Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
เจ้าสาวหกเดือน

เจ้าสาวหกเดือน

เฌอเลียร์

5.0
ความคิดเห็น
637
ชม
14
บท

อมันต์กับจันทร์นิลแต่งงานกันเพราะถูกคลุมถุงชน เธอแอบรักเขา แต่อมันต์กลับทำร้ายจิตใจ จนเธอต้องหนีหายไปพร้อมกับอีกหนึ่งชีวิต และในวันนี้เขาจะมาตามลูกเมียกลับคืน! +++++++++++++++++++++++++++++++++++++ “ใครเหรอคะคุณแม่ ตัวซู้ง...สูง” พิณญาดาที่หลบหลังมารดาถาม ค่อยใจชื้นขึ้นหน่อย ที่เขาเรียกชื่อเล่นจันทร์นิล แสดงว่ารู้จักกัน “เขาเป็น...” หญิงสาวอึกอัก “คนรู้จักของแม่ค่ะ” อมันต์กับเธอมีสถานะแค่นั้น ไม่ว่าวันนี้หรือเมื่อสี่ปีก่อน... “คุณมาที่นี่ทำไม” ภายใต้หนวดเครารุงรังนั้น ชายหนุ่มกำลังขบฟันกรอด ๆ “เรามีเรื่องต้องคุยกัน” เขาก้าวเท้ามาหา หากเธอถอยหลังหนี “แมลงปอคะ ลุงเลี้ยงสเลอร์ปี้นะ ไปกดได้เลย” เด็กหญิงตาวาว เหลือบมองแม่เพื่อดูว่าเธอจะอนุญาตหรือไม่ “ลุงมีเรื่องต้องคุยกับแม่หนูนิดหน่อย” เป็นประโยคคำสั่งที่อมันต์ใช้มันกับเธอตลอดเหมือนครั้งอดีต ออกคำสั่งผ่านดวงตา ให้เชื่อฟังเขา แต่วันนี้จะไม่เป็นเช่นนั้น จันทร์นิลไม่ใช่คนเดิมอีกแล้ว “ฉันไม่มีอะไรจะคุยกับคุณ” เธอคว้ามือลูก แต่เขาเร็วกว่า คว้าแขนเธอไว้ดึงจนร่างเปรียวชนกับอกแข็ง ๆ อย่างแรง “อยากพูดเรื่องของเราต่อหน้าเด็กหรือไง คิดสิ แกจะรู้สึกยังไง” จันทร์มองพิณญาดาที่กำลังจ้องแม่และลุงตัวสูงตาแป๋ว “ฉันคุยกับเธอไม่นานหรอกน่า” อมันต์สำทับ “แมลงปอไปกดสเลอร์ปี้รอแม่นะคะ” เธอฝืนยิ้มให้ลูก เด็กหญิงพนมมือไหว้อมันต์ ตามที่เธอสอนไว้ ผู้ใหญ่ให้อะไรต้องขอบคุณ “นั่นลูกฉันใช่ไหม” เขาปล่อยเธอเป็นอิสระ ตามองร่างตุ้ยนุ้ยที่กดเครื่องดื่มอย่างร่าเริง “คุณไม่มีสิทธิ์ในตัวแก เราหย่ากันแล้ว ลืมไปหรือไง”

บทที่ 1 บทนำ

“คุณแม่ขา แมลงปอขอกินขนมโตเกียวได้ไหมคะ”

สาวน้อยแก้มยุ้ยที่จันทร์นิลจับจูง มืออีกข้างที่ว่างชี้ไปทางรถมอเตอร์ไซด์พ่วงข้างขายขนม

“ถ้ากินตอนนี้ แมลงปอจะกินข้าวเย็นไม่ได้นะคะ เย็นนี้มีไก่ราดซอสเกาหลีของโปรดหนูด้วยนะ”

ลูกสาวมองหน้าเธอสลับรถขนมอย่างชั่งใจ

“เอาอย่างนี้ไหมคะ แม่จะซื้อฝรั่งให้กินแทน”

“ให้กินฝรั่งได้ ทำไมคุณแม่ไม่ซื้อขนมให้แมลงปอคะ”

ตากลมแป๋วแหว๋วมองอย่างออดอ้อน ถ้าเป็นปรกติจันทร์นิลจะใจอ่อน แต่ครั้งนี้ต้องเด็ดขาด เพราะถ้ายอมลูกจะเป็นคนเอาแต่ใจ อยากได้อะไรต้องได้

“ฝรั่งเป็นผลไม้ กินแล้วน้ำหนักไม่ขึ้นค่ะ ไม่เหมือนขนมโตเกียวที่หนูอยากกิน ซึ่งทำจากแป้ง”

จันทร์นิลเลี่ยงไม่ใช้คำว่า ‘อ้วน’ เหมือนที่หมอใช้ พิณญาดาน้ำหนักเกินเกณฑ์เด็กรุ่นเดียวกันไปเยอะ แม้จะดูน่ารักตุ้ยนุ้ย แต่ในฐานะแม่ เธอต้องห่วงสุขภาพลูกเป็นอันดับแรก

“เอาแบบที่แช่เย็นเจี๊ยบเลยดีไหมคะ ที่ร้านป้าเงาะไง”

“งั้นหนูขอกินแตงโมด้วยนะคะ” สาวน้อยวัยอนุบาลบอกอย่างร่าเริงและต่อรอง

“จ้า แม่ให้กินชิ้นหนึ่ง”

พิณญาดาดีใจ กระโดดโหย่ง ๆ ด้วยปลายเท้า ซึ่งพลิ้วไหวขัดกับน้ำหนักเจ้าตัว

จันทร์นิลพาลูกขึ้นรถเมล์หน้าโรงเรียน ท่ามกลางเสียงเล่าเรื่องโรงเรียนจ้อย ๆ โดยไม่ทันสังเกตว่ามีสายตาคู่คมจากรถซีอาร์วีสีดำจ้องมองอยู่

รถเมล์แล่นมาถึงป้ายหน้าซอยที่พัก เธอแวะพาลูกซื้อผลไม้ แล้วนึกขึ้นได้ว่าคอตตอนบัดหมด จะรอไปซื้อที่ห้างทีเดียวก็ต้องรอเงินเดือนออก ซื้อเสียในร้านสะดวกซื้อนี่แหละ สะดวกดี

เธอไปหาของที่ต้องการซื้อ โชคดีเจอคอตตอนบัดซื้อหนึ่งแถมหนึ่ง ประหยัดไปได้หลายบาททีเดียว ส่วนพิณญาดานั้นขอแยกไปยังชั้นของเล่น

“แมลงปอคะ ไปเถอะลูก แม่ได้ของแล้วค่ะ”

ใบหน้าเจือรอยยิ้มเปลี่ยนไปทันที เมื่อเห็นว่าใครคุยกับลูกสาว

“คุณลุงไม่ต้องซื้อของเล่นให้แมลงปอหรอกค่ะ แม่ไม่ให้รับของจากคนแปลกหน้า”

อีกฝ่ายนั่งชันเข่าเพื่อให้อยู่ในระดับสายตาเด็ก ในมือใหญ่ถือคฑาคิตตี้สีชมพู ขมวดคิ้วที่เด็กคนนี้ปฏิเสธรับของจากตน

“ลุงไม่ใช่คนแปลกหน้าค่ะ ลุงเป็น...”

“แมลงปอ!” จันทร์นิลดึงมือลูกแรงแทบเรียกว่ากระชากก็เป็นได้ ดวงตาที่เป็นต้นแบบลูกสาวจ้องมองเขาเขม็ง ชายหนุ่มลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ที่ทำให้ทั้งเธอและลูกแหงนคอตั้งบ่า

“สวัสดีด้วง ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ” เสียงทุ้มต่ำลึก สายตานั้นหากมันเป็นมีด คงเฉือนเธอเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

“ใครเหรอคะคุณแม่ ตัวซู้ง...สูง”

พิณญาดาที่หลบหลังมารดาถาม ค่อยใจชื้นขึ้นหน่อย ที่เขาเรียกชื่อเล่นจันทร์นิล แสดงว่ารู้จักกัน

“เขาเป็น...” หญิงสาวอึกอัก “คนรู้จักของแม่ค่ะ”

อมันต์กับเธอมีสถานะแค่นั้น ไม่ว่าวันนี้หรือเมื่อสี่ปีก่อน...

“คุณมาที่นี่ทำไม”

ภายใต้หนวดเครารุงรังนั้น ชายหนุ่มกำลังขบฟันกรอด ๆ

“เรามีเรื่องต้องคุยกัน”

เขาก้าวเท้ามาหา หากเธอถอยหลังหนี

“แมลงปอคะ ลุงเลี้ยงสเลอร์ปี้นะ ไปกดได้เลย”

เด็กหญิงตาวาว เหลือบมองแม่เพื่อดูว่าเธอจะอนุญาตหรือไม่

“ลุงมีเรื่องต้องคุยกับแม่หนูนิดหน่อย”

เป็นประโยคคำสั่งที่อมันต์ใช้มันกับเธอตลอดเหมือนครั้งอดีต ออกคำสั่งผ่านดวงตา ให้เชื่อฟังเขา แต่วันนี้จะไม่เป็นเช่นนั้น จันทร์นิลไม่ใช่คนเดิมอีกแล้ว

“ฉันไม่มีอะไรจะคุยกับคุณ”

เธอคว้ามือลูก แต่เขาเร็วกว่า คว้าแขนเธอไว้ดึงจนร่างเปรียวชนกับอกแข็ง ๆ อย่างแรง

“อยากพูดเรื่องของเราต่อหน้าเด็กหรือไง คิดสิ แกจะรู้สึกยังไง”

จันทร์มองพิณญาดาที่กำลังจ้องแม่และลุงตัวสูงตาแป๋ว

“ฉันคุยกับเธอไม่นานหรอกน่า” อมันต์สำทับ

“แมลงปอไปกดสเลอร์ปี้รอแม่นะคะ”

เธอฝืนยิ้มให้ลูก เด็กหญิงพนมมือไหว้อมันต์ ตามที่เธอสอนไว้ ผู้ใหญ่ให้อะไรต้องขอบคุณ

“นั่นลูกฉันใช่ไหม”

เขาปล่อยเธอเป็นอิสระ ตามองร่างตุ้ยนุ้ยที่กดเครื่องดื่มอย่างร่าเริง

“คุณไม่มีสิทธิ์ในตัวแก เราหย่ากันแล้ว ลืมไปหรือไง”

อมันต์มองผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้า ซึ่งครั้งหนึ่งเธอเคยเป็นเจ้าสาว เป็นภรรยา เธอทั้งหัวอ่อน ใครพูดอะไรก็ไม่หือไม่อือ บอกให้ทำอะไรก็ทำ ตอนเด็ก ๆ มักเดินตามหลังเขาต้อย ๆ และเรียกเขาอย่างออดอ้อนว่าพี่หาญ

ตอนนี้เธอดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้น ผมรวบเป็นหางม้า แต่งตัวแบบสาวออฟฟิศ เขาและเธอมีชีวิตการแต่งงานที่แสนสั้นเพียงหกเดือน ก่อนจบลงหลังย่าเสียชีวิตไม่นาน

จันทร์นิลมองคนที่อยู่ตรงหน้านิ่ง อมันต์ยังบ้าอำนาจเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนจริง ๆ ไหนจะหนวดเคราที่ขึ้นรกใบหน้าคมเข้ม ทำให้หน้ายิ่งดูดุเข้าไปใหญ่

ซึ่งเธอรู้จักเขาในฐานะหลานชายคนเดียวของคุณย่าอมราวดี เจ้าของไร่ใหญ่ และเจ้าหนี้ของตายายเธอ

คุณย่าอมราวดีตรวจพบว่าเป็นมะเร็ง จะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน อยากเห็นหลานชายเป็นฝั่งเป็นฝา บวกกับตายายที่ห่วงเธอ เรียนจบแล้วไม่อยากให้ไปไหนไกล ข้อเสนอแต่งงานล้างหนี้จึงเกิดขึ้น

จันทร์นิลไม่ขัด เธอพึงใจในตัวชายหนุ่มอยู่แล้ว จึงไม่ปฏิเสธ แต่อมันต์นั้นค้านหัวชนฝา ทำให้คุณย่าอมราวดีต้องกล่อมด้วยน้ำตานองหน้า ที่หลานไม่ทำตามคำขอของนาง จนชายหนุ่มต้องยอมทำตามเพื่อให้ท่านสบายใจ

จนไม่กี่วันหลังจากนั้นก็มีงานแต่งงานจัดขึ้นที่ไร่ของคุณอมราวดี เมื่อพิธีส่งตัวเข้าหอเสร็จสิ้น ญาติผู้ใหญ่ออกไปกันจนหมด เขาก็เข้าไปเปลี่ยนชุดเพื่อออกไปข้างนอก

“เธอกอดทะเบียนสมรสกับอยู่เฝ้าย่าฉันไป นอกไร่ฉันจะใช้ชีวิตยังไงก็ได้ ตกลงตามนี้นะ”

เขาบอกในคืนแรกของการแต่งงาน แล้วอมันต์ก็ทำจริงเสียด้วย เขาทิ้งเธอไว้บ้านให้อยู่กับคุณย่าเพียงลำพังและยังปล่อยให้เธออยู่ความเงียบเหงา

ต่อหน้าคุณย่าอมราวดีเขาพูดดีด้วย แต่พอลับหลังก็ทางใครทางมัน จันทร์นิลได้ข่าวซุบซิบกันในหมู่คนในไร่ว่าเขารักอยู่กับนาถสุดา ลูกสาวสวนผลไม้ใหญ่โต แต่คุณย่าอมราวดีไม่ชอบ เลยขัดขวางทุกทาง

การมีผู้ชายพึงพอใจมาป้วนเปี้ยนในสวนทุกวัน ทำให้ใจสาวน้อยวัยเพิ่งจบมหาวิทยาลัยอย่างเธอหวั่นไหวหนัก

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ เฌอเลียร์

ข้อมูลเพิ่มเติม
พรางกุหลาบ

พรางกุหลาบ

โรแมนติก

5.0

ตั้งแต่ฉันได้กุหลาบสีม่วงมาอย่างบังเอิญ ฉันก็เริ่มฝันถึง อัศวินชุดดำ แม่มดในกระท่อม แมวดำ ความตายสีเพลิง ...และดวงตาสีฟ้าปริศนาที่ทำใจเต้นแรงคู่นั้น ++++++++++++++++++++++++ เราสบตากัน ดวงดาวสีฟ้าที่ฉันเคยใฝ่ฝัน ดวงดาวที่ฉันอยากเอื้อมให้ถึง "เจ้าเป็นเพื่อนที่ข้าไว้ใจที่สุด" เขาโกหกฉัน เหมือนที่ฉันก็โกหกเขา ตลอดมาฉันไม่เคยคิดว่าเขาเป็นเพียงเพื่อน ผู้คุมปลดโซ่ ทหารเข้ามาล้อมรอบตัวฉัน ผลักขึ้นสู่บันได ที่มีอีกคนยืนอยู่พร้อมขดเชือกหนา ร้อยรัดมัดร่างกายฉันไว้อย่างแน่นหนา ชายอ้วนเตี้ยพล่ามอะไรอีกแล้ว ฉันไม่ได้ยินเพราะเสียงร้องไห้ระงมของหลายคนบนเสาต้นข้าง ๆ บ้างก็ก่นด่า บ้างตะโกนบอกตนไม่ผิด ดวงดาวสีฟ้ายังส่องแสง ขณะในตาฉันกำลังเลือนรางด้วยน้ำสีแดง กลุ่มเส้นไหมสีทองซบลงที่ไหล่เขา ทันใดนั้นดวงดาวสีฟ้าก็กะพริบ หลุบมองเธอในชุดขาว "ประหารแม่มด" ท่านอาจารย์ที่รับเลี้ยงฉันเคยพูดไว้ หากแผลใดทำเราเจ็บมาก ถึงที่สุดแล้วมันจะชา กระทั่งไม่รู้สึกอะไรอีก "ไม่มีแผลใดที่ไม่มีวันหาย" ฉันยิ้ม นึกเยาะเย้ย อาจารย์โกหกเสียแล้ว ตอนนี้ฉันเจ็บมาก เจ็บปวดเหลือเกิน ทำไมยังไม่ชาอีกล่ะ +++++++++++++++++++++++++ ขอให้อ่านสนุก เฌอเลียร์

สามีมาเฟียคนนี้เป็นของคุณนะ

สามีมาเฟียคนนี้เป็นของคุณนะ

โรแมนติก

5.0

ชารีญา เปรียบเสมือนเจ้าสาวที่กลัวฝน เธอหนีงานแต่งมาด้วยเหตุจำเป็นบางอย่าง ทว่าเมื่อหลบซ่อนอยู่ในโรงแรมเธอกลับได้มาพบกับเขา มาเฟียร้ายจอมไร้อารมณ์ เดเมียน จัสติน วินด์ทรอฟ ไม่มีอารมณ์ใครและปรารถนาต่อผู้หญิงคนไหนมาก่อน กระทั่งได้มาพบเธอ ผู้หญิงที่มีดวงตาที่เป็นประกายและช่วยปลุกไฟสวาทของเขาให้ตื่นขึ้นมา ค่ำคืนพลาดพลั้งของทั้งคู่ก่อเกิดขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัว แต่เมื่อวันใหม่มาเยือน เธอคนนั้นก็หนีจากไป จนทำให้เขาต้องใช้ทุกวิธีเพื่อตามเธอกลับมา เขายอมกลายเป็นคนเจ้าเล่ห์ มากด้วยแผนการ ยินยอมเป็นมาเฟียที่ชั่วร้ายในสายตาของเธอคนนั้น เพียงเพื่อกักขังเธอไว้ให้อยู่เคียงข้างเขาตลอดไป สถานที่ที่เธอคนนั้นละอยู่ได้บนโลกใบนี้มีเพียงข้างกายเขาเท่านั้น!

ภริยา(ไม่)รักของนายหัว

ภริยา(ไม่)รักของนายหัว

โรแมนติก

5.0

วัชรมัยเคยทิ้งไผท ทิ้งลูก แล้ววันนี้กลับมาร้องขอความเป็นแม่อีกครั้ง ไผทจะไม่มีวันให้อภัย! ++++++++++++++++++++++++++ “ฉันไม่รังเกียจหรอกนะ ถ้าเธอจะเคยนอนกับผู้ชายคนอื่น แต่ต้องไม่ใช่ตอนอยู่กับฉัน” ขายาว ๆ ย่างสุขุมเข้ามา หญิงสาวทำตัวลีบเล็ก กระทั่งหลังติดแนบหัวเตียง “ฉันไม่ใช้ผู้หญิงร่วมกับใคร!” “พี่ป้อ...” เอ่ยยังไม่ทันจบ ริมฝีปากซีดก็ถูกประกบด้วยอวัยวะชนิดเดี๋ยวกัน “อื้อ...” ไร้ซึ่งความอ่อนหวาน มีแต่การบังคับดุดัน ไผทดูดดึงริมฝีปากบางจนฮ้อเลือด “เห็นเธอป่วย ว่าจะใจดีให้พักเสียหน่อย แต่ตอนนี้ฉันเปลี่ยนใจแล้ว ถอดเสื้อผ้าออก ฉันจะเช็คของ!” เมื่อจุมพิตอย่างไม่เต็มใจจบลง เสียงทุ้มต่ำดังแหวกเสียงหรีดเรไรข้างนอก ลมเย็นจากเครื่องปรับอากาศหนาวเหน็บชวนขนลุก ไผทแสยะยิ้มร้ายกาจให้คนบนเตียง “ทำสิ ไม่งั้นก็ไสหัวไปออกจากบ้านฉัน ออกไปจากชีวิตลูก” วัชรมัยกลืนทุกความรู้สึกกลับไปในอก มือสั่นถอดเสื้อผ้าออก “จะได้อยู่กับลูก...จะได้อยู่กับปราบ” เสียงในสมองดังก้องสะกดจิตตนเอง เพื่อได้อยู่กับลูก ต่อให้ต้องลงนรกขุมไหนเธอก็จะทน! +++++++++++++++++++++++++++++

อย่าเข้ามาค่ะ! ความรัก

อย่าเข้ามาค่ะ! ความรัก

โรแมนติก

5.0

อย่าเข้ามาค่ะ! ความรัก ++++++++++++++++++ เมื่อคนอกหักมาวันไนต์แสตนด์กัน จากที่คิดว่าแค่วันไนต์ กลายเป็นมีภาคสอง หัวใจที่บอบซ้ำสองดวง จะเปลี่ยนไปอย่าไร ในเมื่อต่างฝ่ายต่างเข็ดกับความรัก ++++++++++++++++++++ "ลูกพี่ลูกน้องของคุณทำว่าที่สาวเจ้าของคุณท้องอย่างนั้นหรือคะ" สีหน้าของฤดีรัตน์ตกใจมาก ๆ เจ็บหัวใจแทนเขาเลย "ครับผม แต่ยังดีที่ยังไม่ได้ร่อนการ์ดเชิญ มันโคตรรู้สึกแย่เลยนะ สามเดือนมาแล้วนะ ทุกอย่างก็ยังไม่ดีขึ้นเลย รู้สึกเจ็บอยู่ข้างในเนี่ย" "ฉันเข้าใจคุณเลยค่ะ เพราะของฉันมากกว่าสามเดือน" "แล้วผมจะเป็นอย่างคุณไหม" "ไม่มั้งคะ เพราะคุณดูมีสติมากกว่าฉันเสียอีกค่ะ แค่หาคนใหม่" ชนิษฐากรอกหูเธอทุกวันเรื่องนี้ ทั้ง ๆ ที่ตัวเองก็ทำไม่ได้ แต่เอาคำปรึกษาของเพื่อนมาบอกเขา "หาคนใหม่ยังไง" คิ้วเรียวเลิกขึ้น "หนามยอกให้เอาหนามบ่งยังไงล่ะคะ" ฤดีรัตน์ทำเป็นยกมือป้องปากกระซิบ "ไม่เข้าใจครับ" "คุณก็แค่หาผู้หญิงคนใหม่ ไม่จำเป็นต้องคบก็ได้ค่ะ แค่มาคั่นกลางให้เรารู้สึกดีขึ้น" เธอยักไหล่ แสร้งทำเป็นช่ำชองเรื่องการหาคนใหม่มาดามใจ "แล้วทำไมคุณไม่ทำ" "ก็ฉันยังไม่ได้เจอคนที่ชอบนี่คะ อย่างน้อยก็ต้องชอบก่อน" "ถ้างั้นทฤษฎีนี้ก็ไม่ได้ผลนะ ที่จริงไม่ต้องชอบกันก็ได้มั้ง แค่รู้สึกไม่รังเกียจก็พอ" เขายกเบียร์ขึ้นจิบ ฉุนนิด ๆ ที่ต้องมาฟังทฤษฎีเพ้อเจ้อ "คุณรังเกียจฉันไหม" ฤดีรัตน์หรี่ตาปรือ "ถ้ารังเกียจผมจะให้คุณนั่งโต๊ะเดียวกันเหรอ" "ถ้าอย่างนั้นคืนนี้" หมอคชาจ้องหน้าเธอ "คืนนี้นอนกับฉันได้ไหมคะ วันไนท์สแตนด์ ไม่ผูกมัด ไม่ผูกพัน" +++++++++++++++++++++ มีตัวละครต่อเนื่องจากเรื่อง รักอย่า...หย่ารัก นะคะ อ่านแยกกันได้ค่ะ ไม่งง ขอให้อ่านสนุก เฌอเลียร์

รักหย่า...อย่ารัก

รักหย่า...อย่ารัก

โรแมนติก

5.0

ชนิษฐารักคณิศร แต่เขารักอีกคน อ้อมกอดเขามีให้เธอ แต่ในใจเขาคิดถึงใคร ทำดีสักเท่าไร สุดท้ายคณิสรมองชนิษฐาเป็นเพียงเครื่องมือผลิตลูก การแต่งงานอันหลอกลวงต้องจบลง ถึงเวลาแล้ว ที่เธอจะหย่า! +++++++++++++++++++++++++++++ ชนิษฐาช็อกกับภาพตรงหน้า "ผู้หญิงคนนั้นก็เป็นได้คนผลิตลูก แม่วัวยังไงล่ะคะดิน แต่สำหรับหวาย หวายคือนางในดวงใจของดิน อ้า อะ อะ อะ..." คงจะเป็นสามีของชนิษฐาด้วยที่เด้งเอวตอบกลับการกระทำของสุธาวี เคล้ง... ข้าวของในมือของชนิษฐาร่วงหล่น คณิศรยกหัวขึ้นมาด้วยความตกใจ สายตาของเขาสบต้องสายตากับชนิษฐา ที่ในเวลานี้น้ำตาที่ไหลลงมากลบม่านตา ยืนปากคอสั่น สิ่งที่เกิดขึ้นในหัวของชนิษฐาในตอนนี้ คือหนีไปให้ไกลแสนไกล เธอวิ่งออกจากตรงนั้นอย่างรวดเร็ว ตรงไปที่รถของเธอ แล้วขับออกไป คณิศรผลักตัวของสุธาวี "ออกไป พอได้แล้วหวาย หยุดเถอะ คุณกำลังทำให้ชีวิตผมพัง" "หวายทำพังเหรอคะ พังเหรอคะ ดิน... เราสองคนกำลังมีความสุขด้วยกันต่างหาก ดินยอมรับความจริงเถอะค่ะว่าคุณน่ะขาดหวายไม่ได้" ++++++++++++++++++++++++++++++ ติ๊ง... ติ๊ง... มีข้อความเข้า และทุกวันนี้จะเป็นข้อความจากสินเป็นส่วนใหญ่ คณิศรหยิบมือถือขึ้นมา เมื่อเปิดเข้าไปดู รูปที่บาดตาบาดใจ บาดหัวใจ ผู้ชายคนนั้นเปิดประตูให้กับชนิษฐา เธอหันมายิ้มให้เขา และขึ้นไปนั่ง คณิศรถึงกับทิ้งมือถือ และหลับตาลงทันที เขาเศร้าหม่นในหัวใจมาก ทำไมเป็นแบบนี้ มันจะลงเอยแบบนี้ไม่ได้ ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ยั่วรักกับดักสวาท

ยั่วรักกับดักสวาท

โรแมนติก

5.0

เธอหวังไป ‘ยั่ว’ ให้เขาตื่น แต่กับดักสวาทที่สร้างขึ้น เธอดันติดเสียเอง เมื่อ ‘ดอกเตอร์’ หนุ่มสุดเคร่งขรึม ถูกล้วงความลับจาก ‘สาวใช้’ สุดอึ๋มกระแทกใจ ในข้อหาแสนจะโหดร้ายกับความหล่อ ‘เกย์’ หรือเปล่าที่เขาเป็น การพิสูจน์ในสิ่งที่ธรรมชาติเรียกร้อง ‘ทั้งวันและทั้งคืน’ คงเป็นคำตอบสำหรับเธอ ‘ยั่ว’ เท่านั้นที่ครองโลก ถ้าเขาแตะเธอเมื่อไร นั่นแหละคือคำตอบ แต่ ‘โอว... โน! ไม่นะ เธอไม่ได้อยากให้มันจบแบบนี้’ “อย่านะ! คุณผู้ชาย! อย่าทำบัวหล้า ขอร้องล่ะ บัวหล้ายอมแล้ว ยอมบอกแล้ว” แม้สมองจะยังช้าแต่สิ่งหนึ่งที่ระลึกได้นั่นคือ ‘อันตราย’ ไม่ว่าเขาจะเป็นอะไร เป็นเพศทางเลือกไหน แต่สิ่งหนึ่งที่เธอต้องระลึกเสมอก็คือ ‘เขาเป็นผู้ชาย!!’ “มันสายไปแล้วละบัวหล้า ฉันให้โอกาสเธอแล้ว เธอไม่คว้าไว้เอง อยากจะพิสูจน์ใช่ไหม ว่าฉันเป็นผู้ชายจริงหรือเปล่า ฉันจะให้เธอพิสูจน์ แต่ไม่ใช่แค่ครั้งเดียวนะ แต่เป็นทั้งคืน เธอจะต้องพิสูจน์ให้ฉัน จนกว่าจะพอใจ”

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

โรแมนติก

5.0

หลังผ่าตัดนักพรตเฒ่าผู้หนึ่งนั้น นางวูบหมดสติและเสียชีวิตลงไป ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที ก็อยู่ในร่างของคุณหนูปัญญาอ่อนที่มีชื่อเดียวกันผู้นี้เสียแล้วทั้งยังจำอดีตชาติยามเป็นปรมาจารย์เต๋าได้อีกด้วย +++ 1 : ไล่ออกจากอารามไท่ผิงกวน แคว้นจิ้น ราชวงศ์เซวียน อารามไท่ผิงกวน “ไป ๆ อาจารย์ขับไล่พวกท่านออกจากอารามแล้ว อย่าได้มาเหยียบที่นี่อีก” “ศิษย์พี่รองรีบปิดประตูเร็วเข้า !” ตุบ ! ห่อผ้าสองห่อถูกโยนออกมาจากประตูอาราม ปัง ! ตามด้วยเสียงปิดประตูลงสลักอย่างหนาแน่น สตรีนางหนึ่งยืนตัวตรงเป็นสง่า เสื้อผ้ากับเส้นผมของนางปลิวไสวดั่งไผ่ลู่ลม หลินซือเยว่เงยหน้าขึ้นมองป้ายชื่ออารามไท่ผิงกวนด้วยสายตาเลื่อนลอย อาศัยอยู่ที่นี่มานานเท่าใดแล้วนะ บางครั้งนางเองก็ลืมเลือนวันเวลาไปเหมือนกัน “คุณหนูเจ้าคะ ศิษย์น้องทั้งสองของท่านทำเกินไปแล้วนะเจ้าคะ เหตุใดถึงไล่พวกเราสองคนออกจากอารามได้เล่า” เผิงฉือกระทืบเท้าเบา ๆ ตรงไปฉวยห่อผ้าทั้งสองบนพื้น ขึ้นมาคล้องแขนตัวเองไว้ “หากไม่ได้รับคำสั่งจากอาจารย์ ศิษย์น้องทั้งสองคงไม่กล้าขับไล่ข้าออกจากอารามหรอก” น้ำเสียงของนางสงบนิ่งฟังแล้วสบายหูยิ่งนัก หาได้มีความโกรธเกลียดแต่อย่างใด “นั่นรถม้า” นิ้วเรียวสวยชี้ไปยังรถม้าคันที่มีคนนั่งเฝ้าอยู่ “ป้าเผิงไปถามดูว่าใช่รถม้าของเราหรือไม่” เผิงฉือไม่รอช้ารีบตรงไปหาคนเฝ้ารถม้าที่อยู่ใต้ต้นไผ่ในทันที ไม่ช้านางก็กลับมาพร้อมกับรอยยิ้มนิด ๆ “เป็นรถม้าของเราจริง ๆ เจ้าคะคุณหนู คนขับบอกว่าเป็นคนของตระกูลหลินเจ้าค่ะ ได้รับคำสั่งจากท่านพ่อของคุณหนู ให้มารับคุณหนูกลับตระกูลหลินเพื่อไปแต่งงานเจ้าค่ะ” “กลับไปแต่งงานนี่เอง” นางเอ่ยเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่ หันหลังกลับไปทางประตูอาราม ประสานมือค้อมตัวคำนับลาอาจารย์ เผิงฉือเห็นเช่นนั้นก็อดที่จะคำนับตามนางไม่ได้ ภายในอารามไท่ผิงกวน “อาจารย์เหตุใดถึงไม่บอกลากับศิษย์พี่ใหญ่ไปตรง ๆ ล่ะ ทำเช่นนี้นางไม่โกรธท่านไปจนวันตายเลยรึ” เหอกุ้ยแม้มีอายุยี่สิบแปดปีแล้ว ทว่าเขากราบเป็นศิษย์เจ้าอาวาสชุนหวังเหล่ยหลังสตรีผู้นั้น จึงได้เป็นเพียงแค่ศิษย์พี่รองเท่านั้น “นั่นสิอาจารย์ ศิษย์พี่ใหญ่นางไม่เคยออกจากอารามไปไหนไกล ท่านทำเช่นนี้ไม่ใช่ขับไล่นางไปสู่ความตายหรอกรึ” จางเจียเฟิ่งเห็นด้วยกับศิษย์พี่รองของเขา “ให้มันน้อย ๆ หน่อยเจ้าศิษย์โง่ทั้งสอง พวกเจ้าคิดว่าอารามไท่ผิงกวนแห่งนี้ สามารถอยู่รอดมาได้เพราะใครกัน หากไม่ใช่เพราะฝีมือของศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้า เห็นนางเงียบ ๆ แบบนั้น ความคิดนางกว้างไกลยิ่งนัก อาจารย์อย่างข้ายังเทียบนางไม่ติดด้วยซ้ำไป” เจ้าอาวาสชุนปีนี้อายุอานามปาเข้าไปหกสิบห้าปีแล้ว ทว่าร่างกายยังแข็งแรง อารามเต๋าแห่งนี้มีวิถีแบบไม่เคร่งครัด ใช้ชีวิตเยี่ยงฆราวาสผู้หนึ่ง สามารถแต่งงานมีครอบครัวได้ “อาจารย์นางอยู่ในอารามวาดยันต์กันภัยให้ชาวบ้านที่มากราบไหว้ ตั้งโต๊ะรักษาโรคภัยให้ผู้คนในตัวอำเภอฝู แต่หนนี้นางต้องกลับบ้านไปเพื่อแต่งงาน นางบริสุทธิ์ถึงเพียงนั้นมิถูกสามีจับกลืนกินจนไม่เหลือกระดูกหรอกรึ” เหอกุ้ยนึกภาพเทพเซียนผู้สูงส่งอย่างหลินซือเยว่ หากต้องร่วมเตียงกับบุรุษหยาบกระด้าง เพียงเท่านั้นเขาก็ทำใจไม่ได้จริง ๆ แทบอยากจะไปแย่งตัวศิษย์พี่ใหญ่ของตัวเองกลับคืนมา “เลิกคร่ำครวญได้แล้ว กลับไปกวาดลานอารามกับตรวจดูน้ำมันตะเกียงให้เรียบร้อย ศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้าไม่อยู่ เจ้าทั้งสองต้องรีบร่ำเรียนศึกษาหาความรู้ อารามไท่ผิงกวนจะได้เจริญรุ่งเรืองในภายภาคหน้าต่อไปได้” เจ้าอาวาสชุนทำเสียงดังใส่ลูกศิษย์ทั้งสอง “ไป ๆ ข้าจะสวดมนต์” โบกมือไล่ทั้งคู่ให้ออกจากห้องสวดมนต์ไป เจ้าอาวาสชุนรีบลุกไปปิดประตูลั่นกลอน ท่าทางลุกลี้ลุกลนจนผิดปกติ ย่องเบา ๆ ไปที่ใต้เตียงนอน ดึงหีบไม้เก่าเก็บออกมา ครั้นกดสลักเปิดออก ก็พบตั๋วเงินจำนวนสามพันตำลึงอยู่ในนั้น ตระกูลหลินที่ไม่ได้บริจาคน้ำมันตะเกียงมาหลายปี จู่ ๆ ก็ส่งตั๋วเงินมาให้ พร้อมกับขอรับคนกลับไปเพื่อแต่งงาน ช่วงนี้ชาวบ้านมาทำบุญที่อารามน้อยลง หลินซือเยว่ก็ไม่รู้ว่าเกิดอันใดขึ้นกับนาง ถึงไม่ยอมลงจากอารามไปรักษาผู้คน รายได้เลยหายหดแทบจ่ายอาหารการกิน(สุรานารี)ไม่พอ ตั๋วเงินสามพันตำลึงนี่มาได้ทันเวลาพอดี ! แครก ๆ ๆ ๆ เสียงกวาดลานหน้าอารามดังขึ้นพร้อมกับเสียงบ่นของเหอกุ้ย “ข้ารู้ว่านางเก่งเอาตัวรอดได้ ข้าเพียงไม่อยากให้นางไปก็เท่านั้น” “ศิษย์พี่รองท่านอย่าได้เสียใจไปเลย ไม่ใช่ว่ามีแต่นางที่ต้องแต่งงานมีครอบครัว ท่านเองก็เถอะที่บ้านส่งคนมารับทุกปีไม่ใช่รึ” จางเจียเฟิ่งรู้ดีว่าตนและเหอกุ้ย ถูกครอบครัวลงโทษด้วยการส่งมาอยู่ยังอารามแห่งนี้ ทว่าเพียงชั่วคราวเท่านั้น “ตัวข้านั้นไม่เป็นไรหรอก เจ้านั่นแหละศิษย์น้องสาม ข้าได้ยินว่าที่บ้านของเจ้า เพิ่งหาคู่หมั้นหมายคนใหม่ให้เจ้าอีกคนแล้วไม่ใช่รึ” สองศิษย์พี่น้องหยุดกวาดลานอาราม แล้วหันหน้าไปมองตากัน จากนั้นพวกเขาก็ถอนหายใจดัง ๆ พร้อมกัน ไม่มีศิษย์พี่ใหญ่อยู่ด้วย นับจากนี้ไปยามทำความผิดใครจะออกหน้าคอยช่วยเหลือ ยามเงินหมดใครจะให้หยิบยืม ยิ่งคิดพวกเขาก็ยิ่งไม่สบายใจเป็นอย่างมาก บนถนนมุ่งหน้าสู่เมืองหลวง รถม้าไม้ธรรมดาไม่เล็กไม่ใหญ่ ไร้ป้ายชื่อตระกูลบอกกล่าว คล้ายไม่อยากให้ผู้อื่นล่วงรู้ว่าคนที่นั่งอยู่ด้านในเป็นใคร เผิงฉือพยายามหลอกถามคนขับรถม้าอยู่หลายหน ถึงสถานการณ์ของตระกูลหลินในยามนี้ นางไม่เคยไปที่นั่นมาก่อนไม่รู้จักใครสักคน คนขับรถม้าตอบว่า เขามีหน้าที่มารับคุณหนูรองกลับบ้านเท่านั้น เรื่องอื่นนั้นเขาไม่รู้จริง ๆ “ได้ถามหรือไม่ ใช้เวลากี่วันในการเดินทาง” หลินซือเยว่เอ่ยเสียงเนิบ ๆ “ถามแล้วเจ้าค่ะ เขาบอกว่าราว ๆ สิบวันก็ถึงเมืองหลวงแล้ว” “สิบวันเชียวรึ” หลินซือเยว่มองห่อผ้าที่วางอยู่ด้านข้าง มีเพียงของใช้จำเป็นของนางไม่กี่ชิ้น พร้อมกับก้อนเงินจำนวนห้าสิบตำลึง “คงต้องแวะซื้อของในอำเภอฝูเสียก่อน” เผิงฉือรีบเปิดม่านบอกกับคนขับรถม้า แต่เขากลับทำเสียงฮึดฮัดคล้ายไม่พอใจ “เสียเวลาเดินทางเปล่า ๆ” น้ำเสียงเขากระด้างกระเดื่อง

วิวาห์ฟ้าแลบ

วิวาห์ฟ้าแลบ

โรแมนติก

5.0

[แสนหวาน + วิวาห์ฟ้าแล่บ + แต่งงานก่อน แล้วรักทีหลัง] แฟนที่หลู่ชิงชิงเลี้ยงดูมาหลายปีกลับนอกใจเธอ แอบไปคบกับเพื่อนสนิทของเธอ? เธอทนต่อกับเรื่องนี้ไม่ได้ และไปสมัครขอแต่งงานโดยตรง และแต่งงานกับชายแปลกหน้าอย่างรวดเร็ว หลังจากการแต่งงานแล้ว ชายคนนั้นคำหนึ่งก็ว่าเขาจะออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดในครอบครัวสองคำก็ว่าจะเลี้ยงดูเธอ หลู่ชิงชิงเยาะเย้ยคิดว่ามันเป็นกลอุบายและคำโกหกของผู้ชายอีกแล้ว โดยไม่คาดคิดว่าชายคนนี้กลับกลายเป็นคนให้ความสำคัญกับภรรยาตัวเองจริงๆ ทั้งสนับสนุนอาชีพการงานของเธอและยังช่วยเธอทำงานบ้านด้วย และให้เธอตกแต่งบ้านตามใจชอบ ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข สิ่งที่ทำให้เธอประหลาดใจยิ่งกว่านั้นคือทุกครั้งที่เธอประสบปัญหา เขาก็สามารถแก้ปัญหาให้เธอได้ตลอด ทุกครั้งที่เธอถามเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ เขามักจะหัวเราะและเปลี่ยนเรื่องอย่างฉลาดโดยชมเธอว่าเป็นคนมีความสามารถ ทำงานเก่ง จนกระทั่งวันหนึ่ง ภายใต้การเลี้ยงดูจากสามีของเธออย่างต่อเนื่อง เธอก็ประสบความสำเร็จเช่นกัน จากนั้นเธอถึงพบว่ามีผู้ชายคนหนึ่งในนิตยสารการเงินระดับโลกที่ดูเหมือนสามีของเธอทุกประการ...

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ