Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
เฮียเถื่อน (พร้อมลุย)

เฮียเถื่อน (พร้อมลุย)

B.J.BEN

5.0
ความคิดเห็น
4.8K
ชม
26
บท

เธอเป็นของตายหรือเป็นหัวใจทั้งดวงของเขากันแน่ ตัวอย่างบางช่วงบางตอน "เฮียเคยคิดจะแต่งงานมีครอบครัวไหมคะ" พริมาเอ่ยถามอย่างอยากรู้ "พรีมคือผู้หญิงที่เฮียคบนานที่สุด" เขาตอบไปอีกทาง แต่ยืนยันสถานะของตัวเองให้เธอได้รับรู้ว่าเธอแค่ปิ่นโตเถาสวยที่เขาผูกเอาไว้กิน อิ่มเมื่อไหร่ก็พร้อมที่จะตีจาก

บทที่ 1 1

ณ ไร่ อันกว้างใหญ่ไพศาล ร่างสูงสง่าของเถื่อน อภิกานต์ กำลังควบม้าพันธุ์ดีสีดำสนิทมุ่งตรงมายังกลุ่มของหนุ่มหล่อที่กำลังนั่งจิบไวน์กันอย่างออกรสเพื่อชมพระอาทิตย์ตกดินที่สวยงามตรงริมหน้าผาที่มองเห็นภูเขาสูงเสียดฟ้า และวิวทิวทัศน์อันสวยงามของสวนดอกไม้นานาพันธุ์

น้อง ๆ ของเถื่อนทุกคนกำลังรอพี่ชายคนโตเหมือนเช่นเคย ทั้งหมดเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน เพราะบิดาของแต่ละคนเป็นพี่น้องที่คลานตามกันมา ซึ่งตระกูลอภิกานต์มีลูกชายสี่คน หลังจากแต่งงานก็มีลูกชายอีกครอบครัวละคน

เถื่อนหรือเฮียเถื่อน พันพงศ์ อภิกานต์คือพี่คนโต รองจากนั้นคือปืน พันไท อภิกานต์ น้องคนที่สามคือเสือ พันหาญ อภิกานต์และสิงห์ พันแสน อภิกานต์ น้องสุดท้องของตระกูลที่อายุห่างกันเพียงแค่ปีเศษ

เถื่อนลงมาจากหลังม้าด้วยท่วงท่าสง่างาม พร้อมด้วยบรรดาน้อง ๆ ที่เอ่ยทักทายพี่ชายด้วยรอยยิ้ม

“ม้าตัวใหม่ของเฮียนี่โคตรสวยเลย” ปืนมองม้าสีดำสนิทที่เถื่อนเพิ่งได้มาครอบครองและตั้งชื่อว่าเจ้านิลอย่างสนใจ

เถื่อนเป็นพี่ใหญ่สุดของตระกูล ปีนี้อายุสามสิบเก้า ในขณะที่ปืนอายุสามสิบเจ็ด เสืออายุสามสิบห้า และน้องคนเล็กอายุสามสิบสามตามลำดับ

“เจ้าหมอกก็สวย เฮียเลือกกับมือเลยนะ” หมอกคือม้าสีขาวสวยของปืนที่เถื่อนซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิดแก่น้องชายเมื่อปีที่แล้ว

“เฮียใจดีกับพวกเราเสมอ” เสือนึกถึงม้าสีน้ำตาลเข้มของตัวเองที่พี่ชายมอบให้เป็นของขวัญวันเกิดไม่ต่างจากพี่ชายคนรองแล้วเผลอยิ้มออกมา น้อง ๆ ทุกคนได้ม้าเป็นของขวัญวันเกิดเมื่อปีที่แล้วจากเฮียเถื่อน

ส่วนน้องคนเล็กอย่างสิงห์ได้ม้าสีน้ำตาลลายขาว เท้าทั้งสี่มีถุงเท้าเป็นสีขาว ด้านหลังมีสีขาว ลำตัวเป็นสีน้ำตาล เป็นม้าที่มีลวดลายแปลกตาและสง่างามมาก

ร่างสูงสง่าของเถื่อนเดินมาทรุดนั่งลงข้าง ๆ กับน้องชายทั้งสาม ในแต่ละสัปดาห์หรือแต่ละเดือน ทุกคนจะพบปะพูดคุยและสังสรรค์กันตามประสาพี่น้อง ใครมีเรื่องเดือดร้อนหรือต้องการความช่วยเหลืออะไร พี่น้องทุกคนจะเข้าช่วยเหลือในทันที

“ปีนี้พรีมก็จะเรียนจบแล้วใช่ไหมเฮีย” สิงห์เอ่ยถามพี่ชาย พริมา หรือพรีม โภควิชย์คือสาวน้อยนักศึกษาสาวที่พี่ชายของเขาผูกปิ่นโตเอาไว้ตั้งแต่ปีหนึ่ง พี่ชายของเขามีผู้หญิงเข้าหามากมาย มีให้เลือกควงไม่ซ้ำหน้า แต่พริมาเป็นผู้หญิงคนเดียวที่พี่ชายของเขาคบนานที่สุด และเลี้ยงดูกันมานานหลายปีอย่างไม่น่าเชื่อ

“ถามถึงพรีมทำไม” เถื่อนหรี่ตามองน้องชาย เขายอมรับว่าค่อนข้างหวงพริมาเอามาก ๆ อาจเพราะเธอเป็นสมบัติชิ้นโปรดของเขานั่นเอง

“ก็จะเรียนจบแล้ว เฮียจะเอายังไงต่อไปครับ” สิงห์ยังเอ่ยถามอย่างสนใจ ด้วยว่าพริมาเป็นหญิงสาวที่สวย น่ารัก เธอมีคุณสมบัติของการเป็นภรรยาที่ดี หากพี่ชายของเขาจะสละโสดกับพริมา ทุกคนก็ลงความเห็นว่าดี เพราะพริมาสามารถทนอารมณ์ร้าย ๆ ของเถื่อนได้ดี และใจเย็นเสมอเวลาเถื่อนโมโห

“จะยังไงต่อคือยังไงวะ ไม่เห็นเข้าใจ”

“เฮียคิดยังไงกับพรีมเหรอ คบกันมาตั้งนาน ผมอยากรู้เลยถามไง เฮียก็รู้ว่าผมเป็นคนตรง ๆ” น้องเล็กสุดเอ่ยถาม ถ้าเถื่อนจะทิ้งพริมาในตอนนี้ก็น่าเสียดายแย่ ผู้หญิงที่จะอยู่กับพี่ชายของเขาได้นานขนาดนี้หายากเหลือเกิน

เขายังอยากให้พี่ชายเป็นฝั่งเป็นฝามีครอบครัวที่ดี เพราะเถื่อนก็อายุมากขึ้นทุกปี

“ไม่ได้คิดอะไร ก็แค่...” เถื่อนชะงักเมื่อต้องเอ่ยคำจำกัดความที่เขามีให้แก่หญิงสาวนามว่าพริมา

“ที่นึกไม่ออกเพราะเฮียชอบพรีมหรือเปล่า” ประโยคของสิงห์น้องชายคนเล็กทำให้เถื่อนนิ่งอึ้งไป ก่อนจะปฏิเสธออกมา

“เฮียไม่เคยรักผู้หญิงคนไหน โดยเฉพาะผู้หญิงคนนั้นเป็นแค่ปิ่นโตเถาสวยที่ผูกเอาไว้กินเวลาหิวเท่านั้น” คำตอบของพี่ชายทำให้สิงห์ถอนใจเฮือกใหญ่ เขายอมรับว่าเอ็นดูพริมาเหลือล้น

ชีวิตของพริมาน่าสงสาร หล่อนมีครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์ ปากกัดตีนถีบ ทำงานไปส่งเสียตัวเองไป จนได้เจอกับเถื่อน เถื่อนจึงรับเลี้ยงดูผูกปิ่นโตและส่งเสียให้พริมาเรียนจนใกล้จะจบแล้ว

“ระวังจะมีคนคาบไปกินนะเฮีย จะมีผู้หญิงสักกี่คนที่ทนเฮียได้” ปืนเองก็เห็นด้วยกับน้องชายคนเล็ก

“เฮียไม่เคยคิดเรื่องการแต่งงานมีครอบครัว อยู่กันไปแบบนี้ไม่วุ่นวายใจดี แต่งงานกันแล้วก็เปลี่ยนสถานะจากผู้หญิงธรรมดาเป็นแม่เป็นเมีย ผู้หญิงชอบจุกจิกจู้จี้ไร้สาระ” เถื่อนยกแก้วไวน์ขึ้นมาจิบเบา ๆ เห็นครอบครัวคนรอบข้างที่มีเมียแล้วแลดูวุ่นวาย ไร้ความสุข มีแต่เรื่องทะเลาะเบาะแว้ง หึงหวงหวาดระแวง คงสถานะไว้แบบนี้เขาว่ามันดีที่สุดแล้ว อีกทั้งชีวิตครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์ของตัวเอง และเคยโดนคนรักทรยศหักหลัง นั่นทำให้เถื่อนไม่อยากผูกมัดกับผู้หญิงคนไหนอีก

“เฮียก็พูดถูก ไม่มีพันธะสบายใจ แต่ถ้าใช่ก็ควรจะรีบคว้าเอาไว้นะเฮีย ถ้ามีผู้ชายคนอื่นที่ดี ๆ มาให้พรีมเลือก แล้วเขาเกิดเลือกขึ้นมา เฮียจะทำไงเหรอ” เสือเอ่ยถามพี่ชาย ด้วยว่าหากเป็นเขา รักก็คือรัก ชอบก็คือชอบ ไม่มีทางปล่อยให้ผู้หญิงที่รักหลุดมือไปอย่างเด็ดขาด

“เขาไม่มีวันเปลี่ยนใจไปชอบคนอื่นหรอก” เถื่อนพูดอย่างมั่นใจ คนปากหนักทำเอาน้องชายทั้งสามมองสบตากัน แล้วพูดในใจว่าจะคอยดู

เถื่อนขับรถเข้าเมืองไปรับพริมาในเย็นของอีกวันหนึ่ง ร่างบอบบางในชุดนักศึกษารีบเดินมาขึ้นรถที่จอดรออยู่ เธอจำรถคันหรู ราคาแพงลิ่วของเขาได้ดี

“รอนานไหมคะเฮีย” พริมาเอ่ยถาม ก่อนจะยิ้มหวานส่งมาให้เขา

“นาน” เขาตอบสั้น ๆ ก่อนจะจิ้มที่แก้มของตัวเอง ทำให้เธอต้องมองซ้ายมองขวาเพราะกลัวใครเห็น

“ไม่มีใครเห็นหรอกน่า รถติดฟิล์มทึบขนาดนี้” สิ้นประโยคของเขาเธอก็ขยับใบหน้าเข้าไปใกล้ก่อนจะหอมแก้มเขาฟอดใหญ่

มือหนาของเถื่อนเลื่อนมาลูบไล้มือนิ่มของพริมาเบา ๆ ก่อนจะยกขึ้นมาจุมพิตแล้วใบหน้าคมเข้มหล่อเหลาก็ขยับเข้าหา ทำท่าจะจูบเธอ

“เฮียคะ อย่าค่ะ นี่มันหน้ามหาวิทยาลัยนะคะ” เธอดันปลายคางของเขาออกห่าง แต่มือหนาก็ล้วงเข้าไปในกระโปรงสั้นของเธอเพื่อสัมผัสกับกลีบกายสาว

“เฮียคะ”

“เยิ้มขนาดนี้ มีอารมณ์เหรอ” น้ำเสียงของเขาแหบพร่า ใบหน้าเต็มไปด้วยความกระหาย เขากัดปากเบา ๆ ทำเอาหัวใจของพริมาสั่นไหวอย่างรุนแรง

“คืนนี้เฮียค้างด้วยนะ”

“คอนโดของเฮียนี่คะ เฮียจะนอนหรือไม่นอนก็ได้ พรีมเป็นแค่คนอาศัยเอง” เธอชะงักเมื่อเขายื่นเอกสารมาตรงหน้า

“อะไรเหรอคะ”

“เปิดดูสิ” เถื่อนควบรถกลับคอนโดฯ อย่างเร็วรี่ เขายอมรับว่าหิวร่างน้อยแสนหวานนี้เหลือเกิน

พริมาเปิดเอกสารด้านในออกดูก่อนที่เธอจะตาโต มองซีกหน้าหล่อเหลาของคนที่กำลังตั้งใจขับรถอย่างตกตะลึง

“ของไหมของขวัญของเฮีย”

“เฮียโอนคอนโดเป็นชื่อของพรีมเหรอคะ”

“เป็นของขวัญที่ตั้งใจเรียนจนใกล้จบแล้ว” ประโยคของเขาทำให้เธอตื้นตันใจยิ่งนัก ที่เธอเรียนจบได้เพราะเถื่อน ค่าเทอมกับค่าใช้จ่ายในการเรียนทุกอย่างเขาเป็นคนออกให้ เถื่อนเป็นคนสปอร์ต พร้อมเปย์ และรวยมาก เขามีเงินมากมายที่จะทำอะไรก็ได้ ในขณะที่เธอยากจนเหลือแสน ทำงานปากกัดตีนถีบกว่าจะมีเงินเอาไว้ใช้จ่ายแต่ละบาทแต่ละสตางค์

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ B.J.BEN

ข้อมูลเพิ่มเติม

หนังสือที่คุณอาจชอบ

สุดที่รักของจักรพรรดิ

สุดที่รักของจักรพรรดิ

Berne Beer
4.9

หลังจากดูแลสามีมาเป็นเวลาสามปี เมื่อเห็นสามีสอบติดขุนนาง เฉียวชูเยว่ก็นึกว่าชีวิตดีๆ จะมาแล้ว แต่กลับไม่รู้ว่าสามีเป็นคนโลภ และเจ้าชู้ เพื่อจัดการปัญหาให้สามี เฉียวชูเยว่เสียตัวให้กับจักรพรรดิโหดร้ายโดยไม่ได้ตั้งใจ เพื่อชีวิตและอนาคตของสามี นางได้แต่อดทนเอาไว้ จากนั้น สามีของนางก็ได้รับการยกย่องจากจักรพรรดิ และถูกเลื่อนตำแหน่งเรื่อยๆ เมื่อสามีของนางกำลังเพลิดเพลินอำนาจและสาวสวยนั้น นางกำลังรับใช้กับจักรพรรดิอย่าง้อยใจ แต่ไม่คาดคิดว่าความพยายามของนางได้แลกกับใบหย่าจากสามี ในวันแต่งงานของสามี นางถูกฆาตกรไล่ตามและตกลงไปในโคลน เมื่อนางหมดหวังนั้น จักรพรรดิก็มายืนอยู่ตรงหน้านาง "มาเป็นคนของข้าสิ และจะไม่มีใครกล้ารังแกเจ้าอีก!"

หยางจื้อซี เกิดใหม่ในหมู่บ้านป่าหมอก

หยางจื้อซี เกิดใหม่ในหมู่บ้านป่าหมอก

จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ
5.0

หยางจื้อซี เด็กกำพร้าจากศตวรรษที่21 ถูกองค์กรมืดเลี้ยงดูจนเติบโตและทำให้เธอกลายเป็นมนุษย์กลายพันธ์ ในระหว่างที่ถูกส่งตัวไปทำภารกิจลับ เธอกลับถูกคนในองค์กรมืดหักหลังและถูกฆ่าโดยเพื่อนสนิทที่เธอไว้ใจมากที่สุด ก่อนสิ้นใจเธอถามเพื่อนสนิทว่าทำไม แต่ไม่ได้รับคำตอบจากปากของอีกฝ่าย สิ่งที่เธอได้รับคือรอยยิ้มที่ดูถูกเหยียดหยามและ คำว่า “โง่” จากปากของอีกฝ่ายเท่านั้น หลังจากที่ตายไปแล้วสิ่งที่เธอคิดไว้ คงจะเป็นนรกหรือที่ไหนสักแห่งที่เป็นโลกหลังความตาย แต่ทว่ามันกลับไม่เป็นเช่นนัน เธอตื่นขึ้นมาในร่างของ หยางจื้อซี เด็กหญิงอายุ เพียง 13 ขวบปีในหมู่บ้านป่าหมอก ในดินแดนโบราณล้าหลังที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ คล้ายกับว่าเป็นโลกคู่ขนานที่อยู่อีกมิติหนึ่ง เธอตื่นขึ้นมาในบ้านที่ผุพัง ครอบครัวยากจน มีแม่ที่อ่อนแอและเจ็บป่วย มีพี่น้องที่อายุน้อย มีปู่ย่าตายายที่เห็นแก่ตัวและใจร้าย มีลุงที่เห็นแก่ได้ป้าสะใภ้ที่เต็มไปด้วยความละโมบโมบโลภมาก หยางจื้อซี คิดว่านับจากนี้ไปชีวิตจะต้องอยู่ได้ด้วยตัวเอง หากใครมารังแกก็แค่ทุบตี เธอไม่เชื่อว่าด้วยพลังที่ติดตัวเธอมาจากชาติที่แล้วจะไม่สามารถอยู่รอดได้ในโลกล้าหลังแห่งนี้

บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง

บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง

มาชาวีร์
4.7

หลี่เมิ่งเหยาย้อนเวลามาอยู่ในร่าง ของเด็กสาววัยสิบสองปี ในวันที่มารดาอนุผู้โง่เขลา ถูกขับไล่ออกจากจวน โชคยังดีที่ตอนตาย นางสวมกำไลหยกโลกันตร์เอาไว้ มันจึงติดตามนางมาที่นี่ด้วย +++ 1 : มารดาโง่ จนถูกไล่ออกจากตระกูล จวนตระกูลหลี่เจ้าเมืองถัง สตรีสองนางถูกสาวใช้จับคุกเข่าลง ตรงหน้าของหลี่หงซวนเจ้าเมืองถัง ทั้งยังเป็นพ่อสามีของทั้งคู่อีกด้วย ท่านกำลังสอบสวนเรื่องของสะใภ้ใหญ่ของบ้านสาม ถูกฮูหยินรองกับอนุรวมหัวกันลอบทำร้าย ด้วยการวางยาขับเลือดในถ้วยน้ำแกงบำรุงครรภ์ ทำให้นางต้องสูญเสียทารกในครรภ์ไป “ท่านพ่อข้าไม่รู้จริง ๆ ว่านั่นเป็นยาขับเลือด ฮูหยินรองบอกว่าเป็นน้ำแกงบำรุงครรภ์ ให้ข้าเป็นคนนำไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ เป็นนางนั่นเอง นางหลอกข้า !” เฉาซูหลิ่งชี้นิ้วไปทางสตรีด้านข้าง ร้อนรนเอ่ยออกมาเหมือนคนไม่ได้รับความเป็นธรรม “อนุเฉาเจ้าอย่ามาใส่ร้ายข้านะ เจ้าทำคนเดียวทั้งนั้นไม่เกี่ยวกับข้าเลย” ฮูหยินรอง ถูซวงอี้ ชี้นิ้วใส่หน้าเฉาซูหลิ่งกลับคืน ต่างคนต่างโยนความผิดให้กัน ฮูหยินผู้เฒ่าหลิวเยี่ยนหนานโบกมือให้คนเข้ามา “ข้าให้โอกาสพวกเจ้าสองคนพูดความจริง แต่กลับไม่มีใครยอมรับความผิดแม้แต่คนเดียว มันน่าจับส่งทางการให้รู้แล้วรู้รอด” พ่อบ้านหลัวให้คนลากสาวใช้คนหนึ่งเข้ามา สภาพของนางถูกทรมานจนเนื้อตัวบวมช้ำไปหมด “เรียนนายท่านข้าให้คนไปค้นห้องสาวใช้ทุกคนในจวน พบเทียบยาซ่อนไว้ใต้หมอน จากห้องของสาวใช้คนนี้ขอรับ” ถูซวงอี้ถึงกับคุกเข่าต่อไปไม่ไหว ทิ้งตัวลงไปนั่งอยู่บนพื้น สาวใช้ที่ถูกทรมานจนสภาพน่าเวทนานั่น เป็นเสี่ยวอิงสาวใช้สินเดิมของนางเอง “ฮูหยินรอง ข้าขอโทษ ข้าทนต่อไปไม่ไหวจริง ๆ ข้าขอโทษ !” เสี่ยวอิงโขกศีรษะลงตรงหน้าของถูซวงอี้แรง ๆ น้ำตาไหลนองหน้าจน แทบไม่เป็นผู้เป็นคนอยู่แล้ว พ่อบ้านหลัวเอ่ย “ข้าให้คนไปถามที่หอโอสถแล้วขอรับนายท่าน เป็นเทียบยาขับเลือดจริง ๆ” หลี่หงซวนมองไปทางบุตรชายคนที่สามของตน พบว่าเขามีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก สตรีที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าคือฮูหยินรอง กับอนุภรรยาที่เขารักใคร่ไม่ต่างกัน เหตุใดถึงได้คิดร้ายต่อฮูหยินใหญ่ของเขาได้ เป็นเหตุให้เขาต้องสูญเสียลูกที่อยู่ในท้องของนางไป เดิมทีฮูหยินใหญ่ของเขาก็ตั้งท้องยากอยู่แล้ว เขารอมาตั้งนานกว่าจะมีวันนี้ได้ ไม่คิดมาก่อนว่าจะต้องสูญเสียไปเช่นนี้ “หย่วนเจ๋อนี่เป็นเรื่องในเรือนของเจ้า เจ้าอยากตัดสินเรื่องนี้ด้วยตัวเองหรือไม่” ผู้เป็นบิดาเอ่ยถามบุตรชาย “ไม่ ข้าไม่อยากเห็นหน้าพวกนางอีกต่อไป แล้วแต่ท่านพ่อเถอะขอรับ ข้าขอตัวไปดูฮูหยินใหญ่ก่อน” หลี่หย่วนเจ๋อคำนับบิดา สะบัดแขนเสื้อเดินจากไปในทันที หางตายังไม่แม้แต่จะมองสตรีทั้งสองนาง เฉาซูหลิ่งลนลานตามเขาไป “ท่านพี่ช่วยข้าด้วย ข้าไม่ผิดนะเจ้าคะ ท่านพี่ !” แต่ถูกบ่าวรับใช้ขวางทางเอาไว้ หลี่หงซวน “หยุดโวยวายได้แล้วอนุเฉา เจ้าเป็นคนถือถ้วยน้ำแกงใส่ยาขับเลือด ไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ด้วยตัวเอง ยังคิดจะหนีความผิดนี้ไปได้อีกรึ” “ท่านพ่อขะข้าข้า...ไม่ผิด” เฉาซูหลิ่งทิ้งตัวไปด้านหลังอย่างหมดเรี่ยวแรง เดิมทีนางก็ไม่เป็นที่โปรดปรานของพ่อแม่สามีอยู่แล้ว เพราะไม่สามารถให้กำเนิดบุตรชายได้ ครั้นได้บุตรสาวก็นิสัยขี้ขลาดขี้กลัว ไหนเลยจะเชิดหน้าชูตาให้ตระกูลหลี่ได้ เฉาซูหลิ่งนั่งเหม่อลอย คล้ายคนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ขณะที่หลี่หงซวนกำลังประกาศโทษทัณฑ์ของพวกนาง ถูซวงอี้กับคนของนาง ถูกขายออกจากจวน ไปอยู่หอนางโลมอย่างเงียบ ๆ ชาตินี้อย่าได้ก้าวเท้า กลับมาเหยียบที่จวนตระกูลหลี่อีก ส่วนเฉาซูหลิ่งถูกขับไล่ออกจากจวน ไปพร้อมกับบุตรสาว ให้ไปอยู่เรือนร้างของตระกูลหลี่ที่เมืองฉาง ห้ามกลับมาที่ตระกูลหลี่อีกชั่วชีวิต “ท่านพ่อท่านขับไล่ข้าไป ข้ายังพอรับได้ เหตุใดต้องขับไล่เหยาเอ๋อร์ไปด้วย นางเพิ่งจะสิบสองปีเองนะเจ้าคะ” เฉาซูหลิ่งนึกถึงบุตรสาวร่างกายผ่ายผอม นอนซมเพราะพิษไข้อยู่ เกิดนึกสงสารนางขึ้นมาจับใจ ฮูหยินผู้เฒ่าหันไปมองสามีเล็กน้อย นางเห็นเด็กสาวคนนั้นมาตั้งแต่เกิด แม้ไม่ได้เอ็นดูแต่ก็นับว่าเป็นสายเลือดเดียวกัน “ฮูหยินเรื่องนี้ข้าตัดสินใจไปแล้ว ไม่อาจคืนคำได้” คำพูดของประมุขของตระกูล มีหรือใครจะกล้าขัด เฉาซูหลิ่งปล่อยเสียงร้องไห้โฮออกมาดัง ๆ นางโง่งมจนทำให้บุตรสาว ต้องมารับเคราะห์กรรมตามไปด้วย “ลากตัวอนุเฉาออกไป หารถม้าสักคันให้คนส่งนาง ไปที่เรือนร้างเมืองฉาง” คำสั่งของหลี่หงซวนเป็นคำขาด บ่าวไพร่รีบทำตามในทันที ครั้นได้อยู่ด้วยกันเพียงลำพังกับฮูหยินผู้เฒ่า หลี่หงซวนถึงได้บอกเหตุผล ที่ต้องตัดสินใจทำเช่นนี้ นั่นเพราะตระกูลจี้ได้ยื่นคำขาดมา ให้ขับไล่พวกเขาออกไปให้หมด อย่าให้เหลืออยู่แม้แต่ตนเดียว ไม่ต้องการให้คนที่ทำร้ายบุตรสาวของพวกเขา อยู่ระคายสายตาของจี้ชิวหรงอีกต่อไป ฮูหยินผู้เฒ่าแค่นออกมาหนึ่งคำ “อ้างเหตุผลข้าง ๆ คู ๆ ความจริงแล้วต้องการกำจัดอนุในเรือนบุตรสาวทิ้งให้หมด นี่กระทั่งเด็กคนหนึ่งก็ไม่เว้น แต่ก็เอาเถอะ เหยาเอ๋อร์อยู่ที่นี่ ก็ใช่จะมีประโยชน์อันใด นางไม่ได้อยู่ในสายตาของพวกเราด้วยซ้ำ ให้นางไปกับแม่ของนางนั่นแหละดีแล้ว” หลี่หงซวนนั้นเป็นเพียงเจ้าเมืองเล็ก ๆ มีตำแหน่งเป็นขุนนางขั้นที่ห้า ฝั่งตระกูลจี้บ้านเดิมของจี้ชิวหรงนั้น อยู่ในเมืองหลวงมีตำแหน่งใหญ่โตกว่าหนึ่งขั้น เรื่องนี้เขาจึงต้องขบคิด ถึงผลได้ผลเสียในอนาคตอีกด้วย การเสียสละอนุกับหลานสาวคนหนึ่ง เพื่อชดเชยให้แก่คนตระกูลจี้ นับว่าเป็นเรื่องสมควรทำแล้ว “ข้าก็คิดเช่นฮูหยินนั่นแหละ เพียงแต่สะใภ้สามแท้งคราวนี้ ไม่รู้จะยังสามารถตั้งท้องได้อีกหรือไม่ พวกเรารอดูไปก่อนดีกว่า หากนางไม่สามารถตั้งท้องได้จริง ๆ เราค่อยหาอนุมาให้หย่วนเจ๋อภายหลังก็ยังได้ ยามนั้นคนตระกูลจี้จะเอาอะไรมาง้างกับเราได้อีก” “จริงดังท่านว่าเจ้าค่ะ” ฝ่ายเฉาซูหลิ่งที่ถูกคนใช้ ลากตัวออกมาให้เก็บของในเรือน นางส่งเสียงเอะอะโวยวายตลอดทาง พร่ำบอกต้องการพบหลี่หย่วนเจ๋อให้ได้ แต่ถูกสาวใช้ขวางไว้ไม่ให้ไป นางจำใจกลับไปยังห้องนอนของตัวเอง รีบเก็บของสำคัญใส่ห่อผ้าเพื่อออกเดินทาง

ซีอีโอผู้อ่อนแอต้องง้อเธอทุกวัน

ซีอีโอผู้อ่อนแอต้องง้อเธอทุกวัน

Elsworth Underwood
5.0

เซิ่งหนานหยินเกิดใหม่แล้ว ชาติที่แล้ว เธอถูกชายชั่วหักหลัง ถูกชายเสแสร้งใส่ร้าย โดนครอบครัวสามีเล่นงาน จนทำให้เธอล้มละลายและเป็นบ้าไป ในท้ายที่สุด เธอเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ 9 เดือน แต่คนร้ายกลับทำเงินได้มากมาย และใช้ชีวิตทั้งครอบครัวอย่างมีความสุข เกิดใหม่ครั้งนี้ เซิ่งหนานหยินคิดตกอล้ว อะไรที่ว่าพระคุณช่วยชีวิต คนรักในใจอะไรกัน ล้วนไม่ต้องไปสน เธอจะจัดการชายชั่วหญิงร้าย สร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลเก่าของตนเองขึ้นมาใหม่อีกครั้งและนำตระกูลเซิ่งไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ คนที่หยิ่งมาตลอดในชาติที่แล้ว กลับเป็นฝ่ายริเริ่มมาหาเธอ "เซิ่งหนานหยิน การแต่งงานครั้งแรกผมไม่ทัน การแต่งงานครั้งที่สองก็ต้องถึงคิวผมแล้วสินะ"

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ