Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
บ่วงรักมาเฟียลวง

บ่วงรักมาเฟียลวง

ไรท์เกว

5.0
ความคิดเห็น
3.8K
ชม
33
บท

“ออกไปให้พ้นจากชีวิตพราว คนอย่างคุณมันไม่เคยรักใครนอกจากตัวเอง” “ไม่ว่าจะยังไงผมก็ไม่ยอมปล่อยคุณไปจากชีวิตเด็ดขาด เพราะผมต้องการให้คุณเป็นเมียน้อยผมต่อไป” ตัวอย่างบางตอน “จะรีบไปไหนเรายังไม่ได้คุยกันเลย” “ปล่อย พราวไม่มีอะไรจะคุยกับคุณ” สาวเจ้าพยายามสะบัดมือหนาที่น่าขยะแขยงหมายจะให้มันหลุดพ้นไปจากแขนของเธอ ทว่าคนที่มือเหนียวปานตุ๊กแกก็ไม่ยอมปล่อยแขนเธอให้หลุดมือไปง่ายๆ ไม่พอแค่นั้นเขายังรวบอุ้มเธอพาดบ่าแล้วเดินดุ่มไม่อายสายตาของคนที่อยู่ระแวกนี้แม้แต่น้อย หากเขาไม่อายเธอเองก็จะแหกปากร้องอย่างให้คนช่วยอย่างไม่อายเช่นกัน เพราะไม่อยากจะอยู่แนบชิดกับตะวันวาดแม้แต่นาทีเดียว “ช่วยด้วยค่า ไอ้บ้านี่มันลักพาตัวฉันค่า ช่วยด้วย...” ปากเล็กตะโกนร้องให้คนช่วย ในขณะที่มือน้อยฟาดกำปั้นทุบไปที่แผ่นหลังกว้างไม่ขาดช่วง “แหกปากไปเถอะไม่มีใครช่วยคุณ ที่นี่มีแต่คนของผมทั้งนั้น” ตะวันวาดยังคงเดินเยื้องย่างสบายอารมณ์จนไปถึงลานจอดรถ หลังจากนั้นเขาก็จับพราวจันทร์ยัดเข้าไปในรถตู้ที่นครินทร์จอดรอพวกเขาอยู่แล้ว “ทำชั่วกันเป็นขบวนการจริงๆ” นครินทร์สะดุ้งเล็กน้อยเมื่อพราวจันทร์สบถขณะมาถึงรถ ไม่รู้ว่าเจ้านายตนไปมีเรื่องอะไรกับหญิงสาวก่อนหน้า แต่เขาก็ต้องพยายามทำตัวให้นิ่งที่สุดเท่าที่จะทำได้ และทำหน้าที่ขับรถต่อไปตามที่เจ้านายสั่งเท่านั้น “ถ้าอยากกลับถึงกรุงเทพอย่างปลอดภัยผมขอให้คุณสงบปากสงบคำเอาไว้ดีกว่า” พูดจบตะวันวาดก็ปรับเบาะนอนสบายอารมณ์ พราวจันทร์หันไปมองคนที่นอนอยู่เบาะข้างๆ ด้วยสีหน้าแววตาไม่สบอารมณ์บวกกับความฉงนหนัก ไม่อยากจะเชื่อว่าตะวันวาดจะหลับตาลงได้ในขณะที่เธอยังคงกระวนกระวายใจเพราะความเผด็จการของเขา ท่าทางคงจะทำไม่ดีกับคนอื่นจนชินเป็นนิสัยถึงได้ทำไม่รู้ร้อนรู้หนาวได้เก่งในเวลาที่ต้องบังคับคนอื่น

บทที่ 1 อยากรู้เหตุการณ์ล่วงหน้า

ในเมืองใหญ่ของกรุงเทพมหานครยามหัวค่ำเป็นเวลาที่ท้องถนนครึกครื้นไปด้วยรถยนต์ ตามข้างถนนหรือร้านค้าร้านอาหารที่เปิดก็ครึกครื้นไปด้วยผู้คนเพราะเป็นเวลาเลิกงานของวันสุดสัปดาห์

สามสาวเพื่อนรักที่เพิ่งเรียนจบมาหมาดๆ จากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งย่านชานเมืองกรุงเทพมหานคร พราวจันทร์ เมขลาและล้อมรัก นัดกันมาที่ที่หนึ่งในย่านห้วยขวางเพื่อสักการะเทพที่ศักดิ์สิทธิ์ เพราะต้องการขอพรเพื่อเป็นสิริมงคลก่อนที่จะเริ่มสมัครงานและเข้าสู่วัยทำงานเต็มตัว

สามสาวฝ่าฝูงชนเข้าไปไหว้องค์เทพอยู่พักใหญ่ก็ออกมาหาอะไรรับประทานเพราะตั้งแต่ออกจากบ้านมาก็ยังไม่มีอะไรตกถึงท้อง หลังจากเดินลัดเลาะริมฟุตบาทอยู่พักใหญ่พวกเธอก็มาหยุดอยู่กันที่ร้านก๋วยเตี๋ยวแฟรนไชส์เจ้าดังที่ตั้งร้านอยู่ในซอยเล็กๆ

“ป้าคะเอาหมี่หมูน้ำตกพิเศษลูกชิ้นสามค่ะ แคปหมูสามถุงนะคะ”

“นั่งเลยลูก อีกสามคิวเดี๋ยวป้าทำให้”

“ค่ะ”เป็นเมขลาหญิงสาวร่างสูงเพรียวเดินเข้าไปสั่งอาหารที่หน้าร้านก่อนจะกลับมานั่งรวมกับเพื่อนทั้งสองที่นั่งรออยู่ที่โต๊ะก่อนแล้ว

“สั่งแคปหมูมาด้วยเปล่าเม”

“ของโปรดป้าแว่นเพื่อนรักเพื่อนเลิฟจะลืมได้ยังไง”

ที่เมขลาสั่งแคปหมูมาสามถุงไม่ใช่ว่าเธอจะเอามาแบ่งกันคนละถุง แต่เธอสั่งมาให้พราวจันทร์เพียงคนเดียว เพราะรู้ว่าเพื่อนจะรับประทานก๋วยเตี๋ยวมื้อนี้ไม่อร่อยแน่ หากไม่มีแคปหมูมาคอยเคี้ยวไปกับก๋วยเตี๋ยวในทุกๆ คำ

“เออ..พวกแกเห็นหรือเปล่าตรงที่เราไปไหว้องค์เทพเมื่อกี้ ข้างๆ มีคนไปนั่งดูหมอดูกันเต็มเลย ฉันอยากรู้ว่าหมอที่นี่เค้าแม่นจริงไหม” ล้อมรักสาวเจ้าเนื้อเอ่ยขึ้นมาในระหว่างที่นั่งรออาหาร สงสัยพอสมควรว่าทำไมคนถึงแห่กันมาดูดวงที่นี่มากมายนัก

“ก็คงแม่นจริงๆ นั่นแหละ ไม่อย่างงั้นคนจะรอต่อคิวกันเยอะขนาดนั้นเลยเหรอ” เมขลาเชื่ออย่างไม่มีข้อกังขา ด้วยเพราะเธอเองก็เป็นคนเชื่อเรื่องที่เหนือธรรมชาติมากพอตัวอยู่แล้ว อีกทั้งหากเป็นหมอดูที่ไม่แม่นคงไม่มีคนมารอต่อคิวกันมากมายอย่างที่เห็น

“อยากรู้ว่าแม่นไม่แม่น แกก็ไม่ลองไปต่อคิวดูล่ะล้อม” พราวจันทร์หันมาสะกิดไหล่ล้อมรัก

“ฉันไม่รู้จะดูเรื่องอะไร” ล้อมรักนั่งบุ้ยปากส่ายหัว เพราะตอนนี้ในหัวของเธอว่างเปล่าเรื่องการอยากรู้อนาคต

“งานไง เราไปถามเค้ากันดีไหมว่ายื่นสมัครงานแถวไหนแล้วจะมีโอกาสได้งานสูง จะได้ไม่ต้องเสี่ยงยื่นไปหลายที่” เมขลาออกความเห็น

“อืม...ก็ดีนะ” ล้อมรักเริ่มคลายสีหน้าฉงนและเริ่มแสยะยิ้มร่าดวงตามีประกายแห่งความหวัง หากเธอรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าคร่าวๆ จะได้ทำให้เธอวางแผนอะไรๆ ได้ง่ายขึ้น

“นี่สาวๆ อยากดูดวงกันเหรอ” แม่ค้าก๋วยเตี๋ยวร่างท้วมเดินถือถาดที่วางชามก๋วยเตี๋ยวทั้งสามพร้อมแคปหมูมาให้เหล่าสามสาวด้วยตัวเอง

“ค่ะคุณป้า คุณป้าพอจะรู้ไหมคะว่าหมอดูแถวนี้คนไหนแม่น” ล้อมรักเงยหน้ามองคนที่กำลังวางชามก๋วยเตี๋ยวตรงหน้าพวกเธอ

“อยู่ตรงหน้าพวกหนูไง”

“คุณป้าดูดวงเป็นเหรอคะ” เมขลาเริ่มมองแม่ค้าร่างท้วมด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความสงสัย

“คิดว่าป้าดูเป็นไหมล่ะ ป้าว่าป้าก็พอจะรู้เรื่องของพวกเราอยู่นะ”

สายตาของสามสาวจ้องมองกองถุงแคปหมูกันเป็นตาเดียว เมื่อมันกองอยู่ตรงหน้าของพราวจันทร์เพียงแค่คนเดียวโดยที่พวกเธอไม่ได้บอกก่อน

“ระดับจิตสัมผัสเลยนะเนี่ย” เมขลากระซิบกระซาบกับล้อมรัก ตอนนี้สามสาวเริ่มขนลุกซู่ไปทั้งตัว รู้สึกเหมือนมีพลังงานอะไรบางอย่างที่ทำให้พวกเธอรู้สึกหนาวขั้นมากะทันหัน

“จะกินกันก่อนหรือจะคุยกับป้าก่อนดีล่ะ”

“ขนาดนี้แล้วต้องคุยก่อนแล้วค่ะ” เมขลาไม่ได้สนในชามก๋วยเตี๋ยวที่ส่งกลิ่นหอมเตะจมูกตรงหน้าแล้ว ตอนนี้เธอสนใจมากกว่าว่าแม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยวคนนี้รู้อะไรบ้างเกี่ยวกับพวกเธอ

อีกทั้งที่อยากจะคุยตอนนี้ก็เพราะเห็นว่ายังไม่มีลูกค้าเดินเข้ามาในร้าน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเธอก็ต้องถามให้แน่ใจก่อนว่าจะถูกเรียกเก็บค่าครูกันเท่าไหร่ หากเป็นจำนวนที่พวกเธอจ่ายไม่ไหวเธอก็จะขอผ่านปฏิเสธไปก่อน

“แล้วป้าจะเก็บค่าครูคนละเท่าไหร่คะ”

“หนูสะดวกเท่าไหร่ก็เอาเงินไปไว้ที่กระถางผ้าป่าตรงนั้นก็พอ”

แม้ค้าร่างท้วมชี้ไปยังกระถางผ้าป่าที่มีเงินแบงค์ยี่สิบแบงค์ร้อยเหน็บอยู่กับไม้ก้านยาวเรียวเล็กที่เสียบเข้าไว้กับต้นผ้าป่าหญ้าคาใต้ต้นโพธิ์ใหญ่ที่อยู่ข้างร้านก๋วยเตี๋ยว

สามสาวรู้เช่นนั้นก็พอจะเบาใจเรื่องค่าครูในการดูดวง เพราะพวกเธอก็เป็นแค่เด็กที่เพิ่งเรียนจบใหม่ ไม่ได้อยากใช้เงินฟุ่มเฟือยโดยที่ไม่จำเป็น

“โอเคค่ะ”

หลังจากทั้งสามเอาเงินไปติดที่ถังผ้าป่าคนละหนึ่งร้อยบาท แม่ค้าร่างท้วมก็พาพวกเธอเดินไปที่หลังต้นโพธิ์ บรรยากาศความเงียบงันเย็นยะเยือกที่สามสาวสัมผัสได้ทำเอาพวกเธอขนลุกมาพร้อมๆ กัน เพราะบรรยากาศหน้าร้านก๋วยเตี๋ยวและหลังต้นโพธิ์ใหญ่นี้เหมือนเป็นคนละโลกกันก็ว่าได้

สามสาวมองหน้ากันด้วยแววตาฉงน เพราะไม่คิดว่าหลังต้นโพธิ์ใหญ่นี้จะมีโต๊ะดูดวงวางตั้งอยู่ข้างหลังด้วย เดาได้เลยนว่าแม่ค้าคนนี้คงทำสองอาชีพในเวลาเดียวกันแน่นอน

และที่น่าแปลกใจไปกว่านั้นตรงหน้าโต๊ะสีแดงตอนนี้มีเก้าอี้อยู่สามตัวเท่ากับจำนวนของพวกเธอพอดี เหมือนตั้งเอาไว้รอพวกเธออย่างไงอย่างงั้น

“นั่งสิ”

เสียงของป้าขายก๋วยเตี๋ยวเริ่มมีน้ำเสียงที่ต่ำและเชื่องช้าลง นั่นยิ่งเพิ่มความน่าขนลุกให้กับสามสาวเข้าไปใหญ่ แต่ก็ไม่มีใครกระโตกกระตากพูดถึงความน่ากลัวออกมาได้แต่มองหน้าและใช้สายตาสื่อสารกันเท่านั้น

“อยากยื่นใบสมัครงานอยู่ใช่ไหม”

“ใช่ค่ะ”

พราวจันทร์พยักหน้าหงึกๆ เพราะเธอยังไม่ทันที่จะได้พูดอะไรแม่ค้าร่างท้วมที่กำลังอยู่ในสถานะของหมอดูก็ทักสิ่งที่อยู่ในใจของเธอออกมาแล้ว

“อืมของหนูคนนี้...” แม่ค้าร่างท้วมมองมายังพราวจันทร์

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ ไรท์เกว

ข้อมูลเพิ่มเติม
กรงรักรามินทร์

กรงรักรามินทร์

โรแมนติก

5.0

เขาพรากแม่ของเธอไปยังไม่พอ ยังมาพรากอิสระของชีวิตโดยการให้เธอแต่งงานกับเขาอีก ดวงตาของเธอ...มองไม่เห็น เพราะผลพวงจากการเกิดอุบัติเหตุครั้งนั้น อุบัติเหตุที่พรากแม่ของเธอไปตลอดกาล หากเป็นไปได้เธอก็อยากจะจากโลกนี้ไปพร้อมกับแม่ จะได้ไม่ต้องมาถูกคนเป็นพ่อบังคับให้แต่งงานกับคนที่พรากชีวิตแม่ของเธอไป เพราะต้องการเงินมาใช้หนี้ นิยายเรื่องนี้เกิดจากจินตนาการของผู้เขียนไม่ได้มีเจตนาจงใจอ้างอิงถึงใครหรือสิ่งใด ขอทำความเข้าใจ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ พูดคุยและติดตามอัพเดตนิยายเรื่องใหม่ๆ ได้ที่ FB: ไรท์เกว

ลวงรักเจ้าสาวบ้านไร่

ลวงรักเจ้าสาวบ้านไร่

โรแมนติก

5.0

คราแรกเข้ามาทำเป็นรักเพื่อผลประโยชน์ ทว่าความน่ารักอ่อนโยนของเธอก็ทำให้หัวใจที่ถูกทำร้ายจนเหี่ยวเฉากลับมามีความสดชื่นอีกครั้ง ชีวิตรักของธารดาวและแสนรักไม่ได้สวยงามดั่งใจที่หวัง เพราะแผนการร้ายที่ชายหนุ่มเริ่มต้นเอาไว้ มันย้อนกลับมาทำร้ายความสัมพันธ์ของพวกเขาจนไม่เหลือชิ้นดี เมื่อคำว่ารักจากลมปากชายหนุ่มกลายเป็นแค่คำหลอกลวงสำหรับหญิงสาวที่กำลังอุ้มท้องลูกของคนใจร้าย เธอจะจัดการชีวิตยังไงต่อไป ติดตามอ่านเรื่องราวของพวกเขาทั้งสองได้ในเรื่อง ลวงรักเจ้าสาวบ้านไร่ ได้เลยนะคะ เนื้อหาในนิยายไม่ว่าจะเป็นชื่อคนหรือสถานที่ล้วนเกิดจากจินตนาการ ไม่ได้มีเจตนาอ้างอิงถึงใครหรือสิ่งใด ขอทำความเข้าใจ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ ติดตามการอัปเดตนิยายใหม่ๆ หรือพูดคุยกับไรท์ได้ที่ FB: ไรท์เกว นะคะ ธารดาวในชุดคลุมท้องสีชมพูหวานยืนโอบกอดหน้าท้องที่เพิ่งนูนออกมาเล็กๆ หญิงสาวยิ้มทั้งน้ำตาเพราะรู้สึกมีความสุขและทุกข์ใจไปในคราวเดียวกัน ไม่ได้อยากส่งพลังงานไม่ดีไปยังลูกน้อยในท้อง แต่ไม่ว่าจะทำอย่างไรเธอก็ไม่สามารถลืมความข่มขื่นใจใจที่เพิ่งเจอมาได้เลย “แม่ขอโทษนะลูก แม่จะพยายามเข้มแข็งให้เร็วที่สุด แม่สัญญา” ธารดาวนึกย้อนกลับไปในอดีตที่ผ่านมาไม่นานนัก ก่อนหน้านี้เธอและพี่ชายได้ใช้ชีวิตอยู่อย่างมีความสุขในไร่แสงฟ้า ไร่ที่เป็นมรดกตกทอดมาจากยายของเธอ ชีวิตของเธอเป็นไปอย่างเรียบง่ายในวิถีชีวิตที่ชนบท จนกระทั่งมีใครบางคนเข้ามาในชีวิต เขาให้ทั้งความสุขที่เธอไม่เคยพานพบ และก็ให้ความทุกข์ระทมใจที่เธอไม่เคยได้รับมาก่อนเช่นกัน

กลรักรณพีย์

กลรักรณพีย์

โรแมนติก

5.0

“อย่ามาแตะตัวฉัน” พลอยชมพูถอยห่างและส่งเสียงแข็งปรามอีกฝ่ายเมื่อเขากำลังยื่นมือหมายจะเชยคางของเธอ “อย่าหวงตัวไปหน่อยเลย เพราะถ้าคุณหวงตัวกับผม พ่อของคุณนั่นแหละจะเจ็บตัว” นี่หรือคนที่เธอเคยชื่นชมว่าเป็นสุภาพบุรุษ ตอนนี้เขาทำกับเธออย่างป่าเถื่อนและโหดร้าย เพียงเพราะต้องการที่จะใช้เธอเป็นเครื่องมือแก้แค้นพ่อของเธอ ผิดด้วยหรือที่เขาใจร้าย ในเมื่อเขาถูกกระทำให้เป็นแพะรับบาปว่าฆ่าพ่อตัวเองก่อน และเธอ...ก็เป็นเครื่องมือที่ดีที่สุดที่เขาจะใช้ในการแก้แค้น เนื้อหาในนิยายล้วนเกิดจากจินตนาการของนักเขียน ไม่ได้มีเจตนาอ้างอิงถึงใครหรือสิ่งใด ขอทำความเข้าใจ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ

ประธานคนนี้สามีของฉัน

ประธานคนนี้สามีของฉัน

โรแมนติก

5.0

“ไม่ขายแล้วโว้ยนิยาย ขายตัวดีกว่า” เพราะคำที่ตะโกนออกไปในตอนที่เมา เป็นผลพวงทำให้เธอได้ป่าวประกาศว่า “ประธานคนนี้สามีของฉัน” ในวันแต่งงาน เธอ นักเขียนนิยายที่เริ่มย่อท้อในการเป็นนักเขียน เพราะไม่ว่าจะทำยังไงเธอก็ไม่ประสบผลสำเร็จในเส้นทางนี้เสียที เธอนั่งดื่มคลายเครียดแล้วตะโกนว่าอยากขายตัวในขณะที่ไม่มีสติ... เขา ประธานผู้บริหารโรงพยาบาลเอกชนยักษ์ใหญ่ ผู้ที่เชื่อมั่นในรักแรกพบ ในเมื่อคนที่ถูกตาต้องใจเสนอขายตัวมาแล้ว มีหรือเขาจะไม่สนอง... เนื้อหาในนิยายล้วนเกิดจากจินตนาการ ไม่มีเจตนาอ้างอิงถึงใครหรือสิ่งใด ขอทำความเข้าใจ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ ติดตามอัพเดตนิยายใหม่ๆ หรือพูดคุยกับไรท์ได้ที่ FB: ไรท์เกว

Amore โซ่รักซ่อนสายใย

Amore โซ่รักซ่อนสายใย

โรแมนติก

5.0

“จำเอาไว้ ถ้าคุณมีลูกเมื่อไหร่ วันนั้นผมจะพรากลูกคุณไปให้ไกลแสนไกล คุณจะต้องเจ็บปวดทรมานเจียนตาย ให้สาสมกับที่เข้ามาหลอกลวงผม” เพราะคำประกาศิตนี้เธอถึงให้เขารู้เรื่องลูกไม่ได้ ชื่อตัวละคร ชื่อสถานที่ และเนื้อหาในนิยายล้วนเกิดขึ้นจากจินตนาการของนักเขียน ไม่ได้มีเจตนาอ้างอิงถึงใครหรือสิ่งใด ขอทำความเข้าใจ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ ติดตามการอัพเดตนิยายใหม่ๆ หรือพูดคุยกับไรท์ได้ที่ FB: ไรท์เกว ตัวอย่างบางตอน เจ้าเอยเดินหน้าเศร้ามายืนอยู่ที่หน้าห้องทำงานของมานูแอล เธอยืนถอนหายใจครู่หนึ่งก่อนที่จะตัดสินใจเคาะประตู ก๊อก ก๊อก ก๊อก เธอเคาะประตูเรียบร้อยก็เปิดประตูเดินก้มหน้าก้มตาเข้าไปด้านใน “ไปไหนมา” เสียงแข็งที่เอ่ยทักทายทำเข้าเอยเริ่มกำมือกันแน่น ประหม่ากับเรื่องที่จะพูดกับมานูแอลพอสมควร “เอยขอยืมเงินคุณสักห้าหมื่นได้ไหมคะ แล้วเอยจะรีบหามาคืนค่ะ” เธอไม่อยากลงรายละเอียดว่าจะเอาเงินไปจ่ายค่ารักษาของพ่อ เดี๋ยวจะถูกมองสิ่งที่เธอต้องการจากเขาก็มีเพียงแค่เงินเท่านั้น “หึ่...” มานูแอลละสายตาจากการมองหน้าจอไปแพดในมือ เขาสบถในลำคอเสมือนกำลังเยาะเย้ยตัวเองและหญิงสาวไปพร้อมๆ กัน เขารู้ความจริงเรื่องที่เธอเข้ามาในชีวิตจเขาเพราะเงินไม่เท่าไหร่ วันนี้หญิงสาวก็แบกหน้ามาขอให้เขาช่วยเหลือเรื่องเงินอย่างหน้าไม่อาย “ผมไม่ให้ยืม แต่ผมจะให้เป็นค่าตัว แค่คุณนอนอ้าขาให้ผมระบายอารมณ์ ผมจะให้คุณครั้งละสองหมื่น” สิ้นเสียงของมานูแอเสมือนมีก้อนอะไรแข็งๆ ติดอยู่ที่คอของเจ้าเอย เธอกลืนน้ำลายไม่ลงคอ ทั้งยังต้องพยายามกลั้นน้ำตาเพราะรู้ตัวว่ากำลังถูกดูถูกค่าความเป็นคน แต่ยังไงเธอก็ต้องยอม “ครั้งนี้ผมจะให้ห้าหมื่นตามที่คุณขอก็แล้วกัน อีกสองชั่วโมงผมจะเข้าไปที่ห้องนอนคุณก็จัดการตัวเองให้เรียบร้อยก็แล้วกัน” เจ้าเอยพยักหน้าน้อยๆ รับคำของมานูแอล หลังจากนั้นจึงรีบหันหลังให้เขาและเดินออกไปจากห้องทำงานของชายหนุ่ม เพราะไม่อยากให้เขาได้เห็นน้ำตาจากความอ่อนแอของเธอ

Relazione เจ้าหัวใจสายใยรัห

Relazione เจ้าหัวใจสายใยรัห

โรแมนติก

5.0

“เหนื่อยทั้งกายเหนื่อยทั้งใจค่ะ แต่ม่อนไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ อยู่แล้วค่ะ หัวใจของเค้าเป็นของม่อนมาตั้งแต่แรก แค่ตอนนี้กำลังล่องลอยไม่รู้จุดหมาย แต่ม่อนจะตามหัวใจของเค้ากลับมาอยู่ที่ม่อนเหมือนเดิมให้ได้ค่ะ” เนื้อหาในนิยายล้วนเกิดจากจินตนาการไม่ได้มีเจตนาอ้างอิงถึงใครหรือสิ่งใด ขอทำความเข้าใจ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ ติดตามอัพเดตนิยายใหม่ๆ หรือพูดคุยกับไรท์ได้ที่ FB: ไรท์เกว ตัวอย่างบางตอน “แผล...แอล” หญิงสาวรีบพลิกตัวชายหนุ่มเพื่อดูรอยแผลเป็นตรงหัวไหล่ข้างซ้ายของเขา รอยแผลของเขายังอยู่ เธอคิดไม่ผิดจริงๆ ว่ายังไงเขาก็คือแอลคนรักของเธอ “ผมไม่ใช่แอล” ลอเลนโซพลิกตัวกลับมาพูดกับหญิงสาวเสียงเข้ม อันที่จริงเขาตื่นก่อนเธอนานแล้วและสามารถออกไปจากบ้านของเธอได้แต่ไม่คิดจะทำ เพราะอยากจะรู้เท่านั้นว่าหากเธอตื่นมาเจอเขาอยู่ข้างๆ จะมีปฏิกิริยาอย่างไร “ถ้าไม่ใช่ แล้วคุณมายุ่งกับฉันทำไม” หญิงสาวตวาดเสียงสั่นเพราะโมโหที่เธอจับเขาได้ขนาดนี้ยังจะมาปฏิเสธหน้าด้านๆ มือเรียวกำหมัดกันแน่น ดวงตาคู่สวยเริ่มมีน้ำตาคลอจ้องมองค้อนคนข้างกายไม่วางตา “ผมเป็นผู้ชาย คุณเสนอมาผมก็แค่สนองไปก็เท่านั้น อ่อ... ถ้าติดใจครั้งหน้าผมก็น่าจะแอบมาเจอคุณได้” “อย่ามาดูถูกฉันนะ” “ก็คุณ...ทำตัวให้ผมดูถูกเอง ถ้าไม่อยากถูกผมมองอย่างดูถูกอีก ก็อยู่ให้ห่างผมเข้าไว้เข้าใจใช่ไหม” เขายื่นหน้าเข้ามากระซิบข้างหูของคนที่กำลังมีน้ำตาด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ออกไปจากบ้านฉัน อ๊าย... ฮือๆๆๆ...” ม่อนไหมผลักใบหน้าลอเลนโซเต็มแรง เธอกรีดร้องลั่นด้วยความเจ็บใจและฟุบหน้ากอดเข่าร้องสะอึกสะอื้นไม่ยอมเงยหน้ามองความเป็นจริง

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ที่แท้เป็นผู้มีอิทธิพลระดับโลก

ที่แท้เป็นผู้มีอิทธิพลระดับโลก

Odey Jagoe
5.0

เสิ่นซือหนิงซ่อนตัวตนไว้ยอมทำทุกอย่างให้ แต่ความจริงใจของเธอกลับถูกสามีทำลายไปหมด และสิ่งที่เธอได้รับนั้นคือข้อตกลงการหย่า ด้วยความผิดหวังเธอจึงหันหลังจากไปและกลายเป็นตัวเองที่แท้จริงอีกครั้ง หลังจากได้เห็นความใกล้ชิดของสามีกับคนรักของเขา เธอก็จากไปด้วยความผิดหวัง จากนั้นเปิดเผยตัวตนที่เป็นนักปรุงน้ำหอมอัจฉริยะระดับนานาชาติ ผู้ก่อตั้งองค์กรข่าวกรองที่มีชื่อเสียง และผู้สืบทอดในโลกแฮ็กเกอร์ อดีตสามีของเธอเลยเสียใจมาก เมื่อเมิ่งซือเฉินรู้ว่าตัวเองทำผิด เขาก็เสียใจมาก หนิง ผมผิดไปแล้ว ให้โอกาสผมอีกครั้งเถอะ ทว่าฮั่วจิ่งชวนขาพิการนั้นกลับลุกขึ้นยืนและจับมือกับเธอว่า "อยากคบกับเธอ นายยังไม่มีค่าพอ"

ความลับของท่านประธาน

ความลับของท่านประธาน

ปีศาจชอนซา
5.0

นายพายุ ศิระภาคิณ อายุสามสิบปี นักธุรกิจหนุ่มประธานบริษัทส่งออกผ้าไทย วีรกรรมที่เขาทำไว้เมื่อสิบกว่าปีก่อน กำลังจะย้อนกลับมา เมื่อนางสาวแพรไหม โภสิกุล ดีไซเนอร์สาวอายุยี่สิบเก้าปี ได้ปรากฏตัวขึ้นหลังจากที่เธอนั้นหายออกไปจากมหาวิทยาลัย กว่าสิบปี โดยไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งทำให้ท่านประธานหนุ่มเริ่มอยากรู้ชีวิตของเธอ เมื่อครั้งหนึ่งเรือนร่างอันบอบบางอรชรเคยหล่อหลอมเป็นหนึ่งเดียวกับเขามาแล้ว ถ้าหากเขาต้องการสานสัมพันธ์กับเธออีกครั้ง มันก็ไม่แปลกหากเธอนั้นยังโสดแพรไหมจะยังต้องการเขาอยู่หรือไม่ ในเมื่อเธอคิดว่าพายุนั้นเป็นแค่ผู้ชายที่พรากความบริสุทธิ์ไปจากเธอเท่านั้น ซึ่งเวลานี้เธอก็ยังคงมองเขาในด้านลบอยู่ดี แม้ว่าเวลาจะผ่านไปเป็นสิบปีแล้วก็ตาม "แม่ของหนูชื่ออะไร ตอนนี้อยู่ที่ไหน บอกฉันได้ไหม" พายุถามพร้อมกับจ้องลงไปที่ดวงตาแป๋วของเด็กหญิงตรงหน้า เมื่อเขามั่นใจว่าสายตาจะไม่โกหก "แม่ของหนูชื่อแพรไหม!" เด็กหญิงพูดออกมา พร้อมกับจ้องสายตาคมของผู้เป็นบิดาอย่างไม่กะพริบตา เพื่อยืนยันว่าเธอนั้นไม่ได้โกหก “ฮ่ะ!” พายุอุทานออกมาเสียงดัง ขณะที่หัวใจของเขานั้นเต้นแรง ก่อนจะยิ้มกว้างออกมาด้วยความดีใจที่สุดในชีวิต "ถ้าคุณไม่เชื่อ พาหนูไปตรวจดีเอ็นเอก็ได้นะคะ" เด็กหญิงพูดออกมาพร้อมกับมีใบหน้าที่เศร้าหม่น เมื่อเธอคิดว่าบิดาคงไม่เชื่อในสิ่งที่เธอนั้นพูดออกมา "ไม่จำเป็น!" พายุพูดออกมาด้วยน้ำเสียงแข็ง เพื่อยืนกรานที่จะตรวจดีเอ็นเอ จนทำให้คนฟังนั้นหวาดกลัว เพราะใยไหมคิดว่าบิดานั้นไม่เชื่อใจเธอ "หนูขอโทษที่มารบกวน หนูขอตัวกลับก่อนนะคะ สวัสดีค่ะ" ใยไหมพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ เธอยกมือขึ้นไหว้ผู้เป็นบิดาอย่างนอบน้อม ประหนึ่งว่าจะไม่ได้เจอเขาอีกแล้วในชีวิตนี้ เมื่อเธอได้สัญญากับผู้เป็นมารดาเอาไว้ หากถูกปฏิเสธแล้วไซร้ จะขอกลับไปไม่กลับมาหาชายตรงหน้าอีกเลยตราบชั่วชีวิต "แล้วหนูจะไปไหน นั่งลงก่อนสิ" พายุพูดพร้อมกับจับร่างเล็กของลูกสาวนั่งลงข้าง ๆ อีกครั้ง "ที่บอกว่าไม่จำเป็น นั่นเป็นเพราะว่าพ่อเชื่อว่าหนูเป็นลูกของพ่อโดยไม่ต้องตรวจดีเอ็นเอ!" พายุพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น ใยไหมไม่รอช้าโผเข้าไปกอดผู้เป็นบิดาอีกครั้งในทันที ก่อนจะร้องไห้ออกมาเพราะความดีใจ "ไม่ร้องนะครับคนเก่งของพ่อ" พายุพูดพร้อมทั้งเอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาที่แก้มใสของลูกสาวออกจนสิ้น ในขณะที่ตัวของเขาเองก็น้ำตาคลอเช่นกัน "หนูขอเรียกพ่อว่าคุณป๋านะคะ" เสียงเจี๊ยวจ๊าวพูดออกมาอย่างรื่นหู คุณป๋าที่เด็กหญิงพูดนั้น ทำให้พายุอดที่จะหัวเราะออกมาอย่างชอบใจไม่ได้ "ฮ่า! ฮ่า! ฮ่า! ทำไมถึงต้องเรียกพ่อว่าคุณป๋าด้วยละ หืม" พายุเอ่ยถามลูกสาวออกมา ขณะที่เขายังคงกอดเด็กหญิงเอาไว้ ด้วยความรักความผูกพันของสายใยระหว่างพ่อลูก ที่มันพันผูกจนมาสามารถอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้ "มาดาม ไม่ชอบให้หนูมีพ่อ หนูก็จะมีคุณป๋าแทนยังไงล่ะคะ" คำตอบของลูกสาวทำให้พายุยิ้มไม่หุบครั้งแล้วครั้งเล่า เธอช่างเป็นเด็กฉลาดและร่าเริง ผิดกับแพรไหมมารดาของเธอ ที่ชอบทำหน้าเหมือนแบกโลกทั้งใบเอาไว้ตลอดเวลา "ทำไมถึงเรียกแม่ว่ามาดาม ตอนนี้แม่แต่งงานไปแล้วหรือยัง" เวลานี้พายุลุ้นคำตอบจากลูกสาว หรือแพรไหมจะแต่งงานกับฝรั่งตาน้ำข้าวไปแล้ว ใยไหมถึงได้เรียกเธอว่ามาดาม "แม่ยังไม่มีใคร มีแค่ลุงดนัยที่ชอบมาข้องแวะ แต่หนูไม่ชอบเขาเลย เพราะเขาชอบทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของมาดามอยู่เรื่อย" คำตอบของลูกสาวช่างอิ่มเอมใจ เมื่อแพรไหมไม่มีใครเขาก็พร้อมจะสานสัมพันธ์ แต่งานนี้คงจะยากหากผู้ชายคนนั้นมาข้องแวะ แต่เขามีลูกสาวที่ยืนเคียงข้างแล้วจะกลัวอะไร "ถ้าพ่ออยากจะจีบแม่ต้องทำยังไง" "โอ้! เจ๋งเป้งมากค่ะคุณป๋า เดี๋ยวหนูจะช่วยเอง" ใยไหมพูดออกมาด้วยความดีใจ นั่นคือสิ่งที่เธอปรารถนามาแสนนาน อยากให้บิดามารดาได้ลงเอยกันสักที "ลูกรับปากพ่อแล้วน๊า... " พายุพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่น่ารัก "แต่เราต้องมาทำข้อตกลงกันก่อนค่ะ คุณป๋า" ใยไหม ผละออกจากอกกว้างของผู้เป็นบิดา พร้อมกับหยิบคุกกี้ตรงหน้าเข้าปาก "หิวหรือยัง ไปทานข้าวก่อนดีไหม" พายุเอ่ยถามออกมาด้วยความห่วงใย เมื่อเห็นลูกสาวนั้นหยิบคุกกี้เข้าปากคำโต "เดี๋ยวค่อยไปทานก็ได้ค่ะ แต่เราต้องมาทำข้อตกลงกันก่อน เรื่องที่หนูเป็นลูกสาวของคุณป๋า ห้ามให้ใครรู้ ทุกอย่างจะเป็นความลับระหว่างเราได้ไหมคะ" พายุทำหน้าสงสัยกลับไปให้เด็กหญิง เธอกำลังคิดจะทำอะไร ใครหลายคนคงดีใจหากได้เป็นลูกสาวของท่านประธาน "ทำไมเป็นลูกสาวพ่อมันไม่ดีตรงไหนเหรอ ลูกถึงไม่อยากให้ใครรู้" พายุเอ่ยถามออกไปด้วยน้ำเสียงที่แสดงออกถึงความน้อยใจ เมื่อลูกสาวไม่อยากให้ใครรับรู้ว่าเขาเป็นบิดาของเธอ "เป็นลูกสาวของป๋าดีที่สุดแล้ว แต่หนูไม่อยากให้ใครมองมาดามในทางไม่ดี ทุกคนต้องรู้แน่ สาเหตุที่มาดามต้องออกจากมหา'ลัยกลางคัน" คำบอกเล่าของใยไหมเป็นเหมือนดังคมหอก ที่ทิ่มแทงเข้ามาในหัวใจของพายุ เด็กหญิงตรงหน้าช่างมีความคิดแบบผู้ใหญ่ เธอถูกเลี้ยงมาแบบไหนทำไมถึงได้ฉลาดอย่างนี้ แพรไหมคงดูแลอบรมลูกสาวมาอย่างดี ต่างจากเขาผู้เป็นบิดาที่ไม่เคยได้เหลียวแล "พ่อขอโทษนะ ที่ไม่เคยได้ดูแลหนูเลย ต่อจากนี้ไปพ่อจะไม่ทิ้งหนูกับแม่ให้อยู่กันตามลำพังอีกแล้ว" คำพูดของผู้เป็นบิดากำลังทำให้เด็กหญิงหัวใจพองโต เธอดีใจที่ผู้เป็นพายุไม่ปฏิเสธ แถมเขายังคิดที่จะสานสัมพันธ์กับมาดามของเธออีกครั้ง คงไม่มีอะไรทำให้เด็กหญิงมีความสุขเท่าสิ่งนี้มาก่อนเลยในชีวิต "ก่อนอื่นคุณป๋า ต้องจีบมาดามให้ติดก่อน หนูบอกเลยว่างานหิน มาดามดื้อจะตาย ขนาดลุงดนัยตามจีบหลายปี มาดามยังปฏิเสธทุกครั้ง แต่ลุงดนัยก็ตื้ออยู่ได้" ใยไหมพูดพร้อมกับทำหน้างอ ออกมาได้อย่างน่ารัก "ป๋ามีลูกสาวคอยช่วยจะกลัวอะไร ไปทานข้าวกันดีกว่า เดี๋ยวป๋าจะไปส่งที่บ้าน" พายุพูดออกมาด้วยสายตาที่มีความหวัง เขาคงไม่ต้องใช้นักสืบ ในเมื่อโชคชะตากำหนดให้หญิงสาวเดินเข้ามาในชีวิตของเขาเอง แถมอยู่ดี ๆ ก็ได้ลูกสาวมาหนึ่งคน ที่น่ารักซะจนทำให้เขานั้นอยากไว้หนวด

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
บ่วงรักมาเฟียลวง
1

บทที่ 1 อยากรู้เหตุการณ์ล่วงหน้า

13/04/2024

2

บทที่ 2 เป็นใครกันแน่

13/04/2024

3

บทที่ 3 สัมภาษณ์งาน

13/04/2024

4

บทที่ 4 คำทำนายเป็นจริง

13/04/2024

5

บทที่ 5 งานเลี้ยงต้อนรับ

13/04/2024

6

บทที่ 6 เปลี่ยนเป็นคนละคน

13/04/2024

7

บทที่ 7 เปลี่ยนแผน

13/04/2024

8

บทที่ 8 ค้างคืนบนเรือ

13/04/2024

9

บทที่ 9 รู้สึกต้องการ

13/04/2024

10

บทที่ 10 เลวกว่าที่คิด

13/04/2024

11

บทที่ 11 ไม่รักแม้แต่นิดเดียว

13/04/2024

12

บทที่ 12 เลิกเรียกว่าเมีย

13/04/2024

13

บทที่ 13 ผัวชั่ว

13/04/2024

14

บทที่ 14 ถ่ายพรีเวดดิ้ง

13/04/2024

15

บทที่ 15 รีบแต่งงาน

13/04/2024

16

บทที่ 16 ชิงสุกก่อนห่าม

13/04/2024

17

บทที่ 17 บีบบังคับ

13/04/2024

18

บทที่ 18 ตราหน้าว่าเป็นเมียน้อย

13/04/2024

19

บทที่ 19 เรื่องร้าย

13/04/2024

20

บทที่ 20 แย่งความรัก

13/04/2024

21

บทที่ 21 ไม่ปล่อยไปง่ายๆ

13/04/2024

22

บทที่ 22 ถูกพิษ

13/04/2024

23

บทที่ 23 รู้สึกผิด

13/04/2024

24

บทที่ 24 แม่

13/04/2024

25

บทที่ 25 รู้สึกพิเศษ

13/04/2024

26

บทที่ 26 อยากหอมเมีย

13/04/2024

27

บทที่ 27 ขอให้ห่างจากลูกสาว

13/04/2024

28

บทที่ 28 หาเรื่อง

13/04/2024

29

บทที่ 29 ขอโทษจากใจจริง

13/04/2024

30

บทที่ 30 ปวดหัวใจ

13/04/2024

31

บทที่ 31 ปัญหาหัวใจ

13/04/2024

32

บทที่ 32 คิดถึงใจจะขาด

13/04/2024

33

บทที่ 33 ตอนจบ

13/04/2024