Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
เด็กเลี้ยงของนายหัว

เด็กเลี้ยงของนายหัว

แก้วใบเล็ก

5.0
ความคิดเห็น
57.9K
ชม
52
บท

อชิรญาหญิงสาวผู้ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นเด็กกำพร้า และสีหราชจะทำอย่างไรเมื่อรู้ว่าพ่อแท้ ๆ ของเธอคือคนที่คิดจะฆ่าเขาเมื่อเจ็ดปีก่อน ในคืนฝนพรำ ก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูดังขึ้นเจ้าของร่างใหญ่วัยยี่สิบสองเดินไปเปิดประตูห้องพักคนงานกรีดยาง เมื่อประตูถูกเปิดออกก็พบกับสาวร่างเล็กที่คุ้นเคยกำลังยืนร้องไห้น้ำตาไหลนองหน้า “แกเป็นอะไร” “อธิป ฮือ ๆ” “เข้ามาก่อน ๆ” คนตัวสูงพาเพื่อนรักเดินเข้ามาในห้อง หญิงสาวนั่งลงบนพื้นที่มีเสื่อกลางเก่ากลางใหม่ปูอยู่บนพื้นปูนขัดมัน ภายในห้องพักไม่ได้กว้างมากนัก “…” “แกร้องไห้ทำไม” อธิปเอ่ยถามเยาวเรศเพื่อนสนิทที่ทำงานในโรงเลื่อยไม้ด้วยกัน “อธิป ฉันท้อง ฮือ ๆ” “ท้อง!” “อือ” “แล้วพ่อของเด็กล่ะ” “มันไม่ให้ฉันเอาเด็กไว้ ฉันจะทำแท้ง” “ไม่ได้เด็ดขาด แกจะบ้าหรือไง” อธิปพูดขึ้นเสียงแข็ง คนทั้งคนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไรด้วยจะไปฆ่าเขาทำไม “ฉันจะรับผิดชอบแกกับลูกเอง” เป็นเพื่อนกันมาหลายปีเรื่องแค่นี้ทำไมจะช่วยเพื่อนไม่ได้ “แต่แกไม่เกี่ยวข้องด้วยนี่” “แกจะทำร้ายเด็กได้ลงคอเลยเหรอ” “แต่ฉันเลี้ยงคนเดียวไม่ไหวหรอกนะ” เยาวเรศร้องไห้จนตัวโคลง “ฉันจะช่วยแกเลี้ยงเอง” “จริงเหรอ” แววตาของเธอดูมีความหวังขึ้นมาอีกครั้ง “จริงสิ” อธิปมองเพื่อนรักด้วยความเวทนา นึกโกรธผู้ชายคนนั้นที่มันไม่มีความรับผิดชอบเอาเสียเลย

บทที่ 1 ครั้งแรก 1

เจ้าของร่างสูงใหญ่ยืนทอดสายตามองออกไปยังเนินเขาที่ลาดลงไปยังถนนด้านล่างที่ปกคลุมด้วยหญ้าที่ถูกตัดจนสั้นเตียน ท้องฟ้ามืดครึ้มเพราะเม็ดฝนที่พร่างพรมลงมาเพิ่งซาลง เห็นพุ่มไม้ดอกไม้ประดับเป็นเงาตะคุ่ม ๆ อยู่สองข้างทางที่ลาดปูด้วยหินธรรมชาติ แม้เพิ่งอยู่ในเวลาพลบค่ำ

ดวงตาสีนิลที่มองออกไปคาดเดาความรู้สึกนึกคิดของเจ้าของไม่ได้

“เธอพร้อมแล้วครับนายหัว” ลูกน้องคู่กายในวัยสี่สิบปีที่พ่วงตำแหน่งผู้จัดการโรงเลื่อยไม้บุรินทรด้วยบอกกับเจ้านายหนุ่มที่อายุน้อยกว่าเขาห้าปีเสียงเรียบ นายหัวสีหราช บุรินทร นั่นคือนามของบุรุษรูปงามผิวสีแทนที่ยังยืนสูบบุหรี่อยู่ตรงระเบียงกว้างของบ้านปูนสองชั้น

“อืม เดี๋ยวผมไป” ใบหน้าและแววตายังคงนิ่งไม่เปลี่ยนก่อนที่นิ้วเรียวยาวจะกระดิกเพื่อเขี่ยเถ้าบุหรี่ทิ้ง แล้วอัดเข้าปอดอีกครั้ง

“ให้ผมรอไหมครับ” นานมากแล้วที่นายของเขาไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิง และเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่คนอย่างสีหราชคิดอยากหลับนอนกับหญิงสาวที่ไม่ใช่คนรัก แถมยังใช้บ้านที่เคยคิดว่าจะเป็นเรือนหออีกต่างหาก ในฐานะลูกน้องอาชว์ก็ได้แค่สงสัยว่าผู้ชายที่หวงเรือนหอมากที่สุดทำไมกล้าพาผู้หญิงพวกนั้นเข้ามาในบ้านได้ แต่นายจะทำอะไรย่อมเป็นสิทธิ์ของเขาอยู่แล้ว อาชว์มีหน้าที่แค่รับส่งผู้หญิงของนายที่นรีเตรียมไว้ให้ก็พอ นอกนั้นก็ไม่ใช่หน้าที่ที่เขาจำเป็นจะต้องรู้ ถึงแม้ว่าเขาจะสนิทกับสีหราชมากแค่ไหน แต่เรื่องนี้ก็ไม่สมควรถ้าเขาจะเอ่ยถาม

“ไม่ต้อง” ตอบกลับเสียงเรียบไม่มีความตื่นเต้นในแววตาแม้แต่เสี้ยวเดียว

“ครับ” สิ้นคำลูกน้องที่ร่างกำยำไม่ต่างจากนายแต่ผิวสีเข้มกว่ามากโค้งคำนับให้เล็กน้อย ก่อนจะถอยหลังเดินออกไปยังห้องพักของตนที่อยู่บ้านหลังเล็กกว่าข้าง ๆ เรือนหลังใหญ่แห่งนี้

ภายในห้องนอนที่ดูเรียบง่ายและไม่มีเฟอร์นิเจอร์อะไรมากนัก ดูแล้วเขาคงเป็นมหาเศรษฐีที่มีความพอเพียงอยู่ในตัวค่อนข้างมาก หรือไม่เขาก็อาจจะไม่ค่อยได้มาบ้านหลังนี้บ่อยเท่าไรนัก เพราะในห้องมีเพียงเตียงนอนขนาดคิงไซส์ที่เธอนั่งอยู่ และตู้เสื้อผ้าสองหลังขนาดใหญ่เท่านั้น นอกนั้นก็มีโต๊ะเครื่องแป้งที่มีเพียงของใช้จำเป็นสำหรับผู้ชายไม่กี่ชิ้นวางอยู่ มันทำให้ห้องนอนแห่งนี้ดูกว้างมากขึ้นจนตัวเธอดูเล็กลงไปเสียสนิท ฝั่งซ้ายมือของห้องรู้สึกเหมือนจะมีประตูอีกบาน มันอาจจะเป็นห้องที่เขาเอาไว้เก็บอะไรสักอย่าง

“อย่าใจสั่นสิวะ แกเลือกแล้วนะเว้ย มันคงไม่มีอะไรร้ายแรงหรอกน่า” อชิรญาปลอบใจตัวเองมือเล็กที่เริ่มชื้นเหงื่อบีบกันแน่น ใจยังหวั่น ๆ ว่าเธอตัดสินใจถูกหรือไม่ที่จะทำสิ่งนี้ลงไป

“…”

“เอาวะ แค่คืนเดียวเอง” แค่คืนเดียวกับเงินสองแสนบาทแล้วทุกอย่างก็จะจบ และเธอจะไม่ได้เจอหน้าเขาอีก แต่นึกถึงคำพูดของคนที่เธอยอมถ่อกายเข้าไปขอความช่วยเหลือในเย็นวันนั้นก็อดหวั่นใจไม่ได้จริง ๆ

‘เคยผ่านมือชายมาบ้างแล้วใช่ไหม’

‘อะ อะไรนะคะ’

‘พี่หมายถึง เราไม่ใช่สาวเวอร์จินใช่ไหม’

‘ทะ ทำไมเหรอคะ’

‘คุณเขาไม่ชอบยุ่งกับสาวบริสุทธิ์’

‘คะ เคยแล้วค่ะ’

‘ก็ดี’

ด้วยความที่อยากได้งานและเงินอชิรญาจำเป็นต้องพูดปดกับนรี

“เขาคงไม่รู้หรอก” สาวน้อยร่างงามผู้ด้อยประสบการณ์พึมพำกับตัวเอง ยังกังวลกับคำที่นรีบอกในวันนั้น ถึงอย่างไรอชิรญาก็ไปศึกษาข้อมูลมาดีแล้ว ไม่มีทางที่เขาจะรู้เป็นอันขาด ผู้ชายน้อยคนนักที่จะรู้ว่าผู้หญิงคนไหนบริสุทธิ์หรือไม่บริสุทธิ์แค่การสอดใส่ครั้งแรก หากผู้ชายคนนั้นชำนาญมากพอพวกเขาจะไม่ทำให้ผู้หญิง…เจ็บ นั่นคือสิ่งที่อชิรญาคิด

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

ประตูห้องถูกเปิดเข้ามาพร้อมกับคนตัวโตที่ก้าวเท้ายาวเข้ามาอย่างเงียบ ๆ ใบหน้าและแววตาไม่บ่งบอกว่าเขาอยู่ในอารมณ์ไหน แต่กระนั้นก็ยังสร้างความประหม่าให้กับเธออย่างมากโข

แวบแรกที่ได้สบตากับเขาอชิรญารับรู้ได้ถึงความร้ายกาจในแววตาคู่นั้น ที่สำคัญเขาหล่อเข้มมาก ใบหน้าคมที่ถูกล้อมกรอบไว้ด้วยผมหยักศกสีดำขลับที่ตัดสั้น รับกับใบหน้าคมคายของเขาอย่างพอดิบพอดี ในคราแรกที่ตัดสินใจรับงานนี้เธอคิดว่าจะต้องเจอกับเสี่ยแก่พุงพลุ้ยเสียอีก แต่ก็ดีแล้วอย่างน้อยตอนที่เธอ…กับเขา เธอจะได้ไม่ต้องหลับตาเพราะอย่างน้อยคนตรงหน้าก็ดูดีกว่าที่เธอคาดไว้มาก

แต่หนวดเคราที่สมควรจะมีเพียงแค่รำไรมันกลับไม่ใช่ เหมือนเขาจะตั้งใจไว้กระมังมันถึงได้ขึ้นหนาเป็นปื้นขนาดนั้น เขาจะรู้ตัวบ้างไหมว่าเจ้าหนวดเคราพวกนั้นมันทำให้ดวงหน้าเขาดุและดูโหดร้ายขึ้นมาอีกหลายเท่า แค่คิดก็เสียวสันหลังวาบหากเขาคิดจะใช้ความรุนแรงกับเธอ

“ยังไม่อาบน้ำอีกเหรอ” แววตาเขานิ่ง เสียงทุ้มที่เอ่ยออกมาไม่ได้บ่งบอกว่ากำลังไม่พอใจที่เธอยังไม่เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับเขา มือหนาวางไฟแช็ก บุหรี่ และปลดนาฬิกาข้อมือที่ราคาน่าจะสูงลิบลิ่วเท่ากับตึกหลายชั้นลงบนโต๊ะเครื่องแป้งอย่างเบามือ

“ยะ ยังค่ะ” อชิรญาตื่นจากภวังค์ ถึงน้ำเสียงของเขาจะเรียบเรื่อยแต่เธอสัมผัสได้ว่ามันมีพลังมหาศาล คล้ายกับว่าคนผู้นี้มีลูกน้องที่อยู่ใต้อาณัติเป็นจำนวนมาก

“ลูกน้องผมบอกว่าคุณพร้อมแล้ว” เหมือนเขากำลังตำหนิเธอกราย ๆ มือใหญ่ไล่ปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีเข้มของตัวเองออกทีละเม็ด

“เอ่อ…ฉะ ฉันจะไปเดี๋ยวนี้ค่ะ” คนตัวเล็กลุกจากเตียงนอนหลังใหญ่ท่าทางลุกลี้ลุกลน คิดว่าตัวเองศึกษามาดีแต่พอเอาเข้าจริงเธอกลับทำตัวไม่ถูก

“…เดี๋ยว”

“คะ” ร่างบอบบางที่สวมกางเกงยีนสีซีดเข้ารูปกับเสื้อยืดตัวใหญ่หยุดชะงัก

“อาบพร้อมกับผมก็ได้” ใบหน้าเขาเหมือนไม่ยี่หระกับความไม่พร้อมของเธอ แต่ใบหน้าของหญิงสาวที่มองดูการกระทำของชายตรงหน้ากลับเห่อแดงขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้ เขาหันหลังให้เธอแล้วถอดเสื้อเชิ้ตออกทิ้งมันลงในตะกร้าข้างตู้เสื้อผ้าเพื่อรอให้แม่บ้านมาจัดการในตอนเช้า

“มะ มันจะดีเหรอคะ” ดวงตากลมเบิกกว้างเมื่อได้ยินคำนั้น เกิดมายังไม่เคยอาบน้ำกับผู้ชายแล้วเธอจะ…จะต้องทำตัวยังไง เธอจะคุมตัวเองไม่ให้ตื่นเต้นได้หรือไม่ แค่นี้ก็สั่นจนไม่รู้จะสั่นยังไงแล้ว

“ผมไม่ชอบเสียเวลา” สิบสองชั่วโมงกับเงินที่เขาต้องเสียไปเขาต้องใช้มันอย่างคุ้มค่า และสมราคาที่สุด

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ แก้วใบเล็ก

ข้อมูลเพิ่มเติม
สามีข้าเป็นมากกว่าชายพิการ

สามีข้าเป็นมากกว่าชายพิการ

เมืองแฟนตาซี

5.0

โปรย: เธอไปเก็บเห็ดแต่ดันได้สามี ซ้ำเธอยังไม่ใช่เจ้าของร่างนี้ สำคัญกว่านั้นเขาพิการ ไม่ใช่พิการธรรมดาแต่พิการแบบตะโกน ....................... ฝากนิยายเรื่องใหม่ค่า เรื่องนี้มีความเป็นอีสานนิด ๆ บวกแฟนตาซีหน่อย ๆ ค่ะ มันหอมออกไปเก็บเห็ดบนภูเขาแต่กลับเจอชายหนุ่มที่กำลังวิ่งหนีเสือมาอย่างไม่ลืมหูลืมตา เขาลากเธอวิ่งหนีเสือไปด้วยกันจนตกภูเขา ตื่นขึ้นมาอีกทีเธอก็ไม่ใช่มันหอมคนเดิมแล้ว แต่ต้องแบกผู้ชายคนนั้นกลับบ้านด้วย ใครจะไปรู้ว่าแค่แบกผู้ชายกลับบ้านจะทำให้เธอต้องแต่งงานกับเขา ที่สำคัญตอนนี้เขาขาหัก ตาบอด และความจำเสื่อม เธอจะมีชีวิตรอดอยู่ในร่างนี้ได้อย่างไร เนื้อหาบางส่วน.............. มันหอมเดินจากไปพักผ่อนในห้องแล้ว พ่อเฒ่าขวาน โสม และขุนเดชนั่งปรึกษากันด้วยใบหน้าเคร่งเคร่งขรึม พ่อเฒ่าพูดออกมาด้วยความลำบากใจ “ถึงอย่างไรมันทั้งสองก็ต้องแต่งงานกัน” ขุนเดชสะดุ้งเฮือก “ไม่มีวิธีแก้ทางอื่นแล้วเหรอครับ” ขุนเดชก็หนักใจไม่ต่างกัน เขาจะเกลี้ยกล่อมอย่างไร ให้ลูกสาวผู้ดื้อรั้นยอมแต่งงานกับคนต่างถิ่น ถึงหน้าตาไอ้คนนั้นมันจะหล่อเหลาปานใด แต่อย่างไรก็ไม่ใช่คนในหมู่บ้านนี้ หรือหากเป็นคนที่พ่อเฒ่าหรือผู้ใหญ่บ้านหามาก็ว่าไปอย่าง อีกทั้งขาข้างซ้ายของมันก็หัก คนอย่างมันหอมจะดูแลมันไหวหรือ “คำว่าผิดผีแก้ด้วยวิธีอื่นไม่ได้นอกจากพวกมันต้องตบแต่งให้แก่กันเท่านั้น” พ่อเฒ่ากล่าวเสียงแข็ง “หญิงชายแนบกายชิดใกล้ในที่ลับตาคน ถึงจะอยู่ในที่โล่งแจ้งก็นับว่าผิดผีป่าผีเรือน หากไม่ทำตามประเพณีดั้งเดิมนั้นแล้ว เกรงว่าหมู่บ้านของเราจะต้องเผชิญกับเหตุร้ายที่คาดไม่ถึง” พ่อเฒ่าเอ่ยถึงประเพณีดั้งเดิมที่สืบทอดกันมาตั้งแต่โบราณด้วยน้ำเสียงจริงจัง

ทะลุมิติมาอยู่ในร่างหญิงปัญญาอ่อนซ้ำยังต้องแต่งงานกับบุรุษใบ้

ทะลุมิติมาอยู่ในร่างหญิงปัญญาอ่อนซ้ำยังต้องแต่งงานกับบุรุษใบ้

เมืองแฟนตาซี

5.0

โปรย: มาอยู่ในร่างหญิงปัญญาอ่อน ถูกตราหน้าว่าเป็นลูกโจรที่เคยเข่นฆ่าผู้คนไปทั่ว ซ้ำร้ายเขายังต้องการล้างแค้นแทนพ่อโดยใช้หัวใจเป็นเดิมพัน ........................ ไรต์มีนิยายพื้นบ้านมาฝากอีกแล้วค่า เน้นการใช้ชีวิตประจำวัน เนื้อเรื่องไม่หวือหวาส่วนใหญ่เกิดจากจินตนาการของไรต์มากกว่าเหตุการณ์ในยุคนั้น ใครชอบแนวนี้ไรต์ฝากกดหัวใจกดติดตามกันด้วยนะคะ หญิงสาวที่ตื่นมาตอนเช้าเพื่อเตรียมตัวไปรับพระราชทานปริญญาบัตร แต่กลับต้องย้อนไปอยู่ในยุค 60 ในร่างหญิงปัญญาอ่อนที่มีความทรงจำอันน้อยนิด มีพ่อเป็นอดีตโจรที่ขาพิการ ครอบครัวยากจน กับค่าแรงวันละเจ็ดบาท แล้วเช่นนี้เธอจะทำให้ครอบครัวกินอยู่อิ่มท้องได้อย่างไร พระเอกนางเอกเรื่องนี้มีการแก้แค้นเอาคืนไม่ได้เป็นคนดีบริสุทธิ์นะคะ ทุกคนโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน เนื้อหาบางส่วน.... คำแก้วเดินออกมาถึงทางห้าแยกที่จะเลี้ยวเข้าหมู่บ้านสี่แจและหมู่บ้านอื่น ๆ ก็เจอกับชายฉกรรจ์สามคนยืนขวางอยู่ตรงหน้า คำแก้วเดินต่ออย่างไม่รู้สึกเกรงกลัว            “เฮ้ย! มีคนเดินมาทางนี้ว่ะ”            “ลูกพี่มันแบกหมูป่าตัวเบ้อเร่อมาด้วย”            “เอาของมีค่าทั้งหมดมาจากมันให้ได้”            “แต่มันเป็นผู้หญิงตัวเล็ก ๆ เองนะลูกพี่”            “พ่อมึงสอนให้โจรอย่างพวกมึงใจดีกับพวกผู้หญิงเหรอวะ” คนที่เป็นหัวหน้าแก๊งตวาดเสียงดังจนคำแก้วต้องเงยหน้ามอง ดวงตากลมไหวสั่นเล็กน้อย เข้ามาสิจะใช้เครื่องช็อตไฟฟ้าช็อตให้ ปืนก็มี มีดก็มี กลัวอะไรล่ะ หักแขนหักขาคนก็ได้ด้วย            “มะ ไม่ได้บอกครับ” คนที่เป็นลูกน้องตอบเสียงสั่น แล้วพวกมันก็ก้าวเท้าไปขวางหน้าคำแก้วไว้            “เอาของมีค่าจากตัวมึงมาให้หมด รวมถึงหมูป่าด้วย” ลูกน้องหนึ่งในสองคนพูดขึ้น แปลกใจที่ในกระบุงมีผลไม้หลายอย่างที่พวกเขาไม่เคยกิน            “ไม่มี” คำแก้วตอบเสียงห้วน มองชายทั้งสามด้วยแววตาไม่สะทกสะท้าน เธออยากเห็นโจรตัวเป็น ๆ วันนี้เธอก็ได้เห็นแล้ว พวกมันใช้ผ้าขาวม้าคลุมหน้าไว้ ยุคสมัยนี้ตำรวจคงทำอะไรคนพวกนี้ไม่ได้จริง ๆ            “ปากดีซะด้วย กูชอบว่ะ จะมีผู้หญิงสักกี่คนวะที่ไม่กลัวโจรอย่างพวกกู ฮ่า ๆ ๆ” เรืองว่าพลางหัวเราะเสียงลั่น ในมือถือปืนเคาะฝ่ามืออีกข้างเล่นไปพลาง ๆ แล้วสั่งลูกน้องเสียงเหี้ยม “จับตัวมันไว้”            ลูกน้องทั้งสองกรูเข้าไปจับตัวคำแก้วไว้ คำแก้วปล่อยหมูและกระบุงลงบนพื้นดิน            เรืองก้าวเท้ายาวเข้ามาใกล้ ดึงผ้าขาวม้าออกจากหน้าเธอ สายตาคมกริบมองใบหน้าเรียวเล็กของอีกฝ่ายด้วยความประหลาดใจเป็นที่สุด            “นี่มันลูกสาวคนโตของไอ้เสือเข้มนี่หว่า มึงกล้าออกมาป่าคนเดียวได้ยังไงวะ” เขาใช้ปลายกระบอกปืนเชยคางของคำแก้วขึ้น แล้วพิศมองใบหน้าเธอนิ่ง            คำแก้วจ้องตามันกลับอย่างไม่ลดละ โจรพวกนี้อาจจะเป็นพวกเดียวกันกับที่ทำร้ายพ่อของเธอก็เป็นได้ ถึงได้รู้จักเสือเข้ม            ชายรูปร่างสูงใหญ่ที่ยืนหลบอยู่ในพุ่มไม้ที่อยู่ไม่ไกลมากนักถึงกับเบิกตาโพลงเมื่อได้ยินว่าสาวน้อยคนที่เขาเดินตามออกมาจากป่าเป็นลูกของไอ้เสือเข้ม แต่เขาได้ยินมาว่าลูกสาวคนโตของเสือเข้มเป็นเด็กที่มีความบกพร่องทางปัญญาไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงเข้าป่าไปล่าสัตว์คนเดียวได้อย่างไม่รู้สึกเกรงกลัวสัตว์ป่า หรือแม้แต่โจรพวกนี้ได้ ยิ่งคิดก็ยิ่งสงสัย ตัดสินใจไม่ผิดจริง ๆ ที่เดินตามเธอมา คราแรกเขาแค่อยากรู้ว่าเธอเป็นคนของหมู่บ้านไหนกันแน่ เพราะเขาไม่เคยเห็นหน้า และกลัวว่าเธอจะเป็นอันตรายจึงเดินตามมาอย่างเงียบ ๆ ไม่คิดว่าจะเป็นลูกสาวคนที่เขาตามหามานาน

หวนกลับมาครานี้ไม่เป็นแล้วภรรยาชั่วร้าย

หวนกลับมาครานี้ไม่เป็นแล้วภรรยาชั่วร้าย

เมืองแฟนตาซี

5.0

โปรย: ปางก่อนเธอเคยละเลยเขากับลูก เมื่อได้มีโอกาสย้อนกลับไปแก้ไขชะตาอีกครั้งเธอจำต้องทำทุกอย่างเพื่อให้เขาอภัยให้กับผู้หญิงชั่วร้ายอย่างเธอ .................................... นิยายเรื่องนี้เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่พระเอกพิการนะคะ พื้นที่ยังคงเป็นภาคอีสาน เกี่ยวกับวิถีชาวบ้านและความเป็นอยู่ อ่านได้เรื่อย ๆ ค่ะ เป็นเรื่องสั้น ๆ ไม่น่าจะเกินหกหมื่นคำค่ะ กชกรได้ย้อนกลับไปแก้ไขอดีตที่เธอเคยทำไม่ดีกับลูกกับสามี โดยเธอต้องทำงานหนักทุกอย่าง เพราะเธอกลับไปคราวนี้พบว่าสามีของเธอพิการและต้องเลี้ยงลูกสองคนเพียงลำพัง ไปติดตามกันค่ะ ว่าเธอจะเอาชนะใจสามีได้หรือไม่ ………………………………. เท้าของเธอหยุดเดินและยืนอยู่บนคันนาเมื่อมาถึงนาของสามีที่ส่วนลุ่มอยู่ติดกับลำน้ำปาว ส่วนนาดอนด้านบนติดกับนาเธอ ใบตองพลวงหลุดจากมือตอนไหนเธอไม่ได้รู้ตัวเลย น้ำตารินไหลออกมาอย่างห้ามไม่ได้ สามีกับลูกทั้งสองกำลังช่วยพ่อขุดดินและปักดำต้นกล้าลงไป ลูกชายคนโตกำลังใช้จอบเล็กขุดดินส่วนคนเล็กใช้เสียมขุดบางครั้งก็นั่งลงแช่ในน้ำ เดือนลูกสาวคนเล็กก็ทำตามประสาเด็กคงไม่ได้ช่วยพ่อมากนัก ในแปลงนามีน้ำท่วมถึงตาตุ่ม สามีใช้จอบเล่มใหญ่เขานั่งคุกเข่าด้วยขาข้างซ้ายลากขาอีกข้างตามไปอย่างทุลักทุเล เนื้อตัวพ่อลูกทั้งสามคนเต็มไปด้วยโคลนตม            ปีที่แล้วเขาไม่ได้ทำนา ถ้าปีนี้ไม่ได้ทำอีกก็คงไม่มีข้าวให้กินแล้ว เพราะในยุคนี้ผู้คนล้วนขาดแคลนข้าวกันทั้งนั้น ครั้นจะจ้างก็คงไม่มีเงิน อีกอย่างเขาคงอยากทำเอง อุดรฯ ก็แห้งแล้งเหลือเกิน แต่พอถึงฤดูน้ำหลากนาของสามีที่อยู่ติดกับลำน้ำปาวน้ำก็ท่วมขังทุกปี หากจะขอพี่น้องหรือพ่อแม่กิน พวกเขาก็คงไม่มีให้เพราะนาพวกเขาก็ท่วมเหมือนกัน ก่อนหน้าที่เขายังเดินได้ก็ยังพออยู่พอกิน ตอนนั้นเขาเลี้ยงดูลูกเมียได้เป็นอย่างดี            เกสรยกมือขึ้นปาดน้ำตาซ้ายขวา วางกระเป๋าย่ามไว้บนคันนาถอดรองเท้าวางไว้ข้างย่ามแล้วเดินลงไปในแปลงนามุ่งหน้าไปหาสามีกับลูก            เดือนยืนมองเธออยู่พักใหญ่เมื่อมั่นใจจึงตะโกนเรียกเสียงดัง “แม่!” จ๋อม! จ๋อม! จ๋อม! ดำและลูกชายต่างละสายตาจากดินที่ขุดอยู่แล้วมองไปตามเสียงฝีเท้าที่เดินในน้ำเข้ามาใกล้            “แม่!” ลูกทั้งสองวิ่งเข้าไปกอดแม่ซ้ายขวาด้วยความดีใจที่สุดในชีวิตที่เห็นแม่กลับมา น้ำตาของเธอก็ยิ่งไหลพรากออกมา ชาติที่แล้วเธอกล้าทิ้งเด็กน้อยหน้าตาน่ารักอย่างนี้ไปได้อย่างไร ถึงแม้ตอนนี้เนื้อตัวจะมอมแมมมากก็ตาม            “แม่เกสรสวยขึ้น ขาวขึ้น” ดินบอกแม่            “จริงด้วยค่ะ พ่อบอกว่าแม่ไปทำงานที่กรุงเทพฯ เพื่อส่งเงินมาให้พวกเรา แม่ไปทำงานอะไรหรือคะ ทำไมสวยจัง”            สิ้นคำลูกสาวน้ำตาก็ไหลทะลักออกมาเป็นสายยาว เขาคงไม่เคยบอกลูกในสิ่งที่เธอทำไม่ดีเอาไว้ และคงยังไม่กล้าบอกลูกเรื่องที่เธอเพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อวาน            “แม่…แม่ขอโทษนะลูก แม่ขอโทษที่ไม่ได้อยู่กับพวกหนู” เธอไม่รู้จะพูดคำไหนกับลูกดี ในใจตอนนี้รู้สึกผิดกับลูกกับสามีจนไม่อยากให้อภัยตัวเอง รู้สึกเกลียดตัวเองที่ทำตัวเหมือนสองปีที่ผ่านมา เป็นใครก็คงยากจะให้อภัย            เห็นแม่สะอื้นหนัก ทั้งสองก็ทำได้เพียงใช้มือที่เปื้อนตมเช็ดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มให้แม่ จนหน้าขาวนวลของแม่เลอะไปด้วยดินโคลน            เกสรเงยหน้าขึ้น ดวงหน้ายังเต็มไปด้วยน้ำตา ดวงตาพร่ามัวมองหน้าสามีนิ่ง            ทั้งสองสบตากัน แววตาของเกสรเต็มไปด้วยคำว่าขอโทษเป็นล้านคำ ส่วนเขานั้นมองเธอด้วยสายตาเย็นชา ในดวงตาคมเข้มคู่นั้นไม่มีแม้แต่เงาของเธอหลงเหลืออยู่เลย เขาวางหน้านิ่งมาก มากเสียจนไม่รู้ว่าเขารู้สึกอย่างไรที่เห็นเธอกลับมา ใบหน้าเขายังหล่อเข้มเหมือนที่เธอเคยฝันถึง กรอบหน้าล้อมรอบไปด้วยเคราดกดำ ผมยาวมวยไว้ด้านหลังเหมือนคนป่า ผิวสีเข้มเพราะกรำแดดแต่เธอมองว่านั่นคือเสน่ห์ของเขา กล้ามเนื้อส่วนบนถูกห่อหุ้มด้วยเสื้อผ้าฝ้ายแขนสั้นสีซีด กล้ามแขนเขายังดูแข็งแรงและบึกบึน ส่วนท่อนล่างมีกางเกงขายาวสีดำปิดบังไว้ เธอจึงมองไม่เห็นว่าขาของเขาเป็นอย่างไรบ้าง ขาข้างขวาของเขาจะลีบหรือไม่            เขาคงเกลียดเธอมาก และเธอคงไม่หวังให้เขาอภัยให้เธอในวันนี้ เกสรนั่งคุกเข่าลงในน้ำจนผ้าถุงเปียกชื้นเพื่อให้กอดลูกได้ถนัดขึ้น หอมแก้มลูกซ้ายขวาทั้งสองคน อยากขอบคุณคุณยายคนนั้นเหลือเกินที่ทำให้เธอได้กลับมาที่นี่อีกครั้ง ถึงแม้ว่าต่อจากนี้ไปเธอไม่รู้ว่าต้องเจอกับอะไรบ้าง            แม่ลูกทั้งสามต่างร้องไห้ไปด้วยกัน            ดำละสายตาจากสามแม่ลูก ไม่มีเสียงใดหลุดออกจากปากของเขาแม้แต่คำเดียว            มือหนาสับจอบลงบนหน้าดินแล้วค่อย ๆ คลานออกจากตรงนั้น ปีนขึ้นคันนาแล้วใช้แรงจากแขนทั้งสองข้างและขาข้างซ้ายส่งตัวเองเคลื่อนตัวไปตามคันนาที่มีแต่หญ้าขึ้นปกคลุม เขาไม่รู้ว่าเธอต้องการอะไร และไม่รู้ว่าเธอมาที่นี่เพราะเหตุผลอันใดอีก ทั้งที่วันนั้นเขาพูดชัดเจนแล้ว แต่คนอย่างเขาจะไม่มีวันเสียน้ำตาให้ใครเป็นครั้งที่สองอีก

ทะลุมิติไปเป็นสามีตัวอ้วนของหญิงอัปลักษณ์

ทะลุมิติไปเป็นสามีตัวอ้วนของหญิงอัปลักษณ์

เมืองแฟนตาซี

5.0

หนุ่มวิศวะผู้หวงความโสดต้องทะลุมิติไปเป็นสามีของหญิงสาวหน้าผีที่มีแต่คนรังเกียจ แต่พ่อกับแม่ของเขาอยากได้หลานแล้วเขาจะทำอย่างไรเมื่อเขาก็ไม่สามารถมีลูกกับคนที่ไม่ได้รักได้เช่นกัน .............................. เรื่องนี้มาแนวแบบอีสานบ้าน ๆ อีกแล้วค่ะ บทสนทนาในเรื่องเป็นภาษาอีสานนะคะ อาจจะอ่านลำบากหน่อยแต่ไรต์มีคำแปลให้ค่ะ มาวินหนุ่มวิศวะย้อนอดีตกลับไปอีสานในปี 2528 และเขาก็พบว่าเขามีภรรยาแล้วและเธอยังมีหน้าตาอัปลักษณ์อีก ไม่พอแค่นั้นเธอยังอาศัยอยู่ในกระท่อมกลางป่ากลางเขาที่ทุรกันดารเพราะถูกครอบครัวผลักไสไล่ส่ง แล้วหนุ่มเมืองกรุงอย่างเขาจะอยู่กับเธอได้หรือไม่ ฝากติดตามกันด้วยนะคะ …………………………………. หลายนาทีต่อมา มาวินนอนเอามือขึ้นมาก่ายหน้าผาก สักพักก็พลิกกายไปมาอยู่หลายครั้ง ร้อนด้วย คิดไม่ตกด้วย            “อ้ายนอนบ่อหลับเบาะ” (พี่นอนไม่หลับเหรอ)            ถึงเขาจะไม่ได้พลิกกายแรงแต่เธอก็รู้สึกได้ เพราะเรือนก็หลังแค่นี้            “อื้อ” (ครับ)            “เป็นหยัง เฮ็ดเวียกเมื่อยเบาะ” (เป็นอะไร ทำงานเหนื่อยเหรอ) เขาเพิ่งทำงานวันแรกอาจจะปวดเมื่อยตามร่างกายจนนอนไม่หลับ            “หึ” (ไม่) เขาคิดเรื่องนี้มาทั้งวัน คิดว่าพูดกับเธอดีกว่าเก็บมันไว้ ว่าแล้วก็เอ่ยถามเธอ “นิดอยากเลิกกับอ้ายบ่อ” (นิดอยากเลิกกับพี่ไหม) ทั้งสองแต่งงานกันเพราะพ่อกับแม่ของเขาอยากได้หลานเพราะพี่ชายของเขาเป็นหมันไม่สามารถมีหลานให้พ่อกับแม่ได้ ส่วนพ่อกับแม่ของนิตยาก็เต็มใจให้ลูกแต่งงานกับเขาเพราะอยากได้ค่าสินสอด ในหมู่บ้านนี้ไม่มีผู้หญิงคนไหนเอาคนอย่างอำนาจไปเป็นสามี เช่นเดียวกับนิตยาผู้มีหน้าตาอัปลักษณ์ผู้ชายในหมู่บ้านนี้ก็ไม่มีใครเลือกเธอไปเป็นภรรยาเช่นกัน ไม่มีใครอยากคุยกับเธอแม้แต่คนในครอบครัวยังเลือกเชื่อหมอดูมากกว่าเชื่อลูกตัวเอง หาว่าเธอเป็นกาลกินีจนต้องไล่มาอยู่คนเดียวกลางป่ากลางเขาเช่นนี้            นิตยาครุ่นคิดในใจ ทำไมวันนี้เขาถามแปลก ๆ ปกติอำนาจไม่เคยพูดเรื่องนี้ จากที่เธอสังเกตเขารู้สึกดีด้วยซ้ำที่ได้มาอยู่กับเธอเพราะอยู่กับนิตยาเธอไม่เคยบ่น ไม่เคยด่าเหมือนอยู่กับพ่อแม่ของเขา เขาไม่ทำงานเธอก็ไม่เคยสนใจ ทำหน้าที่ของตนไปมีอะไรให้กินเขาก็กิน เขาไม่เคยพูดถึงเรื่องเลิกกันหรือแยกกันอยู่            นิตยาไม่ได้ตอบออกไปแต่กลับย้ำสิ่งที่คิดว่าเขาน่าจะลืม “พ่อกับแม่อ้ายเพิ่นอยากได้หลาน” (พ่อกับแม่พี่เขาอยากได้หลาน) ตลอดกว่าหนึ่งปีที่อยู่ด้วยกันมาทั้งสองไม่เคยยุ่งเกี่ยวกันในฐานะสามีภรรยาเลยสักครั้ง และนิตยาก็ยินดีที่ทุกอย่างเป็นเช่นนั้น            “อ้ายฮู่อยู่ แต่เฮาบ่อได้มักกัน เฮามีลูกนำกันบ่อได้” (พี่รู้ แต่เราไม่ได้รักกัน เรามีลูกด้วยกันไม่ได้) คนไม่รักกันมีลูกด้วยกันนับวันก็ยิ่งหมางเมิน ดีไม่ดีผลกรรมไปตกอยู่ที่ลูก อีกอย่างถึงอยากมีมากแค่ไหนก็คงไม่มีใครบังคับเขาได้ เพราะเขารู้ว่าร่างเดิมนี้นกเขาไม่ขันมาหลายปีแล้ว คงเป็นก่อนที่จะแต่งงานกับนิตยากระมัง อำนาจถึงกล้าแต่งงานกับผู้หญิงคนนี้ เพราะเขาคิดว่าตัวเองมีลูกไม่ได้ และเขาก็คงไม่ได้ชอบเธอเช่นกัน แต่ที่ยอมแต่งงานเพราะตัดรำคาญพ่อกับแม่ที่ชอบบ่นชอบบังคับเขา            “อ้ายอยากเลิกบ่อกะสั่น ถ้าอ้ายอยากเลิกกะเลิกกะได้” (พี่อยากเลิกไหมล่ะ ถ้าพี่อยากเลิกก็เลิกได้)            ถึงเธอไม่ได้รักอำนาจในแบบสามีแต่เขาก็เป็นเหมือนพี่ชายที่สามารถนอนเป็นเพื่อนเธอได้ทั้งวัน อย่างน้อยก็รู้สึกว่าโลกนี้เธอไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว            “อ้ายจั่งได๋กะได้” (พี่ยังไงก็ได้)            มาวินแค่ให้อิสระในการตัดสินใจของเธอเท่านั้น เพราะเท่าที่เขารู้เธอไม่มีสิทธิ์ได้เลือกทางเดินชีวิตของตัวเองเลยแม้แต่ครั้งเดียว            “กะซั่นอ้ายกะอยู่เป็นหมู่ข่อยไปนิ่ล่ะ ค่านอยู่มื่อได๋กะจั่งไป” (ถ้าอย่างนั้นพี่ก็อยู่เป็นเพื่อนฉันไปอย่างนี้แหละ ขี้เกียจอยู่วันไหนก็ค่อยไป)            เธอไม่ห้ามหากเขาจะไปเพราะที่ผ่านมาเธอก็อยู่เพียงลำพัง เรื่องลูกก็ให้ไปคุยกับพ่อแม่เขาเอาเอง เพราะเธอก็ไม่สามารถมีอะไรกับคนที่ไม่รักได้เช่นกัน            “อื้อ จั่งซั่นกะได้ มื่อได๋ที่นิดมีคนมาอยู่นำ อ้ายจั่งสิไป ตอนนี่เฮากะอยู่นำกันแบบอ้ายน่องไปก่อน” (อือ อย่างนั้นก็ได้ วันไหนที่นิดมีคนมาอยู่ด้วยแล้วพี่ค่อยไป ตอนนี้เราก็อยู่ด้วยกันเหมือนพี่น้องไปก่อน)

ทะลุมิติไปเป็นสาวใช้ผู้มั่งคั่งในยุค 90

ทะลุมิติไปเป็นสาวใช้ผู้มั่งคั่งในยุค 90

เมืองแฟนตาซี

5.0

เธอทะลุมิติไปเป็นสาวใช้ส่วนตัวที่เขาซื้อมาจากครอบครัวที่เก็บขยะขาย ในยุคปัจจุบันก็ทำงานจนตัวตาย มาอยู่อดีตก็กลายเป็นคนอัตคัดขัดสน ชีวิตจะลำบากซ้ำซ้อนไปถึงไหน ……………………………………………… เช็ดท่อนบนเสร็จเนื้อนวลก็เตรียมถอดชิ้นล่างที่เป็นกางเกงผ้านิ่มขายาว มือเล็กกำลังจับขอบกางเกงเตรียมจะถอดออก            หมับ! แต่ก็มีมือใหญ่มายึดไว้อีกครั้ง พร้อมเปล่งเสียงแหบพร่าออกมา            “หย่า!” เด็กอะไรแก่แดดขนาดนี้ ไม่รู้จักอายผีอายสาง กลางวันแสก ๆ ยังจะแก้ผ้าผู้ชาย ถึงปู่กับย่าจะไม่ค่อยมีเวลาอบรมบ่มนิสัยให้รักนวลสงวนตัวแต่เธอก็น่าจะคิดเองเป็นบ้าง หรือเธอเป็นเด็กใจแตกถึงไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องนี้            เช่นเดิมเนื้อนวลไม่ได้สนใจ เพราะกลิ่นตัวของเขาที่โชยเข้าจมูกเธอคิดว่าน่าจะเกือบเดือนแล้วที่เขาไม่ได้เช็ดตัว เพราะเท่าที่เนื้อนวลเข้ามารับใช้เขาไม่กี่วัน สุรเชษฐ์ก็ไล่เธอท่าเดียว แต่อย่าหวังว่าเนื้อนวลคนนี้จะยอมแพ้ง่าย ๆ            “ถ้าอายก็หลับตา” เนื้อนวลพูดเสียงเรียบเรื่อยเหมือนเป็นเรื่องปกติสำหรับเธอ มือข้างหนึ่งจับสะโพกเขายกขึ้นมืออีกข้างดึงกางเกงนอกลงมาจนสุดปลายเท้าตามด้วยกางเกงผ้าอ้อมผู้ใหญ่ เพราะเขาไม่สามารถควบคุมการขับถ่ายทั้งหนักและเบาของตัวเองได้ ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันระวังตัว เมื่อนั้นแหละสุรเชษฐ์จึงนอนแน่นิ่งปิดเปลือกตาแน่น ร่างใหญ่แข็งทื่อไปทั้งตัว จากที่ไม่รู้สึกแค่ฝั่งขวาตอนนี้เหมือนจะชาไปทุกสัดส่วนบนร่างกาย            ให้ตายเถอะ! ผู้หญิงคนนี้ช่างไร้ยางอายสิ้นดี เกิดมาเขายังไม่เคยให้ผู้หญิงคนไหนเห็นร่างเขาตอนเปลือยเปล่าแบบนี้มาก่อน เว้นเสียแต่ภรรยาของเขาเพียงคนเดียว เธอช่างเป็นผู้หญิงที่…หน้าด้านเหลือทน มีผู้หญิงคนไหนกันที่อยู่กับชายแปลกหน้าที่นอนเปลือยล่อนจ้อนแบบนี้ในห้องสองต่อสองเหมือนเธอบ้าง ถ้าคนอื่นรู้เข้ามีหวังเธอไม่มีทางหาสามีได้แน่ อย่างว่าล่ะนะก็คนไม่ได้เรียนหนังสือก็คงไม่รู้ว่าอะไรควรหรือไม่ควร            พ่อจ๋า! แม่จ๋า! ช่วยลูกด้วย ผมกำลังโดนแทะโลมทางสายตา สุรเชษฐ์พร่ำบ่นในใจเมื่อคิดว่าสาวใช้คงใช้สายตาจ้องมองเขาไปทั้งตัว

ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวนาผู้ยากจนซ้ำสามียังพิการ

ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวนาผู้ยากจนซ้ำสามียังพิการ

เมืองแฟนตาซี

5.0

ว่าที่แพทย์หญิงที่ย้อนกลับไปสู่อดีตในร่างหญิงอวบอ้วนที่สามีและลูกชิงชัง และอยากให้เธอตายอยู่ทุกวัน เธอจะไม่ยอมใช้ชีวิตอยู่กับผู้ชายที่ไม่ได้รักเธอเป็นอันขาด นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายไทยโบราณนะคะ แต่ไม่ได้ย้อนยุคไปไกลมาก ชื่อเรื่องอาจจะเหมือนจีนโบราณแต่ความจริงแล้วคือไม่ใช่ค่ะ (อยากเขียนแต่ความสามารถยังไม่มากพอ) ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวนาผู้ยากจนซ้ำสามียังพิการ เป็นเรื่องราวของนักศึกษาแพทย์ชั้นปีที่หกที่ทะลุมิติไปอยู่ในร่างหญิงอวบอ้วนในปีพุทธศักราช 2495 เธอต้องเลี้ยงลูกสองคนและสามีพิการขาหักทั้งสองข้างอีก แถมพวกเขายังชิงชังหญิงอ้วนใจร้ายอย่างเธอด้วย ภาษาที่ใช้ในเรื่องนักเขียนจินตนาการขึ้นมาเองค่ะไม่ได้อิงประวัติศาสตร์แต่อย่างใด ส่วนประเพณีหรือวัฒนธรรมและความเป็นอยู่บางส่วนไรต์อ้างอิงมาจากเรื่องจริงแต่ส่วนใหญ่เกิดจากจินตนาการอาจมีบางตอนที่ไม่สมเหตุสมผล เนื้อหาค่อนไปทางอีสานนะคะ ผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านค่ะ ใครที่ชอบแนวนี้รอติดตามกันได้เลยนะคะว่าเธอจะไปใช้ชีวิตอยู่ในยุคนั้นให้รอดพ้นได้อย่างไร ถ้าชอบถ้าใช่อย่าลืมกดหัวใจกดติดตามให้ไรต์ด้วยนะค้า

หนังสือที่คุณอาจชอบ

เมียเก็บมาเฟีย

เมียเก็บมาเฟีย

เนื้อนวล
4.9

"ฉันจะนอนกับคุณทุกที่ ทุกเวลา และทุกครั้งที่คุณต้องการ เพื่อแลกกับอิสรภาพของพ่อฉัน" "แล้วถ้าผมไม่ตกลงล่ะ" ในที่สุดเขาก็พูดออกมาจนได้ ยาหยีก้มหน้าซ่อนความเจ็บช้ำเอาไว้จนมิด ก่อนจะเงยหน้าขึ้นอีกครั้งและพูดออกไปเสียงแผ่วเบา "ฉันจะให้คุณดูสินค้าก่อนก็ได้...แล้วค่อยตัดสินใจ" เมื่อบิดาของตนเป็นโจรขโมยเพชรล้ำค่าของตระกูลมาเฟียที่ยิ่งใหญ่แห่งกรุงมอสโค ยาหยี จำต้องโยนศักดิ์ศรีของตัวเองทิ้งแล้วกลายเป็นหญิงไร้ยางอายเพื่อให้บิดารอดพ้นจากเงื้อมมือมัจจุราชอย่างเขา ทางเลือกเพียงทางเดียวที่มีคือยอมพลีกายให้ผู้ที่ขึ้นชื่อว่าหล่อเหลาในสามโลกได้เชยชม สาวพรหมจรรย์อย่างหล่อนแทบขาดใจตายเพราะบทพิศวาสเร่าร้อนรุนแรงที่ไม่เคยได้พานพบ ความวาบหวามครั้งแล้วครั้งเล่าที่เขามอบให้ทำให้ยาหยีคลั่งไคล้ในรสสิเน่หา กายสาวร่ำร้องโหยหาแต่เขาเพียงผู้เดียว หากภายในใจก็ต้องคอยย้ำเตือนตนเองไว้ว่า หล่อนก็เป็นได้แค่ของเล่นชั่วคราว สักวันพอเขาเบื่อ ก็จะถูกเขี่ยทิ้งอย่างไร้ความปรานี!! จากที่คิดจะตามไล่ล่าเด็ดหัวคนทรยศให้แดดิ้นไปต่อหน้า คอร์เนล ซีร์ยานอฟ เจ้าพ่อยักษ์ใหญ่แห่งวงการโทรคมนาคมในประเทศรัสเซีย ก็เปลี่ยนเป้าหมายทันทีเมื่อได้เจอสาวน้อยนัยน์ตากลมหวานซึ้ง ใบหน้าหวานๆ ส่งผลให้เขาต้องการอยากครอบครองหล่อนแทบคลั่ง คอร์เนลมั่นใจว่ามันจะมีผลกับร่างแกร่งได้ไม่นานหรอก เพราะสำหรับเขา ผู้หญิงคือวัตถุทางเพศเคลื่อนที่ได้เท่านั้น เพียงได้ลิ้มลองแค่ครั้งเดียว เขาก็ไม่เคยหันกลับไปกินของเก่าอีก แต่ทฤษฎีนี้กลับใช้ไม่ได้ผลกับหล่อน ให้ตายสิ! เขาไม่เคยรู้สึกติดใจผู้หญิงรุนแรงขนาดนี้มาก่อน คอร์เนลหลงใหลเนื้อนุ่มจนกลายเป็นเสพติด ทั้งที่ความยโสโอหังของบุรุษเลือดเย็นเยี่ยงเขาพยายามบอกกับตนเองว่า เขายังเชยชมร่างงามไม่คุ้มค่ากับสิ่งที่สูญเสียไป แต่ภายในใจลึกๆ กลับตะโกนก้องสวนทางออกมาว่า เขาขาดเธอไม่ได้แม้แต่วินาทีเดียว!!

ถึงป๋าดุ(ดัน)หนูก็ไหว

ถึงป๋าดุ(ดัน)หนูก็ไหว

ผลิกา(เลอบัว)
5.0

เมื่อผู้หญิงที่เพื่อนๆ ตั้งสมญานามว่าแม่ชีอย่างเธอจับพลัดจับผลูต้องมาเจอกับผู้ชายหน้านิ่งที่เอะอะกอด เอะอะจูบอย่างเขา อา…แล้วพ่อคุณก็ดันเป็นโรคนอนไม่หลับ จะต้องนอนกอดเธอเท่านั้นด้วย แบบนี้เธอจะเอาตัวรอดได้ยังไงล่ะ “ชอบอาหารเหนือไหม” “ชอบมากเลยคุณ ให้กินทุกวันยังได้เลย” “มากพอจะอยู่ที่นี่ไหม” “แค่กๆๆ” …………… …………………………………………………………………………………………………………………………. “คุณ! เอากระบอกไฟฉายออกไปวางที่อื่นก่อนได้ไหม มันดันหลังฉัน ฉันนอนไม่หลับ” คนที่ใกล้จะหลับบอกเสียงอู้อี้ “เอ้อ! ไม่มีนี่” เขาบอกเสียงอึกอัก “มันจะไม่มีได้ไง ก็มันดันหลังฉันอยู่เนี่ย” เธอมั่นใจว่ามีแน่ๆ ก็หลักฐานมันทนโท่ขนาดนี้ “อืม! นอนเถอะ ไม่มีหรอก” “จะไม่มีได้ไง ก็นี่ไง” คุณเธอยืนยันด้วยการคว้าหมับเข้าให้ พร้อมหันกลับมา หวังงัดหลักฐานที่อยู่ในมือมาพิสูจน์ให้ได้เห็นกันจะๆ คาตา แต่… ตึก ตึก ตึก อา…! ดูเหมือนจะไม่ใช่แค่คาตา แต่ยังคามือเธอด้วย เธออ้าปากตาค้างราวกับกำลังตกตะลึงสุดขีด ก่อนจะก้มมองไอ้ที่คิดว่าเป็นกระบอกไฟฉายในมือสลับกับเงยหน้ามองเขา จากนั้นก็… “กรี๊ด…!” เธอร้องลั่นพร้อมกับยื่นเท้าถีบออกไปสุดแรง ตุบ! คนไม่ทันตั้งตัวร่วงตุ้บลงไปบนพื้น ครั้นพอจะลุกขึ้น คุณเธอก็ตะโกนเสียงดังลั่นขึ้นมาอีก “หยุดอยู่ตรงนั้นเลยนะไอ้คนลามก คนเลว คุณมันทุเรศที่สุด คุณให้ฉันจับไอ้นั่นของคุณ มัน…อี๋…! เธอพูดพลางทำท่าขยะแขยง แล้วมาส่องกระบอกไฟฉายพ่อเลี้ยงพร้อมกันนะคะ

เมียผมน่ารักจัง

เมียผมน่ารักจัง

Penn Tofallis
4.9

กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"

ท่านแม่ทัพข้าคือศรีภรรยา NC25+

ท่านแม่ทัพข้าคือศรีภรรยา NC25+

ซีไซต์
5.0

องค์หญิงสิบสามนามหลินฮุ่ยหมินสตรีผู้ที่งดงามโดดเด่นไม่เป็นรองผู้ใดแต่กลับมีฐานะต่ำต้อยในวังหลวงด้วยพระมารดาเสียชีวิตตั้งแต่นางยังเด็ก ท่ามกลางความคับแค้นใจนางยังต้องคำสาปร้ายต้องกลายร่างเป็นสัตว์ทุกคืนวันพระจันทร์เต็มดวง เขาคือ หยางเอ้อหลาง แม่ทัพหนุ่มผู้มีความสามารถรูปโฉมสง่างามและเป็นวีรบุรุษคนสุดท้ายของสกุลหยาง ทั้งยังเป็นที่รักเคารพของชาวเมือง ทว่าด้วยความสามารถและตำแหน่งใหญ่โต ฮ่องเต้มิอาจวางใจจึงได้คิดกำจัดเขาให้พ้นตำแหน่งเสีย โดยมอบสมรสพระราชทานให้หยางเอ้อหลางกับพระธิดาของตน เดิมทีชีวิตของคนสองคนย่อมไม่บรรจบ เมื่อสตรีที่หมายหมั้นกับหยางเอ้อหลางคือองค์หญิงใหญ่ที่ปักใจรักเขาตั้งแต่เยาว์วัย ทว่าเรื่องไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อคนทั้งคู่เกิดอุบัติเหตุจนคนเข้าพิธีสมรสกลายเป็นองค์หญิงสิบสาม ท่ามกลางความหวาดกลัวขององค์หญิงสิบสามที่กลัวความลับจะเปิดเผย ท่ามกลางหยางเอ้อหลางที่พยายามพาสกุลหยางให้รอดพ้น ท่ามกลางการแตกหักของความสัมพันธ์พี่น้องที่แสนรักใคร่ระหว่างองค์หญิงใหญ่และองค์หญิงสิบสามเพราะบุรุษเพียงผู้เดียว หลินฮุ่ยหมินจะทำเช่นใด เพื่อจะยุติเรื่องราวน่าเวียนหัวนี้

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
เด็กเลี้ยงของนายหัว
1

บทที่ 1 ครั้งแรก 1

21/12/2023

2

บทที่ 2 ครั้งแรก 2

21/12/2023

3

บทที่ 3 ครั้งแรก 3

21/12/2023

4

บทที่ 4 คนแรก 1

21/12/2023

5

บทที่ 5 คนแรก 2

21/12/2023

6

บทที่ 6 คนแรก 3

21/12/2023

7

บทที่ 7 สมัครงาน 1

21/12/2023

8

บทที่ 8 สมัครงาน 2

21/12/2023

9

บทที่ 9 สัมภาษณ์งาน 1

21/12/2023

10

บทที่ 10 สัมภาษณ์งาน 2

21/12/2023

11

บทที่ 11 อดีตเพื่อนรัก 1

21/12/2023

12

บทที่ 12 อดีตเพื่อนรัก 2

21/12/2023

13

บทที่ 13 เริ่มงานวันแรก 1

21/12/2023

14

บทที่ 14 เริ่มงานวันแรก 2

21/12/2023

15

บทที่ 15 ภาคสนาม 1

21/12/2023

16

บทที่ 16 ภาคสนาม 2

21/12/2023

17

บทที่ 17 เกือบไปแล้ว 1

21/12/2023

18

บทที่ 18 เกือบไปแล้ว 2

21/12/2023

19

บทที่ 19 ความจริง 1

21/12/2023

20

บทที่ 20 ความจริง 2

21/12/2023

21

บทที่ 21 บาดหมาง 1

21/12/2023

22

บทที่ 22 บาดหมาง 2

21/12/2023

23

บทที่ 23 แตกคอ 1

21/12/2023

24

บทที่ 24 แตกคอ 2

21/12/2023

25

บทที่ 25 หนี้พนัน 1

21/12/2023

26

บทที่ 26 หนี้พนัน 2

21/12/2023

27

บทที่ 27 เด็กเลี้ยงของนายหัว 1

21/12/2023

28

บทที่ 28 เด็กเลี้ยงของนายหัว 2

21/12/2023

29

บทที่ 29 แตกหัก 1

21/12/2023

30

บทที่ 30 แตกหัก 2

21/12/2023

31

บทที่ 31 นายหญิงคนใหม่ 1

21/12/2023

32

บทที่ 32 นายหญิงคนใหม่ 2

21/12/2023

33

บทที่ 33 เมียนายหัว 1

21/12/2023

34

บทที่ 34 เมียนายหัว 2

21/12/2023

35

บทที่ 35 ห่วงเมีย 1

21/12/2023

36

บทที่ 36 ห่วงเมีย 2

21/12/2023

37

บทที่ 37 อยากเจอแม่ 1

21/12/2023

38

บทที่ 38 อยากเจอแม่ 2

21/12/2023

39

บทที่ 39 เรื่องในอดีต 1

21/12/2023

40

บทที่ 40 เรื่องในอดีต 2

21/12/2023