เพียงเพราะรักด้วยใจปรารถนา

เพียงเพราะรักด้วยใจปรารถนา

ภิรญา กษิรา

5.0
ความคิดเห็น
37
ชม
12
บท

“พี่ภีมโกรธวาเรื่องอะไรคะ” “หยุด! ต่อไปนี้เธอไม่ต้องเรียกฉันว่า ‘พี่’ ฉันมียายพลอยเป็นน้องสาวเพียงคนเดียวเท่านั้น” น้ำเสียงดุกร้าวไม่แพ้แววตา “นี่มันอะไรกันคะวางงไปหมดแล้ว พี่ภีมช่วยอธิบายให้วาเข้าใจหน่อยได้ไหมคะ” หญิงสาวร้องขอความกระจ่างจากเขา ยังคงสะอื้นไห้อยู่เช่นเดิม “อธิบายเหรอ... ยังจะต้องให้ฉันอธิบายอะไรอีก หรือต้องการให้ฉันประจานต่อหน้าป้าอิ่มและนวลว่าเธอมันเลวชาติ... หน้าด้าน หน้าทน ขนาดไหน” “คุณภีม! / พี่ภีม!” วาทิตา นางอิ่ม อุทนทานเรียกชื่อเขาพร้อมๆ กันเลยทีเดียว ด้วยคาดไม่ถึงว่าจะได้ยินคำพูดเหล่านี้ออกจากปากเขาได้ “อยากรู้ว่าตัวเองเลวยังไง ฉันว่าไอ้นี่คงจะอธิบายได้อย่างชัดเจนถึงความเลวของเธอนะวาทิตา” ภาคิน ปาก้อนกระดาษที่เขาขยำไว้ในมืออย่างโกรธแค้นจนกลายเป็นก้อนกลมๆ ใส่หน้าหญิงสาวอย่างแม่นยำ ทว่าหากเวลานี้ในมือเขาสามารถประจุไฟขึ้นมาได้กระดาษแผ่นนั้นคงไม่เป็นก้อนอยู่อย่างที่เห็น มันคงกลายเป็นเถ้ากระดาษไปนานแล้ว วาทิตารีบคลี่ก้อนกระดาษที่เขาปาใส่หน้าเธออย่างเต็มแรงจนแก้มขาวนวลข้างซ้ายขึ้นรอยแดงอย่างเห็นได้ชัดทันที นัยน์ตากลมโตค่อยๆ ไล่อ่านทุกตัวอักษรยิ่งอ่านสีหน้าก็ยิ่งถอดสี ศีรษะส่ายไปมาเล็กน้อย เหมือนต้องการส่งสัญญาณให้บุคคลที่กำลังจ้องมองอยู่ตรงหน้านั้นได้รู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องจริงตามข้อความในกระดาษนี้ สายตาชายหนุ่มที่กำลังจ้องมองประดุจเสือร้ายกำลังจ้องกวางน้อยและรอเวลาตะคลุบเหยื่อมาเป็นอาหารอันโอชะอยู่อย่างไม่ละสายตา ทำให้เขาเห็นทุกอากัปกิริยาของเธอ เขากระตุกยิ้มมุมปากนิดหนึ่งอย่างเหยียดๆ “ไม่จริง! นะคะพี่ภีม ไม่จริง”

บทที่ 1 บทนำ

โครม!

สรรพสิ่งทุกอย่างที่ตั้งอยู่บนโต๊ะทำงานขนาดย่อมจากที่เคยถูกจัดวางไว้อย่างเป็นระเบียบก่อนหน้านี้โดยฝีมือภรรยาอันเป็นที่รักของเขา แต่บัดนี้ของเหล่านั้นมันกลับกระจัดจายอยู่บนพื้นห้องทำงานด้วยฝีมือเจ้าของห้องเอง ด้วยความโมโหจึงบันดาลโทสะเพิ่มกำลังของชายหนุ่มให้มีเรียวแรงมากพอที่จะกวาดเอาของทุกอย่างลงมาได้จนเกลี้ยงโต๊ะในคราเดียวได้เช่นนี้

เสียงดังสนั่นจากของที่กระทบพื้นห้องได้ไม่ถึงนาที เสียงร้องเอะอะมะเทิ่งพร้อมกับเสียงฝีเท้าที่ดูเหมือนกำลังวิ่งแข่งกันมานั้นดังมาแต่ไกล แต่เพียงครู่เดียวบุคคลทั้งหมดก็ปรากฏตัวภายในห้องทำงานซึ่งอยู่บริเวณชั้นล่างของคฤหาสน์หลังงาม ด้วยสีหน้าตื่นตระหนกตกใจว่าเกิดอะไรขึ้น

“ตายแล้ว! เกิดอะไรขึ้นคะคุณภีม ทำไมข้าวของถึงได้กระจายเต็มห้องแบบนี้คะ”

หญิงสูงวัยร่างท้วมซึ่งมาถึงเป็นคนแรกอุทานขึ้นพร้อมกับยกมือทาบอกอย่างตกใจกับภาพที่เห็นตรงหน้า

ภาคิน ยังคงยื่นแน่นิ่งไม่ไหวติงแต่อย่างใด ในมือข้างหนึ่งกำกระดาษขนาดเกือบๆ เท่ากับกระดาษเอสี่เห็นจะได้ ทว่ามองดูดีๆ แล้วจะเห็นว่ากระดาษแผ่นนั้นจะอ่อนบางกว่า อีกทั้งมีเส้นขั้นบรรทัดไว้ ส่วนอีกมือเขากำไว้แน่นชนิดที่ว่าหากมีของมีคมอยู่ในมือข้างนั้นเลือดแดงสดคงจะไหลเป็นทางไปแล้ว

แววตาขี้เล่น เจ้าเล่ห์ ซ่อนไว้ซึ่งความอบอุ่น ของคาสโนว่าหนุ่มได้หายไปโดยสิ้นเชิง ทว่าเวลานี้มีเพียงแววตาที่ฉายความดุดัน โกรธแค้น อย่างที่ไม่เคยมีใครเคยเห็นมาก่อน แม้แต่หญิงสูงวัย นามว่า นางอิ่ม ซึ่งเป็นผู้เลี้ยงดูเขามาตั้งแต่อ้อนแต่ออกเองด้วย

“เกิดอะไรขึ้นคะ ป้าอิ่ม” เสียงหวานไพเราะคุ้นหูของทุกคนในบ้านดังขึ้นภายหลัง หลังจากเด็กในบ้านอีกคนวิ่งไปรายงานเธอว่ามีเสียงดังสนั่นในห้องทำงานของผู้เป็นสามี ทำให้เธอต้องละจากการจัดแจกันดอกไม้ที่บริเวณโซนนั่งเล่นนอกตัวคฤหาสน์ออกไปทันที

ทว่าเสียงหวานใสคุ้นหูนั้นกลับกลายเป็นฉนวนเพิ่มแรงพายุให้รวมตัวขึ้นอีกครั้ง และดูเหมือนจะหนักกว่าเดิมอีกหลายเท่าตัว

“ป้าก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะคุณวา ป้าขึ้นมาก็เจอสภาพนี้แล้ว”

นางอิ่มหันมารายงานหญิงสาวผู้เข้ามาใหม่ทันควัน น้ำเสียงยังคงไม่คลายความวิตกลงไป

“เกิดอะไรขึ้นคะพี่ภีม”

วาทิตาหันไปถามสามีแทน เมื่อเห็นว่าไม่มีใครสามารถให้คำตอบได้ดีเท่ากับคนที่ยื่นนิ่งอยู่ หญิงสาวขยับเท้าหวังเดินตรงเข้าไปหาเขาอีกนิด ทว่ายังไม่ทันได้ก้าวเท้าออกจากที่เดิมร่างเล็กต้องหยุดชะงักแทบจะทันที เมื่อเสียงแห่งอำนาจ แฝงด้วยความหมางเมินดังขึ้นอย่างชัดเจน

“หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ”

ไม่เพียงแต่น้ำเสียงเท่านั้นที่แสดงความหมางเมิน แววตาก็ไม่ต่างอะไรจากน้ำเสียงนั้นเลย เขามองเธอราวกับเธอเป็นคนแปลกหน้าเช่นนั้น

วาทิตายืนนิ่ง ความสับสน มึนงง แทรกเข้ามาทันที เพราะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับผู้เป็นสามี ทำไมสามีที่รักถึงไม่ให้เธอเข้าใกล้ แล้วยังสายตาที่มองเธอเหมือนคนแปลกหน้านั้นอีกเล่า มิหนำซ้ำเขายังแสดงท่าทีเหมือนขยะแขยงตัวเธออย่างเห็นได้ชัด ซึ่งแต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยเลยสักครั้งที่เขาจะหยุดหรือห้ามเธอเข้าใกล้เหมือนครั้งนี้ มีแต่จะหาโอกาสใกล้ชิดเธอตลอดเวลา

‘มันเกิดอะไรขึ้นใครก็ได้ช่วยบอกที พี่ภีมของน้องวา เป็นอะไรไป’ วาทิตาได้แต่เพียงร่ำร้องหาคำตอบอยู่ในอกเท่านั้น

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ ภิรญา กษิรา

ข้อมูลเพิ่มเติม
ทวงใจรักคืน

ทวงใจรักคืน

โรแมนติก

5.0

“พรีม ๆ หยุดก่อน” เขาร้องเรียกหญิงสาวเอาไว้ เสียงดังฟังชัดทำเอาเด็กน้อยถึงกับหันมามองคนเรียก “คุณลุง” น้องพอวาเห็นหน้าก็จำได้ว่า เขาคือคนที่ได้เจอที่หน้าห้องน้ำเมื่อตอนมาถึงที่ร้าน พริมาภาตกใจไม่น้อยที่ได้ยินบุตรสาวร้องทักเขาขึ้น จริงอยู่ว่าหญิงสาวต้องการให้เขารับรู้ว่าเด็กที่เธอจับมือเอาไว้อยู่นี้คือเลือดเนื้อเชื้อไขของเขา หากแต่ไม่ใช่ตอนนี้ “น้องพอวา” “คุณลุงจำชื่อน้องพอวาได้ด้วย” เด็กน้อยบอกเสียงแจ๋วด้วยดีใจที่มีคนจำชื่อตัวเองได้ “จำได้สิคะ” “น้องพอวา หนูรู้จักคุณ ... เอ่อ คุณลุงด้วยเหรอคะ” “คุณลุงช่วยน้องพอวากดสบู่ให้ตอนน้องพอวาล้างมือค่ะ” เด็กน้อยบอกเสียงใสเลยทีเดียว “พรีม เด็กคนนี้ ...” “น้องพอวาเป็นลูกสาวพรีมค่ะ” เธอไม่รีรอที่จะบอกออกไปเช่นนั้น เพราะไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องปิดไม่ให้เขารู้ว่าเธอมีลูกแล้ว คำตอบนั้นทำให้ใบหน้าหล่อคมเข้มถึงกับร้อนวูบขึ้นมา พร้อม ๆ กับหลากหลายความรู้สึกที่วิ่งแทรกเข้ามา ซึ่งเขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันเป็นความรู้สึกอะไรกันแน่

อุ้มรักคาสโนว่า

อุ้มรักคาสโนว่า

โรแมนติก

5.0

“นี่คุณ ปล่อยฉันนะไม่อย่างนั้นฉันจะตะโกนเรียกคุณป๋า ท่านจะได้รู้ว่าคุณมันไว้ใจไม่ได้” น้ำเสียงเธอตกใจอยู่ไม่น้อยที่จู่ ๆ ก็โดนอีกฝ่ายจู่โจมถึงตัวเอาแบบนี้ “คุณไม่รู้หรอกหรือว่าคุณป๋าคุณเปิดทางให้ผมแค่ไหน” เขากระซิบข้างหูคนตัวเล็กอย่างจงใจ “ปล่อยฉันนะ คุณอย่ามารุ่มร่ามกับฉันแบบนี้นะ” “รุ่มร่ามที่ไหนกันก็แค่กอดเมีย” คนกวนพยายามจะหอมแก้มขาวนวล ทว่าอีกฝ่ายหลบได้ทันเสียก่อน “นี่คุณ” ไม่ได้ห้ามอย่างเดียว ทว่ากำปั่นเล็กทุบเข้าที่หน้าอกเขาเต็มแรง แต่ดูเหมือนคนทุบจะเจ็บมือเองเสียเปล่า ๆ เพราะมันไม่ได้สะทกสะท้านหรือระคายเคืองอะไรกับแผงอกหนาเอาเสียเลย “ถ้ายอมให้หอมก็จะปล่อย” “มันจะมากไปแล้วนะ” เสียงที่ดังลอดไรฟันค่อนข้างเอาเรื่อง “แค่หอมมากไปทีไหนกัน ... โอ๊ย! นี่คุณชาติก่อนเป็นหมาหรือไง” ศิวัฒน์ยังไม่ทันได้กวนโทสะอีกฝ่ายจนสุด ก็ต้องร้องเสียงหลงออกมาเมื่อคนในวงแขนแข็งแรงหันไปกัดเอาที่ต้นแขนนั้นจมเขี้ยว ทำเอาคนที่กำลังคิดว่าตัวมีชัยอยู่ถึงกับต้องปล่อยแขนออกจากเอวบางทันที

หนังสือที่คุณอาจชอบ

จากเมียส้มหล่นสู่หญิงแกร่ง

จากเมียส้มหล่นสู่หญิงแกร่ง

Arvin Bikoff
5.0

หลังจากที่แต่งงานเข้ามาในตระกูลมู่ หลินซีได้ทำหน้าที่เป็นคุณนายมู่ที่ยอมอดทนกับทุกอย่างโดยไม่ปริปากเป็นเวลาสามปี เธอรักมู่จิ่วเซียว จึงยอมอดทนดูแลเขาอย่างเต็มใจ แม้ว่าเขาจะมีคนอื่นอยู่ข้างนอกก็ตามแต่เขากลับไม่เคยเห็นค่าของเธอ เหยียบย่ำความรักของเธอให้แหลกสลาย และถึงขั้นปล่อยให้น้องสาวของเขามอมเหล้าเธอแล้วส่งไปยังเตียงของลูกค้า หลินซีนั้นถึงเพิ่งจะตาสว่างเมื่อรู้ว่าความรักที่มีมานานนั้นช่างน่าขันและน่าเศร้าในใจของเขา เธอไม่ต่างอะไรกับผู้หญิงคนอื่นๆ ที่เข้ามาเกาะเขา เธอจึงทิ้งข้อตกลงการหย่าไว้แล้วจากไปโดยไม่ลังเล มู่จิ่วเซียวมองดูเธอประสบความสำเร็จ กลายเป็นดวงดาวที่ส่องแสงในสายตาของผู้คนเมื่อได้เจอกันอีกครั้ง เธอเต็มไปด้วยความมั่นใจและสงบเสงี่ยม โดยมีผู้ชายที่มีฐานะสูงส่งอยู่เคียงข้าง มู่จิ่วเซียวมองดูใบหน้าของคู่แข่งหัวใจที่ดูคล้ายกับของเขามาก จากนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าในสายตาเธอ เขาเป็นเพียงตัวแทนของคนอื่นในมุมแห่งหนึ่ง เขาขวางทางเธอไว้ “หลินซี คุณเล่นตลกกับผมใช่ไหม”

บ่วงรักคนไร้ใจ

บ่วงรักคนไร้ใจ

ดอกอ้อลู่ลม
5.0

"จะบอกให้นะ คนอย่างฉันเลวกว่าที่เธอคิดเยอะ อ้ออีกเรื่องที่ฉันจะบอกและให้เธอจำไว้ให้ขึ้นใจว่าต่อไปถ้าฉันมีอะไรกับเธอฉันจะไม่ป้องกันเพราะฉะนั้นต้องเป็นตัวเธอที่ต้องดูแลตัวเองหายาคุมมากินซะ อ้อแล้วก็อย่างที่ฉันบอกว่าห้ามปล่อยให้ตัวเองท้องเพื่อให้ฉันรับผิดชอบเพราะมันจะไม่มีวันเป็นไปได้อย่าหวังว่าฉันจะรับผิดชอบเธอกับเด็กในท้องของเธอ ถ้าฉันจะต้องหาแม่ของลูกฉันคงไม่เอาผู้หญิงขายตัวแลกเงินอย่างเธอมาเป็นแม่ของลูกแน่นอน ฉันสงสารลูกถ้ามีแม่อย่างเธอ แล้วถ้าเธอไม่เชื่อถ้าเธอปล่อยให้ตัวเองท้องฉันจะจัดการเด็กในท้องของเธอด้วยตัวของฉันเอง"

คุณหมอครับให้ผมเป็นพ่อของลูกเถอะ

คุณหมอครับให้ผมเป็นพ่อของลูกเถอะ

ระพีวีญา
5.0

'คุณหมอเกี่ยวก้อย' บุกไปตามน้องชายที่ทำตัวเกเรเป็นลูกน้อง 'พุฒิธร' นักเลงหน้าหล่อขวัญใจสาวๆ แต่ตามไปตามมาดันพลาดท้องซะงั้น! ตัวอย่าง ขณะที่กำลังจะก้าวออกจากร้านกาแฟ ประตูร้านถูกผลักออกไปอย่างแรงโดยไม่ทันระวัง หมอเกี่ยวก้อยชนเข้ากับใครบางคนอย่างจัง "ขอโทษค่ะ!" เธอรีบกล่าวคำขอโทษทันทีทำให้เอกสารที่อยู่ในมือปลิวกระจัดกระจายไปทั่วพื้น "ไม่เป็นไรครับ ผมช่วยเก็บ" เสียงของชายคนนั้นฟังดูสุภาพและใจดีเกินกว่าที่เธอคาดไว้ เขาก้มลงช่วยเก็บเอกสาร เมื่อเงยหน้าขึ้นสบตากัน หัวใจของเธอแทบหยุดเต้น พุฒิธร! เขาคือพ่อของลูก! คนที่เธอพยายามหลีกเลี่ยงมาตลอดหลายปี ร่างสูงสวมเสื้อเชิ้ตแบรนด์หรู กางเกงขายาวสีดำ รองเท้าหนัง ดูภูมิฐานราวกับคนละคนกับในอดีต เขาเคยเป็นนักเลงทวงหนี้แห่งบ้านดอนนาหอมแน่เหรอ "คุณ...มาที่นี่ได้ยังไง?" หมอเกี่ยวก้อยถามเสียงสั่น

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ