ภรรยากระดูกเหล็ก
พอกลับถึงบ้าน เด็กน้อยก็พิงไหล่เธอหลับไปแล้ว พอมองไปที่ใบหน้าที่อ่อนเยาว์นั้น หัวใจของเธอก็อ่อนระทวยทันที
......
วันรุ่งขึ้น หลังจากฉวี่ชิงเกอตื่นนอนและอาบน้ำเสร็จ เธอก็เดินออกมาจากห้อง แล้วก็พบว่า บนโต๊ะอาหารมีอาหารเช้ารสเลิศมากมายจัดวางเอาไว้แล้ว
เธออึ้งไปครู่หนึ่ง เด็กน้อยคนนั้นลุกขึ้นจากโซฟา แล้วก็มาลากเธอไปที่โต๊ะอาหาร
“เจ้าหนูน้อย ของพวกนี้หนูเป็นคนซื้อเหรอ!”
เด็กน้อยคนนั้นพยักหน้า แล้วมือก็หยิบกระดาษกับปากกาออกมาเขียนอยู่หลายคำอย่างรวดเร็ว “ขอบคุณพี่สาวที่ดูแลผม พี่สาวกินข้าวเช้าสิ”
พอเห็นลายมือที่ดูเป็นระเบียบเรียบร้อยนั้น ฉวี่ชิงเกอก็อึ้งจนแน่นิ่งไปชั่วขณะ แม้ว่าเด็กน้อยคนนี้จะพูดไม่ได้ แต่เธอมองออกว่า เขาฉลาดมาก
“หนูน้อย เธอนี่ยอดเยี่ยมเหมือนกันนะ แต่การออกไปคนเดียวมันอันตรายมาก คราวหน้าอย่าทำแบบนี้อีกนะ อีกอย่าง หนูช่วยบอกพี่หน่อยได้ไหมว่าหนูชื่ออะไร?”
พอได้ยินแบบนั้น เด็กน้อยก็เขียนชื่อของตัวเองลงบนกระดาษทีละขีด
ฟู่เวินสือ
ฉวี่ชิงเกอถึงกับตะลึง นามสกุลฟู่ คงไม่บังเอิญขนาดนั้นหรอกมั้ง?
เขารู้จากข่าวว่าฟู่หนานจิ่นกับเจี่ยนหล่านมีลูกด้วยกันเมื่อห้าปีที่แล้ว
น่าจะเป็นเรื่องบังเอิญแหละ ฉวี่ชิงเกอคิดในใจ ทันใดนั้น มีเสียงกริ่งหน้าประตูด้านนอกก็ดังขึ้นมา เช้าขนาดนี้ใครมากันนะ? เธอลุกขึ้นแล้วก็เดินไปเปิดประตูด้วยความสงสัย
นอกบ้านมีชายหญิงคู่หนึ่งกำลังยืนอยู่ พอเห็นว่าเป็นใบหน้าที่คุ้นเคย แววตาของฉวี่ชิงเกอก็เย็นชาลงในชั่วพริบตา
สองคนนีั้นก็คือฟู่หนานจิ่นและเจี่ยนหล่านนั่นเอง
แต่เจี่ยนหล่านรู้สึกประหลาดใจกว่ามาก เพราะเธอไม่คาดคิดว่าจะเป็นฉวี่ชิงเกอที่มาเปิดประตู ผู้หญิงคนนี้ทำไมถึงมาอยู่เมือง A ได้ล่ะ เธอน่าจะตายอยู่ในห้องคลอดแล้วไม่ใช่เหรอ? พอมองไปเห็นฟู่เวินสือที่นั่งอยู่ที่โต๊ะอาหาร สายตาของเธอก็เปลี่ยนไปทันที
“ฉวี่ชิงเกอ เธอตั้งใจจะทำอะไรกันแน่ ทำไมถึงพาลูกฉันกลับมาแบบนี้”
หลังจากพูดจบ เจี่ยนหล่านก็รีบปรี่เข้ามาอย่างร้อนใจ เดินเข้าไปหาฟู่เวินสือทันที
ฟู่หนานจิ่นมองไปที่ฉวี่ชิงเกอ เขาขมวดคิ้วเล็กน้อยพร้อมกับพูดว่า “ฟู่เวินสือ ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่กับคุณได้?”
ฉวี่ชิงเกอเองก็ไม่คาดคิดเหมือนกันว่า การคาดเดาของเธอจะเป็นจริง ฟู่เวินสือเป็นลูกของเขากับเจี่ยนหล่านจริง ๆ ด้วย ก่อนที่เธอจะทันได้พูดอะไรออกมา เจี่ยนหล่านก็ดึงฟู่เวินสือไป แล้วก็จี้ถามขึ้นว่า “ฉวี่ชิงเกอ เธอคิดจะทำอะไรกันแน่ เมื่อแปดปีที่แล้วเธอตั้งใจขับรถชนฉัน แล้วตอนนี้เธอก็พาลูกของฉันกลับมาที่บ้านอีก ฉันได้ไปทำอะไรไม่ดีไว้กับเธองั้นเหรอ? เธอถึงได้อยากจะสร้างความวุ่นวายให้กับชีวิตของฉันไม่รู้จักจบจักสิ้นแบบนี้”
ทันทีที่พูดจบ ฟู่เวินสือก็หลุดออกมาจากมือของเจี่ยนหล่านที่จับเขาไว้ จากนั้นก็มายืนขวางอยู่ข้างหน้าฉวี่ชิงเกอ ดวงตาคู่นั้นของเขามองไปที่เจี่ยนหล่านอย่างไม่พอใจ
“ฟู่เวินสือ นี่ลูก.....”
เจี่ยนหล่านกำลังจะระเบิดขึ้นมาแล้ว
ดวงตาของฉวี่ชิงเกอดูเคร่งขรึมมาก เธอพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “รบกวนเธอช่วยพูดอะไรที่มันเป็นความจริงหน่อยได้มั้ย ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่านี่คือลูกของพวกคุณ ฉันเห็นเขาอยู่ข้างนอกตอนดึก ๆ ฉันก็เลยหวังดีพาเขากลับมาด้วยก็เท่านั้นเอง”
“เป็นไปไม่ได้ ฉวี่ชิงเกอ เธอต้องคิดจะทำอะไรที่มันไม่ดีอยู่แน่ ๆ !”
“ถ้าฉันคิดไม่ดีจริง ๆ แล้วทำไมฉันต้องแจ้งตำรวจด้วยล่ะ? ไม่ใช่ว่าพวกคุณรู้ว่าเด็กคนนี้อยู่ที่นี่เพราะไปสถานีตำรวจมาหรอกเหรอ?”
เจี่ยนหล่านพูดไม่ออกไปสักพัก เวลานี้ ฟู่เวินสือกำลังเขียนอะไรบางอย่างบนกระดาษ:“แม่ต่อว่าผม ผมจะออกไปหาพ่อ แต่ผมหาไม่เจอ พี่สาวคนสวยจึงพาผมกลับมาด้วย”
พอเห็นแบบนั้น ดวงตาของฟู่หนานจิ่นก็ดูเศร้าหมองขึ้นมาทันที จากนั้นเขาก็พูดกับฉวี่ชิงเกอด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ ว่า “เจี่ยนหล่านเข้าใจคุณผิด ผมต้องขอโทษคุณด้วยนะ ขอบคุณมากที่ดูแลฟู่เวินสือให้ พวกเราไปกันเถอะ”
สายตาของเจี่ยนหล่านแสดงออกว่าไม่พอใจ แต่สุดท้ายแล้วเธอก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา แล้วก็พาลูกจากไปทันที
ก่อนจะไป เด็กน้อยคนนั้นยังคงมองฉวี่ชิงเกออย่างอาลัยอาวรณ์ แต่สุดท้ายแล้วเธอก็ไม่ได้ตอบสนองอะไร