Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
บรรณาการเมียแต่ง

บรรณาการเมียแต่ง

ภิรญา กษิรา

5.0
ความคิดเห็น
19.5K
ชม
26
บท

หากไม่ใช่เพราะพินัยกรรมฉบับนั้นเธอคงไม่ได้เป็นเจ้าสาวของเขาในวันนี้หรอก “ก็แค่สามปี” กัญญ์ณรัณพยายามปรับเสียงให้เป็นปกติที่สุด “ฉันคงไม่ปล่อยให้รตีต้องรอฉันจนถึงสามปีหรอก” “แต่ในพินัยกรรมบอกว่าเราต้องใช้ชีวิตแบบสามีภรรยากันสามปีนะคะ” “เธอก็เป็นเมียฉันไปตามพินัยกรรมบ้าบออะไรนั่นไปสิ ส่วนฉันก็จะเป็นผัวในแบบของฉัน และจำไว้ว่ารตีคือคนที่ฉันรัก และจะเป็นเมียฉันคนเดียวเท่านั้น”

บทที่ 1 พินัยกรรม

“วันนี้เหนื่อยมากันทั้งวันแล้ว ... พักผ่อนเถอะ”

หญิงสูงวัยบอกคู่บ่าวสาวหลังจากอวยพรเรียบร้อยแล้ว ทั้งคู่ก้มลงกราบผู้สูงวัยที่มีศักดิ์เป็นย่าแท้ ๆ ของฝ่ายเจ้าบ่าว และเป็นผู้-อุปการะฝ่ายเจ้าสาวด้วย

“คุณย่าคะ”

เมื่อถึงเวลาที่จะต้องอยู่กับผู้ชายคนนี้ตามลำพังก็อดหวั่นใจไม่ได้

“ไม่ต้องกลัว ใครทำอะไรมาบอกย่าได้เลยเดี๋ยวย่าจัดการให้เอง”

แค่เห็นสายตาของเด็กที่เลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็กก็พอจะรู้ว่า เจ้า-หล่อนกำลังเป็นกังวล พูดไปสายตาก็พลางมองไปยังฝ่ายเจ้าบ่าวที่เวลานี้นั่งทำเป็นทองไม่รู้ร้อนเช่นนั้น มืออีกข้างก็ลูบศีรษะเจ้าสาวตัวเล็กเอาไว้อย่างเอ็นดูด้วย

พิธีแต่งงานในวันนี้ทุกคนรู้ดีว่า เกิดขึ้นตามความต้องการของผู้เป็นปู่ที่ระบุไว้ในพินัยกรรม หลังจากที่ท่านเสียชีวิตไปเมื่อหก¬เดือนก่อน

ข้อความในพินัยกรรมไม่มีอะไรมาก เพราะจริง ๆ แล้วทรัพย์สินทั้งหมดของตระกูล ‘วีรเศษฐ์’ ควรจะต้องเป็นของ ‘ธีภพ วีรเศษฐ์’ ซึ่งเป็นหลานชายคนเดียวอยู่แล้ว

ทว่าด้วยความที่ชายหนุ่มยังคงเป็นหนุ่มรักสนุก ทำตัวเพลย์-บอยใช้เงินจัดการทุกอย่าง ไม่สนใจธุรกิจที่มีอย่างที่ควรจะเป็น ผู้เป็นปู่จึงต้องทำพินัยกรรมฉบับนี้ขึ้นมา

ทรัพย์สินทั้งหมดของข้าพเจ้า ‘นายอดิเทพ วีรเศษฐ์’ อันประกอบด้วยเงินสดในธนาคารทั้งหมดให้นางอนงค์นาถ วีรเศษฐ์ ผู้-เป็นภรรยาของข้าพเจ้า เป็นผู้จัดการแบ่งให้ นายธีภพ วีรเศษฐ์ นางสาวกัญญ์ณรัณ กิจธนะกุล และนางภนิดา วีรเศษฐ์ ตามเห็นสมควร

ส่วนสินทรัพย์ที่เป็นอสังหาริมทรัพย์ สังหาริมทรัพย์ และหุ้นในบริษัทฯ ที่ข้าพเจ้าได้ถือทั้งหมด จะยกให้นายธีภพ วีรเศษฐ์ หรือนางสาวกัญญ์ณรัณ กิจธนะกุล คนหนึ่งคนใดตามเงื่อนไขดังนี้

นายธีภพ วีรเศษฐ์ และนางสาวกัญญ์ณรัณ กิจธนะกุลจะต้องแต่งงาน จดทะเบียนสมรสอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และจะต้องใช้ชีวิตคู่ด้วยกันอย่างน้อยสามปี

โดยในระยะเวลาสามปีนี้ทั้งคู่มีสิทธิ์ในทรัพย์สินเท่าเทียมกัน หากมีการเปลี่ยนแปลงจะต้องยิมยอมด้วยกันทั้งคู่ อีกทั้งยังต้องให้นางอนงค์นาถ วีรเศษฐ์เห็นชอบและยินยอมด้วย

และภายในสามปีนี้หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งขอหย่าก่อน ทรัพย์สินทั้งหมดจะตกเป็นของอีกฝ่ายโดยอัตโนมัติในทันที และหากทั้งคู่ไม่ยอมแต่งงานกันสินทรัพย์ทุกอย่างของข้าพเจ้าที่มีให้ยกเป็นสาธารณะกุศลทั้งหมด

ข้าพเจ้านายอดิเทพ วีรเศษฐ์ ขอยืนยันว่าในขณะที่เขียนพินัยกรรมฉบับนี้ ข้าพเจ้ามีสติสัมปชัญญะครบถ้วน มิได้มีการโดนบังคับแต่อย่างไร

‘นายอดิเทพ วีรเศษฐ์’

เสร็จสิ้นการอ่านพินัยกรรมคนที่เป็นเดือนเป็นร้อนไม่แพ้ธี¬ภพ เห็นจะไม่พ้นคุณภนิดาผู้เป็นมารดาแท้ ๆ ของชายหนุ่ม

“นี่มันหมายความว่ายังไงคะคุณแม่”

คุณภนิดารีบประท้วงผู้เป็นประมุขของบ้านขึ้นทันทีที่สิ้นเสียงทนายวัยกลางคน

“ในพินัยกรรมว่ายังไงก็คงต้องเป็นไปตามนั้น”

“แต่ตาธี มีหนูรตีอยู่แล้วนะคะ และก็วางแผนจะแต่งงานกันอีกไม่นาน ถ้าทำตามพินัยกรรมแล้วทางหนูรตีละคะคุณแม่”

“เรื่องนั้นก็ต้องเป็นหน้าที่ของตาธี”

หญิงสูงวัยบอกน้ำเสียงเรียบ ทว่าแฝงได้ด้วยความเด็ดขาด

“ย่าหวังว่าตาธีคงไม่มีปัญหาอะไรนะ”

คุณอนงค์นาถหันมาถามหลานชายตัวดีบ้าง ถึงแม้ว่าสีหน้าจะแสดงออกชัดเจนว่าไม่พอใจกับสิ่งที่เพิ่งรับรู้ ทว่าก็รู้ดีว่าไม่มีทางปฏิเสธความต้องการของผู้เป็นปู่กับย่าได้แน่นอน เขาจึงได้แต่ต้องยอมจำนนไป

หลังจากการเปิดพินัยกรรมในวันนั้น กัญญ์ณรัณก็แทบจะอยู่ที่บ้านหลังใหญ่ไม่เป็นสุขอีกเลย

กัญญ์ณรัณเป็นเด็กที่ท่านเจ้าสัวอดิเทพกับนางอนงค์นาถรับมาจากสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าแห่งหนึ่ง ตอนนั้นเธออายุเกือบสิบปีแล้ว ซึ่งห่างจากธีภพประมาณห้าปีกว่าเห็นจะได้ และแน่นอนว่าคนที่แอบสร้างความเกลียดชังให้กับเขาไม่พ้นคุณภนิดาผู้เป็นมารดาเขาเอง

ร่างเล็กนั่งนิ่งอยู่บนเตียงขนาดใหญ่ ส่วนอีกฝ่ายนั่งดื่มไวน์ที่ตั้งอยู่บนโต๊ะตัวเล็กอยู่อีกมุมของห้องสายตาคมกริบจ้องเขม็งมาที่ร่างเล็กในชุดเจ้าสาวที่นั่งหันหลังให้อยู่ในเวลานี้

“คุณย่าไปแล้ว พี่ธีพักเถอะค่ะ เดี๋ยวรัณกลับไปนอนห้องรัณเองค่ะ”

หญิงสาวตัดสินใจบอก เพื่อเป็นการตัดปัญหาและไม่ให้ทั้งตัวเองและเขาต้องทนอยู่กับบรรยากาศอึมครึมแบบนี้

“ที่พูดออกมาใช้สมองคิดแล้วใช่ไหม”

ชายหนุ่มพูดเสียงเรียบ ทว่ามันแสดงให้เห็นถึงความไม่พอใจของอีกฝ่ายชัดเจน

“พี่ธีก็ไม่ได้อยากให้รัณอยู่ในห้องนี้อยู่แล้วนี่คะ”

“ใช่ เพราะจริง ๆ คนที่จะต้องอยู่กับฉันคืนนี้คือรตี ไม่ใช่เธอ”

ชื่อบุคคลที่สามที่เขาเอ่ยถึง ทำเอาร่างเล็กร้อนชาวูบขึ้นมา เพราะผู้หญิงคนนั้นคือคนที่เจ้าบ่าวของเธอรัก และหมายจะแต่งงานด้วยไม่ใช่เธอ

หากไม่ใช่เพราะพินัยกรรมฉบับนั้นเธอคงไม่ได้เป็นเจ้าสาวของเขาในวันนี้หรอก

“ก็แค่สามปี”

กัญญ์ณรัณพยายามปรับเสียงให้เป็นปกติที่สุด

“ฉันคงไม่ปล่อยให้รตีต้องรอฉันจนถึงสามปีหรอก”

“แต่ในพินัยกรรมบอกว่าเราต้องใช้ชีวิตแบบสามีภรรยากันสามปีนะคะ”

“เธอก็เป็นเมียฉันไปตามพินัยกรรมบ้าบออะไรนั่นไปสิ ส่วนฉันก็จะเป็นผัวในแบบของฉัน และจำไว้ว่ารตีคือคนที่ฉันรัก และจะเป็นเมียฉันคนเดียวเท่านั้น”

ธีภพวางแก้วไวน์ลง แล้วลุกขึ้นเดินมายังเตียงใหญ่ เพียงชั่ว-พริบตาร่างใหญ่ก็มาหยุดตรงหน้าหญิงสาว มือหนาจับใบหน้าสวยที่เวลานี้เครื่องหน้าที่แต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางชั้นดีเวลานี้ยังไม่ลบเลือนหรือจางลงให้เงยขึ้นมองเขา

ปกติแล้วหญิงสาวเป็นคนสวยอยู่แล้วยิ่งเติมแต่งยิ่งดูสวย น่า-มองขึ้นอีกหลายเท่าตัว วันนี้ตลอดทั้งวันเขาได้ยินคนชมเธอไม่ขาดปาก ทว่าเขาเพิ่งได้เห็นชัด ๆ ก็เวลานี้

จู่ ๆ แววตาแข็งกร้าวเมื่อครู่ก็สั่นไหวขึ้นมา ทว่าเพียงแค่เสี้ยววินาทีเท่านั้น

“ถ้าเธอคิดว่าทนฉันไม่ได้ก็ขอหย่าไปซะ”

“ทำไมพี่ธีไม่ปฏิเสธละคะ”

“ปฏิเสธเพื่อให้เธอได้ทุกอย่างของฉันไปอย่างนั้นน่ะเหรอ”

ชายหนุ่มบอกน้ำเสียงเย้ยหยัน

“มันก็แค่กระดาษแผ่นเดียว”

“พูดง่าย แล้วทำไมเธอไม่ปฏิเสธ เธอยอมรับเงื่อนไขบ้าบออะไรนั่นทำไม”

กัญญ์ณรัณได้แต่มองหน้าเขานิ่ง

ทำไมเธอจะไม่อยากปฏิเสธ หลังจากเปิดพินัยกรรมหญิงสาวได้ปฏิเสธเงื่อนไขกับนางอนงค์นาถไปแล้ว

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ ภิรญา กษิรา

ข้อมูลเพิ่มเติม
ทวงใจรักคืน

ทวงใจรักคืน

โรแมนติก

5.0

“พรีม ๆ หยุดก่อน” เขาร้องเรียกหญิงสาวเอาไว้ เสียงดังฟังชัดทำเอาเด็กน้อยถึงกับหันมามองคนเรียก “คุณลุง” น้องพอวาเห็นหน้าก็จำได้ว่า เขาคือคนที่ได้เจอที่หน้าห้องน้ำเมื่อตอนมาถึงที่ร้าน พริมาภาตกใจไม่น้อยที่ได้ยินบุตรสาวร้องทักเขาขึ้น จริงอยู่ว่าหญิงสาวต้องการให้เขารับรู้ว่าเด็กที่เธอจับมือเอาไว้อยู่นี้คือเลือดเนื้อเชื้อไขของเขา หากแต่ไม่ใช่ตอนนี้ “น้องพอวา” “คุณลุงจำชื่อน้องพอวาได้ด้วย” เด็กน้อยบอกเสียงแจ๋วด้วยดีใจที่มีคนจำชื่อตัวเองได้ “จำได้สิคะ” “น้องพอวา หนูรู้จักคุณ ... เอ่อ คุณลุงด้วยเหรอคะ” “คุณลุงช่วยน้องพอวากดสบู่ให้ตอนน้องพอวาล้างมือค่ะ” เด็กน้อยบอกเสียงใสเลยทีเดียว “พรีม เด็กคนนี้ ...” “น้องพอวาเป็นลูกสาวพรีมค่ะ” เธอไม่รีรอที่จะบอกออกไปเช่นนั้น เพราะไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องปิดไม่ให้เขารู้ว่าเธอมีลูกแล้ว คำตอบนั้นทำให้ใบหน้าหล่อคมเข้มถึงกับร้อนวูบขึ้นมา พร้อม ๆ กับหลากหลายความรู้สึกที่วิ่งแทรกเข้ามา ซึ่งเขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันเป็นความรู้สึกอะไรกันแน่

เพียงเพราะรักด้วยใจปรารถนา

เพียงเพราะรักด้วยใจปรารถนา

โรแมนติก

5.0

“พี่ภีมโกรธวาเรื่องอะไรคะ” “หยุด! ต่อไปนี้เธอไม่ต้องเรียกฉันว่า ‘พี่’ ฉันมียายพลอยเป็นน้องสาวเพียงคนเดียวเท่านั้น” น้ำเสียงดุกร้าวไม่แพ้แววตา “นี่มันอะไรกันคะวางงไปหมดแล้ว พี่ภีมช่วยอธิบายให้วาเข้าใจหน่อยได้ไหมคะ” หญิงสาวร้องขอความกระจ่างจากเขา ยังคงสะอื้นไห้อยู่เช่นเดิม “อธิบายเหรอ... ยังจะต้องให้ฉันอธิบายอะไรอีก หรือต้องการให้ฉันประจานต่อหน้าป้าอิ่มและนวลว่าเธอมันเลวชาติ... หน้าด้าน หน้าทน ขนาดไหน” “คุณภีม! / พี่ภีม!” วาทิตา นางอิ่ม อุทนทานเรียกชื่อเขาพร้อมๆ กันเลยทีเดียว ด้วยคาดไม่ถึงว่าจะได้ยินคำพูดเหล่านี้ออกจากปากเขาได้ “อยากรู้ว่าตัวเองเลวยังไง ฉันว่าไอ้นี่คงจะอธิบายได้อย่างชัดเจนถึงความเลวของเธอนะวาทิตา” ภาคิน ปาก้อนกระดาษที่เขาขยำไว้ในมืออย่างโกรธแค้นจนกลายเป็นก้อนกลมๆ ใส่หน้าหญิงสาวอย่างแม่นยำ ทว่าหากเวลานี้ในมือเขาสามารถประจุไฟขึ้นมาได้กระดาษแผ่นนั้นคงไม่เป็นก้อนอยู่อย่างที่เห็น มันคงกลายเป็นเถ้ากระดาษไปนานแล้ว วาทิตารีบคลี่ก้อนกระดาษที่เขาปาใส่หน้าเธออย่างเต็มแรงจนแก้มขาวนวลข้างซ้ายขึ้นรอยแดงอย่างเห็นได้ชัดทันที นัยน์ตากลมโตค่อยๆ ไล่อ่านทุกตัวอักษรยิ่งอ่านสีหน้าก็ยิ่งถอดสี ศีรษะส่ายไปมาเล็กน้อย เหมือนต้องการส่งสัญญาณให้บุคคลที่กำลังจ้องมองอยู่ตรงหน้านั้นได้รู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องจริงตามข้อความในกระดาษนี้ สายตาชายหนุ่มที่กำลังจ้องมองประดุจเสือร้ายกำลังจ้องกวางน้อยและรอเวลาตะคลุบเหยื่อมาเป็นอาหารอันโอชะอยู่อย่างไม่ละสายตา ทำให้เขาเห็นทุกอากัปกิริยาของเธอ เขากระตุกยิ้มมุมปากนิดหนึ่งอย่างเหยียดๆ “ไม่จริง! นะคะพี่ภีม ไม่จริง”

อุ้มรักคาสโนว่า

อุ้มรักคาสโนว่า

โรแมนติก

5.0

“นี่คุณ ปล่อยฉันนะไม่อย่างนั้นฉันจะตะโกนเรียกคุณป๋า ท่านจะได้รู้ว่าคุณมันไว้ใจไม่ได้” น้ำเสียงเธอตกใจอยู่ไม่น้อยที่จู่ ๆ ก็โดนอีกฝ่ายจู่โจมถึงตัวเอาแบบนี้ “คุณไม่รู้หรอกหรือว่าคุณป๋าคุณเปิดทางให้ผมแค่ไหน” เขากระซิบข้างหูคนตัวเล็กอย่างจงใจ “ปล่อยฉันนะ คุณอย่ามารุ่มร่ามกับฉันแบบนี้นะ” “รุ่มร่ามที่ไหนกันก็แค่กอดเมีย” คนกวนพยายามจะหอมแก้มขาวนวล ทว่าอีกฝ่ายหลบได้ทันเสียก่อน “นี่คุณ” ไม่ได้ห้ามอย่างเดียว ทว่ากำปั่นเล็กทุบเข้าที่หน้าอกเขาเต็มแรง แต่ดูเหมือนคนทุบจะเจ็บมือเองเสียเปล่า ๆ เพราะมันไม่ได้สะทกสะท้านหรือระคายเคืองอะไรกับแผงอกหนาเอาเสียเลย “ถ้ายอมให้หอมก็จะปล่อย” “มันจะมากไปแล้วนะ” เสียงที่ดังลอดไรฟันค่อนข้างเอาเรื่อง “แค่หอมมากไปทีไหนกัน ... โอ๊ย! นี่คุณชาติก่อนเป็นหมาหรือไง” ศิวัฒน์ยังไม่ทันได้กวนโทสะอีกฝ่ายจนสุด ก็ต้องร้องเสียงหลงออกมาเมื่อคนในวงแขนแข็งแรงหันไปกัดเอาที่ต้นแขนนั้นจมเขี้ยว ทำเอาคนที่กำลังคิดว่าตัวมีชัยอยู่ถึงกับต้องปล่อยแขนออกจากเอวบางทันที

หนังสือที่คุณอาจชอบ

เพลิงรักร้ายจอมใจจอมทมิฬ

เพลิงรักร้ายจอมใจจอมทมิฬ

มหาเศรษฐี

5.0

“นอน.. นอนบนเตียงเดียวกันนี่นะ” ธีธัชไม่ตอบแต่พยักหน้ารับช้าๆ “แล้ว.. แล้วทำไมคุณไม่ใส่เสื้อล่ะ” ใบหน้านวลแดงก่ำมองเขาอย่างระแวง ธีธัชซ่อนยิ้มในหน้า “ก็เพราะว่า... เธอเป็นคนถอดน่ะสิ” “เหลวใหล..” วีรนุชตาเหลือกไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน “นอกจากเธอจะเป็นคนที่ถอดเสื้อผ้าฉันแล้ว เธอก็ยังกอดฉันไว้ทั้งคืนอีกด้วย ยังไม่พอ เธอยัง..” “พอๆๆ ไม่ต้องพูด ไม่อยากฟัง ถอยออกไปเลย” หญิงสาวหลับตาลงพร้อมทั้งปิดหูทั้งสองข้าง ใบหน้าแดงก่ำ ธีธัชหัวเราะชอบใจ แต่ไม่อยากแกล้งให้เธออายมากไปกว่านี้จึงลุกขึ้นแต่โดยดี และเมื่อร่างสูงใหญ่ลุกไปยืนข้างเตียง วีรนุชก็ต้องรีบปิดหน้าหวีดร้องออกมาอีกรอบเมื่อเขารั้งเอาผ้าห่มไปด้วย และเธอก็พบว่า ตัวเองก็เปลือยเปล่าไม่แพ้กัน “กรี๊ดดดด คนบ้า คุณทำอะไรฉันเนี่ย..” และเธอก็ได้ยินเสียงหัวเราะชอบอกชอบใจของเขาดังเข้าหูมาให้ได้อับอาย “อยากฟังไหมล่ะว่าเมื่อคืนเราทำอะไรกันบ้าง” “ไม่ ไม่ฟัง.. คนบ้า อ๊ายยยย... เอาผ้าห่มคืนมานะ ว้ายยยยย...” วีรนุชกรีดร้องออกมาเมื่อธีธัชกระชากผ้าห่มที่เธอใช้คลุมร่างกายอยู่ออกไปเหมือนแกล้ง... ส่วนคนที่แกล้งจนเธอได้อายนั้นก็หัวเราะชอบอกชอบใจ

รักระทวย

รักระทวย

โรแมนติก

5.0

บุหรี่ เหล้า น้ำหอม เอรินแพ้หมด แต่เจ้านายคนใหม่ของหญิงสาวมีครบทุกสิ่งที่เอ่ยมา คนหนึ่งถูกทิ้งมาอีกคนชีวิตน่าเบื่อหน่าย เมื่อทั้งคู่มาพบเจอกันในวันเวลาที่เหมาะสม ความปรารถนาก่อตัวขึ้น เกิดเป็นเกลียวสวาทที่ตัดกันไม่ขาดอีกต่อไป “ริน” เสียงเรียกเนิบ ๆ ทำให้เอรินหยุดดิ้นรน เงยหน้าขึ้นมาก็เจอสายตาหยาดเยิ้มจากเขา สายตาที่เธอไม่เคยเห็นจากที่ไหนมาก่อน หัวใจเริ่มเต้นแรงขึ้นเรื่อย ๆ ก่อนลมหายใจจะติดขัดจากประโยคถัดมาของเขา “มาลองกันสักครั้งดูไหม” เอรินไม่เคยผ่านประสบการณ์ด้านความรัก แต่ด้วยอายุอานามหญิงสาว กลับมีความต้องการตามธรรมชาติของร่างกาย ทว่ายังไม่เคยเจอผู้ชายคนไหนที่ถูกใจมาก่อน ต่างกับคริสเขาดูดีทุกอย่าง เพียบพร้อมไปหมด แต่เธอห้ามใจเอาไว้ไม่ให้หลงใหลได้ปลื้มเขา เพราะคิดว่าเขามีคนรักอยู่แล้ว ทว่าวันนี้เขากลับมายื่นข้อเสนอแบบนี้กับเธอ หญิงสาวคิดไม่ตกทำตัวเริ่มไม่ถูกแล้วเหมือนกัน เผลอยกมือขึ้นถูหลังหูแบบลืมตัว “ว่าไง” คริสขยับเข้ามานั่งชิดกับเอริน เขาดันปลายคางของหญิงสาวเข้ามาหา “ลองจูบดูก่อนก็ได้ ถ้าไม่โอเคก็ปฏิเสธผมจะหยุดทันทีดีไหม” เขาแนะทางออกให้เอริน “แบบนั้นรินก็ใจง่ายสิคะ” ใจหนึ่งของเอรินอยากลองอีกใจก็ขลาดกลัว “ผมก็ใจง่ายมีอะไรกับผู้หญิงง่าย ๆ หมดแหละ” รอยยิ้มเท่ ๆ จากเขาทำผู้หญิงละลายมาหลายคน แต่กับเอรินทำไมถึงได้ดูตื่นตะลึงไปหมดแบบนี้ หญิงสาวเม้มริมฝีปากเข้าออกเป็นจังหวะ จะพูดก็ไม่พูดอึกอักจนน่าหงุดหงิด “ผมไม่ใช่สเปกว่างั้น” “ไม่ใช่ค่ะ” เธอชอบเขาจะตายไป หล่อคมเข้มสูงยาวเข่าดีมีใครบ้างไม่ชอบ “งั้นทำไมไม่ลองดูล่ะ เราโต ๆ กันแล้ว เรื่องแบบนี้มันก็ปกติจะตายไป” คริสเปลี่ยนเสียงให้นุ่มทุ้มหูขึ้น ทำให้เอรินหน้าเห่อร้อน ยกนิ้วทัดเส้นผมตรงใบหูทั้งที่ไม่ได้มีลมพัดมาสักแอะเดียว เริ่มร้อน ๆ หนาว ๆ กับสายตาที่เปลี่ยนไปของเจ้านาย “จูบ” คริสเอ่ยขึ้นพร้อมกับเลื่อนฝ่ามือไปจับท้ายทอยของเอริน เขาดึงแว่นตาออกวางไว้บนโต๊ะ (รักระทวย)

พญาครุฑอุ้มสม เล่ม ๑

พญาครุฑอุ้มสม เล่ม ๑

โรแมนติก

5.0

💫คำโปรย💫 " ขาแข้งสั่นถึงเพียงนี้แล้ว! เจ้ายังจักมีแรงหนีข้าได้อีกอย่างนั้นรึ? หึ.. เช่นนั้นข้าคงต้องทำให้เจ้าหมดแรงก่อนสินะ! ข้าใคร่รู้นัก ว่าเจ้าจักมีแรงหนีไปที่ใดได้อีก..” 💫อารัมภบท💫 พญาครุฑหนุ่มนามว่า พระมหิงส์เวหะ ราชโอรสแห่งเมืองครุฑดินแดนทักษิณ เมืองสินธุ เป็นพญาครุฑหนุ่มรูปงาม ผิวสีเข้ม คมคร้าม นัยน์ตาสีชาด(สีเลือด) รูปกายสง่างาม ยากจักหาครุฑาหนุ่มตนใดมาเปรียบได้ ครั้นเมื่อพญาครุฑหนุ่มต้องสูญเสียต้องสูญเสียคู่หมั้นที่ตนรักให้แก่กษัตริย์อสุราตนหนึ่งไป ..ใจพญาครุฑหนุ่มมันแสนเจ็บปวดที่ต้องสูญเสียนางไปแต่กลับทำอันใดมิได้เลย มิหนำซ้ำนางยังมีใจแก่กษัตริย์อสุราตนนั้นอีก แต่ทว่า! เมื่อพระมหิงส์เวหะได้พบกับ นรีทิพย์อัปสร ญาติผู้น้องของกษัตริย์อสุราตนนั้น ความเจ็บปวดที่มีอยู่กลับแปลเปลี่ยนไปโดยเขาไม่รู้ตัว พญาครุฑหนุ่มได้ฉุดคร่าอัปสรตัวน้อยกลับไปถิ่นฐานของตน เพียงใคร่จักเอาคืนกษัตริย์อสุราตนนั้น และได้เชยชมนางจนสมใจ แต่กว่าจะรู้ตัว พญาครุฑหนุ่มก็ทั้งรักทั้งหลงนางอัปสรตัวน้อยจนถอนตัวถอนใจมิได้เสียแล้ว ________💫_________ เรื่อง : พญาครุฑอุ้มสม (เล่ม๑) ผู้เขียน : รดามณีนัฐฐ์ ภาพปก : Dayny_white พิสูจน์อักษร : รดามณีนัฐฐ์ นิยายเรื่องนี้ สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ห้ามทำการคัดลอด เลียนแบบ หรือดัดแปลงเนื้อหาส่วน ใดส่วนหนึ่งของานเขียนนี้ รวมทั้งการจัดเก็บ ถ่ายทอด บันทึก ถ่ายภาพ ไม่ว่ารูปแบบหรือวิธีการใดๆ ในกระบวนการอิเล็กทรอนิกส์ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์เท่านั้น ________💫_________ #คำเตือน นิยายเรื่องนี้ไม่เหมาะสำหรับนักอ่านที่อายุต่ำกว่า ๑๘ ปี โปรดใช้วิจารณญาณก่อนอ่าน นิยายเรื่องนี้เขียนขึ้นจากความคิดและจินตนาการของไรต์ล้วน ๆ เป็นเรื่องราวของความรักในยุคของวรรณคดี ที่ไม่เคยปรากฏอยู่ในวรรณคดีใดมาก่อน ลักษณะความพิเศษของตัวละครมีเรื่องราวเหนือธรรมชาติและสถานที่ต่าง ๆ จึงเป็นเพียงสิ่งที่สมมุติขึ้นมาเท่านั้น อาจผิดแผก แปลกไปจากตำนานที่เล่าขานกันมา เพราะฉะนั้น ภาษาที่ใช้ จะเป็นภาษาที่มาจากหลายยุคหลายสมัยรวมกัน มีเนื้อหารุนแรง และเนื้อหาบรรยายฉากร่วมรักระหว่างหญิงชายอย่างโจ่งแจ้ง เนื้อหาที่ไม่เหมาะสมของตัวละครที่ ไม่สมควรลอกเลียนแบบ ________💫_________

ภรรยาห้าตำลึงเงิน

ภรรยาห้าตำลึงเงิน

เมืองแฟนตาซี

5.0

คนเราบางครั้งก็หวนนึกขึ้นมาได้ว่าตายแล้วไปไหน ซึ่งเป็นคำถามที่ไร้คำตอบเพราะไม่มีใครสามารถมาตอบได้ว่าตายไปแล้วไปไหน หากจะรอคำตอบจากคนที่ตายไปแล้วก็ไม่เห็นมีใครมาให้คำตอบที่กระจ่างชัด ชลดา หญิงสาวที่เลยวัยสาวมามากแล้วทำงานในโรงงานทอผ้าซึ่งตอนนี้เป็นเวลาพักเบรค ชลดาและเพื่อนๆก็มานั่งเมาท์มอยซอยเก้าที่โรงอาหารอันเป็นที่ประจำสำหรับพนักงานพักผ่อน เพื่อนของชลดาที่อยู่ๆก็พูดขึ้นมาว่า "นี่พวกแกเวลาคนเราตายแล้วไปไหน" เอ๋ "ถามอะไรงี่เง่าเอ๋ ใครจะไปตอบได้วะไม่เคยตายสักหน่อย" พร "แกล่ะดารู้หรือเปล่าตายแล้วไปไหน" เอ๋ยังถามต่อ "จะไปรู้ได้ยังไง ขนาดพ่อแม่ของฉันตายไปแล้วยังไม่รู้เลยว่าพวกท่านไปอยู่ที่ไหนกัน เพราะท่านก็ไม่เคยมาบอกฉันสักคำ" "อืม เข้าใจนะแก แต่ก็อยากรู้อ่ะว่าตายแล้วคนเราจะไปไหนได้บ้าง" "อืม เอาไว้ฉันตายเมื่อไหร่ จะมาบอกนะว่าไปไหน" ชลดาตอบเพื่อนไม่จริงจังนักติดไปทางพูดเล่นเสียมากกว่า "ว๊าย ยัยดาพูดอะไร ตายเตยอะไรไม่เป็นมงคล ยัยเอ๋แกก็เลิกถามได้แล้ว บ้าไปกันใหญ่" พรหนึ่งในกลุ่มเพื่อนโวยวายขึ้นมาทันที แต่ใครจะรู้ว่าหลังจากวันนั้นที่คุยกันที่โรงอาหารจะเป็นการคุยเล่นกันวันสุดท้ายของชลดา เพราะหลังจากเลิกงานกลับมาชลดาก็เสียชีวิตระหว่างเดินทางกลับหอพักด้วยสาเหตุวัยรุ่นยกพวกตีกันและมีการยิงกันเกิดขึ้นและชลดาคือผู้โชคร้ายที่ผ่านทางมาพอดี ท่ามกลางความเสียใจของเพื่อนๆ เอ๋ได้แต่หวังว่า ชลดาคงไม่มาบอกกับเธอจริงๆหรอกใช่ไหมว่าตายแล้วไปไหน

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
บรรณาการเมียแต่ง
1

บทที่ 1 พินัยกรรม

27/06/2023

2

บทที่ 2 ตอนที่ 2 บทลงโทษ -1

27/06/2023

3

บทที่ 3 บทลงโทษ -2

27/06/2023

4

บทที่ 4 คำสอนของย่า

27/06/2023

5

บทที่ 5 ผู้ช่วยเบอร์ 1

27/06/2023

6

บทที่ 6 บ้านเก่า

27/06/2023

7

บทที่ 7 ทำตามหน้าที่

27/06/2023

8

บทที่ 8 สิทธิ์ความเป็นเมีย

27/06/2023

9

บทที่ 9 กล้าทวงก็กล้าให้

27/06/2023

10

บทที่ 10 ก็แค่คู่หลับนอน

27/06/2023

11

บทที่ 11 ลูกค้าสำคัญ

27/06/2023

12

บทที่ 12 หึง

27/06/2023

13

บทที่ 13 สิทธิ์ในความเป็นสามี

27/06/2023

14

บทที่ 14 ก็ห่วงนั่นแหละ

27/06/2023

15

บทที่ 15 เป็นห่วง

27/06/2023

16

บทที่ 16 ความลับที่ไม่ลับ

27/06/2023

17

บทที่ 17 ไม่มีทางให้เป็นอิสระ

27/06/2023

18

บทที่ 18 คนนี้เมียผม

27/06/2023

19

บทที่ 19 ก็แค่หน้าที่

27/06/2023

20

บทที่ 20 ทุกอย่างดับวูบลงในทันที

27/06/2023

21

บทที่ 21 เขากำลังจะมีลูกกับผู้หญิงอีกคน

27/06/2023

22

บทที่ 22 ขอหย่า

27/06/2023

23

บทที่ 23 มีสิทธิ์อะไรมาขอหย่า

27/06/2023

24

บทที่ 24 มาตามเมียกับลูกกลับบ้าน

27/06/2023

25

บทที่ 25 เคลียร์กันให้รู้เรื่อง

27/06/2023

26

บทที่ 26 จบบริบูรณ์

27/06/2023