5.0
ความคิดเห็น
51
ชม
10
บท

“พรีม ๆ หยุดก่อน” เขาร้องเรียกหญิงสาวเอาไว้ เสียงดังฟังชัดทำเอาเด็กน้อยถึงกับหันมามองคนเรียก “คุณลุง” น้องพอวาเห็นหน้าก็จำได้ว่า เขาคือคนที่ได้เจอที่หน้าห้องน้ำเมื่อตอนมาถึงที่ร้าน พริมาภาตกใจไม่น้อยที่ได้ยินบุตรสาวร้องทักเขาขึ้น จริงอยู่ว่าหญิงสาวต้องการให้เขารับรู้ว่าเด็กที่เธอจับมือเอาไว้อยู่นี้คือเลือดเนื้อเชื้อไขของเขา หากแต่ไม่ใช่ตอนนี้ “น้องพอวา” “คุณลุงจำชื่อน้องพอวาได้ด้วย” เด็กน้อยบอกเสียงแจ๋วด้วยดีใจที่มีคนจำชื่อตัวเองได้ “จำได้สิคะ” “น้องพอวา หนูรู้จักคุณ ... เอ่อ คุณลุงด้วยเหรอคะ” “คุณลุงช่วยน้องพอวากดสบู่ให้ตอนน้องพอวาล้างมือค่ะ” เด็กน้อยบอกเสียงใสเลยทีเดียว “พรีม เด็กคนนี้ ...” “น้องพอวาเป็นลูกสาวพรีมค่ะ” เธอไม่รีรอที่จะบอกออกไปเช่นนั้น เพราะไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องปิดไม่ให้เขารู้ว่าเธอมีลูกแล้ว คำตอบนั้นทำให้ใบหน้าหล่อคมเข้มถึงกับร้อนวูบขึ้นมา พร้อม ๆ กับหลากหลายความรู้สึกที่วิ่งแทรกเข้ามา ซึ่งเขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันเป็นความรู้สึกอะไรกันแน่

บทที่ 1 ตอนที่ 1-1

บรรยากาศภายในงานประกาศผลรางวัล โครงการ ‘ส่งเสริมให้เด็กได้โชว์ศักยภาพ และความสามารถ เพื่อชิง-ทุนการศึกษา’ ของบริษัทผลิตนมผงคุณภาพระดับพรีเมียมของประเทศ

ซึ่งได้มีการประกวดและตัดสินในบางส่วนไปบ้างแล้ว สำหรับวันนี้เป็นวันที่ประกาศผลว่าเด็กคนไหนจะคว้าทุนการศึกษาหนึ่งล้านบาทไปได้

เสียงที่ดังเจื้อยแจ้วของผู้คนที่มาร่วมงานค่อย ๆ เบาลง และเงียบในที่สุด เมื่อพิธีกรบนเวทีทำการประกาศผลรางวัลที่ทั้งเด็กและผู้ปกครองกำลังรอคอย

“ขอแสดงความยินดีกับ ...”

เสียงดนตรีดังขึ้นเป็นการกระตุ้นความตื่นเต้นให้กับทุกคนที่อยู่บริเวณลานกว้างของห้างสรรพสินค้าใหญ่ใจกลางเมือง

“คนเก่งของเราวันนี้คือ ... น้องพอวา ด.ญ.พอวา เมธานนท์ รับทุนการศึกษาหนึ่งล้านบาท ยินดีด้วยครับ”

สิ้นเสียงพิธีกร เสียงปรบมือดังสนั่นขึ้นแทรกในทันที

“กรี๊ดดดด!!! น้องพอวาชนะแล้ว กรี๊ดดดด”

พลอยณิศาส่งเสียงร้องดีใจแข่งกับเสียงปรบมือ และคำชื่น¬ชมในตัวผู้ได้รับรางวัลทันที

‘เด็กหญิงพอวา เมธานนท์’ อายุหกขวบเศษเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่หนึ่ง ณ โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่ง บุตรสาวคนเดียวของ ‘พริมาภา’ หรือ ‘พรีม’ ซึ่งเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว โดยมีพิมพ์รดาน้องสาว กับพลอยณิศาเพื่อนเป็นคนช่วยดูแลตั้งแต่เกิด ร่างเล็กมองหน้าบุตรสาวที่นั่งยิ้มกริ่มอยู่กับเพื่อนรักอย่างปลื้มปิติ ด้วยไม่คิดว่าบุตรสาวตัวเองจะเก่งขนาดนี้

แต่ก็ใช่ว่าเด็กน้อยจะไม่เคยผ่านเวทีการประกวดอะไรมา-ก่อนเลย ด้วยความฉลาด ความสามารถของเด็กที่พลอยณิศามองเห็น ทำให้หล่อนผลักดัน และแสวงหาโอกาสให้กับหลานสาวในทุก ๆ ด้าน ที่คิดว่าเจ้าตัวเล็กสามารถทำได้

และเมื่อเห็นว่าเวทีนี้เปิดให้เด็กได้มาโชว์ศักยภาพ ความสามารถ หล่อนจึงไม่รีรอที่จะยื่นใบสมัครให้ ซึ่งน้องพอวาได้แสดงความสามารถด้วยการเล่านิทานภาษาอังกฤษ จีน และไทย โดยถ่ายทอดจินตนาการออกมาจนผู้ชม และผู้ฟังในงานต่างพากันชื่นชมในความสามารถ จนคว้ารางวัลชนะเลิศรับทุนการศึกษาหนึ่งล้านบาทมาในที่สุด

และนอกจากทุนการศึกษาแล้ว ยังได้เป็นพรีเซนเตอร์ให้กับผลิตภัณฑ์ตลอดระยะเวลาหนึ่งปีด้วย

“เชิญน้องพอวาบนเวทีครับ”

เสียงพิธีกรหนุ่มดังขึ้นอีกครั้ง

“แกพาน้องพอวาขึ้นไปรับรางวัลเร็ว”

พลอยณิศารีบหันมาบอกเพื่อนรัก

“แม่จ๋าไปรับรางวัลกับน้องพอวานะคะ”

เด็กน้อยผู้ได้รับรางวัลรีบอ้อนมารดาขึ้นมาทันที

โดยปกติแล้วพริมาภาไม่ค่อยแสดงตัวอยู่แล้ว ส่วนมากจะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพลอยณิศาหรือไม่ก็พิมพ์รดา เพราะทั้ง¬สองคนมักเป็นคนจัดการมาตั้งแต่ต้น

การประกวดครั้งนี้ในตอนแรกเธอก็ไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าไร เพราะกลัวว่าจะเป็นการกดดันลูกสาวมากเกินไป ทว่าก็ต้องใจ¬อ่อนเมื่อเจ้าตัวเล็กเป็นคนเอ่ยปากเองว่า อยากไปประกวด

จริง ๆ แล้ววันนี้หญิงสาวไม่สามารถมาร่วมงานได้ด้วยซ้ำ ดีที่ทางบริษัทเลื่อนการประชุมออกไป เธอจึงรีบตามมาส่ง¬กำลังใจให้บุตรสาวทันที

“น้องพอวาไปกับน้าพลอยนะคะ”

“แกน่าจะขึ้นไปด้วยนะ เดี๋ยวฉันถ่ายรูปให้”

“ไม่ละ แกจัดการไปเถอะ ... น้องพอวาไปกับน้าพลอยนะคะ”

“ก็ได้ค่ะ”

น้ำเสียงตอบรับฟังดูติดจะเศร้าไปหน่อย ทว่าเมื่อมารดาอุ้ม¬ร่างเล็กขึ้น แล้วหอมเข้าที่แก้มฟอดใหญ่ ริมฝีปากจิ้มลิ้มก็ยิ้มออกทันที

“แม่จ๋ารออยู่ข้างล่างนะคะคนเก่ง”

เธอบอกพร้อมกับอุ้มร่างเล็กขึ้นมาด้วย

“ค่ะ”

คราวนี้เสียงใสแจ๋วเลยทีเดียว

“งั้นฉันพาน้องพอวาไปรับรางวัลก่อน”

“โอเค ๆ ฉันไปรอหลังเวทีนะ”

หญิงสาวรับคำแล้วก็หยิบโทรศัพท์มาดู เพราะมีเสียงเรียกเข้ามาพอดี ว่าแล้วหญิงสาวก็หอมแก้มบุตรสาวเป็นการให้¬กำลังใจอีกครั้ง ก่อนส่งร่างเล็กให้เพื่อนรัก แล้วก็ปลีกตัวไปทางด้านหลังเวที

ขณะที่หญิงสาวเดินแยกตัวออกมา ได้ยินแต่คนชื่นชมบุตรสาวตัวเอง ยิ่งได้ยินหัวใจยิ่งพองโตรู้สึกภูมิใจตัวเองที่สามารถเลี้ยงดูลูกมาให้เก่ง และกล้าแสดงออกขนาดนี้ และต้องขอบใจเจ้า¬ตัวเล็กด้วยที่ไม่ดื้อ แถมยังยอมรับในสิ่งที่เธอและน้า ๆ ป้อนให้ทุกอย่าง

“เด็กคนนี้เก่ง ๆ มาก ๆ เลยนะคะคุณกิ่ง”

คำชื่นชมของหญิงคนหนึ่งทำเอาพริมาภาที่กำลังเดินอ้อมไปทางด้านหลังเวทีต้องหยุดเท้าแล้วหันมองที่ต้นเสียงนิดหนึ่งแล้วสายตาก็พลันเห็นใครคนหนึ่งในงาน

“คุณกิ่งกาญจน์”

พริมาภาอุทานเรียกชื่อหญิงสูงวัยซึ่งนั่งอยู่ที่ชุดโซฟาของ-ประธานในการจัดงานโดยอัตโนมัติ แล้วก็รีบพาตัวเองหลบไปทางหลังเวทีทันที หัวใจเต้นแรงเร็วอย่างลุ้น ๆ ด้วยกลัวว่าเจ้าของชื่อที่อุทานเรียกเมื่อครู่จะได้ยินแล้วหันมามอง ด้วยตกใจทำให้ลืมไปเสียสนิทว่า ต้องมารับสายโทรศัพท์ที่ดังเรียกเข้ามาเมื่อครู่ พอ¬มาดูอีกทีสายก็ถูกตัดไปแล้ว

หญิงสาวจำหญิงสูงวัยผู้นี้ได้ไม่เคยลืม เพราะท่านเป็นทั้งผู้ให้ที่พักพิง ให้ทั้งเงิน เพื่อให้เธอกับน้องสาวได้เรียนต่อ และก็ยังเป็นคนที่ทำให้ต้องกลายเป็นนกไร้รังอีกครั้ง

แต่หากให้มาคิดอีกทีต้องของคุณด้วยซ้ำที่ทำให้ชีวิตเธอมี-คุณภาพ และมีคุณค่ามากขึ้น เพราะหากไม่ใช่เพราะนาง ดีไม่ดีเธออาจจะยังคงเป็นแค่เด็กรับใช้ และคงไม่มี ดร.พริมาภา กับ เด็กหญิงพอวาในวันนี้ก็ได้

เธอมองหญิงสูงวัยที่ยังคงภูมิฐานเฉกเช่นเดิม แม้เวลาจะล่วงเลยมานานหลายปี ทว่าดูเหมือนว่านางยังคงเหมือนเดิมทุกอย่าง สายตาคู่สวยมองผ่านไปยังเจ้าตัวเล็กบนเวทีแล้วพลอยให้ยิ้มออกมาอีกครั้ง

“เด็กคนนั้นคือสายเลือดของคุณผู้หญิงนะคะ”

ริมฝีปากสวยได้รูปขยับเอ่ยขึ้นเบา ๆ ให้ได้ยินเพียงตัวเองเท่านั้น

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ ภิรญา กษิรา

ข้อมูลเพิ่มเติม
เพียงเพราะรักด้วยใจปรารถนา

เพียงเพราะรักด้วยใจปรารถนา

โรแมนติก

5.0

“พี่ภีมโกรธวาเรื่องอะไรคะ” “หยุด! ต่อไปนี้เธอไม่ต้องเรียกฉันว่า ‘พี่’ ฉันมียายพลอยเป็นน้องสาวเพียงคนเดียวเท่านั้น” น้ำเสียงดุกร้าวไม่แพ้แววตา “นี่มันอะไรกันคะวางงไปหมดแล้ว พี่ภีมช่วยอธิบายให้วาเข้าใจหน่อยได้ไหมคะ” หญิงสาวร้องขอความกระจ่างจากเขา ยังคงสะอื้นไห้อยู่เช่นเดิม “อธิบายเหรอ... ยังจะต้องให้ฉันอธิบายอะไรอีก หรือต้องการให้ฉันประจานต่อหน้าป้าอิ่มและนวลว่าเธอมันเลวชาติ... หน้าด้าน หน้าทน ขนาดไหน” “คุณภีม! / พี่ภีม!” วาทิตา นางอิ่ม อุทนทานเรียกชื่อเขาพร้อมๆ กันเลยทีเดียว ด้วยคาดไม่ถึงว่าจะได้ยินคำพูดเหล่านี้ออกจากปากเขาได้ “อยากรู้ว่าตัวเองเลวยังไง ฉันว่าไอ้นี่คงจะอธิบายได้อย่างชัดเจนถึงความเลวของเธอนะวาทิตา” ภาคิน ปาก้อนกระดาษที่เขาขยำไว้ในมืออย่างโกรธแค้นจนกลายเป็นก้อนกลมๆ ใส่หน้าหญิงสาวอย่างแม่นยำ ทว่าหากเวลานี้ในมือเขาสามารถประจุไฟขึ้นมาได้กระดาษแผ่นนั้นคงไม่เป็นก้อนอยู่อย่างที่เห็น มันคงกลายเป็นเถ้ากระดาษไปนานแล้ว วาทิตารีบคลี่ก้อนกระดาษที่เขาปาใส่หน้าเธออย่างเต็มแรงจนแก้มขาวนวลข้างซ้ายขึ้นรอยแดงอย่างเห็นได้ชัดทันที นัยน์ตากลมโตค่อยๆ ไล่อ่านทุกตัวอักษรยิ่งอ่านสีหน้าก็ยิ่งถอดสี ศีรษะส่ายไปมาเล็กน้อย เหมือนต้องการส่งสัญญาณให้บุคคลที่กำลังจ้องมองอยู่ตรงหน้านั้นได้รู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องจริงตามข้อความในกระดาษนี้ สายตาชายหนุ่มที่กำลังจ้องมองประดุจเสือร้ายกำลังจ้องกวางน้อยและรอเวลาตะคลุบเหยื่อมาเป็นอาหารอันโอชะอยู่อย่างไม่ละสายตา ทำให้เขาเห็นทุกอากัปกิริยาของเธอ เขากระตุกยิ้มมุมปากนิดหนึ่งอย่างเหยียดๆ “ไม่จริง! นะคะพี่ภีม ไม่จริง”

อุ้มรักคาสโนว่า

อุ้มรักคาสโนว่า

โรแมนติก

5.0

“นี่คุณ ปล่อยฉันนะไม่อย่างนั้นฉันจะตะโกนเรียกคุณป๋า ท่านจะได้รู้ว่าคุณมันไว้ใจไม่ได้” น้ำเสียงเธอตกใจอยู่ไม่น้อยที่จู่ ๆ ก็โดนอีกฝ่ายจู่โจมถึงตัวเอาแบบนี้ “คุณไม่รู้หรอกหรือว่าคุณป๋าคุณเปิดทางให้ผมแค่ไหน” เขากระซิบข้างหูคนตัวเล็กอย่างจงใจ “ปล่อยฉันนะ คุณอย่ามารุ่มร่ามกับฉันแบบนี้นะ” “รุ่มร่ามที่ไหนกันก็แค่กอดเมีย” คนกวนพยายามจะหอมแก้มขาวนวล ทว่าอีกฝ่ายหลบได้ทันเสียก่อน “นี่คุณ” ไม่ได้ห้ามอย่างเดียว ทว่ากำปั่นเล็กทุบเข้าที่หน้าอกเขาเต็มแรง แต่ดูเหมือนคนทุบจะเจ็บมือเองเสียเปล่า ๆ เพราะมันไม่ได้สะทกสะท้านหรือระคายเคืองอะไรกับแผงอกหนาเอาเสียเลย “ถ้ายอมให้หอมก็จะปล่อย” “มันจะมากไปแล้วนะ” เสียงที่ดังลอดไรฟันค่อนข้างเอาเรื่อง “แค่หอมมากไปทีไหนกัน ... โอ๊ย! นี่คุณชาติก่อนเป็นหมาหรือไง” ศิวัฒน์ยังไม่ทันได้กวนโทสะอีกฝ่ายจนสุด ก็ต้องร้องเสียงหลงออกมาเมื่อคนในวงแขนแข็งแรงหันไปกัดเอาที่ต้นแขนนั้นจมเขี้ยว ทำเอาคนที่กำลังคิดว่าตัวมีชัยอยู่ถึงกับต้องปล่อยแขนออกจากเอวบางทันที

หนังสือที่คุณอาจชอบ

สวยเก่งอย่างฉันไม่ง้อคุณหรอก

สวยเก่งอย่างฉันไม่ง้อคุณหรอก

Amye Hochschild
5.0

ตลอดระยะเวลาสามปีที่หยุยเอินแต่งงานกับฝู้ถิงหย่วน เธอพยายามทำหน้าที่ภรรยาให้ดีที่สุด เธอคิดว่าความอ่อนโยนของตนจะสามารถละลายใจที่เย็นชาของฝู้ถิงหย่วนได้ แต่ต่อมาเธอก็รู้ตัวว่าไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ผู้ชายคนนี้ก็ไม่มีวันจะตกหลุมรักเธอได้ ด้วยความสิ้นหวังของเธอ สุดท้ายเธอตัดสินใจที่จะยุติการแต่งงานครั้งนี้ ในสายตาของฝู้ถิงหย่วน หยุยเอิน ภรรยาของเขาเป็นผู้หญิงที่โง่ ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง แต่เขาก็คิดไม่ถึงว่าภรรยาของเขาจะกล้าโยนใบหย่าใส่เขาต่อหน้าคนมากมายในงานเลี้ยงวันครบรอบฝู้ซื่อ กรุ๊ป หลังจากหย่าร้าง ทุกคนต่างคิดว่าพวกเขาจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกต่อไป แต่เรื่องราวระหว่างทั้งสองคงไม่ได้จบลงอย่างง่าย ๆ แบบนี้ หยุยเอินได้รับรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และคนที่เป็นผู้มอบถ้วยรางวัลให้กับเธอก็คือฝู้ถิงหย่วน หยุยเอินคิดไม่ถึงว่าผู้ชายที่สูงส่งและแสนเย็นชาคนนี้จะลดตัวลงอ้อนวอนเธอต่อหน้าผู้ชมทั้งหมด"หยุยเอิน ก่อนหน้านี้คือผมผิดเอง ขอโอกาสให้ผมอีกครั้งได้ไหม"หยุยเอินยิ้มด้วยความมั่นใจ"ขอโทษนะคุณฝู้ ตอนนี้ฉันสนใจแต่เรื่องงาน"ชายหนุ่มคว้ามือเธอไว้ ดวยตานั้นเต็มไปด้วยความผิดหวัง หยุยเอินสบัดมือเขาและเดินจากไปโดยปราศจากความลังเลใด ๆ

ซีอีโอผู้อ่อนแอต้องง้อเธอทุกวัน

ซีอีโอผู้อ่อนแอต้องง้อเธอทุกวัน

Elsworth Underwood
5.0

เซิ่งหนานหยินเกิดใหม่แล้ว ชาติที่แล้ว เธอถูกชายชั่วหักหลัง ถูกชายเสแสร้งใส่ร้าย โดนครอบครัวสามีเล่นงาน จนทำให้เธอล้มละลายและเป็นบ้าไป ในท้ายที่สุด เธอเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ 9 เดือน แต่คนร้ายกลับทำเงินได้มากมาย และใช้ชีวิตทั้งครอบครัวอย่างมีความสุข เกิดใหม่ครั้งนี้ เซิ่งหนานหยินคิดตกอล้ว อะไรที่ว่าพระคุณช่วยชีวิต คนรักในใจอะไรกัน ล้วนไม่ต้องไปสน เธอจะจัดการชายชั่วหญิงร้าย สร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลเก่าของตนเองขึ้นมาใหม่อีกครั้งและนำตระกูลเซิ่งไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ คนที่หยิ่งมาตลอดในชาติที่แล้ว กลับเป็นฝ่ายริเริ่มมาหาเธอ "เซิ่งหนานหยิน การแต่งงานครั้งแรกผมไม่ทัน การแต่งงานครั้งที่สองก็ต้องถึงคิวผมแล้วสินะ"

พระชายาของข้าคนเดียว

พระชายาของข้าคนเดียว

Daryl Tudge
5.0

เดิมทีนางเป็นทายาทของตระกูลแพทย์เทพ แต่จู่ๆ นางก็กลายเป็นบุตรีของภรรยาเอกจากจวนเสนาบดีที่พ่อไม่สนใจใยดีและแม่ก็เสียชีวิตตั้งแต่ยังนางยังเด็ก ในวันที่นางย้อนยุค นางถูกใส่ร้ายว่าเป็นผู้ร้ายตัวจริงที่สังหารฮูหยินจวนโหว นางพยายามพลิกผัน พลิกสถานการณ์ และพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของนาง นางคิดว่าภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกนั้นจบลงแล้ว แต่นางไม่รู้ว่าสิ่งที่นางจะต้องเผชิญคือเหวอันไม่มีที่สิ้นสุด เป็นถึงบุตรีของภรรยาเอกจากจวนเสนาบดีกลับมีอันตรายอยู้รอบตัวมากมาย ทุกคนก็รังแกนางได้ พ่อไม่สนใจนางจะเป็นหรือจะตาย แม่เลี้ยงและน้องสาวต่างแม่สนุกกับการทรมานนาง คู่หมั้นชั่วร้ายของนางอยากจะใช้นางเป็นประโยชน์เพื่อขึ้นไปที่สูง และแม้แต่น้องชายแท้ๆ ของนางยังทรยศนาง นางจึงเริ่มต่อสู้กับคนเจ้าเล่ห์ ข่มเหงแม่เลี้ยงของนาง และดูแลน้องชายและน้องสาวของนาง ดังนั้นนางวางแผนที่จะเล่นงานผู้ชายชั่ว เอาคืนแม่เลี้ยง และแก้แค้นน้องๆ ระหว่างที่นางแก้แค้นนั้น นางมีชีวิตที่มีความสุข แต่กลับไม่รู้ว่าไปยั่วยุคนใหญคนหนึ่งเข้าเมื่อไร เมื่อนางจะทำเรื่องไม่ดีหรือฆ่าคน เขาก็ช่วยนางหมด ในที่สุดนางก็อดไม่ได้ที่ถามออกมาว่า "ท่าน แม้ว่าข้าจะทำลายโลกที่ไม่มความยุติธรรมนี้ ท่านก็จะช่วยข้าเช่นกันหรือ" เขาทำหน้าใจเย็น "ตราบใดที่เจ้าอยู่เคียงข้างข้า แม้ว่าจะเป็นโลกใบนี้ ข้าก็สามารถให้เจ้าได้"

คุณสามีเป็นผู้พิการ

คุณสามีเป็นผู้พิการ

Devocean
4.9

"คุณต้องการเจ้าสาว ส่วนฉันก็ต้องการเจ้าบ่าว ทำไมเราไม่แต่งงานกันล่ะ?" ภายใต้เสียงเยาะเย้ยของทุกคน ถังเลี่ยน ซึ่งถูกคู่หมั้นของเธอทอดทิ้งในพิธีแต่งงาน กลับแต่งงานกับเจ้าบ่าวพิการข้างบ้านที่ถูกรังเกียจ ถังเลี่ยนคิดว่าอวิ๋นเซินเป็นชายหนุ่มที่น่าสงสาร และเธอสาบานว่าจะให้ความรักใคร่แก่เขาและตามใจเขาหลังแต่งงาน ใครจะรู้ว่าเขาแกล้งเป็นแบบนั้น... ก่อนแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "เธอต้องสนใจเงินของผมถึงยอมแต่งงานกับผม ผมจะหย่ากับเธอหลังจากที่ผมใช้ประโยชน์เธอเสร็จ" หลังแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "ภรรยาของผมต้องการหย่าทุกวัน แต่ผมไม่อยากหย่า ทำอย่างไรดีล่ะ"

ภรรยาห้าตำลึงเงิน

ภรรยาห้าตำลึงเงิน

จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ
5.0

คนเราบางครั้งก็หวนนึกขึ้นมาได้ว่าตายแล้วไปไหน ซึ่งเป็นคำถามที่ไร้คำตอบเพราะไม่มีใครสามารถมาตอบได้ว่าตายไปแล้วไปไหน หากจะรอคำตอบจากคนที่ตายไปแล้วก็ไม่เห็นมีใครมาให้คำตอบที่กระจ่างชัด ชลดา หญิงสาวที่เลยวัยสาวมามากแล้วทำงานในโรงงานทอผ้าซึ่งตอนนี้เป็นเวลาพักเบรค ชลดาและเพื่อนๆก็มานั่งเมาท์มอยซอยเก้าที่โรงอาหารอันเป็นที่ประจำสำหรับพนักงานพักผ่อน เพื่อนของชลดาที่อยู่ๆก็พูดขึ้นมาว่า "นี่พวกแกเวลาคนเราตายแล้วไปไหน" เอ๋ "ถามอะไรงี่เง่าเอ๋ ใครจะไปตอบได้วะไม่เคยตายสักหน่อย" พร "แกล่ะดารู้หรือเปล่าตายแล้วไปไหน" เอ๋ยังถามต่อ "จะไปรู้ได้ยังไง ขนาดพ่อแม่ของฉันตายไปแล้วยังไม่รู้เลยว่าพวกท่านไปอยู่ที่ไหนกัน เพราะท่านก็ไม่เคยมาบอกฉันสักคำ" "อืม เข้าใจนะแก แต่ก็อยากรู้อ่ะว่าตายแล้วคนเราจะไปไหนได้บ้าง" "อืม เอาไว้ฉันตายเมื่อไหร่ จะมาบอกนะว่าไปไหน" ชลดาตอบเพื่อนไม่จริงจังนักติดไปทางพูดเล่นเสียมากกว่า "ว๊าย ยัยดาพูดอะไร ตายเตยอะไรไม่เป็นมงคล ยัยเอ๋แกก็เลิกถามได้แล้ว บ้าไปกันใหญ่" พรหนึ่งในกลุ่มเพื่อนโวยวายขึ้นมาทันที แต่ใครจะรู้ว่าหลังจากวันนั้นที่คุยกันที่โรงอาหารจะเป็นการคุยเล่นกันวันสุดท้ายของชลดา เพราะหลังจากเลิกงานกลับมาชลดาก็เสียชีวิตระหว่างเดินทางกลับหอพักด้วยสาเหตุวัยรุ่นยกพวกตีกันและมีการยิงกันเกิดขึ้นและชลดาคือผู้โชคร้ายที่ผ่านทางมาพอดี ท่ามกลางความเสียใจของเพื่อนๆ เอ๋ได้แต่หวังว่า ชลดาคงไม่มาบอกกับเธอจริงๆหรอกใช่ไหมว่าตายแล้วไปไหน

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ