Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
รักร้อนเพลิงริษยา

รักร้อนเพลิงริษยา

อัญญาณี

5.0
ความคิดเห็น
130.3K
ชม
108
บท

‘เพี๊ยะ!!...เพี๊ยะ!!...เพี๊ยะ!!...’ ร่างของณิชาถูกผลักลงไปที่พื้น ใบหน้าบวมช้ำที่แก้มมีรอยฝ่ามือทับซ้อนกันหลายแห่ง ที่มุมปากทั้งสองข้างมีเลือดซึมออกมา ลูกน้องทั้งสามไม่มีใครกล้าเข้าไปห้ามปราม ถึงแม้ว่าจะสงสารณิชาจับใจ เพราะเขาไม่เคยเห็นเจ้านายของใครทำร้ายผู้หญิงมากขนาดนี้ อย่างมากก็แค่ตบทีสองทีเป็นการสั่งสอน แต่นี่มันไม่ใช่แค่การสั่งสอน เหมือนกับระบายอารมณ์ที่คั่งค้างมาทั้งวัน ยิ่งมาได้ยินคำพูดที่กวนโทสะด้วยแล้ว เจ้านายของเขาจึงระงับอารมณ์ไม่อยู่ “เธอกล้ามากนักที่ตบหน้าฉัน...ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนกล้าตบฉันเลย” เสียงของเขาตวาดลั่น “ก็มีซะสิ...ไอ้หน้าตัวเมียรังแกได้แม้กระทั่งผู้หญิง” ณิชาลุกขึ้นยืนตวาดออกไปอย่างไม่ยอมแพ้ วาจาที่ถูกเอ่ยออกไปทำให้ร่างของรัฐกฤตญ์สั่นด้วยความโกรธ เขาไม่เคยรู้สึกโกรธใครมากเท่านี้มาก่อน ยิ่งเป็นผู้หญิงด้วยแล้ว ณิชาเป็นคนแรกที่กล้าว่าเขารุนแรงขนาดนี้ ‘อย่างนี้มันต้องสั่งสอนให้รู้สึก...ว่าอย่าบังอาจมาว่าคนอย่างเขา’ ร่างของณิชาถูกลากไปตามพื้นพรม จุดหมายปลายทางคือห้องนอนที่เธอนอนเมื่อคืน ก่อนที่ร่างของเธอจะถูกโยนลงบนที่นอนอย่างแรง พร้อมกับเสียงประตูที่ถูกปิดอย่างแรง ดินแดน วิทยาและอุดมมองหน้ากัน รู้ว่าหญิงสาวที่อยู่ข้างในจะถูกลงโทษยังไง ก่อนที่พวกเขาทั้งสามจะเดินออกไปจากห้องชุดของเจ้านายมีเพียงอย่างเดียวที่เขาได้ยิน คือเสียงหวีดร้องของณิชาที่ดังลอดออกมาเท่านั้น ณิชาร้องสุดเสียงเมื่อมือหนาของเขา กระชากเสื้อผ้าของเธออย่างแรงสองสามครั้ง ก่อนที่มันจะขาดออกจากกัน บางส่วนอยู่ในมือของเขาและบางส่วนอยู่ที่เตียงนอน ณิชาคว้าผ้าห่มที่อยู่ใกล้มือ มาปกปิดท่อนบนที่ไร้อาภรณ์ มีเพียงเสื้อในที่ขาดแหว่งตามแรงกระชาก แต่มันก็ไม่สามารถปกปิดอะไรได้เลย ร่างของณิชากระเถิบหนีร่างของเขาที่เดินเข้ามาที่เตียงอย่างหวาดกลัว ข้อเท้าบางลูกจับด้วยมือหนาแล้วถูกลากเข้ามาหาเขา “คุ...คุณจะทำอะไรฉัน?” ณิชาพูดอย่างหวาดๆ รัฐกฤตญ์ยิ้มมันเป็นรอยยิ้มที่เธอไม่ชอบเลย ยิ้มมุมปาก หากดวงตาเปล่งประกายด้วยความโกรธ “จะกลัวทำไมเก่งนักไม่ใช่เหรอ?...เก่งให้ตลอดสิ...” รัฐกฤตญ์พูดพร้อมกับถอดเสื้อผ้าของเขาออก จนเหลือแต่ร่างเปล่าเปลือย จ้องมองร่างของณิชาอย่างไม่วางตา ณิชาเองที่เป็นฝ่ายเบือนหน้าหนีเขา เพราะเธอไม่เคยเห็นผู้ชายเปลื้องผ้าต่อหน้ามาก่อน นี่เป็นครั้งแรก “ออกไปนะอย่าเข้ามา...บอกให้ออกไป” ของที่อยู่ใกล้มือณิชาถูกโยนออกไปปะทะร่างของเขา แต่มีสิ่งเดียวที่เป็นของหนักนั่นก็คือนาฬิกาตั้งโต๊ะที่ทำจากไม้ ลอยไปโดนที่หางคิ้วของเขาอย่างแรง “โอ๊ย...” รัฐกฤตญ์ใช้มือของเขาคลำที่หางคิ้ว มีความรู้สึกชานิดๆก่อนจะสัมผัสกับน้ำเหนียวๆที่อยู่บริเวณนั้น ลดมือที่คลำที่หางคิ้วมาดู น้ำเหนียวๆที่ว่านี้คือเลือด ดวงตาของรัฐกฤตญ์มองที่ฝ่ามือที่มีเลือดอยู่ สลับกับใบหน้าที่ซีดเซียวของณิชา เมื่อรู้ว่าเธอทำร้ายเขาถึงกับเลือดตกยางออก “เธอ...เธอกล้ามากนักที่ทำฉันถึงขนาดนี้” เสียงกราดเกรี้ยวดังลั่นไปทั่วห้อง “คนอย่างคุณโดนแค่นี้มันยังน้อยเกินไป...ถ้าฉันฆ่าคุณได้...ฉันก็จะฆ่า” ณิชาตวาดกลับไปเสียงดังไม่แพ้กัน ตอนนี้รัฐกฤตญ์โกรธและโมโห จนสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว สิ่งที่เขารับรู้ตอนนี้ก็คือต้องสั่งสอนผู้หญิงคนนี้ให้หลาบจำว่าอย่างมาลองดีกับเขา

บทที่ 1 1

1

ณิชาแหงนมองดูตึกสูงของโรงแรมเชอร์รีตัน แกรนด์ สถานที่จัดงานแต่งงานของพิชานันท์ผู้เป็นน้องสาว สายตาของเธอจับจ้องอยู่ที่ชั้น 49 นานกว่าสิบนาที เหมือนกำลังคิดและตัดสินใจอะไรบางอย่าง ความรักและผลลัพธ์ที่จะตามมาตีกันยุ่งภายในสมองของเธอ หากทำงานครั้งนี้สำเร็จน้องสาวสุดที่รักก็จะหลุดพ้นจากการคลุมถุงชน ไม่สิไม่ใช่มันเป็นการบังคับขู่เข็ญกันมากกว่า หากเธอรู้เรื่องนี้ก่อนหน้านี้งานแต่งงานในวันนี้ก็จะไม่เกิดขึ้น

“คุณณิชาแน่ใจนะครับว่าจะทำแบบนี้ เรียวถามณิชาที่เป็นทั้งเจ้านายและน้องสาวรวมทั้งเพื่อนสนิทด้วยความเป็นห่วง เพราะเขาไม่เคยเห็นณิชาคิดหนักเท่านี้มาก่อน

“แน่ใจสิพี่เรียว เรามาไกลเกินว่าจะกลับแล้วนะคะ” ณิชาพูดด้วยรอยยิ้ม หากเรียวคิดว่ามันเป็นรอยยิ้มที่ฝืนธรรมชาติไม่ได้มาจากความจริงใจเพราะเขารู้ว่าเจ้านายสาววิตกกังวลเรื่องใด คนที่เจ้านายสาวต่อกรด้วยเป็นผู้มีอิทธิพลที่ยากจะเข้าถึง โหดร้าย เย็นชาและเหี้ยมเกรียม สามารถกำจัดศัตรูที่มาแผ่วพานให้หายสาบสูญได้อย่างไร้ร่องรอย เงียบเหมือนคลื่นกระทบฝั่ง จนได้ฉายาว่าพญาอินทรีมัจจุราช

ณิชาก้าวเดินเข้าไปภายในตัวโรงแรมด้วยความมุ่งมั่นและเด็ดเดี่ยว เธอยอมรับผลลัพธ์ที่จะตามมาทุกรูปแบบ ขอให้น้องสาวของเธอหลุดพ้นจากขุมนรกที่ต้องแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รัก และแล้วประตูลิฟต์ก็เปิดออกที่ชั้น 49 ณิชาก้าว

ออกมาจากลิฟต์ วันนี้เธอสวมแจ็กเก๊ตหนังสีดำพอดีตัวกับกางเกงหนังสีเดียวกันดูกระฉับกระเฉงและคล่องตัว คำรณลูกน้องหนึ่งในสี่ของเจ้าของงานที่อยู่ด้านนอกห้องจัดเลี้ยงมองเห็นณิชาที่เดินเข้ามาตรงจุดที่ตนนั่งอยู่ ท่าทางของหญิงสาวคนนี้ดูไม่เป็นมิตรและไม่น่าไว้ใจเลย

“มีบัตรเชิญหรือเปล่าครับ” คำรณเอ่ยถามเมื่อพาร่างสูงโปรงของตนเข้าขวางร่างหญิงสาวที่เดินตรงดิ่งมาหาเขา

ณิชายิ้มก่อนจะตอบว่า “ไม่มี...มีแต่ไอ้นี่”

ไอ้นี่ที่ว่านี้ก็คือละอองน้ำที่ถูกปล่อยออกมาจากขวดสเปรย์ขวดเล็ก ณิชาจงใจฉีดเข้าที่ปลายจมูกของอีกฝ่าย ไม่ถึงสิบวินาทีร่างของลูกน้องก็ลงไปนอนนิ่งสนิทอยู่ที่พื้น ชายอีกสามคนเห็นว่าเพื่อนของตนลงไปนอนกับพื้นต่างกรูเข้ามาหาเธอพร้อมกัน หนึ่งในสามพยายามจะจับที่ข้อมือของเธอ แต่เธอใช้เท้าที่สวมด้วยรองเท้าหนังส้นเตี้ยกระแทกไปบนหน้าอกของชายคนนั้นก่อนที่คู่ต่อสู้จะเข้าถึงตัว จากนั้นก็ลอยตัวขึ้นสูงใช้เท้าเสยเข้าที่ปลายคางอย่างแรงและหนัก

หน่วงจนอีกฝ่ายสลบไป เหลือชายอีกสองคน คนหนึ่งเตี้ยอีกคนหนึ่งสูงพวกเขาสองคนเดินเข้ามาหาณิชาจากด้านขวาและซ้าย ณิชารอจังหวะให้ชายทั้งสองเข้ามาใกล้เธออีกนิดและอีกนิด จนกระทั่งเข้ามาถึงระยะที่ละอองน้ำจากยาสลบจะมีประสิทธิภาพสูงสุดไม่เกินหนึ่งเมตร เธออาศัยความไวฉีดสเปรย์เข้าที่โพรงจมูกของชายทั้งสอง แต่ระยะห่างเกินกว่าหนึ่งเมตร ยาสลบออกฤทธิ์ไม่เต็มที่ สาวนักสู้จึงใช้สันมือกระแทกเข้าไปที่ต้นคอของทั้งสองที่มีอาการสะลึมสะลือไร้เรี่ยวแรง จนในที่สุดชายทั้งสองก็ลงไปนอนนิ่งกับพื้น ณิชามองดูร่างของคนทั้งสี่ ก่อนจะเดินตรงไปที่ประตูขนาดใหญ่ เพื่อเดินเข้าไปรับน้องสาวของเธอ

บานประตูห้องจัดเลี้ยงถูกเปิดออก ร่างของหญิงชุดดำที่ดูแล้วไม่เป็นมิตรก้าวเดินเข้ามาในห้องเพียงคนเดียว ณิชาเลือกเวลาสามทุ่มในการมารับตัวน้องสาว เป็นเพราะบรรดาแขกผู้มีเกียรติเริ่มทยอยกันกลับหมดแล้ว ที่หลงเหลือ

อยู่ในห้องจัดเลี้ยงก็มีเพียงเจ้าบ่าวเจ้าสาว พี่ชายของเจ้าบ่าวและลูกน้องร่วมสามสิบคน นี่แหละคือปัญหาของณิชา เพราะเธอรู้ว่างานนี้หนักหนาสาหัสมากกว่างานไหนๆ หลายร้อยเท่า

“พี่ณิชา” พิชานันท์ร้องเรียกชื่อพี่สาวคนเดียวของเธอ ความดีใจและรอยยิ้มแห่งความดีใจอาบทั่วใบหน้า เป็นรอยยิ้มแรกของเจ้าสาวในวันนี้ ตั้งแต่เช้าพิชานันท์ไม่มีรอยยิ้มให้กับใครเลยแม้กระทั่งบิดาของเธอเอง คงไม่มีผู้หญิงคน

ไหนยิ้มอย่างมีความสุขกับการบีบบังคับให้แต่งงาน พิชานันท์สะบัดมือออกจากมือหนาของรัฐศาสตร์เจ้าบ่าวของงานที่

เกาะกุมมือสาวตลอดเวลา ราวกับกลัวว่าเธอจะหนีหายไปไหน จากนั้นก็ก้าวเท้าวิ่งไปหาพี่สาวที่ยืนรออยู่ไม่ไกลนัก

“พี่มารับนันท์แล้วใช่ไหม” พิชานันท์กอดร่างพี่สาวแนบแน่น ก่อนจะปล่อยหยาดน้ำตาแห่งความดีใจไหลรินออกมาอาบสองแก้ม

“ใช่ พี่มารับนันท์แล้ว” ณิชาตอบน้องสาว แต่สายตาเธอจับจ้องอยู่ที่กลุ่มชายฉกรรจ์นับสิบยืนอยู่เบื้องหน้า พวกเขามองมายังร่างของณิชาด้วยความรู้สึกที่หลากหลายซึ่งเธอเองก็ไม่หวาดหวั่นกับสายตาหลายคู่นั้นอยู่แล้ว คงจะมีเพียงดวงตาคู่หนึ่งเท่านั้นที่ทำให้ณิชารู้สึกร้อนๆ หนาวๆ มันดูร้อนแรงดุจเปลวเพลิงหากแฝงความเย็นชาดุจน้ำแข็งในคราเดียวกัน

“ฉันมารับน้องสาวของฉันกลับบ้าน” ณิชาบอกจุดประสงค์ในการมาครั้งนี้

“ไม่ได้นะ...นันท์แต่งงานกับฉันแล้ว” รัฐศาสตร์พูดด้วยเสียงค่อนข้างดัง เขาไม่มีวันยอมและไม่มีทางปล่อย

ผู้หญิงที่เขาหมายปองไว้ให้ไปไหนเด็ดขาด

“แต่น้องของฉันไม่เต็มใจที่จะแต่งงานกับคุณ”

“เต็มใจหรือไม่เต็มใจก็แต่งไปแล้ว...อย่าลืมสิพ่อของพวกเธอเป็นหนี้เราอยู่” รัฐศาสตร์พูดอย่างไม่ยอมแพ้ เพราะเขาคิดว่าถือไพ่เหนือกว่า

“หนี้ที่ไม่ได้ตั้งใจ แต่เป็นเพราะพวกคุณสร้างสถานการณ์ เพียงเพื่อจะสนองความต้องการของตัวเอง สนองความใคร่ที่มีต่อตัวน้องสาวฉันมากกว่า” ณิชาพูดถูกต้องทุกอย่าง การที่เรืองเดชบิดาของเธอเป็นหนี้หลายร้อยล้านบาท เป็นเพราะพี่ชายของรัฐศาสตร์สร้างสถานการณ์บางอย่างขึ้นมาเกี่ยวพันเชื่อมโยงจนบิดาของเธอไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ จากนั้นก็เสนอตัวเข้าไปช่วยเหลือเรื่องต่างๆ ของบริษัทจนสามารถผ่านพ้นเรื่องเลวร้ายไปได้ หลังจากนั้นก็บังคับและขู่เข็ญให้ยกลูกสาวให้กับเขา

“จะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจพ่อเธอก็เป็นหนี้พี่ชายฉันและหนี้มันก็มากด้วย” รัฐศาสตร์พูดเสียงค่อนข้างดัง มองณิชาอย่างกินเลือดกินเนื้อ ณิชาหาได้สนใจคำพูดของเจ้าบ่าว เธอจับมือพิชานันท์ก่อนจะหมุนตัวเดินตรงไปยังประตูห้องจัดเลี้ยงเพื่อพาน้องสาวออกไปจากที่นี่ แต่เสียงหนึ่งที่ทรงอำนาจดูน่ากลัวก็ดังขึ้นมา

“มันไม่ง่ายไปหน่อยเหรอที่เธอจะก้าวออกไปจากห้องนี้ง่ายๆ” รัฐกฤตญ์เอ่ยเป็นประโยคแรกออกมาหลังจากที่นั่งฟังคำพูดที่ถูกขับออกมาจากเรียวปากสีชมพูระเรื่อน่าสัมผัสอยู่นาน ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าแม้ว่าจะสวยและน่าสัมผัสขนาดไหน แต่คนที่เข้ามาท้าทายเขาถึงที่ ต้องได้รับบทเรียนที่สาสมและจดจำไปชั่วชีวิต

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ อัญญาณี

ข้อมูลเพิ่มเติม
สวาทรัก อสูรร้าย

สวาทรัก อสูรร้าย

มหาเศรษฐี

5.0

"คนอย่างเธอความเจ็บปวดแค่นี้มันยังน้อยเกินไป เธอต้องเจ็บเหมือนกับที่มินามิเจ็บ และต้องเจ็บยิ่งกว่าหลายร้อยเท่า ฉันจะทำให้เธอตายอย่างช้าๆ แต่ทุกข์ทรมานแสนสาหัส เธอจะไม่ได้ยินหรือสัมผัสกับความอ่อนโยนเมตตาจากฉัน สิ่งที่ฉันจะมอบให้เธอมีเพียงความเกลียดชังเท่านั้น จำใส่กะโหลกไว้" เรียวเหวี่ยงร่างงามไปที่เตียงนอนอย่างแรง มือหนาจับที่ข้อเท้าของเธอไว้แน่นเมื่อรู้ว่าเธอกำลังกระเถิบตัวหนี "หนีสิ หนีเลย ถ้าเธอหนี คนที่ตายเป็นคนแรกคือแม่ของเธอ ฉันจะให้แม่เธอตายเหมือนหมูเหมือนหมาข้างถนน เหมือนกับที่เธอฆ่าแม่ของฉัน" ดวงตาเขาเปล่งแสงแรงกล้าของความอาฆาต เมื่อนึกถึงข้อนี้อยากจะฆ่าหญิงสาวตรงหน้าให้ตายตามมารดาและคนที่เขารัก แต่ความตายอาจจะไม่ทำให้เขาสะใจ นอกจากกระกระทำต่อไปนี้ที่สะใจเขามากที่สุด ทรรศิกาหยุดดิ้นรนขัดขืน เขาจึงปล่อยข้อเท้าของเธอให้เป็นอิสระ จัดการปลดเปลื้องเสื้อผ้าต่อหน้าเธอ ความกลัวเริ่มเกาะกินจิตใจของเธอมากขึ้นเรื่อยๆ อยากจะวิ่งหนีออกไปจากที่นี่ แต่เมื่อนึกถึงมารดา ทำให้เธอก้มหน้ารับชะตากรรมที่กำลังจะเกิดขึ้น เรื่องที่คุณน่าจะสน

ชิงรัก

ชิงรัก

มหาเศรษฐี

5.0

ความอิจฉาน้องสาวต่างมารดาคือจุดเริ่มต้นของแผนการ “ชิงไอศูรย์” มาเป็นของตน เธอจึงใช้เล่ห์เหลี่ยมง่ายๆ คือวางยานอนหลับเขา พอตื่นขึ้นมาก็จะติ๋งต่างว่า เขากับเธอมีอะไรกัน ทว่าแผนเกิดผิดพลาด ยาที่ผสมในไวน์กลับเป็นยาปลุกเซ็กซ์ ผลที่ออกมาคือ ไอศูรย์มีความสัมพันธ์ทางกายกับเธอจริงๆ ในที่สุด ชเนตตีได้แต่งงานกับเขาตามตั้งใจ ทว่าผลที่ออกมา ไม่ได้เป็นไปตามที่คิดไว้ “เนยใส่อะไรในแก้วไวน์ของพี่ใช่ไหม ไม่อย่างนั้นพี่จะไม่มีวันอยู่ในสภาพแบบนี้” เขาถามอีกครั้งเมื่อเห็นอีกฝ่ายเงียบ เสียงที่ถามเข้มห้วน ใบหน้ายังคงเรียบตึง สายตาถมึงทึงใส่ร่างอวบที่ย่นคอหนีน้ำเสียงแผดกร้าว “ตอบพี่มา” “ใส่อะไร เนยไม่รู้เรื่อง…ฮือ…พี่เจย์ทำผิดแล้วอย่ามาโทษว่าเนยวางยาพี่นะ…ฮือ” เธอยังคงปากแข็งต่อไป หลบสายตาแข็งกร้าวพัลวัน

ลิขิตรักพญามาร

ลิขิตรักพญามาร

มหาเศรษฐี

5.0

“ว้าย!!..” เธอร้องได้เพียงเท่านั้น ก่อนที่ปากของหยาดน้ำค้างจะถูกมือใหญ่ของใครบางคนปิดเอาไว้ ลำแขนอีกข้างรัดร่างน้อยไว้แน่น ก่อนจะลากไปที่พุ่มไม้รกข้างทาง “อย่าดิ้น อย่าร้อง ไม่งั้นจะจับปล้ำมันตรงนี้แหละ” เสียงที่พูดชิดเรียวหูสะอาด ทำให้เธอรู้ว่าเจ้าของเสียงนั้นคือใคร..เหมันต์ วิเศษเดโช เขาดันร่างเล็กให้แผ่นหลังแนบชิดกับต้นไม้ใหญ่ขนาดสี่คนโอบ ใช้ลำแขนกักร่างบางเอาไว้ “ปล่อยนะ” หญิงสาวพูดเสียงเบาทว่าหนักแน่น เธอไม่กล้าพูดเสียงดังมาก เพราะกลัวว่าคนที่เดินผ่านไปผ่านมาจะได้ยิน “ไปกล่อมพ่อหรือกล่อมลูกมาล่ะ ถึงได้อ้อยอิ่งเป็นชั่วโมงแบบนี้” น้ำเสียงของเหมันต์เขียวเหมือนกับใบหน้าที่เขียวคล้ำด้วยความโกรธ “มันเรื่องของฉัน..คุณไม่เกี่ยว..เราไม่มีอะไรต่อกันแล้ว คุณก็ได้ในสิ่งที่คุณต้องการแล้วนี่ จะมาเอาอะไรกับฉันอีก ปล่อยนะ ฉันจะกลับที่พัก” หยาดน้ำค้างพยายามดิ้นรนหนีพันธนาการที่รัดร่างอยู่ แต่ทว่าลำแขนของเขานั้นหาได้คลายออกไม่ ยิ่งรัดแน่นมากกว่าเก่า เมื่อได้ยินวลีของเธอ “ทำไมผมจะไม่เกี่ยว ในเมื่อน้ำค้างเป็นเมียของผม..เป็นเมีย หรือว่าจำไม่ได้ว่าเราสองคนมีความสุขกันมากแค่ไหน” เขาเท้าความหนหลังให้เธอได้ฟัง ฝ่ายหญิงนิ่งเงียบกับคำพูดของเขา เธอไม่เถียงว่ามีความสุขมากแค่ไหนเวลาได้อยู่ใกล้ชิดกับเรือนกายที่แสนแข็งแรงและอบอุ่น หากแต่ความทุกข์และความเสียใจที่เธอได้รับนั้นมันก็มากมายเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นความสุขหรือว่าความทุกข์ เธอก็ไม่มีวันลืมเช่นกัน และไม่มีทางจะกลับไปจมกับความทุกข์อีกแล้ว “ฉันไม่ใช่เมียคุณ..ถ้าคุณคิดว่าการที่เรามีอะไรกันแล้วฉันจะเป็นเมียคุณ พี่ว่านก็ต้องเป็นสามีของฉันเหมือนกัน” หยาดน้ำค้างคิดว่าวิธีนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุด วิธีที่เขาไม่มีทางมายุ่งเกี่ยวกับเธออีก อ้อมแขนที่รัดร่างนิ่มคลายออกโดยอัตโนมัติ หัวใจของคนที่ฟังเต้นเร็ว ดวงตาคมเข้มสีดำเรืองแสงในความมืดที่โรยตัวไปทั่วบริเวณ บ่งบอกอะไรหลายอย่างในแววตา เสียใจ ไม่คาดฝัน ไม่แน่ใจ

สะใภ้สุดขั้ว แม่ผัวสุดขอบ

สะใภ้สุดขั้ว แม่ผัวสุดขอบ

มหาเศรษฐี

5.0

จะกี่หมัดก็ไม่หวั่น กี่ยกก็ไม่กลัว เธอจะ Knock Out ด้วยหัวใจติดปลายนวม ภัทรียายินดีสานต่อค่ายมวยและรับผิดชอบหนี้สินรุงรังต่อจากพ่อซึ่งเสียชีวิต แต่ ณ วันนี้หนี้สินสามปีที่ผัดผ่อนมาตลอดทำให้เธอมืดแปดด้าน ไม่ว่าความหวังแสนริบหรี่แค่ไหน เธอก็คว้าไว้อย่างไม่รอช้า ไม่เว้นแม้แต่การเป็นภรรยาหลอกๆ ต่อให้ต้องโดนแม่สามีดูถูกทุกขณะ น้องสาวสามีจ้องเหยียดชาติกำเนิดทุกครั้งที่เจอหน้า ภัทรียาก็ไม่หวั่นเกรงแม้แต่น้อย เพราะเธอคือ... ‘มะปราง ลูกจ่าดาบ ศิษย์จอมทอง’ นักมวยสาวหุ่นกระชากใจหนุ่มๆ หากไม่เพราะกำลังจะถูกแม่จับคลุมถุงชน ธัชธรรมจึงต้องเลือกใช้วิธีสิ้นคิด จ้างนักมวยสาวหมัดหนักที่กำลังร้อนเงินมาเป็นภรรยากำมะลอ จดทะเบียนจริง อยู่ด้วยกันจริง...และทำท่าว่าจะต้องอยู่ด้วยกันอีกนาน รออีกอย่างเดียวเท่านั้น... รอให้สะใภ้กำมะลอยอมเป็นภรรยาตัวจริงของเศรษฐีหนุ่มหล่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

โชคชะตาของพระชายา

โชคชะตาของพระชายา

Raff Madison
3.8

ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"

ที่แท้เป็นคุณหนูตัวจริง

ที่แท้เป็นคุณหนูตัวจริง

Nadia Lada
5.0

เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"

เป็นสุดที่รักของผู้เผด็จการ

เป็นสุดที่รักของผู้เผด็จการ

Charlton Buccafusco
5.0

ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ