"ยังดีที่หาทางกลับบ้านเจอ"
พอก้าวขาลงจากรถแท็กซี่เสียงที่ดังอยู่ในมุมมืดก็ดังขึ้นมาทันทีจนเจ้าเอยสะดุ้งตกใจมองหาที่มาของน้ำเสียงประชดประชัน พอเห็นร่าวสูงที่ยืนกอดอกด้วยสีหน้าบึ้งตึงก็พอจะรู้ว่าเขายังไม่นอนคงเพราะต้องการหาเรื่องเธออีกสินะ
"ไปไหนมา!!!”
“ทำไมพึ่งกลับเอาป่านนี้!!"
เมืองรามจับแขนเล็กกระชากเข้าหาตัว ก่อนจะตะคอกใส่หญิงสาวอย่างเดือดดาล เขาไม่ได้อยากจะทำแบบนี้กับเธอเลยสักนิด แต่ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นและคำพูดที่ได้ยินจากปากไอ้คาวี ซึ่งมันแอบชอบเจ้าเอย และต้องการเธอไม่ต่างจากคนอื่น มันทำให้เขารู้สึกเดือดปุดๆจนยากที่จะควบคุมอารมณ์ตัวเองได้
"ฟังฉันก่อนนะคะ... คือว่า...”
เจ้าเอยกำลังจะอ้าปากอธิบาย แต่แล้วก็ต้องหุบเมื่อคนเอาแต่ใจไม่ได้ที่จะต้องการคำตอบจากเธอเลยสักนิด
"บอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่ากลับบ้านดึกดื่นกลางค่ำกลางคืน! แล้วตอนนี้มันกี่โมงกี่ยาม ห๊ะ!!"
"......"
“หรือว่าอยากจนตัวสั่น ถึงออกไปมั่วกับเพื่อนฉันข้างนอก เธอนี่มันร้ายกว่าที่คิดไว้เยอะเลยนะ ร่านเหมือนแม่เธอไม่มีผิด!!” เมืองรามยังคงโกรธจัดตะเบ็งเสียงด่าทอเจ้าเอยไม่หยุด
"อย่ามาลามปามแม่ฉันนะ!!" เจ้าเอยโกรธจนตัวสั่นเมื่อเขาด่าถึงบุพการีที่จากไปแล้ว
"ยังจะกล้าส่งเสียงเถียงฉันอีกหรือไง ยัยเด็กนรก เด็กสกปรก ขยะ!!"
"คำก็ขยะ สองคำก็สกปรก คุณรามด่าฉันมาแบบนี้ทุกครั้งที่เจอหน้า ไม่เบื่อบ้างหรือไงคะ"
ถึงแม้เจ้าเอยจะกลัวจนตัวสั่นกับสีหน้าเคร่งเครียดของเมืองราม จำได้ครั้งล่าสุดที่เธอโดนเขาจับขังลืมในห้องน้ำ นานจนร่างกายอ่อนเพลียถึงขั้นนอนโรงพยาบาลใส่น้ำเกลือมาแล้ว
คราวนี้เขาดูน่ากลัวมากกว่าครั้งที่แล้วไม่รู้ว่าจะทำโทษอะไรเธออีกหรือเปล่า
"..........."
คิ้วเข้มที่ว่าขมวดเข้าหากันแน่นจนตอนนี้แทบจะพันกันให้ยุ่ง เมืองรามจ้องหน้าเจ้าเอยตาแทบถลนด้วยสีหน้าเกรี้ยวกราด
"ขนาดฉันได้ยินทุกวันยังเบื่อที่จะฟังเลย" เจ้าเอยสุดจะทนกับความเจ้าอารมณ์ของคนปากจัด