5.0
ความคิดเห็น
85
ชม
10
บท

เริงใจในเปลวฝัน  ขวัญสุตาต้องการได้เขามาไว้ครอบครอง...เธอจึงทำทุกวิถีทางเพื่อใกล้ชิด นภตุลย์  เพื่อเป็นสะพานทอดไปหาคนที่เธอรัก ไฉนเลยเธอจึงมาติดบ่วงเกมสวาทของเขาเเละเพื่อนของเขาเสียนี่ นิยายเรื่องนี้มีฉาก NC ความรุนเเรงทางเพศ เหมาะสำหรับผู้มีอายุ 20 ปีขึ้นไปและมีฉาก4P --------------- หากชอบนิยายเรื่องนี้สามารถกดคอมเม้นให้กำลังใจกันได้นะคะแล้วอย่าลืมเพิ่มเข้าชั้นหนังสือน้า ------------ พูดคุย Facebook : Agif ดวงดาหลา สรีสามัญ รติธร คมงิ้วเริงรำ

บทที่ 1 ขวัญสุตา

โรงแรมในเครือเวทยาไวทยานันท์

ตึกรูปทรงสี่เหลี่ยมตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้าเสียดท้องนภา แสงตะวันสาดอาบย้อมท้องคคนานต์ให้เป็นสีทองผ่องอำไพ

หมู่นกกาบินมาเกาะบนสายไฟระย้าที่โยงกันไปมาอย่างไม่รู้ทิศทางในกรุงเทพมหานคร

โรงแรมระดับห้าดาว ‘เวทยานันตา’ ในเครือไวทยากรุ๊ป บริษัทอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่ที่ลงทุนด้วยเม็ดเงินมหาศาลของคุณคุณอนันต์ เวทยาไวทยานันท์ ผู้ก่อตั้งบริษัทที่เวลานี้เข้าสู่วัยชราแล้ว

อสังหาริมทรัพย์ที่ก่อตั้งขึ้นมาขณะนี้ในมือของคุณอนันต์ไพศาล นักธุรกิจหนุ่มที่ถูกจัดว่าเป็นคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวของประเทศในตอนนี้

เหตุก็เพราะเวลานี้คุณอนันต์ไพศาลเลี้ยงลูกคนเดียว คือคุณชยุทธ เพราะภรรยาสาวได้หย่าร้างกับเขาอย่างไม่ปรานีในความสัมพันธ์ครั้งนี้ของเขาอีกต่อไป

กระนั้นอสังหาขนาดยักษ์ใหญ่ที่เขาเพียรสร้างมากลับสร้างกำไรมหาศาลให้กับคุณอนันต์ไพศาล

สื่อต่างประเทศในหลายสำนักข่าวยังพาดหัวไว้อีกว่า โรงแรม‘เวทยานันตา’ โดดเด่นเรื่องการบริการ และคุณภาพของอาหารในห้องอาหารก็ดีเยี่ยมไม่เป็นสองรองใคร

เม็ดเงินที่คุณอนันต์ไพศาลได้ลงทุนเมื่อเทียบกับเงินที่ได้รับมาคุ้มค่าถึงที่สุดในยุคที่เศรษฐกิจกำลังง่อนแง่นนั้นทำให้บริษัทและตระกูลเวทยาไวทยานันต์ก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในตระกูลที่มั่งคั่งร่ำรวยที่สุดในเวลานี้

‘กริ๊ง’ เสียงโทรศัพท์ของประธานบริษัทวัยกลางคนดังขึ้น ชายหนุ่มวัยกลางคนกดรับปลายสายทันที

“คุณอนันต์ค่ะ” เสียงปลายสายเอ่ยอย่างร้อนรนจนคนรับอดรู้สึกกังวลใจไม่ได้

“ได้เดี๋ยวฉันรีบไป” คนรับสายเอ่ยขึ้นอย่างรวดเร็วพลางคว้าสูทตัวโคร่งใหญ่ติดมือมาด้วย

รองเท้าขัดมันจนเห็นเงาวับสาวเท้าเดินออกมาจากห้องอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางความตกใจของเลขาที่อยู่หน้าห้อง

“เดี๋ยวผมกลับมา ประชุมกันไปก่อนเลย” เสียงเข้มของชยุทธเอ่ยกล่าวกับเลขาสาวหน้าห้องของเขา

“ค่ะท่านประธาน” เลขาสาวรับคำ

รถสปอร์ตคันหรูทะยานออกไปตามเส้นทางที่มันเคยไป ประธานบริษัทวัยกลางคนบึ่งรถออกไปอย่างรวดเร็วทว่าชยุทธ์จำต้องเหยียบเบรกอีกครั้งเมื่อการสัญจรข้างหน้าแน่นขนัด

“รถมาติดอะไรในเวลานี้เนี่ย” เสียงเข้มของประธานบริษัทในเครือไวทยากรุ๊ปเอ่ยอย่างหัวเสีย

ทว่าเมื่อรถยนต์คันหรูผ่านพ้นไฟแดงมาได้ รถสปอร์ตคันโก้กลับทำหน้าที่ของมันอีกครั้ง

“พ่อรอผมก่อนนะ ผมจะไปให้ทัน” ประธานบริษัทหนุ่มกล่าว แล้วหมุนพวงมาลัยรถไปตามเส้นทางที่เคยสัญจรเป็นประจำ

เคหาสน์ไวทยาเวทยานันท์

“คุณพ่อ” เสียงร้องไห้ดังขึ้นท่ามกลางความเสียใจของคนใช้ในบ้าน และลูกหลานที่มาเฝ้าดูแลคุณอนันต์ ไวทยาเวทยานันต์มหาเศรษฐีบริษัทอสังหาริมทรัพย์แห่งหนึ่ง

“ขวัญวัจนี พ่อยังมีลูกชายอีกคนหนึ่งทีเกิดจากแม่กรองใจ” คุณอนันต์ ไวทยาเวทยานันต์เอ่ยขึ้นพลางไอออกมาอย่างหนัก

“ขวัญสุตา ไวทยาเวทยานนันต์ เท่านั้นที่จะรับมรดกเคหาสน์ที่ดินที่อยู่ใกล้ที่นั่นได้” ผู้ก่อตั้งบริษัทวัยชราเอ่ยอย่างตะกุกตะกักกับขวัญวัจนี ผู้เป็นบุตรสาวคนโตของภรรยาเอก

“เราจะหาเธอเจอได้อย่างไรคะคุณพ่อ” ขวัญวัจนีเอ่ยถามทั้งน้ำตาที่อาบแก้มทั้งสองข้างของหญิงวัยกลางคน

“เธอจะสวมสร้อยหยกประจำตระกูลเรา ลูกต้องหาเธอให้พบพ่อจะได้ไปสวรรค์กับเขาสักที” อนันต์ยังไม่ทันพูดจบประโยค ร่างของชายวัยชราก็พลันกระตุกแล้วจากไปอย่างรวดเร็ว

มือหนาของชายชราที่ขวัญวัจนีจับอยู่เมื่อครู่ตกลงไปแล้วทว่าหญิงวัยกลางคนได้ทำใจไว้แล้ว

“ป้าจะตามหาหนูเอง ขวัญสุตา” ขวัญวัจนีกล่าวพลางปล่อยมือของผู้จากไปลงอย่างแผ่วเบา

การจากไปของอนันต์ เวทยาไวทยานันท์ สร้างความเสียใจให้กับลูกหลานในตระกูลอย่างมาก โดยเฉพาะชยุทธที่มามาทันได้ดูใจพ่อของตนเองเพราะมัวแต่เซ็นเอกสารของบริษัทอยู่

บริษัท S.A.D.

“ขวัญๆ นัทได้ข่าวว่าจะมีปาร์ตี้บริษัทนี่” นัทรียาเอ่ยขึ้นกับขวัญสุตา เมเนเจอร์สาวที่กำลังขมักเขม่นอยู่กับการเซ็นเอกสารในห้องทำงานแห่งหนึ่ง

“ใช่จะมี ฝ่ายการตลาดเป็นคนจัด” ขวัญสุตากล่าวพลางเงยหน้าขึ้นมาสบสายตาของอีกฝ่าย

นัทรียาและขวัญสุตาอาศัยอยู่ในบ้านใหญ่หลังโตซึ่งขวัญสุตาเป็นเด็กสาวที่มารดาของนัทรียาได้เก็บขวัญสุตามาเลี้ยงดู ด้วยเหตุนี้เองขวัญสุตาและนัทรียาจึงสนิทสนมกันเป็นพิเศษ

ขวัญสุตาเลือกเรียนนิเทศศาสตร์ส่วนนัทรียาก็ลงเรียนนิเทศเหมือนกัน แต่คนละสาขา

นัทรียาเลือกเรียนสาขาการตลาดแบรนด์ ส่วนหญิงสาวเลือกเรียนสาขาวารสารศาสตร์ทว่าความชอบในงานศิลปะมีมากกว่า นั่นเป็นเหตุผลที่ขวัญสุตาได้จับผลัดจับผลูมาเป็นเมเนเจอร์ด้านกราฟฟิกดีไซน์โดยเฉพาะ ส่วนนัทรียาก็ได้รับการเลื่อนขั้นเป็นผู้ช่วยเมเนเจอร์ฝ่ายขาย

“เห็นว่างานเลี้ยงจะจัดที่โรงแรมนะ” ขวัญสุตาเอ่ยขึ้นแล้วรวบกองเอกสารไว้บริเวณนั้น

“อ๋อ” นัทรียาเอ่ยแล้วหันไปหยิบการ์ดเชิญที่ขวัญสุตาทำขึ้นมาดูแล้วเอ่ยถามหญิงสาว

“แล้วห้องนอนที่โรงแรมเป็นห้องคู่หรือห้องเดี่ยวละ” นัทรียาเอ่ยถามขวัญสุตาด้วยแววตาอยากรู้อยากเห็น

“น่าจะห้องคู่นะ” ขวัญสุตาเอ่ยออกมาหลังจากนิ่งคิดไปเพียงชั่วครู่

“เอ๋...แล้วอย่างนี้ขวัญสุตาคนเก่งจะนอนกับใครดีน้า” นัทรียาเอ่ยกระเซ้าเพื่อนสนิทสาวอย่างยั่วเย้า

“จะนอนกับใครได้เล่า ก็คุณนภตุลย์มั้ง” ขวัญสุตากล่าวลอย ๆทว่าใบหน้าของหญิงสาวแดงซ่าน

“...เอ่อ” นัทรียาเอ่ยแค่นั้นก็หมุนตัวกลับไปยังโต๊ะทำงานของตนเอง

“อ้าวนัทขวัญจะไปร้านคาเฟ่ นัทจะเอาอะไรไหม” ขวัญสุตาเอ่ยถามเพื่อนสนิทสาวของเธออย่างจริงใจ

“อ๋อ...เอานมกล่องหนึ่ง” นัทรียากล่าวเสียงเข้ม

“ได้เดี๋ยวขวัญซื้อมาฝาก” ขวัญสุตาเอ่ยพลางหมุนตัวแล้วสาวเท้าเดินออกไป

ร้านคาเฟ่ข้างบริษัท

“เอาเค้กอันนี้ค่ะ / ครับ” เสียงของขวัญสุตาเอ่ยขึ้นเป็นเสียงเดียวกันกับเสียงปริศนาของชายหนุ่ม

ขวัญสุตาชะงักในน้ำเสียงอันคุ้นเคยของชายหนุ่ม หญิงสาวหมุนตัวไปเผชิญหน้ากับเขาทันที

“อ้าวคุณศร” ขวัญสุตาเอ่ยทักทายชายหนุ่มด้วยสีหน้าบึ้งตึง

“สวัสดีครับคุณขวัญ” สรศักดิ์เอ่ยกับหญิงสาวด้วยท่าทีสุภาพ

“เป็นอย่างไรบ้างคะกับตำแหน่งใหม่” ขวัญสุตาเอ่ยถามชายหนุ่มด้วยน้ำเสียงสดใสกว่าเดิม

“ก็สนุกดีครับ แต่ผมว่ามันต้องมีการเจาะกลุ่มการตลาดมากกว่านี้” สรศักดิ์เอ่ยขึ้นพลางวิจารณ์อย่างออกรสออกชาติ

“งั้นเหรอคะ” ขวัญสุตากล่าวกับชายหนุ่มด้วยน้ำเสียงจริงจังเสียจนสะดุดใจชายหนุ่มอย่างสรศักดิ์

ตั้งแต่เกิดมาเขายังไม่เคยเห็นใครเป็นหญิงสาวมหัศจรรย์แบบเธอเลย แววตาสดใสและน้ำเสียงร่าเริงของขวัญสุตาสร้างความสนใจและดึงดูดใจให้แก่สรศักดิ์โดยที่เขาไม่ทันรู้ตัว

“อุ๊ย สายแล้วขวัญขอตัวขึ้นไปทำงานก่อนนะคะ” ขวัญสุตาเอ่ยกับชายหนุ่มแล้วรีบสาวเท้าเข้าไปที่แคชเชียร์เพื่อชำระเงินอย่างรวดเร็ว

หญิงสาวจ้ำอ้าวออกไปอย่างรวดเร็วทิ้งให้สรศักดิ์ยืนมองขวัญสุตาที่เดินหายลับไปจนเหลือแต่ฝุ่นควัน

ผ่านไปหนึ่งเดือน

ความสัมพันธ์ของขวัญสุตากับสรศักดิ์คืบหน้าอย่างมาก เวลามีปัญหาสรศักดิ์มักจะเข้ามาซักถามเธอก่อนเป็นคนแรก ทำให้หญิงสาวได้แลกเปลี่ยนความคิดแก่เขามากมาย

เวลานี้สรศักดิ์เป็นแค่เพียงเพื่อนสนิทของขวัญสุตารองจากนัทรียาเท่านั้น อีกไม่นานเขาน่าจะตีตื้นเพื่อนสาวของเธออย่างนัทรียาได้

เมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาสรศักดิ์ชวนเธอไปเลือกซื้อชุดว่ายน้ำ ขวัญสุตาก็ลากนัทรียาไปด้วย ทำให้เธอได้เจอกับนภตุลย์ที่กลายมาเป็นเพื่อนสนิทของเมเนเจอร์ฝ่ายการตลาดอย่างสรศักดิ์

โรงแรมหรูหราระดับห้าดาว

“ได้มาพักอย่างนี้ก็ดีนะ” นัทรียากล่าวกับขวัญสุตาขณะที่หญิงสาวและพนักงานทั้งหมดก้าวลงจากรถของบริษัท

“นั่นสิ...ขวัญเห็นด้วย” ขวัญสุตาเอ่ยกับเพื่อนสาวแล้วบิดตัวไปมาอย่างเคยชิน

“เอ้อ ขวัญมีปาร์ตี้ตอนเย็น ขวัญจะไปไหม” นัทรียาเอ่ยถามขวัญสุตาอย่างสงสัย

“ดูก่อน ขวัญอาจจะพักอยู่ข้างบน เดี๋ยวขวัญขอตัวก่อนนะ” ขวัญสุตากล่าวแล้วขอตัวไปรับคีย์การ์ดจากสรศักดิ์เสียก่อน

ขวัญสุตาเดินก้าวออกไปนานแล้ว หญิงสาวเดินผ่านหน้านภตุลย์และกลุ่มเพื่อนร่วมงานชาย

“ศร ไหนคีย์การ์ดขวัญล่ะ” ขวัญสุตากล่าวกับสรศักดิ์อย่างรวดเร็ว

“อ้าวไม่รอขึ้นไปพร้อมนัทเหรอ” สรศักดิ์เอ่ยทักท้วงขวัญสุตาขึ้นอย่างประหลาดใจ

“ไม่ล่ะขวัญรู้สึกปวดหัว เดี่ยวขอตัวไปนอนดีกว่า” ขวัญสุตาเอ่ยกับชายหนุ่มราวกับเด็กน้อยเอาจอมขี้เกียจ

มือหนาของสรศักดิ์ส่งคีย์การ์ดให้กับขวัญสุตาอย่างรวดเร็วทว่าจนแล้วจนรอดมือของเขาก็ยังไปโดนมือของขวัญสุตาอยู่ดี

“ขอตัวก่อนนะคะศร” ขวัญสุตาเอ่ยแก้เก้อ หญิงสาวรีบจ้ำอ้าวขึ้นห้องพักในโรงแรมไปทิ้งสรศักดิ์ให้มองมือตนเองอย่างเหม่อลอย

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ สรีสามัญ ดวงดาหลา

ข้อมูลเพิ่มเติม
จอมใจฮิปปาเรีย ภาค 1 เล่ม  1  บัลลังก์สราเนีย

จอมใจฮิปปาเรีย ภาค 1 เล่ม 1 บัลลังก์สราเนีย

โรแมนติก

5.0

นิยายจอมใจฮิปปาเรียนี้จะถูกเรียกว่าหนังสือชุด #อาณาจักรฮิปปาเรีย ค่ะ โดยซีรีส์อาณาจักรฮิปปาเรียมีนิยายทั้งหมด 10 เล่ม ดังต่อไปนี้ 1.จอมใจฮิปปาเรีย ภาค 1 เล่ม 1 บัลลังก์สราเนีย 2. จอมใจฮิปปาเรีย ภาค 1 เล่ม 2 ผจญภัยป่าดงดิบฮานาบี 3. จอมใจฮิปปาเรีย ภาค 2 เล่ม 1 กำเนิดรัชทายาทฮิปปาเรีย 4. จอมใจฮิปปาเรีย ภาค 2 เล่ม 2 นางบรรณาการแคว้นดิมาเรีย 5. จอมใจฮิปปาเรีย ภาค 3 เล่ม 1 ปราบกบฎบัลลังก์สราเนีย 6. จอมใจฮิปปาเรีย ภาค 3 เล่ม 1 ห้าเจ้าหญิงผู้นำทางปริศนา 7. จอมใจฮิปปาเรีย ภาค 4 เล่ม 1 หนึ่งเดียวในหทัย 8. จอมใจฮิปปาเรีย ภาค 4 เล่ม 2 อาณาจักรฮิปปาเรีย 9. จอมใจฮิปปาเรีย ภาค พิเศษ เล่ม 1 เจ็ดขุนนางผู้พิทักษ์ 10. จอมใจฮิปปาเรีย ภาค พิเศษ เล่ม 2 ราชอาณาจักรฮิปปาเรีย นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดจาก จินตนาการของ "ดวงดาหลา" เองค่ะ ดินแดนฮิปปาเรียเป็นดินแดนสมมติที่ผู้เขียนเฝ้าฝันถึง จอมใจฮิปปาเรีย มีสี่ภาค แต่ละภาคแบ่งเป็น 2 เล่มค่ะ รับรองค่ะว่า เข้มข้น หวานซึ้ง ตรึงใจทุกคนแน่นอนค่ะ เนื้อเรื่องจะสนุกขนาดไหน ขอเชิญนักอ่านทุกท่านเพลิดเพลินไปกับ จอมใจฮิปปาเรีย ภาค 1 เล่ม 1 บัลลังก์สราเนียได้แล้ว ณ บัดนี้ Duangdala Talk ดวงดาหลากลับมาเเล้วค่ะ หลังจากติดภารกิจมานาน รี้ดทุกคนสามารถคอมเม้น หรือกดใจทั้ง 5 ให้ดวงดาหลาได้นะคะ ขอบคุณที่ติดตามค่ะ #ดวงดาหลา ป.ล. นักอ่านท่านใด หรือ ใครอ่านเเล้วมารีวิว มาเม้นมาพูดคุยกันกับดวงดาหลา ได้น้า

วันดับนางริษยา

วันดับนางริษยา

โรแมนติก

5.0

ความจริงใดกันแน่ที่หลบซ่อนในเคหาสน์สถานแห่งนี้ หรือมันอาจจะเป็นกลลวงของใครบางคนที่กำลังมุ่งหมายจะทำลายพวกเขา เจ้าหล่อนจะทำเช่นไรในเกมล้างเกมผลาญชีวิตเช่นนี้ จุดเริ่มต้นความน่าสะพรึงกลัวของทุกสิ่งที่จารีย์ได้เจอนั้นมาจากคฤหาสน์หลังโตโอ่อ่าแห่งนี้ ภายนอกงดงามหากแต่ภายในกลับรกร้างราวกับไม่เคยมีใครอาศัยอยู่มาก่อน แรงแค้น แรงพยาบาท แรงอาฆาต ของสิ่งลี้ลับยังคงวนเวียนตามจองกรรมทวงถามความเป็นธรรมอย่างที่พวกมันรอคอยตลอดมา! +++ นรีกุลรับรู้ถึงอุณหภูมิที่กำลังทวีความคุกรุ่นในเรือนกายของหล่อน เรียวปากบางของเขาซอนไซ้ไปยังใบหูของนรีกุลจนหญิงสาวเผลอไผลร้องซี้ดปากด้วยความสุขใจ มือหนาของชายหนุ่มเอื้อมปลดตะขอชุดที่นรีกุลสวมใส่อยู่ เขาแนบเรือนกายของหล่อนให้ผสานกับเขาอย่างลุ่มหลงในตัวของนรีกุล หญิงสาวปิดเปลือกตาของหล่อนลงอย่างพลั้งเผลอ ความหวามไหวแทรกไปทั่วอณูของนรีกุล ภรรยาของนัฐธวีร์ปิดเปลือกตาลงไปแล้ว หากแต่เวลานี้ดวงวิญญาณร้ายของกรวีร์ยังคงทำงานตามคำสั่งของเดรัจฉานต่อไป นิ้วเรียวของวิญญาณร้ายซอนไซ้เข้าไปยังปากถ้ำสวรรค์ของหญิงสาว นรีกุลบิดตัวแล้วครวญเสียงหวานจนนัฐธวีร์สะดุ้งเล็กน้อยทว่าความอ่อนเพลียจากการเดินทางในระยะเวลานานทำให้เขาฟุบหลับไป หนุ่มสาวสองคนหารู้ไม่ว่าเวลานี้ดวงวิญญาณของกรวีร์ได้เสพสมเรือนกายของนรีกุลอย่างอุกอาจ และดวงจิตของนัฐธวีร์ได้ถูกเรียกจิตไปโดยสัตว์ร้ายในคราบของสาวงามเสียแล้ว!

วันดับนางริษยา เล่ม 1

วันดับนางริษยา เล่ม 1

โรแมนติก

5.0

"วันดับนางริษยา" นิยายสยองขวัญกระตุกประสาท #ดวงดาหลา ที่จะพาเขย่าขวัญทุกคนให้กระเจิง เมื่อรักไม่อาจแบ่งใจนรีกุลจึงต้องแบกรับทั้ง นัฐธวีร์ คนเป็น และคนตายในคราเดียวกัน นรีกุลจะทำเช่นไรต่อไป...ความรัก แรงอาฆาตเปลวพยาบาทของพวกเขาจะเผาหญิงสาวให้ตายทั้งเป็นหรือไม่! มาร่วมค้นหาคำตอบในนิยายเล่มนี้กันค่ะ ++++++++++++ โปรปราย เวลานี้นรีกุลอดรู้สึกไม่ได้ว่าร่างกายของตนขยับไม่ได้อีกแล้วหากแต่ท้องของหล่อนกับปวดมากราวกับเป็นไส้ติ่งอักเสบ หญิงสาวพยายามดีดดิ้นให้รอดพ้นจากการเกาะกุมของวิญญาณร้ายที่เธอเชื่อว่าติดตามมา หญิงสาวเปิดตามองไปยังด้านบนก็พบว่าเธฮนอนใกล้คาน ไม่นานนักหญิงสาวก็ต้องหวีดร้องสุดเสียงอีกครั้ง ยามเมื่อเวลานี้มีวิญญาณร้ายนั่งอยู่บนคานสูงเหนือหัวของเธอ วิญญาณร้ายที่นั่งแกว่งขาไป,kอยู่นั้นราวกับว่าจะเห็นเธอ หญิงสาวรีบปิดเปลือกตาลงอย่างรวดเร็ว กลิ่นเหม็นเน่าโชยไปเข้าจมูกของหญิงสาวอย่างจัง จนเธอต้องลืมตาขึ้นมามอง ภาพที่ปรากฏตรงหน้าหล่อนทำให้หญิงสาวช็อคสุดขีดเมื่อเวลานี้ศีรษะของวิญญาณร้ายค่อยๆห้อยลงมาจรดยังจมูกของเธอ นรีกุลหวีดร้องอย่างดังลั่นพลางออกปากไล่อย่างตระหนกสุดขีด หญิงสาวพยายามยกมือขึ้นสวดอ้อนวอนแต่ก็ไร้ผล เธอกลับยกมือไม่ขึ้นราวกับว่าเธอถูกผีอำอย่างไรอย่างนั้น ยังไม่ทันธรรมดาหญิงสาวจะสวดมนต์จบเธอก็ได้ยินเสียงข้างหูพูดขึ้นมาว่า

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ตำนานตาม่วง

ตำนานตาม่วง

Wald Bridges
5.0

"เธอคือผู้ฝึกสัตว์ร้ายที่มีดวงตาสีม่วงอันเป็นเอกลักษณ์ในศตวรรษที่ 24 เมื่อเธอเกิดใหม่เป็นหญิงตั้งครรภ์ ดวงตาของเธอถูกขุดออก การฝึกฝนของเธอถูกทำลาย ตัวตนของเธอถูกพรากไป และลูกชายของเธอถูกไอ้สารเลวและผู้หญิงใจร้ายแย่งชิงไป! จะทนกับสิ่งนี้ได้อย่างไร! จากนั้นเธอใช้ชีวิตกับลูกสาว ปราบสัตว์ร้ายทั้งหมดด้วยดวงตาสีม่วงของเธอ จัดการทุกคนที่หาเรื่องพวกเขา และในที่สุดก็พบกับราชาเทพชั่วร้ายที่พาลูกชายของเธอไปจนได้ ลูกตัวน้อย ""แม่ มีผู้ชายคนหนึ่งที่บอกว่าตราบใดที่หนูเรียกเขาว่าพ่อ เขาจะมอบภูเขาทองคำให้หนู"" ผู้หญิง ""ถามเขาหน่อยว่าเขามีอีกไหม ฉันสามารถเรียกเขาว่าพ่อได้ด้วยนะ"" ราชาเทพกัดฟัน ""สาวน้อย ลูกทั้งสองเป็นของฉัน และตัวเธอก็เป็นของฉันด้วย"""

หยางจื้อซี เกิดใหม่ในหมู่บ้านป่าหมอก

หยางจื้อซี เกิดใหม่ในหมู่บ้านป่าหมอก

จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ
5.0

หยางจื้อซี เด็กกำพร้าจากศตวรรษที่21 ถูกองค์กรมืดเลี้ยงดูจนเติบโตและทำให้เธอกลายเป็นมนุษย์กลายพันธ์ ในระหว่างที่ถูกส่งตัวไปทำภารกิจลับ เธอกลับถูกคนในองค์กรมืดหักหลังและถูกฆ่าโดยเพื่อนสนิทที่เธอไว้ใจมากที่สุด ก่อนสิ้นใจเธอถามเพื่อนสนิทว่าทำไม แต่ไม่ได้รับคำตอบจากปากของอีกฝ่าย สิ่งที่เธอได้รับคือรอยยิ้มที่ดูถูกเหยียดหยามและ คำว่า “โง่” จากปากของอีกฝ่ายเท่านั้น หลังจากที่ตายไปแล้วสิ่งที่เธอคิดไว้ คงจะเป็นนรกหรือที่ไหนสักแห่งที่เป็นโลกหลังความตาย แต่ทว่ามันกลับไม่เป็นเช่นนัน เธอตื่นขึ้นมาในร่างของ หยางจื้อซี เด็กหญิงอายุ เพียง 13 ขวบปีในหมู่บ้านป่าหมอก ในดินแดนโบราณล้าหลังที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ คล้ายกับว่าเป็นโลกคู่ขนานที่อยู่อีกมิติหนึ่ง เธอตื่นขึ้นมาในบ้านที่ผุพัง ครอบครัวยากจน มีแม่ที่อ่อนแอและเจ็บป่วย มีพี่น้องที่อายุน้อย มีปู่ย่าตายายที่เห็นแก่ตัวและใจร้าย มีลุงที่เห็นแก่ได้ป้าสะใภ้ที่เต็มไปด้วยความละโมบโมบโลภมาก หยางจื้อซี คิดว่านับจากนี้ไปชีวิตจะต้องอยู่ได้ด้วยตัวเอง หากใครมารังแกก็แค่ทุบตี เธอไม่เชื่อว่าด้วยพลังที่ติดตัวเธอมาจากชาติที่แล้วจะไม่สามารถอยู่รอดได้ในโลกล้าหลังแห่งนี้

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

มาชาวีร์
5.0

หลังผ่าตัดนักพรตเฒ่าผู้หนึ่งนั้น นางวูบหมดสติและเสียชีวิตลงไป ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที ก็อยู่ในร่างของคุณหนูปัญญาอ่อนที่มีชื่อเดียวกันผู้นี้เสียแล้วทั้งยังจำอดีตชาติยามเป็นปรมาจารย์เต๋าได้อีกด้วย +++ 1 : ไล่ออกจากอารามไท่ผิงกวน แคว้นจิ้น ราชวงศ์เซวียน อารามไท่ผิงกวน “ไป ๆ อาจารย์ขับไล่พวกท่านออกจากอารามแล้ว อย่าได้มาเหยียบที่นี่อีก” “ศิษย์พี่รองรีบปิดประตูเร็วเข้า !” ตุบ ! ห่อผ้าสองห่อถูกโยนออกมาจากประตูอาราม ปัง ! ตามด้วยเสียงปิดประตูลงสลักอย่างหนาแน่น สตรีนางหนึ่งยืนตัวตรงเป็นสง่า เสื้อผ้ากับเส้นผมของนางปลิวไสวดั่งไผ่ลู่ลม หลินซือเยว่เงยหน้าขึ้นมองป้ายชื่ออารามไท่ผิงกวนด้วยสายตาเลื่อนลอย อาศัยอยู่ที่นี่มานานเท่าใดแล้วนะ บางครั้งนางเองก็ลืมเลือนวันเวลาไปเหมือนกัน “คุณหนูเจ้าคะ ศิษย์น้องทั้งสองของท่านทำเกินไปแล้วนะเจ้าคะ เหตุใดถึงไล่พวกเราสองคนออกจากอารามได้เล่า” เผิงฉือกระทืบเท้าเบา ๆ ตรงไปฉวยห่อผ้าทั้งสองบนพื้น ขึ้นมาคล้องแขนตัวเองไว้ “หากไม่ได้รับคำสั่งจากอาจารย์ ศิษย์น้องทั้งสองคงไม่กล้าขับไล่ข้าออกจากอารามหรอก” น้ำเสียงของนางสงบนิ่งฟังแล้วสบายหูยิ่งนัก หาได้มีความโกรธเกลียดแต่อย่างใด “นั่นรถม้า” นิ้วเรียวสวยชี้ไปยังรถม้าคันที่มีคนนั่งเฝ้าอยู่ “ป้าเผิงไปถามดูว่าใช่รถม้าของเราหรือไม่” เผิงฉือไม่รอช้ารีบตรงไปหาคนเฝ้ารถม้าที่อยู่ใต้ต้นไผ่ในทันที ไม่ช้านางก็กลับมาพร้อมกับรอยยิ้มนิด ๆ “เป็นรถม้าของเราจริง ๆ เจ้าคะคุณหนู คนขับบอกว่าเป็นคนของตระกูลหลินเจ้าค่ะ ได้รับคำสั่งจากท่านพ่อของคุณหนู ให้มารับคุณหนูกลับตระกูลหลินเพื่อไปแต่งงานเจ้าค่ะ” “กลับไปแต่งงานนี่เอง” นางเอ่ยเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่ หันหลังกลับไปทางประตูอาราม ประสานมือค้อมตัวคำนับลาอาจารย์ เผิงฉือเห็นเช่นนั้นก็อดที่จะคำนับตามนางไม่ได้ ภายในอารามไท่ผิงกวน “อาจารย์เหตุใดถึงไม่บอกลากับศิษย์พี่ใหญ่ไปตรง ๆ ล่ะ ทำเช่นนี้นางไม่โกรธท่านไปจนวันตายเลยรึ” เหอกุ้ยแม้มีอายุยี่สิบแปดปีแล้ว ทว่าเขากราบเป็นศิษย์เจ้าอาวาสชุนหวังเหล่ยหลังสตรีผู้นั้น จึงได้เป็นเพียงแค่ศิษย์พี่รองเท่านั้น “นั่นสิอาจารย์ ศิษย์พี่ใหญ่นางไม่เคยออกจากอารามไปไหนไกล ท่านทำเช่นนี้ไม่ใช่ขับไล่นางไปสู่ความตายหรอกรึ” จางเจียเฟิ่งเห็นด้วยกับศิษย์พี่รองของเขา “ให้มันน้อย ๆ หน่อยเจ้าศิษย์โง่ทั้งสอง พวกเจ้าคิดว่าอารามไท่ผิงกวนแห่งนี้ สามารถอยู่รอดมาได้เพราะใครกัน หากไม่ใช่เพราะฝีมือของศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้า เห็นนางเงียบ ๆ แบบนั้น ความคิดนางกว้างไกลยิ่งนัก อาจารย์อย่างข้ายังเทียบนางไม่ติดด้วยซ้ำไป” เจ้าอาวาสชุนปีนี้อายุอานามปาเข้าไปหกสิบห้าปีแล้ว ทว่าร่างกายยังแข็งแรง อารามเต๋าแห่งนี้มีวิถีแบบไม่เคร่งครัด ใช้ชีวิตเยี่ยงฆราวาสผู้หนึ่ง สามารถแต่งงานมีครอบครัวได้ “อาจารย์นางอยู่ในอารามวาดยันต์กันภัยให้ชาวบ้านที่มากราบไหว้ ตั้งโต๊ะรักษาโรคภัยให้ผู้คนในตัวอำเภอฝู แต่หนนี้นางต้องกลับบ้านไปเพื่อแต่งงาน นางบริสุทธิ์ถึงเพียงนั้นมิถูกสามีจับกลืนกินจนไม่เหลือกระดูกหรอกรึ” เหอกุ้ยนึกภาพเทพเซียนผู้สูงส่งอย่างหลินซือเยว่ หากต้องร่วมเตียงกับบุรุษหยาบกระด้าง เพียงเท่านั้นเขาก็ทำใจไม่ได้จริง ๆ แทบอยากจะไปแย่งตัวศิษย์พี่ใหญ่ของตัวเองกลับคืนมา “เลิกคร่ำครวญได้แล้ว กลับไปกวาดลานอารามกับตรวจดูน้ำมันตะเกียงให้เรียบร้อย ศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้าไม่อยู่ เจ้าทั้งสองต้องรีบร่ำเรียนศึกษาหาความรู้ อารามไท่ผิงกวนจะได้เจริญรุ่งเรืองในภายภาคหน้าต่อไปได้” เจ้าอาวาสชุนทำเสียงดังใส่ลูกศิษย์ทั้งสอง “ไป ๆ ข้าจะสวดมนต์” โบกมือไล่ทั้งคู่ให้ออกจากห้องสวดมนต์ไป เจ้าอาวาสชุนรีบลุกไปปิดประตูลั่นกลอน ท่าทางลุกลี้ลุกลนจนผิดปกติ ย่องเบา ๆ ไปที่ใต้เตียงนอน ดึงหีบไม้เก่าเก็บออกมา ครั้นกดสลักเปิดออก ก็พบตั๋วเงินจำนวนสามพันตำลึงอยู่ในนั้น ตระกูลหลินที่ไม่ได้บริจาคน้ำมันตะเกียงมาหลายปี จู่ ๆ ก็ส่งตั๋วเงินมาให้ พร้อมกับขอรับคนกลับไปเพื่อแต่งงาน ช่วงนี้ชาวบ้านมาทำบุญที่อารามน้อยลง หลินซือเยว่ก็ไม่รู้ว่าเกิดอันใดขึ้นกับนาง ถึงไม่ยอมลงจากอารามไปรักษาผู้คน รายได้เลยหายหดแทบจ่ายอาหารการกิน(สุรานารี)ไม่พอ ตั๋วเงินสามพันตำลึงนี่มาได้ทันเวลาพอดี ! แครก ๆ ๆ ๆ เสียงกวาดลานหน้าอารามดังขึ้นพร้อมกับเสียงบ่นของเหอกุ้ย “ข้ารู้ว่านางเก่งเอาตัวรอดได้ ข้าเพียงไม่อยากให้นางไปก็เท่านั้น” “ศิษย์พี่รองท่านอย่าได้เสียใจไปเลย ไม่ใช่ว่ามีแต่นางที่ต้องแต่งงานมีครอบครัว ท่านเองก็เถอะที่บ้านส่งคนมารับทุกปีไม่ใช่รึ” จางเจียเฟิ่งรู้ดีว่าตนและเหอกุ้ย ถูกครอบครัวลงโทษด้วยการส่งมาอยู่ยังอารามแห่งนี้ ทว่าเพียงชั่วคราวเท่านั้น “ตัวข้านั้นไม่เป็นไรหรอก เจ้านั่นแหละศิษย์น้องสาม ข้าได้ยินว่าที่บ้านของเจ้า เพิ่งหาคู่หมั้นหมายคนใหม่ให้เจ้าอีกคนแล้วไม่ใช่รึ” สองศิษย์พี่น้องหยุดกวาดลานอาราม แล้วหันหน้าไปมองตากัน จากนั้นพวกเขาก็ถอนหายใจดัง ๆ พร้อมกัน ไม่มีศิษย์พี่ใหญ่อยู่ด้วย นับจากนี้ไปยามทำความผิดใครจะออกหน้าคอยช่วยเหลือ ยามเงินหมดใครจะให้หยิบยืม ยิ่งคิดพวกเขาก็ยิ่งไม่สบายใจเป็นอย่างมาก บนถนนมุ่งหน้าสู่เมืองหลวง รถม้าไม้ธรรมดาไม่เล็กไม่ใหญ่ ไร้ป้ายชื่อตระกูลบอกกล่าว คล้ายไม่อยากให้ผู้อื่นล่วงรู้ว่าคนที่นั่งอยู่ด้านในเป็นใคร เผิงฉือพยายามหลอกถามคนขับรถม้าอยู่หลายหน ถึงสถานการณ์ของตระกูลหลินในยามนี้ นางไม่เคยไปที่นั่นมาก่อนไม่รู้จักใครสักคน คนขับรถม้าตอบว่า เขามีหน้าที่มารับคุณหนูรองกลับบ้านเท่านั้น เรื่องอื่นนั้นเขาไม่รู้จริง ๆ “ได้ถามหรือไม่ ใช้เวลากี่วันในการเดินทาง” หลินซือเยว่เอ่ยเสียงเนิบ ๆ “ถามแล้วเจ้าค่ะ เขาบอกว่าราว ๆ สิบวันก็ถึงเมืองหลวงแล้ว” “สิบวันเชียวรึ” หลินซือเยว่มองห่อผ้าที่วางอยู่ด้านข้าง มีเพียงของใช้จำเป็นของนางไม่กี่ชิ้น พร้อมกับก้อนเงินจำนวนห้าสิบตำลึง “คงต้องแวะซื้อของในอำเภอฝูเสียก่อน” เผิงฉือรีบเปิดม่านบอกกับคนขับรถม้า แต่เขากลับทำเสียงฮึดฮัดคล้ายไม่พอใจ “เสียเวลาเดินทางเปล่า ๆ” น้ำเสียงเขากระด้างกระเดื่อง

ข้าโหด ทว่าข้าคือสุดที่รักของท่านอ๋อง

ข้าโหด ทว่าข้าคือสุดที่รักของท่านอ๋อง

Samuel Wren
5.0

เสิ่นสุยยินถูกบังคับให้ดำรงชีวิตในสถานะที่ด้อยกว่าตั้งแต่เด็ก การถูกกดขี่มาอย่างยาวนานไม่ได้ทำให้เธอสูญเสียความภาคภูมิใจในตัวเองแม้แต่น้อย การตกต่ำของตระกูลเสิ่นในสายตาของคนภายนอกดูเหมือนจะเป็นความเสื่อมของตระกูลสูงศักดิ์ แต่แท้จริงแล้วนี่เป็นโอกาสเดียวของเสิ่นสุยยินที่จะกลับคืนสู่ชีวิตใหม่ นางต่อสู้กับคนอื่นเพื่อแก้แค้นให้ท่านแม่ทว่ากลับไม่รู้ว่าทุกแผนการของนาง เขากำลังจ้องตามองอยู่ ลู่จินหวยให้นางหลอกใช้ตนเองเป็นประโยชน์ได้ตามอำเภอใจของนาง แต่ไม่เคยให้นางต้องเปื้อนเลือดแม้แต่นิด สิ่งที่เขาต้องการมีเพียงตัวนางเท่านั้น “เสิ่นสุยยิน ทางที่ดีเจ้าจะแกล้งทำไปตลอดชีวิต”

อย่าไปยุ่งกับทายาทสาวลึกลับ

อย่าไปยุ่งกับทายาทสาวลึกลับ

Tripp Zakarison
5.0

อวิ๋นเจินอาศัยอยู่ในตระกูลอวิ๋นมาเป็นเวลา 20 ปี กลับพบว่าเธอเป็นลูกสาวปลอม พ่อแม่บุญธรรมของเธอวางยาเธอเพื่ออยากจะได้เงินมาลงทุน หลังจากที่อวิ๋นเจินรู้เรื่องนี้ เธอก็ถูกไล่กลับไปที่ชนบท จากนั้นเธอก็ค้นพบว่าตัวเองคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลเฉียวและมีชีวิตที่หรูหราสุด ๆ หลังจากกลับมา เธอได้รับความรักจากครอบครัวและมีชื่อเสียงโด่งดัง น้องสาวจอมปลอมใส่ร้ายอวิ๋นเจิน แต่เธอไม่คาดคิดว่าอวิ๋นเจินจะมีความสามารถต่างๆ เมื่อต้องเผชิญกับการยั่วยุ เธอได้แสดงความสามารถและทักษะต่างๆ มากมายเพื่อจัดการผู้รังแก มีข่าวลือกันว่าอวิ๋นเจินยังคงโสด และชายหนุ่มชื่อดังแห่งเมืองงก็ผลักเธอไปเข้ากำแพง "คุณนายกู้ ถึงตามราเปิดเผยตัวตนได้แล้วนะ"

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ