เมื่อคุณต้องเลือก ระหว่างคนที่ดี กับคนที่รัก เรื่องราวความรักของหญิงสาวธรรมดาคนหนึ่ง เธอคบหากับแฟนหนุ่มมาร่วมสองปี แต่แล้วในวันครบรอบ เธอกลับต้องมารู้ความจริง ว่าแฟนหนุ่มที่คบกันมาตลอดระยะเวลาสองปีมีภรรยาและลูกอยู่แล้ว และด้วยเหตุการณ์ในวันนั้น กลับทำให้เธอได้พบกับชายอีกคน ที่เข้ามาช่วยเหลือเธอในยามที่เธอลำบากและคอยเยียวยารักษาแผลใจที่ถูกทำร้ายมา ความผูกพันธ์และการได้รับความช่วยเหลือจากชายแปลกหน้า ทำให้เธอเกิดรู้สึกดีกับเขา แต่แล้วโชคชะตาก็เล่นตลก เมื่อชายอดีตคนรัก ได้กลับเข้ามาในชีวิตเธออีกครั้ง และทำทุกทางเพื่อให้ได้ตัวเธอกลับคืนไป เธอจะทำอย่างไรต่อไป เมื่อคนหนึ่งก็คือคนที่เธอยังรัก ส่วนอีกคนก็คือคนที่ดีและคอยดูแลเธอมาตลอด ความรักที่ซับซ้อนนี้จะจบลงอย่างไร เธอจะเลือกใครมาเป็นคู่ชีวิต มาติดตามไปด้วยกันใน สัมผัสแห่งรัก นิยายรักโรแมนติก ดราม่า ที่จะทำให้คุณคอยเอาใจช่วยทั้งสามตัวละคร ที่มีทั้งทุกข์ สุข ฟิน และเศร้าไปในคราเดียวกัน.....
ชื่อเรื่อง สัมผัสเเห่งรัก
ยามราตรีที่แสนครึกครึนรื่นเริงในผับที่ใหญ่ที่สุดในย่านของกรุงเทพมหานคร สายตาหื่นกระหายและต้องการ จับจ้องเพ่งเพ่งมายังเรือนร่างที่กำลังร่ายรำไปตามเสียงเพลง แต่นั่นคือสิ่งที่ฉันกำลังตั้งใจที่จะทำมัน ก็ฉันเป็นนักเต้นประจำผับนี้หนิคะการที่จะถูกจ้องมองด้วยสายตาเเบบนี้ ก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติ และอีกอย่าง คนรักของรัก ก็เป็นถึงเจ้าของร้านทีนี่ด้วย ไม่แปลกหากฉันจะได้ยืนเต้นโชว์ในจุดที่สูงสุด และเด่นที่สุดคนที่ต้องการยากจะเอื้อมถึง นักเต้นยามราตรีที่มีชื่อเสียงและใครๆต่างก็ต้องการ นั่นคือสิ่งที่ฉันได้รับมันมาตลอด แต่ฉันไม่สนใจใครหรอกนะคะ เพราะตอนนี้ ฉันมีคนที่ฉันรักมากอยู่แล้ว ...
"ไอรินเสร็จรึยัง"
อ๊ะ!! พูดถึงก็มาพอดีแฟนหนุ่มสุดหล่อและเพอร์เฟคของฉัน วันนี้เรามีนัดกันไปดินเดอร์เนื่องในวันครบรอบ2ปีที่คบกันมา และฉันหวังว่มันจะเป็นวันที่ดีที่สุด
"เสร็จแล้ว ทำไมมาเร็วจัง"
"วันนี้ผมรีบ เรารีบไปกินเเล้วรีบกลับเถอะ ผมต้องไปทำธุระต่อ" เขามีท่าทางร้อนรนและรีบเร่ง ซึ่งนั่นคือสิ่งที่ฉันต้องเจอมาโดยตลอด ใช่ค่ะ ถึงเราจะเป็นแฟนกันก็จริง แต่วายุทำธุรกิจหลายอย่าง มันเลยทำให้เขาแทบจะไม่มีเวลาให้ฉันเลย มันก็รู้สึกแย่นะคะ แต่เขาก็มีข้อดีที่ไม่เคยนอกใจฉันนั่นคือสิ่งที่ทำให้ฉันยังคบกับเขาต่อจนถึงวันนี้
"รีบอีกแล้วเหรอ?? ถ้านายไม่ว่างไว้เราค่อยไปฉลองวันอื่นก็ได้นะ"
"ไม่เป็นไร รีบไปเถอะ" วายุคว้ามือของฉันไปจับเอาไว้ มือหนาของเขายังคงอุ่นร้อนน่าสัมผัสเหมือนเดิม แต่มันก็มือที่ฉันได้สัมผัสเพียงไม่กี่ครั้งในระยะสองปีที่คบกันมา
"อืม...ก็ได้"
เป็นเรื่องปกติสำหรับฉันกับวายุไปแล้วล่ะค่ะ เขามักจะมีธุระอยู่ตลอดเวลางานที่ต้องทำ หรืออะไรก็ตามที่มันสำคัญกว่าการอยู่กับฉัน เวลาที่ต้องมาเจอฉันทีไรเขาก็จะรีบมารีบไปเหมือนอย่างวันนี้ มันก็รู้สึกแย่นะคะ แย่ทุกครั้งที่ต้องนั่งทานอาหารที่สั่งมาคนเดียวทุกครั้ง เพราะวายุมักจะกลับก่อนและปล่อยให้ฉันต้องอยู่คนเดียวแบบนั้น
"วันนี้มีธุระที่ไหนหรอ..ทำไมนายดูรีบร้อนจัง" ระหว่างที่ถามเขาออกไป มือสองข้างของฉันก็ยังคงกุมกันแน่นด้วยความไม่สบายใจ ทำไมทุกครั้งที่อยู่กับเขา ฉันถึงต้องรู้สึกเกรงขนาดนี้กันนะ
"ผมเคยบอกคุณกี่ครั้งแล้วไอรินว่าห้ามถามถึงธุระของผม แล้วก็ไม่ต้องอยากรู้อะไรมาก ธุระก็คือธุระ" คนที่กำลังขับรถอยู่ มีท่าทางไม่สบอารมย์ คำพูดของเขา มันทำให้หัวใจดวงน้อยๆของฉัน เหมือนถูกบีบรัดขึ้นมาอีกครั้ง แต่ก็ทำได้เพียงอยู่นิ่งๆไม่แสดงอาการอะไรออกมา
"อ๋อ..อืม..ฉันลืมไป ขอโทษแล้วกัน"
ถึงมันจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นทุกครั้งที่ฉันถามเขา เเต่ฉันก็ยังรู้สึกหวั่นใจทุกครั้งแล้วไม่เคยชินสักที ทั้งๆที่รู้อยู่แล้วว่ายังไงเขาก็คงไม่บอก และฉันเองก็ไม่ควรที่จะถามอะไรเขาเหมือนที่ได้ตกลงกันเอาไว้..
"ริน..ผมขอโทษ วันนี้งานผมมีเเต่เรื่องวุ่นวายเลยหงุดหงิดนิดไปหน่อย เอาเป็นว่า คุณไม่ต้องคิดอะไรมากหรอก"
วายุเหมือนจะรู้ตัวว่าคงพูดกับฉันแรงไปจริงๆ มือหนา เอื้อมมาจับมือของฉันเอาไว้ แล้วขับรถหันหน้าไปมองท้องถนนเหมือนอย่างเคย
"อืม...แค่นายมาก็ดีแล้ว" ก็นั่นแหละค่ะ สิ่งที่ฉันต้องเจอมาตลอดสองปี วายุเป็นค่อนที่ค่อนข้างจริงจังในการทำงาน และเป็นคนที่เห็นงานสำคัญกว่าทุกสิ่งอย่าง แม้แต่ฉันที่เป็นแฟนของเขา ฉันรู้นะคะ ว่าฉันอาจจะดูงี่เง่าที่เก็บเรื่องแค่นี้มาคิดมาก แต่ฉันก็อดไม่ได้จริงๆ คนเป็นแฟนกัน แต่ฉันแทบจะไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเขาเลยด้วยซ้ำ..
หลังจากที่มาถึงร้าน วายุก็ลงมาจากรถแล้วเดินมาเปิดประตูให้กับฉัน เขาเหมือนเป็นคนที่มีสองบุคลิกในคราเดียวกัน ยามที่เขาดี เขาก็จะดีมาก แค่ในยามที่ไม่สนใจ เขาก็จะไม่สนใจเลย วายุผายมือหนามาให้ฉันได้จับเพื่อลงจากรถได้สะดวก ก่อนจะจับมือฉันเอาไว้แล้วพาเดินเข้าไปยังร้านอาหารหรูที่เขาจองไว้ก่อนหน้า
"ผมตั้งใจจัดสถานที่ให้คุณโดยเฉพาะเลยนะ เพื่อวันครบรอบ2ปีของเรา" วายุพาฉันขึ้นลิฟท์มายังฉันดาดฟ้า สถานณ์ที่ ที่สูงสุดของโรงแรม มันถูกจัดแต่งขึ้นอย่างสวยงาม ฉันไม่คิดเลยว่าคนอย่างวายุ จะตั้งใจทำเรื่องแบบนี้ให้กับฉันภาพตรงหน้าที่ได้เห็นมันทำให้ริมฝีปากของฉันฉีกยิ้มออกมา ก่อนจะหันตัวเข้าคว้ากอดร่างของคนที่รักเอาไว้
"ขอบคุณนะวายุ ฉันไม่มีอะไรให้นายเลย"
"ใครว่าไม่มีละ แค่คุณยังอยู่กับผมในทุกวันนี้ ก็ถือว่าเป็นของขวัญที่ดีที่สุดแล้ว มานี่สิ ผมมีอะไรจะเซอร์ไพรส์คุณด้วย" มือหนาของเขาปิดตาของฉันเอาไว้ นี่เขากำลังจะให้ฉันดูอะไรกันนะ ตื่นเต้นจัง..
"เซอร์ไพรไง ห้ามแอบดูนะ"
"อื้มม"
วายุยังคงปิดตาของฉันเอาไว้แล้วพาฉันเดินไปด้านหน้าเรื่อยๆ หัวใจของฉันมันเต้นตุบๆด้วยความตื่นเต้น ฉันคงจะมองเขาผิดไปจริงๆ อย่างน้อย เขาก็ยังทำให้ฉันสัมผัสได้ว่า เขาก็ยังรักฉันอยู่เหมือนเดิม
"ถึงแล้วนั่งลงสิ"
"อื้มม.."
กลิ่นที่หอมหวาน เหมือนกลิ่นดอกกุหลาบ ดอกไม้ที่ฉันชอบมันมากที่สุดลอยเข้ามาแตะจมูก มันทั้งให้ความรู้สึกสดชื่นและหอมหวานในเวลาเดียวกัน
และแล้วมือหนาก็ได้คลายออกจากดวงตาฉัน ภาพซุ้มดอกกุหลาบสีแดงบานสพรั่ง พร้อมกับนักดนตรีอีกสามสี่คนยืนรอเพื่อจะบรรเลงเพลงในค่ำคืนนี้ นี่คือสิ่งที่วายุทำให้กับฉันงั้นเหรอ ไม่คิดเลย ว่าเขาจะทำอะไรแบบนี้เป็นด้วย
"ถูกใจไหม.."
"ขอบใจนะวายุ ฉันชอบมากเลย"
จากนั้นวายุก็เดินไปนั่งที่ฝั่งตรงข้ามก่อนจะรินไวน์ใส่แก้วให้ฉัน พร้อมส่งยิ้มบางๆมาให้
"ฉันยังมีอีกอย่างให้เธอด้วยนะริน"
"แค่นี้ฉันก็ดีใจมากแล้วนะ ยิ่งนายให้ฉันมากเท่าไหร่ฉันยิ่งอายที่ตัวเองไม่มีอะไรให้นายเลย" ความรู้สึกผิดเกาะกินภายในหัวใจฉันอีกครั้ง วายุมักจะคอยซื้อของต่างๆมาให้กับฉัน ฉันเป็นแค่ฝ่ายที่รับมาตลอด แต่กลับไม่เคยจะให้อะไรเขาได้เลย
"ฉันบอกแล้วไง...ว่าเธอคือของขวัญที่ดีที่สุดแล้ว"
วายุเอื้อมมาจับมือของฉันไปเบาๆก่อนที่เขาจะล่วงเอากล่องบางอย่างในกระเป๋าเสื้อออกมา..
"นาย..."
"ฉันเลือกมันอยู่นานเลยรู้ไหม กลัวว่าซื้อมาแล้วเธอจะใส่ไม่ได้.."
สิ่งที่วายุเปิดออกมาจากกล่องในมือนั้น คือแหวนเงินสลักชื่อของฉันกับเขาเอาไว้ มันสวยมากจนฉันกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่เลยล่ะค่ะ น้ำตาของฉันไหลออกมาด้วยความปลื้มปริม หัวใจดวงน้อยเหมือนกำลังถูกเติมเต็ม ถึงแม้ตลอดเวลาที่คบกันมาเขาจะไม่มีเวลาให้ฉันมากเท่าไหร่ แต่เขาก็เป็นคนที่ใส่ใจฉันมากเหมือนกันในระดับหนึ่งเลยเหมือนกัน
"พอดีเลย ชอบไหม"
"ฮึก!! ชอบ ขอบคุณนะ ฉันรักนายวายุ" ฉันอดที่จะร้องไห้ออกมาไม่ได้จริงๆ ทั้งดีใจและเสียใจในเวลาเดียวกัน ดีใจที่เขาดีกับฉัน และเสียใจที่บางครั้ง ฉันก็มองเขาผิดไปและน้อยใจกับเรื่องที่ไม่ควรจะเก็บมาคิดมากอะไรเลย
วายุยิ้มอ่อนๆ แล้วเลื่อนมือเข้ามาเช็ดน้ำตาที่หน้าฉันเบาๆ
"ขี้แยอีกแล้วนะ กินข้าวกันเถอะ ผมต้องรีบไปทำธุระต่อ"
"อื้มม!!"
ปั่ง!!!! เสียงเหมือนมีอะไรกระแทกเขากับวัตถุแรงๆ ทำให้ฉันสดุ้งตกใจ และรีบหันกลับไปมอง ก่อนจะเห็นว่ามีคนกำลังถีบประตูดาดฟ้าเข้ามา พร้อมกับวายุจะลุกขึ้นมาจากโต๊ะแล้วมายืนบังฉันเอาไว้
"แกเป็นใคร!!!"
ภาพตรงหน้าคือชายชุดดำประมาน4คน ถือปืนมากันครบมือแล้วจ่อมาที่ฉันกับวายุ นี่มันเรื่องอะไรกัน แล้วคนพวกนี้เป็นใคร
"ฉันถามว่าพวกแกเป็นใคร"
"กะ..เกิดอะไรขึ้นวายุ!!"
หนังสืออื่นๆ ของ คานากิ
ข้อมูลเพิ่มเติม