“เหนื่อยทั้งกายเหนื่อยทั้งใจค่ะ แต่ม่อนไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ อยู่แล้วค่ะ หัวใจของเค้าเป็นของม่อนมาตั้งแต่แรก แค่ตอนนี้กำลังล่องลอยไม่รู้จุดหมาย แต่ม่อนจะตามหัวใจของเค้ากลับมาอยู่ที่ม่อนเหมือนเดิมให้ได้ค่ะ” เนื้อหาในนิยายล้วนเกิดจากจินตนาการไม่ได้มีเจตนาอ้างอิงถึงใครหรือสิ่งใด ขอทำความเข้าใจ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ ติดตามอัพเดตนิยายใหม่ๆ หรือพูดคุยกับไรท์ได้ที่ FB: ไรท์เกว ตัวอย่างบางตอน “แผล...แอล” หญิงสาวรีบพลิกตัวชายหนุ่มเพื่อดูรอยแผลเป็นตรงหัวไหล่ข้างซ้ายของเขา รอยแผลของเขายังอยู่ เธอคิดไม่ผิดจริงๆ ว่ายังไงเขาก็คือแอลคนรักของเธอ “ผมไม่ใช่แอล” ลอเลนโซพลิกตัวกลับมาพูดกับหญิงสาวเสียงเข้ม อันที่จริงเขาตื่นก่อนเธอนานแล้วและสามารถออกไปจากบ้านของเธอได้แต่ไม่คิดจะทำ เพราะอยากจะรู้เท่านั้นว่าหากเธอตื่นมาเจอเขาอยู่ข้างๆ จะมีปฏิกิริยาอย่างไร “ถ้าไม่ใช่ แล้วคุณมายุ่งกับฉันทำไม” หญิงสาวตวาดเสียงสั่นเพราะโมโหที่เธอจับเขาได้ขนาดนี้ยังจะมาปฏิเสธหน้าด้านๆ มือเรียวกำหมัดกันแน่น ดวงตาคู่สวยเริ่มมีน้ำตาคลอจ้องมองค้อนคนข้างกายไม่วางตา “ผมเป็นผู้ชาย คุณเสนอมาผมก็แค่สนองไปก็เท่านั้น อ่อ... ถ้าติดใจครั้งหน้าผมก็น่าจะแอบมาเจอคุณได้” “อย่ามาดูถูกฉันนะ” “ก็คุณ...ทำตัวให้ผมดูถูกเอง ถ้าไม่อยากถูกผมมองอย่างดูถูกอีก ก็อยู่ให้ห่างผมเข้าไว้เข้าใจใช่ไหม” เขายื่นหน้าเข้ามากระซิบข้างหูของคนที่กำลังมีน้ำตาด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ออกไปจากบ้านฉัน อ๊าย... ฮือๆๆๆ...” ม่อนไหมผลักใบหน้าลอเลนโซเต็มแรง เธอกรีดร้องลั่นด้วยความเจ็บใจและฟุบหน้ากอดเข่าร้องสะอึกสะอื้นไม่ยอมเงยหน้ามองความเป็นจริง
‘ไม่ต้องตามหาผม ขอโทษที่ต้องหายไปแบบนี้’ ต้นสายพยาบาลสาวหน้าสวยอ่านข้อความในจดหมายแผ่นเล็กจบก็กัดฟันบุ้ยปากสีหน้าเคร่งเครียด เพราะคิดเอาไว้แล้วว่าสามีของเพื่อนตัวเองนั้นเป็นคนที่ไม่ค่อยน่าไว้ใจสักเท่าไหร่
“ว่าแล้วเชียวไอ้ฝรั่งคนนี้มันดูลึกลับแปลกๆ” หญิงสาวยื่นจดหมายแผ่นเล็กคืนให้กับม่อนไหมที่เอาแต่นั่งกอดเข่าสะอึกสะอื้นอยู่ข้างๆ
“สาย เงียบปากเดี๋ยวนี้เลย” นิลน้ำนางพยาบาลสาวแว่นผลักหัวไหล่ต้นสายเบาๆ ทั้งขมวดคิ้วปรามให้ต้นสายได้รู้ว่าไม่ควรพูดอะไรที่สะเทือนจิตใจของม่อนไหมในตอนนี้ เพราะตอนนี้รู้ดีว่าหัวใจของม่อนไหมเจ็บปวดจนแทบจะสลาย ด้วยแต่งงานกับคนรักได้ไม่นานเขาก็หนีหน้าไปไม่ลาเสียอย่างนั้น
“ฮื่อ ฮื่อ ฮือๆๆ...” ม่อนไหมก้มหน้างุดสะอึกสะอื้นเสียงดังขึ้นเรื่อยๆ หัวใจของเธอตอนนี้ถูกความเครียดความเสียใจบีบคั้นจนรู้สึกปวดหนึบ เจ็บปวดจนพูดอะไรไม่ออก ได้แต่ระบายความเจ็บปวดออกมาผ่านน้ำตาและเสียงร้องให้เท่านั้น
ม่านแก้วมองหลานรักของตัวเองด้วยสายตสงสารและเหนื่อยใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น เธอพูดอะไรไม่ออกเหมือนกัน คราแรกที่ยอมให้ม่อนไหมให้แต่งงานกับฝรั่งตาน้ำข้าวที่ไม่รู้หัวนอนปลายเท้าก็เพราะเห็นว่าม่อนไหมน่าจะเห็นความดีอะไรในตัวของผู้ชายคนนั้น แต่ดูท่าตอนนี้หลานของเธอน่าจะดูคนผิดไป หวังว่าบทเรียนครั้งนี้จะทำให้ม่อนไหมไม่ไว้ใจใครได้ง่ายๆ อีก
“หึ่ม...นี่”
“หยุด” นิลน้ำชี้หน้าต้นสายเมื่อเห็นว่าเพื่อนของเธอกำลังจะเอ่ยพูดออกมา ด้วยรู้นิสัยเพื่อนเธอคนนี้ดีว่าไม่น่าจะเป็นคำพูดที่ปลอบใจม่อนไหมที่กำลังเสียใจอยู่แน่นอน ปรามต้นสายเรียบร้อยก็เข้าไปทิ้งตัวนั่งลงข้างๆ ม่อนไหมโอบกอดคนที่กำลังสะอื้นตัวสั่นเทาเงียบๆ
“วุ้ย...” ต้นสายลุกขึ้นเดินไปยืนกอดอกอยู่ที่หน้าประตูบ้าน เธออยากจะพูดออกมาเสียเหลือเกินว่าเห็นหรือยังผลของการไว้ใจคนง่ายมันเป็นเช่นไร
ย้อนไปเมื่อสามสี่เดือนก่อนหน้านี้ม่อนไหมได้พบเจอกับชายหนุ่มต่างชาติที่นอนจมกองเลือดอยู่ริมถนนหน้าปากทางเข้าบ้านของเธอ หลังจากนั้นก็ได้ช่วยชีวิตของเขาและดูแลจนหายดี แต่มีปัญหาตรงที่ชายหนุ่มบอกว่าตัวเองจำอะไรไม่ได้และไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใคร ม่อนไหมจึงให้เขาอาศัยอยู่ที่บ้านอีกหลังของเธอ
หลังจากนั้นทั้งคู่ก็สนิทสนมกันมากขึ้นจนเกิดเป็นความรัก และเลือกที่จะตัดสินใจแต่งงานด้วยกันอย่างรวดเร็วท่ามกลางเสียงคัดค้านของคนรอบข้าง เพราะไม่มีใครรู้ที่ไปที่มาของชายต่างชาติคนนี้แต่ม่อนไหมก็ไม่เชื่อฟังใครทั้งนั้น
เธอเลือกที่จะแต่งงานกับผู้ชายที่เพิ่งรู้จักได้ไม่นาน เพราะเชื่อในสัญชาติญาณของตัวเองว่าคนที่เธอเลือกไม่ใช่คนเลวร้ายและเธอก็อยากจะฝากชีวิตเอาไว้กับเขาดูแลกันและกันแบบนี้ตลอดไป
แต่สุดท้ายก็ต้องมานั่งผิดหวังเสียใจ เพราะหลังจากตกลงแต่งงานไม่เท่าไหร่ คนรักของเธอก็หนีหน้าไปทิ้งเพียงจดหมายที่ไม่มีความกระจ่างในการหายตัวไปให้เธอต้องมานั่งร้องให้เสียใจอยู่เช่นตอนนี้
“จะไปไหนม่อน” ม่านแก้วรีบรั้งตัวของม่อนไหมเอาไว้เมื่อจู่ๆ หลานเธอก็ลุกขึ้นพรวดเตรียมจะเดินดุ่มออกไปจากบ้าน
“จะไป ฮือ ฮือ... ตามหาแอล”
“มันหายหัวข้ามน้ำข้ามทะเลไปถึงไหนต่อไหนแล้วมั้ง ลงได้เขียนจดหมายไว้แบบนี้แสดงว่าวางแผนที่จะไปตั้งนานแล้วเชื่อฉันสิ” ต้นสายพูดเสียงขุ่น
“ฮือ ฮือ ฮือๆๆ...” คำพูดของต้นสายทำม่อนไหมเข่าอ่อนฟุบลงกับพื้น ก้มหน้าปล่อยน้ำตาไหลลงพรมจนเปียก
ครั้งนี้นิลน้ำไม่ได้ค้านอะไรกับคำพูดของต้นสายเพราะเธอก็คิดเช่นเดียวกับต้นสายเช่นกัน ตอนนี้ทุกคนมองไปยังหญิงสาวตัวเล็กด้วยสายตาเวทนา ไม่รู้จะช่วยหรือปลอบยังไงให้ม่อนไหมหายเสียอกเสียใจ เห็นว่าสิ่งเดียวที่จะปลอบม่อนไหมได้ก็คือเวลาเท่านั้น
“เป็นแบบนี้ก็ดีนะคะน้าแก้ว เพราะถ้าร้ายกว่านี้อีตาฝรั่งที่เราไม่รู้หัวนอนปลายเท้าเกิดมีลูกมีเมียแล้ว ลูกเมียมาตามเรื่องอาจจะเลวร้ายกว่านี้ก็ได้” ต้นสายพูดสิ่งที่คิดอยู่ในใจกับม่านแก้วและนิลน้ำหลังจากที่ม่อนไหมร้องให้จนหลับไปแล้ว
“น้าก็ไม่รู้เหมือนกันนะว่าทำไมม่อนถึงได้เลือกแต่งงานกับคนที่เพิ่งรู้จักกันได้ไม่เท่าไหร่ ทั้งที่หลานน้าก็ไม่ใช่คนที่รักใครง่ายๆ ไม่รู้ว่าจะเสียใจอีกนานเท่าไหร่เหมือนกัน” ม่านแก้วมองไปยังหน้าประตูห้องนอนของหลานสาวที่เธอเลี้ยงมาแต่อ้อนแต่ออกจนรักเสมือนเป็นลูกสาวในไส้ไปแล้ว
“มันแปลกตั้งแต่อีตานั่นไม่ยอมให้แจ้งความแล้วให้ตำรวจตามสืบว่าตัวเองเป็นใครมาจากไหนแล้วล่ะค่ะ ไม่รู้ว่าคิดอยากจะฟันม่อนแล้วทิ้งหรือเปล่า” ต้นสายเน้นเขี้ยวเน้นฟัน ยิ่งนึกถึงหน้าสามีของเพื่อนก็ยิ่งโมโห
“จบๆ ไปเถอะน่า ไหนๆ เค้าก็ไปแล้ว ตอนนี้คิดว่าจะทำยังไงให้ม่อนกลับมาสดใสเร็วๆ ดีกว่า” นิลน้ำเริ่มตัดบทเพราะตอนนี้ต้นสายเริ่มที่จะพูดเรื่องไม่ดีขึ้นเรื่อยๆ
“เราไปลางานแล้วพาม่อนไปเที่ยวที่อื่นไหมล่ะ ไม่ต้องให้อยู่บ้านสักอาทิตย์ไม่ต้องเห็นอะไรเดิมๆ น่าจะดีขึ้นไม่มากก็น้อย”
“อันนี้ฉันเห็นด้วยกับแกนะสาย น้าแก้วว่ายังไงคะ” นิลน้ำหันมาถามความเห็นจากม่านแก้ว
“ดีเหมือนกัน แต่น้าต้องฝากเราสองคนดูยัยม่อนนะ เพราะงานที่คาเฟ่ช่วงนี้ยุ่งมาก”
“ได้ค่ะน้าแก้ว พวกเราจะดูแลม่อนเองค่ะไม่ต้องห่วง”
หลังจากตกลงกันได้สองสาวก็ขอตัวกลับ เพราะพรุ่งนี้พวกเธอจะต้องไปทำงานที่โรงพยาบาลเอกชนในตัวเมืองช่วงเช้า
วันเวลาแห่งความเลวร้ายพ้นผ่านนานร่วมครึ่งเดือน ตอนนี้ม่อนไหมไม่ได้ร้องห่มร้องให้ฟูมฟายเช่นวันแรกๆ ที่เธอสูญเสียคนรักไปแล้ว เพราะหลังจากวันนั้นทั้งเพื่อนๆ และน้าของเธอช่วยกันหากิจกรรมให้เธอทำเพื่อทำให้ลืมเรื่องทุกข์ใจ
ตอนนี้ถึงเธอจะมีสภาพจิตใจดีขึ้นมามากแล้ว แต่ก็เลือกที่จะลาออกจากการเป็นพยาบาลในโรงพยาบาลเอกชนเพื่อพักกายพักใจอีกสักพักใหญ่ เพราะหากเธอยังเลือกที่จะดูแลคนป่วยในขณะที่ตัวเองยังสภาพใจยังไม่แข็งแรงดี งานของเธอก็จะออกมาไม่ดีด้วยเหมือนกัน
ม่อนไหม เกียรติภูมิอนันต์ พยาบาลสาววัย26 เธอเป็นคนตัวเล็กหุ่นนาฬิกาทรายไม่สูงมาก มีผิวขาวอมชมพู เรือนผมดกดำยาวสลวยจนถึงกลางหลัง ใบหน้ารูปไข่ คิ้วเรียวบางได้รูปดวงตากลมโตขนตางอนยาว มีพวงแก้มเล็กน้อยจมูกเรียวตรงไม่โด่งมากริมฝีปากอวบอิ่มมีรอยยิ้มสวยแฝงไปด้วยเสน่ห์
ชีวิตของหญิงสาวค่อนข้างอาภัพตั้งแต่เล็ก จากที่เคยได้ฟังม่านแก้วน้าสาวของตัวเองเล่าเรื่องราวให้ฟัง ตอนนั้นแม่ของเธอท้องแล้วถูกพ่อของเธอทิ้งจึงซมซานจากกรุงเทพมหานครกลับมาอยู่ที่เชียงใหม่ พอคลอดเธอได้ก็หนีหน้าหายไปไม่เคยหวนคืน เธอจึงถูกม่านแก้วเลี้ยงมาตั้งแต่เด็ก ไม่ใช่แม่ก็เหมือนแม่ไปแล้ว
ดีที่ยายและน้าของเธอเป็นคนที่มีฐานะปานกลางเลยเลี้ยงเธอมาได้อย่างไม่ต้องลำบาก เมื่อเธออายุย่างเข้า15 ยายของเธอก็มาเสียด้วยโรคชรา เธอจึงได้อาศัยอยู่กับน้าสาวสองคน ที่มีกินมีใช้ไม่ขัดสนก็เพราะมีที่ทางเป็นมรดกอยู่หลายไร่ ที่ส่วนมากก็ปล่อยให้คนเช่าแล้วเก็บค่าเช่ากิน อีกอย่างก็มีกิจการคาเฟ่ที่กำลังไปได้สวยทำเงินได้ดีด้วย
หลังจากเรียนจบม่อนไหมก็เข้าทำงานเป็นพยาบาลในโรงพยาบาลเอกชนในตัวเมืองพร้อมนิลน้ำและต้นสายเพื่อนรักที่สนิทกันมาตั้งแต่มัธยมต้น
ชีวิตของม่อนไหมราบรื่นมาโดยตลอด แม้จะมีหนุ่มๆ มาขายขนมจีบไม่ขาดสายแต่เธอก็ไม่เคยที่จะคิดสนใจ กลับมาตกหลุมรักคนที่เธอช่วยชีวิตเอาไว้ภายในในระยะเวลาไม่กี่เดือนที่ได้อยู่ใกล้ชิดกัน และแล้วก็ต้องผิดหวังที่จู่ๆ คนที่เธอรักและอยากจะอยู่ด้วยกันไปตลอดชีวิตกลับหนีหน้าหายไปไม่คิดแม้แต่จะบอกลากันต่อหน้า...
บทที่ 1 หายตัวไป
13/04/2024
บทที่ 2 คนหน้าเหมือน
13/04/2024
บทที่ 3 เชื่อ
13/04/2024
บทที่ 4 ผมไม่เคยรู้จักคุณ
13/04/2024
บทที่ 5 หมั่นไส้
13/04/2024
บทที่ 6 เจ็บใจ
13/04/2024
บทที่ 7 เมา
13/04/2024
บทที่ 8 ดูถูก
13/04/2024
บทที่ 9 เปิดใจกับคนใหม่
13/04/2024
บทที่ 10 หายตัวไป
13/04/2024
บทที่ 11 เสียแผน
13/04/2024
บทที่ 12 ท้อง
13/04/2024
บทที่ 13 รีบจัดการปัญหา
13/04/2024
บทที่ 14 ความจริง
13/04/2024
บทที่ 15 ไม่ยอมให้แต่ง
13/04/2024
บทที่ 16 เอาคืน
13/04/2024
บทที่ 17 เจ้าตัวกลม
13/04/2024
บทที่ 18 ข่าวร้าย
13/04/2024
บทที่ 19 ความจำเสื่อม
13/04/2024
บทที่ 20 ขอเปลี่ยนพยาบาล
13/04/2024
บทที่ 21 เริ่มท้อ
13/04/2024
บทที่ 22 ตอนจบ
13/04/2024
หนังสืออื่นๆ ของ ไรท์เกว
ข้อมูลเพิ่มเติม