เมื่อเพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อระหว่าง เกณิกา กับ ปรินทร์ ที่ชายหนุ่มกำลังจะแต่งงานกับแฟนสาว แต่ก็ดันมาเกิดเรื่องดันไปเกินเลยกับเพื่อนสนิทอย่าง เกณิกา แต่ก่อนจะเกิดปัญหา เกณิกาก็ชิงแก้ปัญหาด้วยการหนีไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ แต่เมื่อเธอกลับมา ก็มาพร้อมกับลูกสาวตัวน้อย แต่เธอไม่ยอมรับว่า ปรินทร์ คือพ่อของลูก แต่มีหรือปรินทร์จะยอม จากนั้นการเปิดปากคนปากแข็งที่สุดแสนจะเร่าร้อนก็เกิดขึ้น... “ถ้านั่งคุยไม่รู้เรื่องสงสัยจะต้องนอนคุย” ไม่พูดเปล่าปรินทร์ยังโถมตัวเข้าหาเกณิกาจนล้มลงไปบนที่นอน “ไอ้บ้า! แกจะทำอะไรน่ะ” เกณิการ้องถามเสียงสั่น “น้องปรายเป็นลูกใคร” ปรินทร์ไม่ตอบแต่กลับถามคนที่นอนหน้าตื่นอยู่ใต้ร่าง “ลูกฉันคนเดียว” เกณิกาตอบเน้นๆ ชัดๆ อย่างไม่คิดจะยอมพ่อของลูก นั่นทำให้ปรินทร์กระตุกยิ้ม “สงสัยจะลืมว่าของแบบนี้มันทำคนเดียวไม่ได้” เกณิกาไม่ตอบโต้ได้แต่นอนเม้มปากหันหน้าหนีไม่ยอมสบตาคนที่อยู่เหนือร่าง “เอะ หรืออาจจะลืม งั้นเรามาย้อนความจำกันหน่อยดีกว่าจะได้รู้ว่าใครคือพ่อน้องปรายตัวจริง” “แกจะทำอะไร” คราวนี้เกณิกาดิ้นขัดขืนสุดแรง “ทำลูกไงทำน้องให้น้องปรายสักคน” “ไม่นะ...” เกณิกาตะโกนออกมาได้แค่นั้นก็ถูกปิดปากด้วยปาก นั่นทำให้หญิงสาวถึงกับเบิกตากว้างนอนนิ่งตัวแข็งอย่างคาดไม่ถึง เปิดปากให้ชายหนุ่มสอดปลายลิ้นลุกล้ำได้อย่างง่ายดาย จะขัดขืนก็ไม่ทันเสียแล้วเมื่อเธอโดนปลุกเร้าจนในเวลาต่อมาอ่อนระทวย มือที่เคยผลักไสเลื่อนขึ้นไป
ตอนที่ 1
เรารู้จักและเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เรียนม.ต้นจนจบมหา’ลัย ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ฉันมองเขาในฐานะ ‘ผู้ชายคนหนึ่ง’ ไม่ใช่ ‘เพื่อนคนหนึ่ง’ จากนี้เส้นทางความรักของฉันมันจะเป็นยังไงนะ...
“เกม” เสียงนุ่มทุ้มที่แสนจะคุ้นเคยทำให้ร่างบางสะดุ้งโหยง ปิดไดอารี่และรีบเก็บใส่กระเป๋า ก่อนจะหันมาส่งยิ้มกลบเกลื่อน “ว่าไง” เกณิกาขมวดคิ้วมองแล้วหัวเราะในลำคอ เมื่อปรินทร์มีท่าทางขัดเขินขณะนั่งลงข้างๆ จากนั้นก็อมยิ้ม เหมือนจะพูดอะไรสักอย่างก็ไม่พูด
“นี่แกเป็นอะไร”
“มีเรื่องสำคัญจะบอก”
คำว่า ‘เรื่องสำคัญ’ บวกกับท่าทีของปรินทร์ทำให้เกณิกาคิดไปไกล ใจเต้นรัวแรง หายใจหายคอไม่ทั่วท้อง ลุ้นระทึกกับเรื่องสำคัญที่เพื่อนสนิทจะบอก
หรือวันนี้ความหวังของเธอจะเป็นจริง...ปรินทร์จะขอเธอเป็นแฟน
“เราว่าจะขอผึ้งแต่งงาน”
“อ๋อ...จะขอผึ้งแต่งงาน” เกณิกาทวนคำและเออออไปกับชายหนุ่มอย่างคนที่ยังไม่ตื่นจากภวังค์ความฝัน จนวินาทีต่อมา “ห๊า! แต่งงาน” คนที่เพิ่งตื่นจากฝันลมแล้งๆ อุทานพร้อมกับเบิกตากว้างอย่างตกใจ หัวใจที่เต้นรัวแรงเมื่อครู่หล่นตุ๊บไปอยู่ใต้ฝ่าเท้า
“ใช่ บอกแล้วไงคนนี้ฉันรักจริงหวังแต่ง” ปรินทร์บอกคล้ายกับภูมิใจกับความรักครั้งนี้มาก เขาไม่เคยคบกับผู้หญิงคนไหนนานอย่างนี้มาก่อน นานสุดก็สามเดือน อย่างไวแบบทำลายสถิติก็สามวัน แต่กับผกามาศปีครึ่งเชียวนะ เธอคนนี้แหละใช่เลย
“ไม่เร็วไปเหรอ” เกณิกาค้านอย่างใจเสีย ไม่คิดว่าชายหนุ่มจะจริงจังกับผกามาศจนถึงขั้นคิดขอแต่งงานทันทีที่เรียนจบ
แล้วคนที่แอบรักชายหนุ่มมานานตั้งแปดเก้าปีอย่างเธอละ...
“ไวไปเหรอ” ปรินทร์ถามแล้วเหมือนนิ่งคิดไปนิดหนึ่ง ทำให้เกณิกาใจชื้นขึ้นมาเล็กน้อย “ฉันว่าไม่นะ พวกเราคบกันมาตั้งปีครึ่ง...ปีครึ่งเชียวนะแก ถ้าคนนี้ไม่ใช่เนื้อคู่ฟ้าคงไม่กำหนดให้ฉันคบกับผึ้งนานขนาดนี้หรอกจริงไหม”
“ทำเหมือนเล่นขายของ” เกณิกาบอกอย่างหัวเสีย เมื่อได้ฟังเหตุผลที่ชายหนุ่มตัดสินใจที่จะแต่งงานกับแฟนคนปัจจุบัน ซึ่งเธอเองแหละที่เป็นแม่สื่อให้ทั้งสองได้คบกัน ทั้งหมดทั้งมวลนั้นก็เพราะปรินทร์ขอร้อง รวมไปถึงแฟนคนก่อนๆ ของชายหนุ่มด้วย ครั้นจะไม่ช่วยก็ทนแรงออดอ้อนไม่ไหว จึงต้องยอมทำไปช้ำใจไป
“ใครว่า ฉันจริงจังมากเลยนะเนี่ย แกว่าผึ้งเขาจะรับคำขอแต่งงานฉันไหมวะ” ท่าทางเป็นกังวลและดูจริงจังของชายหนุ่มทำให้เกณิกาเม้มปาก กลอกตาขึ้นฟ้า กะพริบตาถี่ๆ ไม่ให้น้ำตาที่รื่นขึ้นไหลออกมา
“ฉันจะไปรู้ได้ยังไง ฉันไม่ใช่เจ้าตัวนี่” ว่าพลางเก็บของและจะลุกหนี “เฮ้ย จะรีบไปไหน สอบเสร็จแล้วไม่ใช่เหรอ”
“ฉันจะกลับละ เพิ่งนึกได้ว่ามีธุระด่วน ขอให้นายโชคดี” เกณิกาอวยพรโดยไม่มองหน้า แล้วรีบวิ่งจากไปพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาราวกับทำนบแตก
เธอรู้แล้ว จากนี้เส้นทางความรักของฉันมันจะเป็นยังไง...หมดหวังแล้ว!
แม้บอกว่าจะกลับบ้าน แต่นั่นมันเป็นแค่เพียงข้ออ้าง เพื่อหลบหนีออกมาก่อนที่ปรินทร์จะเห็นน้ำตาแห่งความเสียใจของเธอ เกณิกามานั่งร้องไห้คนเดียวเงียบๆ ที่สวนสาธารณะจนกระทั่งเย็นจึงกลับบ้านในสภาพที่ตาแดงบวมช้ำ แม้แต่มารดาของเธอเห็นแล้วยังตกใจ
“เป็นอะไรลูกทำไมกลับบ้านมาสภาพนี้ละ ร้องไห้ทำไม” นางสาวิตรีถามอย่างตกใจ
“เอ่อ...ไม่มีอะไรหรอกคะ แค่วันนี้สอบเสร็จ เพื่อนมันชวนไปทานข้าวต่อ แล้วมันก็พูดเรื่องที่จะเรียนจบและจะไม่ได้เจอ ไม่ได้สนุกกับทุกคนอีก มันพูดไปร้องไห้ไป หนูอินไปหน่อยเลยเผลอร้องไห้ไปกับมันเสียยกใหญ่ ผลก็ออกมาอย่างนี้แหละคะ” เกณิกาแต่งเรื่องโกหก แล้วยิ้มแห้งๆ ให้คนเป็นแม่ที่พยักหน้ารับรู้
“แล้วไป แม่นึกว่ามีเรื่องอะไรเสียอีก พูดถึงเรื่องเรียนจบแม่ว่าจะถามอยู่พอดีว่า จบแล้วเราจะต่อโทไหม...ที่เมกาเป็นไง ป้ากับตาธีก็อยู่ที่โน่น”
“หนูขอคิดก่อนแล้วกันนะคะแม่ ตอนนี้หนูขอตัวไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะคะ...ข้าวเย็นหนูไม่ทานนะคะอิ่มแล้ว” พูดจบเกณิกาก็รีบเดินขึ้นห้อง เพราะตอนนี้ใจมันไม่อยากคิดอยากทำอะไรนอกจากร้องไห้ ร้องไห้ และร้องไห้ให้สาแก่ใจ
ถึงไม่อยากจะรับรู้ แต่คนบอกก็ตื่นเต้นดีใจที่อยากจะบอก ดังนั้นดึกๆ เสียงโทรศัพท์ของเกณิกาก็ดังขึ้น ชื่อของปรินทร์โชว์หราอยู่บนหน้าจอ คนที่นั่งพิงหัวเตียงอยู่ท่ามกลางความมืดเหลือบตามองแล้วถอนหายใจ ใจหนึ่งก็อยากรับส่วนอีกใจหนึ่งก็ไม่อยาก กลัวจะรับรู้ในสิ่งที่ไม่อยากรับรู้ แต่สุดท้ายเธอก็เลือกที่จะกดรับเมื่อปรินทร์โทรเข้าเป็นครั้งที่สอง หลังจากที่วางสายในครั้งแรกไป
“ว่าไง”
“ผึ้งตกลงจะแต่งงานกับฉันแล้ว” น้ำเสียงของความดีใจจากต้นสายมันเหมือนมีมีดมากรีดซ้ำลงบนแผลเดิม เธอเจ็บจนจุก น้ำตาที่เหือดแห้งไหลออกมาอีกครั้ง
“อึ้งเลยใช่มะ”
“อื้อ” เธอตอบกลับสั้นๆ หลับตากลืนก้อนแข็งๆ ลงคอ “ยินดีด้วยนะ” แล้วอวยพรและเผลอสะอื้นจนเสียงนั้นเล็ดลอดเข้าไปในโทรศัพท์
บทที่ 1 ตอนที่ 1.1
05/07/2022
บทที่ 2 ตอนที่ 1.2
05/07/2022
บทที่ 3 ตอนที่ 2.1
05/07/2022
บทที่ 4 ตอนที่ 2.2
05/07/2022
บทที่ 5 ตอนที่ 3.1
05/07/2022
บทที่ 6 ตอนที่ 3.2
05/07/2022
บทที่ 7 ตอนที่ 3.3
05/07/2022
บทที่ 8 ตอนที่ 4.1
05/07/2022
บทที่ 9 ตอนที่ 4.2
05/07/2022
บทที่ 10 ตอนที่ 5.1
05/07/2022
บทที่ 11 ตอนที่ 5.3
05/07/2022
บทที่ 12 ตอนที่ 6.1
05/07/2022
บทที่ 13 ตอนที่ 6.2
05/07/2022
บทที่ 14 ตอนที่ 6.3
05/07/2022
บทที่ 15 ตอนที่ 6.4
05/07/2022
บทที่ 16 ตอนที่ 7.1
05/07/2022
บทที่ 17 ตอนที่ 7.2
05/07/2022
บทที่ 18 ตอนที่ 8.1
05/07/2022
บทที่ 19 ตอนที่ 8.2
05/07/2022
บทที่ 20 ตอนที่ 8.3
05/07/2022
บทที่ 21 ตอนที่ 8.4
05/07/2022
บทที่ 22 ตอนที่ 9.1
05/07/2022
บทที่ 23 ตอนที่ 9.2
05/07/2022
บทที่ 24 ตอนที่ 10.1 (จบ)
05/07/2022
บทที่ 25 ตอนที่ 10.2 (จบ)
05/07/2022
หนังสืออื่นๆ ของ ไหมขวัญ
ข้อมูลเพิ่มเติม