Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
บรรณาการเมียแต่ง

บรรณาการเมียแต่ง

ภิรญา กษิรา

5.0
ความคิดเห็น
19.1K
ชม
26
บท

หากไม่ใช่เพราะพินัยกรรมฉบับนั้นเธอคงไม่ได้เป็นเจ้าสาวของเขาในวันนี้หรอก “ก็แค่สามปี” กัญญ์ณรัณพยายามปรับเสียงให้เป็นปกติที่สุด “ฉันคงไม่ปล่อยให้รตีต้องรอฉันจนถึงสามปีหรอก” “แต่ในพินัยกรรมบอกว่าเราต้องใช้ชีวิตแบบสามีภรรยากันสามปีนะคะ” “เธอก็เป็นเมียฉันไปตามพินัยกรรมบ้าบออะไรนั่นไปสิ ส่วนฉันก็จะเป็นผัวในแบบของฉัน และจำไว้ว่ารตีคือคนที่ฉันรัก และจะเป็นเมียฉันคนเดียวเท่านั้น”

บทที่ 1 พินัยกรรม

“วันนี้เหนื่อยมากันทั้งวันแล้ว ... พักผ่อนเถอะ”

หญิงสูงวัยบอกคู่บ่าวสาวหลังจากอวยพรเรียบร้อยแล้ว ทั้งคู่ก้มลงกราบผู้สูงวัยที่มีศักดิ์เป็นย่าแท้ ๆ ของฝ่ายเจ้าบ่าว และเป็นผู้-อุปการะฝ่ายเจ้าสาวด้วย

“คุณย่าคะ”

เมื่อถึงเวลาที่จะต้องอยู่กับผู้ชายคนนี้ตามลำพังก็อดหวั่นใจไม่ได้

“ไม่ต้องกลัว ใครทำอะไรมาบอกย่าได้เลยเดี๋ยวย่าจัดการให้เอง”

แค่เห็นสายตาของเด็กที่เลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็กก็พอจะรู้ว่า เจ้า-หล่อนกำลังเป็นกังวล พูดไปสายตาก็พลางมองไปยังฝ่ายเจ้าบ่าวที่เวลานี้นั่งทำเป็นทองไม่รู้ร้อนเช่นนั้น มืออีกข้างก็ลูบศีรษะเจ้าสาวตัวเล็กเอาไว้อย่างเอ็นดูด้วย

พิธีแต่งงานในวันนี้ทุกคนรู้ดีว่า เกิดขึ้นตามความต้องการของผู้เป็นปู่ที่ระบุไว้ในพินัยกรรม หลังจากที่ท่านเสียชีวิตไปเมื่อหก¬เดือนก่อน

ข้อความในพินัยกรรมไม่มีอะไรมาก เพราะจริง ๆ แล้วทรัพย์สินทั้งหมดของตระกูล ‘วีรเศษฐ์’ ควรจะต้องเป็นของ ‘ธีภพ วีรเศษฐ์’ ซึ่งเป็นหลานชายคนเดียวอยู่แล้ว

ทว่าด้วยความที่ชายหนุ่มยังคงเป็นหนุ่มรักสนุก ทำตัวเพลย์-บอยใช้เงินจัดการทุกอย่าง ไม่สนใจธุรกิจที่มีอย่างที่ควรจะเป็น ผู้เป็นปู่จึงต้องทำพินัยกรรมฉบับนี้ขึ้นมา

ทรัพย์สินทั้งหมดของข้าพเจ้า ‘นายอดิเทพ วีรเศษฐ์’ อันประกอบด้วยเงินสดในธนาคารทั้งหมดให้นางอนงค์นาถ วีรเศษฐ์ ผู้-เป็นภรรยาของข้าพเจ้า เป็นผู้จัดการแบ่งให้ นายธีภพ วีรเศษฐ์ นางสาวกัญญ์ณรัณ กิจธนะกุล และนางภนิดา วีรเศษฐ์ ตามเห็นสมควร

ส่วนสินทรัพย์ที่เป็นอสังหาริมทรัพย์ สังหาริมทรัพย์ และหุ้นในบริษัทฯ ที่ข้าพเจ้าได้ถือทั้งหมด จะยกให้นายธีภพ วีรเศษฐ์ หรือนางสาวกัญญ์ณรัณ กิจธนะกุล คนหนึ่งคนใดตามเงื่อนไขดังนี้

นายธีภพ วีรเศษฐ์ และนางสาวกัญญ์ณรัณ กิจธนะกุลจะต้องแต่งงาน จดทะเบียนสมรสอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และจะต้องใช้ชีวิตคู่ด้วยกันอย่างน้อยสามปี

โดยในระยะเวลาสามปีนี้ทั้งคู่มีสิทธิ์ในทรัพย์สินเท่าเทียมกัน หากมีการเปลี่ยนแปลงจะต้องยิมยอมด้วยกันทั้งคู่ อีกทั้งยังต้องให้นางอนงค์นาถ วีรเศษฐ์เห็นชอบและยินยอมด้วย

และภายในสามปีนี้หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งขอหย่าก่อน ทรัพย์สินทั้งหมดจะตกเป็นของอีกฝ่ายโดยอัตโนมัติในทันที และหากทั้งคู่ไม่ยอมแต่งงานกันสินทรัพย์ทุกอย่างของข้าพเจ้าที่มีให้ยกเป็นสาธารณะกุศลทั้งหมด

ข้าพเจ้านายอดิเทพ วีรเศษฐ์ ขอยืนยันว่าในขณะที่เขียนพินัยกรรมฉบับนี้ ข้าพเจ้ามีสติสัมปชัญญะครบถ้วน มิได้มีการโดนบังคับแต่อย่างไร

‘นายอดิเทพ วีรเศษฐ์’

เสร็จสิ้นการอ่านพินัยกรรมคนที่เป็นเดือนเป็นร้อนไม่แพ้ธี¬ภพ เห็นจะไม่พ้นคุณภนิดาผู้เป็นมารดาแท้ ๆ ของชายหนุ่ม

“นี่มันหมายความว่ายังไงคะคุณแม่”

คุณภนิดารีบประท้วงผู้เป็นประมุขของบ้านขึ้นทันทีที่สิ้นเสียงทนายวัยกลางคน

“ในพินัยกรรมว่ายังไงก็คงต้องเป็นไปตามนั้น”

“แต่ตาธี มีหนูรตีอยู่แล้วนะคะ และก็วางแผนจะแต่งงานกันอีกไม่นาน ถ้าทำตามพินัยกรรมแล้วทางหนูรตีละคะคุณแม่”

“เรื่องนั้นก็ต้องเป็นหน้าที่ของตาธี”

หญิงสูงวัยบอกน้ำเสียงเรียบ ทว่าแฝงได้ด้วยความเด็ดขาด

“ย่าหวังว่าตาธีคงไม่มีปัญหาอะไรนะ”

คุณอนงค์นาถหันมาถามหลานชายตัวดีบ้าง ถึงแม้ว่าสีหน้าจะแสดงออกชัดเจนว่าไม่พอใจกับสิ่งที่เพิ่งรับรู้ ทว่าก็รู้ดีว่าไม่มีทางปฏิเสธความต้องการของผู้เป็นปู่กับย่าได้แน่นอน เขาจึงได้แต่ต้องยอมจำนนไป

หลังจากการเปิดพินัยกรรมในวันนั้น กัญญ์ณรัณก็แทบจะอยู่ที่บ้านหลังใหญ่ไม่เป็นสุขอีกเลย

กัญญ์ณรัณเป็นเด็กที่ท่านเจ้าสัวอดิเทพกับนางอนงค์นาถรับมาจากสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าแห่งหนึ่ง ตอนนั้นเธออายุเกือบสิบปีแล้ว ซึ่งห่างจากธีภพประมาณห้าปีกว่าเห็นจะได้ และแน่นอนว่าคนที่แอบสร้างความเกลียดชังให้กับเขาไม่พ้นคุณภนิดาผู้เป็นมารดาเขาเอง

ร่างเล็กนั่งนิ่งอยู่บนเตียงขนาดใหญ่ ส่วนอีกฝ่ายนั่งดื่มไวน์ที่ตั้งอยู่บนโต๊ะตัวเล็กอยู่อีกมุมของห้องสายตาคมกริบจ้องเขม็งมาที่ร่างเล็กในชุดเจ้าสาวที่นั่งหันหลังให้อยู่ในเวลานี้

“คุณย่าไปแล้ว พี่ธีพักเถอะค่ะ เดี๋ยวรัณกลับไปนอนห้องรัณเองค่ะ”

หญิงสาวตัดสินใจบอก เพื่อเป็นการตัดปัญหาและไม่ให้ทั้งตัวเองและเขาต้องทนอยู่กับบรรยากาศอึมครึมแบบนี้

“ที่พูดออกมาใช้สมองคิดแล้วใช่ไหม”

ชายหนุ่มพูดเสียงเรียบ ทว่ามันแสดงให้เห็นถึงความไม่พอใจของอีกฝ่ายชัดเจน

“พี่ธีก็ไม่ได้อยากให้รัณอยู่ในห้องนี้อยู่แล้วนี่คะ”

“ใช่ เพราะจริง ๆ คนที่จะต้องอยู่กับฉันคืนนี้คือรตี ไม่ใช่เธอ”

ชื่อบุคคลที่สามที่เขาเอ่ยถึง ทำเอาร่างเล็กร้อนชาวูบขึ้นมา เพราะผู้หญิงคนนั้นคือคนที่เจ้าบ่าวของเธอรัก และหมายจะแต่งงานด้วยไม่ใช่เธอ

หากไม่ใช่เพราะพินัยกรรมฉบับนั้นเธอคงไม่ได้เป็นเจ้าสาวของเขาในวันนี้หรอก

“ก็แค่สามปี”

กัญญ์ณรัณพยายามปรับเสียงให้เป็นปกติที่สุด

“ฉันคงไม่ปล่อยให้รตีต้องรอฉันจนถึงสามปีหรอก”

“แต่ในพินัยกรรมบอกว่าเราต้องใช้ชีวิตแบบสามีภรรยากันสามปีนะคะ”

“เธอก็เป็นเมียฉันไปตามพินัยกรรมบ้าบออะไรนั่นไปสิ ส่วนฉันก็จะเป็นผัวในแบบของฉัน และจำไว้ว่ารตีคือคนที่ฉันรัก และจะเป็นเมียฉันคนเดียวเท่านั้น”

ธีภพวางแก้วไวน์ลง แล้วลุกขึ้นเดินมายังเตียงใหญ่ เพียงชั่ว-พริบตาร่างใหญ่ก็มาหยุดตรงหน้าหญิงสาว มือหนาจับใบหน้าสวยที่เวลานี้เครื่องหน้าที่แต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางชั้นดีเวลานี้ยังไม่ลบเลือนหรือจางลงให้เงยขึ้นมองเขา

ปกติแล้วหญิงสาวเป็นคนสวยอยู่แล้วยิ่งเติมแต่งยิ่งดูสวย น่า-มองขึ้นอีกหลายเท่าตัว วันนี้ตลอดทั้งวันเขาได้ยินคนชมเธอไม่ขาดปาก ทว่าเขาเพิ่งได้เห็นชัด ๆ ก็เวลานี้

จู่ ๆ แววตาแข็งกร้าวเมื่อครู่ก็สั่นไหวขึ้นมา ทว่าเพียงแค่เสี้ยววินาทีเท่านั้น

“ถ้าเธอคิดว่าทนฉันไม่ได้ก็ขอหย่าไปซะ”

“ทำไมพี่ธีไม่ปฏิเสธละคะ”

“ปฏิเสธเพื่อให้เธอได้ทุกอย่างของฉันไปอย่างนั้นน่ะเหรอ”

ชายหนุ่มบอกน้ำเสียงเย้ยหยัน

“มันก็แค่กระดาษแผ่นเดียว”

“พูดง่าย แล้วทำไมเธอไม่ปฏิเสธ เธอยอมรับเงื่อนไขบ้าบออะไรนั่นทำไม”

กัญญ์ณรัณได้แต่มองหน้าเขานิ่ง

ทำไมเธอจะไม่อยากปฏิเสธ หลังจากเปิดพินัยกรรมหญิงสาวได้ปฏิเสธเงื่อนไขกับนางอนงค์นาถไปแล้ว

อ่านต่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

หนังสืออื่นๆ ของ ภิรญา กษิรา

ข้อมูลเพิ่มเติม
บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ