เชยไม่สนพี่เขื่อนแล้วนะรู้ไหม ให้หย่าก็ได้เลย ไปเลย เพราะไรรู้มะ เพราะพี่เขื่อนสู้หนุ่ม ๆ ในร้านไม่ได้เลยสักคน ในนั้นถึงใจกว่าพี่เขื่อนตั้งเยอะ" ลัพธวิทย์หรี่ตามอง ถามเสียงเรียบ "ถึงใจแบบไหน" "ใหญ่กว่า อึด แล้วก็เอาเก่งกว่าพี่เขื่อน" ได้ยินเสียงตัวเองพูดจาก๋ากั่นออกไปแบบนั้นแล้วก็ให้ตกใจไม่น้อย พอได้ยินคำตอบของเธอที่หลับตาฟังก็รู้ว่าจงใจพูดจายั่วยุเขา ลัพธวิทย์ก็ค่อยหัวเราะออกมาลั่น พร้อมค่อนแคะกลับไป "น้ำหน้าอย่างเราเนี่ยหรือ กล้านอนกับผู้ชายตามบาร์" ภาวรีหน้าชาเมื่อถูกจับไต๋ได้ว่าโกหก เธอลอยหน้าลอยตาแล้วตอบเขากลับ "ทำไมจะไม่กล้า แม่เปิดห้องให้เชยลองแล้วด้วย หนุ่ม ๆ ในบาร์โฮสต์ทำให้เชยรู้แล้วล่ะว่าของพี่เขื่อนนี่เทียบชั้นกันไม่ติด แบบนั้นน่ะ..." ภาวรีพูดแล้วกวาดตาลงมองอย่างหยามเหยียด บอกต่อจนจบประโยค "น่าจะเอาไว้แค่ฉี่มากกว่านะ"

ห้องลับของคุณรัชญ์

ห้องลับของคุณรัชญ์

โรแมนติก

5.0

"ถอดชุดบนตัวเธอออกมาเดี๋ยวนี้!" "หนูทำไม่ได้..." ขวัญลดายังพูดไม่จบดีเลยว่าเธอถอดชุดที่ใส่บนตัวออกไม่ได้เพราะมันรัดมาก ๆ นี่ก็นัดกับออยลี่ ลูกของป้าเนืองไว้แล้วให้มาช่วยถอดชุด ไม่รู้น้องคนที่วานให้ช่วยเหลือจะหลับไปแล้วหรือยัง ไม่อย่างนั้นเธอคงต้องฉีกมันออกแทนการถอด แต่เจ้าของห้องลับที่ใคร ๆ พูดปากต่อปากกันว่า ห้องนี้ใครเข้ามาแล้วต้องเสว ก็ปราดเข้ามาปล้ำถอดชุดของเธอออกจนหมด แต่เพราะชุดมันรัดมาก ๆ ดลวรัชญ์ลงมือถอดไปก็สบถไปพลางด้วยอาการหัวเสีย "แต่งตัวเชี่ยอะไรวะ รู้ไหมว่ามันรัดหน้าอก รัดโหนกจนเห็นเป็นเนินนูน นึกว่าลานจอดฮอ" พอชุดถูกถอดออกจนหมด ขวัญลดาค่อยหายใจได้ลึกขึ้นจากเดิม นึกขอบคุณที่เขาช่วยเหลือเธอในครั้งนี้ แม้จะดูเป็นการช่วยที่ไม่ปกตินักก็ตามที "หนูรู้ค่ะ" "รู้แต่ก็ยังใส่" "คุณป้าบอกว่ามันมีชุดเดียว ชุดนี้เมื่อก่อนท่านตัดไว้ให้พี่โรส แต่คุณเล่นพาพี่โรสมานอน หนูก็เลย..." "หึง?" เสียงเข้มถามขัดคำตอบของเธอ ขวัญลดามองเขาแล้วได้แต่ส่ายหน้า เธอยังไม่รู้จักเลยว่า หึง อาการเป็นอย่างไร "ไม่ใช่ค่ะ หนูกำลังอธิบายเรื่องที่ว่าทำไมต้องใส่ชุดนี้" "เธอหึง" คนชอบให้ทุกอย่างหมุนรอบตัวเองอย่างดลวรัชญ์สรุปในสิ่งที่ตัวเองคิดได้ พร้อมด้วยมุมปากที่ยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม ก่อนจะเกร็งมันไว้ให้เหยียดตรงดังเดิม "และเธอเบี่ยงประเด็นนะลดา" "แล้วแต่คุณเลยค่ะ" ขวัญลดาบอกอย่างยอมแพ้ ++++++ เนื้อหานิยายเน้นอ่านเพลิน ๆ ย่อยง่าย ๆ และจบดี แฮปปี้ค่ะ

ตราบาปรัก ผู้ชายใจร้าย

ตราบาปรัก ผู้ชายใจร้าย

โรแมนติก

5.0

คำโปรย ปริญญ์เคยบอกว่ารักเธอ แต่เมื่อมีเหตการณ์บางอย่างทำให้ต้องเลิกรากันไป เขาย้อนกลับมาทำดีด้วย และขอเธอแต่งงาน หลังแต่งงานกับจินดาพรรณมาสี่ปี ปริญญ์เที่ยวคบหาผู้หญิงคนใหม่ไปเรื่อย ๆ เพื่อให้เธออับอาย ... นี่น่ะหรือความรักของเขา ตัวอย่างเนื้อหา "เดี๋ยวดา เรื่องที่เราคุยกันไว้ ดาต้องทบทวนดี ๆ ก่อน..." "พรุ่งนี้เลยปิน พรุ่งนี้ไปเจอกันตามที่ตกลงไว้ได้เลย" ปริญญ์มองเธอนิ่งอยู่เป็นนานสองนาน กว่าจะพูดอะไรได้สักคำหนึ่ง ก็ยากเย็นเต็มที "หรือไม่ ปินว่าเราลอง..." "อย่าเอาแต่พูดหลอกล่อกันแบบนี้อยู่อีกเลยปิน เราสองคนจบกันเท่านี้เถอะ ทิ้งทุกอย่างเอาไว้แค่นี้ ขอให้เลิกแล้วต่อกัน เราจะได้ไม่เกลียดกันมากไปกว่านี้ หรือปินอยากให้ดาเกลียด จนไม่ไปเผาผีกันเลย ก็ได้นะปิน" ได้ยินและได้รู้ถึงความคิดของจินดาพรรณแล้ว ในใจของปริญญ์ปวดแปลบ เสียดและเสียวไปทั้งทรวงอก เขาอึ้งจนพูดอะไรไม่ออก คิดได้ในตอนนั้นเองว่านี่เขาทำอะไรต่อมิอะไรลงไปนั้น มันแย่มาก จินดาพรรณถึงได้บอกว่าเกลียดเขาถึงขนาดนี้ ปริญญ์รู้สึกได้ถึงก้อนขม ๆ ในคอ เขาฝืนที่จะกล้ำกลืนมันลงไป แล้วขยับเท้าเพื่อถอยหลังออกมา มาได้เพียงครึ่งก้าวแล้วก็ทำอะไรไม่ถูก สายตาเจ็บปวดของเขายังคงมองไปยังจินดาพรรณ เปิดปากเพื่อจะพูดบางประโยคออกไป "แต่ดา...ปินระ...ปินรั" จินดาพรรณหมุนตัว เพื่อกลับเข้าห้อง เธอไม่อยากฟังสิ่งที่เขากำลังจะพูด แต่กลับโดนดึงตัวเข้าไปกอดเอาไว้แนบแน่น เธอไม่ได้ออกแรงดิ้น ทำเพียงปิดตาลง ซ่อนความรู้สึกเจ็บปวดเอาไว้ข้างในลึก ๆ บอกตัวเองว่าอย่าได้ถลำตัวและหัวใจไปกับภาพลวงตาของปริญญ์ อย่าได้หลงคารมของเขาอีกเป็นอันขาด บทจะหวาน ปริญญ์ก็ทำให้เชื่อได้ทั้งนั้น และเขาก็ทำเพียงเพราะต้องการให้เธอหลงเชื่อ เขาหลอกเธอซ้ำ ๆ แล้วทิ่มแทงเธอให้ผิดหวัง เจ็บปวดและเสียใจ ครั้งนี้ก็คงเหมือนกัน ปริญญ์สูดดมกลิ่นของภรรยาเข้าจมูกจนลึกสุดปอด ถูไถใบหน้าไปมาอย่างที่โหยหามาโดยตลอด พร้อมกับพึมพำที่ข้างหูของเธอ "ปินให้เวลาดาคิดอีกสามวัน ระหว่างนี้ถ้าดาเปลี่ยนใจ ก็ไม่ต้องไป แต่ถ้าดายังคิดแบบเดิม วันนั้นเราค่อยไปเจอที่บริษัทตามที่คุยไว้ แต่ระหว่างนี้ ดาต้องคิดดูดี ๆ ก่อนนะ อย่าใช้อารมณ์ตัดสินใจเด็ดขาด" จินดาพรรณถอนลมหายใจของตัวเองออกยาว ๆ เธอนี่หรือใช้อารมณ์เป็นที่ตั้ง ตลอดมามีแต่ปริญญ์ที่ทำแบบนั้น และเธอไม่ต้องการเป็นที่รองรับอารมณ์ของเขาอีกแล้ว คิดได้แบบนั้นค่อยเปิดตาขึ้น แล้วออกแรงดันตัวเองจากอ้อมกอดของเขา หันมามองที่เขาด้วยสายตาว่างเปล่า บอกออกไปตามอย่างที่ตัดสินใจเอาไว้แล้วก่อนหน้านี้ "ดาไม่ต้องคิด ไม่ต้องตัดสินใจอะไรอีกแล้วล่ะปิน ถ้าปินว่างพอ พรุ่งนี้เราก็ไปจัดการเรื่องหย่าให้เรียบร้อยได้เลย" ****************************** แนวพระเอกโบ้ ไม่ได้นอกใจ จบดีและไม่มีใครตุยค่ะ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

รอรักกลับมา

รอรักกลับมา

เนย
5.0

แต่งงานกับมู่หนานจือมาเป็นเวลาสามปี ซูป้านเซี่ยคอยดูแลและเอาใจเขามาโดยตลอด แต่สุดท้ายสิ่งที่ได้รับจากเขาคือความเย็นชาและความรังเกียจ เมื่อคนรักของมู่หนานจือกลับมา เธอก็รู้สึกว่าสามีของเธอยิ่งห่างเหินจากเธอ ในที่สุด เธอไม่สามารถทนต่ออีกต่อไปและเป็นฝ่ายเสนอให้หย่ากัน มู่หนานจือมองตามหลังซูป้านเซี่ยที่กำลังลากกระเป๋าเดินทางออกจากบ้าน ก็พนันกับเพื่อนว่า "ดูเอาเถอะ สักวันหนึ่งเธอจะต้องเสียใจและกลับมาอ้อนวอนแน่ ๆ " ซูป้านเซี่ยได้ยินก็ยิ้มอย่างเย็นชา"มู่หนานจือ ฝันไปเถอะ" ผ่านไปหลายวัน มู่หนานจือบังเอิญพบว่าอดีตภรรยาของตนฉลองการหย่าร้างในบาร์ และจากนี้ไปอีกไม่นาน เธอก็มีแฟนหนุ่มใหม่แล้วด้วย เวลานี้เอง มู่หนานจือถึงเริ่มกระวนกระวายใจขึ้นมา เพราะเขาพบว่าผู้หญิงที่เคยรักเขาอย่างเอาเป็นเอาตายนั้น ตอนนี้ดูเหมือนไม่ได้สนใจเขาอีกต่อไปแล้ว แล้วเขาควรจะทำอย่างไร

คุณหนูปกปิดตัวตนไม่ได้แล้ว

คุณหนูปกปิดตัวตนไม่ได้แล้ว

Critter
5.0

เมื่อตอนเด็ก หลินอวี่เคยช่วยชีวิตเหยาซีเยว่ที่กำลังจะตาย ต่อมา หลินอวี่กลายเป็นพืชหลังจากประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ เธอแต่งงานเข้าตระกูลหลินโดยไม่ลังเลใจและใช้ทักษะทางการแพทย์ของเธอเพื่อรักษาหลินอวี่ สองปีของการแต่งงานและการดูแลอย่างสุดหัวใจของเธอเพียงเพื่อตอบแทนบุญคุณ และเพื่อที่เขาจะให้ความสำคัญกับตัวเองบ้าง แต่ความพยายามทั้งหมดของเธอกลับไร้ประโยชน์เมื่อคนในใจของหลินอวี่กลับมาประเทศ เมื่อหลินอวี่โยนข้อตกลงการหย่ามาใส่เธออย่างไร้ความปราณี เธอก็รีบเซ็นชื่อทันที ทุกคนหัวเราะเยาะเธอที่เป็นผู้หญิงที่ถูกครอบครัวใหญ่ทอดทิ้ง แต่ใครจะไปรู้ว่า เธอคือ Moon นักแข่งรถที่ไม่มีใครเทียบได้บนสนามแข่งรถ เป็นนักออกแบบแฟชั่นที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ เป็นอัจฉริยะของแฮ็กเกอร์ และเธอยังเป็นหมอมหัศจรรย์ระดับโลก... อดีตสามีของเธอเสียใจมากจนคุกเข่าลงกับพื้นขอร้องให้เธอกลับมา ผู้เผด็จการคนหนึ่งอุ้มเธอไว้ในอ้อมแขนของเขาแล้วพูดว่า "ออกไป! นี่คือภรรยาของฉัน!" เหยาซีเยว่ "?"

ผู้บัญชาการรักซ้อนแค้น

ผู้บัญชาการรักซ้อนแค้น

Diena Beran
5.0

หลังจากแต่งงานกันสามปี เจียงหยุนถังพยายามสุดความสามารถเพื่อช่วยชีวิตสามีที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ โดยไม่คาดคิด ว่าเขาได้ละทิ้งเธอเหมือนกับขยะ รับรักแรกของเขากลับประเทศและตามใจเธอทุกอย่าง เจียงหยุนถังที่ท้อใจตัดสินใจหย่า และทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเธอที่กลายเป็นภรรยาที่ถูกทอดทิ้งจากตระกูลเศรษฐี อย่างไรก็ตาม เธอกลับเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างกะทันหันเป็นหมอเทวดาที่พบเจอยาก "Lillian"แชมป์แข่งรถที่มีฐานแฟนคลับจำนวนมาก และยังเป็นนักออกแบบสถาปัตยกรรมระดับโลกอีกด้วย ชายร้ายหญิงชั่วคู่นั้นเยาะเย้ยเธอว่า เธอจะไม่มีวันหาคู่รักได้ใ แต่ไม่คาดคิดว่าลุงของอดีตสามีของเธอ ซึ่งเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดทำกแงทัพกลับมาเพียงเพื่อขอแต่งงานกับเธอ

หยางจื้อซี เกิดใหม่ในหมู่บ้านป่าหมอก

หยางจื้อซี เกิดใหม่ในหมู่บ้านป่าหมอก

จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ
5.0

หยางจื้อซี เด็กกำพร้าจากศตวรรษที่21 ถูกองค์กรมืดเลี้ยงดูจนเติบโตและทำให้เธอกลายเป็นมนุษย์กลายพันธ์ ในระหว่างที่ถูกส่งตัวไปทำภารกิจลับ เธอกลับถูกคนในองค์กรมืดหักหลังและถูกฆ่าโดยเพื่อนสนิทที่เธอไว้ใจมากที่สุด ก่อนสิ้นใจเธอถามเพื่อนสนิทว่าทำไม แต่ไม่ได้รับคำตอบจากปากของอีกฝ่าย สิ่งที่เธอได้รับคือรอยยิ้มที่ดูถูกเหยียดหยามและ คำว่า “โง่” จากปากของอีกฝ่ายเท่านั้น หลังจากที่ตายไปแล้วสิ่งที่เธอคิดไว้ คงจะเป็นนรกหรือที่ไหนสักแห่งที่เป็นโลกหลังความตาย แต่ทว่ามันกลับไม่เป็นเช่นนัน เธอตื่นขึ้นมาในร่างของ หยางจื้อซี เด็กหญิงอายุ เพียง 13 ขวบปีในหมู่บ้านป่าหมอก ในดินแดนโบราณล้าหลังที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ คล้ายกับว่าเป็นโลกคู่ขนานที่อยู่อีกมิติหนึ่ง เธอตื่นขึ้นมาในบ้านที่ผุพัง ครอบครัวยากจน มีแม่ที่อ่อนแอและเจ็บป่วย มีพี่น้องที่อายุน้อย มีปู่ย่าตายายที่เห็นแก่ตัวและใจร้าย มีลุงที่เห็นแก่ได้ป้าสะใภ้ที่เต็มไปด้วยความละโมบโมบโลภมาก หยางจื้อซี คิดว่านับจากนี้ไปชีวิตจะต้องอยู่ได้ด้วยตัวเอง หากใครมารังแกก็แค่ทุบตี เธอไม่เชื่อว่าด้วยพลังที่ติดตัวเธอมาจากชาติที่แล้วจะไม่สามารถอยู่รอดได้ในโลกล้าหลังแห่งนี้

เลขาบนเตียง

เลขาบนเตียง

เนื้อนวล
4.9

เธอเฉิ่ม เธอเชย และเธอเป็นเลขาของเขา หน้าที่ของเธอคือเลขาหน้าห้อง แต่หลังจากความผิดพลาดในค่ำคืนนั้นเกิดขึ้น สถานะของเธอก็เปลี่ยนไปจากเดิม จากเลขาหน้าห้อง กลับกลายเป็นเลขาบนเตียงแทน... “เวลาทำงาน คุณก็เป็นเลขาหน้าห้องของผม แต่ถ้าผมเหงา คุณก็ต้องทำหน้าที่เลขาบนเตียง...” “บอส...?!” “ผมรู้ว่าคุณตกใจ ผมเองก็ตกใจเหมือนกันกับสถานะของพวกเรา แต่มันเกิดขึ้นแล้ว จะทำยังไงได้ล่ะ” “บอสคะ...” หล่อนขยับตัวพยายามจะออกจากอ้อมแขนของเขา แต่ชายหนุ่มไม่ยอมปล่อย “ว่าไงครับ” “แก้ว... แก้วว่าให้แก้วทำเหมือนเดิมดีกว่าค่ะ หรือไม่ก็ให้แก้วลาออกไป...” “ผมให้คุณลาออกไม่ได้หรอก คุณเป็นเลขาที่รู้ใจผมที่สุด อย่าลืมสิแก้ว” “แต่แก้ว...” หล่อนอยู่ในฐานะนางบำเรอของเขาไม่ได้ หล่อนทะเยอทะยานต้องการมากกว่านั้น แต่ก็รู้ดีว่าไม่มีวันจะได้สิ่งที่หวังมาครอบครอง “ทำตามที่ผมบอก ไม่มีอะไรยากเย็นเลย”

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ