Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
รอยรักที่แสนเลือนราง

รอยรักที่แสนเลือนราง

SHASHAwriter

5.0
ความคิดเห็น
3.5K
ชม
45
บท

เบญจมินทร์และวสุกัญญา ทั้งคู่เคยรักกัน จดทะเบียนสมรสด้วยกันแบบเงียบ ๆ แต่แล้วในวันที่เบญจมินทร์ตกต่ำ ล้มละลาย วสุกัญญากลับบอกให้เขาหย่าขาดจากเธอ หลังหย่าขากจากวสุกัญญา เบญจมินทร์ได้พบกับอดีตภรรยาของเขาอีกครั้งที่โรงพยาบาล เธออยู่ในชุดคลุมท้อง แทบไม่ต้องสงสัยเลยว่าเด็กที่อยู่ในท้องของเธอนั้นต้องเป็นลูกของเขาอย่างแน่นอน เนื้อหาจากบางช่วงบางตอน “พี่เบญคะ” ชื่อที่หลุดออกมาจากปากของหญิงสาวคนนั้น ทำเอาวสุกัญญาใจหาย หัวใจของเธอหยุดเต้นไปชั่วขณะ พร้อมคิดเข้าข้างตัวเองไปว่าโลกคงไม่กลมและแคบถึงขนาดนั้นหรอก โชคชะตาจะไม่เล่นตลกกับเธอใช่ไหม แต่แล้วก็พบว่าทุกอย่างกำลังล้อเล่นกับความรู้สึกของเธออยู่ ชายร่างสูงใหญ่ท่วงท่าอากัปกิริยาคุ้นเคยที่ถูกเรียกว่า ‘พี่เบญ’ กำลังตรงมาทางนี้ เขาคงเป็น ‘พี่เบญ’ ของหญิงสาวคนสวยคนนั้น แต่นั่นก็ไม่น่าหวั่นใจมากเท่ากับเขาคือ ‘เบญจมินทร์’ ผู้ซึ่งเป็นอดีตสามีของเธอ และเธอกับเขาก็เพิ่งเซ็นใบหย่า ปลดปล่อยอิสรภาพให้กันและกันไป เมื่อห้าเดือนก่อนนี้เอง

บทที่ 1 บทนำ

วสุกัญญารับยาบำรุงครรภ์จากเภสัชกรแล้วค่อยแวะเข้าห้องน้ำก่อนกลับบ้าน อายุครรภ์ของเธอมากขึ้นก็เริ่มต้องเข้าห้องน้ำบ่อยขึ้น หลังจากทำธุระเรียบร้อย ออกมาที่ด้านนอกเพื่อล้างมือเธอพบว่ามีคนยืนล้างมืออยู่ก่อนหน้า ทางนั้นมองเธอผ่านเงาสะท้อนของกระจกก่อนทักทายด้วยท่าทีเป็นมิตรทั้งยังชวนคุยอีกด้วย

“กี่เดือนแล้วคะ” เสียงถามสดใสทีเดียว เธอยิ้ม ตามองลงที่หน้าท้องนูนก่อนตอบกลับไป “หกเดือนแล้วค่ะ” ค่อยขยับไปอีกอ่างแล้วยื่นมือล้างที่ตรงนั้น

“ว้าว ใกล้จะคลอดแล้วสินะคะ คุณแม่ยังสวยอยู่เลยไม่รู้ว่าถึงคราวฉันบ้างจะสวยแบบนี้ไหมนะคะ” หญิงคนนั้นยังคงชวนสนทนาต่อ ถามว่าลูกในท้องของเธอเป็นหญิงหรือชาย เธอไม่ได้คุยอะไรมากนัก ถามคำถามมาเธอก็ตอบออกไปเท่านั้น แค่ยืนล้างมือนั่นหญิงคนนั้นก็คุยกับเธอได้หลายคำถามแล้ว วสุกัญญาไม่ได้ร่ำลาใคร เธอมักถูกเรียกว่าเป็นคนที่ไม่ค่อยมีมิตรไมตรีเท่าไรนักเพียงเพราะพูดน้อยและไม่ค่อยยิ้มให้ใครง่าย ๆ ทันทีที่เดินออกจากห้องน้ำ ก็พบว่าหญิงสาวคนที่พยายามชวนเธอคุยเดินตามหลังออกมาด้วย หล่อนเรียกหาคนที่ยืนรอด้านนอกด้วยเสียงที่ดังอยู่พอประมาณ

“พี่เบญคะ”

ชื่อที่หลุดออกจากปากของหล่อนทำเอาวสุกัญญาใจหาย หัวใจหยุดเต้นไปชั่วขณะ พร้อมคิดเข้าข้างตัวเองไปว่าโลกคงไม่กลมและแคบถึงขนาดนั้นหรอก โชคชะตาจะไม่เล่นตลกกับเธอใช่ไหม

แต่แล้วก็พบว่าทุกอย่างกำลังล้อเล่นกับความรู้สึกของเธออยู่

ชายร่างสูงใหญ่ท่วงท่าอากัปกิริยาคุ้นเคยที่ถูกเรียกว่า ‘พี่เบญ’ กำลังตรงมาทางนี้แล้ว

เขาคงเป็น ‘พี่เบญ’ ของหญิงสาวคนสวยคนนั้น แต่นั่นก็ไม่น่าหวั่นใจมากเท่ากับเขาคือ ‘เบญจมินทร์’ ผู้ซึ่งเป็นอดีตสามีของเธอ และเธอกับเขาก็เพิ่งเซ็นใบหย่าปลดปล่อยอิสรภาพให้กันและกันไปเมื่อห้าเดือนก่อนนี้เอง

เบญจมินทร์ไม่ได้ชะลอฝีเท้าของเขาลง

ชายหนุ่มเดินตรงมาทางนี้ และสายตาคมของเขาก็ไม่ได้จับจ้องไปยังคนที่เรียกหาเขาด้วยซ้ำ เพราะเอาแต่มองมาที่เธอ

สายตาของเขากวาดมองที่ชุดของเธอ มองหน้าท้องนูนดันชุดออกมาเพราะมีเจ้าตัวน้อยกำลังโตขึ้นทุกวันอยู่ในท้องของเธอนิ่ง ๆ ปากหนักของเขาเปิดออกช้า ๆ กำลังจะพูดอะไรบางอย่างแต่แล้วหญิงสาวหน้าตาสวยสดใส ท่าทางร่าเริงก็ตรงเข้าไปคล้องแขนของเบญจมินทร์พร้อมแหงนหน้าบอกด้วยรอยยิ้มสดใส

“เราไปกันเถอะค่ะ พี่หมอรอแล้วป่านนี้ รอบนี้ฝากไข่กับน้ำเชื้อเลยนะคะ ถ้าหลังจากนี้เรายังไม่ติดลูกอีกก็คงต้องให้พี่หมอช่วยเราแล้วล่ะค่ะ”

บทสนทนาของทางนั้นเสียดแทงหัวใจของวสุกัญญาไม่น้อย

วสุกัญญาไม่ได้อยู่รอฟังว่าสองคนนั้นคุยอะไร วางแผนอะไรกันอีก เธอเดินโอบครรภ์ของเธอเอง หันกลับไปยังประตูทางออกของโรงพยาบาล

ภาพตรงหน้าเธอเลือนรางแบบเดียวกับความทรงจำที่เคยมีต่อเขา หลังหย่าขาดจากกัน เธอรู้ว่าเขาเข้าพิธีสมรสต่อจากนั้นในทันที

และเธอก็ไม่อยากเป็นตัวถ่วงในชีวิตของเขา เธออยากเห็นเขาก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ตั้งแต่เบญจมินทร์คบหากับเธอเขาก็ถูกตัดขาดทุกทางจากครอบครัวของเขา ลูกชายที่เคยอยู่แบบสุขสบายต้องมาลำบาก เท่านั้นไม่พอยังถูกตัดแข้งตัดขาจนธุรกิจที่เขากับเธอช่วยกันก่อตั้งขึ้นมาเสียหายไปหลายรอบแล้ว

เธออยากให้เขาประสบความสำเร็จ เขาไม่จำเป็นต้องมีเธอก็ได้ เธอยอมปล่อยให้เขาไปพบกับความเจริญก้าวหน้า ไปตามทางที่เขาฝันและปรารถนา ได้แต่หวังว่าเขาจะไม่ตามหาเธอ และไม่ติดใจเรื่องที่เธอตั้งครรภ์นี่หรอก

หลังหย่าขาดจากกัน วสุกัญญาย้ายมาอยู่ยังอีกซีกของเมือง เธอได้อยู่บ้านเช่าเล็ก ๆ ที่มีพื้นที่มากพอให้สุนัขได้วิ่งเล่น และเตรียมรอเจ้าตัวน้อยในครรภ์ที่กำลังลืมตาดูโลกในไม่ช้านี้ วันนี้ นาทีนี้แล้วเธอไม่ค่อยได้คิดถึงตัวเองเท่าไรนัก

โรงพยาบาลที่เลือกฝากครรภ์ก็กัดฟันยอมจ่ายเพื่อให้ได้แพทย์ดี ๆ แต่ก็ไม่วายมาเจอกับเขาที่นี่อีกครั้ง หรือรอบหน้าเธอจะย้ายโรงพยาบาลดีนะ

ครุ่นคิดพร้อมกับเตรียมตัวลงจากรถที่มาส่งยังหน้าบ้านเช่า เธอชำระค่าโดยสารแล้วค่อยเปิดประตูลงไป

ดันรั้วออกแล้วล็อกมันลงอย่างเดิม เดินตรงเข้าบ้าน นั่งพักไม่ทันหายเหนื่อยดีเลย ออดที่ด้านหน้าก็ร้องดังขึ้น วสุกัญญาลุกขึ้นยืนมองจากด้านใน เห็นร่างสูงใหญ่ที่คุ้นเคยยืนตากแดดตรงนั้นก็นึกอยากให้เขาอยู่ตรงนั้นไปเลยนาน ๆ แต่ก็อดเห็นใจเขาไม่ได้ ใจของเธอไม่แข็งพอ

ขยับหลบพร้อมกับคิดไปว่า แล้วนี่เขารู้แล้วอย่างนั้นหรือว่าเธอพักที่บ้านเช่าหลังนี้

หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าเบา ๆ ไม่อยากออกไปพบหน้าเขา เมื่อครู่นี้เบญจมินทร์คงไม่ทันสังเกตเรื่องท้องของเธอหรอก คิดอย่างต้องการให้กำลังใจตัวเอง มองที่ท้องนูนนิ่งอีกอึดใจ ก่อนจะสะดุ้งเมื่อเสียงออดดังขึ้นอีกครั้ง รอบนี้ตามมาด้วยเสียงเรียกของเขา

“กัญญาเปิดประตูเดี๋ยวนี้!”

เธอไม่อยากยั่วอารมณ์ของเขาเลย คนอื่นอาจมองว่าเขานิ่ง แต่หากเขาโมโหขึ้นมาแล้วอะไรก็ฉุดคนอย่างเบญจมินทร์ไม่อยู่ เธอเคยเห็นเขาทะเลาะอย่างรุนแรงกับทนายของสถาบันการเงินที่เข้ามาเจรจากับเขาเรื่องหนี้สินของบริษัทที่เขาก่อตั้งด้วยตัวเอง แล้วทางนั้นทำยึกยักเรื่องเอกสารทางการเงิน จนเขาสติแตก ฉุนขาดตวาดไล่ออกจากบริษัททันที

แล้วก็มีอีกครั้งตอนที่เธอขอหย่าจากเขา วันนั้นเบญจมินทร์ที่ถามเธอถึงเหตุผล เสียงของดุดันมีที่เธอไม่เคยได้ยินมาก่อน

แล้วทุกอย่างก็มีแต่แย่ลง จนเธอมองดูเขาล้มเหลวไปกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว หนทางไหนที่ช่วยเขาได้ เธออยากช่วยเขาทุกทาง

ถอนใจออกมายาว ๆ ครุ่นคิดอีกครู่ใหญ่แล้วค่อยเดินออกประตูตรงไปยืนคุยกับเขาที่รั้วของบ้าน

“มีอะไรหรือคะ”

“มีอะไรอย่างนั้นหรือ” เบญจมินทร์ถามกลับเสียงหยัน สายตาคมที่แปรเปลี่ยนไปตามอารมณ์เวลาอยู่กับเธอสองคนมองลงที่ท้องนูนก่อนพูดขึ้นว่า “ยังจะถามพี่อีกว่า ‘มีอะไรหรือคะ’ ก็หนูท้อง”

วสุกัญญารู้สึกแปลบในใจที่เขาเรียกเธอด้วยคำนี้ ‘หนู’ คำเรียกที่แสดงความเป็นเจ้าของของเขากับเธอ แต่ตอนนี้ทุกอย่างจบลงแล้วและเขาไม่ควรใช้คำแบบนี้กับเธออีก

เขาและเธอสิ้นสุดพันธะทางกฎหมายต่อกันแล้ว

และเขาก็แต่งงานใหม่แล้ว

วสุกัญญาก้มลงมองที่หน้าท้องนูน ๆ ของตัวเอง ไม่รู้จะบอกว่าไม่ท้องได้ไหม ก็หลักฐานเด่นชัดออกขนาดนี้ แล้วเงยหน้าขึ้นสบตากับเขา “ใช่ค่ะ”

“กับพี่?” เขาถามต่อแทบทันทีโดยที่เธอยังพูดไม่จบเลยด้วยซ้ำ วสุกัญญาถอนหายใจก่อนจะเดินกลับเข้าบ้าน

“อย่าเดินหนีพี่แบบนี้ เราต้องคุยกันให้รู้เรื่อง”

เบญจมินทร์ไม่ง้อเรื่องประตูรั้วอีกแล้ว เขาปีนรั้วบ้านเข้ามาก่อนจะเดินไปดักที่ตรงหน้าของเธอ “แล้วไหนว่าจะไปแต่งงานกับไอ้รุ่นพี่ที่ว่าเป็นหมอนั่นไง ไม่แต่งด้วยกันแล้วหรือ ไหนว่าคบกันตั้งแต่เรายังไม่หย่า พี่ก็เปิดทางให้หนูแล้ว แล้วทำไม นี่โกหกพี่ใช่ไหม เรื่องที่คบกับหมอเวรห่าเหวอะไรนั่น ก็ไม่ใช่เรื่องจริงใช่ไหม”

เธอเบือนหน้าหลบไปมองทางอื่น ไม่เก่งพอที่จะพูดจาโกหกเขา แล้วบ่ายเบี่ยงบอกไปว่า “เรื่องของกัญญากับพี่หมอคงยังไม่ทำอะไรหรอกค่ะ ตอนนี้กัญญาต้องดูแลลูกในท้องไปก่อนจนกว่าจะคลอด”

“โกหก โกหกทุกอย่างนั่นเลยใช่ไหม หนูหลอกพี่ทำไม”

“คุณมีเรื่องอยากคุยเท่านี้ใช่ไหม”

“พี่ไม่ยอมอีกแล้ว ลูกของพี่ พี่จะดูแลเอง”

“แต่คุณหย่าขาดจากฉันแล้ว และก็แต่งงานใหม่ไปแล้ว กรุณาทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีเถอะค่ะ เราต่างคนก็มีหน้าที่ของตัวเอง ปล่อยให้เรื่องที่ผ่านมาเป็นความทรงจำระหว่างเราไปเถอะ อย่ามาฟื้นฝอยหาตะเข็บอะไรอีกเลย”

เบญจมินทร์มองเธอด้วยสายตาไม่เข้าใจ ตัดพ้อสับสนและสิ้นหวัง

เขาจะโง่แค่ครั้งนี้ ครั้งเดียว เขาจะไม่ยอมให้วสุกัญญามาหลอกเขาได้อีกแล้ว

“พี่ต้องการสิทธิ์ของพ่อ”

“ฉันให้ลูกรู้จักคุณในฐานะของคุณลุงได้นะ”

เบญจมินทร์มองเธอด้วยสายตาขุ่นเคืองไม่พอใจแต่แล้วเขาก็ทำอะไรไม่ได้สูดลมหายใจเข้าปอดตัวเองลึก ๆ แล้วยื่นข้อเสนอที่คิดว่าตัวเองได้เปรียบมากที่สุด

“อย่างนั้นพี่ก็จะให้ทนายเข้ามาคุย เรื่องลูก เรื่องของเราอีกที”

“ก่อนจะให้ทนายเข้ามาคุย คุณน่าจะบอกภรรยาของคุณก่อนนะคะ ว่าแต่คุณกล้าบอกเธอหรือว่าคุณมีภรรยามาก่อนหน้านี้แล้วน่ะค่ะ” วสุกัญญาไม่อยากพูดยั่วเขาแบบนี้เลย แต่หากเธอไม่แข็งใส่ ไม่ใช้ยาแรง ๆ กับคนแบบเบญจมินทร์ก็จะไม่ได้ผล เธอจะไล่เขาไปไหนไม่พ้น เธอรู้ว่าเขาแต่งงานกับหญิงสาวท่าทางสดใสคนนั้นแล้วหลังจากเซ็นใบหย่าให้เธอเพียงเดือนเดียว

และทั้งหมดนั่นก็ล้วนแล้วแต่เป็นประโยชน์กับเขาทั้งสิ้น

เธออยากมีส่วนช่วยกอบกู้ฐานะของเขา อยากมีส่วนช่วยฟื้นฟูธุรกิจของเขา รวมไปถึงความช่วยเหลืออีกสารพัดที่พ่อและแม่ของเขาช่วยกันหยิบยื่นให้ เพื่อที่เขาจะได้ไม่ต้องดิ้นรน ไม่ต้องถูกขัดแข้งขัดขา หรือปิดกั้นหนทางการดำเนินธุรกิจอีก

แต่พอนึกถึงสิ่งที่เขาคุยกับเพื่อน ๆ ญาติ ๆ ของเขาในวันนั้นก็ยิ่งน้อยใจที่เธอช่วยอะไรเขาไม่ได้เลย ซ้ำยังเป็นตัวถ่วงในชีวิตของเขาอีกด้วย

“ทุกอย่างที่ทุกคนทำ เขาหวังดีกับคุณทั้งนั้น” ...รวมถึงฉันด้วย

วสุกัญญาบอกด้วยเสียงแผ่วเบาลง จบประโยคก็เม้มปากไว้ให้แน่น ละประโยคหลังเอาไว้ไม่เอ่ยออกไปให้เขารู้

ในเมื่อเธอตัดสินใจแบบนี้แล้ว ก็อย่าได้แสดงท่าทางหรือพูดจารั้งเขาเด็ดขาด ไม่ว่าจะด้วยพันธะผูกพันหรือเรื่องของลูกที่กำลังจะลืมตามองโลกในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ก็ตาม

เบญจมินทร์แต่งงานใหม่ไปแล้ว ภรรยาของเขาก็จะมีลูกให้เขาได้เช่นกัน เพียงแต่ตอนนี้ความรู้สึกผิดชอบกำลังรบกวนจิตใจของเขาเท่านั้น

“แล้วถ้าคุณยังพยายามเรียกร้องให้ตัวเองเป็นพ่อของลูกในท้องฉันอีก คุณจะไม่ได้เจอลูกรวมถึงฉันอีกเลยตลอดชีวิต” เธอเน้นคำหลังพร้อมแข็งใจมองตาเขานิ่งไม่เผยความเจ็บปวดให้เขาจับได้เป็นอันขาด

เบญจมินทร์ใช้สายตาของเขามองค้นหาคำตอบจากแววตาของเธอ ก่อนที่สายตาเขาจะแปรเปลี่ยนเป็นเย็นชาในนาทีต่อมา

วสุกัญญากล้ำกลืนก้อนแข็ง ๆ ที่จุกขึ้นมาอยู่ตรงคอแล้วเดินไปเปิดประตูรั้วบ้านออก ไล่เขาให้ออกไปจากบ้านเช่าของเธอด้วยมือที่สั่นราวกับจับไข้ ความทรงจำดี ๆ ระหว่างเธอกับเขาทั้งหมดที่มีจงช่วยอยู่เป็นแรงใจ เป็นแรงขับเคลื่อนให้เธอต่อสู้บนโลกนี้ต่อไปให้ได้ด้วยเถอะ

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ SHASHAwriter

ข้อมูลเพิ่มเติม
เมียเก่าที่เขาไม่เคยรัก

เมียเก่าที่เขาไม่เคยรัก

โรแมนติก

5.0

ภาวรีแหงนหน้าขึ้นแล้วยิ้มกวนโมโหใส่หน้าเขา "มาขวางทำไม เชยไม่สนพี่เขื่อนแล้วนะรู้ไหม ให้หย่าก็ได้เลย ไปเลย เพราะไรรู้มะ เพราะพี่เขื่อนสู้หนุ่ม ๆ ในร้านไม่ได้เลยสักคน ในนั้นถึงใจกว่าพี่เขื่อนตั้งเยอะ" ลัพธวิทย์หรี่ตามอง ถามเสียงเรียบ "ถึงใจแบบไหน" "ใหญ่กว่า อึด แล้วก็เอาเก่งกว่าพี่เขื่อน" ได้ยินเสียงตัวเองพูดจาก๋ากั่นออกไปแบบนั้นแล้วก็ให้ตกใจไม่น้อย พอได้ยินคำตอบของเธอที่หลับตาฟังก็รู้ว่าจงใจพูดจายั่วยุเขา ลัพธวิทย์ก็ค่อยหัวเราะออกมาลั่น พร้อมค่อนแคะกลับไป "น้ำหน้าอย่างเราเนี่ยหรือ กล้านอนกับผู้ชายตามบาร์" ภาวรีหน้าชาเมื่อถูกจับไต๋ได้ว่าโกหก เธอลอยหน้าลอยตาแล้วตอบเขากลับ "ทำไมจะไม่กล้า แม่เปิดห้องให้เชยลองแล้วด้วย หนุ่ม ๆ ในบาร์โฮสต์ทำให้เชยรู้แล้วล่ะว่าของพี่เขื่อนนี่เทียบชั้นกันไม่ติด แบบนั้นน่ะ..." ภาวรีพูดแล้วกวาดตาลงมองอย่างหยามเหยียด บอกต่อจนจบประโยค "น่าจะเอาไว้แค่ฉี่มากกว่านะ"

ห้องลับของคุณรัชญ์

ห้องลับของคุณรัชญ์

โรแมนติก

5.0

"ถอดชุดบนตัวเธอออกมาเดี๋ยวนี้!" "หนูทำไม่ได้..." ขวัญลดายังพูดไม่จบดีเลยว่าเธอถอดชุดที่ใส่บนตัวออกไม่ได้เพราะมันรัดมาก ๆ นี่ก็นัดกับออยลี่ ลูกของป้าเนืองไว้แล้วให้มาช่วยถอดชุด ไม่รู้น้องคนที่วานให้ช่วยเหลือจะหลับไปแล้วหรือยัง ไม่อย่างนั้นเธอคงต้องฉีกมันออกแทนการถอด แต่เจ้าของห้องลับที่ใคร ๆ พูดปากต่อปากกันว่า ห้องนี้ใครเข้ามาแล้วต้องเสว ก็ปราดเข้ามาปล้ำถอดชุดของเธอออกจนหมด แต่เพราะชุดมันรัดมาก ๆ ดลวรัชญ์ลงมือถอดไปก็สบถไปพลางด้วยอาการหัวเสีย "แต่งตัวเชี่ยอะไรวะ รู้ไหมว่ามันรัดหน้าอก รัดโหนกจนเห็นเป็นเนินนูน นึกว่าลานจอดฮอ" พอชุดถูกถอดออกจนหมด ขวัญลดาค่อยหายใจได้ลึกขึ้นจากเดิม นึกขอบคุณที่เขาช่วยเหลือเธอในครั้งนี้ แม้จะดูเป็นการช่วยที่ไม่ปกตินักก็ตามที "หนูรู้ค่ะ" "รู้แต่ก็ยังใส่" "คุณป้าบอกว่ามันมีชุดเดียว ชุดนี้เมื่อก่อนท่านตัดไว้ให้พี่โรส แต่คุณเล่นพาพี่โรสมานอน หนูก็เลย..." "หึง?" เสียงเข้มถามขัดคำตอบของเธอ ขวัญลดามองเขาแล้วได้แต่ส่ายหน้า เธอยังไม่รู้จักเลยว่า หึง อาการเป็นอย่างไร "ไม่ใช่ค่ะ หนูกำลังอธิบายเรื่องที่ว่าทำไมต้องใส่ชุดนี้" "เธอหึง" คนชอบให้ทุกอย่างหมุนรอบตัวเองอย่างดลวรัชญ์สรุปในสิ่งที่ตัวเองคิดได้ พร้อมด้วยมุมปากที่ยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม ก่อนจะเกร็งมันไว้ให้เหยียดตรงดังเดิม "และเธอเบี่ยงประเด็นนะลดา" "แล้วแต่คุณเลยค่ะ" ขวัญลดาบอกอย่างยอมแพ้ ++++++ เนื้อหานิยายเน้นอ่านเพลิน ๆ ย่อยง่าย ๆ และจบดี แฮปปี้ค่ะ

ตราบาปรัก ผู้ชายใจร้าย

ตราบาปรัก ผู้ชายใจร้าย

โรแมนติก

5.0

คำโปรย ปริญญ์เคยบอกว่ารักเธอ แต่เมื่อมีเหตการณ์บางอย่างทำให้ต้องเลิกรากันไป เขาย้อนกลับมาทำดีด้วย และขอเธอแต่งงาน หลังแต่งงานกับจินดาพรรณมาสี่ปี ปริญญ์เที่ยวคบหาผู้หญิงคนใหม่ไปเรื่อย ๆ เพื่อให้เธออับอาย ... นี่น่ะหรือความรักของเขา ตัวอย่างเนื้อหา "เดี๋ยวดา เรื่องที่เราคุยกันไว้ ดาต้องทบทวนดี ๆ ก่อน..." "พรุ่งนี้เลยปิน พรุ่งนี้ไปเจอกันตามที่ตกลงไว้ได้เลย" ปริญญ์มองเธอนิ่งอยู่เป็นนานสองนาน กว่าจะพูดอะไรได้สักคำหนึ่ง ก็ยากเย็นเต็มที "หรือไม่ ปินว่าเราลอง..." "อย่าเอาแต่พูดหลอกล่อกันแบบนี้อยู่อีกเลยปิน เราสองคนจบกันเท่านี้เถอะ ทิ้งทุกอย่างเอาไว้แค่นี้ ขอให้เลิกแล้วต่อกัน เราจะได้ไม่เกลียดกันมากไปกว่านี้ หรือปินอยากให้ดาเกลียด จนไม่ไปเผาผีกันเลย ก็ได้นะปิน" ได้ยินและได้รู้ถึงความคิดของจินดาพรรณแล้ว ในใจของปริญญ์ปวดแปลบ เสียดและเสียวไปทั้งทรวงอก เขาอึ้งจนพูดอะไรไม่ออก คิดได้ในตอนนั้นเองว่านี่เขาทำอะไรต่อมิอะไรลงไปนั้น มันแย่มาก จินดาพรรณถึงได้บอกว่าเกลียดเขาถึงขนาดนี้ ปริญญ์รู้สึกได้ถึงก้อนขม ๆ ในคอ เขาฝืนที่จะกล้ำกลืนมันลงไป แล้วขยับเท้าเพื่อถอยหลังออกมา มาได้เพียงครึ่งก้าวแล้วก็ทำอะไรไม่ถูก สายตาเจ็บปวดของเขายังคงมองไปยังจินดาพรรณ เปิดปากเพื่อจะพูดบางประโยคออกไป "แต่ดา...ปินระ...ปินรั" จินดาพรรณหมุนตัว เพื่อกลับเข้าห้อง เธอไม่อยากฟังสิ่งที่เขากำลังจะพูด แต่กลับโดนดึงตัวเข้าไปกอดเอาไว้แนบแน่น เธอไม่ได้ออกแรงดิ้น ทำเพียงปิดตาลง ซ่อนความรู้สึกเจ็บปวดเอาไว้ข้างในลึก ๆ บอกตัวเองว่าอย่าได้ถลำตัวและหัวใจไปกับภาพลวงตาของปริญญ์ อย่าได้หลงคารมของเขาอีกเป็นอันขาด บทจะหวาน ปริญญ์ก็ทำให้เชื่อได้ทั้งนั้น และเขาก็ทำเพียงเพราะต้องการให้เธอหลงเชื่อ เขาหลอกเธอซ้ำ ๆ แล้วทิ่มแทงเธอให้ผิดหวัง เจ็บปวดและเสียใจ ครั้งนี้ก็คงเหมือนกัน ปริญญ์สูดดมกลิ่นของภรรยาเข้าจมูกจนลึกสุดปอด ถูไถใบหน้าไปมาอย่างที่โหยหามาโดยตลอด พร้อมกับพึมพำที่ข้างหูของเธอ "ปินให้เวลาดาคิดอีกสามวัน ระหว่างนี้ถ้าดาเปลี่ยนใจ ก็ไม่ต้องไป แต่ถ้าดายังคิดแบบเดิม วันนั้นเราค่อยไปเจอที่บริษัทตามที่คุยไว้ แต่ระหว่างนี้ ดาต้องคิดดูดี ๆ ก่อนนะ อย่าใช้อารมณ์ตัดสินใจเด็ดขาด" จินดาพรรณถอนลมหายใจของตัวเองออกยาว ๆ เธอนี่หรือใช้อารมณ์เป็นที่ตั้ง ตลอดมามีแต่ปริญญ์ที่ทำแบบนั้น และเธอไม่ต้องการเป็นที่รองรับอารมณ์ของเขาอีกแล้ว คิดได้แบบนั้นค่อยเปิดตาขึ้น แล้วออกแรงดันตัวเองจากอ้อมกอดของเขา หันมามองที่เขาด้วยสายตาว่างเปล่า บอกออกไปตามอย่างที่ตัดสินใจเอาไว้แล้วก่อนหน้านี้ "ดาไม่ต้องคิด ไม่ต้องตัดสินใจอะไรอีกแล้วล่ะปิน ถ้าปินว่างพอ พรุ่งนี้เราก็ไปจัดการเรื่องหย่าให้เรียบร้อยได้เลย" ****************************** แนวพระเอกโบ้ ไม่ได้นอกใจ จบดีและไม่มีใครตุยค่ะ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

คุณท่าน คุณนายมาหาอีกแล้ว

คุณท่าน คุณนายมาหาอีกแล้ว

Thacher
5.0

ในวันครบรอบแต่งงาน เหวินซือถูกเมียน้อยของสามีวางยาและไปมีอะไรกับคนแปลกหน้า เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ไป แต่เมียน้อยคนนั้นกลับตั้งท้องลูกของสามี ภายใต้ความกดดันต่างๆ เหวินซื่อสูญรู้สึกสิ้นหวังและตัดสินใจหย่า แต่สามีของเธอกลับไม่แยแสโดยคิดว่าเธอกำลังเล่นลูกไม้อยู่ หลังจากการหย่ากัน เหวินซือกลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงและมีผู้ชายนับไม่ถ้วนที่ตามจีบเธอ อดีตสามีไม่ยอมและขอคืนดีไปถึงที่ จากนั้นก็ว่า เธออยู่ในอ้อมแขนของคนใหญคนโตคนหนึ่ง และชายคนนั้นก็พูดอย่างสงบว่า "ดูให้ดี นี่คือพี่สะใภ้ของนาย"

เสด็จอาเลิกตามใจพระชายาสักทีเถอะ

เสด็จอาเลิกตามใจพระชายาสักทีเถอะ

Pinkygirl
4.8

ในชีวิตชาติที่แล้ว เพื่อช่วยรักแรกของตัวเอง คนชั่วสามคนได้ทำลายพลังการต่อสู้ของนาง ตัดแขนขาของนางออก ตัดเส้นเลือดของนางและปล่อยเลือดของนางไหลออกมาทั้งอย่างนั้น และทรมานนางจนตาย เมื่อเกิดใหม่ครั้งนี้ นางวางแผนอย่างรอบคอบ โดยสาบานว่าจะให้พวกเขาได้สัมผัสกับความทุกข์ทรมานที่นางเคยประสบมา! รักแรกที่ไร้เดียงสาอะไรกัน ที่จริงก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ตีสองหน้าเก่ง อยากจะไต่ขึ้นไปสูงเหรอ งั้นก็จะให้เจ้าปีนขึ้นไป ยิ่งปีนขึ้นสูงมากเท่าไร ตอนตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น! พวกสวะสมควรได้รับบาปกรรมของพวกสวะ พวกมันทำชั่วกับนางไปชั่วชีวิตหนึ่ง นางจะทำให้พวกมันไม่ตายดี พวกคนที่เจ้าเล่ห์ ตีสองหน้าเก่ง นางจะจัดการกับทุกคน! แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าในการแก้แค้นของนาง นางจะไปมีเรื่องกับเสด็จอาที่เป็นเจ้าแผนการเข้า ที่วัน ๆ ต้องการให้นางจูบและกอดเขาตลอดทั้งวัน ในขณะที่นางแก้แค้นคนชั่วนั้นยังสามารถสนิทสนมกับเสด็จอาด้วย ในความจริงแล้ว การที่เป็นผู้หญิงชั่วๆ ก็มีความสุขมาทีเดียวกว่าที่คิดเลย!

โชคชะตาของพระชายา

โชคชะตาของพระชายา

Raff Madison
3.8

ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"

ซีอีโอผู้อ่อนแอต้องง้อเธอทุกวัน

ซีอีโอผู้อ่อนแอต้องง้อเธอทุกวัน

Elsworth Underwood
5.0

เซิ่งหนานหยินเกิดใหม่แล้ว ชาติที่แล้ว เธอถูกชายชั่วหักหลัง ถูกชายเสแสร้งใส่ร้าย โดนครอบครัวสามีเล่นงาน จนทำให้เธอล้มละลายและเป็นบ้าไป ในท้ายที่สุด เธอเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ 9 เดือน แต่คนร้ายกลับทำเงินได้มากมาย และใช้ชีวิตทั้งครอบครัวอย่างมีความสุข เกิดใหม่ครั้งนี้ เซิ่งหนานหยินคิดตกอล้ว อะไรที่ว่าพระคุณช่วยชีวิต คนรักในใจอะไรกัน ล้วนไม่ต้องไปสน เธอจะจัดการชายชั่วหญิงร้าย สร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลเก่าของตนเองขึ้นมาใหม่อีกครั้งและนำตระกูลเซิ่งไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ คนที่หยิ่งมาตลอดในชาติที่แล้ว กลับเป็นฝ่ายริเริ่มมาหาเธอ "เซิ่งหนานหยิน การแต่งงานครั้งแรกผมไม่ทัน การแต่งงานครั้งที่สองก็ต้องถึงคิวผมแล้วสินะ"

ฉ่ำรักเมียนักธุรกิจ

ฉ่ำรักเมียนักธุรกิจ

แหวนก้อย
5.0

‘ทริปฮันนิมูนที่ไม่ได้มีแค่เรา แต่ฉันและเขายังมีผู้ร่วม ทริปเข้ามาสร้างสีสันอีกมากมาย’ หลังแต่งงาน ตฤณก็พาภรรยาสาววัยละอ่อนอย่างยี่หวาไปฮันนิมูนเหมือนคู่สามีภรรยาคู่อื่น ๆ แต่การเดินทางไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์กับสามีผู้เป็นนักธุรกิจในครั้งนี้ กลับทำให้ยี่หวาได้รู้ว่าตฤณสามีของเธอมีรสนิยมทางเพศแบบไหน และที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นคือ เขาทำให้เธอได้รู้จักตัวตนของตัวเองอย่างที่เธอไม่คิดว่าจะได้รู้จักด้วยซ้ำ ตฤณจะพายี่หวาไปฮันนิมูนที่ไหน อย่างไร และกับใคร ติดตามอ่านได้ใน “ฉ่ำรักเมียนักธุรกิจ” แนะนำตัวละคร ยี่หวา : สาวสวยวัย 24 ปี ผู้มีผิวขาว และรูปร่างอวบอัด แต่น่าทะนุถนอม นิสัยอ่อนหวาน ว่าง่าย แต่เป็นคนอยากรู้อยากลอง ยี่หวาเพิ่งจะรู้ว่าสิ่งที่ตฤณทำกับเธอในห้องหอนั้นมันก็แค่น้ำจิ้ม เพราะเมื่อเดินทางไปฮันนิมูนกับตฤณจริง ๆ เธอกลับได้เรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ จนเธอติดอกติดใจอย่างยากจะถอนตัว สำหรับยี่หวาแล้ว 'คืนเข้าหอที่เคยคิดว่าเด็ด ยังไม่เผ็ดเท่าทริปฮันนิมูนที่สามีหนุ่มจัดให้' ตฤณ : นักธุรกิจหนุ่มวัย 34 ปีหนุ่มลูกเสี้ยว บ้างาน แต่เวลาคลายเครียดก็สนุกสุดเหวี่ยง โดยเฉพาะเรื่องเซ็กส์ ตฤณหมั้นหมายกับยี่หวาตามความเห็นชอบของผู้ใหญ่เพราะถูกใจในความน่ารัก แต่ยิ่งไปกว่านั้นคือเพราะยี่หวาเป็นเด็กดี และไม่เคยดื้อกับเขาเลยสักครั้ง ว่านอนสอนง่ายแบบนี้สิ ถึงจะใช้ชีวิตคู่ไปด้วยกันตลอดรอดฝั่ง

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ